Monday, 7 July 2025
NEWS FEED

'เชียงราย' เปิดแล้วโรงเรียนทางอากาศและการบินเชียงราย(เชียงแสน)

(28 พ.ย. 65) ที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวรายงานว่าโรงเรียนกีฬาทางอากาศและการบินจังหวัดเชียงราย(เชียงแสน) Golden triangle x center จะเปิดสนามการบินร่มบิน(Para motor) และสนามบิน ณ.ที่ บ้านสบลวก หมู่ 1 ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย แก่ผู้ที่มีหัวใจติดปีกและสนใจการบินร่มบิน ซึ่งจัด เป็นกีฬาชนิดหนึ่ง มีการแข่งขันระดับประเทศและระดับโลกที่กำลังได้รับความนิยม สนใจจากประชาชนทั่วไป มีความท้าทาย สนุกสนาน และชมวิวทิวทัศน์มุมสูง (bird eye view) และ โรงเรียนกีฬาทาง อากาศและการบินยังส่งเสริมผลิตนักกีฬาระดับท้องถิ่นไปสู่นักกีฬาทีมชาติในอนาคตและทางโรงเรียนได้มีร่มบิน 2 ที่นั่ง    ( Para plane) 

มินนี่ G-idle ชวนคนเกาหลีเที่ยวไทย ผ่านบทเพลงสุดไพเราะที่เจ้าตัวแต่งเอง

(27 พ.ย.65) เพจ Open Up ได้โพสต์ข้อความว่า...

ล่าสุดผมได้มีโอกาสดูโฆษณาของสายการบินเกาหลีที่เขานำศิลปินนักร้องประจำชาติต่างๆ มาทำคลิปโปรโมทแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของแต่ละประเทศ ซึ่งแน่นอนว่าตัวแทนประจำชาติไทยในครั้งนี้ก็ตกไปอยู่กับ มินนี่ G-idle 

โดยในโฆษณามินนี่จะร้องเพลงเป็นภาษาเกาหลี ที่เนื้อเพลงเป็นการโปรโมตการท่องเที่ยวในประเทศไทยผ่านจังหวัดต่างๆ เช่น กรุงเทพฯ, เชียงใหม่, พัทยา, หัวหิน, กระบี่ บอกได้เลยว่าคนเกาหลีดูก็แทบอยากจะจองตั๋วเครื่องบินมาไทยช่วงสิ้นปีนี้กันเลยทีเดียว แถมแอบได้ยินมาว่าเพลงที่อยู่ในโฆษณาตัวนี้ยังเป็นเพลงที่เจ้าตัวแต่งเองอีกด้วย สุดยอดจริงๆ 55555

นอกจากนี้นะครับมินนี่เองยังมาในลุคของชุดไทยที่บอกได้เลยว่า 'หวานกรุบ' มากๆ แต่ก่อนหน้านี้มินนี่เองก็เคยแต่งชุดไทยมาแล้ว ตอนที่โปรโมท Kakao Webtoon และได้แต่งเป็นนางวันทอง แล้วหลังจากนั้นยอดคนอ่านเรื่องวันทองไร้ใจใน Kakao Webtoon ที่เกาหลีก็เพิ่มสูงขึ้นมากๆ ชาวเกาหลียังบอกอีกด้วยว่าชุดไทยเป็นอะไรที่งดงามมากๆ และยิ่งพอมินนี่แต่งก็ดูน่ารักไปอีกกก 

ซึ่งโฆษณาตัวนี้ผมว่าก็เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนไทยเลยนะ การที่สายการบินเกาหลีต้องถึงขนาดต้องทำโฆษณาโปรโมตให้คนมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ก็แสดงให้เห็นเลยว่าคนเกาหลีนั้นสนใจในประเทศไทยมากๆ และยิ่งการได้มินนี่มาโปรโมท ก็นับว่าเป็นกุญแจสำคัญทางเศรษฐกิจที่จะทำให้ไทยเติบโตขึ้นอย่างมากเลยก็ว่าได้ครับ

'ท่านใหม่' ขอบคุณ 'นายกฯ-รมว.ศึกษา' ปรับหลักสูตรใหม่เรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย

เมื่อวันที่ 26 พ.ย.65 ม.จ.จุลเจิม ยุคล หรือ 'ท่านใหม่' โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ว่า...

