Wednesday, 2 July 2025
NEWS FEED

'แม็ค' กฤตธัช CEO แห่ง NovyDrone ผู้ใช้โดรนกู้ภัย บินหาจุดปิดวาล์วระงับเพลิงหมิงตี้

จากกรณีไฟไหม้โรงงานหมิงตี้ ชื่อของ NovyDrone เริ่มถูกพูดถึง หลังมีบทบาทในการนำ Drone ติดตั้งกล้อง อุปกรณ์ บินสำรวจ หาจุด วาล์วปิดถังสารเคมี และทำให้การดับเพลิง ได้สำเร็จ โดยเฟซบุ๊ก Kamron Pramoj ได้เผยข้อมูลผู้ที่เกี่ยวข้องกับเจ้า NavyDrone ว่า...

น่าชื่นชม เด็กแบบนี้ นี่สิ ตัวอย่างอนาคตของชาติ

จากกรณีไฟไหม้โรงงานหมิงตี้ ชื่อของ NovyDrone เริ่มถูกพูดถึง หลังมีบทบาทในการนำ Drone ติดตั้งกล้องอุปกรณ์ บินสำรวจ หาจุดวาล์วปิดถังสารเคมี และทำให้การดับเพลิงได้สำเร็จ แม้แต่ลุงตู่ยังชื่นชม

NovyDrone เป็นธุรกิจที่เริ่มต้นจาก Start up ในการเป็น Drone ด้านการเกษตร และมาเป็น Drone กู้ภัย ส่วน CEO ของ NovyDrone คนหนึ่งนั้นก็คือ “แม็ค” กฤตธัช สาทรานนท์ นักแสดง และนายแบบโฆษณา คนรุ่นใหม่ อายุน้อย ที่มีดีกรี FRESHY BOY 2014

น้องแม็ค จบ สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (FIBO)

ก่อนหน้านั้น สมัยเด็ก ๆ น้องแม็ค เรียนจบจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี สนใจเรื่องหุ่นยนต์มาก จึงเข้าร่วมชมรมและแข่งขันประกวดตามสนามต่าง ๆ จนได้รางวัล และชอบเครื่องบินบังคับ และเคยอยากเป็นนักบิน กองทัพอากาศ แต่เมื่อเวลาผ่านไปความคิดเริ่มเปลี่ยนมาชอบทางด้านธุรกิจเทคโนโลยี

คงเป็นเพราะคุณพ่อเป็นทหาร ที่มีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยี คือ พลเอก วิชิต สาทรานนท์ อดีต ผอ.ศูนย์เทคโนโลยี่สารสนเทศ กองทัพบก ในยุคบุกเบิก ทำให้แม็คสนใจด้านนี้ด้วย

แต่ที่สุดแม็คได้เลือกที่จะเป็นพลเรือน แต่ยังคงทำตามความฝัน ทั้งเครื่องบินบังคับ และหุ่นยนต์ แล้วผันตัวเองเข้าสู่วงการ Startup ในการใช้ Drone ช่วยเกษตรกร

จึงตั้งบริษัท Novy 2018 นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้งานช่วยงานเกษตรกรโดยเฉพาะ การใช้อากาศยานไร้คนขับ Drone ถ่ายภาพมุมสูง ตรวจสอบพื้นที่ และศัตรูพืช และการใช้โดรนพ่นปุ๋ย พ่นยา ช่วยให้ให้เกษตรกรปลอดภัยจากการใกล้ชิดสารเคมี จึงก้าวสู่ Smart Farming และมีแผนที่จะสร้างหุ่นยนต์ที่ช่วยเหลือคนป่วย คนชรา

ตอนนี้ น้องแม็ค เข้ารับการอบรมด้านการบินที่ ฝูง 604 กองบิน 6 กองทัพอากาศ หลังจากที่เรียนการบินเอกชนมาก่อน เพราะยังสนใจการบิน เพื่อเสริมงาน Drone อีกด้วย

ขอบคุณข้อมูล : startupthailand

 

ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=10221390606247249&id=1012077191


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘หมอยง’ เผยการให้วัคซีนเข็มแรกเป็นเชื้อตาย (Sinovac) และให้วัคซีน virus vector (AstraZeneca) ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้น ได้ปริมาณที่สูงกว่าการให้วัคซีนเชื้อตาย (Sinovac) 2 เข็ม ประมาณ 8 เท่า

