Sunday, 12 May 2024
NEWS FEED

วิษณุ ปัดตอบทุกกรณี หลังรถไฟฟ้าฟรีสถานีส่วนต่อขยายสถานีหมอชิต-คูคต และ แบริ่ง-สมุทรปราการ จะสิ้นสุดในวันที่15 ม.ค.และราคาจะกำหนดไปแตะเพดานที่ 158 บาท

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีข่าวว่ารถไฟฟ้าจะให้บริการฟรีในสถานีส่วนต่อขยายสถานีหมอชิต-คูคต และ แบริ่ง-สมุทรปราการ วันที่15 ม.ค.เป็นวันสุดท้าย และราคาจะกำหนดที่ 158 บาท ว่า

เรื่องนี้ไม่รู้และเพิ่งได้ยิน และในวันนี้ที่เชิญตัวแทนฝ่ายต่างๆ ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กทม. สำนักเลขาธิการรัฐมนตรี มาอัพเดตข้อมูลเรื่องรถไฟฟ้า ยังไม่เห็นมีใครพูดเรื่องนี้และเมื่อหารือก็ทราบว่าติดขัดที่ตรงไหน และได้สอบถามแล้วว่ารออะไรในเวลานี้ โดยเรื่องนี้ยังไม่สามารถเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ทันภายในสัปดาห์หน้า เพราะมีข้อติดขัดอยู่ แต่ติดขัดเรื่องอะไรไม่บอกและบอกไม่ได้ ห้ามบอก

ผู้สื่อข่าวถามว่าข้อติดเกี่ยวกับเรื่องราคาค่าโดยสารที่ยังสรุปไม่ได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า อันนี้ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ติดขัดและจะต้องมีการชี้แจง เมื่อถามย้ำว่าต้องให้กระทรวงมหาดไทย พิจารณาหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ใช่ และหน่วยงานที่จะต้องพิจารณาเยอะ แต่ละหน่อยก็ยังไม่ได้ตอบมา โดยสรุปสุดท้ายครม.จะเป็นผู้พิจารณา และคาดว่าเรื่องนี้ยังไม่ได้ความชัดเจนภายในเดือนม.ค.นี้

เมื่อถามว่าราคาค่าโดยสารจะมีการปรับลดหรือเพิ่มอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า ตอบไม่ถูกในเรื่องนี้ เพราะหน่วยงานยังไม่ได้ตอบอะไรกันมา

มีข่าวสะพัดในโลกออนไลน์จากแหล่งข่าวกระทรวงการคลังถึง 'เราชนะ' ที่อาจจะเข้ามาเยียวยา ผู้ถือ 'บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ' หรือ 'บัตรคนจน' 14 ล้านคน ให้เฮแบบรับ 2 เด้ง ไม่ต้องลงทะเบียน ก็ได้เงินเข้าอัตโนมัติเดือนละ 4,000 บาท 2 เดือน แต่ดูเหมือนเรื่องนี้ อาจมีพลิก!

เพราะดูเหมือนทางกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดของโครงการ 'เราชนะ' เพื่อเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในวันที่ 19 มกราคมนี้ ซึ่งเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (12 ม.ค.) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า จะเปิดให้ลงทะเบียนเร็วที่สุดภายในสิ้นเดือนมกราคม และผู้ผ่านการตรวจสอบสิทธิจะได้เงินอย่างช้าสุดน่าจะไม่เกินสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ ครอบคลุมผู้ได้รับผลกระทบทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มอาชีพอิสระ พ่อค้าแม่ค้า คนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง โชเฟอร์แท็กซี่ มัคคุเทศก์ คนขายลอตเตอรี่ และเกษตรกร ได้เงินคนละ 3,500 บาท เป็นเวลา 2 เดือน

สรุปแล้วคือต้องรอถึงการประชุมครม.รอบหน้า จึงน่าจะตอบได้ชัดว่าใครได้ ใครอด แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีข่าวสะพัดเล็ดรอดออกมาอีกอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีข่าวสะพัดอีกระลอกในโลกออนไลน์ให้คนไทย 'คอตก' กันเป็นแถบ หลังคาดว่าโครงการนี้จะจ่ายจาก 'ฐานอาชีพ' หรือ 'พื้นที่' โดยแนวคิดที่มีการพูดคุยกัน คือ อาจยึดเกณฑ์จากการประกาศพื้นที่ควบคุมสูงสุด 28 จังหวัด ซึ่งใน 28 จังหวัดนี้ ถือว่าครอบคลุมพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญส่วนใหญ่ของประเทศ ทำให้เศรษฐกิจในภาพรวมได้รับผลกระทบ จึงยังมีการดีเบตกันอยู่ ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่จัดเตรียมงบประมาณไว้ 200,000 ล้านบาท

