Monday, 10 February 2025
NEWS FEED

สถานการณ์ COVID-19 ประเทศไทยและอาเซียน (16 มกราคม พ.ศ. 2564)

ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน โดยประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 230 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 11,680 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิต 70 ราย รักษาหายเพิ่ม618 ราย รวมผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 8,906 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 2,704 ราย

ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่ 230 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ จากเยอรมนี 3 ราย ,กาตาร์ 1 ราย ,เอธิโอเปีย 1 ราย ,รัสเซีย 1 ราย ,สหรัฐอเมริกา 1 ราย ,สหราชอาณาจักร 7 ราย ,ตุรกี 6 ราย ,มาเลเซี่ย 1 ราย

ผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 83 ราย

ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุก 126 ราย

ขณะเดียวกันสถานการณ์ COVID-19 ของประเทศในกลุ่มอาเซียนมีการอัพเดทดังนี้

ประเทศบรูไน ดารุสซาลาม ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 174 ราย รักษาหายแล้ว 168 ราย เสียชีวิต 3 ราย

ประเทศกัมพูชา ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 436 ราย รักษาหายแล้ว 382 ราย ไม่มียอดผู้เสียชีวิต

ประเทศอินโดนีเซีย ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 8.82 แสน ราย รักษาหายแล้ว 7.19 แสน เสียชีวิต 25,484 ราย

ประเทศลาว ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 41 ราย รักษาหายแล้ว 41 ราย ไม่มียอดผู้เสียชีวิต

ประเทศมาเลเซีย ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 1.51 แสน ราย รักษาหายแล้ว 1.15 แสน ราย เสียชีวิต 586 ราย

ประเทศพม่า ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 1.33 แสน ราย รักษาหายแล้ว 1.17 ราย เสียชีวิต 2,926 ราย

ประเทศฟิลิปปินส์ ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 4.97 แสน ราย รักษาหายแล้ว 4.6 แสน ราย เสียชีวิต 9,876 ราย

ประเทศสิงคโปร์ ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 59,059 ราย รักษาหายแล้ว 58,771 ราย เสียชีวิต 29 ราย

ประเทศเวียดนาม ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 1,536 ราย รักษาหายแล้ว1,380 ราย เสียชีวิต 35 ราย

‘ก้าวไกล’ ฉะ งบ 300 ล้านสร้างหนังรักชาติ สะท้อนรัฐล้าหลัง ไม่พัฒนาความคิด ชี้เป็นการดูถูกประชาชน ย้ำการดูแลอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมต่างหากคือการสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนรักชาติอย่างแท้จริง

ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ อดีต ส.ส.ในฐานะโฆษกก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ มีมติเห็นชอบเปิดรับข้อเสนอโครงการหรือกิจกรรมเพื่อขอรับสนับสนุนเงิน จากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัย และสร้างสรรค์ ประจำปี 2564 วงเงินงบประมาณ 300 ล้านบาท

ธัญญ์วาริน กล่าวว่า ในฐานะคนทำหนังเห็นว่าการสร้างหนังรักชาติคือการดูถูกประชาชน สะท้อนรัฐล้าหลัง ไม่พัฒนาความคิด ยังติดอยู่ในโลกยุคดึกดำบรรพ์ ที่สำคัญก็ต้องตั้งคำถามว่า จะสร้างหนังรักชาติ แปลว่า รัฐคิดว่ามีคนไทยไม่รักชาติอย่างนั้นหรือ นิยามของการรักชาติของพวกคุณคืออะไร หากการรักชาติ ที่พวกคุณฝันอยากเห็นคือการที่ประชาชนไม่มีสิทธิ์ออกมาเรียกร้องสิทธิที่พวกเขาพึงมีพึงได้

นั่นหมายความว่า แปลว่ารัฐกำลังสร้างความแตกแยกให้เกิดกับประชาชนในชาติ ที่คิดว่าคนที่มีเห็นต่างจากรัฐบาลคือ คนชังชาติ ทั้ง ๆ ที่คนเห็นต่างไม่มีใครชังชาติ ประชาชนมีสิทธิ์ฝันถึงชีวิตที่ดีกว่านี้ รัฐมีหน้าที่บริหารประเทศโดยมีประชาชนเป็นที่ตั้งเพื่อประโยชน์สูงสุดของพวกเรา

