Sunday, 6 October 2024
WORLD

‘ทรัมป์’ รอดคดีถอดถอนครั้งที่ 2 I'll be back. สมัยหน้าเจอกัน

อดีตประธานาธิบดี ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ รอดจากการถูกยื่นเรื่องถอดถอนครั้งที่ 2 อย่างหวุดหวิด ด้วยเสียงโหวตในสภาสูง 57 ต่อ 43 แม้จะมีวุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกันถึง 7 คนที่โหวตสวนมติพรรค

การพิจารณาคดีการบุกรุกอาคารรัฐสภาของสหรัฐจากกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 เพื่อสกัดการลงมติรับรองผลการเลือกตั้งใหญ่ของสหรัฐในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 5 คน และบาดเจ็บนับร้อยคน นำไปสู่การชงเรื่องสู่สภาคองเกรซให้พิจารณาถอดถอนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างเร่งด่วน แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งแล้วก็ตาม

นัยยะของการถอดถอนไม่ได้ทำเพื่อเป็นสัญลักษณ์ หรือสร้างความด่างพร้อยกับประวัติชีวิตของทรัมป์ หรือจะพูดตามภาษาชาวบ้านก็คือ เพื่อเอาสะใจอย่างเดียว แต่หากถอดถอนสำเร็จ ก็จะสกัด ไม่ให้ทรัมป์ สามารถลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐได้อีก และยังตามมาด้วยคดีความอีกมากมายที่อาจเอาเขาเข้าคุกได้
 
แต่ทั้งนี้การถอดถอนต้องโหวตผ่านทั้ง 2 สภา ล่างและบน ซึ่งในวุฒิสภาต้องผ่านด้วยเสียงสนับสนุนถึง 2 ใน 3 และการลงคะแนนเสียงของสภาสูงครั้งขาดไป 10 เสียงที่จะถอดถอนทรัมป์ได้
 
หลังจากที่มีมติออกมาเช่นนี้ ทำให้ฝ่ายเดโมแครตไม่พอใจ และยังคงเดินหน้าเปิดประเด็นต่อเพื่อหาช่องทางกฎหมายลงโทษทรัมป์
 
ส่วนโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ออกมาพูดว่า เป็นแค่การล่าแม่มด ไม่เคยมีประธานาธิบดีคนไหนของสหรัฐโดนกระทำแบบนี้ แถมหยอดทิ้งท้ายว่า การมุ่งหน้าสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้งของสหรัฐเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น
 
ก็แสดงว่าชาวสหรัฐอาจจะเห็นทรัมป์ กลับสู่แคมเปญหาเสียงเลือกตั้งอีกครั้งในเร็วๆนี้ อีกไม่นานเกินรอ

‘เหวียน ฝู จ่อง’ บุคคลทรงอิทธิพลทางการเมืองที่สุดในเวียดนาม เข้าสู่ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เป็นสมัยที่ 3 แล้ว ตั้งเป้าเป็นประเทศพัฒนาแล้วอย่างเต็มตัวอีก 24 ปีข้างหน้า (ภายในปี 2588)

คอลัมน์ "เบิ่งข้ามโขง"

สามสมัยเสถียรภาพทางการเมืองเวียดนาม

เหวียน ฝู จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม วัย 76 ปี หนึ่งในผู้นำที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดของประเทศในรอบหลายทศวรรษ ผู้ที่ได้รับการยกเว้นจากกฎระเบียบของพรรคที่กำหนดให้ผู้ที่มีอายุเกินกว่า 65 ปี ควรเกษียณอายุ

จากการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคในกรุงฮานอย ที่ผู้แทนพรรค 1,600 คน จากทั่วประเทศ เพื่อเลือกทีมผู้นำคนใหม่ ในเป้าหมายที่จะสนับสนุนความสำเร็จทางเศรษฐกิจของประเทศและความชอบธรรมของการปกครองของพรรค

…เขา ก็ ได้รับเลือกในสมัยที่สาม หลังได้รับคัดเลือก เขากล่าวว่า

"เวียดนามจะตั้งเป้าที่จะเป็นประเทศพัฒนาแล้วอย่างเต็มตัวภายในปี 2588 และการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง "

เป้าหมายที่สูงลิ่วในช่วงปี 2564 - 2568 นี้ มีขึ้นในขณะที่เวียดนามกำลังรับมือกับการระบาดของโควิด-19 ครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบเกือบ 2 เดือน เครื่องเตือนใจว่าความสำเร็จในอนาคต อย่างน้อยที่สุดในระยะสั้น ขึ้นอยู่กับการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส

แม้จะเกิดการระบาด แต่ในเดือน ม.ค. กิจการในเครือของบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ เทคโนโลยีจากไต้หวัน ได้รับใบอนุญาตการลงทุนมูลค่า 270 ล้านดอลลาร์ในประเทศ ที่บริษัทกำลังย้ายฐานประกอบ iPad และ MacBook จากจีน

ขณะเดียวกันผู้ผลิตชิปสัญชาติอเมริกันอย่างบริษัทอินเทล ระบุว่า ได้เพิ่มการลงทุนในเวียดนามอีก 475 ล้านดอลลาร์ รวมเป็น 1,500 ล้านดอลลาร์

การเติบโตทางเศรษฐกิจร้อยละ 2.9 ในปีก่อน ถือเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับหลายประเทศในโลก แต่สำหรับเวียดนามแล้วนับเป็นปีที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบหลายสิบปี ที่เป็นผลจากมาตรการการกักตัวที่เข้มงวด การปิดพรมแดน และมาตรการการต่อต้านไวรัสต่างๆ

เวียดนาม จะมุ่งเน้นในมาตรการต่าง ๆ ที่จะช่วยเติมเต็มองค์ประกอบของเศรษฐกิจตลาดแบบสังคมนิยม และจัดการความสัมพันธ์ระหว่างรัฐและตลาดและสังคมให้ดียิ่งขึ้น จะขับเคลื่อนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจอย่างต่อเนื่อง ยกเว้นกิจการที่ดำเนินงานในพื้นที่ที่เห็นว่ามีความสำคัญสำหรับความมั่นคงและการป้องกันประเทศ

จะเปลี่ยนความสนใจในด้านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) จากปริมาณไปสู่คุณภาพ โดยมุ่งเน้นในเรื่องความเสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อม หลายสิบปีของการพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศอย่างแข็งแกร่ง ที่ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มธุรกิจที่ต้องการแรงงานมากและไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เวียดนามจะไม่อนุมัติโครงการที่มีเทคโนโลยีล้าสมัย และเสี่ยงก่อมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม


เรื่องโดย: หนุ่มโคราชคลุกคลี กับเมืองลาวทั้งด้านธุรกิจเอกชนและภาครัฐมานานหลายปี ยินดีแนะนําภาคเอกชนไทย บุกตลาดอินโดจีน สรรหาเรื่องเล่า วีถีชีวิต วัฒนธรรม เศรษฐกิจ

รัฐวิสาหกิจไปรษณีย์ลาว มีรัฐบาลโดยกระทรวงการเงินถือหุ้น 100% มาตลอด จะมีการเปิดประมูลซื้อ-ขายหุ้นออกมา 49% ภายในกุมภาพันธ์นี้ นับเป็นการแปรรูปกิจการของภาครัฐ ของสปป.ลาว

คอลัมน์ "เบิ่งข้ามโขง"

12 กุมภาพันธ์ ไม่ใช่แค่เป็นวันตรุษจีน ของชาวเชื้อสายจีนเท่่านั้น แต่ยังเป็นวันสำคัญของ นักลงทุนใน สปป.ลาวด้วย เพราะต้องจับตาว่านักลงทุนเจ้าไหนบ้าง!!!จะยื่นซอง ประมูลซื้อ-ขายหุ้น 49% ของรัฐวิสาหกิจไปรษณีย์ลาว

กำหนดยื่นซองประมูลและเปิดซอง ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 4 อาคาร 2 กรมคุ้มครองวิสาหกิจรัฐลงทุนและการประกันภัย กระทรวงการเงิน บ้านโพนไซ เมืองไซเสดถา นครหลวงเวียงจันทน์

รัฐวิสาหกิจไปรษณีย์ลาว เคยเป็นส่วนหนึ่งของกิจการไปรษณีย์และโทรคมนาคม ซึ่งเริ่มพัฒนาขึ้นตั้งแต่ปี 2518 โดยตั้งเป็นกระทรวงไปรษณีย์โทรคมนาคม และเปลี่ยนเป็นกระทรวงขนส่งไปรษณีย์ในปี 2525

ปี 2529 ลาวได้มีการปรับโครงสร้างหน่วยงานของรัฐ โดยยุบกระทรวงขนส่งไปรษณีย์ กระทรวงก่อสร้าง และกระทรวงคมนาคม รวมเป็นกระทรวงเดียว คือ กระทรวงคมนาคม ขนส่ง ไปรษณีย์ และก่อสร้าง

