Monday, 7 July 2025
NEWS

แรงงานปลื้ม! ‘พล.อ.ประวิตร’ ประชุมติดตามผลงาน รอบ 1 ปี ก.แรงงาน ขับเคลื่อนนโยบายได้ตามเป้า ชื่นชม ช่วยผู้ประกันตนได้รวดเร็ว-ทั่วถึง สะท้อนความจริงใจรัฐบาล

วันที่ 18 สิงหาคม 2564 เวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมรับฟังผลงานของกระทรวงแรงงานรอบ 1 ปี ในรูปแบบการประชุมผ่านระบบ Video Conference โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน , ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน , นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน , นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน , นางธิวัลรัตน์ อังกินันท์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน , นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน

พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย ณ ห้องแสงสิงแก้ว ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า วันนี้ เป็นโอกาสดีที่ได้มารับฟังผลงานของกระทรวงแรงงาน ในรูปแบบประชุมผ่านระบบ Video Conference เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและเป็นไปตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ผมขอชื่นชมกระทรวงแรงงาน ที่ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลที่เร่งด่วนและสำคัญ และให้ความช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานได้อย่างทันท่วงที

โดยมีผลการดำเนินงานที่สำคัญเป็นเชิงประจักษ์ ขอแสดงความห่วงใยสำหรับบุคลากรกระทรวงแรงงานทุกท่านที่ทุ่มเทกำลังความสามารถในการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ขอบคุณกระทรวงแรงงานที่เร่งกระจายวัคซีนให้แก่ผู้ประกันตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกันตนกลุ่มเสี่ยง ขอให้ดำเนินการต่อไปอย่างครบถ้วนและครอบคลุม เพื่อให้เป็นไปตามที่รัฐบาลได้กำหนด ให้การฉีดวัคซีนโควิด -19 เป็นวาระแห่งชาติ โดย พล.อ.ประวิตรยังได้เน้นย้ำการทำงานในประเด็นสำคัญต่าง ๆ ดังนี้

1) การบริหารวัคซีน ให้เร่งดำเนินการสร้างภูมิคุ้มกันในกลุ่มแรงงานให้ครอบคลุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่สีแดงเข้ม สำหรับศูนย์ฉีดวัคซีนแคมป์คนงาน ขอให้เร่งดำเนินการตามเป้าหมายที่กำหนด

2) มาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการ Lockdown พื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด ทั้งนายจ้าง ผู้ประกันตน มาตรา 33, 39 และ 40 ขอให้ดำเนินการตามกำหนดระยะเวลา เพื่อช่วยให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบดังกล่าว

3) สร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มแรงงาน ป้องกัน ดูแลตนเองให้ปลอดภัยจากโควิด -19 รวมทั้งบุคลากรของกระทรวงแรงงาน

4) โครงการ Blue Factory ให้บริหารจัดการอย่างครบวงจร โดยสำรวจความสมัครใจของสถานประกอบการ ตรวจคัดกรองให้ครอบคลุม หากพบผู้ติดเชื้อให้เร่งดูแลและช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีตามมาตรการด้านสาธารณสุข

5) แรงงานต่างด้าว ให้กำกับ ดูแล บริหารจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าว ให้เป็นไปตามกฎหมายและมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

6) ยกระดับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงานอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลและองค์การระหว่างประเทศ และต้องกำกับดูแลเจ้าหน้าที่ของรัฐมิให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์โดยเด็ดขาด หากพบมีพฤติการณ์ให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด ทั้งทางวินัยและอาญาทุกราย

7) ยกระดับทักษะฝีมือแรงงานในรูปแบบออนไลน์ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 โดยเน้นหลักสูตรในการพัฒนาทักษะดิจิทัล เช่น การผลิตสื่อโฆษณาและหนังสั้นด้วยสมาร์ทโฟน เทคนิคการสร้างร้านค้าและขายสินค้าออนไลน์

การประชุมในวันนี้ พล.อ.ประวิตร ยังได้ Video Conference ไปยังสำนักงานแรงงานจังหวัด และสำนักงานแรงงานในต่างประเทศด้วย รวมทั้งให้กำลังใจให้ทุกคนปลอดภัยจากโรคโควิด-19 และขอให้ตรวจสอบและช่วยเหลือแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อย่างทันท่วงที พร้อมทั้งขับเคลื่อนมาตรการให้ความช่วยเหลือของกระทรวงแรงงานในทุกมิติ และขอให้ทุกท่านร่วมกันพัฒนาประเทศก้าวข้ามวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกัน

ก่อนการประชุม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ได้นำผู้แทนกลุ่มแรงงาน ได้แก่ นายวิฑูรย์ แนวพานิช นายกสมาคมการค้าแท็กซี่ไทย นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคาร และ นางญาดา พรเพชรรัมภา นายกชมรมหาบเร่แผงลอย มอบของที่ระลึกและกล่าวขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ผ่านทาง นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในโอกาสที่ได้ให้ความช่วยเหลือ เยียวยาแรงงานทั้ง 3 กลุ่ม ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จากนั้นที่ประชุมได้รับฟังการรายงานผลงานของ ก.แรงงานในรอบ 1 ปี ที่ผ่านมา

ซึ่งมีผลงานที่สำคัญ อาทิ การยกระดับทักษะฝีมือแรงงานให้เป็นแรงงานคุณภาพ สามารถผ่านการอบรมแล้ว 110,110 คน มีงานทำแล้วคิดเป็น ร้อยละ 69.79 มีรายได้เฉลี่ย 14,152 บาทต่อเดือน  การส่งเสริมการมีงานทำสามารถบรรจุงานได้ 1,313,591 คน ก่อให้เกิดรายได้ 75,728 ล้านบาท  เศษ การคุ้มครองและแก้ไขปัญหาแรงงานถูกเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ให้ลูกจ้าง 16,000 คน วงเงิน 850 ล้านบาท  การเพิ่มประสิทธิภาพ การบังคับใช้กฎหมายโดยมีการตรวจสถานประกอบกิจการ เพื่อป้องกันการค้ามนุษย์ 1,211 แห่ง และจากสถานการณ์โควิด-19 ก.แรงงาน โดยนโยบายของรัฐบาล ภายใต้การกำกับดูแลของ รอง นรม. สามารถเยียวยาแรงงาน ผู้ประกันตน ลดเงินสมทบกว่า 12 ล้านคน นายจ้างกว่า 480,000คน เยียวยาเหตุสุดวิสัย 50% ให้ผู้ประกันตน 198,432 คน โครงการ ม.33 เรารักกัน 8,140,000 คน รวมทั้งการเยียวยาในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด ในการตรวจเชิงรุก และการรักษาโควิด-19 อย่างทั่วถึง เป็นต้น

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวชื่นชม รมว.แรงงาน รมช.แรงงาน ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ของ ก.แรงงาน ทุกคน ที่ได้ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลในการช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง เป็นธรรม มีผลงานเชิงประจักษ์ และได้ให้กำลังใจการปฏิบัติงาน พร้อมทั้งได้มอบนโยบายให้ ก.แรงงาน เร่งช่วยเหลือทั้งนายจ้าง และผู้ประกันตน ม.33 ,39 และ 40 ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และยังรอการช่วยเหลือให้ครบถ้วน และทั่วถึง ต่อไป รวมทั้งขอให้มีการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว และเน้นย้ำป้องกันการค้ามนุษย์โดยมีการบังคับใช้ กม.อย่างจริงจัง และมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ เข้าไปยุ่งเกี่ยวโดยเด็ดขาด

 

 

‘ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา’ เผยความคืบหน้าวัคซีนโควิดชนิดพ่นจมูกทีมวิจัยไทย เตรียมส่งทดสอบความปลอดภัยในสัตว์ทดลอง ขั้นตอนสำคัญก่อนขึ้นทะเบียนทดสอบในมนุษย์

วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2564 ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) และนักไวรัสวิทยา โพสต์เฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana ระบุว่า วัคซีน COVID-19 ที่สร้างขึ้นจากอนุภาคไวรัสไข้หวัดใหญ่ ( influenza-based ) Lot แรก ระดับ GMP ถูกผลิตขึ้นโดยทีมวิจัยขององค์การเภสัชกรรมแล้ว วัคซีน Lot นี้จะส่งไปทดสอบความปลอดภัยในสัตว์ทดลองที่ ม.นเรศวร ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับขึ้นทะเบียนวัคซีนเพื่อทำการทดสอบในมนุษย์ครับ 

วัคซีนสูตรนี้เป็นวัคซีนตัวที่สองของทีมสวทช โดยตัวที่จะออกมาทดสอบก่อนจะเป็น Adenovirus-based ซึ่งได้ทำการทดสอบความปลอดภัยในสัตว์ทดลองไปแล้ว…วัคซีนทั้งสองชนิดออกแบบเป็นชนิดพ่นจมูกทั้งคู่…Product of Team Thailand ครับ


ที่มา : https://www.facebook.com/photo/?fbid=4691461214227097&set=a.410485375658057


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ เผยการตัดสินใจถอนกองกำลังออกจากอัฟกานิสถาน เหตุผู้นำการเมืองและความไม่เต็มใจสู้ของกองทัพอัฟกานิสถานว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้กลุ่มตาลิบันยึดอำนาจได้สำเร็จ

วอชิงตัน/คาบูล (เอพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ยืนยันอย่างหนักแน่นเรื่องการตัดสินใจถอนกองกำลังทหารสหรัฐออกจากอัฟกานิสถาน พร้อมกับกล่าวโทษผู้นำการเมืองและความไม่เต็มใจสู้ของกองทัพอัฟกานิสถานว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้กลุ่มตาลิบันยึดอำนาจได้สำเร็จ ขณะที่มีรายงานว่า ประธานาธิบดีอัชราฟ กานีแห่งอัฟกานิสถาน หนีออกจากประเทศพร้อมรถหรู 4 คัน และเฮลิคอปเตอร์ที่ขนเงินไปด้วยมหาศาล ก่อนที่กลุ่มตาลิบันจะยึดกรุงคาบูล

ประธานาธิบดีไบเดนออกมาแถลงที่ทำเนียบขาวผ่านโทรทัศน์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลุ่มตาลิบันประกาศยึดการปกครองอัฟกานิสถานว่า เขาโทษผู้นำการเมืองที่หลบหนีออกนอกประเทศและความไม่เต็มใจต่อสู้ของกองทัพอัฟกานิสถานที่ได้รับการฝึกโดยสหรัฐฯ ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้กลุ่มตาลิบันยึดอำนาจการปกครองประเทศ และเตือนผู้นำตาลิบันว่า จะต้องเผชิญกับพลังการทำลายล้างรุนแรง หากกลุ่มตาลิบันเข้าไปแทรกแซงการถอนกำลังทหารของสหรัฐฯ

ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวเพิ่มเติมว่าเขาสนับสนุนการตัดสินใจถอนกำลังทหารสหรัฐฯ ออกจากอัฟกานิสถานอย่างหนักแน่นหลังจากที่เขาเรียนรู้ว่าไม่เคยมีช่วงเวลาที่เหมาะสมในการถอนกำลังทหารสหรัฐตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ทั้งยังระบุว่า เขาได้เห็นภาพเหตุการณ์โกลาหลบางส่วนในกรุงคาบูลที่น่าสะเทือนใจ แต่ไม่ได้เริ่มสั่งอพยพผู้คนให้เร็วกว่านี้ เพราะประธานาธิบดีอัชราฟ กานีของอัฟกานิสถานไม่ต้องการให้มีการอพยพเป็นจำนวนมาก

ประธานาธิบดีไบเดนยังกล่าวยอมรับว่า กลุ่มตาลิบันได้บุกยึดพื้นที่ของอัฟกานิสถานรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ การรุกคืบอย่างว่องไวของกลุ่มตาลิบันทำให้เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ประหลาดใจ เพราะคาดว่ากองทัพของอัฟกานิสถานจะขับไล่กลุ่มตาลิบันหรือยับยั้งพวกเขาไว้ได้เป็นเวลาหลายเดือน พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า การตัดสินใจถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถานเป็นผลมาจากที่เขาได้ให้คำมั่นกับกองทหารสหรัฐฯ ว่า จะไม่ขอให้ทหารสหรัฐเสี่ยงชีวิตต่อไปเพื่อสงครามที่ควรจะจบสิ้นมาตั้งนานแล้ว เขารู้ดีกว่าการตัดสินใจดังกล่าวจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่เขาขอน้อมรับทั้งหมดไว้เองดีกว่าที่จะส่งต่อการตัดสินใจนี้ให้ประธานาธิบดีคนต่อไป

ด้าน เน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะยืนยันว่า สหรัฐฯ ยังยอมรับรัฐบาลของประธานาธิบดีกานีเป็นรัฐบาลของอัฟกานิสถานอยู่หรือไม่ และปฏิเสธที่จะเรียกกานีว่าเป็นประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน หลังจากที่กานีหนีออกนอกประเทศไปแล้ว โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ยังกางเงื่อนไขที่จะทำให้สหรัฐฯ ยอมรับรองรัฐบาลใหม่ของตาลิบันด้วยว่า รัฐบาลใหม่จะต้องเป็นรัฐบาลที่รวมทุกฝ่าย และต้องเคารพในสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิสตรี พร้อมขู่ว่า รัฐบาลใหม่ของอัฟกานิสถาน จะต้องได้รับผลของการกระทำหากละเมิดสิทธิมนุษยชน และพฤติกรรมของตาลิบัน จะเป็นตัวตัดสินว่า สหรัฐฯ จะยอมรับรองรัฐบาลใหม่ของอัฟกานิสถานหรือไม่

ขณะเดียวกัน สำนักข่าว RIA Novosti ของรัสเซียรายงานว่า ก่อนที่กลุ่มตาลิบันจะยึดประเทศได้สำเร็จเมื่อวันอาทิตย์ ประธานาธิบดีกานี ได้หนีออกจากประเทศ พร้อมด้วยรถยนต์ 4 คัน ที่อัดแน่นด้วยเงินสด แล้วยังนำเงินอีกจำนวนหนึ่งไปไว้บนเฮลิคอปเตอร์เพื่อขนหนี แต่รถ 4 คัน และเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ ก็ยังขนเงินและสิ่งของมีค่าไปไม่หมด จนต้องทิ้งเงินบางส่วนไว้ที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ก่อนที่กานีจะเดินทางหนีออกนอกประเทศ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเป็นที่ทาจิกิสถาน หรืออุซเบกิสถาน ทำให้นักการทูตรัสเซียประจำอัฟกานิสถาน วิจารณ์การหนีออกจากประเทศของกานีว่า “ไร้เกียรติ” และควรถูกนำตัวมาลงโทษตามกฎหมาย


ที่มา : https://www.naewna.com/inter/595642


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

รมว.เกษตรฯ สั่งตรวจสอบส่งออกผลไม้กันปนเปื้อนโควิด

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ประธานคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (ฟรุ้ทบอร์ด) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการไปยังกรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมวิชาการเกษตร และสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เร่งพัฒนาคุณภาพมาตรฐานผลไม้และระบบตรวจสอบย้อนกลับ รวมทั้งมาตรการป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโควิด-19 กับสินค้าเกษตรที่ส่งออกทุกชนิด โดยเฉพาะผลไม้ที่ส่งออกไปยังจีนด้วย ซึ่งคุมเข้มตั้งแต่สวน โรงคัดบรรจุ และการขนส่ง

ทั้งนี้ยังได้มอบหมายนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ เป็นประธานในการจัดทำแผนปฏิรูปการบริหารจัดการผลไม้เชิงโครงสร้างทั้งระบบภายใน 90 วัน เพื่อสร้างกลไกที่พร้อมปฏิบัติการฉุกเฉินได้ทันทีที่เกิดปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อป้องกันปัญหาการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในปีนี้ ซึ่งประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่สุดของผลไม้ไทย รวมทั้งเวียดนามและลาวที่เป็นเส้นทางการขนส่งได้ยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 เข้มข้นมากขึ้น 

ชาวทวิตเตอร์ตอกกลับ แรปเปอร์สาวชื่อดัง 'มิลลิ-ดนุภา' ใช้เส้นยื่นสิทธิสอบล่าช้าแบบวีไอพี ทั้งที่กฎของมหาวิทยาลัยไม่สามารถทำได้ และตนเองได้ออกมาเรียกร้องความเท่าเทียมอยู่เสมอ พร้อมทั้งเรียกร้องให้มิลลิขอโทษอาจารย์ที่มิลลิได้ออกมาด่า ทั้งที่ไม่มีความผิดด้วย

จากกรณีแรปเปอร์สาวดัง 'มิลลิ-ดนุภา' แจงปมปัญหาเรียนออนไลน์ อาจารย์ประกาศไม่มีคะแนน โทษกระทรวงการศึกษาฯ แนะควรประกาศให้หยุดเรียน 1 ปี อย่าแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้วปล่อยลอยแพได้ไหม สรุป ที่ไม่มีคะแนนเพราะเพื่อนยืมโน้ตบุ๊กไปใช้ แล้วพอสแกนนิ้วดันเข้าสู่ระบบเพื่อน ทำข้อสอบของเพื่อน สุดท้ายคณบดีช่วยทำเรื่องสอบล่าช้า เสียเงินไปพันนึง จนทำให้อาจารย์ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องดังกล่าวถูกผู้ที่เข้าใจผิดจากการที่แรปเปอร์สาวดังได้ออกมาเปิดเผย และชาวโซเชียลมองว่าอาจารย์ถูกด่าฟรีตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

(17 ส.ค.) เพจ “วันนี้ยุวชนคิดอะไรบ้าง” ได้ออกมาเผยหลังชาวทวิตเตอร์ได้มีกระแสตีกลับ จากกรณีดังกล่าวเนื่องจากมองว่า แรปเปอร์สาวดัง “มิลลิ-ดนุภา” ได้ออกมาชี้แจงเหตุผลในการทำเรื่องสอบล่าช้า ไม่เหมาะสม และไม่เป็นไปตามกฎของมหาวิทยาลัยตามที่นักศึกษาท่านอื่นได้รับ ซึ่งหมายความว่า มิลลิ-ดนุภา กลับได้สิทธิการสอบล่าช้า เป็นสิทธิพิเศษ ทั้งนี้ มิลลิ-ดนุภา แสดงความคิดเห็นทางการเมืองในการเรียกร้องความความเท่าเทียม เรียกร้องประชาธิปไตยอยู่บ่อยครั้ง แต่สุดท้ายตนเองกลับใช้เส้นสาย และมีอีกหลายรายมองว่าการกระทำที่เข้าสอบด้วยไอดีเพื่อนเหมือนการโกงข้อสอบด้วยซ้ำ และบางรายเรียกร้องให้มิลลิต้องลงเรียนใหม่และขอโทษอาจารย์ด้วย


ที่มา : https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000081002
https://www.facebook.com/105552537932743/posts/339951547826173/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“บางกอกทูเดย์” ผนึกพลัง “โครงการติดตามด้วยความห่วงใย ศย.กลาง” ร่วมพันธกิจ “โลตัส” แจกข้าว 2 ล้านกล่องให้เข้าถึงชุมชน

ดร.จุมพล โพธิสุวรรณ บรรณาธิการข่าว สำนักข่าวบางกอกทูเดย์ ร่วมกับ ดร.นิลุบล ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานโครงการติดตามด้วยความห่วงใย สืบสานปณิธานพ่อหลวง ทำดีถวายเป็นพระราชกุศล ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ร่วมมือในพันธกิจ เพื่อเสริมสร้างเป็นกำลังใจให้ทุกคน ให้ผ่านวิกฤติโควิด-19 นี้ไปด้วยกัน ด้วยการมอบอาหาร 300 กล่อง,ผลไม้, กาแฟ และ หน้ากากอนามัย แจกจ่ายแก่ แพทย์สนาม, พยาบาล, เจ้าหน้าที่ของรัฐ, เด็กและเยาวชน, แคมป์คนงาน, คนเร่ร่อน และคนในชุมชนต่าง ๆ วันละ 300 กล่อง เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป

โดยในขณะนี้เดินหน้าดำเนินการแจกจ่ายไปแล้ว ที่ชุมชนพระยาสุเรนทร์ 24 ชุมชนสุทธิสาร แคมป์คนงานอโศกพระราม 9 ชุมชนสินอนันต์ 2 และในวันที่ 17 สิงหาคมนี้ ได้นำมอบแก่แพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานโรงพยาบาลศรีธัญญา โดย นายแพทย์ศิริศักดิ์ ธิติดิลกรัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีธัญญา มอบหมายให้ ดร.มานะ กำจรตรีโรจน์ รองประธานศูนย์บูรณาการความรู้กัญชา และที่ปรึกษาโรงพยาบาลฯ เป็นผู้แทนรับมอบ 

ทั้งนี้โรงพยาบาลศรีธัญญามีความประสงค์ขอรับบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์หลายชนิด อาทิ เครื่องผลิตออกซิเจน ขนาด 5 -10 ลิตร ฯลฯ สนใจสมทบทุนการจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ รักษาผู้ป่วยโควิด -19 เพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์สู้ภัย โควิด-19 หน่วยงานและผู้มีจิตกุศลสอบถามรายละเอียดได้ที่มูลนิธิโรงพยาบาลศรีธัญญา โทร. 081-832-7565

สำหรับพันธกิจในครั้งนี้ “โลตัส” ( Lotus’s) ได้ให้การส่งเสริมและสนับสนุนอาหารพร้อมทาน ในโครงการ “ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19” มอบอาหารฟรี 2 ล้านกล่อง ให้กับชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยอาหารกล่องที่นำมอบให้จำนวน 1 ล้านกล่องมาจากร้านอาหารรายย่อยที่ได้รับผลกระทบ สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนมาประกอบอาหาร และ 1 ล้านกล่องมาจากเครือเจริญโภคภัณฑ์

