Monday, 7 July 2025
NEWS FEED

ผบ.ตร.- นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ เปิดร้านกาแฟ 'ปันรักษ์ คาเฟ่ @phuket immigration' สาขา 4 ณ ตม.จว.ภูเก็ต หวังพัฒนาคุณภาพชีวิตครอบครัวตำรวจและชุมชน ยกระดับสร้างภาพลักษณ์ให้บริการนักท่องเที่ยว

วันนี้ (11 พ.ค.66) ที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วยคุณสุมนา กิตติประภัสร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ เป็นประธานในพิธีเปิดร้านกาแฟ 'ปันรักษ์ คาเฟ่ (Punrak Cafe) @phuket immigration' ซึ่งร้านดังกล่าวดำเนินการโดยสมาคมแม่บ้านตำรวจ ร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต โดยมี พล.ต.ท.วันไชย เอกพรพิชญ์ จตร.ปฏิบัติราชการ ภ.8 , พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, นายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบำ รอง ผวจ.ภูเก็ต , นางบุญวันดี วุ่นซิ้ว นายกเหล่ากาชาดภูเก็ต, คุณกนกวรรณ พันธุ์เพ็ชร์ อุปนายกสมาคมตำรวจ, คุณอนงค์นาถ ถนอมจิตร ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 8, ตัวแทนกงสุลประเทศต่างๆ, คณะสมาคมแม่บ้านตำรวจ , ผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมพิธีฯ

ร้านกาแฟ 'ปันรักษ์ คาเฟ่ (Punrak Cafe) @phuket immigration' เกิดขึ้นเนื่องจาก ตม.จังหวัดภูเก็ตเล็งเห็นว่า ร้านกาแฟปันรักษ์ คาเฟ่ ที่ดูดี มีมาตรฐาน นอกจากจะเป็นสวัสดิการให้ตำรวจและครอบครัว สามารถช่วยอำนวยความสะดวก ให้บริการ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ ยกระดับความเชื่อมั่น ความน่าเชื่อถือขององค์กรได้ 

พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.ตม.6 จึงเห็นชอบในโครงการ ให้ พ.ต.อ.ธเนศ สุขชัย ผกก.ตม.ภูเก็ต สร้างร้าน 'ปันรักษ์ คาเฟ่ (Punrak Cafe) @phuket immigration' ขึ้น ตามนโยบาย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ คุณสุมนา กิตติประภัสร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ที่มีดำริสานต่อโครงการสวัสดิการ ร้านปันรักษ์ คาเฟ่ เพื่อเป็นรายได้เสริมให้ข้าราชการตำรวจ ครอบครัว และชุมชน โดยตั้งใจจะขยายโอกาสไปยังภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศ 

ร้าน 'ปันรักษ์ คาเฟ่' ที่ตำรวจ ตม.ภูเก็ต จัดสร้างขึ้นนับเป็นสาขา 4 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตครอบครัวตำรวจและชุมชน โดยต่อยอดหลังจากที่สมาคมแม่บ้านตำรวจ เปิด 'ร้านปันรักษ์' 3 สาขาแล้ว ได้แก่ สาขาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สาขากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ สาขากองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อรวบรวมสินค้า ผลิตภัณฑ์คุณภาพ ของที่ระลึก ของขวัญ ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ของฝาก ของดีประจำจังหวัด และจากฝีมือของครอบครัวตำรวจทั่วประเทศมาวางจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไปและข้าราชการตำรวจ 

ผบ.ตร. กล่าวว่า  “ต้องขอบคุณสมาคมแม่บ้านตำรวจ และตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ที่ร่วมกันผลักดันเปิดร้าน 'ปันรักษ์ คาเฟ่ @phuket immigration' ซึ่งเป็นร้านปันรักษ์ คาเฟ่แห่งที่ 4 ทั้งนี้ จุดมุ่งหมายของการขยายสาขา เพื่อเป็นการขยายแบรนด์ปันรักษ์ สร้างรากฐานยั่งยืน สร้างอาชีพเสริมให้ครอบครัวตำรวจ โดยร้านปันรักษ์ คาเฟ่ มีเครื่องดื่ม กาแฟ ผลิตภัณฑ์กาแฟ และผลิตภัณฑ์สินค้า ของฝากฝีมือครอบครัวตำรวจทั่วประเทศ เชื่อมั่นว่าร้านปันรักษ์ คาเฟ่ จะเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้า สร้างผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ครอบครัวตำรวจมีรายได้เพิ่มขึ้น เป็นไปตามจุดประสงค์หลักที่เราต้องการพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มีคุณภาพ เริ่มจากการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ตำรวจ และครอบครัวตำรวจ นอกจากนี้ ยังเป็นการอำนวยความสะดวก ยกระดับสร้างภาพลักษณ์การให้บริการกับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

‘ครูอ้อย เข็มทิศชีวิต’ โต้กลับ 5 ข้อ ลั่น!! ‘ตุ๊ยตุ่ย’ สร้างหนี้เอง ย้ำ!! มาอยู่ฟรี กินฟรี เรียนฟรี ไม่เคยได้เงิน ถ้ามีก็โชว์หลักฐาน

(11 พ.ค. 66) จากกรณีที่ ตุ๊ยตุ่ย นักแสดงและพิธีกรชื่อดัง ได้ออกมาเปิดใจแชร์อดีตที่เคยพลาด สารภาพหลงเข้าลัทธิเข็มทิศชีวิตพัง ทำหมดเงิน 100 ล้าน เป็นหนี้สินติดตัวอีกกว่า 50 ล้าน สูญเสียทั้งมิตรภาพและเงินทอง ซึ่งโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ทั้งยังโยงไปถึง ครูอ้อย-ฐิตินาถ ณ พัทลุง เจ้าของคอร์สเรียนดังอย่าง ‘เข็มทิศชีวิต’ ที่มีลูกศิษย์ลูกหาเป็นเซเลบริตี้คนดังจำนวนมาก

ที่ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา ครูอ้อย ได้ออกมาโพสต์ข้อความตอบกลับประเด็นดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊ก โดยอ้างว่าขอชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้

“ความจริง การที่ตุ่ยได้ไปออกรายการ แล้วทำให้คนที่ได้ฟังและสื่อจำนวนมากเผยแพร่ออกไปว่า มาเข็มทิศเสียเงิน 100 ล้าน เป็นหนี้ 50 ล้าน ซึ่งเป็นความเท็จ ความจริงคือ…

1. ตุ่ยไม่เคยให้เงินครู ในทางใด หรือค่าเรียนอะไรก็ตาม มาอยู่ฟรี พักฟรี กินฟรี เรียนฟรี โดยไม่เคยเสียค่าใช้จ่าย ค่าเรียน หรือ ค่าใดๆ ที่จ่ายให้ครูอ้อยแม้แต่บาทเดียว ไม่เคยให้ทั้งค่าเรียน หรือให้โดยเสน่หา ไม่เคย เงินร้อยล้านของตุ่ยมีตอนไหนไม่เคยเห็น ถ้ามีหรือเคยให้ ขอดูหลักฐาน โปรดไปถามเขาชัดๆ เคยให้เงินครูอ้อย 100 ล้าน จริงไหมให้เขาตอบมา เขาอาจจะบอกว่าไม่ได้พูด

2. หนี้ 50 ล้าน ไม่ได้ให้ครู ไม่เกี่ยวกับครู ตุ่ยหาที่อยู่ แล้วไปซื้อคอนโดจากโครงการที่สาทร ประมาณ 40 ล้าน อยู่มาถึงตอนนี้ เกือบ 10 ปี ไปถามเขาใหม่ หนี้ 50 ล้าน คือค่าบ้านคอนโดที่ตัวเองอยู่มาเกือบ 10 ปีใช่หรือไม่

3. ปี 2560 วันที่ตุ่ยกลับจากศรีสัชนาลัย ครูบอกตุ่ยว่า ไม่ต้องมาเจอกันอีก ขอยุติการคบกันแค่นี้ และตุ่ยจะมาหาครูที่บ้าน ครูจึงออกไปพักที่โรงแรมสุโขทัยคนเดียว และเขียนกลับมาบอกในกลุ่มไลน์โดยมีน้องสาวครูและตุ่ยอยู่ว่า ครูขออนุญาตไม่เอาแล้ว เลิกคบกัน ครูพอแค่นี้ เพราะครูเชื่อว่า ทุกคนควรมีสิทธิ์ขอยุติความสัมพันธ์ และต่างคนต่างไปมีชีวิตของตัวเอง โดยไม่ต้องออกมาให้ร้ายกัน ตลอดเวลาที่ผ่านมา ครูเงียบเฉยมาตลอดแม้จะถูกพาดพิง

ไปถามตุ่ยได้ ว่าวันนั้นทางไลน์กลุ่ม ครูไลน์หาจากโรงแรมที่ครูไปพัก ครูขอเลิกคบกัน แล้วตุ่ยบอกว่า รักครูเหมือนแม่จริงหรือไม่ จากนั้นครูไม่เคยพบตุ่ย พูดคุยหรือติดต่อกันอีกตลอด 6-7 ปีที่ผ่านมา

4. การสอน ครูไม่สอนมาหลายปี แต่ตอนที่สอน ครูสอนให้
– รักครอบครัว รักพ่อแม่ กตัญญู ภรรยาให้เคารพสามี สามีให้รักภรรยา
– คิดดี พูดเรื่องดีดี เอาชีวิตไปทำเรื่องดีดี
– ตั้งเป้าหมายที่ดีงาม แล้วไปทำให้สำเร็จ

คนที่มุ่งร้ายต่อครู โจมตีครูมาตลอดสิบกว่าปี (ซึ่งก็อยู่เบื้องหลังการปั่นข่าวครั้งนี้อีกเหมือนเดิม ครูยังไม่ได้เริ่มจัดการ) เรียกการกตัญญูต่อพ่อแม่ ทำงานให้มีคุณภาพ เรียกให้เสื่อมเสียน่ารังเกียจว่าเป็นลัทธิ การที่เรารักพ่อแม่ กอดท่าน กตัญญูต่อท่าน สามีภรรยา ควรรักกันอย่างซาบซึ้ง เข้าใจต่อกัน และคนทุกคนควรมีโอกาสทำความฝันที่จะเลี้ยงดูพ่อแม่และครอบครัวให้ดี ต้องถูกตราหน้าว่าเป็นลัทธิหรือ?

ปัจจุบันครูไม่สอนแล้ว เพราะบทเรียนฟรี ที่ครูทำไว้ให้มีมากพอ และครูก็อยากใช้เวลาสงบสุขของตัวเอง

5. เมื่อหลายปีก่อนตอนยังคบกัน ตุ่ยบอกว่าเพราะครูเลยขายของ ตอนนั้นขายดีมาก วันแรกมาเจอครูอยากมีเงินแค่ 1 ล้าน วันที่ 8 มีนาคม 2559 ที่ห้องเรียนเข็มทิศฟรีฟรีฟรี มีคนไปฟรี 1,000 คน ตุ่ยประกาศว่ามีเงินรวมทรัพย์สิน 200 กว่าล้าน

และภายหลังประกาศกับประชาชนออกสื่อว่าเพราะครูสอนให้ทำงานแบบมีคุณภาพเลยได้งานพิธีกรรายการ Amazing Thailand (ชื่อรายการจำไม่ได้แม่น) ถ่าย 3 เทปได้เงิน 7 แสนบาท ตุ่ยพูดว่า ปกติทำพิธีกรเหนื่อยราวกับไถนา พอทำที่ครูสอนได้เงินจากขายของและทำพิธีกร ดีกว่าเดิมมากๆเลย ไปถามตุ่ยได้ว่า พูดจริงหรือไม่

สรุป ตลอดเวลาที่คบกัน ทุกวันตุ่ยจะขอบคุณครูในสิ่งที่ครูทำให้ และครูไม่เคยได้เงินจากตุ่ยเลย และครูเป็นคนว่าตุ่ยและขอเลิกคบตุ่ย ตลอดเวลาที่เราเคยคบกันตุ่ยไม่เคยแสดงหลักฐานการมี 100 ล้านให้ดู และไม่เคยมีเหตุเสียเงิน 100 ล้านใดๆ ดูจากสเตทเม้นท์ธนาคารของเขาได้

แต่หลังจากครูเลิกคบตุ่ยแล้ว เขาไปเสียเงินกับใครที่ไหนครูไม่เกี่ยวและไม่ทราบ

สุดท้าย แม้ครูไม่ต้องการเป็นเพื่อนกับตุ่ย แต่ครูก็มีความปรารถนาดีและเห็นใจตุ่ยเสมอ คนบอกว่าตุ่ยเล่าในรายการว่าลำบาก เงินหมดเป็นหนี้ ครูก็ขอเอาใจช่วยให้ตุ่ย พ้นจากเคราะห์กรรมวิบาก พ้นเคราะห์พ้นโศก โรคภัยเสนียดจัญไรเวรกรรม”

‘ไป่ ทาคน’ สุดหล่อแห่งเมียนมาเยือนไทยในรอบ 3 ปี  รับ!! เมืองไทยเหมือนบ้านหลังที่ 2 พร้อมลุยละคร 3 เรื่อง 

‘ไป่ ทาคน’ เยือนประเทศไทยเป็นครั้งที่ 2 บอกคิดถึงเหมือนบ้านหลังที่สอง จากนี้ก็จะมีงานออกมาเรื่อยๆ ทั้งที่ไทย จีนและกัมพูชา เผยตอนนี้ยังอยู่ที่พม่า มีหลายเรื่องที่พูดไม่ได้ หลายเรื่องที่ทำให้รู้สึกน้อยใจ แต่ก็จะตั้งใจทำงานต่อไป พร้อมกับจะฝึกพูดภาษาไทยและจีนให้มากขึ้นด้วย

กลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้งในรอบ 3 ปี สำหรับนายแบบหนุ่มหล่อจากฝั่งพม่า ‘ไป่ ทาคน’ หลังจากเกิดสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ และทำให้เจ้าตัวต้องถูกดำเนินคดี ล่าสุดหนุ่ม ไป่ ทาคน ได้มาเปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังจากที่ได้รับรางวัลหนุ่มหล่อที่สุดในโลก ประจำปี 2021 The 100 Most Handsome Faces of 2021 ที่จัดทำขึ้นโดย TC Candler ณ โรงแรมธีธารา งามวงศ์วาน-เกษตรนวมินทร์ โดยเผยว่าคิดถึงประเทศไทยมาก เพราะรู้สึกเหมือนเป็นบ้านหลังที่สอง

ไป่ ทาคน กล่าวว่า “ครั้งนี้เป็นการมารอบที่ 2 ครับ ประเทศไทยเหมือนบ้านหลังที่สอง ประทับใจและคิดถึงมาก ครั้งนี้ก็ตั้งใจมาเพื่อพักผ่อนด้วย และมีงานที่ค้างไว้คราวก่อนจะเกิดการแพร่ระบาดของโควิด ก็กลับมาทำงานที่ค้างเอาไว้ และงานใหม่ก็มีรับไว้เช่นกันครับ ตอนนี้ผมก็ยังมีงานละครที่พม่า มีงานถ่ายโฆษณาต่อเนื่อง แล้วก็มีซีรีส์ที่กัมพูชา เซ็นสัญญาแล้ว วันที่ 18 นี้จะบินไปถ่ายหนังที่กัมพูชา ก็ต้องฟิตหุ่นมากกว่านี้ครับ เน้นการเล่นกล้าม และที่ประทับใจอีกอย่างคือได้เซ็นสัญญาที่ประเทศจีนด้วย ก็จะบินไปเดือนกันยายนนี้ เป็นงานซีรีส์ครับ จากนี้ก็จะรับงานไปเรื่อยๆ มีเรื่องนึงต้องเล่นเป็นพระด้วย กำลังคุยกันอยู่ว่าจะไว้ผมยาวหรือโกนผม

“สำหรับที่ไทยก็มีงานละครติดต่อมา 3 เรื่อง น่าจะได้เริ่มต้นประมาณตุลาคม-พฤศจิกายนในปีนี้ ก็จะพยายามในการศึกษาภาษาไทยเพิ่มครับ แต่ส่วนมากจะเป็นภาษาอังกฤษที่ใช้ในการแสดง ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่านางเอกเป็นใคร แต่ถ้าทราบจะรีบบอก ก็พยายามจะเรียนรู้ภาษาไทย ที่ผ่านมาก็ได้เรียนรู้ก่อนโควิด แต่พอโควิดก็ห่างๆ กันไป ที่พูดได้ก็คือ สวัสดีครับ ผมรักประเทศไทยมากๆ (ยกมือไหว้) ก็ขอบคุณที่สนับสนุนผมครับ จากนี้ก็จะเริ่มเรียนรู้ภาษาไทยกับภาษาจีนไปพร้อมๆ กัน

ไป่ ทาคน กล่าวอีกว่า “3 ปีที่ห่างหายไป ก็ยังมีงานค้างครับ ครั้งนี้ตั้งใจว่าจะมาเที่ยวพัทยา เพราะผมยังไม่เคยไปเลย ส่วนอาหารไทยที่อยากกินว่าคือน้ำพริกกะปิครับ ผมชอบมาก

“แล้วก็มีผัดไทย, ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก เป็นอาหารโปรดเลย ซึ่งมาไทยรอบนี้ก็น่าจะอยู่ประเทศไทย 6 วันก่อนที่จะไปถ่ายละครที่กัมพูชา 18 กุมภาพันธ์นี้ ครับ ก็อยากบอกแฟนคลับชาวไทยว่า ตอนนี้ผมก็พยายามอยู่ในประเทศผมนะครับ แต่หลายๆ เรื่องในประเทศก็พูดไม่ได้ หลายๆ อย่างที่น้อยใจก็มีบ้าง ก็อยากขอบคุณแฟนคลับชาวไทยทุกคน มาครั้งนี้ไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ อาจจะไม่ค่อยสะดวก ก็ขอโทษแฟนคลับด้วย อาจจะไม่ค่อยมีชีวิตชีวา เพราะว่าพักผ่อนไม่เพียงพอเท่าไหร่ครับ” ไป่ ทาคน ทิ้งท้าย

ผู้ว่าฯสั่ง! เตรียมพร้อม แก้สถานการณ์ภัยแล้ง

ผู้ว่าฯขอนแก่น สั่งการ นำผังภูมิสังคมเพื่อการบริหารจัดการน้ำหมู่บ้านชุมชน ของกรมโยธาฯมาแก้ปัญหาภัยแล้ง แบบบูรณาการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนพี่น้องประชาชน

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงาน การเตรียมความพร้อมแก้สถานการณ์ภัยแล้งเนื่องจากฝนทิ้งช่วง นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดทำแผนบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของจังหวัดขอนแก่นแบบบูรณาการ โดยการนำผังภูมิสังคมเพื่อการบริหารจัดการน้ำหมู่บ้าน/ชุมชน แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน (Geo-social Map) ของกรมโยธาธิการและผังเมือง มาใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการระบุพื้นที่ที่เกิดปัญหาภัยแล้ง กำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหา จัดทำแผนงาน/โครงการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาพื้นที่ขาดแคลนน้ำในระยะสั้น และเร่งกักเก็บน้ำเพื่อให้ทันในฤดูฝน พ.ศ. 2566 

อาทิ การจัดหาแหล่งน้ำดิบเพื่อใช้ในการผลิตประปาหมู่บ้าน การขยายเขตประปาของการประปาส่วนภูมิภาค การผันน้ำชลประทาน เพื่อบรรเทาภัยแล้งให้โครงการเกษตรแปลงใหญ่ การขุดบ่อบาดาล การต่อท่อสูบน้ำจากแหล่งน้ำข้างเคียง การกำหนดแหล่งน้ำนอกเขตชลประทานที่มีปัญหาขาดแคลนน้ำ และการขุดลอกแหล่งน้ำเพื่อเป็นแก้มลิงในฤดูฝน เป็นต้น โดยข้อมูลดังกล่าวจะใช้เป็นข้อมูลในการจัดทำแผนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของจังหวัดขอนแก่นแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน พ.ศ. 2566 – 2570 ซึ่งเป็นแผนในระยะยาวต่อไป 

เมื่อ 'เด็กรุ่นใหม่' ไม่ได้ต้องการ 'ความมั่นคง-งานประจำ' แต่สังคมล้างสมองด้วยคำนี้ ทั้งที่เด็กๆ อยาก 'เสี่ยง-ท้าทาย'

เมื่อไม่นานมานี้ ผู้ใช้งานติ๊กต็อกชื่อ ‘ckfastwork’ โพสต์คลิปวิดีโอเกี่ยวกับพฤติกรรมของวัยรุ่นยุคใหม่ ที่ชอบความท้าทาย และมองข้ามคำว่าความมั่นคง โดยระบุว่า…

ปัจจุบันเด็กไม่อยากได้ความมั่นคง ผมบอกตรงๆ นะครับ คำว่าความมั่นคงมันเป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่ต้องการ แต่มันเป็นสิ่งที่สัมคมบอกว่าเราต้องการ เด็กทุกคนที่บอกว่าอยากได้ความมั่นคง เขาบอกว่าอยากได้ความมั่นคงเพราะพ่อแม่ ไม่ได้เพราะตัวเอง เด็กทุกคนไม่มีใครโตมาบอกว่า เราอยากได้ความั่นคง ไม่มีครับ ไม่มีในประวัติศาสตร์ของเด็ก ไม่มีใครบอกว่าเด็กอยากได้ความมั่นคง ไม่มี 

แต่ทุกคนเกิดมาทุกคนอยากลองเสี่ยง มันเป็นเหตุผลที่เราอยากเล่นเกม เราอยากจะสตรีม เราอยากที่จะสร้างแบรนด์ มันก็เลยเป็นเหตุผลที่เด็กนำเรื่องเกมมาก เด็กนำเรื่องติ๊กต็อกมาก เพราะเด็กชอบที่จะหาความเสี่ยง 

เราจะเห็น มหาเศรษฐีที่สร้างธุรกิจนะ เป็นเด็กทั้งนั้นเลย ไม่ค่อยมีผู้ใหญ่ เพราะเด็กชอบที่จะเสี่ยง แต่คำว่าความั่นคงมันเป็นสิ่งที่สังคม ผู้ใหญ่ล้างสมองเด็กตั้งแต่เด็ก บอกว่าคุณต้องการความมั่นคง รับงานราชการ คุณต้องรับงาน บ้านจะได้สบาย มันเป็นสิ่งที่ล้างสมองมาตลอด ผมถึงไม่ชอบสังคมไทยมาก เพราะมุมนี้ 