ปี 2530 มีการปรับโครงสร้างอีกครั้ง โดยจัดตั้งเป็นกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง แยกกิจการไปรษณีย์ออกมาจัดตั้งเป็นบริษัทไปรษณีย์โทรคมนาคม

ปี 2538 ได้แยกกิจการไปรษณีย์และกิจการโทรคมนาคมออกจากกัน โดยกิจการโทรคมนาคมได้ร่วมทุนกับบริษัทชินวัตร อินเตอร์เนชั่นแนล ตั้งเป็นรัฐวิสาหกิจผสมลาวโทรคม ซึ่งปัจจุบันคือ บริษัทลาวโทรคมนาคม เจ้าของเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ Lao GSM

ส่วนกิจการไปรษณีย์ได้ตั้งเป็นบริษัทรัฐวิสาหกิจไปรษณีย์ลาว มีรัฐบาลโดยกระทรวงการเงินถือหุ้น 100% มาตลอด นี่จึงเป็นครั้งแรกที่จะมีการเปิดประมูลขายหุ้นออกมาในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ นับเป็นการแปรรูปกิจการของภาครัฐ ของสปป.ลาว

ภารกิจในปัจจุบัน รัฐวิสาหกิจไปรษณีย์ลาวให้บริการรับส่งจดหมาย พัสดุภัณฑ์ ธนาณัติ และรับชำระค่าบริการสาธารณูปโภค.

จึงน่าสนใจไม่น้อยว่าการแปรรูปครั้งนี้ จะเกิดผลทำให้เศรษฐกิจและกิจการไปรษณีย์ของลาวคล่องตัวมากน้อยแค่ไหน เพราะแม้จะเปิดประมูลแค่ 49 % แต่ก็เชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ และกิจการไปรษณีย์ซึ่งอยู่ในประเภทขนส่ง การแข่งขันในตลาดเสรีนั้นมีความตื่นตัวมาก การปรับตัวครั้งนี้ จึงเป็นก้าวสำคัญของภาคธุรกิจของสปป.ลาว เช่นกัน


เรื่องโดย: หนุ่มโคราชคลุกคลี กับเมืองลาวทั้งด้านธุรกิจเอกชนและภาครัฐมานานหลายปี ยินดีแนะนําภาคเอกชนไทย บุกตลาดอินโดจีน สรรหาเรื่องเล่า วีถีชีวิต วัฒนธรรม เศรษฐกิจ

‘บรูไน’ ค่าครองชีพแพงแซงหน้า ‘ไทย’ ในอาเซียนเป็นรองแค่ ‘สิงคโปร์’ ที่ยังยืนหนึ่ง

คอลัมน์ เสียงจากเกาะบอร์เนียวตอนเหนือ บรูไน

ถ้าหากพูดถึงความหรูหรา ฟู่ฟ่า และประเทศแห่งเจ้าชายหนุ่มหล่อหลายพระองค์ ในอาเซียน คงหนีไม่พ้นประเทศบรูไน หรือที่ชื่อทางการว่า เนอการาบรูไนดารุซซาลาม ประเทศที่เดินไปไหนก็กระทบไหล่กับเจ้าชายได้ง่ายๆ เพราะยังใช้ระบอบการปกครองแบบสมบูรณายาสิทธิราชย์

และด้วยความหรูหรา จากภาพในโลก Social Media ของเหล่าเจ้าหญิงเจ้าชาย และข้อเท็จจริงทางด้านเศรษฐกิจ

ล่าสุดประเทศบรูไน  ได้รับการจัดอันดับจากเว็บไซท์ Numbeo ว่าเป็นประเทศที่มีค่าครองชีพโดยเฉลี่ยแพงเป็นอันดับ 63 ของโลก จากจำนวนประเทศที่สำรวจ +139 ประเทศ แซงหน้าประเทศไทยไปเรียบร้อย ซึ่งไทยเราที่อยู่ในอันดับที่ 65

และในกลุ่มประเทศภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค ก็ได้รับการจัดอันดับเป็นลำดับที่ 19 แต่หากมองเฉพาะกลุ่มประเทศย่านอาเซียนจะกลายเป็นที่สอง รองจากสิงคโปร์เท่านั้น อู้หูวววว ใครคิดจะย้ายไปอยู่บรูไนละก็ ต้องหาเงินถุงเงินถังไปไม่น้อยเลย