ยิ่งไปกว่านั้นเบื้องต้น เงินที่ให้นี้ อาจเป็นรูปแบบการให้สิทธิผ่านแอปพลิเคชัน แล้วไปทยอยใช้ตามร้านค้าตามจุดต่างๆ เหมือนกับโครงการคนละครึ่ง โดยไม่ต้องจับเงินสด

อย่างไรเสีย ทั้งหมดก็ยังไม่มีการยืนยันใดๆ ออกมาจากปากเจ้ากระทรวงการคลังทั้งสิ้น แต่ถ้าหากอนุมัติเพียงแค่ 28 จังหวัดจริง คงทำให้ผิดหวังกันทั้งประเทศแน่นอน

สถานการณ์ COVID-19 ประเทศไทยและอาเซียน (15 มกราคม พ.ศ. 2564)

ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน โดยประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 271 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 11,262 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 รวมยอดผู้เสียชีวิต 69 ราย รักษาหายเพิ่ม 717 ราย รวมผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 7,660 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 3,533 ราย

ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่ 271 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ จากฟิลิปปินส์ 1 ราย ,ปากีสถาน 1 ราย ,ฮังการี 1 ราย ,สหรัฐอเมริกา 1 ราย ,เยอรมนี 6 ราย ,อียิปต์ 1 ราย ,เช็ก 1 ราย ,เบลเยี่ยม 1 ราย ,ซูดาน 1 ราย ,รัสเซีย 1 ราย ,สวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย ,สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย ,คูเวต 1 ราย , ตุรกี 3 ราย

เป็นคนไทย 13 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ จากเมียนมา

ผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 81 ราย

ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุก 73 ราย

ขณะเดียวกันสถานการณ์ COVID-19 ของประเทศในกลุ่มอาเซียนมีการอัพเดทดังนี้

ประเทศบรูไน ดารุสซาลาม ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 174 ราย รักษาหายแล้ว 168 ราย เสียชีวิต 3 ราย

ประเทศกัมพูชา ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 426 ราย รักษาหายแล้ว 381 ราย ไม่มียอดผู้เสียชีวิต

ประเทศอินโดนีเซีย ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 8.7 แสน ราย รักษาหายแล้ว 7.11 แสน เสียชีวิต 25,246 ราย

ประเทศลาว ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 41 ราย รักษาหายแล้ว 41 ราย ไม่มียอดผู้เสียชีวิต

ประเทศมาเลเซีย ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 1.48 แสน ราย รักษาหายแล้ว 1.13 แสน ราย เสียชีวิต 578 ราย

ประเทศพม่า ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 1.33 แสน ราย รักษาหายแล้ว 1.16 แสน ราย เสียชีวิต 2,912 ราย

ประเทศฟิลิปปินส์ ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 4.95 แสน ราย รักษาหายแล้ว 4.59 แสน ราย เสียชีวิต 9,739 ราย

ประเทศสิงคโปร์ ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 59,029 ราย รักษาหายแล้ว 58,757 ราย เสียชีวิต 29 ราย

ประเทศเวียดนาม ยอดรวมติดเชื้อ 1,531 ราย รักษาหายแล้ว 1,369 ราย เสียชีวิต 35 ราย

ทางการจีนเตรียมพิจารณานโยบายแบนชาวฮ่องกงที่ถือพาสปอร์ตพิเศษสัญชาติอังกฤษ หรือ BN(O) มีผลให้ไม่สามารถทำงานในหน่วยงานรัฐบาล หรือห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง งานนี้ถือเป็นการตอบโต้รัฐบาลอังกฤษที่เปิดโควต้าให้คนฮ่องกงย้ายถิ่นฐานไปอยู่อังกฤษถึงกว่า 3 ล้านสิทธิ์

South China Morning Post สำนักข่าวใหญ่ของฮ่องกงได้รายงานข่าวว่า ทางการจีนกำลังพิจารณานโยบายที่จะแบนชาวฮ่องกงผู้ถือพาสปอร์ตพิเศษสัญชาติอังกฤษ ที่เรียกว่า British National (Overseas) หรือ BN(O) พาสปอร์ต ไม่สามารถทำงานในหน่วยงานของรัฐบาล หรือดำรงตำแหน่งทางการเมือง รวมถึงอาจเพิกถอนสิทธิ์ในการลงคะแนนเลือกตั้งด้วย

มาตรการใหม่นี้ มีจุดประสงค์เพื่อตอบโต้รัฐบาลอังกฤษที่ได้เปิดโควต้าให้ชาวฮ่องกงผู้มีความประสงค์จะย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่อังกฤษได้ถึง 3 ล้านสิทธิ์ และกำลังจะเริ่มรับใบสมัครในวันที่ 31 มกราคม 2021 นี้แล้ว

และชาวฮ่องกงที่ได้รับสิทธิ์นั้น จะต้องเป็นผู้ที่ถือ BN(O) พาสปอร์ต ที่เป็นเหมือนเอกสารรับรองชาวฮ่องกงว่าเคยมีสถานะเป็นพลเมืองในเขตอาณานิคมอังกฤษมาก่อน

โดยมีขั้นตอนว่ารัฐบาลอังกฤษจะออกวีซ่าชั่วคราวให้ก่อน 1 ปี เรียนได้ ทำงานเต็มเวลาได้ หลังจากนั้นค่อยหาช่องทางไปยื่นขอเป็นพลเมืองอังกฤษได้ในภายหลัง

ข่าวนี้ทางรัฐบาลอังกฤษ โดยนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ออกมายืนยันด้วยตัวเองเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2020 หลังจากที่มีข่าวว่าจีนได้ประกาศกฎหมายความมั่นคงใหม่บนเกาะฮ่องกง ที่ทางอังกฤษมองว่าผิดข้อตกลงที่จีนจะยอมให้ฮ่องกงปกครองแบบ 1 ประเทศ 2 ระบบ ต่อไปจนถึงปี 2047

ด้วยเงื่อนไขพิเศษของอังกฤษ ที่เปิดโอกาสให้ชาวฮ่องกงสามารถลี้ภัยไปอยู่ที่เกาะอังกฤษได้ จึงทำให้ชาวฮ่องกงที่เคยถือ BN(O) พาสปอร์ต แต่หมดอายุไปแล้ว หรือยังไม่เคยยื่นคำร้องของสถานะ BN(O) มาก่อนเลย แห่ไปต่อคิวที่สถานทูตอังกฤษ เพื่อขอพาสปอร์ต BN(O) กันยาวเหยียด และสร้างความไม่พอใจกับทางการจีนมานานแล้ว จึงมีข่าวว่าจีนอาจทำอะไรสักอย่างเพื่อตอบโต้นโยบายเปิดรับชาวฮ่องกงย้ายถิ่นของอังกฤษ

มาวันนี้ มีข่าวสะพัดมาจากสำนักข่าวใหญ่ในฮ่องกง ว่าทางจีนอาจจะใช้นโยบายที่จะบีบให้ชาวฮ่องกงต้องตัดสินใจเลือกข้างให้ชัดเจนไปเลยว่า หากจะไปอยู่กับอังกฤษก็ต้องทิ้งสิทธิพลเมืองในประเทศ เช่น การสมัครทำงานในหน่วยงานของรัฐ ดำรงสถานะทางการเมือง หรือแม้แต่การไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง

หลังจากที่มีข่าวนี้ออกมา ทางรัฐบาลจีนก็ยังไม่ได้ชี้แจง หรือตอบโต้ใด ๆ แต่ทั้งนี้ สส. ฝ่ายอนุรักษ์ที่โปรปักกิ่ง มีความเห็นว่า เป็นนโยบายที่เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ และพาสปอร์ต BN(O) ก็มีมาตั้งนานแล้วและเป็นสิทธิ์ของชาวฮ่องกงทุกคนที่เกิดก่อนวันที่ 30 มิถุนายน 1997 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนที่อังกฤษจะคืนเกาะฮ่องกงให้แก่จีนในวันที่ 1 กรกฎาคม 1997 สามารถถือครองได้

ส่วน แครี่ ลัม ผู้บริหารสูงสุดของเกาะฮ่องกงก็ออกมาปฏิเสธว่า ไม่เคยได้รับรายงานเรื่องนี้มาก่อน แต่ก็กล่าวว่าหากพบว่ามีฝ่ายใดที่มีเจตนาเบี่ยงเบนประเด็นจากสิ่งที่เคยตกลงกันไว้ อีกฝ่ายก็จำเป็นต้องออกมาตอบโต้

