ซุส (Sost) เมืองชายแดนปากีสถาน ติดพรมแดนจีน กลายเป็นเมืองร้าง ร้านค้ามากมายปิดให้บริการ คนตกงานระนาว จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

คอลัมน์ ริมทางถนนคาราโครัมไฮเวย์

การแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทบเมืองซุส (Sost) ประเทศปากีสถานอย่างหนัก จากภาพถนนหลักคาราโครัมย์ ที่มีรถวิ่งไปมาขวักไขว่ ก่อนโควิด วันนี้เป็นได้แค่สนามฟุตบอลให้ชาวบ้านได้ออกกำลังกายคลายหนาวแทน แทบจะเรียกได้ว่าเกือบเป็นเมืองร้าง ร้านค้ามากมายปิดให้บริการ

เหตุใดเมืองซุส (Sost) ถึงได้รับผลกระทบอย่างหนัก จนแทบจะกลายเป็นเมืองร้างแบบนี้  ?

เมืองซุส ( Sost) คือ เมืองชายแดนของปากีสถาน ระหว่าง 2 ประเทศ คือ ประเทศปากีสถาน-ประเทศจีน ซึ่งจะมีด่านชายแดนกุลจิราฟ ในการเดินทางข้ามพรมแดนและขนส่งสินค้า แต่หลังจากเหตุการณ์โรคระบาด ด่านพรมแดนแห่งนี้ ก็ถูกปิดไปตั้งแต่ปลายปี 2019 จนถึงทุกวันนี้ (เปิดด่านเฉพาะกิจไปเพียง 2 ครั้ง ในปี 2020 เพื่อให้ทางการจีนส่งเครื่องมือแพทย์มาช่วยเหลือ ช่วงเดือนเมษายน และเดือนกันยายนเท่านั้น )

ชาวเมืองทั้งหมดโซนนี้ ทำงานร่วมกับคนจีน ไม่ว่าจะเป็นล่าม ไกด์นำเที่ยว คนขับรถ บริษัทขนส่ง พนักงานตำแหน่งต่างๆ ในท่าสินค้า ซึ่งมีท่าสินค้าและโกดังสินค้าจากประเทศจีนขนาดใหญ่มาก ชื่อว่า Dry Port เป็นจุดพักสินค้า ก่อนขนส่งลงไปทางตอนใต้

เพราะฉะนั้น ชาวเมืองเกือบทุกคน ที่เป็นอยู่ในวัยแรงงาน ได้รับผลกระทบเต็มๆ เช่น เจ้าของบริษัททัวร์ที่จีน (ซินเจียง) ลูกทัวร์ก็เดินทางข้ามพรมแดนไม่ได้ เพราะด่านปิด กิจการได้รับความเสียหายอย่างหนัก หรือคนที่ทำงานที่ท่าสินค้า ก็ถูกพักงานไปหลายเดือน

จากผลกระทบอย่างหนักในครั้งนี้ ทำให้ผู้นำฝ่ายค้านโซนGB ทำหนังสือส่งไปที่รัฐบาลกลาง ขอให้เปิดด่านพรมแดนกุลจิราฟ ในวันที่1 เมษายน เพื่อผลประโยชน์และกระตุ้นเศรษฐกิจของโซนเหนือ

ถือเป็นความหวังของชาวเมืองเหนือ หากทางการอนุญาตให้เปิดด่านพรมแดน ชาวเมืองก็จะได้กลับไปทำมาหากินกัน

แม้ว่าประเทศปากีสถาน และเมืองซุส (Sost) จะไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด19 แต่พวกเราก็ได้รับผลกระทบ เพราะไม่มีงานทำ ผู้คนที่นี่ตกงานจำนวนมาก โดยเฉพาะแรงงานผู้ชาย โดยส่วนใหญ่ผู้ชายปากีสถานเป็นผู้นำครอบครัว มีหน้าที่ทำงานเลี้ยงครอบครัว ส่วนผู้หญิงมีหน้าที่ดูแลครอบครัวเท่านั้น ถ้าผู้นำครอบครัวตกงาน ก็หมายถึงความเป็นอยู่ของคนทั้งครอบครัวเช่นกัน

ชีวิตได้อย่างเสียอย่างเสมอ

ทุกวันนี้รอคอยข่าวดีอยู่ทุกวัน

ถึงที่นี่จะไม่มีโควิด แต่โดนผลกระทบจากโควิดหนักที่สุด!!!

รายงานจากคนไทยคนเดียวที่อยู่เมืองนี้


กุลไลล่า

ไกด์สาวชาวไทย​ สะใภ้​ปากี​สถาน จากหัวหิน​พบรักหนุ่มปากีเชื้อสายวาคี อาศัยอยู่เมืองพาสสุ​ ดินแดนเหนือสุดของประเทศปากีสถาน ปัจจุบันเปิดร้านอาหารริมถนนคาราโครัมไฮเวย์​ ถนนที่ได้รับการขนานนามว่าสูงที่สุดในโลก​ หรือเส้นทางสายแพรไหมในอดีต​

คอยต้อนรับแขกที่ผ่านทางมา​ แวะกินอาหารไทย​และชิมชา​ เบเกอรี่ชื่อดัง​ ทางเหนือของปากีสถานได้​ พร้อมให้บริการท่องเที่ยวปากีสถาน​หลังโควิด​-19 ผ่านไป