คุณแกว่น กวิล นาวานุเคราะห์ | THE STUDY TIMES STORY EP.13

บทสัมภาษณ์ คุณแกว่น กวิล นาวานุเคราะห์ ปริญญาโทด้านสื่อสารทางการเมือง University of Missouri, St.Louis (UMSL), สหรัฐอเมริกา 
วิชาการสื่อสารทางการเมืองที่เข้มข้น เพิ่มศักยภาพการสื่อสารผู้นำรุ่นใหม่

คุณแกว่นเรียนจบปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ สาขาการปกครอง จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จุดเริ่มต้นในการเรียนรัฐศาสตร์คือความสนใจเรื่องมหภาค ตอนเด็กเป็นคนไม่ชอบคณิตศาสตร์ คิดว่าชอบด้านภาษามากกว่าคำนวณ พยายามหาข้อมูลว่าอะไรที่ทำให้เราเข้าใจคนหมู่มาก และเข้ากับตัวเองมากที่สุด จนได้มารู้จักด้านรัฐศาสตร์ ที่เป็นความเข้าใจหลักคิด กระบวนการระหว่างคนกับคน คนกับรัฐ รัฐกับรัฐ ศาสตร์พวกนี้จำเป็นต้องมีอาจารย์สอน และส่วนตัวชอบอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็ก ไม่ชอบดูละครหรือการ์ตูนมากนัก เลยคิดว่ารัฐศาสตร์น่าจะเหมาะ

ช่วงฝึกงานในชั้นปี 4 คุณแกว่นได้ไปฝึกที่เนชั่นทีวี เริ่มเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในขาของสื่อสารมวลชน เลยรู้สึกว่าเปิดโลก รายการที่ไปฝึกงานคือรายการทีวีที่ชื่อว่า สภากาแฟ ซึ่งนำคนที่อยู่ใน Topic ต่าง ๆ ที่กำลังเป็นที่สนใจในสังคมมานั่งล้อมวงร่วมพูดคุยกัน ทำให้รู้สึกว่าได้ประโยชน์ต่อผู้ชม และเป็นสาขาที่สนใจด้วยเหมือนกัน เมื่อเรียนจบก็ทำการหาข้อมูลว่ามีสาขาวิชาใดบ้างที่สามารถต่อยอดความสนใจทั้งสองอย่างให้อยู่ด้วยกัน ทำให้ไปเจอว่ามีสาขาที่เรียกว่า สื่อสารการเมือง จึงมองหาโอกาสในการเรียนต่อ เพื่อตอบสนองความสนใจและความอยากรู้ของตัวเอง 

กระทั่งไปเจอ Professor ท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ที่ทำให้คุณแกว่นตัดสินใจไปเรียนต่อปริญญาโท ด้านสื่อสารทางการเมือง ที่ University of Missouri, St.Louis (UMSL) สหรัฐอเมริกา เพราะมีความสนใจและอยากเรียนกับ Professor ท่านนี้ที่สอนอยู่ และรู้สึกว่าตัวเองเข้ากับวัฒนธรรมอเมริกันได้มากกว่า เพราะเคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่รัฐโคโลราโดมาก่อน ปักใจว่าเป็นประเทศที่กว้างใหญ่ ผู้คนหลากหลาย และอเมริกาเปิดโอกาสในการทำงานอย่างอื่นขณะที่เรียนได้ และด้วยระยะเวลาหลักสูตร 2 ปี น่าจะทำให้มีโอกาสในการเห็นโลกและใช้ชีวิตได้มาก

ความคาดหวังเรื่องการเรียนในตอนนั้นคือ ไปเอาวิชาจากผู้ที่เป็นเบอร์ต้น ๆ ของโลก สุดท้ายก็ได้ตามที่คาดหวัง เพราะได้เรียนกับเขา ได้เห็นมุมมอง ได้ช่วยทำงาน ใช้ชีวิตด้วยกันช่วงหนึ่ง ส่วนเรื่องชีวิตไม่ได้คาดหวังความสนุกสนาน เพียงแต่คาดหวังว่าจะได้ใช้ชีวิตแบบที่ไม่เคยใช้ในเมืองไทยมาก่อน ซึ่งพออยู่ที่อเมริกา สิ่งเย้ายวนมีมาก หากมีวินัยมากพอ ก็จะได้ในสิ่งที่ต้องการ คุณแกว่นได้ฝึกตัวเองในเรื่องของการดูแลตัวเอง ความรับผิดชอบที่มากขึ้น คาดหวังว่าจะโตขึ้น ซึ่งคุณแกว่นคิดว่าได้ตามที่คาดหวังไว้

คุณแกว่นอธิบายว่า Political Communication หรือ สื่อสารการเมือง หลักๆ เรียนเรื่องของทฤษฎีการเมืองก่อน ต้องเข้าใจว่าทฤษฎีการเมืองแต่ละอย่างที่มีเป็นอย่างไร ต่อมาคือทฤษฎีการสื่อสาร การสื่อสารเกิดขึ้นได้อย่างไร ที่สำคัญคือการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพทำอย่างไร นำมาประยุกต์กับทฤษฎีการเมืองที่เรียน
เพราะมีโอกาสได้เข้าไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมท่ามกลางคนเก่ง ๆ สิ่งที่คุณแกว่นได้มาคือ สกิล  “Learn-Unlearn-Relearn”  โดย Unlearn ต้องใช้ความพยายามมากขึ้นกว่า Learn เพราะคือการสลายตัวตน ทิ้งอัตตา ทิ้งสิ่งที่เคยเรียน เคยรับรู้ เพื่อจะRelearn คือการเรียนรู้ รับรู้ข้อมูลใหม่ ๆ นำมาใช้ สุดท้ายแล้วแนวคิดนี้สัมพันธ์และสามารถนำมาใช้ได้กับทุกเรื่อง

