Wednesday, 15 May 2024
NEWSFEED

‘ครูไพบูลย์’ ทำละครคุณธรรมลงยูทูป หวังเป็นคอนเทนต์สอนใจ  แต่เจอชาวเน็ตจวกยับ!! ล่าสุดไม่แคร์ปล่อยตอน 2 ออกมาอีก

(10 ก.ค. 66) ติดโผเจ้าพ่อดรามา ทำอะไรมักได้รับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตลอด ‘ครูไพบูลย์ แสงเดือน’ และสามีนักร้องลูกทุ่งดัง ‘กระต่าย พรรณนิภา’ ล่าสุดโดนชาวเน็ตวิจารณ์อีก เมื่อครูไพบูลย์และกระต่ายทำละครคุณธรรมในช่องยูทูปของตัวเอง งานนี้ครูไพบูลย์แสดงเอง เนื้อหาประมาณว่าเป็นคู่รักวัยเรียนในวัยนักศึกษาแล้วโดนแฟนนอกใจ

ปรากฏว่างานนี้ไม่วายมีชาวเน็ตเข้ามาดรามาต่างๆนานา ทั้งในโพสต์ของ ‘กระต่าย’ และในยูทูป อาทิ คือกล้าเฮ็ดละครแนวนี้หว่า บ่คึดอยากอายจะของแหน่เบาะ, ละครแนวนี้ ถูกตรงคาแร็คเตอร์และนิสัยส่วนตัวครูแล้วใช่ไหมครับ, บ่อายแน่บ่ บักคนมีคุณธรรม, ตัวเองยังทำไม่ได้ทำไมกล้าแสดง, คุณธรรมว่างั้น ไม่รู้สึกอายเหน่อยเหรอ? เป็นต้น

ล่าสุด ครูไพบูลย์ ไม่สนดรามา ปล่อยละครคุณธรรม ตอนที่ 2 ออกมาอีกต่างหาก ชื่อเรื่อง ‘ธาตุแท้’ ไม่วายก็ยังเจอดรามาหาว่าก๊อปเขามาอีก

ปังไม่หยุด!! ‘ลิซ่า BLACKPINK’ พาเพลง ‘MONEY’  คว้าแชมป์ยอดสตรีมสูงสุดใน Spotify ของฝ่ายหญิง 

(10 ก.ค. 66) นับตั้งแต่ปล่อยเพลงฮิต ‘LALISA’ และ ‘MONEY’ ในปี 2021 ลิซ่า ก็มุ่งมั่นสร้างชื่อของเธอในประวัติศาสตร์ ในฐานะหนึ่งในศิลปินเดี่ยวเอเชียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา โดยเธอได้สร้างสถิติใหม่โดยกินเนสส์เรคคอร์ด เป็นศิลปินเดี่ยวเคป๊อปที่ได้รับรางวัลสำคัญมากมาย รวมถึง VMA และ EMA อันทรงเกียรติ

อีกทั้งเธอยังเป็นผู้หญิงที่มีผู้ติดตามมากที่สุดบน บัญชี Instagram ฝั่งเอเชีย และครองแชมป์ Youtube, Spotify, iTunes, Shazam และแพลตฟอร์มหลักอื่น ๆ รวมถึงการโอ้อวดเกี่ยวกับการได้รับเกียรติในรายการ A100 ของชาวเอเชียที่มีอิทธิพลมากที่สุดของ Gold House นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ที่แสดงถึงพลังของไอคอน K-pop และสมาชิก BLACKPINK

แม้จะมีสิ่งที่น่าประทับใจมากมายที่เธอทำสำเร็จในเวลาเพียงสองปี แต่ลิซ่ายังคงสร้างเหตุการณ์สำคัญที่น่าประทับใจบน Spotify ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดของโลก

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘Money’ มียอดสตรีมเกิน 822 ล้านครั้ง กลายเป็นเพลงของศิลปินเคป็อปหญิง ที่มียอดสตรีมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ Spotify แซงหน้าเพลง 'How You Like That' ของวงเธอเอง (815 ล้านสตรีม)

‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ โชว์โปรไฟล์ทินเดอร์ รับสมัคร ‘FWB’ ลั่น!! “ขอคนไม่เล่น เบื่อจะเหงาละ” ชาวเน็ตแห่แซวเพียบ

(10 ก.ค. 66) เรียกว่ายิ่งโสด ก็ยิ่งสวย แถมยิ่งเพิ่มดีกรีความแซ่บเหมือนยกพริกมาทั้งสวนกันเลยทีเดียว สำหรับสาว ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ หรือ ‘เบียร์ ภัสรนันท์’ ที่เพิ่งประกาศจบความสัมพันธ์กับอดีตแฟนหนุ่ม ‘ท็อป Lazyloxy’ หรือ ‘ท็อป ปฐมภพ’ ซึ่งรักในครั้งนี้ จบด้วยดี ต่างคนต่างไปทำตามความฝันตัวเอง

ล่าสุด สาว ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ ก็เผยลุกส์ใหม่ต้อนรับความโสด ด้วยการทำไฮไลท์สีผมใหม่ พร้อมผมหน้าม้าลดอายุ และยังตัดผมสั้นลงกว่าเดิม ให้ลุกส์สาวซนปนแสบเหมาะกับสาวเบียร์มาก ท่ามกลางบรรดาแฟนคลับที่เข้ามาคอมเมนต์ชื่นชมลุกส์ใหม่ของสาวเบียร์กันยกใหญ่
แต่บอกเลยว่าความแซ่บไม่ได้หยุดที่ตรงนี้ เพราะล่าสุดเจ้าตัวโพสต์ภาพพร้อมข้อความที่ทำเอาไทม์ไลน์แตกแตน ลุกเป็นไฟกันเลยทีเดียว

เมื่อสาว ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ ออกมาโพสต์ผ่าน Facebook : Bizcuitbeer เขียนแคปชั่นสุดปังว่า “รับสมัคร FWB” พร้อมแนบภาพบัญชีจากแอพพลิเคชั่น ‘ทินเดอร์’ (Tinder) ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มหาคู่ออนไลน์ระดับโลก ระบุชื่อ “Passaranan” ที่สำคัญมีเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้ายืนยันตัวตนอีกด้วย

โดยในส่วนของข้อมูลประวัติส่วนตัว ยังระบุคุณสมบัติชัดเจนว่า “รับสมัคร FWB ขอคนไม่เล่น เบื่อจะเหงาละ” ท่ามกลางชาวเน็ตที่เข้ามากดถูกใจและคอมเมนต์ภาพดังกล่าวถล่มทลาย
โดยคอมเมนต์ส่วนใหญ่เข้ามาแซวสาวเบียร์ บางส่วนรีบคอมเมนต์แข่งขันกันเพื่อลงสมัคร ขณะที่บางส่วนคอมเมนต์ถามว่าเป็นเรื่องจริงหรือหลอก และมีบางส่วนตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นการโปรโมทแอพพลิเคชั่นก็เป็นได้

อย่างไรก็ดี ยังไม่มีบทสรุป แต่บอกเลยว่างานนี้มีผู้ที่สนใจตำแหน่งดังกล่าวจำนวนมาก คงต้องจับตาดูว่าใครจะเป็นหนุ่มผู้โชคดีที่คนนั้น

‘ลิลลี่ นารีนาท’ โพสต์ซึ้งถึงค่ายเพลง ‘ได้หมดถ้าสดชื่น’ พร้อมบอก “ถ้าวันหนึ่งต้องยุบค่าย คงใจหายไม่น้อย”

(10 ก.ค. 66) เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนักร้องคลื่นลูกใหม่อายุน้อยของวงการลูกทุ่งไทย สำหรับนักร้องลูกทุ่งสาว ‘ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น’ น้องสาวของ ‘เจนนี่ รัชนก’ หรือ ‘เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น’ กับบทเพลงที่ดังสนั่นลั่นทุ่ง ไม่ว่าจะวัยไหนก็ต้องร้องตามกันได้กับ ‘เพลงได้หมดถ้าสดชื่น’ ซึ่งถ้าใครได้ติดตามก็จะเห็นว่า ‘ลิลลี่’ ทั้งทำงาน ทั้งเรียนไปด้วย บอกเลยว่าดีกรีไม่ธรรมดาจริงๆ ล่าสุด ‘ลิลลี่’ ได้ออกมาร่ายยาวซึ้งๆ บอกความรู้สึกในใจที่มีต่อค่ายเพลงแห่งนี้ โดยเธอได้เขียนข้อเอาไว้ว่า…

“ค่ายเพลงได้หมดถ้าสดชื่น หรือ DM เป็นบ้านหลังแรกของลิลลี่ที่อยู่แล้วอุ่นใจและมีความสุขที่สุด เป็นบ้านที่อยู่กันแบ ครอบครัว เปิดรับคนใหม่อยู่ทุกๆ ปี เข้ามาเป็นครอบครัวเดียวกัน มีเสียงเพลง เสียงหัวเราะ และความสุข บางครั้งอาจจะปะปนน้ำตาไปบ้าง ก็หลากหลายอรรถรส ลิลลี่อยู่ตรงนี้ จุดนี้มา 4 ปีแล้ว ส่วนตัวคิดว่าเป็นเวลานานมากกกกกก!!!”

“สำหรับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งได้เติบโตมาจากที่นี่ อยู่ที่นี่ กินที่นี่ นอนที่นี่ เชื่อว่าหลายๆคนก็คิดแบบนี้ ลิลลี่ ไม่เคยมีเพื่อนอยู่โลกภายนอก เพราะส่วนใหญ่จะสนิทกับคนในค่าย พี่ๆ หลายๆ ซีซั่นที่ผ่านเข้ามา แดนซ์เซอร์ นักดนตรี และคนในบ้าน ตั้งแต่มีคนเหล่านี้เข้ามาในชีวิต ไม่เคยเรียกร้องหรือขออะไรเลย เรารู้สึกว่าพอใจในจุดนี้แล้ว มีคนที่คอยเคียงข้าง มีคนที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุข สบายใจ คอยเดินทางบนถนน หรือเดินทางชีวิตไปด้วยกัน เติบโตไปด้วยกัน นั่งรถไปคอนเสิร์ตด้วยกัน ร้องเพลงด้วยกัน กินข้าวพร้อมกัน กินหมูกะทะข้างสระพร้อมกัน และอะไรหลายๆอย่างที่ผ่านมา ถ้าวันนึงต้องยุบค่ายไปหรือปิดค่ายไป ก็คงใจหายไม่น้อยเลย ทุกวันนี้เลยพยายามทำงาน ร้องเพลง หรือทำอะไรก็ตามแต่ เพื่อให้มีคนคอยติดตาม คอยรัก คอยมาดูพวกเราเล่นคอนเสิร์ต คอยเจอพวกเรา คอยฟังเพลง”

“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อยากขอบคุณเอฟซีทุกคนที่คอยติดตามและซัพพอร์ตมาตลอด สัญญาว่าจะตั้งใจทำงานให้ดี ตั้งใจทำเพลงออกมาให้มีคุณภาพมากที่สุด ตั้งใจทำหน้าที่ตรงนี้ในตอนที่ยังมีโอกาส ใครก็ตามแต่ที่เข้ามาในชีวิต ที่ทั้งดีและไม่ดี ขอบคุณที่ผ่านเข้ามา ขอบคุณที่เคยเติบโตไปด้วยกัน เราต่างล้วนเป็นบทเรียนและความทรงจำซึ้งกันและกัน ไม่เคยโกรธหรือเกลียดใครเลย นึกถึงวันที่มีความสุขและยิ้มได้ซะมากกว่า ขอให้เติบโตไปในเส้นทางที่มีความสุขและประสบความสำเร็จนะ”

ซึ่งงานนี้ก็มีแฟนๆ เข้ามาคอมเมนต์มากมาย อาทิ เกิดอะไรขึ้นน้องลี่สู้ๆ นะน้องเก่ง, ติดตามผลงานค่าย DM ตลอดไป, เก่งมากน้อง ขอให้ทุกวันเป็นวันที่ดีของน้องนะ สู้ๆ , รักเสมอ จะคอยซัพพอร์ตไปตลอดนะคะคนเก่ง, อายุเท่านี้ น้องมาไกลมากๆ ความคิดทุกๆอย่างไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุของน้องเลย รักนะ DM, เก่งที่สุดแล้วสาวน้อยจะติดตามไปตลอดนะ, คิดถึง อยากให้มีงานทัวร์คอนเสิร์ตเยอะๆ คอยติดตามนะเด็กดี เป็นต้น

ท้าวเวสสุวรรณ หน้าทองคำ เทวรูปศักดิ์สิทธิ์ แห่งวัดเดิมบาง โชคลาภสมปรารถนา พลังเสน่ห์เมตตามหานิยม

‘ท้าวเวสสุวรรณ หน้าทองคำ’ เทพแห่งโภคทรัพย์สมบัติ บันดาลความรุ่งเรือง ความร่ำรวย ที่สำคัญก็คือมีใบหน้าเป็นทองคำ บันดาลฤทธิ์พลัง สายเสน่ห์เมตตามหานิยมแกผู้คนที่มากราบไหว้ นอกจะได้โชคลาภ สมปรารถนาแล้ว  ยังได้พลังเสน่ห์เมตตามหานิยม ดุจดั่ง ได้รับพลังวิเศษ นะหน้าทอง จากท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณ

ท้าวเวสสุวรรณองค์นี้ ที่วัดเดิมบาง จัดสร้างโดย ท่านพระครูบาวชิริล สร้างถวายเพื่อประดิษฐานไว้ที่วัดแห่งนี้ สาเหตุที่สร้างเป็นหน้าทองคำก็เนื่องจากหลังพิธีเททองหล่อ ท่านพระครูบาฯ ได้นิมิตฝันว่า "ได้ยินเสียงดังขึ้นว่า ใบหน้าฉันเป็นทองคำนะ หน้าทอง" จึงเป็นปฐมเหตุให้สร้าง ท้าวเวสสุวรรณเป็นหน้าทองคำขึ้นมา ตามความประสงค์ของท่านท้าวเวสสุวรรณ ที่มาเข้าฝัน เพื่อเป็นศุภนิมิตมงคลสืบไป

ผู้ที่ต้องการตั้งจิตอธิษฐานไหว้ ท่านท้าวเวสสุวรรณจะนิยมไปไหว้กันในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ โดยของไหว้หลักๆ ที่จะต้องเตรียมไว้บูชานั้นก็ได้แก่ ธูป 9 ดอก และดอกกุหลาบ 9 ดอก รวมทั้งต้องเตรียมผลไม้ 5 อย่าง ที่สื่อถึงความหมายมงคล เช่น ผลไม้ที่มีสีแดง แก้วมังกร หรือทับทิมเป็นต้น และวิธีขอพราท่านท้าวเวสสุวรรณเพื่อเรียกทรัพย์นั้น ก็จะนิยมนำกระเป๋าสตางค์ที่ใช้ใส่เงินของตัวเอง ไปวนขวารอบกระบองของท่านท้าวเวสสุวรรณ จำนวน 9 รอบ หลังจากนั้นก็จะตั้งจิตอธิษฐานในสิ่งที่ตนเองปรารถนา

รู้จัก 'ฝาท่อลายศิลปะ' แรงขับเคลื่อนจากยุคผู้ว่าฯ อัศวิน สู่การสานต่อหมุดหมายทางวัฒนธรรมในเมืองกรุง

เพจ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 65 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มีการประชุมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) พร้อมด้วยมหาวิทยาลัยศิลปากร ร่วมหารือเรื่องการขยายผลงานวิจัย โดยนำเทคโนโลยีและศิลปะมาพัฒนาเมืองผ่านประติมากรรม ซึ่งมีขอบเขตพื้นที่ที่ศึกษา คือ เยาวราช-เจริญกรุง และสำเพ็ง โดยใช้แผนที่ทางวัฒนธรรม โดยมีนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดร.ลัษมณ อรรถาพิช ที่ปรึกษาผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) รศ.จักรพันธ์ วิลาสินีกุล นักวิจัยจากคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ผู้บริหารสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมหารือ ณ ห้องอัมรินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตพระนคร

ทั้งนี้ สำหรับแผนงานวิจัยดังกล่าวได้ดึงนักวิจัยชั้นนำของมหาวิทยาลัยศิลปากรจากหลายสาขามาร่วมดำเนินการเก็บข้อมูลภาคสนาม จนได้ข้อมูลที่ กทม. สามารถนำไปใช้ประโยชน์เพิ่มเติมจากข้อมูลของยูเนสโกเกี่ยวกับอาคารเก่าทรงคุณค่าและโบราณสถาน การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน วัตถุดิบอาหาร และเทศกาลต่าง ๆ ซึ่งในส่วนของอัตลักษณ์ของย่านเยาวราช-เจริญกรุง ที่จะดึงมาใช้เพื่อสื่อสารผ่านศิลปะได้มี 4 ประเภท คือ 

1. สถานที่สำคัญของย่านในอดีต เช่น น้ำพุวงเวียนโอเดียน ประตูสามยอด ห้างขายยา เป็นต้น 
2. สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม เช่น ลวดลายจีน อักษรที่เป็นมงคล หน้ากากงิ้ว เป็นต้น 
3. กิจกรรมทางวัฒนธรรมและกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น รถเข็นจีน รถราง เป็นต้น 
4. อาชีพและสินค้าที่เป็นที่นิยมและสร้างสรรค์ในย่าน เช่น ผลไม้จีน เครื่องยาจีน โคมไฟจีน ย่านทำตะเกียง อัญมณี เป็นต้น 

โดยประติมากรรมผ่านฝาท่อดังกล่าวจะต้องรักษาไว้ซึ่งอัตลักษณ์ของเยาวราชควบคู่กับการพัฒนาเมืองในปัจจุบัน พร้อมกับข้อมูลในรูปแบบคิวอาร์โค้ดซึ่งสามารถสื่อสารได้ 3 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ และจีน เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถศึกษาข้อมูลผ่านคิวอาร์โค้ดบนฝาท่อ

นอกจากนี้ยังจัดการฐานข้อมูลและพัฒนาให้คนทั่วไปสามารถเข้าไปใช้งานในเว็บไซต์และแผนที่ทางวัฒนธรรม (Cultural Map) ได้ ทั้งนี้ รศ.จักรพันธ์ได้เสนอว่าระยะต่อไปเทคโนโลยีที่เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเมืองน่าจะมีมากกว่าสตรีทอาร์ต ตลอดจนการเข้าไปสำรวจพื้นที่เพื่อประเมินคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรม สุนทรียศาสตร์ ประวัติศาสตร์ สังคม วิทยาการและการศึกษา ซึ่งคณะวิจัยพร้อมที่จะมอบข้อมูลในคิวอาร์โค้ดและเว็บไซต์ให้กทม.เป็นผู้ดูแลต่อไป

ด้าน นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ต้องการให้มีการสนับสนุนคนท้องถิ่นดั้งเดิมในชุมชนย่านนั้นให้รวมตัวกันเพื่อร่วมให้ข้อมูลของชุมชน รวมถึงร่วมดูแลและสร้างอัตลักษณ์ของชุมชนร่วมกันด้วย เพื่อให้เกิดการพัฒนาด้านฐานข้อมูลที่สำคัญและเป็นการร่วมอนุรักษ์ประวัติศาสตร์ย่านดังกล่าวให้คงอยู่ ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครและนักวิจัยจะร่วมกันสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในย่านเยาวราช-เจริญกรุง เพื่อร่วมการจัดทำออกแบบฝาท่อและจุดพื้นที่วางประติมากรรมดังกล่าวอย่างเหมาะสมต่อไป

สำหรับโครงการ ‘ศิลปะบนฝาท่อสาธารณูปโภค’ เพื่อเผยแพร่แผนที่ทางวัฒนธรรมของชุมชน เป็นการต่อยอดมาจาก โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ริมคลองโอ่งอ่าง และโครงการศิลปะชุมชนกิจกรรมแต้มสี กรุงเทพฯ ปี 2561 ที่ผ่านมาในสมัย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ดำรงตำแหน่งเป็น ผู้ว่าฯ กทม. โดยโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จได้รับเสียงตอบรับที่ดีทั้งจากคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวจึงนำมาสู่การสานต่อการติดตั้งฝาท่อลายศิลปะในพื้นที่ย่านเยาวราช-เจริญกรุง ต่อไป

‘ยอร์ช ยงศิลป์’ เตรียมเดบิวต์ในเกาหลีใต้ สังกัด GRID Ent. แฟนคลับร่วมแสดงความยินดี ผ่าน #yorch_yongsin

(10 ก.ค. 66) หลังจากที่ได้เดบิวต์เป็นศิลปินเดี่ยวในไทยจนปังไม่หยุดไปแล้วสำหรับ ‘ยอร์ช ยงศิลป์ วงศ์พนิตนนท์’ และยังได้ปล่อยซิงเกิลแรกในชีวิต ‘Seven (7)’ พร้อมทั้งเปิดบริษัท YORCH ENTERTAINMENT ของตัวเองไปเมื่อกลางเดือนเมษาที่ผ่านมา

และก่อนหน้านี้ก็ทำเอาแฟน ๆ กรี๊ดกันใหญ่ไปแล้วเมื่อหนุ่มยอร์ช ได้โผล่เซอร์ไพรส์เป็นแขกรับเชิญในคอนเสิร์ตของ ‘บีไอ’ (B.I) หรือ ‘คิมฮันบิน’ (Kim Han Bin) แร็ปเปอร์และโปรดิวเซอร์หนุ่มฮอตจากเกาหลีใต้ ทำเอาแฟน ๆ เรียกร้องให้ทั้งคู่ร่วมงานกันอีกในอนาคต

และล่าสุดก็สิ้นสุดการรอคอย เมื่อยอร์ชได้เผยโปรไฟล์ตัวเองผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวพร้อมแคปชั่นว่า "My new home @fillthegrid" และเมื่อกดเข้าไปดูอินตาแกรม @fillthegrid ก็พบว่ามันคืออินสตาแกรมของ GRID Entertainment ซึ่งเป็นค่ายใหม่ที่อยู่ในเครือของค่าย 131 Label ซึ่งเป็นค่ายของแร็ปเปอร์หนุ่มสุดฮอต ‘คิมฮันบิน’ โดยค่าย GRID Entertainment ได้เปิดตัวศิลปินคนแรกคือหนุ่ม ‘ยอร์ช ยงศิลป์’ เป็นศิลปินคนแรกแถมยังเป็นคนไทยอีกด้วย เรียกได้ว่าได้กลิ่นความปังตั้งแต่เปิดตัวแล้ว

ทั้งนี้ แฟนคลับของยอร์ชได้ออกมาแสดงความดีใจผ่าน #yorch_yongsin จนขึ้นเป็นเทรนด์ในทวิตเตอร์อีกด้วย

‘เบอร์เกอร์คิง’ ออกเมนูใหม่ ‘เรียลชีสเบอร์เกอร์’ ใส่ American Cheese เน้นๆ มากถึง 20 แผ่น