จากตัวเลขของทางการอังกฤษ เปิดเผยว่าในปี 2020 มีชาวฮ่องกงที่ถือ BN(O) พาสปอร์ตที่ยังใช้การได้จริงอยู่ประมาณ 350,000 เล่ม จากประชากรฮ่องกงผู้ที่มีสิทธิ์ยื่นคำร้องขอพาสปอร์ตพิเศษชนิดนี้กว่า 2.6 ล้านคน และเชื่อว่าจะมีชาวฮ่องกงนับล้านกลับมาขอ BN(O) พาสปอร์ตเพื่อลี้ภัยหนีไปอยู่อังกฤษ

แต่ถึงแม้จะได้ชื่อว่าเป็นพาสปอร์ตของพลเมืองอังกฤษ แต่สถานะของพาสปอร์ตนี้ไม่ได้ใกล้เคียงกับพาสปอร์ตของคนอังกฤษจริง ๆ แม้แต่น้อย เพราะให้สิทธิ์ชาวฮ่องกงเดินทางไปพำนักที่อังกฤษได้เพียงชั่วคราวแค่ 6 เดือนเท่านั้น ก่อนที่รัฐบาลของ บอริส จอห์นสัน เพิ่งจะมาขยายระยะเวลาให้เป็น 1 ปี และสามารถทำงานเต็มเวลาได้ ที่จะเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่สามารถยื่นขอเป็นพลเมืองอังกฤษได้ในเวลาต่อมา ซึ่งก็ต้องแล้วแต่คุณสมบัติ และโอกาสของแต่ละบุคคล ไม่ได้การันตีว่าจะได้เป็นพลเมืองทุกคน

แต่ก็มีบางส่วนแย้งว่า นโยบายจำกัดสิทธิ์ชาวฮ่องกงที่ถือ BN(O) พาสปอร์ต มีความละเอียดอ่อน และเป็นเหมือนบทลงโทษถึงกลุ่มคนที่ไม่สมควรได้รับ

เพราะหากมองว่า สำหรับกลุ่มชาวฮ่องกงที่ไม่มีใจจะอยู่ในระบอบของจีนแล้ว เขาคงไม่สนใจ ถ้ามีโอกาสแล้วยังไงก็ไปอยู่แล้ว และนโยบายนี้จะไม่มีผลอันใดเลยกับชาวฮ่องกงย้ายถิ่นเหล่านี้ แต่กับชาวฮ่องกงที่ยังอยู่ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลว่าเลือกแล้วที่จะอยู่ หรือ อยู่เพราะเลือกไม่ได้ก็แล้วแต่ จะกลายเป็นผู้ที่โดนบีบหนักที่สุด ซึ่งก็ดูไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไรเช่นกัน


แหล่งข่าว

https://www.scmp.com/news/hong-kong/politics/article/3117625/national-security-law-beijing-mulling-public-office-ban

https://www.straitstimes.com/asia/east-asia/china-considers-banning-uk-passport-holders-from-office

https://www.bbc.com/news/uk-politics-53246899

สมาคมคราฟท์เบียร์ ยื่นหนังสือถึงนายกฯ เสนอมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการร้านอาหารที่จำหน่ายคราฟท์เบียร์ เนื่องจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ หลังกทม.ห้ามจําหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อการบริโภคภายในร้าน

ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล ตัวแทนกลุ่มสมาคมคราฟท์เบียร์ประเทศไทยโดย นายอาชิระวัสส์ วรรณศรีสวัวดิ์ ( นายกสมาคม Craft Beer ประเทศไทย) ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรื่องขอเสนอมาตรการการบรรเทาและเยียวยาผู้ประกอบการร้านอาหารที่จำหน่ายคราฟท์เบียร์ เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 ระลอกใหม่

นายอาชิระวัสส์ กล่าวว่า เนื่องด้วยคำสั่งของกรุงเทพในการห้ามจําหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อการบริโภคภายในร้านอาหารส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการร้านอาหารทั้งประเทศทางสมาคมฯมีความเข้าใจถึงความปรารถนาดีและกังวลในการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่ผู้ประกอบการและพนักงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงทั้งทางตรงและทางอ้อม

โดยปัญหาที่ผู้ประกอบการกำลังเผชิญมีดังต่อไปนี้

1.) ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายและผู้นำเข้าไม่สามารถระบายสินค้าเบียร์สดซึ่งเป็นสินค้าที่มีต้นทุนสูงและมีอายุสินค้าสั้นได้

2.) ร้านค้าไม่สามารถจำหน่ายเบียร์สดในบรรจุภัณฑ์อื่นๆเพื่อให้ลูกค้านำกลับไปบริโภคที่บ้านได้เนื่องจากผิด พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตมาตรา 157 ทำให้ต้องสูญเสียสินค้าไปโดยใช่เหตุ

3.) ร้านค้าไม่สามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้เนื่องจากผิดกฎหมายห้ามซื้อขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางออนไลน์แม้แต่กฎหมายนี้จะยังคงมีปัญหามีความคลุมเครือและไม่ชัดเจนเช่นไม่สามารถให้คำนิยามคำว่าอิเล็กทรอนิกส์ได้อีกทั้งยังไม่มีคู่มือให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง

4.) ปัญหามาตรา 32 พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ไม่เพียงห้ามให้ร้านค้าโพสต์ประชาสัมพันธ์หรือขายสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทาง Social Media แต่ยังรวมไปถึงการเขียนถึงสินค้าแม้จะไม่มีรูปประกอบซึ่งอาจจะเข้าข่ายความผิดตามวิจารณญาณของเจ้าหน้าที่

ทั้งนี้มีผู้ประกอบการร้านค้าไม่น้อยกว่า 600 ร้าน และผู้ได้รับผลกระทบไม่ต่ำกว่า 6,000 ราย มูลค่าความเสียหายขั้นต่ำที่เกิดขึ้นเป็นมูลค่าประมาณ 150 ล้านบาท ต่อเดือน

คอกระท่อม เตรียมปลูก-กินเสรี หลังพิจารณาปลดล็อคพืชกระท่อมจากบัญชียาเสพติดให้โทษเสร็จสิ้นในชั้นกรรมาธิการแล้ว จะเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม คาดเสร็จสิ้นในสมัยประชุมนี้อย่างแน่นอน

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฉบับที่...พ.ศ. ....ได้แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมคณะกรรมาธิการได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฉบับที่...พ.ศ. ...เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมีสาระสำคัญของการยกเลิกพืช กระท่อมออกจาก พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษดังนี้

1.) ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ มีหลักการเพื่อยกเลิกพืชกระท่อมจากบัญชียาเสพติดให้โทษประเภท 5 และยกเลิกบทกำหนดโทษ และอัตราโทษสำหรับความผิดที่เกี่ยวกับพืชกระท่อม ตลอดจนยกเลิกบทบัญญัติเกี่ยวกับการประกาศให้ท้องที่ใด เป็นท้องที่ทำการเสพพืชกระท่อมได้โดยไม่ผิดกฎหมาย โดยมีเจตนารมณ์เพื่อให้เปิดกระท่อมไม่ใช่ยาเสพติดให้โทษต่อไป และประชาชนผู้บริโภคพืชกระท่อมได้โดยไม่มีความผิด และไม่ต้องรับโทษตามกฎหมาย เว้นแต่จะนำไปผสมเป็นสารเสพติดชนิดอื่น เช่น นำไปต้มเป็นน้ำกระท่อม 4 × 100

2.) ที่ประชุมได้กำหนดระยะเวลาการประกาศใช้กฎหมายหลังจากประกาศในราชกิจจานุเษกษา จากร่างเดิมที่คณะรัฐมนตรีกำหนดให้ 180 วันลดเหลือ 90 วัน เพื่อให้ประชาชนได้ใช้พืชกระท่อมได้อย่างเสรีและรวดเร็วที่สุดและในระหว่างที่กฎหมายฉบับนี้รอการบังคับใช้ ก็จะประสานงานขอความอนุเคราะห์ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย ได้พิจารณาใช้ดุลพินิจในการจับกุมโดยอนุโลม

3.) การกำหนดเงื่อนไขระยะเวลา 90 อวัน ที่มีผลบังคับใช้ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ก็เพื่อรอการจัดทำร่างพระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ. ...ขึ้นมาอีกฉบับหนึ่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา และในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ตนในฐานะที่เป็นผู้ผลักดันการยกเลิกพืชกระท่อมออกจากการเป็นยาเสพติดมาโดยตลอด จะเสนอร่างพระราชบัญญัติพืชกระท่อมขึ้นมาด้วย เพื่อประกบกับร่างพระราชบัญญัติพืชกระท่อม ฉบับของรัฐบาลด้วย

สำหรับผลของการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ฉบับที่....พ.ศ....ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้แก้ไขมีผลบังคับใช้ จะก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนใน 3 ประการ คือ

1.) เป็นการลดภาระการใช้จ่ายภาครัฐ จากจำนวนคดีเกี่ยวกับพืชกระท่อมทั้งหมด ที่มีจำนวนประมาณ 76,000 คดี และมีคดีพืชกระท่อม 15,925 คดีต่อปี ถ้ากฎหมายบังคับใช้เร็วขึ้น90วัน จะลดคดีพืชกระท่อมลงได้ 3981 คดี

2.) เป็นการช่วยเหลือประชาชนไม่ต้องถูกจับกุมดำเนินคดี เสียค่าปรับ จำคุก เสียประวัติเกี่ยวกับยาเสพติด

3.) เป็นการส่งเสริมให้พืชกระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต

ขอเรียนให้ทราบว่าร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฉบับที่...พ.ศ. ได้พิจารณาเสร็จสิ้นในชั้นกรรมาธิการแล้ว จะเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม ซึ่งจากการประสานงานภายในทราบว่าร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ จะบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมในสัปดาห์หน้า จึงคาดหมายว่าจะ เสร็จสิ้นในสมัยประชุมนี้อย่างแน่นอน

รัฐบาล เตรียมหารือความคืบหน้าโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย หลังได้รับหนังสือแจ้งการบอกเลิกสัญญาสัมปทาน แจงต้องมีการประชุมร่วมกัน 3 ฝ่าย ระหว่างไทย เมียนมา และญี่ปุ่น

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยถึงโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายว่า รัฐบาลเตรียมหารือถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการนี้ทั้งหมด หลังจากบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า บริษัทฯ ได้รับหนังสือแจ้งการบอกเลิกสัญญาสัมปทานรวม 7 ฉบับ

จากคณะกรรมการบริหารงานพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งเบื้องต้นมีความเห็นว่า ปัจจุบันประเทศไทยได้ลงทุนในโครงการสนับสนุนไปหลายโครงการแล้ว แต่เมื่อเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นก็ต้องมาดูข้อมูลทั้งหมดก่อนว่าเป็นอย่างไร และต้องมีการประชุมร่วมกัน 3 ฝ่าย คือ ไทย เมียนมา และญี่ปุ่น

“ตอนนี้ยังไม่ได้เห็นหนังสืออย่างเป็นทางการ ว่าเรื่องรวงทั้งหมดเป็นอย่างไร เพราะที่ผ่านมาโครงการนี้เงียบไปนาน แต่ตอนนี้ประเทศไทยก็ทำโครงการสนับสนุนคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะการทำถนนมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี เพื่อรองรับโครงการนี้ ส่วนถนนจากด่านบ้านพุน้ำร้อน จังหวัดกาญจนบุรี ไปจนถึงทวายก็มีความร่วมมืออยู่แล้ว

จากนี้จึงต้องมาดูว่าจะทำอย่างไรต่อไป โดยต้องมาดูโครงการในทวายด้วยว่า ทำอะไรไปบ้างแล้ว ซึ่งในแง่นโยบายรัฐบาลก็ยังสนับสนุนอยู่ แต่รู้ว่าโครงการนี้ใช้เงินลงทุนจำนวนมาก เลยอยากดูข้อมูลก่อน เพราะถ้ามีการทำโรงงาน ทำนิคมอุตสาหกรรมขึ้นมา แล้วคนไทยได้ไปทำงานก็เป็นประโยชน์”

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า "สำหรับกรณีการแจ้งการบอกเลิกสัญญาสัมปทานครั้งนี้ จากการดูข้อมูลเบื้องต้นเห็นว่าเอกชนได้ลงทุนไปมากแล้ว และเชื่อว่าการแจ้งยกเลิกสัญญาเอกชนก็ได้รับความคุ้มครองอยู่แล้วตามกฎบัตรอาเซียน แต่เพื่อให้เกิดวามแน่ใจก็ต้องมาหารือกันเกี่ยวกับข้อกฎหมาย และร่างสัญญาทั้งหมด เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับกฎหายระหว่างประเทศ"

ตำรวจไทยจับแก๊งต้มตุ๋นหญิงสาวขายบริการที่บรูไน หลอกว่าได้เงินเดือน 2 แสนบาท ที่ผ่านมามี สาวไทยโดนหลอกติดอยู่ที่บรูไนหลายชีวิต

กลายเป็นข่าวเกรียวกราวที่บรูไน เมื่อสื่อดังของประเทศ Borneo Bulletin รายงานข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไทย ได้ทำการจับกุมชาย 2 คน ที่มีถิ่นฐานอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย โดยทั้งสองคนได้พยายามล่อลวงหญิงสาวให้เดินทางมาขายบริการทางเพศที่ประเทศบรูไน โดยหลอกว่า จะได้เงินเดือนถึง 8,700 เหรียญบรูไน หรือกว่า 200,000 บาท

เบื้องต้นชายทั้ง 2 คนถูกจับกุมตัวไปเรียบร้อย โดยภายหลังมีข้อมูลเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาเคยมีหญิงไทยถูกหลอกมาขายบริการที่บรูไนแล้วถูกจับตัวได้ในช่วงก่อนโควิด-19 ระบาดอยู่หลายคน สถานการณ์ล่าสุด บรูไนปิดประเทศมาตั้งแต่เดือนมีนาคมปีก่อน ไม่มีเที่ยวบินเข้าออก นอกจากเที่ยวบินพิเศษเพื่อส่งชาวต่างชาติกลับประเทศ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการอคิวนานพอสมควร

‘อิวะโอกะ เรียวตะ’ เด็กชายชาวญี่ปุ่น พบ ‘คริสเตียโน่ โรนัลโด้’ 7 ปีก่อน วันนี้ทำตามฝัน ได้เป็นนักฟุตบอล และหวังเล่นกับ ‘โรนัลโด้’ สักครั้ง

คุณยังจำหรือเคยเห็นไวรัลนี้ผ่านตานี้หรือไม่?

ไวรัล 7 ปีที่แล้ว (ปี 2014) ที่คริสเตียโน่ โรนัลโด้หนึ่งในสุดยอดนักเตะของยุคได้ไปประเทศญี่ปุ่น พร้อมเปิดโอกาสให้เด็กญี่ปุ่น ๆ พูดคุยกับเขาในแบบตัวต่อตัว

วันนี้ผมจะขอนำเสนอภาคต่อของไวรัลนั้น เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่ไม่เคยยอมแพ้ มีจิตใจมุ่งมั่นในสิ่งหนึ่งอย่างมั่นคง จนน่าเอาเป็นตัวอย่าง

วันที่ 22 กรกฎาคม ปี 2014 เด็กชายอิวะโอกะ เรียวตะ อายุ 12 ปี ได้มีโอกาสเจอหนึ่งในฮีโร่ของเขาในทางฟุตบอล คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในอีเว้นท์ของบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมความงาม MTG โดยเป็นหนึ่งในคนนับหมื่นคนที่ได้รับโอกาสนั้น

ก่อนหน้านั้นเด็กชายเรียวตะ เมื่อรู้ว่าตัวเองได้รับเลือกจึงเริ่มฝึกภาษาโปรตุเกสเพื่อจะได้คุยกับฮีโร่ของเขา พร้อมเตรียมสิ่งที่อยากจะพูดกับเขา

ตัดภาพมาในวันงาน เด็กชายเรียวตะ ได้พกกระดาษโน้ตข้อความที่เตรียมมา และอ่านให้ฮีโร่เขาฟัง ทั้งที่ในงานนั้นมีล่ามแปลภาษาอยู่แล้ว โดยมีใจความว่า

"สวัสดีครับ ผมชื่อเรียวตะ ความฝันของผมคือการได้เป็นนักกีฬาฟุตบอล และหวังว่าจะได้มีโอกาสเล่นร่วมกับคุณสักครั้ง เพื่อให้เป้าหมายนั้นสำเร็จ อะไรที่ควรต้องทำบ้างครับ?"

ระหว่างที่เด็กชายเรียวตะพูดภาษาโปรตุเกสด้วยความยากลำบาก ก็มีเสียงหัวเราะของคนในงาน ถึงจะเข้าใจว่าเป็นการหัวเราะเพราะความเอ็นดู ไม่ใช่การดูถูกก็ตามที

เมื่อเด็กชายเรียวตะพูดจบ ฮีโร่ของเขา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถึงกับถามล่ามทุกคนในงานว่า "พวกคุณหัวเราะอะไรกัน? น้องเขาพูดภาษาโปรตุเกสได้ดีเลยนะ สุดยอดเลย เขาพยายามอย่างสุดความสามารถระหว่างที่เขาพูดอยู่ ควรฟังคำพูดของเขานะ"

ใครจะคิดว่าไวรัลนี้จะมีเรื่องราวต่อ

7 ปีต่อมา เด็กหนุ่มชั้นปีที่ 3 ในระดับมัธยมปลาย อิวะโอกะ เรียวตะได้เป็นส่วนหนึ่งของแชมป์ฟุตบอลมัธยมปลายประเทศญี่ปุ่นในปีนี้

นี่อาจเป็นแค่ก้าวแรกของความฝันที่เขาเคยพูดไว้เมื่อ 7 ปีที่แล้วก็เป็นได้ ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจด้วยคนนะครับ

