รองนายกรัฐมนตรี ‘สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์’ เผยยอดขอส่งเสริมการลงทุนในอีอีซี ปี 63 มีทั้งสิ้น 453 โครงการ มูลค่าลงทุนกว่า 2 แสนล้าน ขณะที่นักลงทุนญี่ปุ่น เข้ามาลงทุนสูงสุดกว่า 5 หมื่นล้าน ตั้งเป้าปี 64 ดึงดูดเม็ดเงินลงทุน 3 แสนล้าน

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) ว่า ได้รับทราบภาพรวมการขอรับส่งเสริมการลงทุนใน อีอีซี

ในปี 2563 มีทั้งสิ้น 453 โครงการ มูลค่าลงทุน 2.08 แสนล้านบาท คิดเป็น 43% ของมูลค่าการขอรับส่งเสริมการลงทุนทั้งประเทศ เป็นการลงทุนจากต่างประเทศรวม 1.15 แสนล้านบาท คิดเป็น 55% ของมูลค่าขอรับส่งเสริมทั้งหมดใน อีอีซี

โดยนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น เข้ามาลงทุนใน อีอีซี สูงสุด มูลค่าการลงทุน 50,455 ล้านบาท คิดเป็น 44% และอันดับสองเป็นนักลงทุนจากจีน มูลค่าการลงทุน 21,831 ล้านบาท ส่วนโครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในอีอีซี ปี 63 จาก 453 โครงการ ได้อนุมัติคำขอแล้ว 292 โครงการ ออกบัตรส่งเสริมแล้ว 172 โครงการ และได้เริ่มโครงการแล้ว 79 โครงการ

อย่างไรก็ตาม ในปี 2564 แม้จะมีสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่รัฐบาลยังคงนโยบายปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อดึงดูดการลงทุน ทั้งในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี และพื้นที่อื่นทั่วประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมาย

ด้วยการใช้ทุกองคาพยพ ทั้งสำนักงานอีอีซี และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ร่วมกันคัดเลือกกลุ่มนักลงทุน แก้ปัญหา และพิจารณาสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่ โดยตั้งเป้าหมายดึงดูดการลงทุนในอีอีซี ให้ได้ 3 แสนล้านบาท ในปี 2564 เพิ่มจากปีก่อน 50%