หากท่านไม่มีความรู้เกี่ยวกับการผลิตสื่อเพื่อภาพลักษณ์ที่มีประโยชน์ ดิฉันจะขอยกตัวอย่างกองทุนพัฒนาภาพยนตร์ของต่างประเทศ เช่น เกาหลีใต้ เค้าพัฒนาด้วยวิสัยทัศน์ที่ไม่ได้ดูถูกประชาชน เค้าคิดถึงประโยชน์สูงสุดให้เกิดกับประชาชน และโครงการหนังที่ส่งเสริมให้ทุนที่ประสบความสําเร็จอย่างยิ่งใหญ่ทั้งในประเทศและระดับโลกก็คือหนังอย่าง Parasite ชนชั้นปรสิต

ซึ่งเป็นหนังสะท้อนความเหลื่อมล้ำของคนเกาหลี แสดงให้เห็นถึงปัญหาและผลกระทบของคนระดับล่างที่ต้องปากกัดตีนถีบและคนร่ำรวยที่เอารัดเอาเปรียบคนอื่นซึ่งเป็นต้นเหตุบนสุดของห่วงโซ่วงจรปัญหาสังคมจนกระทบไปทั้งระบบ คนที่ได้ดูหนังก็จะเกิดปัญญาเพราะเห็นปัญหาอย่างในหนัง นี่ต่างหากที่เรียกว่า หนังรักชาติ เพราะชาติ คือ ประชาชน ถ้าหากไม่มีประชาชนแล้วจะเรียกว่า ชาติ ได้อย่างไร

และการที่ให้งบประมาณกับกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ในแต่ละปีหลายร้อยล้านบาทนั้นมองดูเผินๆก็จะเป็นการดี ถ้าหากว่าระบบการพิจารณาจะสนับสนุนโครงการที่ส่งเสริมและพัฒนาสื่อจริงๆ ซึ่งในแต่ละปีก็มีผู้เสนอโครงการจำนวนมากอยู่แล้วและการบริหารจัดการในการคัดเลือกโครงการและข้อผูกมัดในการให้ทุนก็ยังมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ของผลงานอยู่ ดิฉันเห็นถึงความสำคัญของกองทุนนะคะ แต่ในการที่จะใช้เงินกองทุนที่มาจากภาษีของประชาชนก็ควรจะตระหนักว่า งบประมาณนั้นๆต้องเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนอย่างแท้จริงค่ะ

ด้าน ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่รัฐบาลนำงบประมาณจำนวนไม่น้อยมาใช้เพื่อประโยชน์ของตนในขณะที่ประชาชนได้รับผลกระทบเดือดร้อนจากเศรษฐกิจในช่วงที่มีโรคระบาดเช่นนี้ นั่นหมายความว่ารัฐบาลยอมรับแล้วว่ารัฐบาลไร้ประสิทธิภาพ หมดหนทางในการบริหารเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน จึงแก้ปัญหาด้วยการสร้างหนังขึ้นมาเพื่อหวังว่าประชาชนจะเคลิบเคลิ้มตาม ทัศนคติเช่นนี้เป็นทัศนคติที่อันตรายพวกคุณตีค่าประชาชนต่ำเกินไป ยุคสมัยเปลี่ยนไปการสร้างวาทะกรรม สร้างกระแส คลั่งรักมิอาจใช้ได้ในปัจจุบัน

วันนี้ประชาชนเขาเดินไปไกลกว่าที่พวกคุณคิด ความจริงที่สว่างคาตาพวกเขามันไม่อาจจะมองข้าม การบริหารงานของรัฐบาลที่ไม่สามารถจับต้องได้เลยคือความเป็นจริงที่ไม่สามารถนำศิลปะมาเบี่ยงเบนความสนใจได้ รัฐบาลอาจจะโรแมนติกเกินไปในสถานการณ์ที่ประเทศไทยต้องการการแก้ไขเร่งด่วนในทุกด้าน ยาเสพติดที่กำลังระบาด ความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนที่กำลังกังวลจากโรคระบาด ผลกระทบจากเศรษฐกิจรากหญ้าที่ไร้การเหลียวแล สิ่งเหล่านี้ไม่อาจบรรเทาได้ด้วยหนังรักชาติ

สิ่งสุดท้ายที่อยากฝากไปยังรัฐบาล การสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนรักชาติ ที่ถูกจุดและไม่ผิดเพี้ยนคือการ โชว์ศักยภาพของรัฐบาลออกมา ทำให้ประชาชนได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมต่างหากคือการสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนรักชาติอย่างแท้จริง ธัญวัจน์ กล่าว

ส้มไม่ตาย! ‘ธนาธร’ ลุยรับสมัครตัวแทนชิงนายกเทศมนตรี-สมาชิกสภาเทศบาล ในนาม ‘คณะก้าวหน้า’ ด่วน 7 วันสุดท้าย ตั้งแต่วันนี้ - 22 ม.ค. 64