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก "Yong Poovorawan" หัวข้อ "โควิด-19 วัคซีน การฉีดเข็ม 1 และเข็ม 2 สลับชนิดกัน" โดยระบุว่า..ปัจจุบันยังแนะนำ ให้ฉีดวัคซีนป้องกัน covid-19 เข็ม 1 และเข็ม 2 เป็นชนิดเดียวกัน

ขณะนี้เริ่มมีแนวโน้ม มีข้อมูล และกำลังศึกษาเกี่ยวกับการฉีดต่างชนิดของวัคซีนในเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 เช่นการให้ virus vector (AstraZeneca) สลับกับ mRNA (Pfizer) และเริ่มมีการยอมรับมากขึ้น

สำหรับประเทศไทยขณะนี้ เรามีวัคซีนเชื้อตาย (Sinovac, sinopharm) กับ virus vector (AstraZeneca) และในชีวิตจริง ในบางรายที่แพ้วัคซีนเข็มแรก วัคซีนเข็ม 2 ให้ต่างชนิดกัน ขณะนี้มีเป็นจำนวนมากพอสมควร เข้าใจว่ามีมากกว่า 1,000 ราย

การศึกษาของศูนย์ ได้ทำการศึกษาการสลับชนิดของวัคซีน ที่อยู่ระหว่างการศึกษา

พบว่า การให้เข็มแรกเป็นวัคซีนเชื้อตาย (Sinovac) และอีก 3-4 สัปดาห์ต่อมา ให้วัคซีน virus vector (AstraZeneca) ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้น ได้ปริมาณที่สูงมาก สูงกว่าการให้วัคซีนเชื้อตาย (Sinovac) 2 เข็มห่างกัน 3-4 สัปดาห์ ประมาณ 8 เท่า หรือสูงกว่าภูมิต้านทานที่เกิดจากการติดเชื้อจริงในผู้ป่วยประมาณ 10 เท่า และน้อยกว่าการให้วัคซีน virus vector AstraZeneca 2 ครั้งห่างกัน 10 สัปดาห์ อยู่เพียงเล็กน้อย

การให้วัคซีนสลับ เข็มแรกเชื้อตาย เข็มที่ 2 เป็นไวรัสเวกเตอร์ (ห่างกัน 3-4 สัปดาห์) จะทำให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนได้ภูมิต้านทานสูงในเวลาเพียง 6-8 สัปดาห์ ซึ่งต่างกับผู้ที่ได้รับวัคซีนไวรัสเวกเตอร์ 2 ครั้ง (ห่างกัน 10 สัปดาห์) กว่าจะได้ภูมิต้านทานสูงดังกล่าวต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 12-14 สัปดาห์

ข้อมูลดังกล่าวจึงเป็นประโยชน์ ในช่วงที่มีการระบาดอย่างมาก และทำให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนมีภูมิสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และในขณะเดียวกันการบริหารวัคซีนก็จะง่ายขึ้น ในกรณีที่มีวัคซีน ในปริมาณจำกัด การศึกษาทั้งหมดน่าจะเห็นชัดเจนขึ้นภายในสิ้นเดือนนี้

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ได้ยังเป็นข้อมูลที่ศึกษาระดับภูมิต้านทาน สิ่งที่สำคัญจะต้องทำการศึกษาต่อ คือความสามารถในการป้องกันโรค ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าระดับภูมิต้านทานที่สูงกว่ามีโอกาสที่จะป้องกันโรคและความรุนแรงของโรคได้มากกว่า การศึกษาในวงกว้างก็ยังมีความจำเป็นที่จะให้ทราบถึงประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันโรคถ้าให้วัคซีนสลับกัน

 

ที่มา : https://www.facebook.com/yong.poovorawan/posts/5936411143068120


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“คุณหญิงกัลยา” ห่วงเชื้อโควิด-19 ขยายวงกว้าง หนุนใช้วิทยาลัยเกษตรฯ เป็นสถานที่พักคอยผู้สัมผัสเชื้อความเสี่ยงสูง นำร่องวิทยาลัยเกษตรฯ สุราษฎร์ธานีสร้างความปลอดภัยให้ชุมชน

ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ห่วงพี่น้องประชาชน หวั่นเชื้อโควิด-19 ขยายวงกว้างสู่ชุมชน สั่งการให้วิทยาลัยเกษตรฯ เตรียมพร้อมเพื่อใช้เป็นสถานที่พักคอยสำหรับผู้สัมผัสเชื้อความเสี่ยงสูงระหว่างรอผลตรวจ นำร่องวิทยาลัยเกษตรฯ สุราษฎร์ธานี โดยที่ผ่านมามีผู้ที่พักคอยรอผลตรวจหมุนเวียนแล้วกว่า 84 ราย สามารถช่วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชุมชนเกิดความปลอดภัย

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย โฆษกประจำตัวรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช) เปิดเผยว่า คุณหญิงกัลยา มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบันที่ทวีความรุนแรงขึ้น และขยายวงกว้างไปในหลายจังหวัดทั่วประเทศ โดยได้สั่งการให้สถานศึกษาในกำกับทุกแห่ง โดยเฉพาะวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีซึ่งตั้งอยู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่หากทางสาธารณสุขอำเภอ หรือทางจังหวัดขอความร่วมมือมา

โดยขณะนี้วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุราษฎร์ธานีได้ให้การสนับสนุนสาธารณสุขในพื้นที่เพื่อให้ใช้พื้นที่หอพักนักศึกษาในวิทยาลัยฯ จัดตั้งเป็นสถานที่พักคอยสำหรับผู้สัมผัสเชื้อความเสี่ยงสูง ซึ่งทางทีมสาธารณสุขอำเภอจะลงพื้นที่ในชุมชนหากพบผู้ที่สัมผัสเชื้อและมีความเสี่ยงสูงที่อาจจะติดเชื้อ ก็จะแยกตัวออกมาจากชุมชนและนำมาตรวจหาเชื้อ พร้อมพักคอยที่ศูนย์พักคอยสำหรับผู้สัมผัสเชื้อความเสี่ยงสูงจนกว่าจะทราบผลการตรวจ ภายใต้การดูแลตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเข้มงวด โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ ปัจจุบันวิทยาลัยเกษตรฯ สุราษฎร์ธานี มีผู้ที่พักคอยรอผลตรวจอยู่กว่า 60 รายและที่ผ่านมามีผู้พักคอยเข้ามาพักหนุมเวียนไปแล้วกว่า 84 ราย

ทั้งนี้วิทยาลัยเกษตรฯ จะให้ใช้สถานที่ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายตลอดการพักคอย ในขณะที่สาธารณสุขในพื้นที่จะส่งบุคลากรเข้ามาดำเนินการเรื่องอาหาร ความสะอาด และการควบคุมโรคภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุขที่ถูกต้อง ซึ่งได้รับคำชมจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีว่าที่พักคอยสำหรับผู้สัมผัสเชื้อความเสี่ยงสูงในวิทยาลัยเกษตรฯ สุราษฎร์ธานีถือเป็นที่พักคอยที่บรรยากาศดีที่สุดของจังหวัด

“คุณหญิงกัลยาได้สั่งการและกำชับให้สถานศึกษาที่กำกับ โดยเฉพาะวิทยาลัยเกษตรซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศให้การสนับสนุนอย่างเต็มกำลังความสามารถหากทางจังหวัดร้องขอมา ซึ่งทางวิทยาลัยฯ มีความพร้อมทั้งเรื่องของสถานที่และวัตถุดิบด้านการเกษตรที่เรามีอยู่แล้ว ภายใต้โครงการชีววิถี ที่สามารถนำวัตถุดิบมาแปรรูปจัดทำเป็นอาหารว่าง เพื่อให้ผู้สัมผัสเชื้อระหว่างพักคอยโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย” นางดรุณวรรณ กล่าว

ทั้งนี้คุณหญิงกัลยา ได้มอบหมายให้ ดร.ศุภชัย ศรีหล้า ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และดร.ชาติชาย เกตุพรหม ที่ปรึกษาด้านมาตรฐานการอาชีวศึกษาเกษตรกรรมและประมง เป็นผู้ประสานกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี  ในการตั้งเป็นสถานที่พักคอยสำหรับผู้สัมผัสเชื้อความเสี่ยงสูง เป็นการช่วยให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีสถานที่ที่สามารถแยกกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงสูงนำมาตรวจหาเชื้อ และเป็นพี่พักเพื่อรอผลตรวจซึ่งหากไม่พบเชื้อก็ส่งกลับชุมชน แต่หากพบว่าติดเชื้อก็ส่งต่อโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาต่อไป ซึ่งจะช่วยให้คนในชุมชนเกิดความปลอดภัย

บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ มอบเครื่องฟอกอากาศเพื่อฆ่าเชื้อโรค สำหรับการใช้ในศูนย์ปฏิบัติการควบคุมความปลอดภัย และการจราจรทางน้ำ

วันที่ 6 กรกฎาคม 64 เวลา 11:00น. บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ ได้มอบเครื่องฟอกอากาศเพื่อฆ่าเชื้อโรค เพื่อใช้ใน ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมความปลอดภัยและการจราจรทางน้ำ (Maritime Safety and Surveillance Operation Center) โดยมี นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เป็นผู้รับมอบ โดยศูนย์ปฏิบัติการฯ จัดตั้งขึ้นเพื่อดูแลความปลอดภัยการเดินเรือ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางทะเลตามพันธกิจของกรมเจ้าท่า สามารถเชื่อมโยงระบบ เครือข่ายให้มีความสะดวก รวดเร็วในการปฏิบัติงาน ติดตามข้อมูลเรือระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ กรณีเกิดเหตุเรือไทย ในต่างประเทศ สามารถประสานเจ้าของเรือได้รวดเร็ว ประสานงานบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ซึ่งระบบ ตรวจการณ์ชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนเป็นเครื่องมือและอุปกรณ์ที่จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรกำกับดูแลการจราจรและป้องกัน อุบัติเหตุทางทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล สร้างความเชื่อมั่นด้านการขนส่งและการท่องเที่ยวทางน้ำ การอำนวย ความสะดวก กำกับ ดูแลด้านความปลอดภัยในการคมนาคมขนส่งทางน้ำ การป้องกันกระทำผิดกฎหมายในทะเลมีรูปแบบ ที่หลากหลายซับซ้อน สนับสนุนการแก้ไขปัญหาเรือประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน ไร้การควบคุม ( IUU Fishing) ให้มีข้อมูลภาพ ความเคลื่อนไหวของเรือต่าง ๆ ในทะเลที่มุ่งเข้าสู่ชายฝั่งและแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญ

ทั้งนี้ กรมเจ้าท่า จะทำการเปิดอาคาร 39 ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมความปลอดภัยและการจราจรทางน้ำ กรมเจ้าท่า อย่างเต็ม รูปแบบในวันที่ 5 สิงหาคม 2564 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสถาปนากรมเจ้าท่า ครบรอบ 162 ปี

 

ประธานชวน เบรกการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้ ส.ส. เน้นย้ำ ต้องฉีดให้บุคลากรการแพทย์ก่อน

7 ก.ค. 2564 นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงวิป 3 ฝ่ายหารือกรณีอยากให้รัฐบาลจัดหาวัคซีนเข็มที่ 3 ให้สภา ว่า ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว เพราะไม่ได้เข้าประชุมด้วย คงเป็นเพียงข้อเสนอ ยังไม่ได้มีการตกลงอะไรกัน แต่จะให้สวอปเท่านั้น ยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่มีการฉีดเข็มที่ 3 เพราะต้องฉีดให้กับบุคลากรทางแพทย์ที่ควรได้รับการดูแลก่อน

“ขณะเดียวกันส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นด้วย เนื่องจากที่เรามีประชุมได้ เพราะเรามีมาตรการที่เข้มงวด ซึ่งจากที่เรามีมาตรการมาเดือนกว่า ความร่วมมือถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ผมขอความร่วมมือให้มีการคุมเข้มเช่นนี้ตลอดไป”

 

ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/108896


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ทบ.คงกำลังและยุทโธปกรณ์ สนับสนุนดับไฟโรงงานสารเคมี จ.สมุทรปราการ

ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยวาา ตลอดวันนี้ปฏิบัติการดับไฟในโรงงานสารเคมี จ.สมุทรปราการ ทุกภาคส่วนยังคงบูรณาการร่วมกันดับไฟอย่างเต็มศักยภาพ สำหรับในส่วนของกองทัพบกได้ส่งกำลังพล 265 นาย ยานพาหนะ 
30 คัน จากกองพันทหารราบหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน และกองพลทหารราบที่ 11  เข้าช่วยงานบริการโดยรอบพื้นที่เกิดเหตุ ด้วยการอพยพประชาชนไปยังศูนย์อพยพ อบต.บางพลีใหญ่ และนำสิ่งของพระราชทาน, เครื่องอุปโภคบริโภค, เครื่องมือจำเป็นทางการแพทย์เข้าแจกจ่าย ตลอดจนส่งเจ้าหน้าที่ เข้าสนับสนุนการตรวจเชื้อ COVID-19 ที่ศูนย์อพยพดังกล่าว พร้อมอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ขณะเดียวกันในเรื่องการดับไฟ กองทัพบกได้สนับสนุนน้ำยาโฟมเพื่อใช้ในการดับเพลิง 26,860 ลิตร พร้อมนำชุดปฏิบัติการวิทยาศาสตร์จากกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก ร่วมประเมินสารพิษและตรวจสอบคุณภาพร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ และเตรียมการเกี่ยวกับการชำระล้างสารเคมีที่อาจการรั่วไหลในที่เกิดเหตุ 

สำหรับปฏิบัติการดับไฟทางอากาศ ตลอดระยะเวลา 2 วันที่ผ่านมา นักบินจากกองพันซ่อมบำรุงอากาศศูนย์การบินทหารบก ได้นำเฮลิคอปเตอร์ KA-32 จำนวน 2 ลำ ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขึ้นบินโปรยสารเคมีโฟมและน้ำ เพื่อควบคุมไฟรวม 47 เที่ยวบิน  ส่วนการปฏิบัติในภาคพื้นดินกองทัพบกได้นำรถฉีดโฟมดับเพลิงจากกองพลพัฒนาที่ 1 เข้าสนับสนุนภารกิจด้วย ทั้งนี้ พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบกได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดกำชับให้เตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือสนับสนุนการดับไฟและควบคุมเหตุการณ์อย่างเต็มศักยภาพ ควบคู่ไปกับการสนับสนุนภาคส่วนและกำลังพลจิตอาสาในการดูแลช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยในระยะเร่งด่วน 

โดยตลอดวันนี้ มีการประเมินสถานการณ์ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อควบคุมการปะทุขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องประเมินและควบคุมเหตุการณ์ต่อเนื่อง ซึ่ง ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบกได้แจ้งเตือนให้หน่วยขึ้นตรงกองทัพบก เตรียมการสนับสนุนอื่นๆ อาทิ อากาศยาน การเตรียมจัดตั้ง รพ.สนาม เมื่อได้รับการร้องขอ พร้อมคงกำลังพลร่วมปฏิบัติการในพื้นที่จนกว่าสถานการณ์จะยุติ ส่วนการฟื้นฟูหลังเหตุการณ์สงบจะได้เตรียมสนับสนุนการสำรวจความเสียหาย การกลับคืนภูมิลำเนาของประชาชน การฟื้นฟูสถานที่และบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบร่วมกับทุกภาคส่วนต่อไป

“บิ๊กตู่” สั่งเร่งเยียวยาผลกระทบเหตุโรงงานแคมีระเบิด สั่งทุกกระทรวงช่วยเหลือไม่ใช่โยคแค่ มท. เชื่อหน้างานดูแลเหมาะสมตามสถานการณ์แล้วหลังก้าวไกลกระพือล็อกแคมป์ รับคิดทำบุญประเทศหลังหลายเรื่องถาโถม 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกฯ ตอบคำถามแทนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ถึงมาตรการเยียวยาประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เพลิงไหม้โรงงานสารเคมีที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการว่า นายกฯสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณาในแง่กฎหมายทั้งหมดที่จะเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ โดยให้พิจารณาอย่างเร่งด่วนเพราะทราบดีว่าประชาชนเดือดร้อน รวมถึงให้ไปดูวงเงินประกันที่บริษัทมีอยู่ว่าจะเพิ่มเติมอย่างไร และจะมีการพิจารณาเพิ่มเติมส่วนนั้นอย่างไรได้บ้าง อย่างไรก็ตามในส่วนรัฐบาลจะเข้าไปดำเนินการเช่นเดียวกัน เมื่อถามว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าวรัฐบาลจะพิจารณารือระบบการวางผังเมืองหรือไม่ เพราะยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ชุมชนเข้าไปอยู่ใกล้โรงงาน นายอนุชา กล่าวว่า การจัดทำผังเมืองต้องเป็นไปตามกฎหมาย หากอนาคตต้องทำประชาพิจารณ์ ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วยก็ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ การมีส่วนร่วมของประชาชนมีครวามสำคัญ แต่สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมที่เปิดดำเนินการมาก่อนแล้วต่อมีมีชุมชนที่พักอาศัยมารายล้อม ก็ต้องร่วมมือกันและรับฟังความคิดเห็นทั้งในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงอื่นที่ที่เกี่ยวกับการเป็นอยู่ของประชาชน ที่จะต้องร่วมกันพิจารณา และรัฐบาลจะได้ออกเป็นกฎหมายต่อเนื่องต่อไป โดยจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
 
เมื่อถามว่าในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้พูดคุยถึงกรณีแคมป์คนงานในพื้นที่ซึ่งอยู่ในพื้นที่ฟ้ามเคลื่อนย้ายคนงานตามข้อกำหนดศบค. ไม่สามารถอพยพคนงานได้หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้เนื่องจากทหารที่ดูแลแคมป์อยู่ไม่ยินยอม นายอนุชา กล่าวว่า นายกฯได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลโดยเฉพาะหากมีผู้ได้รับความเดือดร้อนอะไรก็ขอให้เข้าไปเร่งดูและหากมีความจำเป็นที่จะต้องเยียวยาก็ขอให้ไปดูเรื่องของกฎหมาย ส่วนเรื่องการเคลื่อนย้ายคนงานนั้นในที่ประชุมไม่ได้พูดคุยในรายละเอียดแต่เรื่องดังกล่าวทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการคงได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้วว่าควรจะช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่รัสมี 5 กิโลเมตรอย่างไรและเชื่อว่าคงดำเนินการอย่างเหมาะสมไม่เป็นประเด็นปัญหาอะไร จนถึงขณะนี้ก็เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ การเยียวยาดูแลผู้อพยพต่างๆก็เดินหน้ากันต่อไป โดยนายกฯสั่งการให้ทุกกระทรวงไปดำเนินการช่วยเหลือไม่ใช่เฉพาะแค่กระทรวงมหาดไทยเท่านั้น เมื่อถามย้ำว่าส.ส.พรรคก้าวไกลยืนยันว่ามี 3 แคมป์ที่คนงานไม่สามารถออกมาได้ นายอนุชา กล่าวว่า เชื่อว่าศูนย์บริหารซึ่งเป็นส่วนหน้างานในพื้นที่ได้พิจารณาอย่างเหมาะสมแล้วเพราะการดำเนินการต่างๆต้องดูสถานการณ์ในพื้นที่ด้วย ทางผู้ว่าสมุทรปราการน่าจะมีคำตอบที่ดี  

‘ก้าวไกล’ ห่วง สารเคมีตกค้างจากเหตุเพลิงไหมโรงงานกิ่งแก้ว จี้ ภาครัฐตรวจสุขภาพ จนท.- ประชาชน ต่อเนื่อง 5 ปี ‘วิโรจน์’ ชี้ ถึงเวลายกระดับงานสาธารณภัยให้สอดคล้องกับการเติบโตของชุมชนเมือง

เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 64 ศูนย์พักพิงชั่วคราว อบต.บางพลีใหญ่ วุฒินันท์ บุญชู ส.ส. สมุทรปราการ เขต 4 พรรคก้าวไกล ให้ความเห็นต่อกรณีเหตุการณ์โรงงานผลิตเม็ดโฟมและเม็ดพลาสติกขนาดใหญ่ ซอยกิ่งแก้ว 21 อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ระเบิดและมีเพลิงไหม้ ว่า ในฐานะ ส.ส.พื้นที่ ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ผจญเพลิงที่ทำงานกันอย่างเต็มที่กว่า 20 ชั่วโมง จนสามารถควบคุมเพลิงได้สำเร็จ และขอบคุณศูนย์พักพิงทั้ง 7 ศูนย์ ที่มี อบต.บางพลีใหญ่ เป็นศูนย์กลางการจัดการเพื่อดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้

สำหรับสิ่งที่อยากฝากไปยังรัฐบาล คือเรื่องความปลอดภัยและสุขภาพของผู้ได้รับผลกระทบ อยากให้มีการตรวจเช็กร่างกายของประชาชนบริเวณโดยรอบ และเจ้าหน้าที่ผจญเพลิง เพราะเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ไม่ใช่การไหม้ธรรมดา แต่เป็นการไหม้สารเคมีที่จะตกค้างในพื้นที่ และเข้าสู่ร่างกายของประชาชนได้ โดยสารเคมีเหล่านี้อาจตกค้างทั้งในดินหรือไหลไปลงแม่น้ำลำคลอง หรืออาจปนเปื้อนในน้ำประปาที่อาจมีการรั่วไหลไปตามท่อหรือส่วนหนึ่งส่วนใด จึงขออยากฝากความห่วงใยประเด็นนี้ไปถึงรัฐบาล

ด้าน วิโรจน์ ลักขณาอดิศร กล่าวเสริมว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นของการประปา พบว่าขณะนี้น้ำที่ผลิตได้ยังคงมีความปลอดภัย แต่ในระยะยาวจะต้องมีการตรวจสอบในห้องปฏิบัติการเป็นระยะเพื่อความมั่นใจว่าน้ำกินน้ำใช้ของประชาชนจะมีความปลอดภัยแน่นอน รวมถึงก่อนการเข้าสู่ภาวะปกติโดยให้ประชากลับเข้าพื้นที่ได้ควรมีการตรวจระบบไฟฟ้าและโครงสร้างอาคารต่าง ๆ ด้วย

สำหรับเรื่องการตรวจร่างกายให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานและประชาชนในพื้นที่ประสบเหตุ นอกจากควรตรวจทันทีแล้ว จะต้องมีการตรวจซ้ำในทุก 6 เดือน เป็นเวลา 5 ปี เพราะการปนเปื้อนของสารเคมีไม่ใช่เรื่องปัจจุบันทันด่วนเป็นผลสะสม จึงต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าสุขภาพของประชาชนจะได้รับการดูแลจากรัฐ

“ประเด็นต่อมา เป็นที่ชัดเจนว่า ในการปฏิบัติงานครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังต้องเอางบประมาณส่วนตัวมาดูแลอุปกรณ์และความปลอดภัยของตัวเอง ขณะที่กองทัพเอาเงินไปซื้อถุงเท้ากางเกงในเป็นราคาสามเท่าของราคาที่ปรากฏบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ซึ่งวันนี้ก็ยังไม่มีคำตอบ ประชาชนตั้งคำถามว่า ยานเกราะล้อยาง เครื่องบิน VIP กับการไปตกแต่งห้องน้ำในเครื่องบินจะมีคนใช้สักกี่คน การจัดซื้อรถถัง เรือดำน้ำ ประชาชนได้ใช้ประโยชน์อะไร...

...แต่สำหรับอุปกรณ์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่ประชาชนต้องการ ทำไมรัฐบาลกลับไม่ลงทุน และวันนี้ก็เกิดปัญหาขึ้น รัฐบาลต้องทุ่มเทและยกระดับขีดความสามารถให้สอดคล้องกับการเติบโตกับชุมชนเมือง ซึ่งเมื่อพูดถึงการเติบโตของชุมชนเมืองก็ต้องมาพิจารณาต่อว่า กฎหมายผังเมืองเป็นอย่างไร การอนุญาตให้เปิดและต่ออายุโรงงานเป็นอย่างไร การทำอีไอเอเป็นอย่างไร และที่สำคัญที่สุดที่ต้องกลับไปรื้อดูก็คือ คำสั่ง คสช. ที่ 4/2559 ที่ปลดล็อกกฎหมายผังเมืองให้กิจการที่เกี่ยวของกับพลังงานและขยะ จึงต้องไปดูว่ามีโรงงานใดปลดล็อกบ้าง และเมื่อปลดล็อกแล้วมีการปรับปรุงดูแลมาตรฐานความปลอดภัยและมีขีดความสามารถในการดูแลสารเคมีอย่างไร...

