Sunday, 28 April 2024
NEWSFEED

‘แอน ทองประสม’ เปิดใจหลังเข้าผ่าตัด ‘เนื้องอกในมดลูก’ ลั่น!! “เจอเพราะตรวจสุขภาพ ผ่าออกมาได้ 6-7 ซม.”

(13 ก.ค. 66) ทำเอาหลายคนตกใจว่าอยู่ดี ๆ ผู้จัดคนเก่ง ‘แอน ทองประสม’ ต้องเข้ารับการผ่าตัด แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทั้ง ๆ ที่ดูเป็นคนที่รักษาสุขภาพ และแข็งแรงมาก ๆ ล่าสุดได้เจอสาวแอน เลยสอบถามถึงสุขภาพในช่วงนี้หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล

เมื่อถามสาเหตุที่เข้าโรงพยาบาล แอน ทองประสม เผยว่า “ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ คนคิดว่าแอนน็อกวูบ เปล่าค่ะแอนเดินสวย ๆ เข้าโรงพยาบาล มันเป็นเนื้องอกมดลูกที่เกิดกับผู้หญิงทั่ว ๆ ไปอยู่แล้ว มันมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาก็เคลียร์ไป หมอนัดแล้วแอนเบี้ยวหมอมา 3 รอบแล้ว

หมอบอกถ้ารอบนี้เบี้ยวไม่ผ่าให้แล้ว แอนถ่ายละครเกมรักทรยศเสร็จก็เดินเข้าไปแค่นั้นเอง เอาเขาออก คนอื่นจะมองว่าเรื่องเล็กหรือใหญ่แอนก็ไม่รู้ แต่แอนไม่เอาไว้ดีกว่า ถ้าผ่าอายุเยอะอาจจะฟื้นตัวช้า ผ่าออกมาแล้วก็ไม่มีอะไร ก็ประมาณ 6-7 ซม.”

“เป็นครั้งแรกเลยในการโดนผ่าตัด มันก็ไม่ได้น่ากลัว เรากลัวไปเอง เราถ่ายละครเข้าห้องผ่าตัดมาเยอะ แต่มันก็ใจสั่นเหมือนจะเป็นลม สักแป๊บก็ไม่รู้ตัว ออกมาแล้ว มันก็ไม่ได้ขนาดที่เรากลัว แอนบอกกับตัวเองว่าจงรักษาสุขภาพตัวเองให้แข็งแรงอย่ามาโรงพยาบาลบ่อย ๆ”

“จริง ๆ ร่างกายแอนแข็งแรง แต่มันเป็นเรื่องผู้หญิงที่ร่างกายมันสะสมมานานมันก็มี แต่แอนไม่ได้ป่วยไข้ ตรวจเจอเพราะตรวจสุขภาพ ไม่ได้เป็นอะไรเลย ถ้าไม่ได้ตรวจก็ไม่เห็น พอเราผ่าปุ๊บถึงเพิ่งรู้ว่า ‘โบว์-เมลดา’ ก็ผ่า นักแสดงคนนั้นคนนี้ก็ผ่า บางคนเป็นช็อกโกแลตซีสต์ เนื้องอก อาการของผู้หญิง แต่เราไม่เคยเปิดเรื่องนี้กับใคร เขาบอกว่าเป็นเรื่องปกติ”

เมื่อถามถึง ‘พอเป็นตรงมดลูกมีผลต่อการมีลูกไหม’ ซึ่ง แอน ทองประสม ได้ตอบกลับมาว่า  “ไม่มีผลค่ะ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ไม่ได้ตัดมดลูกทิ้ง แอนไม่ยอมนะ บอกหมออย่าตัดมดลูกแอนนะ”

‘มิกค์ ทองระย้า’ ผันตัวเป็นเด็กสวน โชว์ผลผลิตที่ลงแรงปลูกเอง ท่ามกลางแฟนคลับแห่ชื่นชม ‘ความเก่ง-ความขยัน’ ของเจ้าตัว

(13 ก.ค.66) อีกหนึ่งพระเอกชื่อดังมากฝีมืออย่าง ‘มิกค์ ทองระย้า’ เราจะเห็นผลงานของเธอมากมายผ่านจอแก้วและงานอีเวนต์ต่าง ๆ วันเวลาว่าง ๆ เขาได้ไปพักผ่อนหย่อนใจที่บ้านสวน ที่เจ้าตัวทำเกษตรกรรมด้วยการปลูกพืชผักไว้ที่เขาใหญ่

ล่าสุดโพสต์อินสตราแกรมส่วนตัว ‘@mik_thongraya’ โชว์ผลผลิตผักปลอดสารของตัวเอง พร้อมข้อความบอกว่า "รับผักหรือรับรักดีครับ" นอกจากนี้ได้แพ็กส่งไปให้กับคุณยายเองกับมือเลยด้วย ท่ามกลางแฟนคลับชื่นชมความขยัน และชมความเก่งของเขา

‘มาตาลดา EP.11’ ทำลายสถิติ!! เรตติ้งพุ่งกระฉูด ขึ้นแท่นละครถูกใจคนดู โซเชียลยกเป็นเซฟโซนเอาไว้ฮีลใจ