เพราะเราพยายามล้างสมองเด็ก ทั้งที่เด็กไม่มีความต้องการในเรื่องความมั่นคงเลย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ที่บอกว่าคนต้องการ จริง ๆ ไม่มีจริง มันเป็นสิ่งที่เราโดนล้างสมอง มันเป็นสิ่งที่สังคมบอกว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ผมเข้าใจนะครับว่าทำไมสังคมถึงบอกว่าสำคัญ เพราะว่ามนุษย์เงินเดือนจะเป็นคนที่จ่ายภาษีมากที่สุด อันนี้เป็นทั่วโลกนะครับ ไม่ใช่เฉพาะที่ประเทศไทย 

เพราะว่ามนุษย์เงินเดือนเป็นคนที่จ่ายภาษีมากที่สุดในสังคม ยกตัวอย่างนะ ตอนอีลอน มัสก์บอกว่าเขาจะย้ายไปที่รัฐไหนสักรัฐในอเมริกา ทุกรัฐมีสิทธิประโยชน์ให้อีลอน มัสก์ เพราะว่าถ้าอีลอน มัสก์ไปรัฐนั้น เขาสามารถจ้างคนตรงนั้น แล้วคนตรงนั้นก็จะจ่ายภาษีให้กับรัฐ 

มนุษย์เงินเดือนเป็นคนที่จ่ายภาษีมากที่สุด มันก็สมเหตุสมผลที่หลาย ๆ คนบอกว่า ความมั่นคงสำคัญ งานประจำสำคัญ เพราะสุดท้ายแล้ว ถ้าไม่มีงานประจำ ภาษีของรัฐก็จะได้น้อยลง

ตำรวจท่องเที่ยวจัดอบรมอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยว 2,273 คน

วันนี้ (11 พ.ค. 66) พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว มอบหมายให้ พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา โฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวเรียนต่อสื่อมวลชนว่า ในช่วงวันที่ 10-11 พ.ค. 66 ตำรวจท่องเที่ยวได้จัดให้มีการอบรมอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวขึ้น ซึ่งผู้มาสมัครทำหน้าที่อาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวในปีนี้ถึง 2,273 คน แบ่งเป็นคนไทย 2,092 คน และคนต่างชาติ 181 คน 

พล.ต.ต.อภิชาติฯ ในฐานะเป็นวิทยากรอบรมในโปรแกรมนี้ด้วยเปิดเผยว่า ทางตำรวจท่องเที่ยวได้เชิญผู้เชี่ยวชาญการท่องเที่ยวจากทุกสาขามาให้ความรู้กับอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวทุกคน โดยการอบรมเป็นลักษณะออนไลน์ซึ่งสอดคล้องกับบริบทปัจจุบันและเป็นการประหยัดงบประมาณด้วย 

หลังจากเสร็จสิ้นการอบรม กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวจะได้อาสาสมัครที่พร้อมเป็นผู้ช่วยเหลือตำรวจท่องเที่ยวมากกว่า 2,000 คน ซี่งจะกระจายไปตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งอาสาสมัครเหล่านี้ไม่เพียงทราบประวัติศาสตร์วัฒนธรรมของแหล่งท่องเที่ยวดีเท่านั้น ในส่วนของอาสาสมัครชาวต่างชาติ ยังสามารถสื่อสารกับนักท่องเที่ยวด้วยภาษาต่างประเทศได้อีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกและเข้าใจวัฒนธรรมประเพณีไทยมากยิ่งขึ้น 

โฆษกกองบัญชาการตำรวจยังกล่าวอีกว่า การท่องเที่ยวไทยกำลังเดินทางไปได้สวยงามและสร้างรายได้ให้ประเทศได้อย่างดี คนไทยทุกคนโชคดีที่เราที่เราได้รักษาและรังสรรค์ประเทศของเราจากรุ่นสู่รุ่น จนประเทศของเราเป็นที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทุกชาติทุกภาษา รวมไปถึงวัฒนธรรมประเพณีที่มีลักษณะเฉพาะไม่เหมือนใครทำให้ประเทศไทยมีเสน่ห์อย่างไม่รู้ลืมที่ไม่ว่านักท่องเที่ยวจากที่ไหนเดินทางมา ก็ต้องกลับมาเที่ยวอีก จึงขอเรียนคนไทยทุกคนให้เกิดความภาคภูมิใจในประเทศและดินแดนของเรา

‘พัดลมน้ำแข็ง’ อุปกรณ์คลายร้อนที่ไม่เหมาะกับอากาศในไทย แม้ช่วยลดความร้อนได้ แต่อาจเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค ‘บัคเตรี’

(11 พ.ค. 66) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘ยอดเยี่ยม เทพธรานนท์’ สถาปนิกชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องการใช้ ‘พัดลมน้ำแข็ง’ ในสภาวะอากาศร้อน-ชื้น โดยระบุว่า…

อย่าใช้ ‘พัดลมน้ำแข็ง’ ในห้องนะครับ (แต่การเปิดพัดลมปกติเป็นเรื่องดีมาก ๆ ครั้ง ทั้งในห้องปกติ ห้องร้อน ๆ หรือห้องแอร์ครับ) เหตุผลก็คือ

เพราะ ‘พัดลมน้ำแข็ง’ คือพัดลมที่ใส่น้ำแข็งลงไปด้านหลัง แล้วให้น้ำแข็งละลายเป็นน้ำเย็น และพัดลมก็จะเป่าน้ำเย็นเป็นละอองออกมา เพื่อลดอุณหภูมิ 

แต่เพราะเมืองไทยเราเป็นเมือง ‘ร้อน - ชื้น’ ที่ไม่ต้องการความชื้นเพิ่ม หากใช้พัดลมน้ำแข็งจะเป็นการเพิ่มความชื้น แม้จะได้ความเย็นมา ลดความร้อนได้ แต่จะทำให้เราไม่สบายตัวเมื่อเวลาผ่านไป เพราะความชื้นจะไปอุดต่อมเหงื่อ จนความชื้นในตัวเราระบายไม่ออก และเหล่าความชื้นจะสะสมในห้อง เป็นการเพาะเชื้อโรค ‘บัคเตรี’ นะครับ 

‘สภาวะน่าสบาย’ เป็นสิ่งที่ทำให้เราสบายครับ ศัพท์เทคนิคภาษาฝรั่งเรียกว่า Comfort Zone นั้น จะเกี่ยวข้องกับ อุณหภูมิ - ความชื้น - แรงลม ที่จะต้องมีความพอดีกัน จะมากไป จะน้อยไปก็ไม่ดีครับ

พัดลมจึงเป็นอุปกรณ์สำคัญอย่างหนึ่ง ที่สร้างสภาวะน่าสบายให้กับเราครับ (โดยการเพิ่มแรงลม ในขณะที่อุณหภูมิไม่ลดครับ) แต่ ‘ความชื้น’ จาก ‘พัดลมน้ำแข็ง’ จะทำให้เรารู้สึกแย่ เพราะ ‘สภาวะน่าสบาย’ จะลดลงครับ

พัดลมน้ำแข็งใช้ได้ในประเทศแถบทะเลทราย ที่เป็นอากาศที่ ‘ร้อน - แห้ง’ จะดีมากเลยครับ แต่อย่าใช้ในบ้านเราดีกว่าครับ

ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือพร้อมคณะผู้บังคับบัญชาของกองทัพเรือ และคู่สมรส ร่วมงานเลี้ยงรับรองเฉลิมฉลองพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระเจ้าชาร์ลที่ 3

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 66 พล.ร.อ.สุวิน  แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมคณะผู้บังคับบัญชาของกองทัพเรือ และคู่สมรส ร่วมงานเลี้ยงรับรองเฉลิมฉลองพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระเจ้าชาร์ลที่ 3 ตามคำเชิญของสถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร ประจำประเทศไทย โดยมี นาย Mark Gooding OBE เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร ประจำประเทศไทย และ ดร.Christopher McComick คู่สมรส เป็นเจ้าภาพ ณ ห้อง Grand Ballroom Four Seasons Hotel Bangkok 

“อลงกรณ์”โชว์ผลงานชิ้นโบว์แดงทุเรียนไทยยืน1ตลาดจีนทำนิวไฮท์ปี2566ส่งออกทะลุแสนล้านภายใน120ยึดส่วนแบ่งตลาดจีนกว่า90% 

เดินหน้าโครงการ”จันทบุรี-มหานครผลไม้”มั่นใจทั้งปีส่งออกผลไม้กว่า4ล้านตันทำเงินกว่า 2 แสนล้านถือเป็นปีทองของผลไม้ไทยภายใต้การบริหารของพรรคประชาธิปัตย์ยุคใหม่

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board-ฟรุ้ทบอร์ด) แถลงวันนี้(11 พ.ค.)ว่า ภายใต้แผนบริหารจัดการผลไม้ปี 2566 และ23 มาตรการเชิงรุก ได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกผลไม้สดและแปรรูปไว้ที่ 4.44 ล้านตันคิดเป็นมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท โดยเฉพาะการส่งออกทุเรียน ตั้งเป้า100,000 ล้านบาท

