เดินหลง...ในดงโซเชียล By รัตนา & โกสินทร์
เปิดโซเชียลมาเห็นภาพ ท่านเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน อำเภอเกาะพะงัน ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ให้จัด 'โรงพยาบาลสนาม' แล้ว ได้แต่ปลงสังขาร 'อนิจจา วต สังขารา' สังขารทั้งหลายนั้นไม่เที่ยง
นั่นก็เพราะวัดคงยังเป็นที่พึ่งพิงให้ประชาชนได้เสมอในทุกสถานการณ์ มองมุมหนึ่งก็รู้สึกสงบถึงขั้วหัวใจ อากาศแม้จะร้อนแต่ก็เย็นสบาย ยิ่งมีเสียงสวด “กุสะลา ธัมมา อะกุสะลา ธัมมา” ให้ฟังยามนอนพักสังเกตุอาการ คงได้เจริญสติด้วยใจระทึกว่า ทำไมน้อ! ถึงติดเชื้อโควิดได้
ว่าแต่พอพูดถึงเรื่องการกักตัวในพื้นที่ รพ.สนามแล้ว ก็ได้แต่ถอนหายใจ!
เพราะที่ไหน ๆ ก็จะระงมไปด้วยเสียงบ่นของผู้กักตัว
บางพื้นที่ ที่ไม่มีระบบปรับอากาศ ปล่อยให้ร้อน นอนไม่หลับ บ่นๆๆ กันอยู่นั่น
เห็นภาพแล้วก็ละเหี่ยใจ ทำไมคุณ ๆ ดันไม่มองเห็นความลำบากของนักรบเสื้อกาวน์ ที่ต้องสวมชุด PPE มาดูแลคุณกันหน่อยล่ะฮึ?
อยากถามตรงนี้ ว่าใครลำบากมากกว่ากัน ยิ่งมาทราบว่า เป็นกลุ่มเสี่ยงที่มาจากสถานบันเทิงด้วยแล้ว ใจอยากให้ย้ายไปกักตัวที่ 'ศาลาวัด' พร้อมเสียง “กุสะลา ธัมมา อะกุสะลา ธัมมา” ให้รู้แล้วรู้รอด จะได้มีสำนึกรับผิดชอบตัวเองกันมากขึ้น
แล้วนี่น่ะ ล่าสุด หนู ๆ น้อง ๆ บ่นกันเต็มโซเชียล ว่าทำไม รพ.สนาม ถึงไม่มีการกั้นฉากกั้นม่าน ให้เป็นสัดส่วน เชื้อไม่แพร่กันง่ายหรือไง? ทำไมไม่กั้นฉากกั้นห้องหอแบบในต่างประเทศ?
เอ้า!! ตั้งใจฟังนะเด็ก ๆ ภาพ รพ.สนามจากต่างประเทศ เป็นการตั้ง รพ.สนาม เพื่อดูแลผู้ป่วยที่มีอาการหนัก การกั้นฉากติดม่าน เค้าใช้บังสายตาไม่ให้เห็นการรักษาผู้ป่วยที่อยู่เตียงข้าง ๆ จะได้มีความเป็นส่วนตัวและลดความเครียด ต่างจาก รพ.สนาม ในบ้านเรา ที่ออกแบบใช้งาน สำหรับกักตัว สังเกตอาการ ถ้ามีอาการก็ส่งตัว แยกส่วนเข้า รพ. ดูแล
อีกอย่างหนึ่ง คุณหมอก็เคยบอกแล้วว่า การกั้นม่าน จะเพิ่มความแออัดทำให้ การไหลเวียนของอากาศไม่สะดวก เพิ่มการสะสมของเชื้อในอากาศ ทางที่ดีนอนบนเตียง อย่าไปรวมกลุ่มเล่นไพ่กันสนุกสนาน (อย่างที่มีภาพหลุด) หรือถ้าไม่มีอาการเลย ก็ทำตัวให้เป็นประโยชน์ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตามที่เค้าอนุญาต เหมือนน้อง ๆ ที่ รพ.สนามเชียงใหม่เค้าช่วยกันประกอบเตียงสนามที่ทำจากกระดาษ สำหรับรองรับผู้ที่ต้องกักตัวรายใหม่กันดีกว่า
เข้าใจป่ะ!!