รับฟังสิ่งดีๆ กันบ้างนะครับ ไม่ใช่มัวแต่ด่าท่านนายกฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ผมต้องขอขอบคุณรัฐบาลของท่าน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยเฉพาะท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา ในที่สุด กระทรวงศึกษาธิการฯ ในรัฐบาลในยุคปัจจุบัน ก็จะได้ออกประกาศแล้ว ที่จะจัดให้มี การเรียน การสอน วิชาประวัติศาสตร์ของชาติไทยเรา ในโรงเรียน ในมหาวิทยาลัย (ถ้าเข้าใจไม่ผิด) โดยแยกออกมาเป็นรายวิชา ไม่รวมซ่อนอยู่ในวิชาสังคมศึกษา

เพราะวิชาประวัติศาสตร์ ของชาติไทยเรา จะทำให้ นักเรียน นิสิตนักศึกษา รู้ถึงรากเหง้า และความเสียสละของบรรพบุรุษ จะได้มีความสำนึกในความเป็นไทยกันบ้าง ไม่มากก็น้อย

จริงๆ ผมเห็นด้วยมานานแล้ว แต่ไม่มี รมว.ศึกษา คนไหน ในรัฐบาลไหนเลยที่ผ่านมา ให้ความสำคัญเลย เกี่ยวกับประวัติศาสของชาติไทย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมขอฝากความหวังไว้ที่คุณครู อาจารย์ ผู้ปลูกฝังให้ นักเรียน นิสิตนักศึกษาซึ่งเป็น คนรุ่นใหม่จะได้รับรู้เรื่องราว ประวัติศาสตร์ สมัยบรรพบุรุษ ของพวกเรา ซึ่งการเรียนประวัติศาสตร์จะไม่ใช่การเรียนเพื่อไปสอบเอาคะแนนอีกต่อไป แต่เพื่อเรียนให้รู้ว่าเราเป็นใครและเข้าใจในความเป็นชนชาติของเรา

'ลินดา ค้าธัญเจริญ' จากไปอย่างสงบ หลังล้มป่วยมาตั้งแต่ปี 2547

หลังจากที่นักแสดงรุ่นใหญ่ ลินดา ค้าธัญเจริญ ล้มป่วยตั้งแต่ปี 2547 จนทำให้ร่างกายเป็นอัมพฤกษ์ ซ้ำยังตรวจพบเป็นโรคมะเร็งที่โคนลิ้นอีก ทำให้ต้องรักษาตัวมาโดยตลอด แต่งานนี้เพื่อนรักอย่าง  ตุ๊ก-เดือนเต็ม สาลิตุล ก็ไม่เคยทิ้ง  กลับดูแลช่วยเหลือกันมาตลอด แวะเวียนไปเยี่ยมให้กำลังใจเสมอ

และล่าสุดเมื่อเพื่อนรักได้จากไปอย่างสงบ ตุ๊ก เดือนเต็ม ก็ขอทำหน้าที่เพื่อเพื่อนรักอีกครั้ง โดยการออกมาแจ้งข่าวผ่านเฟซบุ๊กว่า

“อาลัยรัก ลินดา ค้าธัญเจริญ 27 พฤศจิกายน 2565 ในช่วงชีวิตหนึ่งของคนเรา ต่างเดินทางผ่านช่วงเวลาที่สวยงาม ช่วงเวลาที่ทุกข์ร้อน ผ่านร้อนผ่านหนาว จนถึงก้าวสุดท้ายของชีวิต

ลินดาเพื่อนรักได้เดินทางผ่านทุกสิ่งดังกล่าวมาแล้วอย่างสวยสง่างาม ในวันที่ลินดามีชื่อเสียงเป็นดาราอันดับหนึ่งของประเทศ ลินดาสวยเก๋ที่สุดเป็นที่รักของทุกคน จนถึงวันนี้ลินดาก็ยังสวยที่สุด ใบหน้าอิ่มสวยไม่มีเปลี่ยนแปลง

ก้าวสุดท้ายในโลกมนุษย์ของดาจบลงแล้ว ขอให้ก้าวใหม่ของดาเดินทางสู่ภพภูมิที่สวยงาม ในโลกใบใหม่ที่พวกเราต่างต้องเดินทางไปถึงด้วยกันทุกคน