หลังสหรัฐฯ สั่งอพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตและชาวอเมริกันทั้งหมดจากคาบูล ได้เกิดภาพเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่กรุงไซ่ง่อน เมื่อ 46 ปีก่อน

หลังตอลิบานบุกยึดกรุงคาบูล เมืองหลวง ได้อย่างรวดเร็ว พร้อม ๆ กับที่กองทัพสหรัฐอเมริกาส่งกำลังพลไปอพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตและชาวอเมริกันทั้งหมดออกมาอย่างรวดเร็วเช่นกันนั้น ก็ได้ทำให้เกิดการเปรียบเทียบภาพสะท้อนความพ่ายแพ้สงครามเวียดนามของสหรัฐฯ เมื่อ 46 ปีก่อนขึ้นมาทันที

โดยสื่อหลายแขนง ได้เปรียบเทียบภาพวันที่เจ้าหน้าที่ซีไอเอนำเฮลิคอปเตอร์สหรัฐฯ บินไปรับชาวอเมริกัน อพยพจากกรุงไซ่ง่อน หรือ นครโฮจิมินห์ ในปี 1975 กับภาพเฮลิคอปเตอร์ที่บินไปอพยพนักการทูตจากสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงคาบูล เมื่อ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา เร็วกว่ากำหนดที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน สั่งถอนทัพเสร็จสิ้นวันที่ 31 ส.ค.64

อย่างไรก็ตาม ทางสหรัฐฯ โดย Anthony Blinken รมว. กระทรวงต่างประเทศ ก็ออกมาตอบโต้ว่าสถานการณ์ดังกล่าวไม่เหมือนกัน เพราะครั้งนี้เป็นการทำอย่างรอบคอบมาก และเป็นไปในวิถีคำสั่งที่เตรียมการไว้ เพื่อรับรองความปลอดภัยของคนอเมริกันและชาวอัฟกันที่ทำงานให้รัฐบาลสหรัฐฯ เป็นภารกิจสำคัญที่สุดในตอนนี้

ขณะที่ด้าน อ.แพท แสงธรรม นักวิชาการอิสระ ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก 'Pat Sangtum' ระบุเกี่ยวกับการลี้หนีกรุงคาบูลของสหรัฐฯ ในครั้งนี้ไว้ว่า... 

The Last Night of the World in Kabul.

Anthony Blinken รมว. กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า "This is not Saigon" ตอบโต้คำวิจารณ์เปรียบเทียบการเผ่นจากคาบูลว่าไม่ต่างจากตอนสหรัฐฯ เผ่นจากไซ่ง่อน

ความแตกต่างก็คงเป็นดั่งในเพลงจากมิวสิคัล Miss Saigon สำหรับชาวอัฟกันฯ แต่ละคืนวันที่ผ่านไป จะเหมือนเป็นคืนสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่

Our lives will change, when tomorrow comes
Tonight our hearts drown the distant drums
And we have music all right tearing the night
The song - played on a solo saxophone
A crazy sound, a lonely sound
A cry that tells us love goes on and on
Played on a solo saxophone
it's telling me to hold you tight
And dance like it's the last night of the world

แน่นอนว่า การอพยพอย่างเร่งด่วนของสหรัฐฯ นั้น ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ต่อรัฐบาล โจ ไบเดน พอสมควร หลังปล่อยให้ชาวอัฟกันตกอยู่สภาวะหวาดหวั่นการยึดครองของตอลิบานที่เคยปกครองชาวอัฟกันอย่างกดขี่ รุนแรง โดยเฉพาะกับผู้หญิง จนปรากฎภาพข่าวประชาชนแห่หนีตายออกนอกประเทศ แม้แต่ยอมเกาะเครื่องบินแล้วดิ่งลงมาดับก็ยอม


ที่มา : https://www.facebook.com/100000845184675/posts/4344317585606371/

https://www.theguardian.com/us-news/2021/aug/15/antony-blinken-us-mission-afghanistan-saigon


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'ไฟเซอร์' เดินหน้ายื่นหนังสือขออนุมัติฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้แก่ประชาชนสหรัฐฯ โดยวางแผนฉีดให้ผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไป

16 ส.ค. 64 เอเอฟพี รายงานว่า ไฟเซอร์/ไบออนเทค (Pfizer and BionTech) ได้ยื่นข้อมูลทางคลินิกเบื้องต้นต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐฯ ส่วนหนึ่งในความตั้งใจขออนุมัติฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เข็ม 3 แก่ประชาชนชาวอเมริกาทุกคน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐฯ ไฟเขียวฉีดวัคซีนไฟเซอร์/ไบออนเทค และโมเดอร์นาเข็มกระตุ้นแก่กลุ่มบุคคลที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

ล่าสุด ทางไฟเซอร์และไบออนเทค ได้ยื่นผลการทดลองทางคลินิกระยะที่ 1 ที่ประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐฯ

"ข้อมูลที่เราพบเห็นจนถึงวันนี้บ่งชี้ว่าวัคซีนเข็มที่ 3 ของเรากระตุ้นระดับแอนติบอดีมากกว่าที่พบเห็นหลังจากได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 อย่างมีนัยสำคัญ" อัลเบิร์ต บูร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของไฟเซอร์ระบุในถ้อยแถลง

ส่วน อูกูร์ ซาฮิน ผู้ร่วมก่อตั้งไบออนเทค เสริมว่า "วัคซีนเข็มกระตุ้นจะช่วยลดอัตราการติดเชื้อและการล้มป่วยในคนที่เคยฉีดวัคซีนแล้ว และควบคุมการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์ต่าง ๆ ได้ดีขึ้นระหว่างฤดูกาลหนาวที่กำลังมาถึง"

ทั้ง 2 บริษัทยังมีแผนยื่นข้อมูลเดียวกันนี้ต่อเจ้าหน้าที่ของยุโรปในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นแม้ว่าองค์การอนามัยโลกจะวิงวอนให้พักฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเอาไว้ชั่วคราว เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในการกระจายวัคซีนระหว่างประเทศร่ำรวยและยากจน

ข้อเรียกร้องนี้ถือเป็นคำเตือนที่ชัดเจนและรุนแรงที่สุดจากองค์การอนามัยโลก ในขณะที่หลายประเทศเริ่มมีการสั่งซื้อและเตรียมฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 เพื่อต่อสู้การแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์เดลตา ในนั้นรวมถึง อิสราเอล ที่ได้เริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 แก่ประชาชนไปแล้ว

คณะที่ปรึกษาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ เตรียมพบปะหารือกันในช่วงปลายเดือนสิงหาคม สำหรับพิจารณาเห็นชอบฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพิ่มเติม ได้แก่ประชากรวัยผู้ใหญ่อายุ 65 ปีขึ้นไป คนสูงวัยที่พักอาศัยอยู่ที่บ้านพักคนชรา และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข


ที่มา: https://www.facebook.com/3080161418691131/posts/6355774714463102/
https://www.straitstimes.com/world/united-states/coronavirus-pfizer-submits-data-for-3rd-dose-approval-in-us


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

พันธมิตรไฮสปีดสามสนามบิน ผนึกกำลัง “ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด” มอบอาหารปรุงสุก 2,000,000 กล่อง 40 จุด ทั่วกรุงเทพฯ

ศูนย์ต้านภัยโควิด-19 รฟท. และจิตอาสา 904 การรถไฟแห่งประเทศไทย จับมือ บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) จิตอาสาโครงการต้องรอด โดยกลุ่ม อัพ ฟอร์ ไทย (Up for Thai) และบริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออก ร่วมแรงร่วมใจนำอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทานแจกจ่ายให้แก่ประชาชนกว่า 42 ชุมชน ในเขตลาดพร้าว ภายใต้โครงการ “ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด” ซึ่งเป็นโครงการที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ร่วมผนึกกำลังร่วมกับองค์กรต่าง ๆ กว่า 100 องค์กร มูลนิธิ กลุ่มจิตอาสาภาคประชาสังคม และองค์กรเอกชน แจกอาหารทั้งหมด 2,000,000 กล่อง กระจายไปสู่ชุมชนใน 40 จุดทั่วกรุงเทพฯ เพื่อช่วยเหลือและให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีทั้งผู้ที่ขาดรายได้ ว่างงาน กลุ่มเปราะบาง กลุ่มที่ต้องแยกกักตัวดูอาการ และผู้ที่รักษาตัวที่บ้านหรือ Home Isolation โดยระดมสรรพกำลังของกลุ่มธุรกิจในเครือประกอบด้วย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัทเอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้ดูแลธุรกิจโลตัส และบริษัท ซีพี โซเชียลอิมแพคท์ จำกัด 

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่าท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน หลายองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนต่างมีเป้าหมายเดียวกันในการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน การรถไฟแห่งประเทศไทย โดยศูนย์ต้านภัยโควิด-19 รฟท. และจิตอาสา 904 การรถไฟแห่งประเทศไทยเองมีพันธกิจในการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอยู่เช่นกัน การผนึกกำลังในฐานะพันธมิตรร่วมกับครัวปันอิ่ม ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในการทำหน้าที่เป็นผู้นำอาหารปรุงสุก สะอาด พร้อมรับประทาน ไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อน หรือต้องกักตัวในที่พักอาศัยในครั้งนี้ จะยิ่งทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงอาหารได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น สร้างกำลังใจให้ทุกคนสามารถผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

“ขอขอบคุณเครือเจริญโภคภัณฑ์ และพันธมิตรทุกภาคส่วนที่จัดโครงการครัวปันอิ่มนี้ขึ้นมาเพื่อประชาชน ซึ่งล้วนได้รับผลกระทบจากโรคระบาดฯ ทั้งยังประสบกับปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ การได้มีอาหารรับประทาน จะช่วยเสริมสร้างทั้งกำลังกาย และกำลังใจให้กับผู้ที่เจ็บป่วย ตลอดจนผู้ขาดรายได้ได้เป็นอย่างดี ศูนย์ต้านภัยโควิด-19 รฟท. และจิตอาสา 904 การรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง พวกเราขออาสานำอาหารไปมอบให้กับประชาชนในชุมชนทุกท่าน และขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่แสนลำบากนี้ไปให้ได้ในเร็ววัน”

ด้านนายผาติยุทธ ใจสว่าง รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานผลิตภัณฑ์ และผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สำนักโทรทัศน์ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) มีพันธกิจสำคัญในการเป็น "สื่อที่ดีของสังคม ที่มีส่วนสร้างสังคมที่ดี" โดยท่ามกลางวิกฤตของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้รายงานสถานการณ์ ติดตาม และรับทราบถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนชาวไทยอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ทำให้ทราบว่า อาหาร จำเป็นมากในภาวะวิกฤติที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ อาหารกล่องจาก โครงการครัวปันอิ่ม จะช่วยบรรเทาความหิว แบ่งเบาค่าใช้จ่าย และความเดือดร้อนจากประชาชนได้

ในขณะที่ น.ส. นัทธ์ชนัน กัลปนา อาสา หัวหน้าคลัง โครงการ “ต้องรอด” โดยกลุ่ม อัพ ฟอร์ ไทย (Up for Thai) หนึ่งในพันธมิตรหลักของโครงการฯ ซึ่งเป็นกำหลังสำคัญในการกระจายอาหารสู่ชุมชนริมคลองลาดพร้าว กล่าวว่าจากการลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องในหลายชุมชนที่ผ่านมา พบว่าในแต่ละวันมีความต้องการอาหารสูงมาก และยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในชุมชน คาดว่าอาหารปรุงสุขพร้อมรับประทาน 2,000,000 กล่องจากโครงการครัวปันอิ่ม ที่กระจายแจกให้กับประชาชนทั่วกรุงเทพอย่างต่อเนื่องในครั้งนี้จะสามารถเหลือประชาชนได้มากขึ้น 

ด้านนายสฤษดิ์ จิณสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด กล่าวว่า โครงการ “ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด” นอกจากจะนำอาหารปรุงสุกสะอาดจาก ซีพีเอฟ (CPF) มอบให้กับประชาชนแล้วยังช่วยสนับสนุนร้านค้าขนาดเล็กในพื้นที่ให้มีรายได้ โดยทำการสั่งอาหารจากร้านค้ารายย่อยประมาณ 500 กล่องหมุนเวียนไปหลากหลายร้าน สมทบกับอาหารจาก ซีพีเอฟ อีกประมาณ 500 กล่อง รวมเป็นจุดละประมาณ 1,000 กล่องต่อวัน 40 จุดทั่วกรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อฝ่าฟันวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกัน

“สำหรับจุดแจกชุมชนลาดพร้าว ต้องขอขอบคุณศูนย์ต้านภัยโควิด-19 รฟท. และ จิตอาสา 904 การรถไฟแห่งประเทศไทย กลุ่มจิตอาสาโครงการ ต้องรอด โดยกลุ่ม Up for Thai บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) วัดลาดพร้าว และพันธมิตรจิตอาสาทุกท่านในชุมชน ที่ระดมสรรพกำลังมาร่วมแรงร่วมใจส่งต่อความห่วงใย ช่วยกันคนละไม้คนละมือให้ทุกคนได้อิ่มท้อง และพยายามเข้าถึงประชาชนทุกคนในชุมชนให้ได้มากที่สุด ผมหวังว่า โครงการ “ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด” โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ทุกท่านได้”


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

สื่อนอกแฉ! อดีตผู้นำอัฟกานิสถานขนเงินใส่รถยนต์ 4 คันและเฮลิคอปเตอร์ ก่อนหนีออกนอกประเทศ

สำนักข่าว RIA ของรัสเซียรายงานโดยอ้างคำให้สัมภาษณ์ของ นิกิตะ อิชเชงโก โฆษกสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงคาบูลของอัฟกานิสถานว่า อดีตประธานาธิบดี อัชราฟ ฆานี ของอัฟกานิสถานขนเงินเต็มรถยนต์ 4 คันและเฮลิคอปเตอร์อีก 1 ลำหนีออกจากอัฟกานิสถาน

“รถยนต์ 4 คันเต็มไปด้วยเงิน พวกเขาพยายามยัดเงินอีกส่วนหนึ่งใส่เฮลิคอปเตอร์ แต่ใส่ได้ไม่หมด และเงินบางส่วนที่เหลือถูกทิ้งไว้บนรันเวย์ของสนามบิน” อิชเชงโกเผยโดยอ้างพยานบุคคลหลายคนเป็นแหล่งข้อมูลของตัวเอง และยังกล่าวอีกว่า การล่มสลายของรัฐบาลอัฟกันแสดงให้เห็นโดยวิธีการหนีของฆานี

คำให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก ดิมิทรี ชอร์นอฟ ทูตรัสเซียประจำอัฟกานิสถานเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า สถานการณ์ของกรุงคาบูลภายใต้การปกครองของตอลิบันดีกว่าอยู่ภายใต้อดีตประธานาธิบดีฆานี

ด้าน ซามีร์ คาบูลอฟ ตัวแทนพิเศษในอัฟกานิสถานของประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน เผยกับสถานีวิทยุ Ekho Moskvy ของรัสเซียก่อนหน้านี้ว่า ยังไม่ทราบชัดเจนว่าอดีตประธานาธิบดีฆานีเหลือเงินไว้เท่าไร

“ผมหวังว่ารัฐบาลที่หนีไปไม่ได้เอาเงินของประเทศไปจนหมด ถ้ามีอะไรเหลืออยู่บ้างมันจะเป็นเงินก้นถุง”


ที่มา : https://www.posttoday.com/world/660763

https://www.reuters.com/world/asia-pacific/russia-says-afghan-president-fled-with-cars-helicopter-full-cash-ria-2021-08-16/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย ครม.เห็นชอบโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ยี่ห้อไฟเซอร์ อีก 20 ล้านโดส พร้อมเผยเหตุผลที่ยังสั่งซื้อซิโนแวค

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 ส.ค นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ยี่ห้อไฟเซอร์ สำหรับประชาชนคนไทยเพิ่มเติมอีก 20,001,150 โดส เป็นส่วนที่เคยลงนามไปแล้ว โดยวงเงินอนุมัติจะต้องนำไปชำระ จำนวน 9,372 ล้านบาท แบ่งเป็นการจัดหาวัคซีนประมาณ 8,439 ล้านบาท และเป็นค่าบริการจัดการประมาณ 933 ล้านบาท คาดว่าจะส่งมอบภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 ช่วงประมาณปลายเดือนก.ย.-ต้นเดือนต.ค.นี้ 

นายอนุชา กล่าวว่า นโยบายรัฐบาล จะจัดหาวัคซีนให้แก่ประชาชน 100 ล้านโดส ภายในสิ้นปี 2564 สำหรับสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค จึงให้มีจัดหาวัคซีนที่มีเทคโนโลยีการผลิตที่แตกต่างกันให้สามารถครอบคลุมการกลายพันธุ์ของไวรัส โควิด-19 ที่มีอยู่ทั่วโลกทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้สามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่แก่คนไทยได้อย่างแท้จริง ลดอัตราการป่วยการเสียชีวิต และลดค่าใช้จ่ายภาครัฐในการดูแลรักษาผู้ป่วยจากโรค COVID-19 รวมทั้งลดผลกระทบพื้นฟูสภาพเศรษฐกิจและสังคมให้กลับสู่สภาวะปกติได้โดยเร็ว

ส่วนกรณีที่สั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคเพิ่ม ทั้งที่ทราบอยู่แล้วว่าประสิทธิภาพไม่เพียงพอนั้น นายอนุชา กล่าวชี้แจงว่า มีเหตุผลด้านการวิจัยและการเก็บข้อมูลมารองรับ เนื่องจากตั้งแต่องค์การอนามัยโลกได้มีการอนุมัติให้มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบบไขว้ชนิด ทางประเทศไทยจึงเริ่มมีการฉีดวัคซีนแบบไขว้และเก็บข้อมูลมาซึ่งข้อมูลที่ได้พบว่า ถ้าเป็นผู้ที่ฉีดซิโนแวคเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 จะมีภูมิต่ำกว่าการฉีดแอสตราตราเซเนกา 2 เข็ม และจากการเก็บข้อมูลพบว่าผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 1 ไขว้ด้วยแอสตราเซเนกา เข็มที่ 2 จะทำให้ภูมิขึ้นมาสูงกว่า การฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม ถึง 4 เท่า และสามารถป้องกันไวรัสสายพันธุ์เดลต้าได้ด้วย จึงเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ประเทศไทยจะเริ่มฉีดวัคซีนในลักษณะนี้ ในผู้ที่ยังไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีน ระหว่างรอวัคซีน mRNA ที่จะมาในช่วงปลายเดือน ก.ย. หรือ ต้นต.ค.นี้


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ครม. ให้ปรับเงื่อนไขการชดใช้ทุน ทันตแพทย์จบใหม่ เข้ารับราชการ  ต้อง มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ-ได้รับคัดเลือกตามแผนความต้องการของหน่วยงาน

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบให้ทบทวนมติครม.เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2525 เกี่ยวกับโครงการแก้ไขปัญหาการกระจายทันตแพทย์ที่มีเงื่อนไขเรื่องการเข้ารับราชการ โดยได้ปรับปรุงสาระสำคัญของโครงการ เกี่ยวกับการกำหนดเงื่อนไขการเข้ารับราชการใหม่ดังนี้ เดิมนโยบายเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาด้านการกระจายทันตแพทย์ ได้กำหนดให้ นักศึกษาทันตแพทย์ทุกคนทำสัญญาเข้ารับราชการ  ขอปรับปรุงเป็น ให้นักศึกษาทันตแพทย์คู่สัญญาผู้ที่สำเร็จการศึกษาทันตแพทยศาสตรบัณฑิตจากสถาบันการศึกษาภาครัฐ ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทันตกรรมและได้รับคัดเลือกตามแผนความต้องการทันตแพทย์ของส่วนราชการ หรือหน่วยงานในองค์กรของรัฐทุกคนเข้าปฏิบัติงานชดใช้ทุนตามสัญญา

น.ส.ไตรศุลี  กล่าวว่า สำหรับสาเหตุที่ต้องปรับปรุงสาระสำคัญโดยระบุเงื่อนไขที่ชัดเจนมากขึ้นข้างต้น  เนื่องจากในระยะแรกของโครงการฯมีเพียงสถาบันการผลิตทันตแพทย์ภาครัฐ แต่ในปัจจุบันมีสถาบันผลิตทันตแพทย์ภาคเอกชนด้วย และเพื่อลดภาระของกระทรวงสาธารณสุขในการจัดหาตำแหน่งงานอื่นมารองรับผู้สำเร็จการศึกษาทันตแพทยศาสตรบัณฑิตที่ไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพประมาณปีละ 100 คน ไปปฏิบัติชดใช้ทุน เนื่องจากที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขจะต้องรับผู้สำเร็จการศึกษาภายหลังกระบวนการคัดเลือกของส่วนราชการ หรือหน่วยงานในองค์การของรัฐอื่นๆ ซึ่งเป็นการรับผู้สำเร็จการศึกษาที่ไม่ได้รับใบอนุญาตไว้ทั้งหมด

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นอกจากนี้ยังทบทวนสาระสำคัญที่เดิมระบุว่า จำนวนทันตแพทย์ในแต่ละปีนั้นให้รับราชการในส่วนภูมิภาค โดยรับราชการในกระทรวงสาธารณสุขไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 และรับราชการในหน่วยงานอื่นไม่เกินร้อยละ 30 ปรับเป็น จำนวนทันตแพทย์ผู้ทำสัญญาในแต่ละปีนั้นให้เข้าปฏิบัติงานในส่วนราชการ หน่วยงานในองค์การของรัฐ ตามแผนความต้องการของส่วนราชการหรือหน่วยงาน เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการทันตแพทย์คู่สัญญาของกระทรวงสาธารณสุขซึ่งมีแนวโน้มจะต่ำกว่าร้อยละ 70  และความต้องการที่ลดลงของส่วนราชการหรือหน่วยงานในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งหลังจากที่ครม.มีมติตามที่เสนอครั้งนี้แล้ว กระทรวงสาธารณสุขจะประสานส่วนราชการจัดทำแผนความต้องการทันตแพทย์ราย 5 ปี และในแต่ละปีจะทบทวนความต้องการที่เกิดขึ้นจริงเพื่อประเมินสถานะความต้องการด้วย

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า อัตราส่วนทันตแพทย์ต่อประชากรในปี 2525 ในส่วนภูมิภาคอยู่ที่ 1:177,781 คน  ทั้งประเทศสัดส่วนอยู่ที่ 1:26,678 คน  ขณะที่ในปี 2563 อัตราส่วนทันตแพทย์ต่อประชากรในภูมิภาคอยู่ที่ 1:10,673 คน ทั้งประเทศอยู่ที่ 1:3,989 คน ซึ่งเป้าหมายอัตราส่วนของทันตแพทย์ต่อประชากร ตามที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้สำหรับประเทศกำลังพัฒนาอยู่ที่ 1:5,000 คน  เป้าหมายของไทยในปี 2563  ในภูมิภาคอยู่ที่ 1:8,000 คน และทั้งประเทศอยู่ที่ 1:3,000 คน

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า กระทรวงสาธารณสุขมีแผนความต้องการรับทันตแพทย์คู่สัญญาเข้าปฏิบัติงานชดใช้ทุนประมาณปีละ 400 คนต่อปี คิดเป็นร้อยละ 59.44 ของผู้สำเร็จการศึกษาทันตแพทยศาสตร์จากสถาบันการศึกษาภาครัฐทั้งหมด ซึ่งมีประมาณ 700 คนต่อปี ประกอบกับส่วนราชการหรือหน่วยงานนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข มีตำแหน่งรองรับและคัดเลือกทันตแพทย์คู่สัญญาไปปฏิบัติงานชดใช้ทุนลดลง ทำให้กระทรวงสาธารณสุขต้องรับทันตแพทย์คู่สัญญาส่วนที่เหลือทั้งหมดเข้าปฏิบัติชดใช้ทุนในส่วนภูมิภาคประมาณ 612 คนต่อปี ซึ่งรวมถึงผู้สำเร็จการศึกษาทันตแพทยศาสตรบัณฑิตที่ไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทันตกรรมประมาณ 100 คนต่อปี  ส่งผลให้กระทรวงสาธารณสุขต้องรับทันตแพทย์คู่สัญญาเกินความต้องการภายใต้เงื่อนไขสัญญาแบบเดิม

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือน ระวังภัยร้ายจากโลกออนไลน์ 6 ประเภท ในช่วง work from home

วันที่ 17 ส.ค. 64  พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำงานส่วนใหญ่มีนโยบายให้ประชาชนทำงานที่บ้าน (work from home) ทำให้หลายคนต้องเปลี่ยนรูปแบบการทำงานมาเป็นแบบออนไลน์มากขึ้น และมีผลทำให้ประชาชนเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยในโลกออนไลน์ 6 ประเภท ที่ประชาชนอาจตกเป็นเหยื่อ หรืออาจเป็นผู้กระทำความผิดเสียเอง อันได้แก่ 

(1) การระรานทางไซเบอร์ (Cyber Bully) หมายถึง การกลั่นแกล้ง การให้ร้าย การด่าว่า การข่มเหง การรังแกผู้อื่น หรือ แสดงความคิดเห็น (Comment) หรือ เผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูล (Share) ที่ทำให้ผู้อื่นเสียหายทางสื่อสังคมออนไลน์ อาจมีความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท ดังนั้นควรมีสติก่อนจะโพสต์ แสดงความคิดเห็น หรือ ส่งต่อข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์

(2) การถูกเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ (ถูกแฮก) มักเกิดจาก การใช้รหัสที่คาดเดาได้ง่าย เช่น หมายเลขโทรศัพท์มือถือ วันเดือนปีเกิด 123456 เป็นต้น หรืออาจไปกดลิงก์ Phishing ที่สร้างลิงก์มาหลอกให้คลิก เช่น หลอกจะให้รางวัล บัตรกำนัล แจกเงิน แจกภาพ/คลิปลามกอนาจาร, ใบ้หวย เลขเด็ด, ข่าวซุบซิบดารา, หลอกว่าบัญชีธนาคารมีปัญหา ฯลฯ เมื่อเข้าไปในลิงก์ที่กดแล้ว คนร้ายจะให้กรอก Username Password หรือแม้กระทั่งมีการหลอกเอารหัสใช้ครั้งเดียว (OTP) โดยคนร้ายจะโทรศัพท์หรือแชทมาขอรหัสโดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ Call center หรือปลอมเป็นเพื่อนเรา สำหรับการป้องกันการถูกแฮก ต้องตั้งรหัสคาดเดาได้ยาก, ไม่กดลิงก์แปลก ๆ ที่ไม่มีที่มาที่ไป หรือไม่น่าเชื่อถือ, ไม่บอกรหัส OTP แก่ผู้อื่น, ตั้งค่ารหัสยืนยันตัวตนแบบ 2 ชั้น (2 Factor Authentication) ในทุกสื่อสังคมออนไลน์ เป็นต้น

(3) การฉ้อโกงออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การหลอกซื้อของออนไลน์ในลักษณะซื้อของไม่ได้ของ หรือซื้อของแล้วได้ของไม่เป็นไปตามรูปแบบที่สั่ง (ไม่ตรงปก), หลอกให้ลงทุนโดยอ้างว่าได้ผลตอบแทนสูงในระยะเวลาสั้น ๆ เป็นต้น การป้องกันฉ้อโกงออนไลน์ สามารถทำได้ด้วยคาถา 3 อย่า คือ

- อย่าเชื่อ โดยนำชื่อ-นามสกุล หมายเลขบัญชีธนาคาร ชื่อร้านค้า ฯลฯ ไปหาข้อมูลใน google ว่าเคยมีประวัติการฉ้อโกงหรือไม่ 

- อย่าโลภ ไม่ควรเห็นแก่ผลประโยชน์ที่มิจฉาชีพมาอ้างเพื่อชักชวนลงทุนหรือสินค้าราคาถูกมากเกินจริง

- อย่าละเลยข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะข่าวเกี่ยวกับอาชญากรรมไซเบอร์ เพื่อจะรู้เท่าทันโจรไซเบอร์ 

(4) หลอกรักออนไลน์ (Romance Scam) โดยสร้างโปรไฟล์เป็นฝรั่งหรือชาวตะวันออกกลาง มีฐานะดีมาจีบ สุดท้ายหลอกให้โอนเงินไปให้โดยอ้างเหตุผลต่าง ๆ, หลอกรักลวงลงทุน (Hybrid Scam) โดยสร้างโปรไฟล์เป็นหนุ่มสาวหมวยตี๋ชาวเอเซีย มาจีบ สุดท้ายหลอกให้ลงทุนค่าเงินสกุลดิจิทัลในแอปพลิเคชันปลอมโดยคนร้ายจะส่งลิงก์มาให้ การป้องกันการหลอกรักออนไลน์และหลอกรักลวงลงทุน คือ เมื่อมีชาวต่างชาติขอเป็นเพื่อนแล้วมีการพูดคุยในลักษณะจีบเป็นแฟน อาจตรวจสอบได้โดยขอนัดเจอตัวจริง หรือร้องขอให้เปิดกล้องวิดีโอคอล ให้เห็นหน้าเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับรูปในโปรไฟล์จริง ๆ (หน้าตรงปก) ซึ่งส่วนใหญ่ คนร้ายจะไม่ยอมวิดีโอคอล โดยอ้างเหตุขัดข้องต่าง ๆ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นมิจฉาชีพ และไม่ควรโอนเงินให้ทุกกรณีที่มีการกล่าวอ้าง หรือลงทุนในแอปพลิเคชันที่มิจฉาชีพส่งลิงก์มาให้

