Tuesday, 8 July 2025
POLITICS

‘น้ำเงินรวมส้ม’ ส่ง ‘อนุทิน’ ขึ้นนั่งเก้าอี้นายกฯ หลากห้องไลน์ประสานเสียงสวนฉับ “เพ้อ!!”

“ดีลพลิกฝ่ายอนุรักษ์ตื่น ขืนรบดะทั้งส้ม-แดง มีแต่เจ๊งลูกเดียว จับตาอนุทินขึ้นแป้นนายกฯ !!!

สภาพดีลใหญ่พลิก และมีทีท่าว่าฝ่ายอนุรักษ์ไม่สามารถประสาน หรือเดินคู่ไปกับพรรคเพื่อไทยได้อีกแล้ว

ให้จับตาดูเศรษฐาถูกสอยวันที่ 10 กรกฎาคม จากนั้นดันอนุทินขึ้นเป็นนายกฯ จับมือก้าวไกล ฟื้นประชาธิปไตย ฟื้นเศรษฐกิจและความสุจริตในการปกครองประเทศ ก้าวข้ามความขัดแย้งนิรโทษกรรมทุกฝ่ายเดินหน้าประเทศไทย..”

คัดลอกให้อ่านเต็ม ๆ ทั้งดุ้นจากเฟซบุ๊กของ ‘PaIsal Puechmongkol’ หรือ ‘ไพศาล พืชมงคล’ เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2567 ที่ผ่านมา ระดับบุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘กูรู’ โพสต์อย่างนี้มีหรือจะรอดจากสายตาสื่อมวลชนยุคดิจิทัล ฉกไปลงข่าวพาดหัวกันแบบง่ายดายแทบทุกสำนัก...ยอดวิวกระฉอกกระฉูดไปตาม ๆ กัน..แค่เห็นหัวข่าว ‘คดีพลิก’ / ‘พลิกดีล’ / ‘น้ำเงินจับมือส้ม’ ฯลฯ ก็ทำเอาตาวาวแล้ว…

ไพศาลนั้นเป็นนักกฎหมาย เจ้าของสำนักธรรมนิติ เป็นคอลัมนิสต์ 2-3 นามปากกาดัง ไม่เสียมารยาทมากก็เปิดนามปากกา ‘สิริอัญญา’ สักชื่อหนึ่งเพราะเป็นที่รู้ ๆ กันทั่วไป และยังเป็นอุปนายกของสภาวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทยจีน เป็นคนที่รอบรู้เรื่องจีนแบบทะลุกำแพงเมืองจีน

ในทางการเมืองหลังสุดเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกฯ ที่ชื่อ ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก่อนหน้านั้นเคยเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ปี 2549-2551 ในช่วงก.ย. 2549 ตอน ‘บิ๊กบัง’ ทำรัฐประหาร 19 ก.ย. เคยถูกเรียกไปช่วยเขียนแถลงการณ์อยู่หลายฉบับ…

การวิเคราะห์กึ่งฟันธงของไพศาลเรื่องอนุทินจะได้ขึ้นนายกฯ เศรษฐาจะถูกสอยร่วง ฝ่ายอนุรักษ์จะเลิกใช้บริการพรรคเพื่อไทยแล้ว...อนาคตภูมิใจไทยจะจับมือกับก้าวไกล หนุนอนุทินเป็นนายกฯ นั้น ‘เล็ก เลียบด่วน’ เห็นว่าไพศาลจับประเด็นได้โดนใจ แต่ในส่วนของความเป็นไปได้ ต้องขอฟันธงกลับว่า...ยากส์ส์ส์ส์...จะไม่เกิดขึ้นอย่างน้อยก็ในสมัยหน้าและอาจตลอดไป ตราบใดที่พรรคส้มยังไม่สลัดหลุดจากภาพลักษณ์ล้มเจ้า...

แค่นี้ทำไมกูรูไพศาลถึงไม่ตงิดในเรื่องนี้?

ในฐานะเป็นคนวิเคราะห์ข่าวเล็ก ๆ คนหนึ่ง รู้ดีว่าการคาดหมายในสิ่งที่จะเป็นจริง ๆ กับที่เราอยากจะให้เป็นนั้น บางครั้งมันแยกกันยากมาก...พักหลังกูรูไพศาลยึดในสิ่งที่อยากจะให้เป็นมากไปหน่อยเลยผิดพลาดบ่อยครั้ง…

กรณีนี้ครั้งนี้ในห้องไลน์กลุ่มสำคัญหลายห้องเขาพาดพิงกูรูไพศาลว่า “เพ้อ” ไม่มีใครช่วยแก้ให้เลย..!!

สรุป ‘เล็ก เลียบด่วน’ ก็เคยวิเคราะห์ว่าฝ่ายอนุรักษ์ที่ผูกติดดีลกับเพื่อไทยนั้นเหนื่อยรากเลือด...แต่ก็ยังดีกว่าที่จะไปผูกพรรคส้มที่มีภาพลักษณ์ล้มเจ้า…ดุลอำนาจพรรคสีน้ำเงินตอนนี้สูงมาก แต่อนุทินมีโอกาสในอนาคต โดยไม่ต้องใช้บริการพรรคส้ม…

ขอแถมท้าย…ส่วนเรื่อง สว.สีน้ำเงินนั้น ข่าวล่าสุดระบุว่าจะประกาศรับรองผลสัปดาห์หน้า ให้ไปรายงานตัววันที่ 7 ก.ค. ว่าที่ประธานวุฒิสภา หรือประมุขสภาสูงคนใหม่ ขอขานชื่อแปะไว้ตรงนี้ เต็งหนึ่ง ชื่อมงคล สุระสัจจะ อดีตอธิบดีกรมการปกครอง/อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เคยเป็นนกต่อสู้ หลบภัยไปอยู่กับ พคท. ช่วงสั้น ๆ หลังเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519

ส่วน เต็งสอง ชื่อพล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ อดีตผช.ผบ.ทบ.