ศาลสั่งห้าม AIS PLAYBOX ถ่ายสดบอลโลก หลังกลุ่มทรูยื่นฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์

ศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ สั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามบริษัท SBN ผู้ให้บริการ AIS PLAYBOX ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกที่กาตาร์ หลังกลุ่มทรูยื่นฟ้องฐานละเมิดลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดผ่านโครงข่าย IPTV กลุ่มทรูแจงไม่กระทบประชาชนที่รับชมผ่านฟรีทีวีทั่วไป รวมทั้งเคเบิลทีวี-ทีวีดาวเทียม

วันนี้ (26 พ.ย.) มีรายงานว่า หลังจากมีความกังวลต่อการที่ผู้ให้บริการกล่องไอพีทีวีหลายรายได้อ้างกฎ Must Carry และดำเนินการแพร่ภาพสัญญาณการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย (FIFA World Cup Final 2022) โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของสิทธิในลิขสิทธิ์ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และจะส่งผลกระทบถึงโอกาสในการรับชมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย (FIFA World Cup Final 2022) ในประเทศไทย นั้น

‘กลุ่มทรู’ ในฐานะผู้ได้รับสิทธิในการเผยแพร่การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย (FIFA World Cup Final 2022) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยในระบบ IPTV และระบบ OTT ได้ดำเนินการปกป้องสิทธิตามกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา โดยยื่นฟ้องผู้ให้บริการทีวีอินเทอร์เน็ตรายหนึ่งที่ให้บริการผ่านกล่อง AIS PLAYBOX ต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง พร้อมกับยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามไม่ให้มีการละเมิดลิขสิทธิ์เป็นการชั่วคราวด้วย

‘ม.อ.’ ร่วมกับ ‘สนช.’ หนุนธุรกิจนวัตกรรมชายแดนใต้ หวังปั้นผู้ประกอบการหน้าใหม่

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยศูนย์พัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรเพื่อการส่งออก คณะอุตสาหกรรมเกษตร ร่วมกับ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สนช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดแถลงข่าวโครงการนวัตกรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ พร้อมเปิดการฝึกอบรมการจัดการนวัตกรรมสำหรับพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรมในพื้นที่ชายแดนใต้ ในกิจกรรม ‘3 Days Smart SMEs / Startup’ โดยมี นายวิเชียร สุขสร้อย รองผู้อำนวยการด้านเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เป็นประธาน รศ. นพ.สุนทร วงษ์ศิริ รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวต้อนรับ ผศ. ดร.เสาวคนธ์ วัฒนจันทร์ คณบดีคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวรายงาน พร้อมด้วย ผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนองค์กรภาครัฐและสถาบันการศึกษา ตลอดจนผู้ฝึกอบรมเข้าร่วมงาน ณ โรงแรมคริสตัล จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 65

การฝึกอบรมดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-26 พฤจิกายน 2565 ณ โรงแรมคริสตัล อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และวันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 ณ โรงแรมเซาท์เทิร์น วิว จังหวัดปัตตานี
นายวิเชียร สุขสร้อย กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้จะมีส่วนสำคัญยิ่งในการผลักดันให้เกิดเศรษฐกิจใหม่ในพื้นที่ ก่อให้เกิดระบบนวัตกรรมให้มีการเติบโต อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ชายแดนอย่างยั่งยืน

ด้าน รศ. นพ.สุนทร วงษ์ศิริ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมหลักสูตรฝึกอบรมการจัดการนวัตกรรมสำหรับพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรมในพื้นที่ภาคใต้ชายแดนในครั้งนี้จะเกิดประโยชน์ต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน และสามารถพัฒนาความร่วมมือด้านการสร้างระบบนิเวศด้านนวัตกรรมในพื้นที่ให้มีความก้าวหน้าอย่างยั่งยืนในอนาคต