ที่เฟซบุ๊ก ‘คณะก้าวหน้า-Progressive Movement’ ของคณะก้าวหน้า ที่มีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นประธาน ได้โพสต์ข้อความประกาศชวนสมัครเป็นตัวแทนชิงนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาล ระบุว่า

[ 7 วันสุดท้าย “คณะก้าวหน้า” รับสมัครตัวแทนชิงนายกเทศมนตรี - สมาชิกสภาเทศบาล ]

ชัดเจนแล้วว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นในระดับต่อมาคือ “เทศบาล” นั้น จะมีขึ้นในวันที่ 28 มีนาคม 2564

เป็นการเลือกตั้งพร้อมกันทั้ง เทศบาลนคร 30 แห่ง, เทศบาลเมือง 195 แห่ง และเทศบาลตำบล 2,247 แห่ง (ข้อมูลกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ณ วันที่ 9 กันยายน 2563)

และนอกจากนี้ ยังมีสมาชิกสภาเทศบาลในแต่ละระดับ คือ เทศบาลนคร จำนวน 24 คน, เทศบาลเมือง จำนวน 18 คน และเทศตำบล จำนวน 12 คน

“คณะก้าวหน้า” ยืนยันภารกิจ “ยุติรัฐราชการรวมศูนย์ กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น” ด้วยการส่งตัวแทนลงสมัครรับเลือกตั้งในทุกระดับ

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เรามีการรับสมัครและเฟ้นหาทั้งตัวแทนชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาลได้แล้วจำนวนหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม เห็นว่าควรเปิดโอกาสให้กับผู้สนใจ มุ่งมั่น ที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับบ้านเกิดของตนเองเพิ่มเติม

ตรวจสอบคุณค่าพื้นฐานที่เรามีร่วมกันในการทำงานดังต่อไปนี้

1.) จุดยืนที่หนักแน่นด้านประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการ

2.) ยึดแนวทางการทำงานของพรรคอนาคตใหม่เดิม คือไม่ซื้อสิทธิซื้อเสียง

3.) ไม่มีการทุจริตคอร์รัปชั่น งบประมาณที่มาจากภาษีของประชาชนต้องถูกใช้อย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้

4.) ไม่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ หรือการทำตัวเป็นนักเลงผู้มีอิทธิพล

ถ้าเหล่านี้คือสิ่งที่คุณเชื่อมั่น ถ้าคุณคิดว่าท้องถิ่นของเราดีกว่านี้ได้ บ้านของสามารถทำให้น่าอยู่กว่านี้ได้ และพร้อมมุ่งม้่น ทุ่มเททำงาน เพื่อส่งมอบสังคมแบบที่ใฝ่ฝัน บ้านที่น่าอยู่นั้นให้กับลูกหลานและคนรุ่นต่อไป

ขอเชิญชวน มาสมัครเป็นตัวแทนชิงนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาล ในนาม “คณะก้าวหน้า”

วันนี้ - 22 มกราคม 2564

อย่าช้า 7 วันสุดท้าย ก่อนเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคัดสรรและประกาศผลต่อไป

กรอกแบบฟอร์มการรับสมัครได้ที่ :

https://progressivemovement.in.th/local-election-city/


ที่มา: เฟซบุ๊ก คณะก้าวหน้า-Progressive Movement

‘อนุทิน’ รมว.สาธารณสุข เผยกัมพูชาขอบคุณรัฐบาลไทยช่วยดูแลชาวกัมพูชาในประเทศไทย ช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยไทยเสนอตัวเป็นที่ตั้งศูนย์อาเซียนด้านภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ พร้อมสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพให้กับภูมิภาคอาเซียน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังให้การต้อนรับ นายอูก ซอร์พวน (H.E. Mr. Ouk Sorphorn) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชาประจำประเทศไทย ว่า

เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชาประจำประเทศไทย ได้เข้าพบหารือข้อราชการ พร้อมขอบคุณรัฐบาลไทยที่ดูแลชาวกัมพูชาในประเทศไทยเป็นอย่างดี โดยเฉพาะแรงงานกัมพูชาในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 และขอให้ดูแลชาวกัมพูชาที่ติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลไทยมีนโยบายดูแลผู้ติดเชื้อโควิด 19 ทุกคนในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติ

ทั้งนี้ ประเทศไทยได้เสนอตัวเป็นที่ตั้งศูนย์อาเซียนด้านภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ ASEAN Centre for Public Health Emergencies and Emerging Diseases (ACPHEED) โดยอยู่ระหว่างการคัดเลือกประเทศที่เหมาะสม ซึ่งไทยมีความพร้อมในการสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพให้กับภูมิภาคอาเซียน ให้สามารถตอบโต้ต่อภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข และโรคอุบัติใหม่ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และได้ขอให้กัมพูชาสนับสนุนให้ไทยเป็นที่ตั้งของศูนย์ดังกล่าวด้วย

"สิระ" ลั่น ค้านหัวชนฝามีบ่อนเสรี ขอให้ข้ามศพตนไปก่อน ชี้ยิ่งสร้างโจรในสังคม พร้อมตั้งเงิน 1 แสนให้ผู้แจ้งเบาะแสบ่อน

นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีการปราบปรามบ่อนการพนันผิดกฎหมายที่มีการเปิดในหลายพื้นที่ขณะนี้ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่กับประเทศไทยมายาวนาน ไม่ใช่ในสมัยรัฐบาลนี้ เพราะฉะนั้นการจะโยนความรับผิดชอบไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบอยู่คนเดียวคงไม่ถูกต้อง แต่เรื่องนี้ต้องได้รับการร่วมมือจากประชาชนและ ส.ส.ในพื้นที่ต้องร่วมมือกันปราบปรามให้บ่อนพนันที่มามอมเมาประชาชนให้หมดไปจากสังคมไทยให้ได้

“ผมขอประกาศว่า หากพี่น้องในพื้นที่เขตเลือกตั้งของผม ก็คือ เขตหลักสี่-จตุจักร ท่านใดมีเบาะแสของบ่อนหรือตู้สล็อตต่าง ๆ ให้มาแจ้งที่ผม มาจูงมือผมไปเลยว่าอยู่ตรงจุดไหน ผมจะมอบสินน้ำใจให้จำนวน 100,000 บาท ทุกคนจะได้ลุกขึ้นมาปกป้องตนเองและคนในครอบครัวของท่าน ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อบ่อนชั่วๆเหล่านี้”นายสิระ กล่าว

เมื่อถามถึงการเปิดบ่อนการพนันถูกกฎหมาย เพื่อจะได้นำเงินมาเป็นภาษีเข้ารัฐ นายสิระ กล่าวว่า ตนไม่เคยเห็นด้วยกับนโยบายนี้ และก็เชื่อว่านายกรัฐมนตรีก็คงไม่เอาด้วย ตนไม่อยากให้มองแต่ผลประโยชน์ที่จะได้ แต่ต้องมองถึงผลเสียที่จะตามมาด้วย ขนาดทุกวันนี้ผิดกฎหมายยังมีคนพยายามที่จะไปเล่น แต่หากเปิดแบบถูกกฎหมายคนไทยไม่ต้องทำอาชีพอะไรแล้ว วันๆคิดแต่จะไปหาเงินที่บ่อน และเมื่อเล่นแล้วเสียจะเกิดปัญหาอะไรตามมา อาชญากรในสังคมจะมีมากขึ้นหรือไม่ ต้องคิดถึงเรื่องพวกนี้ให้รอบด้านด้วย ถ้าไม่เช่นนั้นประชาชนที่เขาไม่เกี่ยวข้องจะเดือดร้อนไปด้วยจากปัญหา ชิง ปล้น ฆ่า

นายสิระ ยังกล่าวอีกว่า พวกบรรดาที่อยากให้เปิดบ่อนถูกกฎหมาย ตนขอแช่งให้คนในครอบครัวของท่านไปเป็นผีพนัน แล้ววันนั้นจะรู้ว่าการพนันพวกนี้ทำลายชีวิตของตัวเองและครอบครัวไปมากแค่ไหน มันไม่ใช่เรื่องสนุก พวกที่เสนอความคิดแบบนี้คงไม่เคยเผชิญปัญหามาก่อน ถ้าใครอยากรู้มาถามตนได้ว่า ตนสูญเสียอะไรไปบ้าง แล้วท่านจะเปลี่ยนแปลงความคิด แต่ถ้ายังคิดว่าจะต้องมีบ่อนเสรี ก็ขอให้ข้ามศพตนไปก่อน

‘นิพิฏฐ์’ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เตรียมยื่นกระทรวงการต่างประเทศ ขอให้รัฐบาลญี่ปุ่นห้าม ‘ปวิน’ ในฐานะผู้ลี้ภัยแสดงความเห็นทางการเมือง

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตส.ส.พัทลุง โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก ถึงนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ซึ่งมีสถานะเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองของไทย ระบุว่า