เมื่อวานนี้ (9 ก.ค. 66) เพจ ‘Burger King Thailand’ ได้โพสต์ภาพสินค้าใหม่พร้อมระบุว่า…

ไม่ขายขำ นี่ขายจริง!
เรียลชีสเบอร์เกอร์ จากเบอร์เกอร์คิง! 🍔
ใส่อเมริกันชีส ถึง 20 แผ่น!!! 🧀

ราคาเพียง 109.- (จากปกติ 380.-)
ชีสเบอร์เกอร์ตะโก๊น! คนที่กดไลก์แอดมิน ถ้าไม่สั่งจะงอนมาก

Exclusive วันแรกเฉพาะซื้อที่สาขา
ชาว Delivery พรุ่งนี้พร้อมกันทั่วประเทศ!
#BurgerKingTH #เบอร์เกอร์คิงยืนหนึ่งเรื่องคุณภาพ
#CheeseBurger #ชีสเบอร์เกอร์

‘เปิ้ล ไอริณ’ โพสต์ไอจีขอบคุณทุกสิ่งที่ผลักดันชีวิต บอก หากตนไม่อยู่แล้ว ขอยกรถปอร์เช่ให้สาธารณกุศล

(10 ก.ค. 66) กลับมาครองพื้นที่วงการเพลงลูกทุ่งอีกครั้ง สำหรับนักร้องลูกทุ่งดัง เจ้าของเพลงฮิตอย่าง เบนซ์สปอร์ต เปิ้ล ไอริณ ศรีแกล้ว ที่ปัจจุบันคนก็ยังร้องตามกันได้ และผลงานล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ปล่อยเพลงออกมา ชื่อว่า ‘Money ฟังแล้วรวย’ ก็ดังไม่แพ้เพลงแรกเช่นกัน 

และแน่นอนว่าหากพูดถึง ‘เปิ้ล ไอริณ’ สิ่งที่มาคู่กันก็คงจะต้องเป็นรถหรูปอร์เช่นั่นเอง แต่ล่าสุดเธอได้ออกประกาศว่าจะขอยกรถปอร์เช่ที่ตนเองเพิ่งถอยมาให้เป็นสาธารณกุศล เมื่อวันหนึ่งที่เธอไม่อยู่แล้ว พร้อมเล่าเรื่องราวในอดีตว่าเธอจะมีวันนี้ได้มันไม่ง่าย ซึ่ง ‘เปิ้ล ไอริณ’ ก็ได้โพสต์ข้อความร่ายยาวผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่า…

“พาบาร์บี้ มารับลูกสาวคนใหม่ เห็น เขาว่า..ขับปอร์เช่แล้วมันฟิน ฟิน ฟิน แม้ว่า ตอนนี้ เราจะอยู่ในจุดที่มีอิสระในการใช้ชีวิตเกือบทุก ๆ ด้าน แต่ก็ไม่เคยลืมเลยว่า เราเคยมาจากไหน จากลูกคนโต พี่น้องสามคน เป็นเด็กกะโปโล ที่อายุ 16 ปี ก็โดนโลกบีบบังคับ ให้เป็นเสาหลักครอบครัวที่แตกแยก ยังจำรสชาติได้ดีถึงการต้องนั่งสองแถวไปต่อรถเมล์ แม้วันฝนตกหนัก! เพื่อไปขายของ! ไปตระเวนหางานทำ ต้องต่อสู้ดิ้นรนอะไรได้เงินก็ทำ ทำมานับสิบอาชีพ จะมีใครเข้าใจชีวิตที่ต้องกระเสือกกระสนเพื่อครอบครัว เพื่อส่งตัวเองเรียน การมาถึงวันนี้ไม่ง่ายเลย แต่พอย้อนกลับไปดูก็หายเหนื่อย มีแต่ความภาคภูมิใจมาแทนที่!!

เราเชื่อเสมอว่าที่เรามาถึงจุดนี้ได้ เพราะพลังแห่งการซาบซึ้ง กตัญญูรู้คุณ พลังแห่งการขอบคุณ ทุกเช้าและก่อนนอน ขอบคุณ กระทั่งทุกอุปสรรค ทุกปัญหา ขอบคุณทุก ๆ บทเรียน ทุก ๆ ผู้คน ที่เข้ามาเป็นจิ๊กซอว์ เป็นแบบทดสอบ ขอบคุณพลังแห่งการสำนึกรู้คุณ ความซาบซึ้ง ต่อพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ต่อแผ่นดินเกิด ต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์! ขอบคุณโลก ที่ได้สร้างเรามาให้รู้คุณค่าชีวิต ให้เราไม่ได้เกิดมาง่ายดายสบาย ๆ ที่ทำให้เรามายืนอยู่ในจุดนี้ได้! รถคันนี้ เราไม่อยู่แล้ว เป็นของทุก ๆ คนนะคะ อยู่ในพินัยกรรมมรดกที่ยกให้สาธารณกุศล และมูลนิธิต่าง ๆ ท้ายนี้ ที่ขาดไม่ได้ ขอขอบคุณ ทุก ๆ แรงใจ ทุกกำลังใจดีดี ที่มีให้เราเสมอมาด้วยค่ะ”

หลังจากนั้นแฟน ๆ ที่ได้อ่านข้อความนี้ ต่างก็เข้ามาชื่น เปิ้ล ไอริณ กันอย่างคับคั่ง

‘บีโกหมอย’ ของอร่อยขึ้นชื่อของ ‘ภูเก็ต’ หวาน มัน เค็ม หนึบหนับ เข้มข้นถึงเครื่อง

‘บีโกหมอย’ เป็นภาษาจีนฮกเกี้ยน โดยคำว่า บีโก แปลว่า ข้าวเหนียวดำ และคำว่า หมอย แปลว่า ต้ม บีโกหมอยจึงแปลว่า ข้าวเหนียวดำต้ม หรือ ‘ข้าวเหนียวดำเปียก’

คนภูเก็ตนิยมทาน ‘บีโกหมอย’ หลังอาหารเที่ยง หรือเป็นของหวานทานเล่นยามบ่าย เสน่ห์ของบีโกหมอย ก็คือรสสัมผัสของข้าวเหนียวดำเปียก ที่มีทั้งความเหนียวหนึบหนับ ความหอมของกลิ่นข้าว และความหวานอันเป็นเอกลักษณ์ของข้าวเหนียว แม้จะเติมน้ำตาลลงไปปรุงรสบ้าง ก็ยังไม่เสียเอกลักษณ์ของข้าวเหนียว และเมื่อนำ กะทิสด ที่ปรุงรสชาติหวาน มัน เค็ม มาราด บนเหนียวดำและทานไปพร้อม ๆ กัน ก็จะยิ่งได้มิติของรสชาติและเนื้อสัมผัสอันหนึบหนับของบีโกหมอย ที่อร่อยกลมกล่อม

เนื้อสัมผัสของขนมบีโกหมอยนั้นจะมีความเหนียวหนึบ ทานกับส่วนผสมอื่น ๆ แล้วจะอร่อยพอดี เป็นขนมหวานที่หาทานได้ยากในปัจจุบัน แต่ถ้าไปถึงเมืองภูเก็ตแล้ว ก็แนะนำว่าให้ลองไปชิมกัน รับรองติดใจแน่นอน

ที่ร้าน Torry's ice cream ซอยรมณีย์ ใจกลางย่านเมืองเก่าของภูเก็ต ได้นำบีโกหมอยมาจับคู่กับไอศกรีมอัญชันสูตรโบราณ แล้วเสริฟ ลงในกระทะทองเหลือง ออกมาเป็นจานที่ความสวยงามน่ากินมาก รสชาติเข้มข้น อร่อยถึงเครื่อง กินแล้วฟินสุด ๆ ในราคาแค่ 95 บาท


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top