ขณะที่ ผศ. ดร.เสาวคนธ์ วัฒนจันทร์ กล่าวว่า การดำเนินโครงการในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเตรียมความพร้อมและพัฒนาบ่มเพาะให้แก่ผู้ประกอบการรายใหม่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ 5 จังหวัด อาทิ สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดยเน้นให้เข้าใจถึงการโตแบบ SMEs และ Startup และได้เรียนรู้การวางแผนธุรกิจด้วย Lean Canvas ตลอดจนสามารถพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการในพื้นที่ให้สามารถดำเนินธุรกิจนวัตกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความต่อเนื่อง ซึ่งทางสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) สนับสนุนทุน Open Innovation ซึ่งเป็นทุนเริ่มต้นให้กับผู้ประกอบการ ทั้ง Smart SMEs และ Startup จำนวน 1,500,000 บาท

คึกคัก!! นักท่องเที่ยวแห่ชม ‘ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง’ จ.ยะลา

เบตง นักท่องเที่ยวทั้งไทยและมาเลเซีย ยังคงเดินทางมาท่องเที่ยวสกายวอล์ก ชมความงดงามของทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ถึงแม้ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังคงเกิดเหตุความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้ม รักษาความปลอดภัยให้พี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว

วันที่ 26 พ.ย.65 แม้สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังคงมีเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่อง แต่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ก็ยังคงเชื่อมั่นในการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ยังคงคึกคัก นักท่องเที่ยวทั้งไทยและมาเลเซียยังคงหลั่งไหลเดินทางมาท่องเที่ยว ที่สกายวอล์ก ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง มาชมความงามงดของทะเลหมอกอัยเยอร์เวงและรอชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า บางคนมาคอยตั้งแต่เช้าตรู่ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ป่านันทนาการจะเปิดบริการให้ประชาชนนักท่องเที่ยวขึ้นไปบนสกายวอล์ค ในเวลา 05.30 น. เสียอีก เพื่อที่จะได้ขึ้นไปชมแสงแรกของวัน นักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปบนสกายวอล์ก เมื่อเดินไปตรงจุดชมทะเลหมอก ทุกคนจะได้สัมผัสกับไอหมอกที่ลอยอยู่รอบๆ ตัว เห็นทะเลหมอก วิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามของทะเลหมอกอัยเยอร์เวง แบบพาโนรามา 360 องศา สามารถมองเห็นหมอกขาวโพลนที่ลอยอยู่ตรงหน้า และมีไอหมอกมาปะทะใบหน้าร่างกาย จนทำให้เสื้อผ้าเปียกเลยทีเดียว ประชาชน นักท่องเที่ยว ต่างๆ ก็จะนำกล้องถ่ายรูป โทรศัพท์มือถือ มาถ่ายรูป เซลฟี่ เก็บภาพ ความสวยงามของทะเลหมอก ยิ่งช่วงนี้ใกล้สิ้นปี เป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวของในพื้นที่ ทำให้อากาศเย็นสบาย ในอุณหภูมิเฉลี่ย 20-22 องศาเซลเซียส เกือบทุกวันหมอกจะมาแบบเต็มคาราเบล สร้างความตื่นตาตื่นใจ สร้างความประทับใจ ให้กับผู้ที่เดินทางมาท่องเที่ยวมาชมทะเลหมอกเป็นอย่างมาก 

ชาวนาสุดปลื้ม!! จุรินทร์ ยันประกันรายได้ ‘ส่วนต่าง-ไร่ละ 1,000’ จ่ายครบแน่นอน

26 พฤศจิกายน 2565 ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการจ่ายเงินประกันรายได้ปีที่ 4 ว่าเงินที่จะโอนให้ชาวนามี 2 ส่วนใหญ่ๆ ส่วนที่ 1 คือเงินส่วนต่างประกันรายได้ ส่วนที่ 2 คือไร่ละ 1,000 บาท

สำหรับประกันรายได้ หรือเงินส่วนต่างนั้นทั้งหมดที่จะโอนเข้าบัญชี ธกส. ซึ่งชาวนามาขึ้นทะเบียนไว้ก่อนแล้ว 33 งวด เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับ 3 สมาคมชาวนากดปุ่มโอนเงินไปแล้ว 6 งวด ที่ต้องโอนพร้อมกันทีเดียว เพราะค้างจ่ายชาวนามาตั้งแต่ วันที่ 15 ตุลาคม 2565 และงวดที่ 7 คาดว่าน่าจะจ่ายในวันพุธที่ 30 พฤศจิกายนนี้ หลังจากนั้นอีก 26 งวดก็จะทยอยโอนทุกสัปดาห์ คาดว่าจะเป็นทุกๆวันพุธ ที่กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการอยู่ปกติจะเป็นแบบนี้  