‘ผู้กำกับ 2475 Dawn of Revolution’ เผย อยากให้ก้าวไกล-เพื่อไทยจัดต่อรัฐบาล หากรวมเสียงข้างมากได้

📢ถามมา-ตอบไปกับ ‘วิวัธน์ จิโรจน์กุล’ ผู้กำกับภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชัน ‘2475 Dawn of Revolution รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ’

🎤: ลึก ๆ ในใจไม่อยากให้ก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ?

🎥คุณวิวัธน์: ส่วนตัวผมอยากให้ก้าวไกลกับเพื่อไทยรวมรัฐบาลกันได้ด้วยซ้ำ ผมไม่มีปัญหาอะไร ถ้าพรรคก้าวไกลรวมเสียงข้างมากในสภาได้ ก็ต้องได้เป็นรัฐบาล เพราะเสียงประชาชนส่วนใหญ่เลือกมาแบบนั้น แต่ผมก็รู้ว่า ‘พรรคเพื่อไทย’ เขามีทางเลือก ถ้าเขารวมกับก้าวไกล เขาก็เป็นผู้ตาม ได้แค่กระทรวงรอง ๆ แต่ถ้าเขาตั้งรัฐบาลเอง เขาก็จะเป็นผู้นำ และได้กระทรวงหลัก ๆ จริงไหมครับ 

และที่สำคัญ พรรคก้าวไกลเกือบได้เป็นรัฐบาลแล้วนะ เพราะพรรคภูมิใจไทยพร้อมจะยกมือให้ ขอแค่ถอยเรื่อง แก้ไข ม.112 นั่นคือ เงื่อนไข สว.จะไม่มีผลเลย เพราะเสียงคุณมากพอที่จะชนะในสภา 

แต่ พรรคก้าวไกลกลับดึงดันที่จะแก้ไข ม.112 ทั้ง ๆ ที่คนที่เลือกก้าวไกล ไม่ได้มีคนเลือกเพราะนโยบาย ม.112 เท่านั้น แต่ยังมีนโยบายเงินเดือนผู้สูงอายุ นโยบายแรงงานอื่น ๆ เมื่อพรรคก้าวไกลบอกว่าจะไม่ทรยศอุดมการณ์ ไม่ล้มเลิกแก้ ม.112 ผมว่าไม่เมกเซนส์เท่าไหร่ เพราะการแก้ ม.112 เนี่ย ได้ประโยชน์กันไม่กี่คนเองนะครับ คือถ้าผมเป็นพิธา ผมจะบอกฐานเสียงว่า… 

"การแก้ ม.112 เป็นอุปสรรคในการนำพานโยบายเพื่อประชาชนอื่น ๆ ไปทำให้เกิดผล ดังนั้น ผมจะขอถอยเรื่องแก้ ม.112 ไปก่อน เพื่อให้เราได้มีโอกาสในการบริหารบ้านเมือง เพราะยังมีปัญหาอีกหลายอย่างที่ประชาชนรอไม่ได้ ส่วนเรื่องความขัดแย้ง และนักโทษคดีการเมือง ผมขอให้คำมั่นว่า ผมจะหาทางใช้กลไกสภาในการเยียวยาแก้ไข" 

เท่านี้คุณก็หล่อ ฐานเสียงเข้าใจได้ เพราะเขาต้องมองว่า อย่างน้อยได้อำนาจมาก่อน อย่างอื่นไว้ขับเคลื่อนทีหลังได้ แต่คุณเลือกที่จะไม่ยอมไง พอคุณไม่ยอม เพื่อไทยเขาก็อ้างความชอบธรรมที่จะตั้งรัฐบาลแข่งได้เลย 

ทำให้ผมมองว่า จริง ๆ แล้วก้าวไกลไม่อยากเป็นรัฐบาลในตอนนี้รึเปล่า เลยออกมามุมนี้

‘ผู้กำกับ 2475 Dawn of Revolution’ เผยมุมมองต่อประโยค ‘พรรคก้าวไกล สร้างการเปลี่ยนแปลงให้การเมืองไทย’

📢ถามมา-ตอบไปกับ ‘วิวัธน์ จิโรจน์กุล’ ผู้กำกับภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชัน ‘2475 Dawn of Revolution รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ’

🎤: คิดเห็นอย่างไรที่คนรุ่นใหม่ชอบ ‘ก้าวไกล’ และมองเป็นพรรคที่ทำให้การเมืองไทยเปลี่ยนแปลงไปแล้ว?

🎥คุณวิวัธน์: เปลี่ยนแปลงเหรอ ผมยังไม่เห็นว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงเลย พรรคก้าวไกลเองก็ไม่ได้ทำการเมืองใหม่ ถ้าพรรคก้าวไกลบอกว่าเป็นความหวังใหม่ กล้าชนทุกอย่าง แต่ทำไมจึงไม่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างที่ควรจะเป็น 

แม้กระทั่งธนาธรเองก็บอกว่า “เพื่อไทยเป็นมิตร” และบอกออกสื่อฯ ว่า จำเป็นต้องจับมือเพื่อไทยในครั้งหน้า เพราะเหตุนี้หรือเปล่า พรรคก้าวไกลจึงไม่คัดค้านเรื่องข้าว 10 ปี ยอมปล่อยผ่าน มองข้ามความเสียหายของประเทศ และผลกระทบต่อประชาชน เพื่อหวังผลประโยชน์ของในการร่วมรัฐบาลครั้งต่อไปใช่หรือไม่ ถ้าเป็นแบบนี้ คุณจะเรียกการเมืองใหม่ได้เหรอ ผมว่าไม่นะ

'อ.อุ๋ย-ปชป.' หวัง!! 'ลุงชาญ' แสดงสปิริต หยุดปฏิบัติหน้าที่  ชี้!! ไม่ต้องรอให้ใครสั่ง ยก 'อภิรักษ์' เป็นตัวอย่าง