ซึ่งการจัดอันดับนี้ วัดจากค่าเฉลี่ยของราคาสินค้า และบริการในแต่ละประเทศทั่วโลก อันดับล่าสุดของปี 2021 ชี้ว่าค่าครองชีพโดยเฉลี่ยของบรูไนสูงเป็นอันดับต้น ๆ ในย่านอาเซียน แต่ยังถูกกว่าค่าครองชีพของสิงคโปร์ สะท้อนให้เห็นว่า ไม่ใช่แค่ค่าครองชีพที่ถูกนะ แต่บริการด้านเศรษฐกิจของเขา ก็มีมาตรฐานเกือบจะเท่าสิงคโปร์เลยทีเดียว

จะว่าไปนอกจากเจ้าชายและภาพแห่งความหรูหราฟู่ฟ่า  จากประเทศบรูไนแล้ว ผู้เขียนและเชื่อว่าอีกหลายคนก็ไม่ค่อยได้เห็นว่าวิถีของชาวบรูไนเป็นอย่างไร อาจจะด้วยระบอบการปกครอง หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ไม่ว่าอย่างไร เมื่อโลกใบนี้ มีเครื่องมือสื่อสาร การเดินทางที่สะดวกสบาย สายสัมพันธ์ของผู้คนและวัฒนธรรม ก็เชื่อได้ว่า  การที่เราจะรู้จัก เข้าอกเข้าใจกัน ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป


อะมีนะห์

สาวไทยมุสลิม เกิดใจกลางกรุงเทพ ชีวิตผกผันแต่งงานกับหนุ่มบรูไน ตั้งรกรากปากกัดตีนถีบแต่มีความสุขดี ยังชีพกับการเผยแพร่อาหารไทย มีความรักผูกพันบ้านเกิดทุกลมหายใจ เลี้ยงลูกสองคน วันนึงจะพาลูกมารู้จักแผ่นดินที่เเม่เกิดให้มากขึ้น แนะนำเพื่อนบ้านบรูไนจากกรุงเสรีเบการ์วันให้คนไทยรู้จักมากขึ้น

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ในวันจันทร์ ขู่คว่ำบาตรพม่ารอบใหม่ หลังกองทัพก่อรัฐประหารยึดอำนาจและจับกุมเหล่าผู้นำรัฐบาลพลเรือน ในนั้นรวมถึงนางอองซานซูจี เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ

ไบเดน กล่าวโจมตีกองทัพพม่าต่อการทำรัฐประหาร เรียกมันว่าเป็นการจู่โจมโดยตรงต่อกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตย และหลักนิติรัฐของประเทศ หลังจากก่อนหน้านี้เหตุรัฐประหารในเมียนมาเรียกเสียงประณามดังกึกก้องในระดับสากล

“สหรัฐฯ ปลดมาตรการคว่ำบาตรพม่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา บนพื้นฐานของความคืบหน้าสู่ประชาธิปไตย” ไบเดนระบุในถ้อยแถลง “การก้าวถอยหลังของกระบวนการดังกล่าวทำให้เป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องทบทวนกฎหมายและอำนาจคว่ำบาตรของเราในทันที ตามด้วยการดำเนินการอย่างเหมาะสม สหรัฐฯ จะยืนหยัดเพื่อประชาธิปไตย เมื่อว่าที่ไหนก็ตามที่มันถูกโจมตี”

ขณะเดียวกัน ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภสหรัฐฯ เปิดเผยในวันจันทร์ (1 ก.พ.) ว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีไบเดน เตรียมให้ข้อมูลสรุปแก่สภาคองเกรส ตามหลังข่าวคราวอันปั่นป่วนอย่างมากเกี่ยวกับเหตุรัฐประหารในพม่า และบอกว่าสภาคองเกรสพร้อมทำงานกับรัฐบาลในการคลี่คลายสถานการณ์

“ผมหวังว่าเราสามารถทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ในแบบร่วมมือกันทั้งสองพรรค เพื่อสรุปมาตรการที่ดีที่สุดสำหรับผลประโยชน์ของอเมริกาและเพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวพม่า” ชูเมอร์กล่าวระหว่างเปิดประชุมวุฒิสภา

พม่าอยู่ภายใต้โครงการส่งเสริมประชาธิปไตยของตะวันตกมานานหลายทศวรรษและเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จบางประการ อย่างไรก็ตาม ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมามีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการก้าวถอยหลังสู่ระบอบเผด็จการ ขณะเดียวกันก็มีความผิดหวังใหญ่หลวงต่อตัวของนางอองซานซูจี อดีตผู้นำฝ่ายค้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เธอไม่ยอมขัดขวางห้ามปรามกองทัพปราบปรามชาวมุสลิมโรฮิงญาทางตะวันตกของประเทศ