‘เจ้าของร้านหมูกระทะ’ แจง ขออนุญาตขายถูกต้อง ชี้!! ขายมา 19 ปี ปฏิบัติตามระเบียบทุกอย่าง

จบประเด็นดราม่า!! ร้านหมูกระทะหน้าโรงพักขายบนทางเท้า เจ้าของร้านชี้แจงชัด ขายมาแล้วกว่า 19 ปี ได้รับอนุญาตผ่อนปรน จากเทศบาลเมืองกันตังอย่างถูกต้อง และปฏิบัติตามระเบียบทุกอย่าง

เรียกได้ว่ากำลังเป็นเรื่องราวที่มีการถกเถียงกันอย่างสนั่นบนโลกโซเซียล หลังจากที่โลกออนไลน์ได้มีการโพสต์ภาพร้านหมูกระทะแห่งหนึ่งใน จ.ตรัง ได้เกิดขายและให้ลูกค้านั่งกินกันบนทางเท้าติดกับรั้วหน้าโรงพักมากว่า 20 ปี อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย

ภายหลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตหลายคนพากันวิพากษ์วิจารณ์เสียงแตกสนั่น ออกเป็นสองฝั่งโดยบางกลุ่มมองว่า “เป็นวิถีชีวิตของชาวบ้านเมืองตรัง เพราะร้านริมฟุตปาธเยอะมากและสะดวกสบายของกินอร่อย คนตรังอยู่กันได้มานานแต่ทำไมคนอื่นเข้ามาเดือนร้อนแทนกันด้วย” 

นอกจากนี้ชาวเน็ตบางกลุ่มหลายคนมองว่า “เป็นการทำผิดจนเคยตัว พอบังคับใช้กฎหมายก็หาว่ารังแกคนหาเช้ากินค่ำ ทั้งที่เป็นเรื่องของระเบียบวินัย ความสะอาด ซึ่งวอนขอให้เทศบาลลงมาตรวจสอบโดยเร็วว่านี่เป็นพื้นที่ผ่อนปรนตามกฎหมาย หรือเป็นการละเลยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ”

จากประเด็นร้อนแรงดังกล่าว เมื่อเวลา 16.00 น. วานนี้ 25 พ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ตรัง ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พบว่าร้านดังกล่าวชื่อร้าน ‘หมูกระทะข้างโรงพัก’ ตั้งอยู่บนฟุตปาธติดกับรั้วข้าง สภ.กันตัง ริมถนนเทศบำรุง (ภายในเขตเทศบาลเมืองกันตัง) เปิดขายเวลา 17.00-21.00 น. โดยพนักงานของร้านจำนวน 5 ชีวิต ต่างตระเตรียมขนย้ายข้าวของจากบ้านพักตำรวจภายใน สภ.กันตัง ออกมาจัดวางบนฟุตปาธ เพื่อเปิดรอรับลูกค้า และยังพบว่าบริเวณบนฟุตปาธหน้า สภ.กันตัง และด้านข้างยังคงมีร้านแผงลอยอื่นๆ ตั้งขายอยู่ประมาณ 4-5 ร้าน อีกด้วย

ผู้สื่อข่าวได้พบกับ น.ส.ภุชดาภรณ์ เตชะเดช หรือเกิ้ล อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน พร้อมด้วยเพื่อนๆ พ่อค้าแม่ขายที่ค้าขายกันอยู่บนฟุตปาธได้นำใบเสร็จที่ร้านต่างๆ รวมทั้งร้านหมูกระทะดังกล่าวจ่ายเป็นค่าที่และค่าบำรุงให้กับเทศบาลเมืองกันตัง ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ได้รับอนุญาตผ่อนปรน รวมทั้งนำใบทะเบียนพาณิชย์มาชี้แจงให้ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบด้วยเช่นกัน

