คุณตาล วัณย์ทิศากร พิณแพทย์ | THE STUDY TIMES STORY EP.8

บทสัมภาษณ์ คุณตาล วัณย์ทิศากร พิณแพทย์ ตำแหน่ง Client form publishing generalist, Privat bank Julius baer, เมืองซูริค, สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อชีวิตในฝัน ตัดสินใจลัดฟ้าใช้ชีวิตหลังแต่งงานที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์มากกว่า 20 ปี

คุณตาล เป็นสาวชาวไทย ที่ตัดสินใจบินลัดฟ้าไปใช้ชีวิตหลังแต่งงานอยู่ที่เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ณ ปัจจุบันทำงานในตำแหน่ง Client form publishing generalist, Privat bank Julius baer

คุณตาลเล่าว่าชีวิตที่สวิส เป็นอะไรที่ง่าย เพราะทุกอย่างตรงเวลา ใช้การโดยสารรถไฟเป็นหลักในการเดินทางไปทำงานในเมืองซูริค

ย้อนกลับไป 20 ปีที่แล้ว
คุณตาลรู้จักกับแฟนตอนอายุ 20 ปี ขณะเรียนอยู่ระดับปวส. ช่วงใกล้จบได้ทบทวนตัวเองแล้วว่าวุฒิปวส. ที่ไทยไม่สามารถนำมาทำอะไรได้ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่ออายุได้ 21 ปี จึงตัดสินใจแต่งงานมาใช้ชีวิตอยู่ที่สวิส ซึ่งเหตุการณ์นี้เองทำให้คุณพ่อของคุณตาลโกรธ จนไม่พูดด้วย แต่มีคุณแม่ที่เข้าใจ และคอยซัพพอร์ต

คุณตาลเล่าว่า เริ่มต้นชีวิตที่สวิส เหมือนการนับจาก -1 เหมือนโดนจับโยนลงใส่น้ำเย็น ต้องจัดการชีวิตตัวเอง ด้วยตัวเองทั้งหมด ตั้งแต่เรื่องของภาษา จาก เอ บี ซี ของภาษาอังกฤษ ต้องมาเริ่ม อา เบ เซ ในภาษาเยอรมัน คุณตาลเรียนภาษาอยู่ประมาณ 4 เดือน ที่ที่คุณตาลอยู่ใช้ภาษาเยอรมันเป็นภาษาราชการ ส่วนภาษาทั่ว ๆ ไปที่ใช้ คือภาษาสวิส ที่นี่ไม่มีภาษาเขียนมีแต่ภาษาพูด ในระหว่างนั้นต้องคิดเป็นภาษาไทย พูดอังกฤษ ฟังสวิส เขียนเยอรมัน พางงไปหมด

ในแง่ของการฝึกภาษา คุณตาลเล่าว่า ตนเรียนรู้จากวิถีชีวิตของทุกคน มีเพื่อนส่วนใหญ่เป็นคนสวิส หากอยากจะเข้าถึงภาษาของเจ้าของภาษาจริง ๆ ต้องคุยกับคนสวิสให้เยอะ คุณตาลมีความเชื่อว่าภาษาต่างประเทศนั้นไม่ใช่ภาษาของเรา การพูดผิดถือว่าไม่แปลก ถ้าเราไม่พูดเราก็จะไม่ผิด แต่เราก็จะไม่ได้เรียนรู้เลย เพราะฉะนั้นต้องกล้าพูด ฝึกฝนด้วยการคุยกับผู้คนเยอะ ๆ จะได้สำเนียงด้วย 

งานแรกที่คุณตาลไปสมัคร คือ งานล้างจานในร้านอาหารของบริษัทไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในรัฐซูริค ทำในตำแหน่งล้างจานอยู่ 4 เดือน จนได้เลื่อนเป็นผู้ช่วยแม่ครัว สลับกับแคชเชียร์ ทำอยู่ที่นี่ได้ประมาณ 15 เดือนก็ต้องลาออก เพราะยังรับกับวัฒนธรรมของที่นี่ไม่ค่อยได้ ยังอ่อนไหวกับสิ่งต่าง ๆ อยู่มาก

ความยากในการไปใช้ชีวิตอยู่ที่สวิสของคุณตาล คือความคิดถึงครอบครัว เพราะในสมัยก่อนไม่มีอินเทอร์เน็ต จะติดต่อกับแม่ได้ต้องไปซื้อบัตรโทรศัพท์ ร้องไห้บ่อยแต่กลับไม่เคยรู้สึกท้อ

