Friday, 7 June 2024
POLITICS NEWS

ตัวแทนควบคุมฝูงชน ยอมรับต่อ กมธ.พัฒนาการเมืองฯ หาก คฝ. คนใดใช้ความรุนแรง ต้องรับผิดชอบเอง

วันที่ 15 ก.ย. 64 ในที่ประชุมกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ วาระพิจารณาข้อเรียกร้องขอให้ปกป้องสิทธิและคุ้มครองประชาชนจากการกระทำความรุนแรงของเจ้าหน้าที่และขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่อันเข้าข่ายเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยมี พ.ต.ท. วชิรพงศ์ แก้วดวง รองผู้บังคับการหน่วยอารักขาและควบคุมฝูงชน หรือรองผบก.อคฝ.ชี้แจงต่อกรรมาธิการว่าเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่สามเหลี่ยมดินแดงตลอด 32 วันที่ผ่านมา มีปรากฏภาพเจ้าหน้าที่ คฝ.ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น 

พ.ต.ท.วชิรพงศ์ เปิดเผยว่าทางต้นสังกัดไม่มีคำสั่งและแนวทางให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม ซึ่งหากพบเจ้าหน้าที่คนใดใช้ความรุนแรง เจ้าหน้าที่คนนั้นต้องรับผิดชอบเองไม่เกี่ยวกับต้นสังกัด 

ด้าน นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ในฐานะประธานกรรมาธิการ เปิดเผยว่า คำชี้แจงของพ.ต.ท.วชิรพงศ์เป็นการปัดความรับผิดชอบอีกทั้งยังผลักให้ผู้ใต้บังคับบัญชากลายเป็นผู้ร้าย ทั้งที่เจ้าหน้าที่ คฝ. ออกไปปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของต้นสังกัด ซึ่งหากการชี้แจงเป็นเช่นนี้ทางกรรมาธิการต้องเชิญให้เจ้าหน้าที่ คฝ. ที่ปรากฏในคลิปที่มีการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนทั้ง 14 คลิป เพื่อเรียกตัวเข้ามาสอบถามเพิ่มเติมว่าการตัดสินใจต่อสถานการณ์ตรงหน้าเป็นการใช้ดุลพินิจส่วนตัวหรือมีคำสั่งให้ใช้ความรุนแรง 

ส่วนกรณีที่สื่อมวลชนจำเป็นต้องปฏิบัติงานในพื้นที่การชุมนุม อาจส่งผลให้อยู่ในช่วงเคอร์ฟิวนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า สื่อมวลชนที่มีบัตรอนุญาตทุกคนจะได้รับผ่อนปรน แม้จะเป็นเคอร์ฟิวก็ตาม ด้านประธานกรรมาธิการจึงเสนอให้มีการผ่อนปรนต่อเจ้าที่พยาบาลอาสาทุกคนโดยใช้มาตรฐานเดียวกันกับสื่อมวลชนด้วย

“บิ๊กตู่” สั่งช่วยเยียวยาช่วยเหลือกลุ่มศิลปินเจอพิษโควิด 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้ประชุมร่วมกับภาคีเครือข่ายภาคเอกชนในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และกลุ่มศิลปิน เพื่อหารือแนวทางการให้ความช่วยเหลือจากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ร่วมกับกลุ่มศิลปินพื้นบ้าน  กลุ่มศิลปินแห่งชาติ ศิลปินศิลปากร  กลุ่มเครือข่ายอุตสาหกรรมบันเทิง โรงงานและภาพยนต์ และภาคเอกชน กว่า 40 องค์กร โดยนายกฯ เห็นใจศิลปินพื้นบ้าน บุคลากรด้านศิลปวัฒนธรรมและผู้อยู่ในอุตสาหกรรมบันเทิง ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19  โดยรัฐบาลได้ช่วยเหลือเยียวยาผ่านมาตรการต่างๆ ทั้ง การช่วยเหลือผู้ประกันตน ม. 33 ม. 39 และ ม. 40 และการลดภาษี

ทั้งนี้ นายกฯ ยังห่วงใยกลุ่มศิลปินบางส่วนที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เนื่องจากข้อมูลตกหล่น จึงขอให้กระทรวงวัฒนธรรมเร่งประสาน รวบรวมรายชื่อและจำนวนบุคคลให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพื่อภาครัฐจะได้จัดสรรทั้งวัคซีค รวมทั้งชุดตรวจ ATK ให้เหมาะสม ขณะเดียวกัน ก็จะได้ให้มีการขึ้นทะเบียนเพื่อให้เข้าถึงการเยียวยาของรัฐบาล และยังเป็นการสร้างความเข้มแข็งในเครือข่ายของกลุ่มศิลปินทุกแขนงด้วย 

พร้อมกันนี้ยังรับข้อเสนอเกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ อาทิ การเปิดโรงภาพยนตร์ มหรสพ การผ่อนปรนให้กองถ่ายสามารถทำภาพยนตร์สามารถถ่ายทำได้ โดยจะมอบหมายให้ ศบค. ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขพิจารณามาตรการรองรับป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดของโรคโดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง จะต้องมีท้องถิ่นเข้าดูแลการถ่ายทำในพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการรวมกลุ่มของคนมากเกินไป 

