ปทุมธานี - ตร.ปทุมฯ สกัดจับพระดัง "หลวงตาหนูที" ขนม้าและหมูใส่รถตู้ ก่อนนำส่งเจ้าคณะอำเภอสึกทันที พบประวัติถูกจับมาแล้วหลายครั้งไม่เข็ด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 พ.ค. 64 ตร.สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีคนนำม้ามาปล่อยอยู่บริเวณสนามเด็กเล่น ริมถนนซ่อมสร้าง ม.2 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงให้สายตรวจไปตรวจสอบแต่ไม่พบโดยมีชาวบ้านบอกว่าก่อนตำรวจมาถึงมีพระขับรถตู้มาแล้วนำม้าขึ้นรถหลบหนีไปแล้ว ต่อมามีพลเมืองดีแจ้งว่าพบรถตู้ ยี่ห้ออีซูซุ สีเหลือง หมายเลขประจำตัว ฒว-9319 กรุงเทพมหานคร สภาพเก่าโดยมีพระภิกษุสงฆ์เป็นคนขับและคาดว่าเป็นรถคันเดียวกันกับที่ชาวบ้านแจ้ง กำลังขับมุ่งหน้าไปทางสะพานปทุมธานี2 เจ้าหน้าที่ฯจึงวิทยุสกัดแต่ก็ไม่ทัน แต่ยังมีพลเมืองดีขับตามและโทรศัพท์แจ้งเป็นระยะ

จนกระทั่งต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.คลองหลวง นำโดย พ.ต.ต.สิงหา เฟื่องแก้ว สว.จร และ ร.ต.อ สุระพล  วงศ์วันดี ร้อยเวรจราจร สภ.คลองหลวง พร้อมกำลังสามารถสกัดจับได้บริเวณถนนพกลโยธิน(ขาออก) หน้า ม.ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง โดยพบพระหนูที สุตธัมโม อายุ 72 ปี อ้างอยู่สำนักสงฆ์หินทราย ต.หนองหว้า อ.บัวลาย จ.นครราชสีมา ชื่อตามบัตรประชาชนระบุชื่อนายหนูที ทินราช อยู่บ้านเลขที่ 126/61 ม.4 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมด้วยลูกม้าเพศผู้สีเหลืองอ่อน อายุประมาณ 2 ปีเศษ และลูกหมูป่าผสมเพศผู้ สีดำ อายุประมาณ 5 เดือน จึงได้ควบคุมตัวและสอบถามโดยพระดังกล่าวตอบเพียงว่าเพิ่งมาจาก จ.สุพรรณฯ และจะกลับ สักนักสงฆ์ จ.นครราชสีมา ส่วนม้าและหมูญาติโยมถวายมา และเมื่อตรวจสอบเรื่องใบขับขี่รถยนต์ก็ไม่มี ใบสุทธิพระก็ไม่มีแถมรถทะเบียนขาดการต่อภาษีมาแล้วร่วม 6 ปี จึงประสานนายไพรัตน์ รุ่งสว่าง ปศุสัตว์ อ.คลองหลวงมาตรวจสอบพร้อมแจ้งข้อหาเคลื่อนย้ายสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต จากรั้นจึงนิมนต์พระหนูที (หลวงตาหนูที) ไปพบพระแสนพล พลยุโต พระวินยาธิการ อ.คลองหลวง และ พระครูวิจิตร อาภากร เจ้าคณะ อ.คลองหลวง เจ้าอาวาสวัดสว่างภพ เพื่อทำการตรวจสอบในพฤติกรรม

ต่อมาพระหนูที ฯ ยอมรับสารภาพว่านำสัตว์ทั้งหมดที่มีคนมาถวาย ขับรถตระเวนไปตามสถานที่ต่าง ๆ ในหลาย ๆ จังหวัด ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกจับมาแล้วหลายครั้งไม่ว่าจะเป็นในเขตกรุงเทพฯเขตจังหวัดสระแก้วอรัญประเทศซึ่งตนเคยนำสุนัขมาออกบิณฑบาตพร้อมกับวัวและแพ้แต่ทุกครั้งที่ถูกจับก็จะถูกเจ้าหน้าที่ยึดไปหมด แล้วตนก็ไม่เคยเป็นวาจาลาสิกขาบท  จนกระทั่งมาครั้งนี้ตนไม่มีหนทางไปและไม่รู้จะไปประกอบอาชีพอะไรเพราะอายุมากแล้วเมื่อได้สัตว์มาต้นก็จะห่มผ้าเหลืองแล้วก็ตะเวนไปตามที่ต่าง ๆ โดยได้นำม้า ชื่อ"จิ๋ว" ที่มีความเชื่องและหมู ชื่อ"จู๊ด" มาต่อเวรดึกบิณฑบาตด้วย แล้วเมื่อตนทำไม่ดีครั้งนี้ ก็ขอยอมสึก แต่โดยดี ทางเจ้าคณะอำเภอจึงได้ให้ทำการลาสิกขาบทและเป็นวาจา พร้อมกับนำชุดขาวมาให้สวมใส่ ก่อนที่ จะได้มอบตัวให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามความผิดพ. รบจราจรส่วนทางด้านสัตว์ทั้ง 2 ตัวทางปศุสัตว์ อ.คลองหลวง ได้ยึดไว้ตรวจสอบต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในสังคมออนไลน์ เคยมีการโพสต์ภาพ พระหนูที สุตธัมโมกับ*สมหวัง" สุนัขแสนรู้ที่ช่วยพระภิกษุลากรถเข็นบิณฑบาตทุกเช้า ถูกคนขับรถบรรทุกสิบล้อขโมยหายไป วอนให้ช่วยกันสอดส่องตามหา เจ้าสมหวัง เป็นสุนัขแสนรู้ที่ช่วยลากรถล้อเลื่อนใส่ของที่ได้รับจากการบิณฑบาต เดินนำหน้าพระสงฆ์รูปหนึ่ง จนเป็นที่เอ็นดูของชาวบ้านที่พบเห็น


ภาพ/ข่าว  สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม