นายกรัฐมนตรีอังกฤษ สั่งล็อกดาวน์ด่วน หลังนักวิทยาศาสตร์ค้นพบไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ทางตะวันออกเฉียงใต้ในอังกฤษ ซึ่งมีประสิทธิภาพการระบาดได้เร็วกว่าเดิมสูงถึง 70%
CNN รายงานว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษ บอริส จอห์นสัน ประกาศมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดรอบใหม่ ซึ่งเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังเขาออกมาบอกว่า "เป็นการไร้มนุษยธรรมมากเกินไปหากจะให้มีการยกเลิกการจัดฉลองวันคริสต์มาสที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้"
อย่างไรก็ตามจอห์นสันได้ออกแถลงมาตรการต่างๆ สำหรับการป้องกันการระบาดโรคโควิด-19 ให้มีความเข้มงวดมากขึ้น หลังการระบาดในประเทศยังเพิ่มขึ้น และส่งผลให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 67,000 คน และติดเชื้อกว่า 2 ล้านคน
โดย จอห์นสันได้กล่าวว่า กรุงลอนดอน และพื้นที่ส่วนใหญ่ทางใต้ รวมถึงทางตะวันออกของอังกฤษที่มีเคสพุ่งสูงนั้นจะเข้าสู่มาตรการจำกัด 4 ขั้นที่คล้ายกับการล็อกดาวน์โดยเริ่มขึ้นในวันอาทิตย์ (20)
ทว่าสิ่งที่น่าสนใจในการแถลงข่าวนั้น คือ การพบไวรัสโควิด-19 ที่เกิดการกลายพันธุ์ในอังกฤษ โดยจอห์นสัน เผยว่า “การระบาดถูกทำให้หนักมากขึ้นจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่” และเสริมต่อว่า “มัน (ไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์) ดูเหมือนติดง่ายกว่าและดูเหมือนสูงถึง 70% ของการระบาดเมื่อเทียบกับสายพันธุ์เดิม”
สำหรับการเตือนขั้นระดับ 4 ได้ถูกใช้ในสหราชอาณาจักรอังกฤษ เวลส์ สก๊อตแลนด์ และไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งภายใต้มาตรการเตือนขั้นระดับ 4 ประชาชนต้องอยู่แต่ภายในที่พักเว้นแต่เหตุผลที่จำเป็น และต้องไม่พบปะกับผู้อื่นที่ไม่ได้อยู่ในบ้านพักเดียวกัน ส่วนธุรกิจร้านค้านั้นต้องปิดตัว
เหตุการณ์นี้ ทำให้องค์การอนามัยโลก WHO ออกแถลงการณ์ทางทวิตเตอร์ของ WHO โดยประกาศจะทำงานร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่อังกฤษในสถานการณ์การระบาดไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ หลัง อังกฤษได้ส่งข้อมูลจากการศึกษาที่กำลังวิจัยอยู่ในเวลานี้เกี่ยวกับการกลายพันธุ์ของไวรัส และทางองค์การอนามัยโลก โดยจะแจ้งให้ชาติสมาชิกอื่นๆ และสาธารณะทราบข่าวความคืบหน้าในการเรียนรู้ลักษณะไวรัสสายพันธุ์ใหม่และการแบ่งตัวของมันต่อไป
