รมว.แรงงาน แจงยอดปล่อยกู้กลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน ปีงบ 64 คงเหลือพร้อมให้กู้ 3.7 ล้าน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผยผลการดำเนินงานกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 หลังปล่อยกู้ดอกเบี้ย 0% นาน 12 งวด ย้ำยังมีวงเงินให้กู้ สำหรับผู้เข้าเงื่อนไขที่กรมการจัดหางานกำหนด

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน สภาพคล่องในการใช้จ่ายรวมทั้งการดำเนินการของผู้รับงานไปทำที่บ้าน กระทรวงแรงงานจึงพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้หรือค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินของกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน อยู่ในอัตราร้อยละ 0 ต่อปี ในงวดที่ 1 -12  ภายใต้กรอบวงเงิน 7,000,000 บาท 

เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของแรงงานนอกระบบผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ ตามที่นายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรองนายกรัฐมนตรี พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผู้กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน เน้นย้ำเสมอในเรื่องการดูแลแรงงานนอกระบบให้สามารถอยู่ได้ มีโอกาสเข้าถึงสิทธิพื้นฐานในการประกอบอาชีพ สามารถขึ้นทะเบียน มีการรวมกลุ่มจัดตั้งเป็นองค์กร ได้รับการส่งเสริมคุ้มครอง และพัฒนาสู่คุณภาพชีวิตที่ดี ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

“สำหรับผลการดำเนินงานกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 – 29 มีนาคม 2564) ปล่อยกู้แล้วทั้งสิ้น จำนวน 20 กลุ่ม เป็นเงิน 3,210,000 บาท โดยยังมีวงเงินคงเหลือสำหรับผู้รับงานไปทำที่บ้านที่ต้องการกู้ยืมเงินกองทุนฯ อีก 3,790,000 บาท ซึ่งผู้รับงานไปทำที่บ้านที่ต้องการเงินทุน และเข้าเกณฑ์เงื่อนไขของกรมการจัดหางาน สามารถยื่นคำขอกู้เงินได้ที่สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 สำนักงานจัดหางานจังหวัด ในท้องที่ที่ผู้รับงานไปทำที่บ้านได้จดทะเบียนไว้กับกรมการจัดหางาน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกล่าว

ด้านนายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า สำหรับการกู้ยืมเงินกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน ที่คิดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืม ร้อยละ 0 ต่อปี ในงวดที่ 1- 12 โดยไม่ปลอดเงินต้น และในงวดที่ 13 เป็นต้นไปจนสิ้นสุดสัญญา คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี ภายในกรอบวงเงิน 7,000,000 บาทนั้น มีเป้าหมายเพื่อให้แรงงานนอกระบบที่เป็นผู้รับงานไปทำที่บ้าน สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนถูกกฎหมาย อัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งเริ่มให้ยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นมา จนถึง 31 สิงหาคม 2564 โดยต้องทำสัญญากู้ยืมให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2564 

“คุณสมบัติผู้กู้จะต้องเป็นผู้รับงานไปทำที่บ้านที่จดทะเบียนไว้กับกรมการจัดหางาน มีผลการดำเนินการและมีรายได้จากการรับงานไปทำที่บ้าน หรือมีหลักฐานการรับงานไปทำที่บ้านจากผู้จ้างงาน ซึ่งมีทั้งประเภทบุคคลและกลุ่มบุคคล โดยประเภทบุคคลต้องมีทรัพย์สินหรือเงินทุนไม่น้อยกว่า 5,000 บาท ส่วนประเภทกลุ่มบุคคลจะต้องมีผู้นำกลุ่มและสมาชิกกลุ่มกู้ร่วมกันไม่น้อยกว่า 5 คน  มีทรัพย์สินหรือเงินทุนในการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มรวมกันไม่น้อยกว่า 10,000 บาท รายบุคคลกู้ได้ไม่เกิน 50,000 บาท ระยะเวลาชำระคืนภายใน 2 ปี และรายกลุ่มบุคคลไม่เกิน 300,000 บาท 

ระยะเวลาชำระคืนภายใน 5 ปี โดยตั้งแต่ปี 2548 – ปัจจุบัน  มีผู้รับงานไปทำที่บ้านที่จดทะเบียนกับกรมการจัดหางาน จำนวน 1,034 ราย/กลุ่ม สมาชิกจำนวน 5,993 คน และมีผู้กู้เงินจากกองทุนฯแล้ว จำนวน 509 ราย/กลุ่ม (29 ราย/480 กลุ่ม) เป็นเงิน 52,016,000 บาท” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว