Wednesday, 2 July 2025
NEWS

เพจดัง ไขข้อเท็จจริงเวนคืนที่ทำรถไฟความเร็วสูง หลังมีคนปั่นกระแสค้านเวนคืนที่สร้างสถานีโคราช

เพจเฟซบุ๊ก ‘โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure’ ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีมีการปั่นกระแสคัดค้านการเวนคืนที่ดินบริเวณพื้นที่ก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูง สถานีนครราชสีมา โดยระบุว่า 

ขอบเขตการเวนคืน ที่คุณอาจจะเข้าใจผิด!!!

ขอบเขตการเวนคืน มีไว้เพื่อสำรวจพื้นที่ ก่อนการเวนคืนจริง!!! ไม่ใช่เวนคืนทั้งหมด!!! อย่าพึ่งตีตนไปก่อนไข้!!!

โดยแอดมินเพจ ระว่า บอกตามตรง ว่าผมเห็น Content จากทางโคราช (ขอไม่อ้างถึงเพจ) มาหลายวัน แล้วเหนื่อยใจจากความไม่เข้าใจ (หรือตั้งใจปั่นกระแสคัดค้านก็ไม่ทราบ) 

โดยการเอาภาพแผนผังขอบเขตการเวนคืนเพื่อก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ทาบกับ ภาพถ่ายดาวเทียม จาก Google Map แล้วมาให้ดูว่ามีการเวนคืนกว้างถึง 800 เมตร 

ซึ่งมีการทาบไปบนพื้นที่ในเขตพื้นที่หนาแน่น ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีการตกใจ และทักมาหาผม ถามว่าบ้านเค้าจะโดนเวนคืนมั้ย?? ทำไมต้องเวนคืนมากขนาดนั้น?? และก็ด่าโครงการรถไฟความเร็วสูง มากมาย บางคนลามไปถึงจะเตรียมประท้วงคัดค้านการเวนคืนกันแล้ว

ผมเลยขอมาให้ข้อมูลที่ “แท้จริง” กับทุกคนก่อนว่า อันนี้เป็นแนวเขตเพื่อ “สำรวจ” ไม่ใช่เวนคืนทั้งหมด การที่ต้องออกพื้นที่มามากกว่าการใช้งานจริงๆ เพื่อไม่ต้องให้ขอมติครม. และ ออก พรฏ. บ่อยๆ (ซึ่งออกยากมาก) ดังนั้นต้องทำให้กว้าง เพื่อความสะดวกในการปรับแก้ไข หรือเวนคืนเพิ่มเติมตามความจำเป็นของโครงการ เท่านั้น!!!!

มาดูรายละเอียดพื้นที่สถานีรถไฟความเร็วสูงนครราชสีมา (โคราช) “จริงๆ” ตามแบบกันก่อนครับ

ตำแหน่งสถานีใช้พื้นที่สถานีเดิม และเขตพื้นที่ของการรถไฟเดิม โดยสร้างเป็นสถานี 3 ชั้น

ซึ่งสถานีนครราชสีมา จะมีลักษณะคล้ายกับสถานีบางซื่อรวมรถไฟทั้ง 2 ระบบ คือรถไฟทางไกล และรถไฟความเร็วสูง โดยจะมี 3 ชั้น 

ชั้นที่ 1 โถงพักรอคอย และทางเข้าอาคาร

ชั้นที่ 2 ชั้นจำหน่ายตั๋ว และชานชลารถไฟทางไกล

ชั้นที่ 3 ชานชลารถไฟความเร็วสูง

สถานที่ตั้งสถานีใหม่อยู่บริเวณย่านสถานีรถไฟนครราชสีมาในปัจจุบัน (ขยับไปทางชุมทางถนนจิระประมาณ 160เมตร) และมีการเวนคืนที่ดินเพิ่มเติมเล็กน้อย

ภาพ Render ของสถานีนครราชสีมา
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/629142004190949/?d=n

ซึ่งในภาพผมก็ได้เอาผังสถานีที่จะมีการใช้งานจริง รวมถึงการเวนคืน มาให้อ่านแล้วลองพิจารณาดูครับ ว่าเค้าจะเวนคืนเต็ม 800 เมตร ตามเอกสารจริง ๆ มั้ย???

ไปดูแผนผังจริงได้ที่สถานีรถไฟนครราชสีมา (โคราช)

รายละเอียดการเวนคืน ตาม พรฏ. เวนคืน

โดยตาม พรฏ. เวนคืนเล่มนี้ก็ได้เขียนจุดประสงค์ การเวนคืนไว้

มาตราที่ 3 “ที่ดินที่จะเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการสร้าง ทางรถไฟ เครื่องประกอบทางรถไฟ ทาง และสิ่งจำเป็นอื่นตามโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาล แห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย (ระยะที่ ๑ ช่วงกรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา)”

มาตราที่ 6 ให้เริ่มต้นเข้า”สำรวจ” ที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ภายในแนวเขตที่ดิน ที่จะเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกานี้ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ

มาตราที่ 7 ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าหน้าที่ในการเวนคืน

หมายเหตุ ท้าย พรฏ. เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็ว แก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค “สมควรกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน”ในท้องที่ดังกล่าว “เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทาการสำรวจเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์” ที่ต้องได้มา โดยแน่ชัด

'ทิพานัน' เตือน อย่าแลก 'คนละครึ่งเฟส 5' เป็นเงินสด ชี้!! ระบบตรวจสอบได้หมด แถมมีโทษหนักถึงขั้นติดคุก

เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 65 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่รัฐบาล เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่าระหว่างวันที่ 1-4 ก.ย. มีผู้ใช้สิทธิสะสม 14.24 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 5,885.1 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 2,981.8 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 2,903.3 ล้านบาท 

ทั้งนี้รัฐบาลได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและติดตามตรวจสอบอย่างใกลชิด ไม่ให้เกิดการทำธุรกรรมและพฤติกรรมที่ผิดปกติ หรือมีการใช้จ่ายที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการ เพื่อป้องกันปัญหาการทุจริต ให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม แต่พบว่ามีกลุ่มบุคคลที่ใช้วิธีการเดิม คือการแลกสิทธิจากโครงการคนละครึ่งเป็นเงินสด โดยพบว่ามีรายงานการโฆษณาในช่องทางทวิตเตอร์ ช่องทางกลุ่มเฟซบุ๊ก เชิญชวนให้ผู้สนใจนำสิทธิมาแลกรับเป็นเงินสด โดยจะมีการหักค่าหัวคิว ในอัตรา 20-40 บาท จึงขอเตือนพี่น้องประชาชนและร้านค้าอย่าแลกสิทธิเด็ดขาด เพราะระบบตรวจสอบย้อนหลังได้ทั้งหมด และที่สำคัญการแลกวงเงินสิทธิเป็นเงินสด ถือเป็นการกระทำที่ทุจริตผิดกฎหมาย เข้าข่ายความผิดฐาน 'ฉ้อโกง' เพราะมีเจตนาหลอกลวงผู้อื่น ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งโดยทุจริต ทำให้ได้ประโยชน์ทางทรัพย์สินไปจากผู้ถูกหลอกคือรัฐ มีโทษจำคุกถึง 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 341

“รัฐบาลใช้ระบบตรวจจับและตรวจสอบการโอนที่ผิดปกติของเงินคนละครึ่ง เพื่อป้องกันและมีมาตรการลงโทษแน่นอน ทั้งนี้รัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และฟื้นฟูเศรษฐกิจ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์เพื่อความโปร่งใสและตรวจสอบได้ อย่างซื่อสัตย์สุจริต ฉะนั้น จึงขอให้พี่น้องประชาชนและร้านค้าระมัดระวัง ไม่เช่นนั้นอาจได้ไม่คุ้มเสีย” น.ส.ทิพานัน กล่าว

งานประชุมวิชาการประจำปี 2565 ฝ่ายการพยาบาลโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย

ท่ามกลางสังคมในยุคของการเปลี่ยนแปลงของประชากร การใช้เทคโนโลยีการสื่อสารอย่างไร้พรมแดน ตลอดจนสถานการณ์ของโรคระบาด covid-19 และโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เป็นปัญหาที่ไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไร ทำให้ทุกองค์กร ทุกวิชาชีพ ต่างต้องปรับตัวเพื่อการอยู่รอด เพื่อความมั่นคง และเกิดความยั่งยืน จำเป็นต้องมีการพัฒนาให้เกิด  Digital transformation ทั้งด้านการบริหาร การบริการ การศึกษา และการสร้างสรรค์นวตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน ฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้ตระหนักเห็นถึงปัญหาดังกล่าว ที่มีความสำคัญและท้าทายสำหรับพยาบาลในปัจจุบันและอนาคต

จึงได้จัดประชุมวิชาการพยาบาล ประจำปี 2565 หัวข้อ NURSING IN THE DIGITAL EDGE ในวันที่ 30 – 31 สิงหาคม พ.ศ. 2565 เพื่อให้ผู้เข้าร่วมการประชุมได้พัฒนาสมรรถนะด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ และ ทักษะการดูแลผู้ป่วยโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับบริการการพยาบาลที่มีมาตรฐานสูง เข้าถึงบริการได้อย่างทั่วถึงรวดเร็ว ถูกต้อง และปลอดภัย รูปแบบการประชุมเป็นการบรรยายและการอภิปราย โดยคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์และ สถาบันต่าง ๆ ผ่านระบบ Hybrid Meeting

โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมประชุมเป็นพยาบาลวิชาชีพทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ทั่วประเทศ จำนวน 554 คน เป็นพยาบาลที่ประชุม on site จำนวน 433 คน และแบบ on line จำนวน 121 คน ในระยะเวลาการประชุมทั้ง 2 วัน ผู้เข้าประชุมได้รับองค์ความรู้อย่างมากมายทั้ง หัวข้อ Digital transformation ทั้งในระดับ Healthcare system and nursing service , PDPA for healthcare , Metaverse hospital sharing ,Digital in continuing professional development and lifelong learner ทั้งหมดนี้จะส่งเสริมให้พยาบาลมีองค์ความรู้ด้าน High Technology แต่ศาสตร์ทางการพยาบาลที่ทุกคนไม่ควรลืมและละทิ้งโดยเด็ดขาดคือ High Touch

จึงนำมาเป็นหัวข้อสุดท้ายในการประชุมวิการพยาบาลครั้งนี้ ถึงแม้การประชุมจะเสร็จสิ้นไปแล้วก็ตาม แต่จากข้อเสนอแนะของผู้เข้าร่วมประชุม จะเป็นแรงผลักดันให้ฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย จะไม่สิ้นสุดในการพัฒนาคุณภาพบริการพยาบาลที่เป็นต้นแบบ และยินดีที่จะนำเสนอ แบ่งปันองค์ความรู้ดังกล่าวให้แก่พยาบาลทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อให้สมกับคำว่า นักรบชุดขาว ที่ปวารณาตัวจะต่อสู้และผ่าฟันต่อการเปลี่ยนแปลงและสถานการณ์ที่เลวร้ายต่างๆ สามารถนำศาสตร์และศิลป์ทั้งด้าน High Touch และ High Technology มาให้การพยาบาล เพื่อให้ประชาชนทุกคน มี สุขภาวะที่ดี อย่างยั่งยืนตลอดไป

เจ้าของร้านบุฟเฟต์ โอด ลูกค้าตักอาหารแต่ทานไม่หมด พ้อ!! ท้อใจมาก เพราะเหลือทิ้งต่อวันไม่ใช่น้อยๆ

เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่มีคนให้ความสนใจเยอะมากบนโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Chotima Rungroj เจ้าของร้านบุฟเฟต์แห่งหนึ่ง ได้เผยอีกมุมที่เจ้าของกิจการบุฟเฟต์ต้องเจอ เมื่อผู้บริโภคมักจะชอบตักอาหารมาเยอะ เพื่อความคุ้มค่าของการทานบุฟเฟต์ แต่ทานไม่หมด เหลือเยอะจนน่าตกใจ

โดยทางเจ้าตัวได้ระบุข้อความว่า ‘ท้อใจมาก อาหารที่เหลือแต่ละโต๊ะ ต่อโต๊ะ ต่อวัน ปูดำปูทะเลหามาให้ก็ย่างทิ้งขว้างเยอะมากมากๆ เนื้อสเต๊กที่เติมให้ไม่เคยขาดก็ย่างจนแห้ง หมกในเตาในหม้อ โดยที่ไม่ได้รู้สึกเสียดาย เพียงแค่เพราะเราคือบุฟเฟต์…’

อีกทั้งยังเผยความรู้สึกต่ออีกว่า ‘ทำดีไปเพื่ออะไร ปรับปรุงร้านไปเพื่ออะไร ไม่เคยมีป้ายปรับให้รกตา ยิ่งไม่แคร์ มาบุฟเฟต์ทั้งทีกุ้งก็เอาให้คุ้มเลยพวกเรา ย่างทิ้ง ๆ สิบโลก็ผ่านมาแล้ว’

เผยโครงการไกล่เกลี่ยหนี้ฯ ช่วยคนกว่า 6 หมื่นราย ‘สมศักดิ์’ ชวนปชช.ร่วมงาน 8-11 ก.ย.นี้ ที่เมืองทองธานี

‘ส.ส.ธนกร’ เผยความสำเร็จโครงการไกล่เกลี่ยหนี้ช่วยประชาชนแล้วทั่วประเทศกว่า 6 หมื่นราย ‘สมศักดิ์’ เดินหน้าเก็บตก ชวนประชาชนที่มีข้อพิพาทร่วมงาน 8-11 กันยายน นี้ ที่เมืองทองธานี

นายธนกร วังบุญคงชนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคพลังประชารัฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความสำเร็จของการขับเคลื่อน ‘มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน’ ของกระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมกันดำเนินการ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อน ‘ปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน’ ซึ่งได้จัดกิจกรรม ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนสิงหาคม 2565 มาแล้วทั้งสิ้น 77 ครั้ง ทั่วประเทศ มีผู้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย รวมทั้งสิ้น 105,700 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ จำนวน 64,267 ราย คิดเป็นร้อยละ 95.59 ทุนทรัพย์ 13,001 ล้านบาท สามารถลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชนในการดำเนินคดีได้ถึง 5,621 ล้านบาท

นายธนกร กล่าวต่อไปว่า การจัดมหกรรมยุติธรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนฯ ทั่วประเทศ ที่ผ่านมา ถือว่าประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมจะจัดกิจกรรมมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนและ SMEs อีกครั้งภายใต้ชื่องาน ‘มีหนี้ต้องแก้ไข รุกก้าวไปอย่างยั่งยืน’ ระหว่างวันที่ 8-11 กันยายน 2565 เวลา 09.00 16.30 น. ณ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอล์ล 5 เมืองทองธานี

อัปเดตราคา 'หมู-เนื้อ-ไก่'

อัปเดตราคาอาหารสดวันนี้ มาดูกันว่าตามท้องตลาด ราคาอาหารสด ประจำวันที่ 5 กันยายน 2565 จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็น ราคาหมู ราคาไก่ ราคาไข่ไก่ รวมไปถึงราคาผักสด เช็กกันเลย..

สุรนันทน์ แนะภาครัฐพัฒนาตลาดรัฐให้เทียบเท่าตลาดเอกชน

เมื่อช่วงเย็น วันที่ 4 กันยายน 2565 นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรค ในฐานะหัวหน้าทีมกรุงเทพ พรรคสร้างอนาคตไทย, นายอัศวิน คูร์พิพัฒน์ ผู้ประสานงานพรรค เขตบึงกุ่ม คันนายาว, นายพันธุ์ปิติ โพธิ์วิจิตร ผู้ประสานงานพรรค เขตมีนบุรี พร้อมทีมงานพรรคสร้างอนาคตไทย ได้พบปะพ่อค้าแม่ค้าในตลาดปัฐวิกรณ์ 

นายสุรนันทน์ กล่าวว่า หลังจากได้พูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดแล้วก็ได้รับการตอบรับที่ดี และได้รับรู้ถึงปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะสภาวะเศรษฐกิจที่ยังถดถอยไม่ฟื้นตัวในขณะนี้ ส่งผลให้ผู้มาจับจ่ายใช้สอยลดน้อยลง ถึงแม้สินค้าที่ขายจะเป็นสินค้ามือสองที่ราคาค่อนข้างถูกกว่าสินค้าใหม่ทั่วๆ ไปก็ตาม

'หมอยง' ชี้!! โควิด 19 แนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น จากการฉีดวัคซีนและการติดเชื้อไปแล้วจำนวนมาก

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า โควิด 19 แนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น จากการฉีดวัคซีนและการติดเชื้อไปแล้วจำนวนมาก

ภาพรวมของ covid 19 มีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้น

ประชากรส่วนใหญ่ มีภูมิต้านทานเกิดขึ้น จากการฉีดวัคซีน มีการฉีดวัคซีนไปแล้วเกือบ 143 ล้านโดส แต่เมื่อดูการฉีดครบ 2 เข็ม ก็อยู่ประมาณเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ และการฉีด 3 เข็ม ประมาณเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่เรามีวัคซีนเพียงพอ และอยากให้มีการฉีดวัคซีนให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง

ในขณะเดียวกันประชากรส่วนใหญ่ มีภูมิต้านทานเกิดขึ้นจากการติดเชื้อโดยธรรมชาติ ยอดการติดเชื้อที่มีการแจ้งให้ทราบ เป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าความเป็นจริงมาก ในความเป็นจริงประชากรไทยติดเชื้อไปแล้วมากกว่าครึ่งหนึ่ง

‘อรุณี’ รองเลขาฯ เพื่อไทย เรียกร้อง ‘พล.อ.ประวิตร’ ผอ.กอ.รมน.สั่งตรวจสอบระบบการฝากกำลังพลใน กอ.รมน. หลังเกิดกรณี ‘ส.ต.ท.หญิง’ ไม่ใช่แก้ไขรายกรณี ชี้ 8 ปี ‘พล.อ.ประยุทธ์’ สร้างระบบเผด็จการ แผ่อำนาจ กอ.รมน.

น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง กรณี ผลการสอบของคณะกรรมการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. เรื่องการมาช่วยราชการของ ส.ต.ท.หญิง เป็นการขอมาช่วยราชการเอง พิจารณาแล้วเหมาะสม และได้มีคำสั่งให้พ้นหน้าที่โดยมีผลย้อนหลังนั้น การกระทำดังกล่าวถือว่าจบ แต่คำถามที่สังคมสงสัย คือกรณีแบบนี้มีอีกกี่คน และใครควรต้องรับผิดชอบ กอ.รมน.เองใช้จ่ายเงินภาษีของประชาชนอย่างคุ้มค่าหรือไม่ เพราะทุกวันนี้ประชาชนทุกข์ยากลำบากจากสภาวะเศรษฐกิจแค่ไหน แต่ก็ยังต้องจ่ายภาษีทุกวัน เพื่อให้ผู้มีอำนาจบางคนถลุงเงินภาษีไปในทางที่ไม่เหมาะสม

น.ส.อรุณี กล่าวว่าที่ผ่านมา ในขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ บริหารประเทศ ได้มีการออกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 312/2562 แบ่งโครงสร้าง กอ.รมน.ใหม่ 17 หน่วยงาน ให้หน้าที่ อำนาจส่วนงาน ศูนย์ประสานการปฏิบัติ กอ.รมน.ภาค จังหวัด ขึ้นตรงกับ ผอ.กอ.รมน. ส่วนอัตรากำลังให้ ผอ.กอ.รมน. จัดสรรจำนวนตามที่ ครม.กำหนดให้เพียงพอกับความจำเป็นและยังให้หน่วยงานของรัฐให้การสนับสนุนตามที่ได้รับการประสานและร้องขอ

‘บิ๊กป้อม’ ฟิตจัด วางคิวตจว.ทุกวันจันทร์ ตลอดเดือน ก.ย. ‘กระบี่-ตาก-นราธิวาส’ ดูบริหารจัดการน้ำ-ที่ดินทำกิน

4 ก.ย. 2565 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก ‘พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี General Prawit Wongsuwon’ที่ระบุ FC ทำขึ้น ได้โพสต์ข้อความว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี มีการวางกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการต่างจังหวัดทุกวันจันทร์ตลอดทั้งเดือน ก.ย. 2565
.
โดยในวันที่ 5 ก.ย. มีกำหนดการลงพื้นที่จ.กระบี่ วันที่ 12 ก.ย.ลงพื้นที่จ.ตาก และวันที่ 19 ก.ย.ลงพื้นที่จ.นราธิวาส ซึ่งการลงพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นการลงพื้นที่เพื่อปฏิบัติภารกิจทั้งในฐานะรองนายกฯ และรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีควบคู่ไปด้วย ทั้งในส่วนงานที่รับผิดชอบเรื่องปัญหาแรงงาน, ปัญหาเกษตรกรชาวสวนปาล์ม การบริหารจัดการน้ำ การบริหารจัดการที่ดิน, การแก้ปัญหาด้านที่ดินทำกินให้เกษตรกรและคนยากจน การคืนโฉนดอนุญาตทำประโยชน์ ส.ป.ก.4-01 เป็นต้น

8 ปี 'ภาคเหนือ' รัฐบาล 'ลุงตู่' จัดให้!!

ตั้งแต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาบริหารประเทศ เกิดการพัฒนาทั่วทุกภาคของประเทศ ในส่วนการพัฒนาภาคเหนือ มีการกำหนดให้พื้นที่จังหวัดเชียงราย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดลำพูน และจังหวัดลำปาง เป็นระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือเพื่อยกระดับให้เป็นพื้นที่ลงทุนด้านการพัฒนาให้เป็นฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์หลักของประเทศอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน 

การพัฒนาและผลงานที่เป็นรูปธรรมและเอื้อประโยชน์ให้แก่พี่น้องชาวภาคเหนือมีมากมายหลายโครงการ ขอยกตัวอย่างมาให้เห็นคร่าวๆ ดังนี้

1.) พัฒนาศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ ที่เชียงราย

2.) เชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวอารยธรรมล้านนา การท่องเที่ยวธรรมชาติและสุขภาพ ตามเส้นทางเมืองเก่าลำพูน ลำปาง เชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน

3.) ปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวงหมายเลข 11 ตอนแยกภาคเหนือ-ขุนตาล จาก 4 ช่องจราจรเป็น 8 ช่องจราจร

4.) พัฒนาทางหลวงหมายเลข 116 ตอนป่าสัก-สะปุ๋ง-บ้านเรือน-สันป่าตอง จาก 2 ช่องจราจรเป็น 4 ช่องจราจร ระยะทาง 19 กม.

5.) พัฒนาทางหลวงหมายเลข 10.35 ตอนวังหม้อพัฒนา-แจ้ห่ม ระยะทาง 19 กม.

6.) ก่อสร้างส่วนขยายสะพานข้ามทางแยกต่างระดับ แยกภาคเหนือ จุดตัดทางหลวงหมายเลข 1 ตอนเกาะคา-สามัคคี กับทางหลวงหมายเลข 11 ตอนแยกภาคเหนือ-ขุนตาน

7.) ก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ ทางหลวงหมายเลข 1136 ตอนเหมืองง่า-ลำพูน เพื่อเชื่อมทางเลี่ยงเมืองลำพูน สายเหมืองง่า-ท่าจักร และเชื่อมโยงจังหวัดเชียงใหม่

8.) ก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองแม่ริม เมืองสันกำแพง

9.) สร้างสถานีขนส่งสินค้าจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าในภูมิภาค

10.) ปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่มรดกทางวัฒนธรรม 'เมืองเก่าลำพูน'

11.) พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานบริเวณถนนนิมมานเหมินทร์ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำ

12.) ขยายท่าอากาศยานฯ และการศึกษาความเหมาะสมการขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อ (Logistic) เชื่อมต่อจากจังหวัดลำปาง-จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุน และลดต้นทุนการขนส่งน้ำมัน

อัปเดตราคา 'หมู-เนื้อ-ไก่' ประจำวันที่ 3 กันยายน 2565

อัปเดตราคาอาหารสดวันนี้ มาดูกันว่าตามท้องตลาด ราคาอาหารสด ประจำวันที่ 3 กันยายน 2565 จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็น ราคาหมู ราคาไก่ ราคาไข่ไก่ รวมไปถึงราคาผักสด เช็กกันเลย...

ครบรอบปีที่ 85 “วันเรือดำน้ำ” กองเรือดำน้ำ กองเรือยุทธการ จัดงานวันเรือดำน้ำ ประจำปี 2565

(2 ก.ย.65) พลเรือเอกสมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบหมายให้ พลเรือเอก สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นผู้แทนในการเป็นประธานในงาน “วันเรือดำน้ำ” ประจำปี 2565 วันที่ 4 ก.ย.65 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติ ให้แก่อดีตทหารเรือที่เป็นนักดำเรือดำน้ำ และรำลึกถึงอดีตนักดำเรือดำน้ำผู้ล่วงลับไปแล้ว ตลอดจนรำลึกประวัติศาสตร์การมีเรือดำน้ำของกองทัพเรือ รวมทั้งเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับบทบาทความสำคัญของเรือดำน้ำ และแนวคิดในการดำเนินงานเกี่ยวกับการพัฒนาขีดความสามารถเรือดำน้ำของ ทร.ในปัจจุบัน

เมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ.2480 หรือเมื่อ 85 ปีที่แล้ว เป็นวันที่สำคัญยิ่งอีกหน้าหนึ่งที่ต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของกองทัพเรือไทย ที่กองทัพเรือได้ประกอบพิธีรับมอบเรือดำน้ำ คือ เรือหลวงมัจฉาณุ และเรือหลวงวิรุณ ณ อู่ต่อเรือ มิตซูบิชิ เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ธงราชนาวีไทยได้โบกสะบัดอย่างสง่างามบนยอดเสาเรือดำน้ำ ณ บริเวณท้ายเรือหลวงมัจฉาณุ และเรือหลวงวิรุณเป็นครั้งแรกซึ่งนับได้ว่าเป็นเรือดำน้ำ 2 ลำแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

จากนั้น ในปี พ.ศ.2481 บริษัท มิตซูบิชิ ได้ต่อเรือดำน้ำจนครบทั้ง 4 ลำ ตามสัญญาการว่าจ้างจากกองทัพเรือเสร็จสมบูรณ์ ประกอบด้วย เรือหลวงมัจฉาณุ เรือหลวงวิรุณ เรือหลวงสินสมุทร และเรือหลวงพลายชุมพล โดยเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ.2481 เรือดำน้ำทั้ง 4 ลำ ได้ออกเดินทางจากประเทศญี่ปุ่นและเดินทางถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ.2481 ตามลำพัง โดยปราศจากเรือพี่เลี้ยงซึ่งยังความประหลาดใจแก่ชาวญี่ปุ่นรวมทั้งชาวอเมริกันเป็นอันมากเนื่องด้วยเรือดำน้ำขนาดเล็กเช่นนี้ การออกทะเลหลวงในยามปกติ มักมีเรือพี่เลี้ยงคอยติดตามอยู่ใกล้ๆ ในระยะปลอดภัยทั้งสิ้น นับเป็นการแสดงถึงความกล้าหาญและความสามารถของกำลังพลประจำเรือดำน้ำของกองทัพเรือ ที่ได้ปรากฏแก่สายตาอารยะประเทศ นอกจากนี้ ระหว่างที่เรือดำน้ำทั้ง 4 ลำ ประจำการมีภารกิจที่สำคัญที่ต้องจารึกไว้คือ เมื่อกรณีพิพาทอินโดจีนฝรั่งเศส แม้ว่าเรือหลวงธนบุรี และเรือตอร์ปิโดของไทยถูกเรือรบฝรั่งเศสยิงจมลงแต่ทว่าเรือหลวงมัจฉาณุ เรือหลวงวิรุณ เรือหลวงสินสมุทร และเรือหลวงพลายชุมพลก็มิได้เสียขวัญยังคงปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบอย่างสุดความสามารถ โดยได้วางกำลังลาดตระเวนอยู่บริเวณหน้าฐานทัพเรือเรียมของอินโดจีน-ฝรั่งเศส โดยในเวลากลางวันจะทำการดำอยู่ใต้น้ำ  ส่วนกลางคืนแล่นลาดตระเวนบนผิวน้ำเพื่อประจุแบตเตอรี่ นับเป็นปฏิบัติการใต้น้ำเพื่อเป็นการปกป้องอธิปไตยในยามสงครามครั้งแรกของเรือดำน้ำไทยโดยภายหลัง จดหมายเหตุฝ่ายฝรั่งเศสจารึกยุทธนาวีที่เกาะช้างไว้ว่าฝรั่งเศสมีความหวั่นเกรงเรือดำน้ำทั้ง 4 ลำ ของไทย เป็นอย่างมาก จึงตัดสินใจหลีกเลี่ยงการเข้ามาปฏิบัติการในอ่าวไทยหากมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด จะเข้าพื้นที่ปฏิบัติการเพื่อปฏิบัติภารกิจ ที่ได้รับมอบในช่วงระยะเวลาอันสั้น และเมื่อปฏิบัติการแล้วเสร็จจะถอนกำลังกลับทันที เนื่องด้วยเกรงว่าจะถูกโจมตีจากเรือดำน้ำ

ในวาระที่วันเรือดำน้ำเวียนมาบรรจบครบรอบปีที่ 85 ในวันที่ 4 กันยายน พ.ศ.2565 นี้ ขอเชิญชวนท่านทั้งหลายน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และจอมพลเรือ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ที่ได้ทรงวางรากฐานกิจการเรือดำน้ำให้แก่กองทัพเรือ และพร้อมใจกันร่วมเชิดชูเกียรติประวัติ ของกำลังพลประจำเรือดำน้ำแห่งราชนาวีไทยในอดีต ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยกล้าหาญ ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ กำลังสติปัญญาสละเลือดเนื้อและชีวิตให้กับกองทัพเรือและอธิปไตยของประเทศชาติ

ปัจจุบัน ประเทศไทยมีผลประโยชน์ทางทะเล นับเป็นหลายล้านล้านบาทต่อปี และนับวันจะทวีมูลค่ามากขึ้นในอนาคต ดังนั้น การปกป้องผลประโยชน์ของชาติทางทะเล โดยการเสริมสร้างกำลังทางเรือจึงเป็นความจำเป็น เพื่อให้มีกำลังทางเรือที่สมดุลทัดเทียมกันในภูมิภาค หรือ เพื่อให้มีศักยภาพในการรบที่ใกล้เคียงกันหรือเหนือกว่า ทั้งนี้ในปัจจุบันประเทศต่างๆ ในภูมิภาคได้เสริมสร้างกำลังทางเรือเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกำลังเรือดำน้ำ ทำให้เมื่อเปรียบเทียบขีดความสามารถของกำลังทางเรือแล้ว กองทัพเรือมีความเสียเปรียบอย่างยิ่ง จึงมีความจำเป็นต้องจัดหาเรือดำน้ำเข้าประจำการ จึงจะรักษาสมดุลย์กำลังทางเรือในการรักษาความมั่นคงทางทะเลในปัจจุบันได้ โดยเรือดำน้ำ ถือเป็นเรือรบที่มีศักยภาพสูงที่สุดในบรรดาเรือรบด้วยกัน เป็นอาวุธที่มองไม่เห็น ตรวจจับยาก ปฏิบัติการได้ไกล และมีอำนาจการทำลายรุนแรง สามารถสร้างความยำเกรงให้กับฝ่ายตรงข้ามที่มีกำลังทางเรือเหนือกว่าอย่างมากได้ เรือดำน้ำจึงจะเข้ามาเสริมเติมเต็ม ให้กองทัพเรือมีขีดความสามารถครบทุกมิติ คือ ผิวน้ำ ใต้น้ำ และ ในอากาศ ซึ่งจะเป็นหลักประกันในการรักษาอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติอย่างมั่นคงสืบไป

​​​

ศรชล.จัดการฝึกปฏิบัติการร่วม ประจำปี 65 เพื่อเตรียมความพร้อมในการแก้ไขวิกฤตของชาติทางทะเล เป็นหลักประกันที่มอบให้กับชาติและประชาชาชน

(2 ก.ย.) พลเรือเอก เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ เสนาธิการทหารเรือในฐานะเลขาธิการ ศรชล.ตรวจเยี่ยมการฝึกปฏิบัติการร่วม ศรชล. ประจำปี 2565  ใน 2 หัวข้อ “1.การต่อต้านการก่อการร้ายทางทะเล และ 2.การปราบปรามการลักลอบขนอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงทางทะเล" โดยมี พลเรือโท ประวิณ  จิตตินันท์ รองเลขาธิการ ศรชล. พลเรือโท พิชัย  ล้อชูสกุล ผู้อำนวยการ ศรชล.ภาค 1 ผู้บริหารจากสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ และหน่วยงานหลักทั้ง 7 หน่วยงานใน ศรชล. ประกอบด้วย กองทัพเรือ กรมเจ้าท่า กรมประมง กรมศุลกากร กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กองบังคับการตำรวจน้ำ และกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ร่วมชมการฝึก ณ เรือหลวงจักรีนฤเบศร ท่าเรือจุกเสม็ด อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

พลเรือตรี อิทธิพัทธ์ กวินเฟื่องฟูกุล โฆษก ศรชล. กล่าวว่า การฝึกปฏิบัติการร่วม ศรชล. ประจำปี 2565 ภายใต้หัวข้อ “การฝึกการต่อต้านการก่อการร้ายทางทะเล และการปราบปรามการลักลอบขนอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง สินค้าทางทะเลที่ผิดกฎหมายหรือสินค้าต้องห้ามตามพันธกรณีระหว่างประเทศ” โดยใช้กำลังหลักของ ศรชล.ภาค 1 ดำเนินการฝึก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ ประจำปี 2565 เป็นการบูรณาการปฏิบัติการร่วมกับกำลังทางเรือของหน่วยงานหลักใน ศรชล. โดยมีเรือจากกองทัพเรือ ประกอบด้วยเรือหลวงจักรีนฤเบศร, เรือหลวงสิมิลัน,  เรือหลวงตากใบ กรมศุลกากร กองบังคับการตำรวจน้ำ เฮลิคอปเตอร์จากกองทัพเรือ 3 ลำ ชุดปฏิบัติการพิเศษ จากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ พร้อมนำเรือปฏิบัติการพิเศษแบบใหม่ หรือที่เรียกกันว่า เรือยางท้องแข็งทางยุทธวิธี จำนวน 2 ลำ มาร่วมฝึกด้วย รวมทั้งได้จัดชุดแพทย์ฉุกเฉิน จากโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ ชุดถอดทำลายอมภัณฑ์ จากกรมสรรพาวุธทหารเรือ และชุดตรวจอาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างสูง จากกรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ และสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ 

สภาเกษตรแถลงความสำเร็จคูปองดิจิทัลเพื่อประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล (Depa mini transformation voucher)

(2 ก.ย.65) สภาเกษตรกรจังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล จัดงานแถลงความสำเร็จในการดำเนินงานโครงการส่งเสริมและสนับสนุนและส่งเสริมคูปองดิจิทัลเพื่อประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล (Depa mini transformation voucher) ประจำปีงบประมาณ 2565 โดยมี นายศรีษะเกษ สมาน รองเลขาธิการสภาเกษตรกรแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม และ สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดฉะเชิงเทรา ผู้แทนองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา หัวหน้าส่วนราชการ และเกษตรกรผู้สมัครเข้าร่วมโครงการ เข้าร่วมงานดังกล่าวฯ ณ ห้องบางปะกง โรงแรม ที วินเทจ บางคล้า ตำบลท่าทองหลาง อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา 

โดยทางสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ได้สนับสนุนเงินอุดหนุนคูปองดิจิทัลให้แก่สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 100 คูปอง คูปองละ 10,000 บาท รวมทั้งสิ้น 1 ล้านบาท โดยสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นหน่วยงานในการประชาสัมพันธ์เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลและรับสมัครเกษตรกรผู้สนใจเข้าร่วมโครงการฯ ในพื้นที่ จังหวัดฉะเชิงเทราและจังหวัดไกล้เคียง ผู้สนใจใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล แบ่งเป็นชนิดการใช้เทคโนโลยี โดรนช่วยฉีดพ่น และ ระบบ Iot Smart farm ควบคุมน้ำอัจฉริยะ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top