Wednesday, 2 July 2025
NEWS

“เสี่ยโจ้” อัดนายกฯ สอบตก ถามม้าตอบช้าง ไม่มีรายละเอียดใช้เงินกู้ ซัดกองทัพเรือยังจะซื้อเรือดำน้ำทั้งที่ประเทศต้องกู้เงิน จี้ทำโพลถาม ปชช.ควรซื้อไหม

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พร้อมด้วยนายจิรพงษ์ ทรงวัชรภารณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรค พท.ร่วมแถลงข่าว โดยนายยุทธพงศ์ ในฐานะโฆษกรรมาธิการงบประมาณฯ กล่าวถึงความคืบหน้าของกรรมาธิการงบประมาณ 65 ว่า เราเริ่มประชุมเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา เริ่มจากภาพรวมเศรษฐกิจไทย โดยสภาพัฒน์ฯ ยืนยันว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยเติบโตร้อยละ 4-5 ส่วนงบประมาณ 65 จำนวน 3.10 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการจัดเก็บ 2.60 ล้านบาท เงินกู้ 7 แสนล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังระบุว่าจะจัดเก็บตามเป้าได้ ส่วนงบประมาณปี 64 ที่กำลังใช้อยู่ประมาณ 3.30 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ 2.67 ล้านบาท ซึ่งปีนี้กระทรวงการคลังคาดว่าจัดเก็บต่ำกว่าเป้าประมาณ 2 แสนล้านบาท ทั้งนี้ จะพิจารณาตั้งอนุกรรมาธิการรวม 8 คณะโดยจะตั้งอนุกรรมาธิการชุดต่างๆ ในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ และในสัปดาห์นี้จะพิจารณากระทรวงการคลังต่อ กระทรวงพาณิชย์ และกระทวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้กองทัพเรือได้เปิดเพจเรือดำน้ำทางเฟซบุ๊ก "เรือดำน้ำไทย Thai Submarine" โดยยอมรับว่าตั้งงบซื้อเรือดำน้ำใหม่ 2 ลำ จำนวน 22,500 ล้านบาทอยู่ในงบประมาณปี 65 โดยอ้างว่ามีความจำเป็น เพราะเคยมีเรือดำน้ำประจำการมาก่อนตั้งแต่ปี 2481 สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาถึงตอนนี้มีความจำเป็นเพราะเป็นเรื่องยุทธศาสตร์ทางทะเล แต่ตอนนี้มีวิกฤตเศรษฐกิจ คนอดอยาก และการแพร่ระบาดของโควิด-19 วันนี้เราไม่มีเงินจะซื้อ ต้องไปกู้เงินมา โดยปี 65 กู้ 7 แสนล้านบาท และสัปดาห์ที่ผ่านมาก็กู้อีก 5 แสนล้านบาท ถามว่าเรือดำน้ำสำคัญอย่างไรกว่าปากท้องและวัคซีนประชาชน หากกองทัพเรือมั่นใจว่าเรือดำน้ำเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน ขอท้าให้กองทัพเรือทำโพลสอบถามประชาชน ว่าในภาวะเช่นนี้เหมาะสมหรือไม่ที่จะซื้อเรือดำน้ำใหม่อีก 2 ลำ ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่ จะได้ไม่ต้องมีปัญหาว่ากรรมาธิการฯ คัดค้านหรือมีอคติกับกองทัพเรือ แต่วันนี้ประเทศไม่มีงบประมาณ เป็นความเดือดร้อนของประชาชน อีสานบ้านตนตอนนี้วัวยังติดเชื้อ ไม่มีเงินช่วยเขาเลย ดังนั้นกู้เงินมาแล้วก็ต้องเอามาช่วยประชาชนก่อน

นายยุทธพงศ์ กล่าวถึงการอภิปราย พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทที่การพิจารณาของรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า นายกฯ ตอบไม่ตรงคำถาม ใช้เทคนิคถามม้า ตอบช้าง ไม่ตอบสาระสำคัญ พรรคร่วมฝ่ายค้านอภิปรายว่าเหมือนตีเช็คเปล่าให้นายกฯ 5 แสนล้าน โดยไม่มีรายละเอียดการใช้เงิน มีเนื้อหาเพียง 3 บรรทัดว่า เพื่อแก้ไขเยียวยาฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากไวรัสโควิด-19 ใช้ในการแพทย์และสาธารณสุข 3 หมื่นล้านบาท ช่วยเหลือเยียวยาประชาชนและเกษตรกร 3 แสนล้านบาท และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 1.7 แสนล้านบาท ขณะที่เงินกู้เก่า 1.0 ล้านล้านบาท ก็ยังเหลืออยู่ 2.9 แสนล้านบาท ดังนั้นที่ฝ่ายค้านเสนอให้ออก พ.ร.บ.งบประมาณกลางปีเพื่อให้ตรวจสอบการใช้งบได้ ก็ไม่ยอมทำ ตอนนายกฯ มาถึงสภาฯ ก็ไม่ตอบคำถาม แถมมาก็ยังมาพูดข่มขู่ว่าพวกพูดข้างนอกให้ระวัง ตนถือว่าสอบตกเพราะชี้เแจงไม่ได้เลย ส่วนที่บอกว่าไม่โง่หรอกที่จะกู้ถึง 60% ก็ไม่อธิบาย ไปพูดสำนวนโวหาร แล้วก็พูดเลยไปพูดถึง ส.ส.พปชร.ที่ไปพาใครมาแถลงข่าวแทน สรุปไม่ตอบคำถามเรื่องวัคซีนเลย ไม่ตอบว่าจะเอาเงินกู้ไปทำอะไร ที่สำคัญที่ฝ่ายค้านถามเรื่องวัคซีนแอสตร้าฯ ว่าซื้อเท่าไร กำหนดส่งมอบเมื่อไร ที่บอกจะฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา สุดท้ายก็ฉีดได้ 4.1 แสนคน ฉีดไม่ถึงวันละ 5 แสนคนตามที่ตั้งเป้าไว้

ด้านนายจิรพงษ์ กล่าวว่า คนที่มีฐานะสามารถไปฉีดวัคซีนในต่างประเทศได้ ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่ท่านทำได้ แต่ชนชั้นกลางและชนชั้นล่างของประเทศกลับไม่มีสิทธิเลือกวัคซีนได้เลย คนที่ป่วยยังต้องไปนอนโรงพยาบาลสนาม สะท้อนให้เห็นความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยได้อย่างชัดเจน รัฐบาลพยายามฉีดวัคซีนให้ประชาชน แต่จำนวนการฉีดวัคซีนให้ประชาชนกลับลดลงเรื่อยๆ จนหมอชนบทออกมาแนะนำให้กระทรวงสาธารณสุข ออกมาพูดความจริงว่าวัคซีนไม่เพียงพอ เจ้าหน้าที่ก็เครียดเพราะกังวลเรื่องการถูกเพ่งโทษ ขณัที่บุคลากรทางการแพทย์ไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยง ไม่สามารถเบิกเบี้ยเลี้ยงได้ ให้ใช้งบฯจากโรงพยาบาลไปก่อน ตนจึงขอเรียกร้องให้นำเงินจากการกู้เงินนำมาจัดสรรให้บุคลากรเหล่านี้ด้วย

รัฐบาล ชี้ ผลงานปราบยาเสพติดข้ามชาติ อื้อ! จ่อถก 6 ชาติลุ่มน้ำโขง-UNODC 5 ก.ค. นี้

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมามีการรายงานข่าวการจับกุมผู้ต้องหาขบวนการค้ายาเสพติดเครือข่ายข้ามพรมแดนและข้ามชาติในหลายกรณี แสดงให้เห็นถึงการดำเนินการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นการทำงานร่วมกันของหลายภาคส่วนประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองทัพไทย ตำรวจปรามปรามยาเสพติด กรมศุลกากร เครือข่ายภาคประชาชน และหน่วยงานต่างประเทศ เป็นต้น โดยสถิติการตรวจยึด นับตั้งแต่ปี 2562 มีปริมาณมากขึ้น โดยเฉพาะยาไอซ์ และเฮโรอีน ที่ถูกนำเข้าเพื่อส่งผ่านไปยังต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฮ่องกง เป็นต้น ถือเป็นปัญหาร่วมกันของประเทศในภูมิภาค 

ทั้งนี้รัฐบาลโดยสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ประสานความร่วมมือกับประเทศลุ่มน้ำโขง 6 ประเทศ คือ จีน เมียนมา ลาว กัมพูชา เวียดนาม และไทย และสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาในวันที่ 5 ก.ค.นี้

น.ส.รัชดา กล่าวว่า สำหรับสถิติการจับกุมยาเสพติดในประเทศไทยตั้งแต่ ต.ค.63-มิ.ย.64 ยึดยาบ้า 344 ล้านเม็ด ไอซ์ 20,662 กก. และเฮโรอีน 2,760 กก. ยาอี 279,868 เม็ด รวมทั้งจับกุมยาเสพติดที่เตรียมส่งออกไปยังต่างประเทศ รวม 84 คดี เป็นยาบ้า 39,002 เม็ด ไอซ์ 72.08 กก. เฮโรอีน 285.69 กก. ยาอี 1,922 เม็ด นอกจากดำเนินการจับกุมแล้ว กระทรวงยุติธรรม ยังได้ทำงานเชิงรุกเรื่องการขยายผลการยึดทรัพย์ผู้กระทำผิดคดียาเสพติด ส่งผลให้ ตัวเลขการยึดทรัพย์ ในสามไตรมาสแรก ของปีงบประมาณ 2564 มีมูลค่า 4,549 ล้านบาท มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 3,480 ล้านบาท ซึ่งทางกระทรวงยุติธรรมได้ตั้งเป้ายึดทรัพย์ให้ได้ทั้งปี 6,000 ล้านบาท

น.ส.รัชดา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ความสำคัญในการปราบปรามปัญหายาเสพติด ถือเป็นนโยบายเร่งด่วน และวาระแห่งชาติ ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณ สำหรับยกระดับเครื่องมืออุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการเอาผิดยึดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้อง พร้อมปรับปรุงกฎหมาย โดยครม. ผ่านร่างกฎหมาย 3 ฉบับ ซึ่งขณะนี้รอการเห็นชอบจากรัฐสภา ประกอบด้วย ร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด ร่างประมวลกฎหมายคดียาเสพติด ร่างพระราชาบัญญัติคดียาเสพติด มีสาระสำคัญ เกี่ยวกับการกำหนดอัตราโทษใหม่ที่เหมาะสม การขยายผลการยึดทรัพย์ ส่งผลทำให้การตัดวงจรและทำลายเครือข่ายยาเสพติดได้สะดวกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

นายกฯ สั่ง สตช.-ดีอีเอส-ฝ่ายปกครอง เข้มงวด ปราบ โต๊ะพนันบอลยูโร พนันออนไลน์ พร้อมจี้ จนท. ตรวจร้านอาหารแอบขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฝ่าฝืนมาตรการโควิด-19

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นห่วงสถานการณ์การเล่นการพนันในช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 รอบสุดท้าย จึงได้กำชับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ฝ่ายปกครอง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้มงวดในการตรวจสอบ ป้องกันการพนันฟุตบอล ทั้งการลักลอบเปิดโต๊ะพนันในพื้นที่ต่างๆ และการพนันออนไลน์ ซึ่งมีอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ หากพบการกระทำความผิด ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่มีละเว้น 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ส่งความสุขให้ประชาชน ได้รับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2020 รอบสุด ผ่านช่อง NBT2HD โดยเห็นว่าจะช่วยลดความเครียดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเล่นการพนัน ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย ที่สำคัญยังเสี่ยงต่อการสูญเสียทรัทย์สินจากการเล่นการพนันด้วย นอกจากนี้ ยังขอให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา พบการลับลอบเปิดโต๊ะพนัน รวมถึงแหล่งพนันออนไลน์ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินคดี

นอกจากนี้ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับรายงานการลักลอบจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร โดยเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดในมาตรการควบคุมโรคตามประกาศของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. จึงกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หมั่นตรวจตราร้านอาหารทุกพื้นที่ เพื่อป้องกันการกระทำความผิด พร้อมย้ำให้เจ้าหน้าที่ไม่ปล่อยปละละเลย อันจะเป็นเหตุของแหล่งแพร่เชื้อโควิด-19 นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง เพื่อความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ของทั้งผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ

จู้ด เบลลิงแฮม กลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดในศึกยูโร หลังถูกเปลี่ยนตัวลงสนามแทน แฮร์รี่ เคน ในช่วง 10 นาทีสุดท้าย และทำผลงานได้ดีแม้จะมีเวลาให้โชว์ของเพียงไม่นานก็ตาม

เจ้าหนูเบลลิงแฮมสร้างประวัติศาสตร์

อังกฤษ ในยุคนี้มีนักเตะดาวรุ่งพุ่งแรงขึ้นมาประดับวงการลูกหนังมากมาย ล่าสุด จู้ด เบลลิงแฮม ปีกฟอร์มฮอต ได้กลายเป็นนักเตะแห่งประวัติศาสตร์ เมื่อเขาเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ลงสนามในเกม ยูโร แมตช์ที่ อังกฤษ เฉือน โครเอเชีย

ดาวเตะจากทัพ "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน แฮร์รี่ เคน ในนาทีที่ 82 ทำให้เขาเป็นแข้งที่อายุน้อยที่สุดในวัย 17 ปี 349 วัน ทำลายสถิติของ เจโตร วิลเลมส์ ดาวเตะชาวฮอลแลนด์ ที่ทำเอาไว้เมื่อ 9 ปีก่อน

 

ที่มา: https://www.siamsport.co.th/football/euro2020/view/240347


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

แฟนบอลไทย ดีใจ บิ๊กตู่ หนุน ให้ได้ดู บอลยูโร คลายเครียดจากโควิด-19 ขอบคุณ "โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ" ผู้เซ็นสัญญาซื้อลิขสิทธิ์

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พี่น้องแฟนฟุตบอลชาวไทย ฝากขอบคุณนายกฯ และรัฐบาลที่ทำให้คนไทยได้ดูการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป2020 หรือ ยูโร 2020 ที่กรมประชาสัมพันธ์ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) ได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอด ในขณะที่ประเทศเกิดวิกฤตการระบาดเชื้อโควิด-19 อยู่ ประชาชนเกิดความเครียดอยู่บ้าง

หากได้ชมการแข่งขันฟุตบอลยูโร ที่สามารถดูได้ทุกบ้านนั้นจะทำให้คนได้ผ่อนคลายขึ้นได้ การแข่งขันฟุตบอลยูโร เป็นรายการที่ประชาชนคนไทยให้ความสนใจมาก นายกฯ จึงมีแนวคิดที่ต้องการให้คนไทยได้ชมการแข่งขันฟุตบอล จึงประสานงานหลายส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันเพื่อให้สามารถถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโรให้ได้ แสดงให้เห็นว่านายกฯได้ให้ความสำคัญกับประชาชนในทุกเรื่อง ซึ่งแม้ในขณะที่ประเทศกำลังเจอกับวิกฤตโควิดก็ตาม แต่นายกฯ ก็ไม่ลืมที่จะดำเนินการเรื่องนี้เพื่อให้ความสุขแก่คนไทย แฟนฟุตบอลชาวไทยก็ฝากขอขอบคุณผู้สนับสนุน นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานบริหาร บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด ที่เป็นผู้เซ็นสัญญาซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลยูโร 2020 ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือกันในขณะที่ประเทศกำลังประสบปัญหาอยู่ หลังจากนายกฯได้มอบให้นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เจรจาเป็นผลสำเร็จในการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโรได้ชมกันทั่วประเทศ 

นายกฯ สั่ง หน่วยงาน รับมือ สถานการณ์ฝน ย้ำ 10 มาตรการ ต่อเนื่องถึงแล้งหน้า

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งบูรณาการหน่วยงาน ทั้งฝ่ายปกครองและทหาร เตรียมความพร้อมรับสถานกาณ์ช่วงฤดูฝน รวมถึงวางแผนการบริหารจัดการน้ำต่อเนื่องจนถึงฤดูแล้งหน้า รวมทั้งให้สอดคล้องกับความต้องการใช้น้ำทั้งเพื่อการอุปโภค-บริโภค การเกษตร อุตสาหกรรม และการรักษาสภาพแวดล้อม สำหรับการวางแผนรับมือสถานการณ์ฤดูฝน ในเชิงป้องกันก่อนเกิดภัย ประกอบด้วย 10 มาตรการ ดังนี้

1.) คาดการณ์ชี้เป้าพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมและฝนทิ้งช่วง โดยจะมีการประเมินพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยและพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ เพื่อเตรียมแผนในเชิงป้องกันล่วงหน้า

2.) การบริหารจัดการน้ำพื้นที่ลุ่มต่ำเพื่อรองรับน้ำหลาก รวมทั้งการจัดทำแผนการชดเชยให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการผันน้ำเข้าทุ่ง

3.) ทบทวน ปรับปรุงเกณฑ์บริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่-กลางและเขื่อนระบายน้ำ โดยติดตามสถานการณ์น้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่-กลาง เพื่อเฝ้าระวังและควบคุมการบริหารจัดการน้ำรวมทั้ง จัดทำแผนการบริหารจัดการน้ำแหล่งน้ำขนาดใหญ่-กลาง ในช่วงภาวะวิกฤติ

4.) ซ่อมแซมปรับปรุงอาคารชลศาสตร์ ระบบระบายน้ำสถานีโทรมาตรให้พร้อมใช้งาน โดยตรวจสอบสภาพความมั่นคง และซ่อมแซมอ่างเก็บน้ำ อาคารควบคุมบังคับน้ำ รวมทั้งระบบระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง 

5.) ปรับปรุงแก้ไขสิ่งกีดขวางทางน้ำ สำรวจ และดำเนินการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำที่เกิดจากการก่อสร้างและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการปรับปรุงคูคลอง เพื่อเพิ่มพื้นที่รับน้ำ และระบายน้ำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

6.) ขุดลอกคูคลองและกำจัดผักตบชวา กำจัดวัชพืชในแม่น้ำ และคูคลอง ทั่วประเทศด้วยการบูรณาการเครื่องจักรเครื่องมือในการกำจัดผักตบชวาและวัชพืชของทุกหน่วยงาน 

7.) เตรียมพร้อม วางแผนเครื่องจักรเครื่องมือ ประจำพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมและฝนน้อยกว่าค่าปกติ เตรียมพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและเข้าช่วยเหลือได้ทันสถานการณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง

8.) เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำและปรับปรุงวิธีการส่งน้ำ วางแผนการจัดสรรน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุน และส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ 

9.) การสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์

10.) ติดตามประเมินผลปรับมาตรการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ภัย

นายอนุชา กล่าวว่า การบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลในช่วงปี 2561 ถึงปัจจุบัน รัฐบาลขับเคลื่อนแผนงานโครงการด้านน้ำตามแผนแม่บทน้ำ 20 ปีไปแล้ว 125,162 โครงการ วงเงิน 314,182 ล้านบาท มีผลสัมฤทธิ์ที่สำคัญ เช่น การเพิ่มน้ำต้นทุน ระบบส่งน้ำ การพัฒนาและขยายเขตประปาหมู่บ้าน 3,214  แห่ง พัฒนาน้ำบาดาลเกษตรและธนาคารน้ำใต้ดิน ได้น้ำ 100  ล้าน ลบ.ม. ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ 135,170 ไร่ ซึ่งมีประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์แล้ว 2,274,737 ครัวเรือน รวมทั้งยังจะมีการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่และโครงการสำคัญรวม 526โครงการภายในปี 2564-2566 นี้

เจอโรคเลื่อน! กทม.ประกาศเลื่อนฉีดวัคซีน คนลงทะเบียน 'ไทยร่วมใจ' ตั้งแต่ 15 มิ.ย.

14 มิ.ย. 64 - เพจ ‘กรุงเทพมหานคร โดย สำนักงานประชาสัมพันธ์’ โพสต์ข้อความว่า ไทยร่วมใจ “กรุงเทพฯ ปลอดภัย" SAFE BANGKOK ประกาศเลื่อนการฉีดวัคซีน สำหรับผู้ลงทะเบียนในโครงการ "ไทยร่วมใจ" ตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย. 64 เป็นต้นไป

"ไทยร่วมใจ" ยืนยันว่า จะรีบดำเนินการจัดฉีดวัคซีนให้ทุกท่านโดยเร็วที่สุด ทันทีที่ได้รับการจัดสรรวัคซีน จะมี SMS แจ้งให้ท่านสามารถเลือกวันและเวลานัดหมายใหม่ ขออภัยทุกท่านมา ณ ที่นี้

ที่มา : https://www.facebook.com/prbangkok/photos/a.340316886067939/3569037779862484/


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

โรงพยาบาลพญาไท 3 เสริมกำลังใจ พร้อมสร้างมาตรฐานความปลอดภัย ให้แก่ผู้รับบริการ

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดี กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, รองศาสตราจารย์ นายแพทย์สุวัฒน์ เบญจพลพิทักษ์ ปลัดกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์บางแค เอ็ม ซี ซี ฮอลล์ ชั้น4

โดยเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล ภายใต้ความร่วมมือของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) นำทีมโดยรศ.คลินิก พญ.วารุณี จินารัตน์ ผู้อำนวยการแพทย์โรงพยาบาลพญาไท 3 และคุณณัฐชานันท์ นิธิโชติวรภัทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโรงพยาบาลพญาไท 3 พร้อมด้วย ทีมแพทย์และพยาบาลที่ปฏิบัติหน้าที่ พร้อมด้วยผู้บริหารของกลุ่มความร่วมมือ โดยมี กฤษณา อัมพุช พร้อมด้วย นายแพทย์อภิชาต วชิรพันธ์, ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล, รุจิรา อารินทร์, ดร.พรชัย มงคลวนิช ให้การต้อนรับ

ถือเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติงาน อีกทั้งยังสร้างความเชื่อมั่นในมาตรฐานการบริหารจัดการที่มาพร้อมความปลอดภัยให้แก่ประชาชนผู้เข้ารับบริการในครั้งนี้

ตม.สุรินทร์ ตามติดเครือข่ายลอบขนต่างด้าว ดักจับขณะข้ามแดน เร่งสาวหาตัวการ

พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.), พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผบก.ตม.4, และ พ.ต.อ.สำราญ กลั่นมา ผกก.ตม.จว.สุรินทร์ ร่วมแถลงข่าวจับกุม โดยมีรายละเอียด ดังนี้

ตม.จว.สุรินทร์ ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ จับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติ กัมพูชา จำนวน 8 ราย บริเวณช่องทางธรรมชาติ คะลาคะมุม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ โดยชาวกัมพูชาทั้งหมด รับว่าจะเดินทางไปรับจ้างใช้แรงงานในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยง มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อันอาจนำไปสู่คลัสเตอร์การแพร่ระบาดในวงกว้าง

ตามนโยบายของ ผบก.ตม.4 ได้สั่งการเน้นย้ำให้ ตม.จังหวัด ในสังกัด บก.ตม.4 เพิ่มความเข้มในการป้องกันการลักลอบขนคนต่างด้าวเข้าเมือง และจับกุมขบวนการลักลอบขนคนต่างด้าว โดยให้มีผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ผกก.ตม.จว.สุรินทร์ จึงสั่งการให้ชุดสืบสวน ตม.จว.สุรินทร์ สืบสวนหาข่าวติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มนายหน้าขนแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง

ในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งได้รับรายงานจากสายข่าวว่า จะมีการลักลอบพาบุคคลต่างด้าว สัญชาติ กัมพูชา เดินเท้าเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติคะลาคะมุม จึงประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ วางกำลังดักซุ่มจนกระทั่งพบกลุ่มบุคคลต่างด้าวจำนวน 8 ราย จึงแสดงตัวเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ เข้าจับกุม ตรวจสอบแล้ว ไม่พบเอกสารสำคัญประจำตัว หรือหนังสือเดินทาง สอบถามหนึ่งในกลุ่มบุคคลต่างด้าวได้ความว่า ตนกับพวกอีก 7 คน ต้องการเดินทางไปหางานทำในพื้นที่จังหวัดชั้นใน จึงติดต่อกับนายหน้ารับพาคนต่างด้าวข้ามมาฝั่งไทย โดยผ่านช่องทางธรรมชาติ เมื่อเดินมาถึงบริเวณถนนหลวง จะมีรถตู้มารับพาไปส่งยังพื้นที่จังหวัดชั้นในต่อไป จึงควบคุมตัวไปผลักดันส่งกลับต่อไป ทั้งนี้ ตม.สุรินทร์ กำลังเร่งสืบสวนขยายผลหาตัวการนำพาแรงงานดังกล่าว

สตม.ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตราย ต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อันทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

"ชัยวุฒิ" จับตาพนันออนไลน์ช่วงฟุตบอลยูโร-โคปาฯ ลั่นเอาจริงจับทุกเว็บ ฮึ่ม “พริตตี้-คอลัมนิสต์-เน็ตไอดอล” โฆษณาแอบแฝงโดนด้วย

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ตนได้ประสานงานศูนย์ปราบการอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) เพื่อดำเนินการปราบปรามการกระทำผิด ลักลอบเปิดเว็บพนันออนไลน์ทุกประเภท โดยเฉพาะการเล่นพนันฟุตบอลออนไลน์ ซึ่งเป็นที่นิยม และพบว่ามีการเปิดเว็บไซต์เพื่อให้ประชาชนเข้าไปเล่นการพนันแพร่ระบาดอย่างหนัก ที่ผ่านมากระทรวงดีอีเอส และ ศปอส.ตร.ได้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดเป็นจำนวนมาก ตลอดจนการประสานกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ไปยังโอเปอเรเตอร์ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทุกรายในการร่วมมือกันเฝ้าระวังและรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์พนันต่างๆ

“ผมกำชับให้ทุกหน่วยงานร่วมกันปราบปรามการพนันทุกรูปแบบและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง เพราะการพนันถือเป็นปัญหาระดับชาติ และส่งผลไปสู่ปัญหาในครอบครัว เนื่องจากมีการมอมเมาประชาชนทั้งผู้ใหญ่ และเยาวชน สร้างความเสียหายมากมายทั้งในแง่เศรษฐกิจ และสังคม” นายชัยวุฒิ กล่าว

รมว.ดีอีเอส กล่าวด้วยว่า จากสถิติที่ผ่านมาพบว่า ยอดการเล่นพนันทั้งออฟไลน์ และออนไลน์จะสูงมากขึ้นในช่วงที่มีการแข่งขันทัวนาเมนทร์สำคัญ ดังนั้นช่วงที่มีการแข่งขันฟุตบอลแห่งชาติยุโรป หรือยูโร 2020 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ รวมถึงรายการโกปาอาเมริกา 2021 หรือฟุตบอลชิงแชมป์ทวีปอเมริกาใต้ ที่จะเริ่มในช่วงไล่เลี่ยกัน ตนจึงสั่งการให้ทุกหน่วยงานตรวจสอบ และค้นหาเว็บไซต์ที่กระทำผิดทั้งในลักษณะการพนัน หรือการแอบแฝงโดยการทายผลการแข่งขันฟุตบอล ซึ่งหากพบการกระทำผิดกฎหมายจะดำเนินปิดทุกเว็บไซต์

“ผมไม่ได้ขู่ ผมทำจริง เพราะมีสถิติบ่งบอกว่าในช่วงที่มีมหกรรมการกีฬาใหญ่ๆ จะมีพวกที่อาศัยจังหวะมอมเมาประชาชนด้วยการจัดให้มีการทายผลการแข่งขัน เรื่องนี้ผมจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด เพราะต้องการให้ใช้โลกโซเชียล สังคมออนไลน์ กันอย่างสร้างสรรค์ และมีประโยชน์ให้มากที่สุด" นายชัยวุฒิ กล่าว

นายชัยวุฒิ กล่าวอีกว่า ขอเตือนไปยังผู้ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียโฆษณาให้ประชาชนเข้าไปเล่นการพนัน ไม่ว่าจะเป็นพริตตี้ คอลัมนิสต์ หรืออินฟูลเอนเซอร์ทั้งหลาย หากพบว่าเข้าข่ายเชิญชวนให้เล่นการพนัน ถือว่ามีความผิดด้วยเช่นกัน จึงขอให้งดการกระทำที่เป็นการโฆษณาชวนเชื่อในทุกประเภท ทั้งนี้ผู้ที่มีเบาะแสพนันออนไลน์สามารถแจ้งได้ที่เพจกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม https://www.facebook.com/prmdes.official/ และสายด่วนกระทรวงดีอีเอส 1212 ตลอด 24 ชม. โดยข้อมูลจะถูกปกปิดเป็นความลับ

คอบอลชาวไทยเฮ!! หลัง 'รองเท้าแอร์โร่ซอฟ' ทุ่ม 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คว้าลิขสิทธิ์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือยูโร 2020 ยิงสด NBT2HD SPORT ครบ 51 นัด เริ่มคิกออฟคู่แรก อิตาลี VS ตุรกี คืนนี้ (ศุกร์ที่ 11 มิถุนายน 2564)

หลังจากมีคำถามกันหนาหูในหมู่คนไทยว่า 'ยูโร 2020' รอบนี้จะมีโอกาสได้รับชมกันทางฟรีทีวีหรือไม่ เนื่องจากยังไม่มีการประกาศอย่างชัดเจนจากหน่วยงานใดๆ ว่าจะมีการนำลิขสิทธิ์สัญญาณการถ่ายทอดสด 'ฟุตบอลยูโร 2020' มาเผยแพร่

แน่นอนว่าส่วนหนึ่งเพราะในสถานการณ์นี้ ทางภาครัฐบาลอาจจะไม่สามารถนำงบภาษีที่เก็บจากประชาชนมาคืนความสุข ด้วยการไปร่วมประมูลซื้อลิขสิทธิ์มาถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ (ทีวีพูล) หรือผ่านช่องทางอื่นได้ ต้องเป็นช่องทีวีเอกชนเท่านั้น ถึงจะสามารถประมูลฟุตบอลยูโร มาถ่ายทอดสดให้คนไทยได้ดูกัน เพียงแต่ในช่วงที่ผ่านมาก็ยังไม่มีเอกชนรายใดขอซื้อลิขสิทธิ์เข้ามาถ่ายทอด จนคนไทยส่วนใหญ่น่าจะไปหวังพึ่งลิงก์เถื่อนที่ดูไปสะดุดไป อย่างไร้อรรถรส

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 11 มิถุนายน 2564 ที่สังเวียนแข้งยูโร 2020 พร้อมคิกออฟนั้น คอบอลชาวไทยก็ยิ้มได้ถ้วนหน้า หลังจากมีการประกาศชัดถึงการถ่ายทอดบอลยูโร2020 ลงหน้าจอฟรีทีวีเมืองไทยเป็นที่แน่นอนแล้ว

ทั้งนี้การถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2020 ตลอด 51 นัดในครั้งนี้ เกิดขึ้นได้จากผู้สนับสนุนหลักอย่างบริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย รองเท้ายี่ห้อ 'แอร์โร่ซอฟ' ภายใต้ ‘นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ’ ประธานกรรมการ ผู้ที่ตั้งใจจะมอบความสุขให้แก่คนไทยในยามโรคระบาดยังไม่จางหาย ได้รับชมกันเต็มอิ่มทุกนัดแบบไม่สะดุด

ในส่วนของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดในครั้งนี้ ทางแอร์โร่ซอฟ เป็นภาคเอกชนรายเดียวในการทุ่มงบ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซื้อสิทธิ์การถ่ายทอดสดจากทางสหพันธ์ฟุตบอลยุโรปหรือ 'ยูฟ่า' เพื่อให้คนไทยได้รับชมการถ่ายทอดสดฟรีทุกนัดตลอด 1 เดือน (11 มิ.ย. - 11 ก.ค.64) ทางช่อง NBT2HD SPORT

สำหรับ ‘นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ’ ประธานกรรมการ บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย รองเท้ายี่ห้อ 'แอร์โร่ซอฟ' ถือเป็นอีกผู้ใหญ่ใจดีของสังคมไทย และเป็นบุคคลที่มักเข้ามาช่วยเหลือเรื่องใหญ่ๆ ในสังคมไทยแบบไม่ออกหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ได้บริจาคเงิน จำนวน 100 ล้านบาท พร้อมด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น ประกอบด้วย อุปกรณ์ป้องกันใบหน้าและตา (Face Shield) จำนวน 3,000 ชิ้น และเครื่องช่วยหายใจไฮโฟลว์ (Airvo 2) จำนวน 10 ชิ้น ให้กับมูลนิธิโรงพยาบาลศิริราช เพื่อสนับสนุนการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 และจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ใช้ในการรักษา


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เคลียร์ชัดๆ กับคำถามคาใจใครหลายคน ก่อนไปฉีดวัคซีนโควิด ดื่มชา กาแฟ ได้หรือไม่

เคลียร์ชัดๆ กับคำถามคาใจใครหลายคน ก่อนไปฉีดวัคซีนโควิด ดื่มชา กาแฟ ได้หรือไม่


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘หมอยง’ เปรียบเทียบผลข้างเคียงวัคซีน Sinovac กับ AstraZeneca ต่างกันชัดเจน แนะหากมีอาการไข้ปวดศีรษะ ให้กินยาพาราเซตามอลได้เลย

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง โควิด-19 วัคซีน อาการข้างเคียง และ อาการไม่พึงประสงค์ โดยระบุว่า

ในช่วงต้นการฉีดวัคซีน วัคซีนที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็น Sinovac และในผู้สูงอายุ จะใช้ AstraZeneca

ปัญหาอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้น จะไม่ค่อยพบมาก ขณะนี้การใช้วัคซีนจะเป็น AstraZeneca เป็นหลักและจะต้องมีการใช้ต่อไปอีกเป็นจำนวนมาก Sinovac จะเป็นตัวเสริม

จากการศึกษาของศูนย์ ที่จริงได้ฉีดวัคซีนทั้ง 2 ชนิด ในทุกอายุ ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป อยากจะบอกว่า วัคซีน Sinovac มีอาการข้างเคียง น้อยกว่า AstraZeneca โดยเฉพาะในเรื่องไข้ ปวดบริเวณที่ฉีด เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวเหมือนเป็นไข้หวัดใหญ่ ปวดศีรษะ ขนาดการศึกษานี้ผู้ป่วยฉีดวัคซีน AstraZeneca เราแจก พาราเซตามอลกลับบ้านด้วยซ้ำ

รูปข้างล่างแสดงให้เห็นเปรียบเทียบการศึกษาของศูนย์ เห็นความแตกต่างได้ชัดเจน

อาการที่เกิดขึ้นจากวัคซีน AstraZeneca จะพบว่าอายุน้อย มากกว่าผู้สูงอายุ และผู้หญิงจะมีอาการมากกว่าผู้ชาย ซึ่งเมื่อดูอาการข้างเคียงเปรียบเทียบกับวัคซีนที่ฉีดในต่างประเทศโดยเฉพาะวัคซีนในกลุ่ม mRNA แล้วไม่ต่างกันเลย

ส่วนวัคซีน Sinovac อาการข้างเคียงดังกล่าวน้อยกว่ามาก ดังแสดงในรูป

ดังนั้นผู้ที่ฉีดวัคซีน AstraZeneca ถ้ามีไข้หรือปวดศีรษะ ท้องเสียอาเจียน ปวดเมื่อยตามตัว คล้ายไข้หวัดใหญ่ ถือเป็นอาการที่พบได้หลังการฉีดวัคซีน ดังนั้น หลังฉีดเมื่อกลับไปถึงบ้านถ้ามีอาการดังกล่าว รับประทานยาพาราเซตามอลได้เลย ไม่ต้องรอให้ไข้ขึ้นสูง หรือปวดเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว และสามารถทานซ้ำได้ทุก 4-6 ชั่วโมง อาการดังกล่าวจะอยู่ประมาณ 1-2 วัน ก็จะหายเป็นปกติ

นอกจากว่ามีอาการมาก เช่น ไข้สูงติดต่อกันหลายวัน หรือสูงมาก ปวดศีรษะอย่างรุนแรง และรับประทานยาแล้วไม่หาย ก็ควรจะปรึกษาแพทย์

ถ้าทุกคนเข้าใจ จะได้ไม่เกิดวิตกกังวล ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนในกลุ่ม virus Vector หรือ mRNA วัคซีนจะมีอาการข้างเคียงได้มากกว่าวัคซีนชนิดเชื้อตาย ตามหลักฐานเชิงประจักษ์

 

ที่มา : https://www.facebook.com/yong.poovorawan/posts/5817236151652287


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ดร.วรัชญ์ ชี้ ประเทศไทย มองการณ์ไกล ปิดดีลผลิตวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ได้ตั้งแต่แรก ไม่ต้องรอลุ้น ขณะที่ประเทศอย่างไต้หวันอยากผลิตบ้าง แต่ศักยภาพไม่พอ

ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่าเห็นข้อดีของไทยหรือยังครับ ที่ดีลกับแอสตราเซเนกาได้ตั้งแต่แรก และเป็นฐานการผลิตในประเทศไทยเราเอง

ไต้หวัน ที่รวยกว่าเรามาก และมีเทคโนโลยีสูงกว่าเรามาก จะขอแอสตราเป็นฐานการผลิต ยังไม่ได้เลยครับ ทาง AZ บอกว่าต้องผลิตอย่างน้อย 300 ล้านโดส ซึ่งไต้หวันบอกว่า "เป็นไปได้ยากและต้องใช้สายการผลิตอย่างเต็มกำลัง" ไต้หวันทำไม่ได้ แต่ไทยทำได้ครับ เพราะไทยมีบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ที่ ร.9 ทรงก่อตั้งขึ้น และทรงสานต่อโดย ร.10

และแม้ตอนแรกเราจะยังไม่พร้อม เพราะไม่เคยผลิตวัคซีนมาก่อน แต่รัฐบาลไทยก็อนุมัติเงิน 600 ล้านตั้งแต่ปีที่แล้ว ให้ปรับปรุงโรงงาน ซึ่ง SBS ก็จะคืนมาในรูปแบบของวัคซีน (สุดยอดมาก เท่ากับเราไม่ได้เสียอะไรเลย) 

และไทยสั่งซื้อของ AZ แค่ 61 ล้านโดสเท่านั้นเอง แต่ก็ต้องผลิตให้กับชาติอื่นๆ ในอาเซียนด้วย ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าจะเกิน 300 ล้านโดสมั้ย 

เพราะฉะนั้น ถ้าเราไม่ได้ดีลกับ AZ ไว้ตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ก่อนที่วัคซีนจะผลิตสำเร็จ ถ้าเพิ่งมาเจรจาตอนนี้ ผมว่าเราไม่น่าจะได้ดีลนี้แล้วนะครับ 

และใครว่าเราเป็น OEM หรือแค่รับจ้างผลิต แล้วจะมีประโยชน์อะไร ท่านก็ลองดูแล้วกันครับว่า ประเทศอื่นๆ ที่รอเราอยู่ ทั้งฟิลิปปินส์ มาเลเซีย รวมทั้งไต้หวัน โดน AZ เลื่อนหมดเลยอย่างไม่มีกำหนด แต่เราได้รอบแรกตรงเวลา ทันตามกำหนด และรอบที่สองแม้ว่าจะมีข่าวเลื่อน แต่ก็เลื่อนแค่ไม่กี่วัน ยังเป็นไปตามกำหนด Week 3 อยู่ 

แม้ว่าจะไม่มีใครสามารถพูดหรือเปิดเผยได้ว่าการเลื่อนของประเทศอื่นมีผลมาจากการมีโรงงานในประเทศไทยหรือไม่ แต่ผมคิดว่า common sense ก็น่าจะพอบอกได้ว่าเป็นปัจจัยหนึ่งด้วยหรือไม่ 

และนี่ก็คือสาเหตุที่ว่า ข้อมูลจำนวนวัคซีน หรือวันที่จะส่งมอบ นั้นเป็นความลับสุดยอดที่ไม่สามารถเปิดเผยก่อนหน้าได้ เพราะทุกประเทศที่รอจัดส่งรอบแรกแล้วถูกเลื่อนนั้น กำลังจ้องตาไม่กะพริบ! 