...สุดท้ายในเรื่องของกฎหมายพรรคก้าวไกลได้เสนอร่างกฎหมาย PRTR เพื่อควบคุมมลพิษและการเคลื่อนย้ายสารเคมีสู่สิ่งแวดล้อม ซึ่งตอนนี้ยังถูกดองค้างอยู่ในรัฐบาล สิ่งที่อยากเรียกร้อง คือให้รัฐบาลผ่านกฎหมายที่จำเป็นในการดูแลสิ่งแวดล้อมเป็นการเร่งด่วนที่สุด สิ่งเหล่านี้ พรรคกาวไกลจะเร่งจี้ และผลักดันให้รัฐบาลมีการดำเนินการโดยเร็ว”


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘พงศ์พรหม’ ฝากนายกฯ ดูระเบิดโรงงานย่านกิ่งแก้วเป็นบทเรียน ซัดระบบราชการล้มเหลว ลักไก่ปล่อยโรงงานใกล้ชุมชน-สนามบิน

นายพงศ์พรหม ยามะรัต รองหัวหน้าพรรคกล้า ตั้งคำถามหลังเกิดเหตุระเบิดโรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติก บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ซอยกิ่งแก้ว 21 ว่า ดูจากจุดระเบิดแล้ว คำถามคือมีการก่อสร้างโรงงานแบบนี้ รวมถึงเก็บวัตถุอันตรายจำนวนมหาศาลแบบนี้ในเขตชุมชน และใกล้สนามบินสำคัญขนาดนี้ได้อย่างไร

1.) ท้องถิ่นฝ่าฝืนผังเมือง แอบอนุญาตอุตสาหกรรมอันตรายให้มาตั้งอย่างผิดกฎหมายหรือไม่

2.) โรงงานนี้เคยมีอยู่ก่อน แต่ชุมชนหนาแน่นย้ายเข้ามาโดยได้รับอนุญาตอย่างผิดกฎหมายหรือไม่

นายพงศ์พรหม กล่าวต่อว่า แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไร 2 กรณีนี้มีคนทำผิดกฎหมาย การระเบิดครั้งนี้จึงฟ้องถึงระบบราชการแบบผิดกฎหมายที่แผ่กระจายไปทั่ว เพราะอุตสาหกรรมอันตรายไม่อนุญาตให้ตั้งในเขตชุมชนหนาแน่น หรือจุดเดินทางสำคัญของประเทศ ปัญหาจะเป็นกรมโยธาธิการ และผังเมือง หรือราชการ-การเมืองท้องถิ่น ฝากท่านนายกหยิบเป็นกรณีศึกษาถึง “ระบบราชการที่ล้มเหลว” ครับ

 

https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=4437784932898277&id=100000004424101


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'สมรักษ์ คำสิงห์' เผย 'ไม่พบเชื้อ' หลังตรวจโควิด รอบ 2

หลังจากที่ออกมาแจ้งว่าตนเองได้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้ง ๆ ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ทำให้ สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักชกฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก ต้องรีบแยกจากครอบครัว ย้ายไปอยู่บ้านอีกหลังนึงคนเดียว เพื่อรอโรงพยาบาลมารับ

โดยทางด้าน สมรักษ์ ก็ได้ออกมาเปิดใจผ่านโลกโซเซียลว่าตนเองไม่มีอาการอะไรเลย ก็งงเหมือนกันตอนที่หมอโทรมาบอกว่าติดเชื้อโควิด พร้อมกับแจ้งอีกว่าสำหรับคนที่ได้ใกล้ชิดตนเองในช่วงนี้ให้ไปตรวจหาเชื้อ

ทว่า ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ออกมาเปิดเผยผ่านโลกโซเชียลอีกครั้งว่า ผลการตรวจโควิด-19 ครั้งที่ 2 ของตนเองนั้น ปรากฏว่าผลตรวจไม่สัมพันธ์กับครั้งแรก ผลออกมาว่า ไม่พบเชื้อ ทำให้เจ้าตัวรู้สึกแปลกใจ พร้อมบอกเพิ่มเติมว่า 6 กรกฎาคม แพทย์จะนัดตรวจแบบ Swab อีกครั้ง หากไม่พบเชื้ออีกก็จะได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้

 

 

ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/108760


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top