ขอบ่นเรื่อง รพ.สนาม เท่านี้
ไถโซเชียลต่อ หลุดกรอบจอของศาลาวัด ก็มาสะดุดข่าวฝรั่งฝังตัวในไทย 35 ปี 'เดวิด สเตร็คฟัสส์' นักวิชาการชาวอเมริกัน อดีต ผอ.โครงการ CIEE ขอนแก่น ผู้ดูแล 'The Isaan Record' ที่พึ่งถูกยกเลิกวีซ่าไป
ล่าสุดลือกันว่า เจ้าตัว เสนอขอทำงานให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น 'ฟรี' เพื่อหวังให้ ม.ขอนแก่น ออกหนังสือรับรองการว่าจ้างเพื่อยื่นขอต่อใบอนุญาตทำงาน (Work permit) สำหรับขอต่อวีซ่าอยู่ต่อในไทย
ตรงนี้คงขอจับตาดู ว่าจะมีมหาวิทยาลัยอื่นไหมที่สนใจว่าจ้าง นักวิชาการต่างชาติท่านนี้ เพื่อผลิตงานวิจัย 'ต่อต้าน ม.112' ตามที่เค้าชอบทำวิจัยศึกษาด้านนี้มาตลอด 35 ปี
ส่วนตัวแล้ว สงสัยคงต้องเร่งกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้แกไปได้ดี 'นอกบ้านเรา' เหมือนเพื่อนนักวิจัย สุรชัย ณ เจแปน จะเป็นการดีที่สุด
ก่อนจะลาจาก เจออีกฟีดกระแทกตาในโซเชียลต่อเชื่อมกับ 'เจ้าพ่ออีสานเรคคอร์ด' นายนี้ เพราะดันมีข่าวหลุดแชทหลุด เรื่องลี้ ๆ หนี ๆ ไปยังต่างแดนของกลุ่มแกน 3 นิ้ว
โดยหนึ่งในนิ้วอย่าง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด แกนนำกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (Democracy Restoration Group - DRG) และกลุ่มคณะราษฎร 63 ก็เร่งออกมาปฏิเสธว่า ทั้งหมดคือเฟกนิวส์ให้งงงวยกันเบา ๆ ว่า...
"ไม่ต้องลงทุนถึงขั้นสร้างแชตปลอมออกมาโจมตีกันแบบนี้ เพราะมันดูไร้สาระมาก และที่สำคัญ ไม่มีใครใช้แชตไลน์คุยกับสถานทูตนะคะ มันไม่ปลอดภัย"
...ใครคือทูตก็ไม่รู้ แล้วใครเป็นคนบอกว่าเป็นทูต
...คุยกับทูตไม่ปลอดภัยอันนี้ก็น่าสนใจ
...แต่เสียดายที่ไม่ยอมบอกต่อว่า ไม่ปลอดภัยจากอะไร เพราะอะไร
ซึ่งใครจะเชื่อไม่เชื่อ แต่เราอยากบอกว่า กลุ่มสามนิ้ว ทั้งลูกเด็กเล็กแดง ไปจนถึงนักวิชาการ ต่างออกมาแก้ข่าวกันอุตลุด ถึงขนาดจับผิดเรื่องภาษาอังกฤษกันแบบขำ ๆ แต่เหงื่อตกเนียน ๆ
แบบนี้มันน่าพิลึกอย่างไรไม่รู้นะจ๊ะ ทั้ง ๆ ที่ สาวสวยหลังม็อบ ออกมาระบุพิกัดเองเลยว่า ไม่เคยติดต่อเจ้าหน้าที่สถานทูตผ่านทางไลน์
เอ!! ถ้าไม่มีฟืนไฟคงไม่มีควันให้เราเห็น ว่าไหม?
เราสอง รัตนา & โกสินทร์ อ่านด้วยสายตาฉงน...งงงวย
สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32