(3 ก.ค.67) จากการเลือกตั้งนายก อบจ. ปทุมธานี เมื่อ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งผลปรากฏว่า นายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย เป็นฝ่ายชนะ แต่ต่อมาความปรากฎขึ้นว่า นายชาญ เคยถูก ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดเกี่ยวกับการจัดซื้อถุงยังชีพในปี 2555 และศาลอาญาคดีทุจริตได้ประทับรับฟ้องแล้ว ทำให้มีข้อถกเถียงว่า นายชาญ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 และมาตรา 93 หรือไม่ นั้น

นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย หรือ อาจารย์อุ๋ย นักวิชาการด้านกฎหมายและอดีตผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขตบางกะปิ พรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงความเห็นว่า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ประกอบมาตรา 93 กำหนดให้ ผู้ดำรงตำแหน่งต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที โดยไม่ต้องรอคำสั่งจากหน่วยงานใด ๆ อีก เพราะเป็นไปโดยผลของกฎหมาย ซึ่งมีเจตนารมณ์คือหากท้ายสุดแล้วศาลพิพากษาว่าผู้นั้นกระทำความผิด ก็จะทำให้ผู้นั้นหมดสิทธิ์ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งหรือเข้าดำรงตำแหน่งนั้นอีกต่อไป จึงต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายใด ๆ จากการใช้อำนาจหน้าที่ในภายหลัง ไม่ว่าจะเป็นการออกคำสั่งแต่งตั้งบุคคลต่าง ๆ หรืออนุมัติการใช้งบประมาณ ซึ่งจะมีปัญหาความชอบด้วยกฎหมายของการกระทำเหล่านั้นในภายหลัง และป้องกันมิให้ผู้นั้นใช้ตำแหน่งหน้าที่เข้าไปสั่งการใด ๆ เพื่อยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

ดังนั้น ไม่ว่าผู้ถูกกล่าวหาจะพ้นจากตำแหน่งไปแล้วและได้รับเลือกตั้งกลับมาดำรงตำแหน่งเดิมอีกในวาระใหม่ ก็ไม่ได้ทำให้ผลของกฎหมายเปลี่ยนแปลงไป ผู้ถูกกล่าวหาจึงยังต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามผลของกฎหมาย โดยไม่ต้องรอการสั่งการใด ๆ อีก

"ระหว่างที่ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ ผมอยากให้ลุงชาญ แสดงสปิริต แถลงข่าวยุติการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสมัครใจ โดยไม่ต้องรอให้สังคมและภาคส่วนต่าง ๆ กดดันไปมากกว่านี้ เพื่อให้กฎหมายได้ดำเนินไปตามครรลองแห่งความยุติธรรม เพื่อสร้างจิตสำนึกและสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับการเมืองท้องถิ่น เหมือนอย่างเช่นที่ ท่านอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่า กทม. จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้เคยสปิริตลาออกจากตำแหน่ง ทั้งที่ได้รับเลือกตั้งมาเป็นสมัยที่สอง หลังจากที่ถูก ปปช. ชี้มูลความผิดกรณีจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิง โดยที่ยังไม่ได้ยื่นฟ้องศาลเลย และไม่มีกฎหมายกำหนดให้ท่านต้องลาออก และสุดท้ายศาลก็ตัดสินว่าท่านบริสุทธิ์ และรักษาผลประโยชน์ให้ กทม. ได้ถึง 250 ล้านบาท ครับ ด้วยความปรารถนาดี" นายประพฤติ ระบุ

'คำผกา' โต้!! 'ด้อมส้ม' หยุดสร้างวาทกรรมติดคุกยุคเพื่อไทย ชี้!! เคยได้ประกันตัวแล้ว แต่ก็ยังทำผิดเงื่อนไขกันเอง

(3 ก.ค.67) นางสาวลักขณา ปันวิชัย หรือ แขก คำผกา กองเชียร์พรรคเพื่อไทย อดีตผู้ดำเนินรายการสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี (VOICE TV) ปัจจุบัน เป็นผู้ดำเนิน รายการคุยคลายข่าว ออกอากาศผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) กรมประชาสัมพันธ์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า…

สร้างวาทกรรมภาพจำเหมารวมว่า ใครต่อใครติดคุกในรัฐบาลนี้ คนนั้นคนนี้ไม่ได้ประกันในรัฐบาลนี้ทั้ง ๆ ที่ข้อเท็จจริงคือ มีทั้งคนได้ประกันตัวและไม่ได้ประกันตัว

เมื่อมีข่าวคนได้ประกันตัว ดิฉันจึงต้องการย้ำว่า เวลามีคนได้ประกันตัว ก็ช่วย recognized ด้วยว่ามันมี เรื่องการตายของบุ้ง เป็นความผิดของรัฐบาลที่ตรงไหน? 

ได้ประกันตัวแล้วทำผิดเงื่อนไข และตั้งเจตจำนงเสรีต่อสู้ด้วยการอดอาหาร ซึ่งรบ. ก็เคารพเจตจำนงค์นั้น

ใช่ค่ะ ดิฉันเชียร์รัฐบาล แล้วดิฉันก็ยืนยันว่า มีจำนวนคนได้ประกันตัวมากกว่าที่ไม่ได้ประกัน สิ่งนี้เป็น fact ค่ะ

ส่วนที่ถอนประกันตัวเอง หรือทำผิดเงื่อนไข รบ. ก็น่าหนักใจค่ะ

ส่วนคนที่ยังอยู่ในคุกโดยไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ต้องช่วยกันต่อสู้ ส่งเสียงต่อไปค่ะ แค่การมาตามด่าคำผกา ไม่ได้ช่วยให้ใครได้ความยุติธรรม และจำนวนนักโทษทางความคิดในคุกก็ช่วยให้บางองค์กรทำมาหากินกับประเด็นสิทธิมนุษยชนได้เรื่อย ๆ

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก น.ส.เบนจา อะปัญ กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม หรือ กลุ่ม 3 นิ้ว โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Benja Apan ระบุว่า…

อย่าใช้โอกาสแบบนี้ พิมพ์แบบนี้ เพื่อยกเครดิตให้ร้าบานเลย เพราะ…

1 แปลว่าศาลไม่อิสระ? depend on ร้าบาน?