ทั้งนี้ พม่ากำลังหลุดพ้นการปกครองโดยทหารที่เข้มงวดนานหลายทศวรรษ และถูกนานาชาติโดดเดี่ยวที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 1962 แต่เหตุการณ์เมื่อวันจันทร์ (1 ก.พ.) ถือเป็นการร่วงจากอำนาจอันสุดช็อกของอองซานซูจี ที่เคยคว้ารางวัลโนเบลสันติภาพในปี 1991 ต่อกรณีที่เธออุทิศตัวส่งเสริมประชาธิปไตยและมนุษยชน

อองซานซูจี อยู่ภายใต้คำสั่งกักบริเวณอยู่แต่ในบ้านพักมานานหลายปี ในขณะที่เธอพยายามผลักดันประเทศของเธอมุ่งหน้าสู่ประชาธิปไตย จากนั้นก็กลายเป็นผู้นำโดยพฤตินัยของพม่า หลังจากพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งปี 2015

สำหรับการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ถือเป็นการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยครั้งที่ 2 ของพม่า นับจากที่ประเทศนี้หลุดพ้นจากการปกครองของทหารอย่างยาวนานถึง 49 ปีในปี 2011

เอ็นแอลดีชนะการเลือกตั้งครั้งล่าสุดด้วยคะแนนเสียงกว่า 80% มากกว่าการเลือกตั้งครั้งแรกเมื่อสิบปีที่แล้ว

ทว่า ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านา กองทัพออกมาโวยว่ามีความผิดปกติหลายอย่างในการเลือกตั้ง รวมทั้งยังอ้างว่ามีการโกงคะแนนกว่า 10 ล้านคะแนน


ที่มา: https://mgronline.com/around/detail/9640000010262

เรื่องเล่าของหนึ่งในบุคลากรทางการแพทย์ไทย ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด – 19 ของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค เธอเป็นสาวไทยที่ใช้ชีวิตที่ประเทศฟินแลนด์ มาเปิดเผยเรื่องราวหลังการฉีดวัคซีน และเล่าถึงบรรยากาศประเทศฟินแลนด์กับมาตรการป้องกันโควิด -19

เรื่องเล่าของหนึ่งในบุคลากรทางการแพทย์ไทย ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด – 19 ของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค เธอเป็นสาวไทยที่ใช้ชีวิตที่ประเทศฟินแลนด์ มาเปิดเผยเรื่องราวหลังการฉีดวัคซีน และเล่าถึงบรรยากาศประเทศฟินแลนด์กับมาตรการป้องกันโควิด -19

ดิฉันเป็นคนไทย ทำงานอยู่ที่เมืองโปริ ประเทศฟินแลนด์ ด้วยอาชีพคือเป็น Nursing home มีหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุตามบ้าน ซึ่งก็จัดว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดโควิด – 19 อยู่พอสมควร ทำให้ทางการจัดให้เป็นกลุ่มบุคคลกลุ่มแรกๆ ที่ได้สิทธิ์รับวัคซีนป้องกันโควิด – 19 แต่ทางต้นสังกัดของดิฉันก็ไม่ได้บังคับว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนจะต้องฉีดแต่อย่างใด . ก่อนเข้ารับการฉีดวัคซัน ดิฉันตัดสินใจอยู่นานพอสมควร เพราะกลัวผลข้างเคียงที่จะตามมาหลังจากที่ฉีดไปแล้ว เพื่อน ๆ ร่วมงานหลายคนก็มีความวิตกเช่นเดียวกัน เพราะอย่างที่ติดตามข่าวกันมาตลอด วัคซีนต่าง ๆ ที่มีในตอนนี้ ใช้ระยะเวลาในการวิจัยไม่นาน แต่สุดท้ายตนเองก็ตัดสินใจเข้ารับการฉีด เพราะคิดว่าเป็นการป้องกันในเบื้องต้น และส่วนตัวก็เข้ารับการฉีดวัควีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำอยู่แล้ว

วัคซีนที่ใช้ฉีดคือ วัคซีนไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค ระหว่างที่ฉีดรู้สึกหนักและหน่วงแขนเหมือนการฉีดยาทั่วไป แต่หลังจากฉีดเสร็จ เจ้าหน้าที่ให้นั่งพัก 15 นาที เพื่อรอดูอาการข้างเคียง ผลปรากฎว่า ไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างใดค่ะ . หลังจากที่ฉีดเข็มแรกจนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ ตามมา ส่วนตัวก็หวังว่าจะไม่เกิดความปกติใด ๆ เกิดขึ้น แม้ว่าที่ฟินแลนด์จะเคยมีข่าวว่า มีผู้เสียชีวิตจากการรับวัคซีนมาแล้วถึง 3 ราย แต่ผู้ที่เสียชีวิตโดยรวมก็เป็นคนสูงอายุและมีโรคประจำตัว