วัฒนธรรม วิถีชีวิตคนสวิส
คุณตาลเล่าว่า บริบทของคนรอบตัวคุณตาล ไม่มีใครสนใจชุดความคิดที่ว่า เธออ้วนขึ้น ผอมลง ดำไหม ขาวไหม ถือกระเป๋ายี่ห้ออะไร ได้เงินเท่าไหร่ ที่ประเทศไทยอาจมีคนถามว่าทำไมผิวเธอดำจัง แต่ที่สวิสคนจะทักว่า ทำไมสีผิวเธอสวยจัง อยากได้สีผิวแบบนี้ คนสวิสที่คุณตาลรู้จัก ให้ค่ากับชีวิตของตัวเอง ใช้ชีวิตของตัวเองเป็นไปตามครรลอง ตื่นเช้ามาเคยทำอะไรก็ทำ ทำงาน ท่องเที่ยว เข้าฟาร์ม มีความสุขกับสิ่งที่ทำ 

การทำงาน
ที่สวิสจะคิดการทำงานเป็นเปอร์เซ็นต์ 100 เปอร์เซ็นต์ คือทำงานปกติ กินเงินเดือนเต็ม ทำงานอยู่ที่ 40-43 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือหากจะหางานที่สามารถทำแค่ 80 เปอร์เซ็นต์ ก็ได้ คือทำ 4 วัน หยุด 3 วัน ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับที่คุณตาลกำลังทำอยู่ ตอนเริ่มทำแรก ๆ คุณตาลเริ่มทำเพียง 50 เปอร์เซ็นต์ คือสองวันครึ่งต่อสัปดาห์ แต่ตอนนี้เพิ่มขึ้นมา ก็ได้เงินเยอะขึ้น โดยสวัสดิการจะขึ้นอยู่กับรูปแบบงาน ว่าเป็นพนักงานประจำ ชั่วคราว หรือรายชั่วโมง แต่การจ่ายเงิน pension จะจ่ายตามเปอร์เซ็นต์งาน หากเกษียณก็จะได้เงินแค่ส่วนนั้น

บ้านอายุ 151 ปี
ที่สวิสบ้านจะมีอายุเก่าแก่ทั้งนั้น เพราะมีการสร้างที่ดีมาก บ้านที่คุณตาลอยู่มีอายุ 151 ปี เป็นบ้านไม้ โดยส่วนใหญ่บ้านที่สวิสจะมีห้องใต้ดินทุกบ้าน ไว้สำหรับเก็บของ ส่วนหลังบ้านของคุณตาล จะมีส่วนต่อเติมเรียกว่าเป็นห้องหลังบ้าน เหมือนตู้เย็น หน้าหนาวทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้เลย 

ความพอใจกับชีวิต ณ วันนี้
คุณตาลเล่าว่าพึงพอใจกับชีวิต ณ วันนี้มาก อยู่ที่ในอนาคตเรามองเห็นตัวเองยังไง ในวันนั้นคุณตาลมองเห็นตัวเองยืนอยู่ตรงนี้ และนำพาตัวเองไป ไม่ได้รอว่า ฉันอยู่ตรงจุดนั้น แล้ววันนึงฉันจะได้ไปอยู่ เราอยากเป็นคนแบบไหน เราต้องพาตัวเองไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบนั้น ใกล้ ๆ กับคนแบบนั้น แล้วเราจะกลายเป็นคนแบบนั้นไปด้วย ทำดี คิดดี ไม่ว่าจะทำอะไรหากเรามีความมุ่งมั่นมากพอ เราทำได้หมด

ฟาร์มบนพื้นที่ 44 ไร่
ฟาร์มของสามีคุณตาลนั้นอยู่ห่างจากบ้าน 2 กิโล เป็นพื้นที่พิเศษที่ทางรัซซูริคขีดโซนแดงไว้ว่า ห้ามกระทำการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่ฟาร์มมีต้นไม้ประมาณ 80 กว่าต้น บนเนื้อที่ 44 ไร่ มีแอปเปิ้ล ลูกแพร์ ลูกพลัม เชอรี่ ถั่ววอลนัท แบล็กเบอรี่ ราสเบอรี่ องุ่น มีแพะยี่สิบกว่าตัว มีผลผลิตที่เก็บทานได้ ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย มีเวลาสบาย ๆ ถือว่าเป็นชีวิตที่สมบูรณ์แบบและน่าอิจฉาไม่น้อย

.

.

.