เมื่อ 20 ปี ที่แล้ว ใครจะคิดว่าสมาร์ทโฟนจะกลายเป็นสิ่งของประจำตัวผู้คนได้เหมือนทุกวันนี้ และใครจะรู้ว่าโลกจะถูกย่อให้เล็กลงด้วยโซเชียลมีเดีย

และยังมีเทคโนโลยีอีกมากมายที่ไหลวนเข้ามาในชีวิตแบบไม่มีหยุด อย่างตอนนี้ โลกของเราก็จะกำลังจะเป็นเหมือนหนังไซไฟที่โลกแห่งความเป็นจริงกับโลกเสมือนจริงเริ่มเชื่อมติดกัน เช่น มีการนำความสนุกออฟไลน์กับเกมออนไลน์ผสมผสานเข้ากันในทุกมิติของการใช้ชีวิตประจำวัน

ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับกรณีศึกษาดังกล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า อนาคตต่อจากนี้ กำลังจะเกิดปรากฏการณ์ใหม่และยิ่งใหญ่ที่เรียกว่า ‘เมทาเวิร์ส’

ถ้าใครยังไม่เคยได้ยินคำว่า ‘เมทาเวิร์ส’ (Metaverse) ถึงเวลาแล้วที่จะต้องหันมาสนใจ เพราะโลกยุคใหม่กำลังก้าวเข้าสู่ยุคเมทาเวิร์สอย่างรวดเร็ว

เมทาเวิร์สเป็นคำที่มาจากนิยายไซไฟ ถ้าคุณเคยดูภาพยนตร์อย่าง The Matrix หรือ Ready Player One ก็อาจจะพอนึกภาพการผสมผสานระหว่าง ‘โลกแห่งความเป็นจริง’ กับ ‘โลกเสมือนจริง’ อย่างกลมกลืน และแทรกซึมในทุกส่วนของชีวิตประจำวัน

ลองนึกตามดูครับว่า คุณเดินเข้าไปในห้างเสมือนจริง เพื่อซื้อชุดนักรบให้กับตัวคุณที่เป็นขุนศึกในเกมสามก๊กออนไลน์ จากนั้นไปที่ฟู้ดคอร์ตเพื่อกดซื้ออาหารให้ Grab Car ส่งกลับไปที่คอนโด

จากนั้นก็ไปฟังคอนเสิร์ตที่คอนเสิร์ตฮอลล์ ฟังไปครึ่งทางก็สามารถเชื่อมถ่ายทอดเสียง Live เข้ากับหูฟัง และเดินออกมาก่อนเพื่อไปวิ่งในยิมพร้อมกับฟังการแสดงสดไปพร้อมกัน ระหว่างที่วิ่งในยิมก็ใส่แว่นเชื่อมต่อกับโลก Virtual เพื่อวิ่งแข่งกับเพื่อนที่วิ่งอยู่ที่บ้าน โดยสนามที่วิ่งแข่งกันเป็นสนามเขาวงกตที่ปรากฏผ่านแว่นตาในโลก Virtual…

เมทาเวิร์สมีคนแปลไทยว่า ‘โลกพหุภพ’ ที่เชื่อมทั้งภพโลกความเป็นจริง เข้ากับภพโลกเสมือนจริง และภพโลกดิจิทัล ผู้คนสามารถจับจ่ายใช้สอยและส่งถ่ายข้อมูลข้ามแพลตฟอร์ม ข้ามโลก ข้ามภพได้อย่างไม่มีข้อจำกัด

ในช่วง 20 ปี ที่ผ่านมา เราได้เห็นพัฒนาการของอินเตอร์เน็ต จากโลกของคอมพิวเตอร์ Desktop เป็นโลกของสมาร์ทโฟน (Mobile) หลายคนบอกเรากำลังก้าวเข้าสู่โลก Internet of Things ที่ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เป็นอุปกรณ์สมาร์ตที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้ทั้งสิ้น

แต่โลกเมทาเวิร์สไปไกลกว่านั้นอีกครับ เพราะเป็นการผสานเทคโนโลยี VR (Virtual Reality) AR (Augmented Reality) ที่กำลังรุดหน้าแบบติดจรวดเข้ากับโลกแห่งความเป็นจริง รวมทั้งกับโลกดิจิทัลแพลตฟอร์มจนเป็นเนื้อเดียวกัน

