‘ทบิลิซี’ Tbilisi แดนแห่งความงาม ที่หลบเร้นอยู่ในหุบเขาจอเจียร์

เมืองสวยชดช้อยแห่งหนึ่ง อยู่ในหุบเขา ณ เทือกเขาคอเคซัส เปรียบประหนึ่งสาวงามร่างสูงโปร่งระหง โครงหน้ารูปไข่ แววตาเย้า ทั้งร่าเริงและเคร่งขรึมดุดันในที...จะเป็นอื่นใดไปไม่ได้เลยหากไม่ใช่ ‘ทบิลิซี’ เมืองหลวงของประเทศจอร์เจียนั่นเอง

จะเรียกว่าจับพลัดจับผลูได้ไปเยือนประเทศนี้โดยบังเอิญก็เป็นได้ หลายปีก่อนผมเดินทางโดยจักรยาน เริ่มที่อิหร่าน โดยต้องการไปจบทริปที่ตุรกี ก่อนออกทริปไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีประเทศน่าแวะอย่างจอร์เจียด้วย แต่เนื่องจากแผนและเวลาค่อนข้างยืดหยุ่น เมื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม จึงตัดสินใจปั่นอ้อมขึ้นไปทางเหนือ เลาะเข้าไปเที่ยวประเทศซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโซเวียต ปัจจุบันเป็นไทแก่ตัวแล้ว แต่ยังคงเป็นรัฐกันชนระหว่างกลุ่มอำนาจโลกขั้วตะวันออกและตะวันตก 

โดยทำเลที่ตั้งของทบิลิซีเอง เอื้อให้เป็นเมืองสวยได้ไม่ยากเลย เพราะเป็นหุบเขายาว ๆ มีแม่น้ำไหลผ่ากลาง สองฝั่งเป็นเนินสูงต่ำ ราบบ้าง ชันบ้าง บ้านเรือนสูงต่ำน้อยใหญ่ปลูกสร้างลดหลั่นกันไป ศาสนสถานแทรกแซมเป็นระยะ ๆ ถนนตรอกซอยคดเคี้ยว สถาปัตยกรรมเก่าแก่น้อยใหญ่ อายุอานามแตกต่างกันเรียงรายเบียดเสียดกัน ทว่ายังมีพื้นที่สีเขียวทั้งต้นไม้ใหญ่ริมถนนและสวนสาธารณะสำหรับพักผ่อน ถนนในย่านเมืองเก่าปูด้วยก้อนหิน ตึกทรงทันสมัยออกแบบและก่อสร้างโดยผ่านการวางแผนอย่างรอบคอบ จึงกลมกลืนและไม่บดบังภูมิทัศน์

เมืองก่อร่างสร้างขึ้นบนไหล่เขา จึงเดินเล่นเพลิน ขยันก็ขึ้นไปยังจุดชมวิวซึ่งมีมากมายหลายจุดให้เลือก วันนี้เดินขึ้นเนินนี้ พรุ่งนี้เดินขึ้นอีกเนิน ได้ออกกำลังกายพร้อมกับหย่อนใจในเวลาเดียวกัน 

ตามผนังอาคารมักเห็นงานพ่นสเปรย์ประเภทกราฟฟิตี้สวย ๆ บางวันจึงสนุกไปกับการเดินตามถ่ายรูปศิลปะบนผนังเหล่านี้ พื้นที่ท้ายสะพานในย่านใจกลางเมืองถูกจัดสรรให้เป็นตลาดแบกะดิน พ่อค้าแม้ค้านำสมบัติมือสองผลัดกันชมมาวางขายกันในราคาย่อมเยา ลูกค้าเลือกชมและต่อรองราคา แล้วตกลงซื้อเมื่อพอใจทั้งสองฝ่าย อีกโซนใกล้กันขายงานศิลปะประเภทภาพวาด ทบิลิซีเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวามาก

ศิลปะการแสดงยังคงเฟื่องฟูต่อเนื่อง โรงละครหุ่นกระบอกเปิดการแสดงทุกวัน ซึ่งผู้แสดงต้องอาศัยทักษะในการเชิด เรื่องราวมีทั้งร่วมสมัยและที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ขึ้นอยู่กับผู้กำกับ ละครเวทีซึ่งใช้นักแสดงจริงเป็นอีกทางเลือกในการเสพศิลปะ หรือหากชอบความชดช้อยอ่อนหวานอลังการก็ตีตั๋วเข้าชมบัลเล่ต์ได้ นักแสดงหลายคนจากเมืองนี้ไปโด่งดังที่มอสโกในฐานะนางเอกพระเอก การันตีคุณภาพคับโรง แม้กระทั่งดนตรีที่เกี่ยวข้องกับศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ ซึ่งขับขานก้องกังวานในโบสถ์ฟังแล้วซาบซึ้งขนลุกกันเลยทีเดียว 

