สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน สหภาพยุโรป (อียู) เตรียมบังคับให้ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนใช้หัวชาร์จไฟชนิด USB-C เป็นมาตรฐานแบบเดียวกันหมด ด้านบริษัท Apple ผู้พัฒนาหัวชาร์จแบบ ‘ไลต์นิง’ สำหรับไอโฟน แย้ง!! เป็นการถ่วงนวัตกรรม

โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ทางคณะกรรมาธิการยุโรป ได้ออกกฎระเบียบใหม่ โดยมีเป้าหมายในการออกกฎเพื่อลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ผู้บริโภคสามารถใช้ที่ชาร์จไฟของเดิมที่มีอยู่เมื่อซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่

ปัจจุบัน ผู้บริโภคในยุโรป ซึ่งมีประชากรราว 450 ล้านคน มีหัวชาร์จให้เลือกใช้งาน 3 ประเภทหลักๆ คือ ‘ไลต์นิง’ ของ Apple, ไมโครยูเอสบีที่ใช้กับโทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่ และ USB-C ที่เป็นแบบใหม่ ซึ่งใช้งานแพร่หลายมากขึ้น 

แต่ตามข้อเสนอของอียู จะกำหนดที่ชาร์จแบบ USB-C ให้เป็นมาตรฐานสากลสำหรับยุโรป และทันทีที่รัฐบาลของชาติสมาชิกและรัฐสภายุโรปอนุมัติ ก็จะส่งผลสะเทือนต่อตลาดสมาร์ตโฟนทั่วโลก 

อียูกล่าวว่า สถานการณ์ในปัจจุบันยัง ‘ไม่สะดวกสบาย’ และผู้บริโภคในยุโรปต้องใช้จ่ายเงินราว 2,400 ล้านยูโรในแต่ละปี เพื่อซื้อที่ชาร์จแยกต่างหาก

ด้านบริษัท Apple ซึ่งเริ่มใช้ตัวเชื่อมต่อแบบ USB-C กับไอแพดและคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปของตนแล้ว ยืนกรานว่า การออกกฎหมายมาบังคับให้ใช้ที่ชาร์จสากลสำหรับโทรศัพท์ทุกเครื่องทุกรุ่นในยุโรปนั้น จะเป็นการปิดกั้นนวัตกรรมใหม่ๆ แล้วจะเป็นผลเสียต่อผู้บริโภคในยุโรปและทั่วโลก

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการยุโรป เคยทำความตกลงแบบสมัครใจไว้กับอุตสาหกรรมผู้ผลิตสมาร์ตโฟนเมื่อปี 2020 เกี่ยวกับการใช้ที่ชาร์จในแบบเดียวกัน และสามารถลดปริมาณขยะสายไฟได้ แต่ทว่า Apple เป็นบริษัทที่ปฏิเสธข้อปฏิบัติดังกล่าวนี้

อย่างไรก็ตามกฎระเบียบใหม่ของอียู เกี่ยวกับการใช้ USB-C กับทุกค่ายผู้ผลิตสมาร์ตโฟนนั้น เป็นส่วนหนึ่งของข้อบังคับ ที่ยังคงต้องผ่านการลงคะแนนเสียงในรัฐสภายุโรปก่อนที่จะกลายเป็นกฎหมาย และหากข้อเสนอกลายเป็นกฎหมาย ผู้ผลิตอุปกรณ์จะมีเวลาสองปีในการปฏิบัติตามกฎต่อไป

---

ที่มา : https://www.naewna.com/inter/604434
https://www.cnbc.com/2021/09/23/eu-plans-to-make-usb-c-mandatory-for-apple-iphones-and-other-devices.html