2 บุ้งเสียชีวิตในคุกก็ร้าบานนี้

3 อานนท์ ขนุน เก็ท ฯลฯ ก็ติดคุกในร้าบานนี้

4 การยกฟ้อง แปลว่าผลงานร้าบาน?

การพิมพ์แบบนี้ การเอาคดียิบย่อยมายกความดีความชอบแบบนี้เหมือนเอาใบบัวมาปิด ส่วนคดีที่มีปัญหาจริง เป็นปัญหามาหลายทศววรษ คดีที่คนติดคุกกันจริง คือคดี 112

ขอบคุณที่ยกฟ้องคดีค่ะ แต่อยากเห็นนิรโทษกรรมรวม 112 ในร้าบานนี้มากกว่า

เข้าใจว่าเชียร์ร้าบาน แต่การพูดแบบนี้ก็อย่าลืม **ดอกจัน** ตัวใหญ่ ๆ ว่ามันยังมีคนที่ติดคุกในร้าบานนี้เพราะคดีการเมืองเหมือนกัน

Please please please

‘ผู้กำกับ’ เผยแรงบันดาลใจในการสร้างแอนิเมชัน ‘2475 Dawn of Revolution รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ’

📢ถามมา-ตอบไปกับ ‘วิวัธน์ จิโรจน์กุล’ ผู้กำกับภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชัน ‘2475 Dawn of Revolution รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ’

🎤: แรงบันดาลใจสร้าง ‘2475 Dawn of Revolution รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ’ มาจากการเคลื่อนไหวของม็อบเยาวชน?

🎥คุณวิวัธน์: เราคิดเรื่องนี้มาเป็นสิบปีแล้วครับ ตั้งแต่ผมยังไม่ได้มาทำบริษัทด้านโปรดักชันเลยด้วยซ้ำ แอนิเมชันเรื่องนี้เราเก็บข้อมูลมา 5 ปี แล้วใช้เวลาทำอีก 3 ปี มันต้องใช้เวลา ไม่ใช่ว่าจู่ ๆ จะทำออกมาได้ ตอนทำเราก็ไม่รู้ด้วยว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ เราคิดว่าทำไปเรื่อย ๆ เท่าที่ไหว ทำจนเงินหมดก็ต้องทำต่อ เพราะงานมันต้องทำให้เสร็จ จะล้มกลางทางไม่ได้ 

นั่นคือเราคิดมาก่อนที่จะเกิดม็อบพวกนี้เสียอีก แต่สิ่งที่ม็อบเขาขับเคลื่อน เช่น คุณไปจัดงานวันเกิดให้จอมพล ป. หน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เชิดชูเป็นวีรบุรุษประชาธิปไตย แต่อีกสักพัก คุณเพนกวินเอารูปจอมพล ป. มาเผา บอกว่าเชิญวิญญาณเผด็จการมาไล่เผด็จการ ผมก็ดูขำ ๆ นะ เด็กพวกนี้มันครีเอตดี แต่นี่แหล่ะครับ มันยืนยันว่าการเรียนรู้ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนไทย

‘ผู้กำกับ 2475 Dawn of Revolution’ ตอบปมทุนสร้างแอนิเมชัน

📢ถามมา-ตอบไปกับ ‘วิวัธน์ จิโรจน์กุล’ ผู้กำกับภาพยนตร์แอนิเมชัน ‘2475 Dawn of Revolution รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ’

🎤: ‘2475 Dawn of Revolution’ ใช้ทุนสร้างจากงบกองทัพ หรือจากแหล่งไหน?

🎥คุณวิวัธน์: แอนิเมชันนี้ไม่ได้งบประมาณจากกองทัพ ไม่ได้รับเงินสนับสนุนใด ๆ จากรัฐบาล แต่ไม่ปฏิเสธว่า บริษัทเรารับทำงานสารคดีให้ความรู้ และ งานสื่อการสอนให้กับกองทัพ ซึ่งเป็นงานคนละส่วนกับแอนิเมชัน 

ซึ่งตามที่สื่อฯ บางรายได้นำมาเผยแพร่ ก็พบว่าตกปีละไม่ถึง 1 ล้านบาท และเป็นงานเล็ก ๆ TOR ละ 1 แสน-4 แสน ไม่สามารถนำงบฯ มาทำผลิตแอนิเมชันขนาดนี้ได้อยู่แล้ว 

และนอกจากนี้ บริษัทของเรายังรับทำเพลงโฆษณา ทำการตลาด ทำแบรนดิ้ง ซึ่งเราก็เอาเงินส่วนตัว เงินระดมทุน และรายได้จากงานต่าง ๆ มาใช้ในการทำงาน แอนิเมชันเรื่องนี้ จึงมาจากเงินเอกชนคนไทยล้วน ๆ ไม่เกี่ยวกับหน่วยงานรัฐบาลใด ๆ ถ้ารัฐสนับสนุนจริง พวกผมคงไม่ต้องมาขายเสื้อ ขายหนังสือกันหรอกครับ

'ศาลอุทธรณ์' ลดโทษจำคุก 6 เดือน ก๊วนปาระเบิดปิงปองหน้าบ้านพักลุงตู่ หลังเห็นว่าศาลชั้นต้นกำหนดโทษหนักเกินไป จึงควรกำหนดใหม่

(2 ก.ค.67) 'TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน' ได้โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X ระบุว่า...

ศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีของ บุ๊ค ธนายุทธ, ปฏิมา และพรพจน์ กรณีถูกกล่าวหาว่าปาระเบิดปิงปองบริเวณหน้าบ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในช่วงคืนวันที่ 10 เม.ย. 65

ศาลเห็นว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากกรณีนี้คือเกิดหลุมพรพจน์บนสนามหญ้าเท่านั้น จึงเห็นว่าศาลชั้นต้นกำหนดโทษหนักเกินไป จึงควรกำหนดใหม่ แก้โทษจำคุกจาก 1 ปี ลดเหลือจำคุก 6 เดือน 

แต่เห็นว่าไม่ควรรอการลงโทษ เนื่องจากการกระทำเป็นการสร้างสถานการณ์ ก่อให้เกิดความเสียหายกับทรัพย์สินราชการ

หลังฟังคำพิพากษา ปฏิมาได้ถูกควบคุมตัว และอยู่ระหว่างยื่นประกันในชั้นฎีกา ส่วนพรพจน์นั้นถูกขังระหว่างสอบสวนจนเกินกำหนดโทษดังกล่าวแล้ว จึงไม่ต้องถูกคุมขังอีก ส่วนธนายุทธถูกขังในคดีอื่นอยู่

‘สุวัจน์’ หัวเราะ หลังสื่อถาม ‘ทักษิณ’ ทาบทามเข้าเพื่อไทย ลั่น!! เป็นพรรคร่วมอยู่แล้ว ทำงานด้วยกันเพื่อประเทศชาติได้

(2 ก.ค.67) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยทาบทามให้เข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทย โดยนายสุวัจน์หัวเราะ และกล่าวว่า เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว ดังนั้นอะไรที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยหรือรัฐบาลได้ ก็ยินดี และทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีปัญหาอะไร 

เมื่อถามย้ำว่า นายทักษิณขอให้ช่วยเติมพื้นที่ในส่วนจังหวัดโคราช นายสุวัจน์ ยิ้มและกล่าวว่า ตนก็เคยทำงานกับนายทักษิณ สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี นายทักษิณก็ให้ความเคารพและเมตตาอยู่เสมอ ส่วนในอนาคตจะควบรวมกันหรือไม่นั้น การเมืองคงยังไม่เลือกตั้งในช่วงนี้ แต่ก็ได้ร่วมกันทำงานอยู่แล้ว ฉะนั้นอะไรที่ร่วมมือกัน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ก็ทำงานได้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่า รัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะอยู่ครบ 4 ปีหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า เสียงในสภา 300 กว่า จากตัวเลขแล้วไม่น่ามีปัญหาอะไร ดูมั่นคง และความสัมพันธ์ของพรรคร่วมฯ ตอนนี้ ก็ยังไม่มีอะไรที่จะไม่มีเสถียรภาพ ทุกคนรักใคร่กันดี ดังนั้นเรื่องเสียงในสภา ไม่มีอะไรน่าห่วง แต่เสียงนอกสภาก็เป็นอีกเรื่อง เช่น การทำงาน ความสำเร็จของนโยบาย และการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ ฉะนั้น ต้องรักษาความสัมพันธ์ของพรรคร่วมฯ ทำงานนโยบายลุล่วง แก้ปัญหาราคาพลังงาน ทำจีดีพีให้โต ลดภาระหนี้ประชาชน ทั้งนี้ การจะอยู่ครบเทอมหรือไม่นั้น ต้องมีเสถียรภาพ ทั้งในและนอกสภา

ศาลยกฟ้อง 13 ผู้ปกครอง ปมค้าน 'ครูทิว' เอาหนังสือลวงโลกสอนเด็ก ชี้!! ไม่มีถ้อยคำดูหมิ่นแต่อย่างใด เป็นการแสดงความเห็นโดยสุจริต

เมื่อวานนี้ (1 ก.ค.67) เพจเฟซบุ๊ก ‘วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

“ทุกคนคะ กรณีว่าที่ร้อยตรีธนวรรธน์ หรือ ครูทิว ครู 3 นิ้ว สมาชิกพรรคก้าวไกล ฟ้องปิดปากผู้ปกครองและประชาชน เนื่องจากได้ คอมเมนต์ไม่ต้องการให้ครูทิวนำหนังสือขุนศึกศักดินาพญาอินทรีเป็นแนวการสอนแก่นักเรียน”

“วันนี้ศาลอาญาพระโขนงตัดสินยกฟ้อง 13 รายรวด เนื่องจากไม่มีถ้อยคำดูหมิ่นครูทิวแต่อย่างใด และเป็นการแสดงความเห็นโดยสุจริต”

“ถือเป็นชัยชนะของประชาชนที่โดนครูสามนิ้วทำนิติสงคราม ใช้กฎหมายฟ้องปิดปากประชาชนอย่างแท้ทรู”

ทั้งนี้เพจเฟซบุ๊ก วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร ยังได้ระบุเพิ่มเติมว่า…

“ที่ฮาคือ อีกคดีจะเอาเด็กนักศึกษาปี 1 มาเป็นพยานว่าทั้ง 13 คอมเม้นคนทั่วไปอ่านแล้วเข้าใจว่าด่าทิว ศาลบอกเอามาทำไม เป็นผู้เชี่ยวชาญเหรอ แล้วศาลก็บอกเด็กว่าไปอ่านเรื่องพยานมานะ ก่อนจะมาขึ้นศาลว่าตัวเองอยู่ในฐานะอะไร จริง ๆ คาดว่า ศาลหลอกด่าทนายมันแหละ ศาลบอกไม่ต้องให้ปากคำเสียเวลา 5555”

ต่อมามีบรรดาชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ต่างสนับสนุนให้ผู้ปกครองฟ้องกลับ ขณะที่บางส่วนเห็นว่าเป็นการใช้นิติสงครามเสียเอง เป็นห่วงอนาคตของเด็กที่มีครูแบบนี้

สำหรับ หนังสือขุนศึกศักดินาพญาอินทรี เขียนโดยนายณัฐพล ใจจริง อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ซึ่งเนื้อหายกมาจากวิทยานิพนธ์ ปริญญาเอก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่นายณัฐพลเขียนในเรื่อง ‘การเมืองไทยสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงครามภายใต้ระเบียบโลกของสหรัฐอเมริกา (พ.ศ. 2491-2500)’ แต่ต่อมาถูก ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ภาควิชาปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการตรวจสอบ และพบว่าเนื้อหาในหลายประเด็นมีการบิดเบือนข้อเท็จจริง ทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์และผู้เกี่ยวข้องกับการเมืองไทยในอดีตเสียหาย จนได้รับฉายาว่าวิทยานิพนธ์ลวงโลก แต่ครูทิว หรือ นายธนวรรธน์ สุวรรณปาล ครูผู้สอนวิชาสังคมศึกษา โรงเรียนราชดำริ กลับจะนำไปสอนเด็กนักเรียน