เมทาเวิร์สยังเป็นโลกที่ผสานเกมและความบันเทิงเข้ากับโลกแห่งความเป็นจริงอย่างไร้รอยเชื่อมต่อ ผลคือจะเป็นการขยายขอบเขตและพื้นที่ของเศรษฐกิจให้ใหญ่โตขึ้นหลายเท่าจากปัจจุบัน เช่นเดียวกับที่อินเทอร์เน็ต และโลกดิจิทัลได้เปลี่ยนวิถีการทำธุรกิจและสร้างโอกาสธุรกิจใหม่มหาศาล โลกเมทาเวิร์สก็มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนเกมธุรกิจชนิดพลิกโฉม

มีนักวิเคราะห์เทรนด์ธุรกิจในจีนอธิบายว่า ยุทธศาสตร์ธุรกิจของ Google และ Facebook ที่เริ่มเปลี่ยนจากการพัฒนา และสร้างสรรค์แพลตฟอร์มของตัวเอง มาเป็นการเข้าซื้อกิจการ และแพลตฟอร์มต่างๆ ที่หลากหลาย เช่น Google เข้าซื้อ Android, Youtube, DoublicClick และ Facebook เข้าซื้อ Instagram, Oculus และ WhatsApp ทั้งหมดล้วนมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่โลกเมทาเวิร์สที่จำเป็นต้องกระจาย และเชื่อมโยงหลายแพลตฟอร์มเข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ

ล่าสุด Packy Mccormick บล็อคเกอร์ชื่อดังแห่งบล็อก Not Boring ที่เขียนเกี่ยวกับเทรนด์การลงทุนใหม่ ๆ ได้วิเคราะห์ว่า วงการ Tech จีน อาจเป็นผู้นำการผลักโลกเข้าสู่ยุคเมทาเวิร์สสมบูรณ์แบบ โดยบริษัท Tech จีนที่มีศักยภาพ และมีทิศทางชัดเจนในการสร้างเศรษฐกิจเมทาเวิร์ส ก็คือ Tencent

เพราะ Tencent มีพื้นฐานครบถ้วน ทั้งในการเป็นเจ้าตลาดเรื่องเกมออนไลน์ เรื่องความบันเทิงที่หลากหลาย รวมทั้งเรื่องโซเชียลมีเดียผ่านแพลตฟอร์ม Wechat ในจีน แถมตอนนี้ Tencent กำลังทุ่มทุนเต็มที่กับการพัฒนาเทคโนโลยี VR (Virtual Reality) และ AR (Augmented Reality)

เครือ Tencent ยังเข้าร่วมลงทุนในบริษัทอย่าง Epic Games ซึ่งได้เข็นเกม Fortnite ที่โด่งดังออกมา หลายคนมองว่า Fortnite เป็นเกมรูปแบบใหม่ที่จะเป็นฐานต่อยอดการสร้างเศรษฐกิจเมทาเวิร์สในอนาคตได้ นอกจากนั้น Tencent ยังลงทุนใน Snap ซึ่งเป็นผู้นำในการสร้างโอกาสทางธุรกิจจากเทคโนโลยี AR (Augmented Reality)

มีนักวิเคราะห์ในจีนมองว่า ไม่ใช่เฉพาะ Tencent เท่านั้น แต่บริษัท Tech ชั้นนำของจีนเริ่มมีการวางรากฐานเพื่อก้าวสู่โลกเมทาเวิร์สมาอย่างต่อเนื่อง

ไม่ว่าจะเป็นแนวคิด New Retail ของ Alibaba ที่ต้องการผสานโลกช็อปปิ้งออฟไลน์ และออนไลน์เข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ หรือโมเดลโซเชียลคอมมิร์ซของยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซรายใหม่ในจีนอย่าง Pinduoduo โมเดลโซเชียลคอมเมิร์ซจะมีศักยภาพมหาศาลเมื่อเปลี่ยนจากโลกช็อปปิ้งออนไลน์มาเป็นโลกเมทาเวิร์ส

อนาคตมักมาถึงเร็วกว่าที่เราคิดเสมอนะครับ


ที่มา: https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10157561741235025&id=520965024

Cr : ภาพ Exzy VR Lab