นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานไทยภักดี และรักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์อธิบายข้อเท็จจริงๆ เกี่ยวกับหลักการจัดหาและใช้งานวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทยถึง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าว่า...

"วันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีหลายประเทศจัดหาวัคซีนได้มากกว่าจำนวนประชากร โดยบางประเทศได้ถึง 200-300 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากร ขณะที่ประเทศไทยเราแค่ 21.5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น"

นี่คือข้อความที่นายธนาธรแถลง เรื่องวัคซีนโควิด และถือว่าบิดเบือนจากความเป็นจริง อาจจะไม่เข้าใจเรื่องทางการแพทย์ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัวที่เห็นคนอื่นทำในสิ่งที่ดีกว่าตนเองไม่ได้ ต้องพยายามนำเสนอว่าตนเองนั้น มีอะไรที่เหนือกว่า

ถ้าจำกันได้ ตั้งแต่เริ่มเป็นนักการเมือง เขาให้แสดงความโปร่งใส แต่ตนเองใช้ไบลด์ทรัสต์ เขาจะทำรถไฟความเร็วสูง แต่ตนเองจะทำไฮเปอร์ลูป เขาแจก 5,000 บาท แต่ตนเอง 3,500 บาทถ้วนหน้าโดยไม่พิสูจน์ความจน มาถึงเรื่องวัคซีนโควิด ก็พยายามสื่อสารว่า มีบางประเทศจัดหาได้ถึง 200-300 เปอร์เซ็นต์ของประชากร เพื่อมาเกทับประเทศไทย

ตัวเลขตัวเลข 200-300% ที่นายธนาธรเสนอ ก็แสดงให้เห็นว่ารับรู้ไม่จริงและบิดเบือน ด้วยหลักการฉีดวัคซีน ในเชิงวิชาการของโรคระบาด ไม่มีใครฉีด 100% ของประชากร เขาฉีดประมาณ 60-80% ของประชากร เพราะจะ 'เกิดภูมิคุ้มกันหมู่' ตามมา การที่บอกว่าบางประเทศจัดหา 200-300% ของประชากร จึงพูดแบบมั่วๆ

ที่สำคัญคุณควรต้องศึกษาด้วยว่า ขณะนี้วัคซีนโควิด ยังไม่มีการทดลองในเด็ก จึงยังไม่มีประเทศไหนในโลกนี้ฉีดในเด็ก แม้แต่ไฟเซอร์ เพิ่งจะเริ่มงานวิจัยไม่นาน ที่จะทดลองฉีดในเด็กอายุ 12 ปี และวิจัยในเด็กอายุ 15-16 ปี ในปัจจุบันเขาจึงห้ามฉีดในเด็กอายุ ต่ำกว่า 16 ปี

ที่สำคัญถ้าคุณไม่อคติจนเกินไป ได้พูดกับอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ประเทศเรามีประชากรประมาณ 66 ล้านคน ถ้าตัดเด็กอายุ 16 ปีลงมา จะเหลือประมาณ 55 ล้านคน หลักการฉีดวัคซีน และให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ คิดที่ 60% เท่ากับว่าเราจะฉีด 33 ล้านคน ขณะนี้เราสั่งวัคซีนแล้ว ของแอสตร้า เซเนก้า 26 ล้านโด๊ส ของซิโนแวค 2 ล้านโด๊ส

ที่สำคัญการฉีดให้คนหลายสิบล้านคน ไม่ใช่ใช้เวลาแค่เดือนสองเดือน แต่ต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่านั้นมาก ส่วนเข็มที่สองห่างจากเข็มแรกประมาณเกือบหนึ่งเดือน ดังนั้น ในทางวิชาการ จึงไม่ใช่เลวร้ายอย่างที่นายธนาธรนำเสนอ ให้ประชาชนเข้าใจผิด

ที่สำคัญวัคซีนนั้นเป็นตัวเพิ่มภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย แต่ก็ยังอาจป่วยได้ แต่ไม่รุนแรง เมื่อเทียบสัดส่วนประชากรที่ป่วยกับจำนวนประชากร ในวงการแพทย์ถือว่า การที่ประชาชนไทยระมัดระวังตัวเอง การวางแผนเรื่องการฉีดวัคซีนนี้ จึงยังไม่เป็นปัญหา

ถ้านายธนาธรจะลดความอคติ ชิงชัง หาความรู้ทางวิชาการเพิ่มอีกสักหน่อยจะดีกว่านี้ ไม่ใช่เมื่อเจอความจริง ก็จะหันเหด้วยการจะดูเอกสารสัญญา

ช่วงนี้นายธนาธรน่าจะทำตามผลโพลที่ประชาชนต้องการนั่นคือ ประชาชนร้อยละ 96.6 แนะนำให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ออกมาเคลียร์ปมที่ประชาชนเคลือบแคลงสงสัย เช่น การบุกรุกป่าของมารดาของนายธนาธรฯ ภาษีเรือยอร์ช การปลดพนักงาน แรงงานของบริษัทฯ เงินบริจาคช่วยเหยื่อโควิดที่แจกไม่หมดนำไปใช้จ่ายอย่างอื่น น่าจะดูดีกว่า