'อ.เจษฎ์' มอง!! ผลการเลือกตั้ง 'นายก อบจ.ปทุมธานี' สะท้อน!! การเมืองไทยไว้ใจไม่ได้ แค่คนมีอำนาจสู้กัน

(1 ก.ค.67) โรงแรมอัศวิน รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก ประธานคณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย กล่าวถึงผลการเลือกนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี ว่า ผลที่ออกมาสะท้อนว่า เป็นเรื่องการเมืองที่ไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูที่ถาวร ไว้ใจกันไม่ได้เลย เมื่อดูกรณีนายทักษิณ ชินวัตรที่บอกว่า ไม่รู้จักพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง แล้วความจริงเกิดอะไรขึ้น ทีแรกสนับสนุนกันมา แต่ไป ๆ มา ๆ สนับสนุนอีกคนหนึ่ง ถือว่ามีบริบทเชื่อมโยงกันมากมาย จึงต้องบอกว่า การเมืองไว้ใจไม่ได้ 

ตนไม่รู้ว่าชาวปทุมธานีจะคิดอย่างไร ส่วนตัวเห็นว่า เหตุใดจึงไม่นับคะแนนใหม่ ซึ่งไม่รู้ว่าท้ายที่สุดผลการนับคะแนนจะไปลงที่ใคร หรืออาจจะเป็นไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ คือว่าไม่ได้มีใครดีไปกว่ากัน ทั้งสองฝ่ายทั้งคนที่เรียกว่าลุงชาญ ทั้งคนที่เรียกว่าบิ๊กแจ๊ส ก็อาจจะพอ ๆ กัน ก็เลยกลายเป็นเรื่องเจือสม ไม่มีใครดีไปกว่าใคร สุดท้ายอาจจะสะท้อน อบจ.อื่น ๆ อีก จะเป็นบริบทของการสู้กันลักษณะนี้ ประชาชนแทบไม่ได้อะไรเลย เป็นการสู้กันของผู้มีอำนาจ แล้วท้ายที่สุดผู้มีอำนาจเหล่านั้นก็เข้าไปยึดโยงผลประโยชน์ในจังหวัด ซึ่งผลประโยชน์ในจังหวัดเหล่านั้นก็จะลงไปที่ อบต. ไปที่ระบบแล้วโยงกลับไปที่ระบบมหาดไทยคือผู้ว่าราชการจังหวัด ยึดกันกับ สส. และตอนนี้ยังมี สว. เข้ามาด้วย แบบนี้แล้วบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ซึ่งผลสะท้อนจากปทุมธานี จะเห็นได้เลยว่าบ้านเมืองจะเป็นอย่างไรต่อไป

เมื่อถามว่าอำนาจเก่ากลับคืนมาเรียกคะแนนกลับอย่างนี้ จะกลายเป็นโมเดลในหลาย ๆ พื้นที่หรือจังหวัดที่เคยพลาดหรือไม่ นายเจษฎ์ กล่าวว่า อำนาจเก่าหมายถึงนายทักษิณหรือไม่ ส่วนตัวเห็นว่า สังคมปล่อยให้คนอย่างนายทักษิณออกฤทธิ์ออกเดชมากเกินไป 

"สำหรับผมแล้ว สิ่งที่นายทักษิณทำ คือการขัดพระบรมราชโองการ ไม่รับผิดไม่รับโทษ และไม่ทำตนให้เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง ถ้าเรายังปล่อยให้คุณทักษิณสามารถทำงานการเมืองแบบนี้ได้ บ้านเมืองเราลำบาก บ้านเมืองเราไปยาก เพราะฉะนั้นเราก็ต้องช่วยกัน ไม่ให้มันเกิดผล ผมไม่รู้ชาวปทุมธานีคิดอย่างไร จริง ๆ ชาวปทุมธานีได้เห็นแล้วว่า ทั้งคู่ไม่ได้เรื่อง ไม่ได้ราว ทำไมท่านไม่ลงคะแนนไม่ประสงค์จะเลือกใคร แล้วไล่ทั้งสองคนออกไป แล้วไปหาคนใหม่ แต่ท่านก็ไม่ได้ทำถูกไหมครับ ก็หวังว่าชาวจังหวัดอื่น ๆ จะได้ตระหนักในเรื่องนี้ ถ้าไม่มีคนดีพอ ท่านก็ไม่ประสงค์จะเลือกใคร แล้วกวาดคนเหล่านี้ออกไปทั้งหมด ก็จะเป็นหนทางที่ดีกว่า" รศ.ดร.เจษฎ์ กล่าว

‘อัครเดช’ เผย ‘รวมไทยสร้างชาติ’ ดันกม.ปรับโครงสร้างราคาน้ำมัน เรียก สส. คุย-หารือ 2 ก.ค. เตรียมความพร้อมก่อนเปิดสมัยประชุม

(1 ก.ค. 67) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า เนื่องจากมีพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. 2567 ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 นี้นั้น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ได้นัดประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรครวมไทยสร้างชาติ ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 เวลา 16.00 น. เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมในการเปิดสมัยประชุมครั้งนี้ 

โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวต่อว่า ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติได้เตรียมร่างกฎหมายที่จะเสนอไปเข้าสู่การพิจารณาของสภาหลายฉบับ ซึ่งเป็นกฎหมายที่จะแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนในหลายเรื่อง โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวกับการรื้อ ลด ปลด สร้าง ปรับโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งทางหัวหน้าพรรคและทีมกฎหมายของพรรคได้เร่งดำเนินการ เพื่อคืนความเป็นธรรมทางด้านพลังงานเชื้อเพลิงให้ประชาชนทั้งประเทศ

นายอัครเดช ยังกล่าวอีกว่า ในช่วงของการปิดสมัยประชุมที่ผ่านมา หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ได้กำชับให้ สส. ลงพื้นที่อย่างหนักเพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อที่จะได้นำปัญหาเหล่านั้นเข้าสู่สภา โดยการใช้กลไกของสภา ทั้งการเสนอเป็นญัตติ การตั้งกระทู้ รวมไปถึงผ่านคณะกรรมาธิการคณะต่าง ๆ เพื่อสะท้อนไปยังรัฐบาลให้ได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนต่อไป

เมื่อเหล่า 'ก๊วนสามนิ้ว' พากัน 'หนีคดี' 'พรรคล้มล้างการปกครอง-ปลุกปั่น' เงียบกริ๊บ!!