เมืองนี้ผลิตนักเขียนผู้ฝากผลงานวรรณกรรม...เป็นที่รู้จักในประเทศและทั่วโลกหลายท่าน อย่างเช่น โนดาร์ ดุมบัดเซ่ นักเขียนดังที่หนังสืออย่างน้อยสองเล่มของเขาได้รับการแปลและตีพิมพ์เป็นภาษาไทย ได้แก่ ความรื่นรมย์ของชีวิต และ คืนวันอันแสนงาม นอกจากนี้ ยังมีนักคิดนักเขียนอีกหลายคนกำเนิดเกิดมาจากเมืองนี้ด้วย

ใคร ๆ ก็ชอบออนเซ็นใช่ไหม เมืองนี้มีน้ำพุร้อนและโรงอาบน้ำด้วย เวลาอากาศหนาว แถมบางวันในฤดูใบไม้ผลิฝนดันตกและลมแรง หรือบางครั้งก็ทำงานจนเครียด ร่างกายขมึงตึงปวดเมื่อย การไปแช่น้ำร้อนให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายจึงเกือบเหมือนได้ขึ้นสวรรค์เลยล่ะ

ระบบขนส่งสาธารณะราคาย่อมเยาและครอบคลุม มีให้เลือกทั้งรถไฟใต้ดิน บนดิน พัฒนากันมาตั้งแต่สมัยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต ปัจจุบันยังใช้การใช้งานได้ดีมีประสิทธิภาพ จะว่าไปค่าครองชีพไม่แพงเลย เทียบแล้วพอ ๆ กับบ้านเรา ส่วนราคาโรงแรมโฮสเทลมีตั้งแต่ไร้ดาวไปจนถึงห้าดาว ค่าอาหารเครื่องดื่มเทียบเป็นเงินไทยก็มื้อละประมาณสี่ห้าสิบบาท หากไปนั่งทานตามภัตตาคารต้องจ่ายมากกว่าเป็นเรื่องธรรมดา วัฒนธรรมอาหารนั้นผสมผสานความเป็นตะวันตก อย่างเมนูขนมปังและชีส ในขณะที่สำรับกับข้าวรับมาจากโลกตะวันออก หนีไม่พ้นข้าวราดต้มผัดแกงทอดอะไรต่าง ๆ คนบ้านเมืองนี้ปลูกองุ่นและทำไวน์กันมานานนับพันปี จึงถือเป็นเครื่องดื่มสามัญประจำประเทศ หาซื้อง่าย มีตั้งแต่ราคาลิตรละไม่เท่าไหร่ไปจนถึงไวน์คุณภาพสูงแพงลิบลิ่ว สุรากลั่นดีกรีสูงประเภทวอดก้า หรือเบียร์สำหรับซื้อหามาจิบยามบ่ายยามเย็นก็มากมี มนุษย์คอทองแดงน่าจะหลงรักประเทศนี้เพราะเหตุผลนี้ล่ะ

แม้หน้าตา สีตา สีผม ผิวพรรณจะเป็นฝรั่ง แต่นิสัยใจคอของคนจอร์เจียกระเดียดไปทางเอเชีย เพราะโฉ่งฉ่างกระโตกกระตาก และมักไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยด้วยประการทั้งปวง ความอิเหละเขะขะยังเห็นได้ทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งตามตลาด ที่เห็นแล้วขำคือพฤติกรรมพ่อค้าแม่ค้าริมฟุตบาทพากันเก็บข้าวของวิ่งหนีกันจ้าละหวั่นเวลาเทศบาลมากวดขัน สิ่งละอันพันละน้อยอันเป็นปกติสามัญของที่นี่แหละที่เป็นสีสัน

สรุปก็คือ เมืองอันเปี่ยมเสน่ห์นี้ไม่เหมาะสำหรับรีบ ๆ ไปเยือนรีบ ๆ จากไป แต่เหมาะที่จะแช่อยู่นาน ๆ ค่อย ๆ ซึมซับความประทับใจกันไป