ขณะเดียวกันยัง ได้สั่งการให้กระทรวงวัฒนธรรมประสานเครือข่าย/กลุ่มศิลปิน เพื่อจัดทำข้อมูลให้ครอบคลุมและชัดเจน มอบหมายให้กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณและสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พิจารณาให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากมาตรการลดภาษี การช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึง Soft Loan แหล่งเงินทุน จากงบประมาณที่มีเหลืออยู่ จาก พรก. กู้เงินฯ โดยจะได้มีการนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

"ก้าวไกล"อัด "นายกฯ " ไร้ความรับผิดชอบ เหตุไม่ให้ความสำคัญมาตอบกระทู้สภาฯ เรื่อง “แต่งตั้งตำรวจ-คดีบอส กระทิงแดง”

ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม  เพื่อพิจารณากระทู้ถามทั่วไป เรื่องขอทราบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแต่งตั้งนายตำรวจและการคัดเลือกตำรวจราบในพระองค์ของนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นผู้ตั้งกระทู้ถามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้มอบหมายให้พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม มาตอบ แต่ติดภารกิจสำคัญจึงขอเลื่อนการตอบกระทู้ออกไปก่อน

ทั้งนี้ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า อยากทราบว่าเหตุใดนายกฯมอบหมายให้รมช.กลาโหมมาชี้แจงแทน ทั้งที่ไม่ได้มีภารกิจกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายกฯได้แจ้งประธานที่ประชุมหรือไม่ และที่ติดภารกิจอยากทราบว่าติดภารกิจอะไร เพราะทำให้สมาชิกสภาฯมีคำถาม และคำถามเรื่องตำรวจนั้น ประชาชนให้ความสนใจ และเพิ่งมีเหตุเกิดขึ้นที่จ.นครสวรรค์ การที่นายกฯไม่มาตอบทั้งที่การทำหน้าที่วันสุดท้ายของสภาฯในการประชุมสภาฯสมัยนี้ ทำให้ต่อไปต้องไปตอบคำถามในราชกิจจานุเบกษาแทน และได้คำตอบไม่ลงลึก การอ้างว่าติดภารกิจนั้น นายกฯต้องมีหน้าที่สแตนบายเพื่อมาตอบคำถามสมาชิกสภาฯ ซึ่งท่านมีเหตุผลอะไร ไม่เช่นนั้นตนต้องไปถอนกระทู้นี้ เพื่อมาถามใหม่ในสมัยประชุมหน้า

ด้านศุภชัย กล่าวว่า สภาฯได้รับหนังสือแจ้งจากรมช.กลาโหมว่าติดภารกิจสำคัญที่ได้นัดหมายไว้ล่วงหน้า ไม่สามารถมาตอบกระทู้วันนี้ได้ จึงขอเลื่อนออกไปก่อนเหตุผลก็มีเท่านี้ นายกรัฐมนตรีก็ติดภารกิจจำเป็นได้แจ้งมาที่สภาฯแล้ว ส่วนทำไมนายกฯมอบให้รมช.กลาโหมมาชี้แจงแทนนั้น ตนก็ไม่ทราบ เพราะเป็นภารกิจที่นายกฯมอบหมาย อาจจะเป็นเรื่องความมั่นคง

จากนั้นเวลา 13.15 น.เป็นพิจารณากระทู้ถามทั่วไปเรื่องขอให้ติดตามความคืบหน้าและดำเนินการกับผู้กระทำความผิดคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ของนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นผู้ตั้งกระทู้ถามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แต่ประธานที่ประชุมแจ้งว่า ทางสำนักเลขาธิการนายกฯแจ้งว่านายกฯ มอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ตอบคำถามในกระทู้นี้แทน แต่เนื่องจากนายวิษณุ ติดภารกิจจึงได้ขอเลื่อนการตอบกระทู้นี้

ทำให้นายธีรัจชัย ลุกขึ้นกล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับประชาชนและเกี่ยวเนื่องกับผลกระทบกระบวนการยุติธรรมที่เสื่อมความน่าเชื่อถือ พบว่ามีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ตนต้องการถามนายกฯ แต่นายกฯไม่รับผิดชอบ กลับมอบหมายให้นายวิษณุมาแทน แต่ก็ติดภารกิจสำคัญอีก เราไม่มีมาตรการในการจัดอะไรกับฝ่ายบริหารเลยหรือที่หนีการตอบกระทู้ ที่เป็นสิ่งสำคัญ มันเป็นการชะลอความจริง และชะลอปัญหา อาจเอื้อให้บางฝ่ายได้แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมนี้ 

“ประเทศนี้มันอะไรกัน เรื่องนี้เป็นหลบหนีความจริง มีวาระซ่อนเร้นที่จะไม่ตอบ ไม่ตอบวันนี้หมายความว่ากระทู้นี้ต้องไปตอบในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะตอบแบบใดก็ได้ หมายความว่าคนที่ทำผิดจะไปทำอะไรก็ได้ อำนาจนิติบัญญัติไม่มีความหมายแล้วหรือ ขอให้สภาฯช่วยกระทุ้งฝ่ายบริหารรับผิดชอบฝ่ายนิติบัญญัติมากกว่านี้ และการจับกุมนายวรยุทธ มีความคืบหน้าไปถึงไปไหนอย่างไรแล้ว” นายธีรัจชัย กล่าว

ทำให้นายศุภชัย ชี้แจงว่า นายกฯสามารถเลื่อนการตอบกระทู้ได้ และทำหนังสือมาชี้แจงสภาฯ นายธีรัจชัยมีทางเลือกคือ ถ้ายังอยากถามเรื่องนี้ในที่ประชุมสภาฯ สามารถถอนเรื่องออกไปก่อนได้ แล้วเปิดสมัยประชุมหน้าก็ยื่นกระทู้ถามใหม่ เพื่อให้นายกฯและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมาตอบคำถาม 

นายกฯเตรียมหารือพบปะผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ตามโครงการ Factory Sandbox  ป้องกันโควิด-19 ณ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ จำกัด (แหลมฉบัง) ศุกร์ 17 กันยายน นี้ 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกลาโหม เตรียมลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินโครงการ Factory Sandbox  พร้อมกล่าวมอบนโยบายและตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ของ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ จำกัด (แหลมฉบัง) ก่อนพบปะกับผู้บริหารและนักลงทุนญี่ปุ่นเพื่อหารือแนวโน้มการลงทุนและการส่งออกในวันศุกร์ 17 กันยายน นี้  

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะ มีความตั้งใจจะไปติดตามโครงการ Factory Sandbox ซึ่งเป็นหนึ่งโครงการนำร่องในการป้องการและควบคุมการแพร่ระบาดในโรงงาน ในเฟสแรก ดำเนินการไปแล้วใน 4 จังหวัด ประกอบด้วย นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร และชลบุรี ในส่วนเฟสสองขยายต่ออีก 3 จังหวัด คือ พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ เป็นมาตรการภาครัฐในการดูแลคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงานและเดินหน้าสถานประกอบการ ช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.ชลบุรี ถือว่ามีโรงงานขนาดใหญ่จำนวนมากและมีผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ประมาณ 700,000 คน  และมีสถานประกอบการ 17 แห่งที่ดำเนินโครงการฯ

ทั้งนี้  โครงการ Factory Sandbox  จะนำใช้กับโรงงานขนาดใหญ่ที่มีแรงงานมากกว่า 500 คนขึ้นไป เป็นสถานประกอบกิจการที่ผลิตเพื่อการส่งออก ควบคู่กับการดำเนินการ Bubble and Seal กำหนดให้ลูกจ้างเดินทางกลับที่พักโดยตรงไม่แวะระหว่างทาง และอยู่แต่ในเคหะสถานเท่านั้น จัดให้มีการตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR จำนวน 1 ครั้ง ให้ลูกจ้างทั้งหมด และตรวจแบบ Self-ATK (Antigen Test Kit) ทุก 7 วัน  พร้อมจัดสรรให้ได้รับวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ด้วย

“นายกรัฐมนตรีต้องการดูแลพี่น้องแรงงานของไทยและแรงงานต่างด้าวอย่างดีที่สุด เพราะแรงงานเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนธุรกิจอุตสาหกรรมของไทยให้เดินหน้าต่อไปได้ สำคัญให้คนไทยมีงานทำ มีรายได้เพื่อดูแลตนเอง ครอบครัวและยังเพื่อสร้างเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็งไปพร้อมๆกันอีกด้วย” นาย ธนกรกล่าว

'ราเมศ' มั่นใจ แก้ รธน. ถูกต้องตามกระบวนการนิติบัญญัติ 

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการกล่าวถึงเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ได้ผ่านวาระสามไปแล้ว ว่า 

ไม่กังวลที่มี ส.ส.ในส่วนของพรรคเล็กที่กำลังรวบรวมรายชื่อ ส.ส.เพื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ถือว่าเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ถ้ารวบรวมรายชื่อได้ครบ หนึ่งในสิบของจำนวน ส.ส.หรือ หนึ่งในสิบของจำนวน ส.ส. หรือ ส.ว. รวมกัน ก็ว่ากันไปตามกระบวนการ แต่มั่นใจในกระบวนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของฝ่ายนิติบัญญัติ ที่ได้ดำเนินการถูกต้องตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ ทั้งสามวาระไม่มีขั้นตอนใดที่ผิดหลักการความถูกต้อง 

ส่วนการพิจารณาในชั้นรับหลักการ ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (แก้ไขเพิ่มเติม) ฉบับที่ .. พ.ศ. .… (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91) ที่ว่าด้วยเรื่องระบบเลือกตั้งนั้น การที่รัฐสภารับหลักการมาในร่างดังกล่าวซึ่งมีหลักการและเหตุผลเป็นเรื่องการแก้เรื่องระบบการเลือกตั้งอย่างชัดเจน  ในวาระที่สองคือในชั้นคณะกรรมาธิการ ก็ต้องมีการพิจารณาให้มีความละเอียดรอบคอบ หากมีมาตราใดที่เกี่ยวข้องกับระบบเลือกตั้ง หากต้องการปรับแก้ในมาตราใดข้อความใดเพื่อให้สอดคล้องกับหลักการและเหตุผลคือในส่วนของระบบเลือกตั้งก็สามารถทำได้ ทั้งในส่วนของกรรมาธิการและสมาชิกรัฐสภาที่ยื่นแปรญัตติไว้ 
 
ที่สำคัญข้อบังคับการประชุมร่วมรัฐสภา ข้อที่ 124 ได้ระบุไว้ชัดว่า การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมในชั้นคณะกรรมาธิการสมาชิกรัฐสภาสามารถที่จะแปรญัตติได้และในวรรคที่สามได้ระบุไว้ชัดอีกว่าการแปรญัตติเพิ่มมาตราขึ้นใหม่หรือตัดทอน หรือแก้ไขมาตราเดิมต้องไม่ขัดกับหลักการแห่งร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งมีเจตนารมณ์ชัดว่าสมาชิกสามารถดำเนินการได้ตรวจตราในมาตราอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับหลักการได้ด้วย เพื่อให้รัฐธรรมนูญเมื่อแก้ไขแล้วสามารถบังคับใช้ได้โดยไม่ขัดหรือแย้งกัน ก็มีการปรับข้อความในมาตรา 86 ในเรื่องจำนวนตัวเลข จากจำนวน ส.ส.ในระบบเขตจำนวน 350 คน เป็น 400 คน เพื่อให้ข้อความสอดคล้องกับมาตรา 83 ที่มีการขอแก้ไขจำนวน ส.ส.ให้มี ส.ส.ระบบเขตเลือกตั้ง 400 คน ระบบบัญชีรายชื่อ 100 คน หากไม่มีการปรับข้อความในมาตรา 86 ก็จะขัดแย้งกัน 

สรุปมีการพิจารณาแก้ไข 3 มาตรา คือ มาตรา 83 มาตรา 86 และมาตรา 91 ไม่มีการเพิ่มเติมส่วนไหนที่ขัดกับหลักการของร่างแต่อย่างใด ทุกกระบวนการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับอย่างเคร่งครัด 

นายราเมศ กล่าวต่อว่า การแก้ไขระบบเลือกตั้ง เป็นแบบบัตรเลือกตั้งสองใบ ถ้าคิดว่าหลักการดี อย่าไปคิดว่าพรรคใดจะได้ประโยชน์ เพราะต้องถือว่าประเทศ ประชาชนได้ประโยชน์ ท้ายที่สุดอยู่ที่ประชาชน หากได้ส่งเสริมให้พรรคการเมืองเกิดความเข้มแข็ง ประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพมากขึ้นในการใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งผู้สมัครและพรรค ก็เป็นผลดีต่อระบบประชาธิปไตยในอนาคต จึงไม่อยากให้คิดบนพื้นฐานอคติ หรือคิดเพื่อประโยชน์ส่วนตนของพรรคใดพรรคหนึ่ง เพราะถ้าคิดเช่นนั้นยากต่อการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยในอนาคต

“บิ๊กตู่”นำถกคกก.ยุทธศาสตร์ชาติ “ย้ำ” ประเทศไทยต้องมีแผนหลักทั้งฝ่ายบริหาร-นิติบัญญัติ ไม่ให้เดินคนละทิศละทาง ทำหลายอย่างเชื่องช้า

ที่ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 2/2564 ผ่านระบบ วิดิโอคอนเฟอเรนซ์ โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการหารือร่วมกันในการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติของเรา ทำตามวิสัยทัศน์จะทำอย่างไรให้ประเทศชาตินั้นมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ ทั้งนี้ประเทศไทยจำเป็นต้องมีแผนหลัก ในการดำเนินการ ทั้งฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่เช่นนั้นเราจะเดินไปคนละทิศคนละทางไปข้างหน้า ทำให้หลายอย่างนั้นเชื่องช้า

“จุรินทร์” ไม่กังวล ฝ่ายค้านยื่นป.ป.ช.สอบ "เฉลิมชัย" ยัน ชี้แจงชัดเจนแล้วในสภาไม่มีประเด็นน่าสงสัย พร้อมแย้ม ส.ส.เลือดเก่า-เลือดใหม่ไหลเข้า ปชป.  อุบตอบให้รอเปิดตัว เชื่อกำลังเดินขึ้น ทั้งเห็นด้วย พท. ใช้พรรคเดียวเบอร์เดียวทั่วประเทศ ป้องกันปชช.สับสน

ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคฝ่ายค้านจะยื่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เรื่องทุจริตยาง ซึ่งสืบเนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ไม่ได้กังวล ในสภาทุกคนก็เห็นชัดเจนอยู่แล้วว่านายเฉลิมชัยสามารถชี้แจงได้ชัดเจนครบถ้วนทุกประเด็น ไม่มีประเด็นอะไรที่สภาสงสัยหรือแม้แต่ประชาชนทั่วไป ฉะนั้นการยื่นให้ป.ป.ช.ตรวจสอบก็สามารถทำได้จึงไม่มีอะไรน่ากังวล

ทั้งนี้นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี รมว.พาณิชย์ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงกรณี ส.ส.ภาคใต้ 9 คน จะย้ายกลับมาพรรคประชาธิปัตย์ ว่า คนที่เคยอยู่กับพรรคมาและออกไปก่อนหน้านั้นแล้วประสงค์จะกลับพรรคก็มีหลายคน ที่มาสมัครสมาชิกพรรคแล้วก็มี แต่สำหรับภาคใต้ ตนมอบหมายให้ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคตามภารกิจ และรักษาการรองหัวหน้าพรรคภาคใต้เป็นผู้รับผิดชอบ ฉะนั้น รายละเอียดทั้งหมดขอให้ถามนายนิพนธ์ แต่ในภาพรวมเป็นไปตามแนวทางที่พรรคดำเนินการอยู่ขณะนี้ คือ แนวทางที่จะเดินหน้านำเลือดใหม่ไหลเข้า เลือดเก่าไหลกลับ ซึ่งขณะนี้นอกจากมีคนเก่ากลับพรรคแล้ว ก็ยังมีคนรุ่นใหม่จำนวนมากที่เข้ามาร่วมอุดมการณ์กับพรรคในทุกภาค เฉพาะในภาคใต้ก็ได้ประกาศตัวคนรุ่นใหม่ที่ จ.ระนองไปแล้ว ส่วนจ.ภูเก็ตก็จะเพิ่มจำนวน ส.ส.จาก 2 คน เป็น 3 คน ทั้งนี้ จะเรียนให้ทราบต่อไปว่าเป็นใครบ้าง ซึ่งยังไม่ขอตอบว่าจะมี ส.ส.ทั้งเลือดเก่าและเลือดใหม่เข้ามาพรรคทั้งหมดกี่คน เมื่อถึงเวลาจะทยอยเรียนให้ทราบและจะมีการเปิดตัวเป็นนระยะ

เมื่อถามว่าการที่คนเก่าๆ กลับมาอยู่กับพรรคอีกครั้ง บ่งบอกว่าประชาชนในพื้นที่กำลังคิดอะไรอยู่ได้หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ในทุกภาค ทุกคนพูดตรงกันว่าวันนี้พรรคประชาธิปัตย์กำลังเดินขึ้น ไม่ได้เดินลง ฉะนั้น จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนมีกำลังใจ สมาชิกคนเก่ากลับพรรค คนรุ่นใหม่ก็มาเติมให้เรามีพลังมากขึ้นในการที่จะเดินหน้าพาพรรคประชาธิปัตย์ไปรับใช้ประชาชนอย่างเต็มกำลังให้มากขึ้นในอนาคตต่อไป

เมื่อถามว่าจากผลงานที่ผ่านมาคะแนนนิยมของพรรคมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างไรบ้าง นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องผลงานตนมั่นใจว่าประชาชนตอบรับมากขึ้น และพรรคประชาธิปัตย์มีผลงานเป็นรูปธรรมเป็นที่ประจักษ์อย่างน้อย 2 เรื่อง ที่เราได้กำหนดไว้เป็นเงื่อนไขก่อนเข้าร่วมรัฐบาล คือ 1.ประกันรายได้เกษตรกร 2.การแก้ไขรัฐธรรมนูญ วันนี้อย่างน้อย 2 เรื่องนี้ก็เป็นที่ประจักษ์ว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ดำเนินการให้เห็นผลสัมฤทธิ์เป็นจริงได้ เรื่องประกันรายได้นั้นภายในแค่ 4-5 เดือนเราก็สามารถโอนเงินส่วนต่างให้เกษตรกรได้ จึงเป็นที่มาที่มีการพูดกันว่าพรรคประชาธิปัตย์อุดมการณ์ทันสมัย ทำได้ไว ทำได้จริง เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญแม้จะต้องใช้เวลาบ้าง แต่วันนี้ก็ปรากฏชัดว่าอย่างน้อยที่สุดก็สามารถผ่านความเห็นชอบวาระ 3 ได้

เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคเล็กจะไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ถ้าสามารถรวมเสียงได้ 1 ใน 10 ก็ยื่นได้ ส่วนตัวไม่มีอะไรกังวลเพราะเป็นเงื่อนไขและกระบวนการที่ทำได้ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจจะเป็นผลดีก็ได้จะได้ไม่ต้องคาใจ ว่ากระบวนการในการดำเนินการหรือประเด็นอื่นๆ เป็นไปโดยชอบตามรัฐธรรมนูญหรือไม่

ถามต่อว่าเชื่อว่าร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านไปแล้วไม่มีประเด็นใดที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าไม่ขัดหรือแย้งรัฐธรรมนูญ เพราะทุกประเด็นผ่านขั้นตอนกระบวนการพิจารณาโดยชอบ มิเช่นนั้นจะนำไปสู่การลงมติร่วมกันในวาระ 3 ไม่ได้ และระหว่างทางก็มีการเสนอญัตติซึ่งสุดท้ายเสียงส่วนใหญ่พิจารณาแล้วก็เห็นตรงกันว่า สามารถดำเนินการได้และทุกอย่างเป็นไปโดยชอบตามรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามถึงการผลักดันพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายลูก มีการเตรียมการอย่างไรบ้าง นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ประชุมส.ส.และมีมติตั้งคณะทำงานชุดหนึ่ง เพื่อดำเนินการยกร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ส่วนประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์มองว่าจะแก้ไขกฎหมายลูกนั้น ตนเห็นด้วยกับข้อเสนอพรรคเพื่อไทยที่จะแก้ไขบัตรเลือกตั้งให้เป็นแบบพรรคเดียวเบอร์เดียว จะได้ไม่สร้างความสับสน หากใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบแล้วใช้เบอร์เดียวกันทั้งประเทศก็จะง่ายต่อประชาชนที่จะเลือก เพราะหากใช้แบบหนึ่งเขตก็หนึ่งเบอร์ การหาเสียงหรือชี้แจงต่อประชาชนก็จะยากลำบาก การใช้เบอร์เดียวพรรคเดียวเป็นการเสริมสร้างพรรคการเมืองให้เข้มแข็งขึ้น พรรคจะเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้น เนื่องจากพรรคการเมืองเป็นกลไกสำคัญในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉะนั้น รูปแบบใดก็ตามที่นำไปสู่การทำให้พรรคการเมืองเข้มแข็งได้ก็เป็นเรื่องที่ดี

"แรมโบ้" อัด " ทักษิณ" คิดเกมตื้น ท้า ยุบสภา ซัด หยุดคิดชั่ว หวังฟอกตัวเองพ้นผิด เชื่อ ปิดประตูกลับไทย

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมเสวนาในคลับเฮาส์ CARE Talk x CARE ClubHouse ว่า นายกฯจะยุบสภาฯหากมั่นใจ คิดว่าบริหารดี มีคนชอบ ว่า การที่นายทักษิณ ท้าทายนายกฯเพราะยังมีความหวังว่าพรรคเพื่อไทยจะได้กลับมามีอำนาจรัฐอีก และสามารถนำนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับประเทศได้ คนไทยส่วนใหญ่มีความเห็นว่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 นายกฯ รัฐบาล ทีมแพทย์ ร่วมมือกับประชาชนเพื่อแก้ไขปัญหาให้สถานการณ์คลี่คลายลงให้ได้ ตรงกันข้ามนายทักษิณและพรรคเพื่อไทย กลับนึกถึงแต่เรื่องทางการเมือง หวังผลประโยชน์ของตัวเอง เพื่อให้สมุนลิ่วล้อมีอำนาจรัฐ หวังช่วยตนเองและน้องสาว กลับประเทศให้ได้ เป้าหมายเพื่อฟอกตัวเองให้พ้นผิดคดีทุจริต จึงพยายามคิดวางแผนทุกวิถีทางทั้งใต้ดินหรือบนดิน ทำทุกช่องทาง

นายเสกสกล กล่าวว่า นายกฯ เข้ามาถูกต้อง หากจะออกไปต้องทำตาม กติกาคืออยู่จนครบเทอม หากนายทักษิณ และน้องสาวอยากกลับต้องทำตามกติกาบ้านเมืองเช่นเดียวกัน อย่าได้คิดแผนดีลล้มนายกฯ ล้มรัฐบาลเพราะใครก็รู้ทัน เกมนี้พอดีลไม่สำเร็จผิดหวัง ก็ออกอาการเที่ยวไล่ท้าให้นายกฯยุบสภา หรือลาออก แต่ไม่มีวันสำเร็จเพราะนายกฯไม่เคยคิดเช่นนั้น และหมากตื้นๆเด็กอนุบาลอ่านออก ให้หยุดพฤติกรรมวางแผนชั่วร้ายนี้ได้แล้ว นายทักษิณ อย่าคาดหวังว่าพรรคเพื่อไทย ที่อยู่ในสังกัดจะสามารถช่วยได้ หากดูการทำงานของพรรคเพื่อไทยก็ไม่เคยทำประโยชน์อะไรให้กับบ้านเมืองยามวิกฤต แทนที่จะช่วยกัน มีแต่เอาปากช่วยอัดซ้ำนายกฯและรัฐบาลตลอดเวลา ตนเองก็มองไม่ออกว่าเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้ส.ส.สักกี่คน เพราะพรรคกำลังตกต่ำสูงสุด และในพรรคเพื่อไทยเองยังมีปัญหาภายใน ส.ส.แตกคอกันเละตุ้มเป๊ะ ล่าสุดส.ส.ที่ถูกขับออกจากพรรคก็ออกมาลากไส้แฉกันเอง มีแต่จะล่มสลายพังพินาศไปเรื่อยจะมาช่วยอะไรนายทักษิณได้

นายเสกสกล กล่าวว่า ขอให้นายทักษิณ ยอมรับความจริงว่าในเมื่อใช้เล่ห์กลทำทุกวิถีทางที่จะล้มนายกฯ ทั้งเกมในสภาฯและม็อบนอกสภาฯแล้ว แต่ทำไม่สำเร็จ ก็ขออย่ามาท้านายกฯให้ยุบสภา หรือเรียกร้องให้ลาออกอีกเลย หากอยากกลับประเทศก็มาติดคุก รับโทษก่อนเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ไม่มีใครห้ามไม่ให้กลับมา แต่เป็นเพราะนายทักษิณและน้องสาวไม่ยอมรับการเข้าสู่กระบวนการกฎหมายเสียเอง ส่วนที่บอกว่าการเมืองเน่า เพราะไม่ปฏิรูป คิดแต่จะสืบทอดอำนาจเป็นกรรมของประเทศ ตนเองอยากให้มองย้อนกลับไปในสมัยยุคนายทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าการเมืองเน่าเละเฟะที่สุด ไม่เคยคิดปฏิรูปอะไรสักเรื่อง คิดแต่เรื่องโกงกิน ปล่อยให้มีการทุจริตคอร์รัปชั่นมากมายเต็มบ้านเมือง หากประเทศจะมีกรรมก็เกิดจากทั้งสองคนเข้ามาบริหารประเทศ มีการโกงกิน ทุจริตต่างๆมากมายมากกว่านี่คือกรรมที่แท้จริงของคนไทย

"พอแผนการล้มเหลวก็ออกมาท้าโน่นท้านี่ ผมว่าอยู่ที่ดูไบต่อไปให้สุขสบาย อย่าคิดวางแผนหรือคิดเกมชั่วอีกเลย คนไทยเขารู้ทันทุกเรื่องที่นายทักษิณคิด ยิ่งคิดแผนการชั่วตนยิ่งละอายใจแทน แก่ป่านนี้ยังไม่หยุดคิดทำความชั่วอีกหรือ ระวังตายไปจะตกนรกหมกไหม้ จะชดใช้กรรมไม่รู้จักหมดจักสิ้น ตนเตือนมาด้วยความหวังดี หยุดคิดกลับบ้านเพื่อจะมาฟอกคดีทุจริตที่ทำไว้ได้แล้ว แต่ถ้าจะกลับมารับโทษตามกฎหมาย มาได้ทุกเวลา "รายเากสกล กล่าว

“เสกสกล”ย้อน"ทักษิณ" กินปูนร้อนท้อง ปัดจ่ายดีลล้มบิ๊กตู่” เย้ย โจรย่อมดินปูนร้องท้อง” ชี้ ยัน ปชช.รู้ดี บ้านเมืองวุ้นวายเพราะใคร

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร หรือโทนี่ วู้ดซั่ม กล่าวใน CARE Talk x CARE ClubHouse ถึงการรวมเสียง ส.ส.ของร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เพื่อโหวตไม่ไว้วางใจนายกฯโดยมีการปล่อยข่าวว่านำเงิน 2,000 ล้านจากนายทักษิณ ไปดีลล้มนายกฯแต่ไม่สำเร็จ พร้อมบอกว่าคนอย่างทักษิณ ไม่โง่ทำแบบนั้น ว่า เรื่องนี้จะปล่อยหรือไม่ปล่อยข่าว ไม่มีใครทราบนอกจากนายทักษิณเอง  แต่อยากเตือนสติให้สังคมได้รับรู้ ถ้าไม่มีมูล หมาไม่ขี้  เมื่อการดีลล่ม จะพูดอะไรก็ได้ทั้งนั้น  แต่นายทักษิณ อย่าลืมว่าประชาชนคนไทยเขารู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร ที่การเมืองในบ้านยังคงวุ่นวายเพราะยังมีคนที่แค้นใจ ที่ต้องเร่ร่อนไปอยู่ต่างประเทศ ไม่มีโอกาสให้กลับแผ่นดินไทย ที่เป็นแผ่นดินเกิด 

นายเสกสกล กล่าวว่า นายทักษิณ เป็นอดีตนายกฯ ไม่คิดที่จะทำอะไรเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณประเทศ หรือตอบแทนเพื่อลบล้างในสิ่งที่ตัวเองทำความผิดกับประเทศมาบ้างหรือ ที่ประเทศชาติเสียหายเพราะอะไรจน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯต้องมาเก็บกวาดทุกอย่างที่พวกพ้องทำไว้กับประเทศชมากมาย เรื่องที่เกิดขึ้นพล.อ.ประยุทธ์ รู้ดี ถึงได้ตัดสินใจดำเนินการขั้นเด็ดขาด และที่ผ่านมาย้ำอยู่เสมอว่าจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องที่ไม่ดี ไม่ถูกต้องเด็ดขาด ตนยืนยันว่า
นายกฯไม่จำเป็นที่ต้องแจกกล้วย เหมือนที่นายทักษิณ บอกเพราะทำทุกอย่างด้วยความจริงใจ เพื่อเดินหน้าแก้ปัญหาที่ประชาชนต้องประสบความเดือดร้อน ไม่ได้หวังผลทางการเมือง โดยเฉพาะแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด และเตรียมที่จะเปิดประเทศให้ทุกคนได้กลับมาทำมาหากินตามปกติ  