หลายท่านคงจะทราบกันดีแล้วว่า พรรคบาปหนาที่เดินหน้า ‘ล้มล้างการปกครอง’ หนึ่งเดียวในประเทศไทย ผู้อยู่เบื้องหลังการปลุกปั่น ล้างสมอง และหลอกใช้ ‘เด็กวัยรุ่นสามกีบ’ ที่อยากมีตัวตน ไปจนถึง ‘วัยผู้ใหญ่ใจแตก’ ที่อยากได้ที่ยืนเท่ ๆ ในสังคม ส่งเสริมให้ไปกระทำผิดมาตรา 112 ตลอดหลายปีที่ผ่านมาจนต้อง ‘ติดคุก’ ไปจำนวนไม่น้อยนั้น เมื่อศาลท่านมีเมตตาให้ประกันตัว แต่ผู้กระทำผิดไม่เคยสำนึก กลับมีพฤติกรรมทำผิดซ้ำ ๆ บ่อย ๆ จนต้องเดินคอตกเข้าไปอยู่ในคุกตาราง

พรรคบาปหนาก็มักจะฉวยใช้การติดคุกซ้ำของ ‘เหล่าคนจิตสำนึกด้วน’ เหล่านี้ กัดเซาะทำลายกระบวนการยุติธรรมไทย เลยเถิดไปถึงด่าทอสถาบันพระมหากษัตริย์ว่าโหดเหี้ยม ใจร้าย เป็นสิ่งที่ผิดปกติ และมีปัญหา ควรรื้อถอนมาตรา 112 ให้หมดหายไปจากประเทศไทย

แต่ไม่เคยพูดความจริงให้ครบด้านว่า ศาลมีเมตตากับนักโทษ 112 ทุกคน ได้ให้ประกันตัวไปแล้ว แต่แทบจะ 100% มักจะออกจากคุกมากระทำผิดซ้ำ จึงต้องกลับไปใช้ชีวิตในคุกดังเดิม 

ทุกครั้งที่ศาลให้ประกันตัวผู้กระทำผิด 112 เราจะไม่เคยเห็น ‘พรรคสามกีบ’ พูดขอบคุณที่ศาลท่านมีเมตตา แต่ทุกครั้งที่ศาลไม่ให้ประกันตัวอีกแล้วจากการกระทำผิดซ้ำ ๆ ก็จะช่วยกันป่าวประกาศทันทีว่ามาตรา 112 นั้นคือยาพิษ เป็นภัยร้ายกับประชาชนคนไทยทุกคน ถ้าไม่ยกเลิก หรือปรับแก้ให้โทษอ่อนลง ก็ควร ‘นิรโทษกรรม’ ผู้กระทำผิด 112 เพื่อความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจะได้เบาบาง

เห็นชัดว่า ‘กลุ่มคนสามกีบ’ ไม่เคยยอมรับว่าตนเองได้กระทำผิด เมื่อทำผิดแล้วก็ไม่ยอมรับคำตัดสินของศาล เมื่อแก้ไขคำตัดสินไม่ได้ก็คิดจะล้มล้างกฎหมาย เมื่อล้มกฎหมายไม่ได้ก็รวมหัวกันขอให้ ‘นิรโทษกรรม’ ช่างเป็นพรรคการเมืองที่สุดแสนจะ ‘วิปลาส’ ติดอันดับต้น ๆ ของโลก 

ในวันที่ศาลใจดีให้โอกาส ‘นักโทษสามกีบ’ ซึ่งเป็น ‘เหยื่อที่แท้จริง’ ของพรรคล้มล้างการปกครองได้รับการประกันตัวออกมา แต่เหล่า ‘สามกีบสิ้นคิด’ ก็ใช้อิสระที่ตนเองได้รับจากศาลพากัน ‘หนีคดี’ ไปแล้วหลายคน 

ปากที่เคยพ่นว่าตนนั้นมีอุดมการณ์ในการต่อสู้ จึงเป็นได้เพียง ‘ราคาคุย’

ว่าแต่ ‘นักโทษสามกีบ’ จะ ‘หนีคดี’ ได้ นั่นก็เพราะได้ประกันตัว ทำไมไม่เห็น ‘พรรคสามกีบ’ หรือ ‘พรรคล้มล้างการปกครองไทย’ ออกมาพูดชมเชยศาลว่าใจดีสักครั้งเลย 

อยู่แบบสร้างภาพ ผลักแต่ความชั่วให้คนอื่น โกหกคนโง่ไปวัน ๆ มันดูกันออกง่าย ๆ ครับ

'ธนกร' ชี้!! เหตุ 'รวมไทยสร้างชาติ-พีระพันธุ์' ขยับความนิยมมาอันดับ 4   เพราะ 10 เดือนร่วมรัฐบาล ลุยทำงานเต็มที่ ตามอุดมการณ์ DNA 'ลุงตู่'

(1 ก.ค.67) นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สส.แบบบัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า จากที่ศูนย์สำรวจความคิดเห็น 'นิด้าโพล' สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจประชาชนถึงคะแนนนิยมทางการเมืองบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี พบว่า เสียงประชาชนยังคงให้ความไว้วางใจ พึงพอใจการทำงานของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ มาเป็นอันดับ 4  ระบุว่าเพราะมีภาพลักษณ์ที่ดี มีความน่าเชื่อถือ การทำงานมีความซื่อสัตย์ สุจริต

