Saturday, 25 May 2024
NEWS FEED

 ก.แรงงงาน มอบ 176 รางวัล การันตีสถานประกอบกิจการ จ.ปทุมธานี ที่มีระบบบริหารจัดการด้านแรงงานที่ดี

นางสาวบุปผา เรืองสุด รองปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล “Pathum Thani Labour Excellence Award 2021” ให้แก่สถานประกอบกิจการที่มีระบบบริหารจัดการด้านแรงงานที่มีระบบการบริหารจัดการด้านแรงงานที่ดี ประจำปี พ.ศ. 2564 โดยมีนายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และนายเอกวิทย์ มีเพียร รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เข้าร่วมพิธี ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ทินิดี โฮเท็ล บางกอก กอล์ฟ คลับ จังหวัดปทุมธานี

นางสาวบุปผา กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน มีนโยบายสำคัญในการผลักดันและสร้างความเข็มแข็งให้เกิดขึ้นในวงการแรงงานอย่างเป็นรูปธรรม ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและหลักธรรมาภิบาล โดยได้ดำเนินการพัฒนาสถานประกอบกิจการและศักยภาพของผู้ใช้แรงงาน ให้มีความสามารถในการวิเคราะห์ สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ สามารถบูรณาการการทำงานร่วมกับผู้อื่น มีความสมานฉันท์ปรองดอง ตลอดจนมุ่งพัฒนาสถานประกอบกิจการให้มีความแข็งแกร่ง และรองรับการเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจในภูมิภาค แม้จะเกิดการระบาดของโควิด-19 กระทรวงแรงงานก็พร้อมที่จะขับเคลื่อนดูแลสถานประกอบกิจการและผู้ใช้แรงงานให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน

รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอชื่นชมและแสดงความยินดีกับสถานประกอบกิจการทุกแห่งที่ได้รับรางวัลในวันนี้ เพราะสถานประกอบกิจการแต่ละแห่งเป็นกลไกสำคัญของภาคการผลิตที่ส่งเสริมให้มีการจ้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ประชาชน หากสถานประกอบกิจการมีระบบการบริหารจัดการที่ดีและได้มาตรฐานตามหลักสากล ย่อมส่งผลให้ผู้ใช้แรงงานมีศักยภาพสูงและมีคุณภาพชีวิตที่ดี สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่จะนำประเทศไทยไปสู่ความมั่นคง มั่งคัง ยั่งยืนต่อไป

“รมว.กห.” กำชับเหล่าทัพให้ความสำคัญประมวลจริยธรรมฯเคร่งครัดยึดมั่นสถาบันหลักของปท. พบกำลังพลผิดจริง ดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งวินัย-อาญา พร้อมสั่งเหล่าทัพเพิ่มความเข้มงวด รองรับความปลอดภัยไซเบอร์ หลังพบภัยคุกคามเจาะข้อมูลอินเทอร์เน็ต

ที่กระทรวงกลาโหม พ.อ.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหมครั้งที่ 11 /2564 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน ว่า นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการเหล่าทัพ ได้ให้ความสําคัญกับระเบียบ กระทรวงกลาโหมว่าด้วยประมวลจริยธรรมและการรักษาจริยธรรม พ.ศ. 2564 โดยให้กําลังพลทุกระดับชั้นยึดถือและปฏิบัติตนตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการยึดมั่นในสถาบันหลัก ของประเทศ อันได้แก่ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ มีความซื่อสัตย์ สุจริต และมีจิตสํานึกที่ดี รับผิดชอบต่อหน้าที่ ยึดถือประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตนและไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนสําหรับผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ให้หัวหน้าส่วนราชการหรือผู้บังคับบัญชาดําเนินการตามระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม ทั้งนี้ หากพบว่ามีมูล ความผิดจริง ไม่ว่าจะเป็นทางวินัยหรือทางอาญา ให้ดําเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