ดิฉันค่อนข้างเคร่งครัดเรื่องความปลอดภัยอย่างมาก แม้จะไม่ได้ทำงานที่โรงพยาบาลเป็นหลัก แต่ก็มีบางครั้งที่ต้องไปโรงพยาบาลกับคนไข้ที่ดูแลบ้าง เราจึงมีการป้องกันอย่างเต็มที่ ซึ่งที่นี่ หากคนไข้มีประวัติเคยเดินทางไปโรงพยาบาลมาก่อน เวลากลับบ้านจะต้องกักตัวเป็นเวลาอย่างน้อย 3 วันอีก

อย่างที่บอกไป ถึงตอนนี้สถานการณ์ทุกอย่างยังเป็นปกติดี และกำลังรอระยะเวลาการฉีดวัคซีนเข็มที่สอง ซึ่งเราก็ขอให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีค่ะ...

ฝรั่งเศสเตรียมปิดพรมแดน ห้ามผู้ที่เดินทางมาจากประเทศนอกสหภาพยุโรปเข้าฝรั่งเศส ตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค.นี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19

นายฌอง กัสเต็กซ์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ออกมาประกาศเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ฝรั่งเศสจะปิดพรมแดน ห้ามผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่อยู่นอกสหภาพยุโรปเข้าฝรั่งเศส เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมาตรการนี้จะเริ่มใช้บังคับตั้งแต่วันอาทิตย์นี้ (31 ม.ค.) เป็นต้นไป และผู้ที่เดินทางมาจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ทุกคนจะต้องมีหลักฐานการตรวจโควิด-19 ที่มีผลเป็นลบด้วย

นอกจากนี้ยังจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มการตรวจจับผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว วันละ 12 ชั่วโมง และผู้ที่รวมกลุ่มกันจัดงานปาร์ตี้ รวมทั้งเจ้าของภัตตาคารที่เปิดบริการ อันเป็นการท้าทายคำสั่งของทางการด้วย


ที่มา : https://tna.mcot.net/world-627725

รัฐโรบินฮู้ด ‘ปล้นคนรวย มาช่วยคนจน’ อาร์เจนตินาเก็บ ‘ภาษีมหาเศรษฐี’ ดึงช่วยคนเดือดร้อนจากโควิด เกณฑ์รวยเกิน 68.69 ล้านบาท โดน!! เบื้องต้นพบเข้าข่าย 12,000 จากประชากร 44 ล้านคน

ทางการอาร์เจนตินาเริ่มบังคับใช้มาตรการจัดเก็บภาษีแบบครั้งเดียวที่เรียกว่า ‘ภาษีมหาเศรษฐี’ จากกลุ่มคนที่มีฐานะมั่งคั่ง เพื่อนำเงินมาจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์และช่วยเหลือภาคธุรกิจขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 รวมถึงเป็นทุนการศึกษาและจัดหาอุปกรณ์บรรเทาทุกข์ให้ประชาชน

มาตรการนี้ใช้กับบุคคลที่มีทรัพย์สินตั้งแต่ 200 ล้านเปโซ หรือ 68.69 ล้านบาท ต้องจ่ายภาษี 3.5% ของทรัพย์สินที่อยู่ในประเทศ และ 5.25% ของทรัพย์สินที่อยู่ต่างประเทศ ซึ่งมีบุคคลเข้าข่ายราว 12,000 คนจากประชากรทั้งหมด 44 ล้านคน

รัฐบาลของประธานาธิบดี อัลแบร์โต แฟร์นานเดซ คาดว่าจะได้เงินราว 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 89,601 ล้านบาท

มาตรการดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากสภาเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้วด้วยคะแนนเสียง 42 ต่อ 26 ทว่ามีเสียงคัดค้านจากฝ่ายค้านว่ามาตรการนี้เสมือนเป็นการยึดทรัพย์คนรวย และยังมีความกังวลจากสมาคมชนบทอาร์เจนตินาซึ่งเป็นปากเสียงของเกษตรกรในประเทศว่ามาตรการนี้อาจนำมาใช้แบบถาวร

ทั้งนี้ กว่า 40% ของประชากรอาร์เจนตินาอยู่ใต้เส้นแบ่งความยากจน คือมีรายได้วันละ 1.90 เหรียญสหรัฐ หรือ 56.75 บาท ขณะที่อัตราการว่างงานอยู่ที่ 11