บางคนถามว่า ทำไมไทยไม่เข้าโครงการ COVAX เหมือนประเทศอื่นในอาเซียน คำตอบมีคนตอบไปเยอะแล้ว แต่ผมก็อยากจะถามเหมือนกันว่า ทำไมไม่คิดว่า ไทยเราเป็นประเทศเดียวในอาเซียน ที่มองการณ์ไกลสามารถเจรจาให้ผู้ผลิตวัคซีนมาตั้งฐานผลิตได้ ตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการทดลองวัคซีน และก็โชคดีที่วัคซีนที่ผลิตออกมามีคุณภาพสูงด้วย และเราก็โชคดีที่มีโรงงานที่มีศักยภาพทำได้พอดี (ถ้าไม่ได้ตั้งมาก่อน ไม่มีทางทำได้แน่) ทำให้ตอนนี้ เราไม่ต้องรอการแบ่งจัดสรรจาก COVAX หรือรอการเจรจาซื้อที่ก็ควบคุมไม่ได้เหมือนหลายประเทศในอาเซียน

เรียกว่างานนี้ไทยแลนด์ "เก่งบวกเฮง" ครับ ???? (หรือใครจะเรียกว่า "มีบุญ" ก็ไม่ว่ากันครับ) 

 

ที่มา : https://tna.mcot.net/world-714339
https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=4674255965923339&id=100000169455098


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘อนุชา’ เผย คนไทย มีแนวโน้มดูฟุตบอลยูโร ครบทุกคู่ ใช้เอ็นบีทีเป็นแม่ข่าย บอกกำลังดีลเอกชนเป็นสปอนเซอร์ ชัดบ่ายนี้ฟังคำตอบ หลัง นายกฯ อยากให้คนไทยได้ดู-สร้างความสุข

เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 11 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการเข้าพบ  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เพื่อรายงานความคืบหน้ากรณีสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) กรมประชาสัมพันธ์ ได้รับลิขสิทธิ์ การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 หรือ ยูโร 2020 ว่า นายกฯ เป็นกังกลว่ารายการฟุตบอลยูโรเป็นที่สนใจของคนไทยและประชาชนทั้งโลก และในปีนี้บ้านเรายังไม่มีการถ่ายทอดสด นายกฯ จึงดำริเรื่องนี้มาก่อนหน้านี้แล้วทำอย่างไรถึงจะมีฟุตบอลยูโรเพื่อให้คนไทยดู เพื่อให้ความสุขแก่คนไทย จึงมีการประสานงานทั้งหน่วยราชการ และเอกชน เพื่อร่วมกันสนับสนุนเพื่อให้เกิดการถ่ายทอดสด โดยตอนนี้พยายามประสานอยู่รายละเอียดยังพูดอะไรไม่ได้ เพราะยังไม่เรียบร้อย แต่เชื่อว่าในช่วงบ่ายวันนี้จะได้คำตอบ

“มีแนวโน้มข้างมากที่คนไทยจะได้ดูฟุตบอลยูโรตั้งแต่นัดแรกในเวลา 02.00 น. วันที่ 12 มิ.ย. ซึ่งยังเหลือเวลาไม่มาก ขณะนี้เร่งประสานอยู่ทั้งส่วนภาครัฐและเอกชน เพราะต้องใช้เงินจำนวนหนึ่งเป็นค่าลิขสิทธิ์ที่อยู่ระหว่างการตกลงกัน เพราะช่วงเริ่มต้นใช้งบประมาณ 10 ล้านยูโร” นายอนุชา กล่าว  

ผู้สื่อข่าวถามว่าทางเอ็นบีที เหมือนระบุว่าได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโรแล้ว นายอนุชา กล่าวว่า  ทางเอ็นบีทีมีความมั่นใจ เพราะเราให้นโยบายไป หากได้ลิขสิทธิ์  จะให้เอ็นบีที เป็นแม่ข่ายถ่ายทอดสด  และทางอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ก็ระบุว่าสามารถถ่ายทอดได้และเป็นสิ่งที่เอ็นบีทีจะทำเพื่อความสุขของพี่น้องประชาชน

เมื่อถามว่าจะถ่ายทอดสดทางเอ็นบีทีเพียงช่องเดียว และถ่ายครบทุกคู่หรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่าตอนนี้ถ่ายทอดผ่านเอ็นบีทีเป็นหลัก เพราะเราประสานง่ายที่สุดและไม่ได้เป็นเชิงธุรกิจ เพราะตอนนี้หากเป็นเชิงธุรกิจคงทำอะไรไม่ทัน  จึงต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจริงๆ อย่างไรก็ตามหากประสานงานกันได้ลงตัว ก็คิดว่าจะได้ดูทุกคู่ 

เมื่อถามถึงงบประมาณที่จะจ่ายค่าลิขสิทธิ์ นายอนุชา กล่าวว่าแม้ภาครัฐมีความพร้อม แต่ยังจ่ายเงินไม่สะดวกเพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เราก็หวังพึ่งภาคเอกชนเพื่อช่วยเหลือสังคม โดยมีการคุยกันหลายราย ที่มีความพร้อมและอาสาอยากทำเรื่องนี้ แต่ยังติดปัญหาเรื่องรายละเอียด อาทิ การจ่ายเงินสดแบบเร่งด่วนที่จะต้องเซ็นสัญญา เป็นปัญหาที่เราจะพยายามเคลียร์  


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top