นอกจากนี้ พ.อ.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหมครั้งที่ 11 /2564 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน ว่า นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กำชับเรื่องภัยคุกคามทางไซเบอร์เป็นภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในปัจจุบัน มีการเจาะระบบข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต รวมทั้งการรบกวนไม่ให้เข้าถึงเว็บไซต์ของหน่วยงานราชการ ทําให้ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงข้อมูล ที่จําเป็น ในการดําเนินธุรกรรมกับภาครัฐ ซึ่งก่อให้เกิดความเดือดร้อน และส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของ หน่วยงานภาครัฐเป็นอย่างยิ่ง

“รองโฆษกทบ.” เผย “รมว.กลาโหม” สั่ง หน่วยขึ้นตรง-ผบ.เหล่าทัพ สนับสนุนจัดงานเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ‘ในหลวงร.9’ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เผย ที่ปช.สภากห.ตั้ง 5 กก.สภาทหารผ่านศึก แทนคนเกษียณอายุ 


ที่กระทรวงกลาโหม พ.อ.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหมครั้งที่ 11 /2564 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน
ว่า นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มอบนโยบายให้กับหัวหน้าหน่วยข้ึนตรงกระทรวงกลาโหมและ ผู้บัญชาการเหล่าทัพเตรียมการและสนับสนุนส่วนราชการท่ีเกี่ยวข้อง ในการจัดงานและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติและวันพ่อแห่งชาติ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ
 

ชลประทานจัดงบ 4,465 ล้าน จ้างแรงงาน 7.5 หมื่นคน 

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ได้ดำเนินการตามนโยบายการช่วยเหลือของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ด้วยการดำเนินโครงการจ้างแรงงานชลประทาน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ในปีงบประมาณ 2565 เพื่อปฏิบัติงานซ่อมแซม บำรุงรักษา ขุดลอก ปรับปรุงงานชลประทาน โครงการส่งเสริมการดำเนินงานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ งานก่อสร้างแหล่งน้ำและระบบส่งน้ำเพื่อชุมชน แก้มลิง การจัดการคุณภาพน้ำ รวมทั้งโครงการป้องกันและบรรเทาภัยจากน้ำ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ทดแทนจากการว่างเว้นการทำการเกษตร 

โดยในปีนี้ มีแผนจ้างแรงงานวงเงินกว่า 4,465 ล้านบาท สามารถจ้างแรงงานได้ประมาณ 75,000 คน ระยะเวลาการจ้างอยู่ระหว่าง 1 - 10 เดือน วงเงินจ้างแรงงานอยู่ระหว่าง 8,700 – 87,000 บาท/คน โดยเกณฑ์การจ้างแรงงานจะพิจารณากลุ่มเป้าหมาย 4 กลุ่ม ดังนี้ 1. เกษตรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรหรือเกษตรกรในพื้นที่ 2. สมาชิกกลุ่มผู้ใช้น้ำของกรมชลประทานในพื้นที่ 3. ประชาชน และผู้ใช้แรงงานทั่วไป และ 4. หากแรงงานในพื้นที่มีไม่เพียงพอให้พิจารณาจ้างเกษตรกรหรือแรงงานในพื้นที่ใกล้เคียง จากหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด และลุ่มน้ำ  

'ธนารักษ์' เตรียมประกาศราคาประเมินที่ดินใหม่ 1 ม.ค.นี้

นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ตามประกาศคณะกรรมการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ เรื่องกำหนดวันเริ่มใช้บัญชีราคาประเมินที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญัติการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ พ.ศ. 2562 โดยคณะกรรมการประจำจังหวัดประกาศบัญชีราคาประเมินที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่จัดทำ ทุกรอบ 4 ปี ซึ่งต้องประกาศล่วงหน้าก่อนวันเริ่มใช้บัญชีเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 30 วัน และบัญญัติให้บัญชีราคาประเมินที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง เริ่มใช้ ณ วันที่ 1 มกราคม ของปีที่คณะกรรมการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐกำหนด

ทั้งนี้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบันยังคงส่งผลกระทบโดยรวมต่อสภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ทางคณะกรรมการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ จึงออกประกาศให้เริ่มใช้บัญชีราคาประเมินที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญัติการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ พ.ศ.2562 โดยให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2566 พร้อมกันทั่วประเทศ 

 

“โฆษกกห.” แจงครม. อนุมัติงบลับ กระทรวงกลาโหม 21.69 ล้าน ใช้แก้ปัญหาความมั่นคง ย้ำ การใช้งบลับเป็นไปตามระเบียบ เพียงแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ พร้อมย้ำ "นายกฯ" ห่วงเกษตร สั่งกองทัพพร้อมช่วยขนส่งสินค้า ชี้ ไม่ใช่แค่รัฐบาลนี้ที่ใช้กองทัพเข้าแก้ไขปัญหา

ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม  กล่าวภายหลังการประชุมสภากลาโหมครั้งที่ 11/2564 กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณลับของกระทรวงกลาโหมเมื่อวานนี้ (23 พ.ย. 64) ว่า งบลับเป็นเรื่องที่อนุมัติเพิ่มเติม เป็นการเปลี่ยนแปลงงบลับที่ต้องได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นไปตามแผนงานยุทธศาสตร์ การพัฒนาศักยภาพการป้องกันประเทศและพร้อมเผชิญเหตุของกระทรวงกลาโหม โดยค่าใช้จ่ายของบลับ มีขอบเขตของการทํางานเป็นเรื่องการแก้ไขปัญหาความมั่นคงที่เป็นความลับ ไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งเป็นเรื่องความมั่นคง การข่าว การรักษาความสงบเรียบร้อยภายใน และการจัดตั้งศูนย์บัญชาการกระทรวงกลาโหม แต่ไม่ใช่ศูนย์บัญชาการทหาร

พล.อ.คงชีพ กล่าวอีกว่า การใช้งบประมาณดังกล่าวเป็นไปตามระเบียบของทางราชการสำนักนายกรัฐมนตรีปี 2547 เช่นเดียวกับในสมัยที่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ โดยมีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ พร้อมกับย้ำว่าการใช้งบลับเป็นไปตามระเบียบของทางราชการเพียงแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้

โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวต่อว่า ส่วนการจัดศูนย์บัญชาการกระทรวงกลาโหม ดูแลหน่วยความมั่นคง ที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันทั้งหมด จะมีที่ตั้งอยู่ที่กระทรวงกลาโหม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ ซึ่งใช้ประชุมกับต่างประเทศด้วยและใช้ทำงานกับกระทรวงต่างๆด้วย รวมถึงประสานงานกับหน่วยงานด้านความมั่นคง แต่ไม่ได้นำประเด็นดังกล่าวเข้ามาหารือในสภากลาโหมแต่อย่างใด

ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่าการขออนุมัติงบลับของกระทรวงกลาโหม อยู่ในแผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาศักยภาพการป้องกันประเทศ ซึ่งงบประมาณที่ใช้จำนวน 21.69 ล้านบาท โดยมีการจัดตั้งศูนย์บัญชาการกลาโหม ไว้สำหรับปฏิบัติการทางยุทธการ แต่เหนือขึ้นไปในระดับนโยบาย มีหน้าที่ประสานกับกระทรวงอื่นๆ และประสานกับต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนโควิดกับกระทรวงสาธารณสุข ในเพื่อรองรับมาตรการการควบคุมโรคตั้งแต่แรก รวมไปถึงเรื่องน้ำท่วม การประชุมกับต่างประเทศ การประสานภารกิจร่วมกันระหว่างกระทรวง เพราะฉะนั้นศูนย์บัญชาการกระทรวงกลาโหมใช้ในระดับนโยบาย แต่ระดับปฏิบัติจะใช้ศูนย์บัญชาการทหาร ของกองทัพไทย

รมว.เฮ้ง มอบนโยบายปี 65 กระทรวงแรงงาน มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน สู่เศรษฐกิจที่ยั่งยืน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายกระทรวงแรงงาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ณ ห้องประชุมชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน โดยมี นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง)

นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย โดย รมว.แรงงาน กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานทุกท่าน ใน 1 ปีที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากทุกท่านทุกกรมของหน่วยงานในการทำงานเพื่อช่วยเหลือพี่น้องแรงงาน ผู้ประกอบการที่ให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 และภาวะทางเศรษฐกิจที่ถดถอย จนกระทั่งสามารถผ่านพ้นวิกฤตที่สำคัญ เป็นที่ประจักษ์ตามนโยบายกระทรวงแรงงาน

ผมขอมอบนโยบายกระทรวงแรงงาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ดังนี้ สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน ให้แรงงานจังหวัดเป็น CEO ในการขับเคลื่อนงานระดับจังหวัดในทุกมิติ  มีการบูรณาการข้อมูลให้เป็นฐานเดียวกัน สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้านแรงงานระดับจังหวัดและเชื่อมโยงกับส่วนกลาง มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ของงาน สร้างการรับรู้นโยบายในทุกระดับและภารกิจของทุกหน่วยงาน “รัฐมนตรีรู้ ปลัดกระทรวงรู้ แรงงานจังหวัดรู้”อาสาสมัครแรงงานและบัณฑิตแรงงาน เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงแรงงาน ให้สร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายในรูปแบบที่เหมาะสม เช่น จัดตั้งกลุ่มไลน์แรงงานจังหวัดระดับภาคเพื่อเชื่อมโยงการทำงาน, การตั้งกลุ่มไลน์อาสาสมัครแรงงานและบัณฑิตแรงงาน เป็นต้น

การใช้ช่องทางการสื่อสารจาก Social Media ที่มีความเหมาะสมและทันต่อสถานการณ์ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและสามารถใช้ประโยชน์ในการทำงานแบบเครือข่ายไยแมงมุม ให้อัครทูตที่ปรึกษาฝ่ายแรงงาน ทำการขยายตลาดแรงงานในต่างประเทศแก่แรงงานไทยในต่างประเทศ เพื่อสร้างรายได้กลับประเทศไทย โครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านอาชีพ  สามารถนำเงินลงในระบบเศรษฐกิจเพื่อขับเคลื่อนประเทศ ในปี 2565 ขอให้ดำเนินการต่ออย่างเข้มแข็งเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนด้านอาชีพ แรงงานนอกระบบ ผลักดันพระราชบัญญัติแรงงานนอกระบบ พ.ศ. .... เพื่อให้ความช่วยเหลือแรงงานนอกระบบกว่า 20.4 ล้านคน ต้องปรับปรุงกฎหมายให้ทันต่อรูปแบบการจ้างที่เหมาะสมกับการทำงานที่เปลี่ยนไป 

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า กรมการจัดหางาน จะเน้นในเรื่องการรักษาการจ้างงานและความช่วยเหลือกลุ่ม SMEs ขอให้เตรียมความพร้อมอย่างรอบคอบ และวางระบบการเบิกจ่ายให้รัดกุม การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวอย่างเป็นระบบภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ต้องมีการอัพเดทข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน ให้เตรียมการจัดงาน JOB EXPO เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพให้แก่ประชาชนผู้สนใจ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 การป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ในการออกตรวจ การบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดมิให้เจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องโดยเด็ดขาด

ส่งเสริมแรงงานสัมพันธ์เชิงรุก เพื่อเฝ้าระวังสถานประกอบการกลุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดข้อพิพาท วางแผนการทำงานในแต่ละปีเพื่อลดข้อร้องเรียนที่อาจเกิดขึ้น เช่น เดือนพฤศจิกายนให้หารือกับสหภาพเกี่ยวกับการจ่ายโบนัสประจำปีเพื่อสร้างความเข้าใจที่ดีจะเป็นการลดสถิติของปัญหาข้อพิพาทแรงงานและข้อขัดแย้งระหว่างนายจ้างและลูกจ้างที่อาจเกิดขึ้นดำเนินโครงการแรงงานพันธุ์ดีตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียงต่อเนื่อง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ให้ทบทวนหลักสูตรการฝึกอบรมที่มีอยู่ให้สอดคล้องกับเทรนด์ในปัจจุบันและเหมาะสมกับบริบทในพื้นที่ การปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานอย่างครบวงจรตั้งแต่การฝึกอบรมจนถึงสอนการทำตลาด เช่น สร้าง Story ในการขายเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าเป็นที่น่าสนใจ

ให้สถาบัน/สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัด กำหนดหลักสูตรจังหวัดละ 1 หลักสูตร ขับเคลื่อนการดำเนินงานตาม MOU ร่วมกับอาชีวศึกษา และสนับสนุนให้สถาบันการศึกษาทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน จัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน เร่งรัดการออกหนังสือเพื่อรับรองความรู้ความสามารถให้เร็วขึ้นผ่านระบบออนไลน์ ร่วมกับสถาบันการศึกษาจัดทำหลักสูตรเพื่อผลิตกำลังแรงงานรองรับตลาดแรงงานในอนาคต ระยะ 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี สำนักงานประกันสังคม ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 แก้ไขกฎหมายประกันสังคม

ในส่วนของสิทธิประโยชน์ กรณีชราภาพ “3 ขอ” ได้แก่ ขอเลือก ขอคืน และขอกู้ จัดตั้งธนาคารเพื่อผู้ประกันตน สถาบันการแพทย์เพื่อผู้ประกันตน สร้างที่อยู่อาศัยให้กับผู้ประกันตนในราคาถูก เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีและมั่นคง สร้าง application ประกันสังคมร่วมกับร้านค้าเพื่อเป็นสิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกันตนการให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ประกันตน และ สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) หรือ สสปท. สร้างองค์ความรู้ให้แก่สถานประกอบการได้ตระหนักถึงความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อลดอัตราการอุบัติเหตุและอันตรายจากการทำงาน

WHO คาด!! ระลอกใหม่โควิดในยุโรป อาจดับลมหายใจชาวยุโรปร่วม 7 แสนราย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า องค์การอนามัยโลก หรือ WHO (The World Health Organization) แถลงคาดการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ในภูมิภาคยุโรป เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า อาจจะส่งผลทำให้มีผู้ป่วยเสียชีวิตรายใหม่มากกว่า 7 แสนรายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งจะทำให้ยุโรปมีจำนวนผู้ป่วยเสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 2.2 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากตัวเลขผู้ป่วยเสียชีวิตสะสมในขณะนี้ 1.5 ล้านราย อันเป็นผลจากการที่จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ทะยานพุ่งสูงขึ้นทั่วทั้งทวีป จนเป็นเหตุให้บางประเทศต้องกลับไปใช้มาตรการเข้มงวดอีกครั้ง

รายงานข่าวแจ้งว่า การออกมาประมาณการครั้งนี้ เพิ่มตัวเลขจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ของผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคยุโรป ที่ออกมาระบุว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ในยุโรป อาจทำให้มีผู้ป่วยเสียชีวิตมากถึง 5 แสนราย ภายในเดือนมีนาคมปีหน้า (2565)

'อัษฎางค์' เตือนสติ หยุดคิด!! ก่อนเหยียดใครโง่ เพราะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ถูกใครสวมเขา - โดนจูงจมูกอยู่หรือเปล่า?

นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ถึงกรณีที่มีการเหยียดคนพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ว่าเป็นคนโง่ โดยระบุว่า 

“ประยุทธ์มันโง่ พูดภาษาอังกฤษไม่ได้”

สองสามวันก่อนผมคุยโทรศัพท์กับแม่ แล้วมีญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง ขอมาคุยด้วย บอกว่าเห็นผมตามสื่อต่าง ๆ อยู่เสมอ รู้สึกเป็นห่วงที่ผมเกี่ยวข้องกับข่าวการเมือง เพราะการเมืองมันสกปรก

แล้วญาติคนนั้นก็เริ่มพูดเรื่องการเมือง ซึ่งผมพยายามตัดบทว่า ผมไม่คุยเรื่องการเมืองกับญาติหรือเพื่อน เพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมา แต่เขาก็ไม่หยุด ยิ่งพูดยิ่งมัน