ที่มา : https://www.posttoday.com/world/644042

เห็นใจประชาชน แต่เข้าใจคนบริหาร!! ชาวอังกฤษ เซ็งจัด!! กลับจากประเทศ 'บัญชีแดง' เข้า UK เมื่อไร…มีจน!! หลัง นายกฯ UK สั่งกักตัวในโรงแรมที่รัฐจัดให้ แต่ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ‘ออกเอง’

เรียกว่าเป็นอีกมาตรการใหม่ของรัฐบาลอังกฤษที่ค่อนข้างเข้ม หลังจากใครก็ตามที่กลับจากประเทศ 'บัญชีแดง' มาเข้าสหราชอาณาจักร จะต้องกักตัวในโรงแรมที่รัฐจัดให้ โดยที่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะต้องจัดการด้วตัวเอง เพื่อหวังป้องกันไม่ให้สายพันธุ์ COVID-19 ที่กลายพันธุ์ใหม่เข้ามายังสหราชอาณาจักร
นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เผยว่า ภายใต้กฎการเดินทางออกนอกประเทศของอังกฤษปัจจุบัน “การเดินทางไปต่างประเทศเพื่อการพักผ่อน” ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
เขากล่าวว่ารัฐบาลจะ “บังคับกฎนี้ ณ ท่าเรือ และสนามบินโดยจะมีการสอบถามผู้เดินทางว่า ทำไมพวกเขาถึงต้องเดินทางและจะให้พวกเขากลับบ้านหากไม่มีเหตุผลที่ถูกต้องในการเดินทาง”
นายจอห์นสัน บอกกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่ารัฐบาลได้สั่งห้ามผู้เดินทางเข้าประเทศจากประเทศ ที่มีความเสี่ยง จากเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ เช่น จาก แอฟริกาใต้, โปรตุเกส และ ประเทศในอเมริกาใต้
“เพื่อลดความเสี่ยงจากชาวสหราชอาณาจักร และผู้ที่มีถิ่นฐานอยู่ในสหราชอาณาจักร เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ เราจะออกกฎให้ผู้โดยสารขาเข้าดังกล่าวทั้งหมดไม่สามารถปฏิเสธการเข้าพักในโรงแรมกักตัวที่พักที่รัฐบาลจัดให้ เช่น โรงแรมกักตัวเป็นเวลา 10 วันโดยไม่มีข้อยกเว้น” บอริส จอร์สัน นายกรัฐมนตรีกล่าว
“พวกที่เดินทางเข้ามายังสหราชอาณาจักรจากประเทศกลุ่มเสี่ยง จะถูกรับตัวจากที่สนามบินและถูกส่งเข้าที่พักหรือโรงแรมกักกันโดยตรง”
นายจอห์นสัน กล่าวว่า กรมอนามัยและการดูแลสังคม กำลังดำเนินการ เรื่องสถานที่กักตัว “โดยเร็วที่สุด”
30 ประเทศที่อยู่ใน “รายชื่อสีแดง” รวมถึงประเทศทั้งหมดในอเมริกาใต้ เช่นเดียวกับ ส่วนใหญ่ของ แอฟริกาตอนใต้ และ ประเทศโปรตุเกส
พริติ พาเทล รมต มหาดไทย เผยแผนการกำหนดมาตรการใหม่ต่อสภาฯ โดยแถลงกับ ส.ส. ว่า “มีคนเข้าออกประเทศในขณะนี้มากเกินไปในแต่ละวัน”
เธอกล่าวว่ามาตรการต่อไปมีจุดประสงค์เพื่อลด “การเข้ามาของผู้โดยสาร เพื่อให้มีผู้คนจำนวนน้อยเท่าที่จำเป็นที่ต้องเดินทางเท่านั้น ที่ทำเช่นนั้นเพื่อลดความเสี่ยงในแผนงานการฉีดวัคซีนป้องกันของเรา”
พริติ ยังเสริมต่อว่า “การไปเที่ยวพักผ่อนไม่ใช่เหตุผลที่ถูกต้อง” โดยเพิกเฉยต่อคำสั่งการให้อยู่บ้านในปัจจุบัน
“เราจะแนะนำข้อกำหนดใหม่เพื่อให้ผู้ที่ต้องการเดินทางต้องให้ข้อมูลก่อนว่าทำไมถึงต้องเดินทาง” พริติ กล่าวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
“เหตุผลในการเดินทางนี้จะได้รับการตรวจสอบโดยสายการบินก่อนออกเดินทาง และแนวทางนี้สะท้อนให้เห็นถึงการตรวจสอบผู้โดยสารขาเข้าที่มีอยู่แล้วในแบบฟอร์มระบุสถานที่ของผู้โดยสาร”
เป็นที่เข้าใจกันว่าผู้เดินทางจากประเทศ “บัญชีแดง” จะต้องจ่ายเงินเองเพื่อกักตัวในโรงแรมที่จะถูกตรวจสอบโดยมีการตรวจโควิด-19 ระหว่างการเข้าพัก
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้รับการคาดการณ์อย่างกว้างขวางในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาโดยนักวิจารณ์ระบุว่ารัฐบาลควรดำเนินการที่เข้มงวดขึ้นอย่างรวดเร็วกว่านี้
พวกเขาได้ชี้ให้เห็นถึงตัวอย่างของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งมีการกักตัวอย่างถูกต้อง ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์แรกของการระบาดและได้กำจัดการแพร่กระจายของไวรัสภายในประเทศได้อย่างดี
รายงานในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมามีการแสดงความคิดเห็นโต้แย้งกันในรัฐบาลว่าควรมีขอบเขตในการกักตัวที่หลากหลายเพียงใด
มีการเสนอจากรัฐมนตรีบางคนว่าการกักตัวควรบังคับใช้กับผู้โดยสารขาเข้าจากทุกประเทศ ในขณะที่คนอื่นๆ สนับสนุนให้มีการกำหนดเป้าหมายไปยังบางประเทศที่ถือว่ามีความเสี่ยงมากกว่า
Nick Thomas-Symonds รมต เงา กท มหาดไทย พรรคแรงงาน กล่าวว่าแผนการกักตัวในโรงแรมมี “จำกัด เกินไป”
“การกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 เพิ่มความเสี่ยง ที่จะทำลายประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกัน ซึ่งจะคุกคามชีวิตและความหวัง” เขากล่าวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
“เราไม่สามารถรู้ได้ว่าการกลายพันธุ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นจากที่ใดต่อไปและความจริงก็คือรัฐบาลจะต้องรับมือกับมัน
“พรรคแรงงานเรียกร้องให้มีการกักตัวในโรงแรมอย่างครอบคลุม และบอกว่าการประกาศในวันนี้มีการ จำกัด เกินไปทำให้มีช่องว่างมากในการป้องกันการแพร่เชื้อจากสายพันธุ์ที่เกิดขึ้นใหม่
“เรารู้ว่าสายพันธุ์ที่เกิดขึ้นในแอฟริกาใต้ และ บราซิล ได้มาถึงชายฝั่งเหล่านี้แล้ว ไม่น่าแปลกใจเลยที่การควบคุมต่างๆ มีความหละหลวมมาก”