สำหรับการสื่อสารในประเทศไทยนั้น คุณแกว่นอธิบายว่า การสื่อสารประกอบด้วย 3 สิ่ง คือ ผู้ส่งสาร สาร ผู้รับสาร มองแยกไปทีละส่วน ผู้ส่งสารได้ทำการส่งสารอย่างถูกต้อง มีสติสัมปชัญญะ มีการคิดคำนวณที่ดีก่อนที่จะส่งไปหรือไม่ ต่อมาคือ สาร เป็นพิษเป็นภัยต่อคนอื่นหรือไม่ ชัดเจนตรงประเด็น มีคุณภาพหรือไม่ และผู้รับสาร มีความสามารถในการพิจารณา คิด วิเคราะห์ แยกแยะ สารที่ได้รับ ก่อนที่จะตัดสินใจเชื่อหรือไม่เชื่อ หรือทำอะไรกับสารนั้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงกันทั่วโลก 

ในด้านการสื่อสารของประเทศไทย ตอนนี้มีการกระจายตัวค่อนข้างเยอะ ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ผู้ส่งสาร สาร ผู้รับสาร ค่อนข้างจะเป็น Mass Media (ทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์) ซึ่งสามารถควบคุม ตรวจสอบได้ง่าย แต่ในปัจจุบันเริ่มกระจายเป็นโซเชียลมีเดีย หลายแพลตฟอร์ม หลายช่องทาง ในส่วนตัวคุณแกว่นมองว่าค่อนข้างน่าเป็นห่วง เพราะเมื่อมีการกระจายไปในหลายแพลตฟอร์ม บางครั้งสารไม่ได้รับการผลิตออกมาอย่างดี 

คุณแกว่นกล่าวว่า คนเราจะสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องขึ้นอยู่กับความเข้าใจของสารต่าง ๆ ที่ได้รับมาก่อน เท่าที่คุณแกว่นเห็นมา ส่วนมากเด็กไทยเก่งเรื่องการจำ แต่สิ่งที่เด็กไทยยุคนี้ยังทำได้ไม่ดี คือ การสังเคราะห์ ซึ่งการสังเคราะห์ คือ การนำสิ่งที่เราแยกแยะมาประกอบร่างและสร้างเป็นสิ่งใหม่ 

สิ่งสำคัญที่คุณแกว่นอยากให้เกิดขึ้นในเมืองไทย คือ การพัฒนาความรู้ ความคิดต่อยอด สามารถสังเคราะห์ข้อมูลความรู้ที่เรามี เกิดขึ้นมาเป็นสิ่งใหม่ได้ 

ย้อนกลับไปช่วงที่ไปเรียนอเมริกา คุณแกว่นเล่าว่าได้ทำงานเยอะมาก เพราะคุณพ่อออกให้แค่ค่าเทอม ฉะนั้นต้องช่วยเหลือตัวเองในเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนตัว จึงทำตั้งแต่งานในมหาวิทยาลัย ทั้งเป็นคนเรียงหนังสือในห้องสมุด, proctor, ผู้ช่วยสอน และทำงานที่ร้านอาหารในเมือง

ปัจจุบันหลังจากกลับมาจากต่างประเทศ คุณแกว่นยังคงทำงานที่หลากหลาย เป็น Co-Founder 3 บริษัท หนึ่งคือบริษัททำด้านของพรีเมี่ยมให้แบรนด์ฟอร์ด บริษัทที่สองคือเป็นที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ บริษัทที่สามทำเกี่ยวกับ Marketing Agency นอกจากนี้ส่วนตัวคุณแกว่นยังเป็นที่ปรึกษาทางด้านการตลาดและพัฒนาธุรกิจให้อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์

สุดท้ายคุณแกว่นฝากถึงคนรุ่นใหม่ ในการรับสารและสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ไว้ว่า ตอนนี้มีข้อมูลข่าวสารหลั่งไหลเยอะ เพราะฉะนั้นสกิลสำคัญที่จะทำให้ชีวิตดำเนินไปได้ด้วยดี คือรู้จักการแยกแยะ และเลือกที่จะรับข้อมูล อีกอย่างที่จำเป็นมากคือสกิลในการไตร่ตรองพิจารณาข้อมูลที่เข้ามาก่อน ว่าข้อมูลที่เราได้รับมาจริงหรือไม่ก่อนที่เราจะตัดสินใจเชื่อ เพราะข้อมูลในทุกวันนี้มีเยอะ และไม่ได้รับการกรองที่ดีก่อนมาถึงเรา จึงต้องมีทักษะในการพิจารณา หาข้อมูล และตัดสินเมื่อมั่นใจแล้วว่าข้อมูลนั้นจริง

.

.