ตอนเริ่มต้นบอกว่าตัวเองไม่เข้าข้างใคร แต่ยิ่งพูดไปยิ่งฟังออกว่าเกลียดประยุทธ์
ญาติ : แกเข้าข้างประยุทธ์ใช่มั้ยล่ะ บร้าๆๆๆ
ผมตอบว่า: เปล่าครับ 
อันไหนถูกก็ว่าถูก อันไหนผิดก็ว่าผิด
แล้วเขาก็ยังพูดอีกหลายประเด็น

จนในที่สุดผมก็บังเอิญได้โอกาสที่ทำเขาหยุดจนได้
หลังจากที่ฟังเขาพูดอยู่นาน เขาก็พูดขึ้นว่า: “ประยุทธ์มันโง่ พูดภาษาอังกฤษไม่ได้”
ผมรีบตัดบท ก่อนที่เขาจะพูดเรื่องอื่นต่อไป ด้วยการถามกลับไปว่า…
แล้วลุงพูดภาษาอังกฤษได้มั้ยครับ
ถามจบ ผมไม่พูดอะไรต่อ 
บรรยากาศเปลี่ยนไปทันทีจากที่ล้งเล้ง กลับกลายเป็นเงียบสนิท 

ผมไม่กล้าพูดอะไรมากมาย เพราะเขาคือญาติผู้ใหญ่ที่นับถือกันมาทั้งชีวิต แต่คำถามนั้นเป็นการย้อนคำด้วยความสุภาพสุดแล้ว 
เป็นคำถามที่อยากให้หยุดคิดนิดนึง
ไม่มีเสียงตอบ ผมก็ไม่พูดอะไรต่อ และไม่วางสาย
ปล่อยให้มันเงียบอยู่แบบนั้น เผื่อเขาจะได้มีเวลาหาคำตอบ

เมื่อนานมาแล้ว ตอนที่มาออสเตรเลียใหม่ ๆ สมัยที่ผมยังเรียนหนังสืออยู่ มีอาจารย์สาวสวย เท่ มีเสน่ห์มาก ชาวอิตาลี เล่าประสบการณ์ของเธอให้นักศึกษาในห้องฟัง เรื่องการพูดภาษาอังกฤษว่า…
ตอนเธอมาออสเตรเลียใหม่ ๆ ภาษาอังกฤษของเธอยังไม่ดี เธอไปทำธุรกรรมที่ธนาคาร แล้วมีคนพูดดูถูก ด้วยคำที่ทำให้เธอดูเป็นคนโง่
แต่เธอบอกกับนักศึกษาในห้อง โดยเฉพาะนักศึกษาต่างชาติว่า การที่เราพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ หรือไม่ดีพอ ไม่ได้แปลว่า “เราโง่”

อาจารย์เล่าว่า อาจารย์ถามคนที่ดูถูกเธอว่า โง่ที่พูดอังกฤษไม่รู้เรื่อง กลับไปว่า…
คุณพูดภาษาอะไรได้อีกนอกจากภาษาอังกฤษ
แต่…ไม่มีคำตอบกลับมา
แล้วเธอก็พูดต่อว่า นอกจากภาษาอังกฤษที่ฉันกำลังหัดพูดแล้ว ฉันพูดอิตาลีได้ดีมาก 
ฉันพูดได้ 2 ภาษา คุณพูดได้ภาษาเดียว ใครโง่กว่ากัน
นักศึกษาชอบใจ ปรบมือลั่นห้อง

ทบ. สานต่อสมัครใจเป็นทหาร เปิดรับชายไทยอายุ 18-20 ปี ที่ยังไม่ถึงเกณฑ์ และอายุ 22-29 ปี    ที่เคยผ่านตรวจเลือกแล้ว แต่ไม่ถูกเข้ากองประจำการ สมัครเป็นทหารกองประจำการ ปี 65 กรณีพิเศษทาง Online

ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.อ.หญิงศิริจันทร์งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกเดินหน้าพัฒนาการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการ มุ่งสู่ระบบทหารกองประจำการอาสา ทดแทนการเรียกเกณฑ์ให้เป็นรูปธรรมต่อเนื่องตามนโยบายของกระทรวงกลาโหม หลังจากในปี 2564 กองทัพบกได้เริ่มโครงการรับสมัครชายไทยเป็นทหารกองประจำการด้วยระบบออนไลน์ ซึ่งมีผู้สมัครใจเป็นจำนวนมาก และผ่านเกณฑ์ได้รับการบรรจุเข้ากองประจำการในผลัดที่ 1/64 จำนวน 3,207 นาย

สำหรับในปี 2565 นี้ กองทัพบกยังคงสานต่อนโยบายการสมัครใจเป็นทหารต่อไป โดยจะเริ่มการรับสมัครทหารกองเกินเป็นทหารกองประจำการโดยวิธีร้องขอ (กรณีพิเศษ) ด้วยระบบออนไลน์ ผ่านทาง เว็บไซต์ rcm65.rta.mi.th ระหว่างวันที่ 1 ธ.ค. 64 - 31 ม.ค. 65 โดยเปิดรับสมัครเฉพาะชายไทยอายุ 18-20 ปี (เกิดปี 2545-2547) ซึ่งยังไม่เคยเข้ารับการตรวจเลือกทหาร และอายุ 22-29 ปี (เกิดปี 2536-2543) ที่เคยเข้ารับการตรวจเลือกทหารแล้ว แต่ไม่ถูกเข้าประจำการ ทุกประเภท ให้สามารถสมัครเป็นทหารกองประจำการได้ เป็นกรณีพิเศษ

โดยเป็นการรับสมัครก่อนการตรวจเลือกฯ ตามปกติ ผู้สมัครสามารถเลือกเข้าเป็นทหารกองประจำการในหน่วยทหารได้ โดยไม่จำกัดหน่วยทหารภายในพื้นที่มณฑลทหารบกเดียวกัน และจะได้เข้ากองประจำการในผลัดที่ 1/65 (1 พ.ค. 65) ทั้งนี้กระบวนการรับสมัครและคัดเลือกจะดำเนินการในช่วงวันที่ 12 - 13 ก.พ. 65 ณ มณฑลทหารบก 35 แห่งทั่วประเทศ โดยจะทำการคัดเลือกเสร็จเรียบร้อย ก่อนการตรวจเลือกทหารในระบบปกติ

สำหรับคุณสมบัติในการรับสมัครฯ ไม่จำกัดคุณวุฒิการศึกษา ไม่เป็นคนที่มีโรคที่ขัดต่อการรับราชการทหาร โดยพิจารณาขนาดร่างกายและความสมบูรณ์ของร่างกาย ตามผลการคัดเลือกในวันทำการคัดเลือกฯ เป็นเกณฑ์ ซึ่งผู้ที่สมัครเป็นทหารด้วยวิธีพิเศษนี้ สามารถใช้สิทธิลดวันรับราชการประจำการตามคุณวุฒิการศึกษา, สามารถเลือกหน่วยทหารที่ตนเองประสงค์จะเข้าประจำการได้เฉพาะหน่วยทหารของกองทัพบก โดยไม่จำกัดภูมิลำเนาทหาร หากรับราชการทหารครบ 2 ปี และมีคุณสมบัติครบตามที่ทางราชการกำหนด

มีสิทธิสมัครสอบในโควตาการสอบเข้าโรงเรียนนายสิบทหารบกตามที่กองทัพบกจัดสรร ให้อีกร้อยละ 30 จากร้อยละ 80 ของทหารกองประจำการ (ซึ่งปัจจุบันกองทัพบกจัดสรรโควตาให้ทหารกองประจำการในการสอบเข้าโรงเรียนนายสิบทหารบก ร้อยละ 80 และรับจากบุคคลพลเรือนร้อยละ 20) นอกจากนี้ ผู้ที่สมัครเป็นทหารจะได้รับคะแนนเพิ่มพิเศษ 15 % ในการสอบคัดเลือกเข้ารับราชการในสังกัดกองทัพบกรวมทั้งจะได้รับสิทธิสวัสดิการ ค่าตอบแทนเช่นเดียวกับทหารกองประจำการปกติ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top