ผมไม่รู้จักอ.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ และไม่ประสงค์จะรู้จักเธอ แต่ก็พอจะรู้ว่าเธอมีความคิดทางการเมือง และรสนิยมการใช้ชีวิตไปทางไหน การใช้ชีวิตของเธอหากไม่กระทบกับสังคมโดยรวมเธอจะมีจริตไปทางไหนก็แล้วแต่เธอ เอาตามรสนิยมที่เธอชอบว่างั้นเถอะ ไม่ว่ากัน วันก่อนเห็นเธอโพสต์รูปโชว์ก้นอยู่ ผมก็ได้แต่หายใจยาวกับอาจารย์คนนี้

วันดี คืนดี เธอก็เข้ามาคอมเม้นท์ในเฟสบุคส์ของผมแบบไม่ได้รับเชิญ ผมนี่ใจหายแว๊บเลย แต่ก็ไม่ติดใจอะไรเธอ เนื่องจากเฟสบุคส์ผมเป็นพื้นที่สาธารณะ เธอจะคอมเม้นท์อะไรก็แล้วแต่เธอ แต่.. ผมว่าระยะหลังนี่เธอจะพล่านมากไปหน่อย อาจคิดถึงบ้านหรืออย่างไรก็ไม่รู้ เธอมักทำอะไรที่ไม่สมกับอายุ และไม่สมกับเป็นครูบาอาจารย์ อารมณ์เธอวูบวาบเหมือนคนกำลังจะหมดประจำเดือน

ผมทราบว่าเธอได้รับสถานะเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองอยู่ในประเทศญี่ปุ่น การเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองนี่ เขาห้ามทำกิจกรรมทางการเมืองนะ แต่เธอก็แสดงความเห็นทางการเมืองอย่างร้อนแรงอยู่เสมอ โดยเฉพาะการเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมก็สงสัยว่า แล้วกระทรวงการต่างประเทศไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลยหรือ ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ท่านสบายดีอยู่หรือ

สัปดาห์หน้า ผมจะทำหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอให้รัฐบาลญี่ปุ่นห้ามเธอในฐานะผู้ลี้ภัยแสดงความเห็นทางการเมือง เพราะการแสดงความเห็นของเธอหลายครั้ง กระทบถึงความสัมพันธ์อันดีที่ไทยมีอยู่ยาวนานกับประเทศญี่ปุ่น ลองดูซิว่า ท่านรัฐมนตรีจะตอบว่าอย่างไร อ้อ!! แล้วถ้าเธอไม่อยู่ในสถานะผู้ลี้ภัย ก็ทำเรื่องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนเสียเลย ผมไม่ได้เป็นส.ส.กับเขาหรอกจึงไม่มีโอกาสไปสอบถามในสภาครั้นจะหวังพึ่งส.ส.ในสภา ก็อย่าพึ่งเขาเลย ทำในฐานะประชาชนดีกว่า ถามกันทางนี้แหละ ท่านรัฐมนตรีตอบมาอย่างไร จะนำมาแจ้งให้ทราบครับ

อ้อ!! อ.ปวิน นี่เธอเป็นผู้ชายนะ

‘ราเมศ’ ซัดกลับ ‘วิโรจน์’ ปมให้ ‘ชวน’ถอนแจ้งความมือคีย์บอร์ดตัดต่อภาพ แยกสร้างสรรค์-เสียหายด้วย แนะควรมีสติปัญญาในการพูด ใช้โซเชียลให้เกิดประโยชน์ ตั้งฉายาเป็นส.ส.ทวิตเซ่อ พร้อมท้าคุยโฆษกก้าวไกล

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล และโฆษกพรรค ได้เขียนบทความถึงนายชวน หลีกภัย เพื่อให้ไปถอนแจ้งความเรื่องที่มีการตัดต่อภาพนายชวนจนก่อให้เกิดความเสียหายว่า โฆษกพรรคก้าวไกลถือว่าทำตัวไม่สมกับความเป็น ส.ส.ที่ทำหน้าที่เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยควรมีความรู้ว่าการใช้ช่องทางกระบวนการทางกฎหมายเพื่อรักษาสิทธิของตนคือแนวทางที่ถูกต้องตามหลักนิติรัฐ