“นายทักษิณ สามารถช่วยคนไทย และประเทศไทยได้โดย หยุดพูด หยุดแซะ หยุดให้ร้ายคนโน้น คนนี้เสียที ไม่ว่าจะเป็นเบื้องหน้าหรือเบื้องหลัง ก็ช่วยประเทศและประชาชนได้มาก และอย่าพูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น ส่วนที่ว่าไม่มีความคิดโง่ๆที่จะใช้เงิน2,000 ล้านบาท มาดีลล้มนายกฯ นายโทนี่อาจจะไม่ได้ลงมือทำ แต่อาจจะมีเจ้ ด.สั่ง นักการเมืองชื่อ ว. มาดีลก็ได้ใครจะไปรู้ และ "โจรส่วนใหญ่ที่กลัวความผิด มักจะกินปูนร้อนท้องเสมอ" นายเสกสกล กล่าว

มท. จ่อชง ครม. ขอต่ออายุ คก.พัฒนาตำบลแบบบูรณาการ คงสภาพ จ้างงานบัณฑิตป.ตรี 14,510 คน ใน 7,255 ตำบล บรรเทาความเดือดร้อนจากโควิด-19 

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รัฐบาลได้ผลักดันหลายโครงการที่เป็นการจ้างงานเพื่อให้ผู้ได้รับผลกระทบยังมีรายได้ ซึ่งรวมถึงโครงการพัฒนาตำบลแบบบูรณาการ (Tambon Smart Team) โดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นการจ้างงานเพื่อจัดเก็บข้อมูลและบันทึกข้อมูลในระดับตำบลในทุกมิติทั้ง 12 ด้าน เพื่อนำข้อมูลมาประมวลผล และสร้างแพลตฟอร์มให้หลายภาคส่วนสามารถเข้ามาดูข้อมูลแต่ละพื้นที่ เช่น แต่ละตำบลมีพืชเศรษฐกิจอะไรบ้าง มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจยังไงบ้าง ซึ่งมีการประมวลผลทุกเดือน โดยโครงการดังกล่าวมีกรอบระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ 1 ต.ค.2563 - 30 ก.ย. 2564 โดยได้จ้างงานประชาชนที่จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี หรือเทียบเท่า จำนวน 7,255 ตำบล ตำบลละ 2 อัตรา รวม 14,510 อัตรา (ครอบคลุม 878 อำเภอ ในพื้นที่ 76 จังหวัด) อัตราจ้างเหมา 15,000 บาทต่อเดือน  

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวได้ช่วยบรรเทาความเดือนร้อนให้กับประชาชนที่หางานทำได้ยากในช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาด รวมถึงได้เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือนผ่านมาตรการการจ้างงาน ผู้ร่วมโครงการเกิดสร้างทักษะ ประสบการณ์การทำงาน ที่สามารถนำไปต่อยอดใช้ประโยชน์ในชีวิต กระทรวงมหาดไทยจึงได้พิจารณาต่อโครงการฯ จากที่จะสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2564 นี้ ออกไปอีก

เพื่อให้ประชาชนยังมีงานทำ และสานต่อการจัดทำฐานข้อมูลระดับตำบลให้เสร็จสมบูรณ์ เป็นกลไกสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากผลกระทบของโควิด-19 ต่อไป สำหรับความคืบหน้าล่าสุดนั้น กระทรวงมหาดไทยได้เสนอเรื่องการต่ออายุโครงการไปยังสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) หรือสภาพัฒน์ ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ โดยสภาพัฒน์อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียด เร็วๆนี้คาดว่าจะได้เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาอนุมัติ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า โครงการพัฒนาตำบลแบบบูรณาการ ซึ่งดำเนินการในปีงบประมาณ 2564(ต.ค.63-ก.ย.64) จ้างประชาชนเก็บข้อมูลระดับตำบล 12 ด้าน เช่น โครงสร้างพื้นฐานและกายภาพ ,การปกครองและความมั่นคง,สาธารณภัย,สาธารณสุข,ที่ดิน,การผังเมือง,ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม,เศรษฐกิจ,เกษตรกรรม,อุตสาหกรรม,การบริการและการท่องเที่ยว และสังคมและการศึกษา รวมเป็นฐานข้อมูลแบบบูรณาการ (Data Base) สามารถใช้สำหรับการวางแผนพัฒนาพื้นที่ในทุกระดับ และเป็นฐานข้อมูลกลางที่เปิดเผยต่อสาธารณชน (Single opened-data system) ให้ทุกภาคส่วนของรัฐ เอกชน ภาคประชาสังคมต่างๆ สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ร่วมกันในข้อมูลชุดเดียวกัน การจ้างแรงงาน 14,510 อัตรา ใช้จ่ายงบประมาณจาก พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563  อยู่ภายใต้ภายใต้แผนงานส่งเสริมและกระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือนและเอกชน งบประมาณ 2,701.87 ล้านบาท


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top