แนบลิงค์วีดีโอไวรัลไว้ตามนี้ครับ


Naruphun Chotechuang

รายงาน

แม้ทั่วโลกยังกังขา แต่ โรดรีโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ออกมาประกาศว่า การจัดซื้อวัคซีน Sinovac จากจีน มีความปลอดภัย ไร้กังวล และเชื่อถือได้

โรดรีโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ กล่าวระหว่างการปราศรัยต่อสาธารณชนเมื่อคืนวันพุธที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา ว่า วัคซีนที่ผลิตโดยจีนนั้น มีคุณภาพดีเทียบเท่ากับที่ผลิตโดยบริษัทเภสัชภัณฑ์ของสหรัฐอเมริกาและยุโรป พร้อมเสริมว่า ชาวจีนผลิตวัคซีนได้ดีพออยู่แล้ว พวกเขาไม่ได้บ้องตื้นหากรู้อยู่แล้วว่า วัคซีนจะไม่ปลอดภัย หรือไม่น่าเชื่อถือ คงไม่เสี่ยงผลิตออกมา

แฮร์รี่ โรกค์ โฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เปิดแถลงการณ์ของดูดูแตร์เต ซึ่งระบุว่า ดูแตร์เตพึงพอใจในวัคซีนชนิดเชื้อตายของบริษัทซิโนแวค (Sinovac) และซิโนฟาร์ม (Sinopharm) ของจีน

วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดเชื้อตายมีความปลอดภัย เนื่องจากเทคโนโลยีถูกใช้กันมานานหลาย 100 ปีแล้ว หากเป็นไปได้ “ผมจะเลือกบริษัทจากบริษัทจีนสองแห่งนี้ เพราะมันเป็นวัคซีนชนิดเนื้อตาย” เขาบรรยายสรุปผ่านทางออนไลน์ในวันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา

ด้านลูลู บราโว ผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนและผู้อำนวยการบริหารของมูลนิธิวัคซีนแห่งฟิลิปปินส์กล่าวระหว่างการบรรยายสรุปออนไลน์เมื่อวันอังคารที่ 12 มกราคมที่ผ่านมาว่า ซิโนแวคใช้วิธีการดั้งเดิมในการพัฒนาวัคซีน โดยใช้อนุภาคของไวรัสที่ตายแล้วในการทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสัมผัสกับเชื้อ พร้อมเสริมว่า วัคซีนชนิดเนื้อตายเช่นวัคซีนของซิโนแวคนั้น มีความปลอดภัยกว่าวัคซีนชนิดอื่น ๆ อย่างมาก

“วัคซีนชนิดเนื้อตายได้รับการพิสูจน์ครั้งแล้วครั้งเล่า และมีประวัติด้านความปลอดภัยที่ดีกว่าวัคซีนชนิดเชื้อมีชีวิต” ลูลู บราโวกล่าว

เอ็นริเก โดมิโก้ หัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของฟิลิปปินส์เผยว่า ซิโนแวคกำลังยื่นขออนุญาตใช้งานวัคซีนโคโรนาในกรณีฉุกเฉินจากสำนักงาน พร้อมเสริมว่า กำลังอยู่ระหว่างการประเมินล่วงหน้า

ทั้งนี้ฟิลิปปินส์ได้จัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 25 ล้านโดส โดยที่พัฒนาโดยซิโนแวคไบโอเทค ของจีน โดยคาดว่าจะได้รับวัคซีน 50,000 โดสแรกในเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนวัคซีนที่เหลือจะจัดส่งเป็นงวด ๆ ตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงธันวาคม

คาร์ลิโต กัลเวซ เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการจัดซื้อวัคซีนกล่าวว่า วัคซีนของซิโนแวค 5 หมื่นโดสแรก จะถูกนำไปฉีดให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและประชาชนกลุ่มสำคัญอื่น ๆ ในมหานครมะนิลา ที่เป็นศูนย์กลางการระบาดใหญ่ของประเทศ

ขณะเดียวกันฟิลิปปินส์กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ผลิตวัคซีนอย่างน้อย 7 ราย เพื่อจัดซื้อวัคซีนอีกจำนวน 148 ล้าน โดส โดยตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้กับประชากร 50 ถึง 70 ล้านคนหรือมากกว่าร้อยละ 60 ของประชากรทั้งหมดในปีนี้เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่

ปัจจุบันฟิลิปปินส์มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 รวมอยู่ที่ 492,700 รายซึ่งรวมผู้เสียชีวิต 9,699 ราย


ที่มา : https://www.xinhuathai.com/high/168781_20210114


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top