นายราเมศ กล่าวว่า เราเข้าใจในสถานะของความเป็นนักการเมือง นายชวนเป็นนักการเมืองมายาวนาน การตรวจสอบการกล่าวถึงในมุมมองต่าง ๆ ทำได้อย่างเต็มที่ เพราะเป็นบุคคลสาธารณะ เป็นคนของประชาชนอยู่กับประชาชนมาตลอดชีวิตเปิดกว้าง เปิดรับ ปรับตัว เข้ากับสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปในด้านเทคโนโลยีตลอดเวลา โดยข้อเท็จจริงที่ได้มีการตามเก็บข้อมูลของฝ่ายกฎหมายมีการกระทำการผ่านสังคมโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นการให้ร้าย ใส่ร้าย ทำให้เกิดความเสียหายอยู่เป็นจำนวนมาก แต่หลายกรณีมีการตักเตือนให้หยุดการกระทำก็มีอยู่มากเช่นกัน

กรณีล่าสุดที่มีการตัดต่อภาพมีการกระทำที่เกินเลยขอบเขต ภาพตัดต่อจำนวนมากทำให้เกิดความเสียหายประกอบข้อความที่ให้ร้ายกล่าวหานายชวน ว่าสั่งให้ใช้ความรุนแรง สั่งให้ตำรวจทำร้ายประชาชน ใช้ภาพตัดต่อเป็นภาพลามกอนาจาร ตัดต่อในลักษณะไม่เหมาะสมในทางเพศ ตัดต่อในลักษณะที่มุ่งหวังชี้นำให้มีการใช้ความรุนแรง และที่ไม่สามารถเปิดเผย ต่อสาธารณะได้คือการตัดต่อภาพนายชวน หลีกภัยไปในลักษณะก้าวล่วงจาบจ้วงสถาบัน

ซึ่งสิ่งนี้คือสิ่งที่ยอมไม่ได้ และมาตรา 16 ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ คือกระบวนการในการคุ้มครองประชาชนทั้งประเทศหากมีใครนำข้อมูลที่มีการตัดต่อเติมหรือดัดแปลงแล้วนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่จะทำให้ประชาชนเข้าถึง เข้าไปดูได้ เมื่อเป็นภาพตัดต่อที่ทำให้บุคคลอื่นเสียหายก็ถือว่ามีความผิด การใช้กระบวนการทางกฎหมายคือช่องทางที่ดีที่สุดในระบบประชาธิปไตย

ตนมีสติปัญญาพอที่จะวินิจฉัยได้ว่าภาพตัดต่อเป็นพื้นสีเขียว ไม่ได้มีความผิดหรือภาพที่ตัดต่อแบบสร้างสรรค์สามารถทำได้ เพราะไม่เสียหาย แต่โฆษกพรรคก้าวไกลก็ควรมีสติปัญญาในการพูดเช่นกัน ข้อมูลในสำนวนมีภาพใดบ้างข้อหาอะไรบ้างก็ไม่รู้ แต่ออกมากล่าวหาว่าใจไม่กว้างไม่เข้าใจสังคมโซเชียลมีเดีย ไม่ปรับตัวให้เข้ากับการใช้สิทธิและเสรีภาพ ข้อความที่ได้ออกมาจากโฆษกพรรคก้าวไกลถือว่าเป็นการบิดเบือนเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น โดยเฉพาะกล่าวหาว่าตนไปท้าทาย ข่มขู่ แบ่งแยกประชาชน อันที่จริงข้อความนี้เป็นหมิ่นประมาทแต่ตนใจกว้างพอไม่ติดใจที่จะดำเนินการแต่ก็ขอร้องว่าอย่ามาท้าทาย ทั้งมาดูถูกเหยียดหยามว่าถ้าเป็นโฆษกพรรคก้าวไกลแบบนี้ไม่พ้นโปร เป็นข้อความที่ถือว่าไม่ให้เกียรติกัน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตนไม่เคยไปพาดพิงโฆษกคนนี้ แต่อยากจะเตือนว่าการทำงานการเมืองไม่ควรทำตัวในลักษณะดูถูกคนอื่น

"ผมคงไม่ไปอยู่พรรคก้าวไกลที่สืบทอดมาจากพรรคอนาคตใหม่ สรุปก็เป็นอนาคตหมด ผมอยู่พรรคประชาธิปัตย์นี่คือความภูมิใจคือพรรคที่เป็นสถาบันยึดมั่นในการครองในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข พรรคผมไม่เคยถูกยุบ พรรคผมยึดมั่น ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์" นายราเมศ กล่าว

นายราเมศ กล่าวอีกว่า การที่บอกว่าเป็นคนเข้าใจสังคมโซเชียลมีเดียคือจะทำอะไรในพื้นที่นี้ได้ทำผิดกฎหมายได้ใช่หรือไม่ ตนไม่กล้าไปสอน แต่อยากบอกว่าเป็น ส.ส.ควรให้ข้อมูลต่อประชาชนว่าเมื่อวิวัฒนาการของสังคมเปลี่ยนแปลงไปเทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้น การสื่อสารที่รับรู้ข้อมูลเร็วขึ้นในสังคมออนไลน์ควรที่จะใช้ในทางที่ก่อให้เกิดประโยชน์ไม่ใช่ใช้ในทางที่เป็นโทษ นี่คือการปรับตัวไปในทางที่ดี ยิ่งคนเป็นผู้นำควรทำตัวเป็นแบบอย่างอย่านำข้อมูลในการสื่อสารผิด ๆ ถูก ๆ ให้กับพี่น้องประชาชน บางคนทำตัวเป็น ส.ส.โซเชียล ส.ส.ทวิตเตอร์ แต่ดูจากการสื่อสารแล้วควรได้รับฉายาเป็น ส.ส.ทวิตเซ่อ มากกว่า และขอท้าโฆษกพรรคก้าวไกลว่านัดได้เลยห้องประชุมกรรมาธิการที่สภา มาคุยกันถึงเรื่องที่ตนไปแจ้งความว่าภาพที่ถูกตัดต่อให้เกิดความเสียหายนั้นมีอะไรบ้าง

‘ชัชชาติ’ โพสต์แฉ กทม.หนี้ท่วม 9 พันล้านบาท ค้างจ่ายเอกชน หลังซื้อใจให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าฟรี ระบุ ยังไม่รู้เอาเงินที่ไหนจ่าย

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “เมื่อวานช่วงบ่ายมีเวลาว่าง เลยถือโอกาสไปนั่งรถไฟฟ้าสายสีเขียวเล่น นั่งจากหมอชิต ไปถึงพหลโยธิน 24 ลงไปเดินเล่น คุยกับพี่วินมอเตอร์ไซค์ แล้วนั่งกลับมา แวะซื้อขนมที่เซ็นทรัลลาดพร้าว และ นั่งกลับมาที่หมอชิต เพราะตอนนี้ทาง กทม. ยังให้ขึ้นฟรีอยู่ ไม่ต้องเสียค่าโดยสารตั้งแต่สถานีห้าแยกลาดพร้าวเป็นต้นไป

ทั้งนี้ รถไฟสายสีเขียวส่วนต่อขยาย มีสองส่วน ส่วนเหนือ จากหมอชิต(หรือจตุจักร) ไปคูคต และส่วนใต้จากบางจากไป เคหะฯสมุทรปราการ รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายนี้เดิมทาง รฟม.ของกระทรวงคมนาคมเป็นคนสร้าง แต่ครม.มีมติโอนให้ กทม.เป็นผู้ดำเนินการเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561

ทาง กทม.ทยอยเปิดการเดินรถไฟตามสถานีต่างๆ มาตั้งแต่ปลายปี 2561 และ ให้ประชาชนนั่ง “ฟรี” โดยไม่เก็บค่าโดยสาร แต่ กทม.ต้องจ่ายค่าจ้างเดินรถให้ทางเอกชนตลอดเพราะเอกชนเขามีค่าใช้จ่ายในการเดินรถ (ส่วนรายละเอียดว่าค่าจ้างเป็นอย่างไร สัญญาจ้างเป็นอย่างไร หาไม่ได้จริงๆ ครับ)

เมื่อเช้ามีข่าวว่าค่าจ้างสำหรับการเดินรถให้ประชาชนนั่ง “ฟรี” ตอนนี้มียอดหนี้ที่ กทม.ค้างชำระถึงเก้าพันล้านบาทแล้ว และ ยังไม่รู้ว่าจะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย เห็นว่าจะไปขอจากทางรัฐบาลให้ช่วยออกให้ (แต่สุดท้ายก็เงินพวกเราทั้งนั้นแหละครับ) ซึ่งก็อาจจะไม่ง่าย เพราะจ้างไปก่อนแล้วและเท่าที่ดูมติครม.เมื่อปี 2561 มีแต่เรื่องโอนรถไฟฟ้า แต่ไม่มีระบุว่า กทม.ไม่ต้องเก็บค่าโดยสาร ซึ่งก็เป็นเรื่องที่แปลกสำหรับการบริหารว่า สามารถจ้างไปก่อนเกือบหมื่นล้านบาทโดยยังไม่รู้ว่าจะเอางบประมาณที่ไหนจ่าย

ถ้าพวกเรามีโอกาสต้องไปแถวนั้น ทั้งหมอชิต หรือ อ่อนนุช ก็ไปนั่งรถไฟฟ้าฟรี กันนะครับ เพราะเหลือเวลาอีกแค่เดือนเดียวก็จะเริ่มเก็บค่าโดยสารในส่วนต่อขยายแล้วและสุดท้ายแล้วพวกเราต้องร่วมกันจ่ายเกือบหมื่นล้านบาทอยู่ดี”