น.ส.ภุชดาภรณ์ หรือเกิ้ล กล่าวว่า ได้เห็นเรื่องราวของร้านที่มีการนำไปโพสต์กันในโลกโซเซียลแล้ว โดยร้านเปิดตรงนี้มากว่า 19 ปีแล้ว เมื่อก่อนพ่อคือ ร.ต.ต.นพพร เตชะเดช หรือหมวดพร อายุ 56 ปี รอง สวป.สภ.กันตัง และแม่ซึ่งได้เสียชีวิตไปเป็นคนขาย โดยตนมารับช่วงต่อเมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา ซึ่งตั้งแต่ต้นทางเราได้ขออนุญาตจากเทศบาลเมืองกันตังถูกต้อง ไม่ได้ตั้งร้านถาวร เป็นการผ่อนปรน อยู่ในระเบียบ เงื่อนไข และเวลาที่กำหนด และมีเจ้าหน้าที่เทศบาลและเทศกิจมาตรวจสอบ กวดขัน และดูแลอยู่ตลอด ทั้งการขายตามช่วงเวลาที่กำหนด หลังร้านปิดก็เก็บอุปกรณ์และของทุกอย่างกลับ ทำความสะอาดพื้นที่ ซึ่งเราปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัดทุกอย่าง และมีการเก็บค่าที่และค่าบำรุงวันละ 20 บาท ซึ่งราคานี้เก็บมาตั้งแต่แม่ที่เสียชีวิตลงไปขายอยู่ หรือ 19 ปีที่ผ่านมาแล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ร้านก็มีตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ ทั้งมาคู่ และมากันยกครอบครัว

ศธ. รับนโยบายปรับหลักสูตรปลูกฝังเด็กนักเรียน เน้นรัก ‘ชาติ-ศาสน์-กษัตริย์’ หวงแหนแผ่นดินเกิด

เมื่อวันที่ 26 พ.ย.นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้พัฒนาและปรับปรุงการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ ให้มีความน่าสนใจ และมีนโยบาย 8+1 กำหนดโครงสร้างเวลาเรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และให้สถานศึกษาขั้นพื้นฐานจัดรายวิชาพื้นฐานประวัติศาสตร์ ออกมา 1 รายวิชา เพื่อบ่มเพาะให้นักเรียนภาคภูมิใจรักความเป็นไทย หวงแหนในสิ่งที่บรรพชนให้ไว้เป็นมรดกทางปัญญา รักษา สืบสาน ต่อยอดและนำมาปรับประยุกต์ในปัจจุบัน 

โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ในวันที่ 28 พ.ย.นี้ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ‘การบริหารจัดการโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และ 1 รายวิชาพื้นฐานประวัติศาสตร์ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน’ และพิจารณาแนวทางขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง ปีงบประมาณ 2566 เพื่อเป็นแนวทางให้ต้นสังกัดของสถานศึกษา และสถานศึกษาสามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายอนุชา กล่าวว่า ในร่างประกาศ ศธ. ฉบับดังกล่าว กําหนดให้สถานศึกษาขั้นพื้นฐานจัดโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และรายวิชาพื้นฐานประวัติศาสตร์ 1 รายวิชา โดยจัดเวลาเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์ ระดับประถมศึกษา 40 ชั่วโมงต่อปี ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 40 ชั่วโมงต่อปี (1 หน่วยกิตต่อปี) และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย รวม 3 ปี 80 ชั่วโมง (2 หน่วยกิต) ซึ่งสถานศึกษาสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ด้วยวิธีการที่หลากหลาย เช่น การใช้พิพิธภัณฑ์เป็นสื่อ การใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นและต่อยอดประวัติศาสตร์สู่งานอาชีพ การบูรณาการประวัติศาสตร์กับรายวิชาอื่น และการศึกษานอกสถานที่และแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ เป็นต้น หากบอร์ด กพฐ.พิจารณาให้ความเห็นชอบ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้ลงนามในประกาศ ศธ. จะมีการแยกรายการประเมินผลการเรียนวิชาประวัติศาสตร์ใหม่ โดยในแบบรายงานผู้สำเร็จการศึกษา (ปพ.3) จะมีการแสดงผลการเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์แยกออกมา จากเดิมที่รวมอยู่ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top