ที่มา:
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=3776455979060052&id=178210772217942
https://news.sky.com/story/covid-19-uk-to-introduce-mandatory-hotel-quarantine-for-travellers-from-red-list-countries-12200338?fbclid=IwAR3RXbqn4sx9wrcCHghw4VqXsY-0A8Dt5-aHwbAeRV3TZWhtJcDb1n_uhZk

แหล่งข่าวในประเทศอิสราเอล ได้มีการรายงานผลของวัคซีนไฟเซอร์ล่าสุด ซึ่งมีผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

โดยหลังจากใช้งานจริง ด้วยการฉีดวัคซีนไฟเซอร์แก่กลุ่มเป้าหมายในประเทศเป็นเวลา 7-16 วัน จำนวน 2 เข็ม พบประสิทธิภาพในการป้องกันได้ผลถึง 92%

ทั้งนี้จำนวนประชากรชาวอิสราเอล ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ไปแล้วราว 50% ของประชากรเป้าหมาย โดยผลลัพธ์พบว่า มีคนติดเชื้อ 31ใน163,000คน ในกลุ่มประชากรของHMOแมกกาบี้ (เหมือนผู้ประกันตน)

ซึ่งเทียบกับประชากรในจำนวนที่ใกล้เคียงกัน ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน จะมีจำนวนติดเชื้อถึง 6,500 คนกันเลยทีเดียว

ยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่ได้รับวัคซีน แล้วติดเชื้อ หรือมีอาการข้างเคียงก็น้อยมาก ในระดับที่ไม่ต้องเตรียมโรงพยาบาลไว้รับมืออาการข้างเคียงแต่อย่างใด

แม้ผลลัพธ์ของการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในครั้งนี้จะเป็นไปในทางที่ดี แต่ก็ยังต้องดูผลระยะยาว และรวมถึงอัตราการแพร่เชื้อในประเทศอีกด้วย


ที่มา:

https://www.timesofisrael.com/vaccine-found-92-effective-in-israel-in-first-controlled-result-outside-trials/


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top