(5) แก๊งแอปพลิเคชันเงินกู้ ที่มีการระบาดมาก โดยอาศัยปัญหาทางเศรษฐกิจของพี่น้องประชาชนในช่วงโควิด-19 เข้ามาชักชวนให้ประชาชนกู้เงินผ่านแอปพลิเคชัน จากนั้นจะหลอกให้โอนเงินค่าธรรมเนียมก่อนกู้ เมื่อเหยื่อโอนเงินแล้วจะบล็อค หรือ อีกรูปแบบหนึ่งคือ ให้กู้เงินจริงแต่จะขูดรีดดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด เมื่อไม่ชำระหนี้ตามกำหนด จะมีการโทรศัพท์ขู่ ต่อว่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่นเหยียดหยามผู้กู้ นอกจากนั้นจะมีการส่งข้อความหรือโทรศัพท์หาเพื่อนผู้กู้ในลักษณะประจานผู้กู้ หรือหลอกลวงให้เพื่อนผู้กู้มาชำระหนี้แทนโดยอ้างว่าเพื่อนผู้กู้เป็นผู้ค้ำประกัน จึงควรหลีกเลี่ยงการกู้เงินผ่านแอปพลิเคชันเงินกู้ทุกกรณี และ

(6) ข่าวปลอม (Fake News) มีบุคคลไม่หวังดีพยายามส่งข่าวปลอมเข้ามาในสื่อสังคมออนไลน์โดยมีจุดประสงค์ไม่ดี เช่น สร้างความขัดแย้ง สร้างความเกลียดชัง สร้างความสับสน สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชน เป็นต้น จึงควรตรวจสอบข้อมูลว่าเป็นเรื่องจริงก่อนจะเชื่อและส่งต่อ เพราะอาจตกเป็นเครื่องมือของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดี โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลจาก ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย www.antifakenewscenter.com หรือ หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง หรือ สำนักข่าวที่น่าเชื่อถือ เป็นต้น 

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความห่วงใย และได้มอบนโยบายในการสร้างความรับรู้ให้กับประชาชนในการป้องกันตัวเองมิให้ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรในทุกรูปแบบ 

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน หากพบเห็นการกระทำผิดกฎหมายดังกล่าว กรุณาแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน 191 และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ แสดงความเห็นใจและเสียใจต่อไฮโซลูกนัทหลังถูกยิงบาดเจ็บ เผยเคยเตือนแล้วแต่สถานการณ์ก็ลากไปถึงจุดนั้นจนได้ รวมทั้งกรณีผู้ว่าฯ สมุทรสาครลาออก ชี้ควรได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก แสดงความเห็นถึงกรณีการบาดเจ็บของ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ไฮโซลูกนัท และการลาออกจากราชการของ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร โดยระบุข้อความดังนี้

มีเรื่อง 2 เรื่อง ที่ไม่สบายใจ

เรื่องที่ 1. ผมขอแสดงความเสียใจต่อลูกนัท นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ไฮโซลูกนัท ที่ได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุมถูกยิงที่เบ้าตา ความจริงเขาออกทีวีกับผมก่อนถูกยิง 1 วัน ผมต้องแสดงความเห็นใจ และเสียใจมา ณ ที่นี้อย่างสุดซึ้ง แม้เราจะเห็นต่างกันอย่างไร ผมก็คิดว่าเขาเป็นคนรุ่นใหม่ที่เป็นอนาคตของชาติได้ ผมไม่อยากเห็นใครได้รับบาดเจ็บ ผมเคยเตือนเขาแล้ว แต่สถานการณ์มันก็ลากไปถึงจุดนั้นจนได้

เรื่องที่ 2. ผมเห็นใจและเสียใจที่นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครลาออกจากราชการ หลังจากท่านป่วยด้วยโควิด-19 เมื่อหายออกมาก็ออกมาลุยงานต่ออีก ผมคิดเสียด้วยซ้ำว่าท่านน่าจะได้ย้ายหรือได้รับตำแหน่งสูงขึ้น แต่สุดท้ายรางวัลที่ท่านได้รับ คือ ต้องจำนนและลาออกจากราชการเพื่อรักษาสุขภาพ

สังคมไทย มีอะไรที่หาเหตุผลไม่ได้มากขึ้นทุกวัน สุดท้ายก็ต้องทำใจด้วยคำว่า "อย่าหาเหตุผล ในสิ่งที่ไม่มีเหตุผล" เจ็บใจเปล่า ๆ รักษาตัวกันให้รอดนะครับ


ที่มา : https://www.facebook.com/photo/?fbid=4184918551544012&set=a.357948834241022


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เผยตัวเลขยอดสะสมผู้ป่วยโควิด-19 ใน 10 จังหวัดที่มีจำนวนสูงสุด

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นที่น่าสังเกตว่า ยอดผู้ติดเชื้อรายวัน กับยอดผู้หายป่วยกลับบ้าน เริ่มมีจำนวนที่ใกล้เคียงกัน จุดนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดี โดยเฉพาะเรื่องการบริหารจัดการเตียง ที่ยังพอจัดสรรให้เกิดความลงตัวได้ ทว่าในความเป็นจริง ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า ยังมีผู้ป่วยสะสมที่ยังอยู่ในกระบวนการรักษาอีกเป็นจำนวนมาก 

ถึงขณะนี้ มี 10 จังหวัดที่มีผู้ป่วยสะสมสูงสุด แบ่งเป็น ภาคกลางมากที่สุด จำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร, นนทบุรี, พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี ตามมาด้วยภาคตะวันออก 2 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี และฉะเชิงเทรา และภาคตะวันตก 1 จังหวัด ได้แก่ ราชบุรี ปิดท้ายด้วยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 จังหวัด ได้แก่ ศรีสะเกษ

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครถือเป็นจังหวัดที่ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากมีผู้ป่วยสะสมสูงที่สุด เป็นจำนวนกว่า 221,873 คน มากกว่าอันดับสองที่ตามมาอย่างสมุทรปราการถึงเกือบ 4 เท่า (จำนวนที่ 61,013 ราย) โดย 5 อันดับแรกที่ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีจำนวนผู้ป่วยสะสมสูง ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด คือ กรุงเทพมหานคร, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร ชลบุรี และนนทบุรี

ในส่วนของศรีสะเกษ เป็นจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มียอดผู้ป่วยสะสมมากที่สุด ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเช่นกัน ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดใด หรือพื้นที่แห่งไหน เวลานี้ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน หยุดยั้งการแพร่ระบาดลงให้ได้ เริ่มต้นที่ตัวเราเอง ดูแลร่างกาย รักษาความสะอาด เลี่ยงการออกนอกสถานที่ให้มากที่สุด และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 

ถึงเวลานี้ ต้องร่วมมือกัน ช่วยกัน และเราจะผ่านสถานการณ์ยากๆ นี้ไปด้วยกันให้จงได้


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top