ล่าสุด ปรากฎผลการดำเนินการส่งออกเกินเป้าหมายทำนิวไฮท์ได้ราคาสูงขายทุเรียนไปจีนทะลุแสนล้านบาทภายใน 120 วัน (เดือน กุมภาพันธ์- พฤษภาคมป) ทำให้ทุเรียนไทยครองสัดส่วนตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ในจีนได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดกว่า 90 %และบรรลุเป้าหมายนโยบาย”ขายน้อยได้มาก”คือการเพิ่มราคาเพิ่มมูลค่าทุเรียนไทยได้สำเร็จ กล่าวคือในปี2564 ส่งออกทุเรียนไปจีนปริมาณกว่า 8 แสนตันทำเงินเข้าประเทศทะลุ 100,000 ล้านบาทเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แต่ปีนี้เราสามารถส่งออกทุเรียนทำเงินทะลุแสนล้านภายใน 120 วันเท่านั้น โดยส่งออก 4.5 แสนตันแต่ได้เงิน1แสนล้าน

ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารจัดการผลไม้เชิงรุกล่วงหน้าแนวใหม่ของฟรุ้ทบอร์ดที่มี ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีเกษตรฯ.และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์เป็นประธานจับมือทำงานกับ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีพาณิชย์และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ภายใต้ยุทธศาสตร์”ตลาดนำการผลิต เกษตรผลิต-พาณิชย์ตลาด”โดยบูรณาการการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกษตรกร ล้ง สมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย สมาคมผู้ส่งออกทุเรียน สมาคมการค้าผลไม้ยุคใหม่ (MAFTA) สมาคมการค้าธุรกิจเกษตรไทย-จีน สมาคมทุเรียนไทย (TDA)
โดยเฉพาะนโยบายการรักษามาตรฐานคุณภาพการผลิต การแปรรูป การส่งออกผลไม้ ตามมาตรฐาน GAP GMP และCovid Freeรวมทั้งการป้องกันและปราบปรามไม่ให้มีทุเรียนอ่อนทุเรียนสวมสิทธิ์เป็นอันขาดเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผลไม้ไทย ,นโยบายการสร้างแบรนด์เพิ่มมูลค่า นโยบายการพัฒนาโลจิสติกส์ เช่นรถไฟจีน-ลาว เป็นต้น 

“เราจะเดินหน้าต่อแบบนันสต็อปรุกรบครบทุกแนวทางโดยเฉพาะการจัดตั้ง”มหานครผลไม้”ที่จันทบุรีในภาคตะวันออกในปีนี้เพื่อยกระดับการบริหารจัดการผลไม้มิติใหม่ โดยมั่นใจว่าปีนี้จะสามารถส่งออกผลไม้เศรษฐกิจเช่นทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง มะม่วง มะพร้าวฯลฯได้ตามเป้าหมายคือ 4.44 ล้านตันสร้างเงินให้ประเทศและเกษตรกรกว่า 2 แสนล้านบาทถือเป็นปีทองของผลไม้ไทยภายใต้การบริหารของพรรคประชาธิปัตย์ทำได้ไวทำได้จริง “นายอลงกรณ์กล่าวในที่สุด

‘อาทิตย์ ริว’ อดีตพระเอกยุค 90 หมดสติอยู่ท้ายตลาด เจ้าหน้าที่รุดเข้าช่วย ล่าสุดถูกหามส่งโรงพยาบาลแล้ว

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 66 แฟนคลับตกใจหลังมีภาพอดีตพระเอก ยุค 90’s อย่าง ‘อาทิตย์ ริว’ ซึ่งเพิ่งออกมาเปิดเผยเรื่องราวชีวิตพลิกผัน ทั้งเรื่องครอบครัวความเป็นอยู่ที่เปลี่ยนไป จนต้องไปขายของที่ตลาดนัดเพื่อหารายได้เลี้ยงชีพนั้น พบว่าวูบหลายชั่วโมงก่อนมีคนมาพบแจ้งเจ้าหน้าที่รุดเข้าช่วย

โดยล่าสุดพบว่ามีภาพ อาทิตย์ ริว วูบหมดสตินอนอยู่ท้ายตลาดเขต 71 ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยรุดเข้าช่วย และถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลด่วน จากนั้นเผยภาพอดีตพระเอกอยู่ที่ห้องฉุกเฉิน รพ.ภูมิพล โดยระบุว่า ตอนนี้พี่ริวป่วยอยู่รพ. นอนรพ. ขณะที่แฟนๆ ต่างเข้าไปให้กำลังใจจำนวนมาก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top