เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แจงฝ่ายค้านพร้อมยื่นญัตติซักฟอกสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน ม.ค. โดยประเด็นหลักที่จะอภิปราย มีหลายเรื่องประกอบกัน ทั้งโควิด-19 สภาวะเศรษฐกิจ และทุจริต แย้มขยายสมัยประชุมสภาฯ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า คาดว่าจะยื่นต่อประธานสภาฯ ในสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนม.ค. แต่ภายหลังเลขานุการประธานสภาฯ ได้ประสานมายังผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ บอกว่าอยากจะให้ยื่นเร็วหน่อย ก็เลยตั้งใจไว้ว่าถ้าเป็นไปได้ อาจจะยื่นในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนม.ค. โดยจะมีความชัดเจนในวันที่ 15 ม.ค.นี้ เพราะเราจะมีการหารือกันกับพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อสรุปประเด็นครั้งสุดท้าย

เมื่อถามว่าในส่วนของพรรคพท. จะขอเปิดอภิปรายรัฐมนตรีกี่คน นายประเสริฐ กล่าวว่า ตอนนี้ข้อมูลมาจากหลายทาง และมีข้อมูลหลักๆ อยู่ เพราะฉะนั้นในส่วนของพรรคพท.ข้อมูลทุกอย่างจะเรียบร้อย ส่วนจะมีใครบ้างจะต้องหารืออีกครั้ง เรียกว่าข้อมูลพาดพิงไปถึงใคร ถึงรัฐมนตรีท่านใดก็อภิปรายท่านนั้น แต่ตัวนายกฯ ที่เป็นหัวหน้ารัฐบาล ก็อยู่ในประเด็นที่จะอภิปรายอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าประเด็นหลักที่จะอภิปราย จะเน้นไปที่การบริหารจัดการแก้ไขปัญหาโควิด-19 หรือประเด็นใดเป็นหลักหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า มีหลายเรื่อง เรื่องโควิด-19 ก็เรื่องหนึ่ง มีเรื่องสภาวะเศรษฐกิจ เรื่องทุจริต หลายเรื่องประกอบกัน ส่วนเรื่องหลักฐาน ขอให้รอวันอภิปรายเพราะยังเปิดเผยไม่ได้ แต่ยืนยันว่าเรามีข้อมูลเพียงพอถึงขนาดที่จะดำเนินการต่อที่จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อ

เมื่อถามย้ำว่ารายชื่อมีนายกฯ และรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ที่จะถูกอภิปรายหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ขอยังไม่เปิดเผยตอนนี้ เพราะอยากรอผลสรุปให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่งก่อน ส่วนผู้ที่จะนำอภิปรายจะมีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ และนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคพท. ที่จะเป็นผู้อภิปรายหลักอีกคน

เมื่อถามว่าประธานสภาฯ ได้รับปากแล้วว่าจะอภิปรายได้ทันในสมัยนี้ใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ท่านบอกว่าอยากให้เร็วหน่อย เพราะเกรงว่าในสถานการณ์โควิด-19 การประชุมสภาฯ จะเป็นอย่างไรก็ยังไม่ทราบ และถ้าจะเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ท่านเกรงว่าในช่วงการเปิดวิสามัญ จะสามารถทำได้สะดวกเพียงใด ในเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จริงๆ แล้วเราได้หารือในพรรคพท.เบื้องต้น สิ่งหนึ่งที่เรากังวล เราเหลือเวลาประมาณ 6 สัปดาห์ เพราะว่าจะปิดสมัยประชุมในวันที่ 28 ก.พ. ถ้าเป็นไปได้ในเดือนม.ค. เรามีการประชุมสภาฯ เพียงไม่กี่วัน เราพ้นมาสิบกว่าวันยังไม่มีการประชุมสักวัน เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ถ้ามีการขยายสมัยประชุมสภาฯ เกินกว่าวันที่ 28 ก.พ.ไป จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง และไม่จำเป็นต้องไปเปิดประชุมสมัยวิสามัญ

เมื่อถามว่าแนวทางนี้จะต้องขอไปยังรัฐบาลใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ใช่ เพราะเหมือนเป็นการชดเชยเวลาที่เสียไป

เมื่อถามย้ำว่า โอกาสที่จะไปอภิปรายในสมัยวิสามัญเป็นไปได้หรือไม่ เพราะตอนนี้เวลาค่อนข้างจำกัด นายประเสิรฐ กล่าวว่า การเปิดประชุมสมัยวิสามัญเป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร และการใช้เสียงสมาชิกเกินกว่ากึ่งหนี่ง จะเป็นอย่างไรก็ยังไม่ทราบ แต่การขยายเวลา เราก็สามารถที่จะมีเวลาที่มากขึ้นเพื่อชดเชยเวลาประชุมที่เสียไป 3 สัปดาห์แล้ว และในสัปดาห์หน้าประธานสภาฯ ก็ยังไม่ได้แจ้งว่ามีการประชุมหรือไม่ ยังไม่ได้แจ้งวาระการประชุมมา ซึ่งทางพรรคพท.ก็คอยอยู่

เมื่อถามว่าทางฝ่ายค้านจะต้องดำเนินการให้เร็วที่สุดใช่หรือไม่ เพราะถ้าไปล่าช้าจะถูกบีบในช่วงท้าย ทำให้เวลาถูกลดเหมือนครั้งที่ผ่านมา นายประเสริฐ กล่าวว่า ถูกต้อง เพราะถ้าเทียบกับปีที่แล้ว จริงๆ ได้ยื่นญัตติก่อนเป็นเวลาพอสมควร แต่ถึงเวลาอภิปรายจริงๆ ปีก่อนอภิปรายวันที่ 26-28 ก.พ.และปิดสมัยการประชุมเลย เราก็ไม่อยากให้เป็นเหมือนปีที่แล้ว เราอยากให้มีเวลาอภิปรายพอสมควร พี่น้องประชาชนได้รับฟังข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และที่สำคัญปีที่แล้วที่เราอภิปรายข้ามเวลาเที่ยงคืน พี่น้องประชาชนหลายท่านไม่ได้ติดตาม เขาก็บ่นมา เราก็อยากอภิปรายในเวลาที่ประชาชนสามารถรับฟังได้ในเวลาปกติด้วย

เมื่อถามย้ำว่าจะต้องยื่นภายในสัปดาห์หน้าใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เราก็คาดว่าอย่างนั้น และขอหารือในวันที่ 15 ม.ค.อีกครั้ง