ส่วนคะแนนนิยมพรรครวมไทยสร้างชาติ  ก็ยังครองใจประชาชน โดยให้คะแนน มาเป็นอันดับที่ 4 เช่นกัน

ทั้งนี้ จากผลสำรวจดังกล่าวสะท้อนถึง เสียงที่ประชาชน มองและได้รับประโยชน์ จากการทำงานในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ผ่านมา 10 เดือน ของนายพีระพันธุ์ และพรรครวมไทยสร้างชาติที่มุ่งมั่นตั้งใจ แก้ไขปัญหา โดยเฉพาะด้านพลังงานที่นายพีระพันธุ์ ที่กำลังขับเคลื่อน ตามแนวทาง 'รื้อ ลด ปลด สร้าง' ออกกฎหมายด้านพลังงาน เพื่อแก้ปัญหาทั้งระบบในระยะยาว  

นอกจากนี้ สส. ทั้ง 36 คนรวมถึง อดีตผู้สมัครและสมาชิกพรรค ยังคงทำงานดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าในส่วนของพลังเงียบที่ยังไม่ตัดสินใจให้คะแนนนิยมกับบุคคลและพรรคการเมืองใดนั้น เมื่อถึงเวลา จะเห็นประชาชนให้ความไว้วางใจพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างแน่นอน

“รวมไทยสร้างชาติยังคงยึดมั่นอุดมอุดมการณ์ DNA ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ให้แนวทางตั้งแต่แรก คือการลงพื้นที่รับฟังปัญหาและเร่งแก้ไขให้กับพี่น้องประชาชนทันทีอย่างต่อเนื่องนั้น ต้องขอขอบคุณโพลที่สำรวจความคิดเห็นประชาชน ซึ่งผลที่ออกมาสะท้อนให้เห็นถึงความพึงพอใจผลการทำงาน ของทั้งนายพีระพันธุ์ และสส.ของพรรค ที่คะแนนนิยมมาเป็นอันดับ 4 ตนเชื่อว่า พลังเงียบที่ไม่แสดงความเห็น แท้จริงแล้ว ยังคงจับตาดูการทำงานของรัฐบาลและทุกพรรคการเมือง ที่หาเสียงไว้จะทำได้จริงและรักษาสัญญากับประชาชน หรือไม่” นายธนกร ระบุ

‘เพื่อไทย’ เฮ!! ทวงเก้าอี้นายก อบจ.ปทุมธานี คืนได้สำเร็จ ตอกย้ำมนต์ขลัง ’ทักษิณ‘ ไม่เสื่อม แม้คู่แข่งไม่ธรรมดา

(1 ก.ค. 67) ที่ จ.นครราชสีมา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี ในนามของพรรค พท. ชนะการเลือกตั้งซ่อมนายก อบจ. ว่า ถือโอกาสนี้ขอบคุณประชาชนชาวปทุมธานีทุกคนที่ยังให้ความไว้วางใจเลือกผู้สมัครของพรรค พท. ซึ่งจากการนับคะแนนไม่เป็นทางการ ผลปรากฏว่านายชาญชนะการเลือกตั้ง 

“ถือเป็นการหักล้างคำสบประมาทว่ากระแสของพรรคเพื่อไทยยังครองใจประชาชน ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้เป็นการแข่งขันที่สมศักดิ์ศรี และผลออกมาก็แสดงว่าพี่น้องทั้งจังหวัดยังให้ความชื่นชอบพรรคเพื่อไทยอยู่” นายประเสริฐ กล่าว

เมื่อถามว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้สะท้อนว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังไม่เสื่อมมนต์ขลังใช่หรือไม่ นายประเสริฐ ตอบทันทีว่า “ไม่เสื่อมครับ ไม่เสื่อม นี่เห็นได้ชัดเลยว่า แม้เราจะต้องทำตามนโยบายหลายอย่าง แต่เราก็สามารถคว้าชัยมาได้” 

เมื่อถามว่า การได้ชัยชนะในพื้นที่ปริมณฑล จะเป็นการล้างภาพที่พรรค พท. เคยแพ้การเลือกตั้งในพื้นที่ปริมณฑลหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า จ.ปทุมธานีเป็นพื้นที่สำคัญ เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่กรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้ 

เมื่อถามว่า มองว่าจะเป็นโดมิโนให้พรรคพท. คว้าชัยในปริมณฑลอื่นหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เราต้องทำการเมืองอย่างต่อเนื่อง และชัยชนะครั้งนี้ทำให้เราต้องทำงานหนัก 

เมื่อถามย้ำว่า การชนะแค่คะแนนไม่ถึงหลักพันต้องทำการบ้านหนักขึ้นใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ใช่ เพราะคู่ต่อสู้ไม่ธรรมดา ซึ่งการชนะเขตปริมณฑล และการที่จะมีการเลือกตั้งนายกอบจ.ในต้นปีหน้า พรรคคงต้องปรับกระบวนการยุทธศาสตร์เพื่อการต่อสู้ในครั้งต่อไป

เมื่อถามว่า ที่จ.ปทุมธานีสะท้อนภาพบ้านใหญ่ร่วมแรงกัน จังหวัดอื่นจะมีการรวมบ้านใหญ่เพื่อมาชูพรรค พท. หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่อยากใช้คำว่าไปรวบรวมอะไร แต่ตนคิดว่านี่คือเสียงของประชาชนที่ยังไว้ใจพรรค พท. แล้วเชื่อว่ากระแสเหล่านี้ยังมีอยู่ และจะสามารถทำให้พรรค พท.คว้าชัยชนะได้

เมื่อถามว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นที่ยอมรับแล้วใช่หรือไม่ว่า จ.ปทุมธานียังเป็นหัวใจของคนเสื้อแดง นายประเสริฐ กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งชี้เช่นนั้น และขอรอให้การเลือกตั้งที่เป็นทางการก่อน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top