‘พุทธิพงษ์’ เดินหน้าแจ้งความเอาผิดคนโพสต์หมิ่นสถาบันต่อเนื่อง พบเพจ ‘แนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ-ปวิน’ โดนอีก ยื่นขอคำสั่งศาลยื่นลบ 136 ข้อความไม่เหมาะสมออก

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ได้กำชับกองป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ (ปท.)และกองกฎหมายฯกระทรวงดิจิทัล ให้ดำเนินการติดตามตรวจสอบ ผู้กระทำความผิดโพสต์ข้อความไม่เหมาะสมต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ทางสื่อสังคมออนไลน์และรวบรวมหลักฐานยื่นแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) อย่างต่อเนื่อง

โดยทางกองกฎหมายฯ กระทรวงดิจิทัลฯ ได้แจ้งความเอาผิดผู้กระทำความผิด ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ในช่วงวันที่ 4–15 มกราคม 2564 รวม 11 URLs เป็นผู้กระทำความผิดทาง Facebook 9 URLs และทาง YouTube 2 URLs พบชื่อบัญชีผู้กระทำความผิด

อาทิ บัญชีเฟซบุ๊ก เพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม, บัญชี Pavin Chachavalpongpun (นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์) และยูทูปแชนแนล ชื่อ FAIYEN CHANNEL(วงไฟเย็น) ที่เข้าข่ายกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 โพสต์พาดพิงสถาบันหลักของชาติ

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ปท.สรุปคำสั่งศาล ในช่วงเดียวกัน พบมีการกระทำผิด จำนวน 9 คำสั่งศาล รวม 136 URLs(รายการ) โดยมีทั้ง Facebook, YouTube, Twitter และเว็บอื่นๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างต่อเนื่องจริงจัง

"ฝากแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้โซเชียลมีเดีย ขอให้ใช้วิจารณญาณในการใช้งาน ไม่โพสต์หรือแชร์ส่งต่อข้อความที่ไม่เหมาะสมเพราะจะถือเป็นการกระทำความผิดตามพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯด้วยเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถติดตามตรวจสอบพิสูจน์ตัวตนได้ทั้งหมด" รัฐมนตรีดีอีเอส กล่าว

กรมธนารักษ์ เตรียมจัดที่ดิน 600 ไร่ ให้กระทรวงพัฒนาสังคมฯ สร้างคอนโด 3,000 ห้อง เป็นที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ

นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมฯ เตรียมทำสัญญามอบที่ราชพัสดุ 600 ไร่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ภายในช่วงเดือนก.พ.นี้ นำไปดำเนินโครงการที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ

โดบเบื้องต้นอาจเป็นอาคารชุดประมาณ 3,000 ห้อง ราคาเริ่มต้นห้องละ 999,999 บาท โดยให้สิทธิผู้สูงอายุตั้งแต่ 50 ปี เข้าจองอยู่ได้ รวมปถึงการใช้สร้างเป็นโรงพยาบาล ศูนย์ฝึกอาชีพ และอาคารสำนักงานของพม. เพื่อรองรับการดูแลภาคประชาสังคม

ปัจจุบันกรมธนารักษ์มีผู้เช่าที่ราชพัสดุทั่วประเทศ 182,000 ราย แบ่งเป็นผู้เช่าที่ดินราชพัสดุ 160,000 ราย และผู้เช่าอาคารราชพัสดุ 22,000 ราย มีผลการจัดเก็บรายได้เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี ประมาณ 10,000 ล้านบาท เป็นรายได้จากการบริหารจัดการด้านที่ราชพัสดุ ประมาณ 9,000 ล้านบาท

โดยการให้บริการรับชำระค่าเช่าผ่านแอปพลิเคชัน จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้เช่าที่ราชพัสดุในยุคปัจจุบันมากขึ้นสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการเดินทางไปชำระค่าเช่าได้เหมาะสมกับพฤติกรรมเข้าสู่การใช้ชีวิตวิถีใหม่ได้ด้วย

“การมอบที่ราชพัสดุครั้งนี้เพื่อนำไปสร้างที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ น่าจะช่วยตอบโจทย์ความต้องการได้ โครงการนี้กระทรวงพัฒนาสังคมฯ จะเป็นผู้ดำเนินการ เพราะกลุ่มผู้สูงอายุที่ยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยอีกจำนวนมาก”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top