(13 ก.ค. 66) เดินทางมากันเกือบครึ่งเรื่องแล้วสำหรับละครน้ำดีอย่าง ‘มาตาลดา’ กระแสความนิยมยังคงล้นหลาม ติดอันดับหนึ่งละครฮีลใจของใครหลายคน ล่าสุดในเรื่องของเรตติ้งก็พุ่งกระฉูดสูงขึ้นไม่หยุด ใน ‘มาตาลดา EP.10’ ทำตัวเลขเรตติ้ง Bangkok พุ่งสูงถึง 6.49 เรตติ้งในกลุ่ม (Bangkok and Urban) หรือ 15+ BU ได้ไป 4.78 เรตติ้ง Nationwide ทำได้ถึง 3.01 และยอดดูสดออนไลน์ได้ไป 6.5 แสนคน

จากนั้นยังปังต่อเนื่องไปอีก เพราะเรตติ้ง ‘มาตาลดา EP.11’ ทำลายสถิติเรตติ้ง Bangkok สูงปรี๊ดขึ้นไปถึง 7.13 เรตติ้ง 15+ BU ทำไปได้ 5.62 และเรตติ้ง Nationwide คว้าไป 3.28 แถมยังมียอดดูสดออนไลน์สูงทะลุถึง 6.7 แสนคน ฟากยอดดูย้อนหลังผ่าน 3Plus สูงถึง 36.8 ล้านวิว

ส่วนในโซเชียลคนดูก็พูดถึงละครจนเป็นกระแสร้อนแรง #มาตาลดาEP10 และ #มาตาลดาEP11 ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ไทยแลนด์อันดับต้น ๆ แบบเลิศ ๆ เพราะสองอีพีนี้ได้เสิร์ฟความฟินจิกหมอน เรียกว่าคู่พระนาง ปุริม (เจมส์ จิรายุ) กับมาตาลดา (เต้ย จรินทร์พร) เติมความหวานในใจคุณผู้ชมจนเหนียวหนึบหนับไปหมด ยิ่งตอนนี้ปุริมก็เคลียร์ชัดเจนกับ แพง หรืออรุณรัศมี (อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม) ว่ามีคนที่ชอบอยู่แล้วด้วย พร้อมกับหวงมาตาลดาแบบขั้นสุด ออกตัวปกป้องทั้งจาก แพง และ ไตรฉัตร (ริว วชิรวิชญ์) บอกเลยว่าใครคิดจะมาแย่งหรือว่าร้ายมาตาลดาต้องผ่านด่านปุริมไปก่อนจ้า

แต่ในขณะที่คนดูกำลังฟินกับคู่ปุริมมาตาลดา หนุ่ม ‘ริว วชิรวิชญ์’ กับ ‘ปิง กฤตนัน’ ก็ได้คะแนนสงสารพร้อมกับถูกชมเรื่องสกิลการแสดงที่ถ่ายทอดตัวละครไตรฉัตรคนที่พยายามอยู่เหนือปุริม เพราะมีแม่คอยกดดันตลอด ทำทุกคนเอ็นดูไปตาม ๆ กัน ก่อนจะไปซึ้งตามกันต่อกับซีนที่ พ่อเกรซ (ชาย ชาตโยดม) พร้อมเดอะแก๊งครอบครัวมาตาลดาปกป้องคุณเพื่อนบ้านอย่าง ยวนตา (นุ่น รมิดา) จากแก๊งทวงหนี้นอกระบบ แถมยังมีคำสอนดี ๆ ให้คนดูได้คิดตามอีกด้วย แต่ที่ยืนหนึ่งครองใจแฟน ๆ มาตลอดคงจะหนีไม่พ้นน้องหมา โอลีฟ ป๊อปอาย พลูโต ที่ออกมากี่ทีก็นำความน่ารักน่าเอ็นดูมาขโมยซีนได้ใจคนดู ทำให้ตอนนี้มีแฟนคลับเป็นของตัวเองไปแล้วจ้า

ละครเรื่องนี้ทำให้ใครหลายคนอบอุ่นหัวใจจนทุกคนเอ่ยปากว่าในวันที่วุ่นวายก็ยังมี ‘มาตาลดา’ เป็นเซฟโซนให้กลับมาฮีลใจได้ด้วย หลังจากนี้เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นไปในทิศทางไหน ติดตามได้ใน 'มาตาลดา' ทุกวันจันทร์ – อังคาร เวลา 20.30 ทางช่อง 3 ดูทีวีกด 33 ดูมือถือกด 3Plus

‘แพทย์’ แจงสาเหตุ ‘มดดำ คชาภา’ มีอาการหน้าเบี้ยวครึ่งซีก ชี้ เกิดจากเส้นประสาทบนใบหน้าอักเสบ เตือน!! เกิดได้กับทุกวัย

(13 ก.ค. 66) นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงกรณีข่าว ‘มดดำ คชาภา’ ตันเจริญ พิธีกร มีอาการหน้าเบี้ยวครึ่งซีกจากเส้นประสาทอักเสบ ว่า อาการปากเบี้ยวหรือหน้าเบี้ยวครึ่งซีก (Bell’s palsy) คือ ภาวะที่กล้ามเนื้อใบหน้าข้างใดข้างหนึ่งอ่อนแรง หรือเกิดอัมพาตชั่วขณะ เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยมีสาเหตุมาจากการอักเสบของเส้นประสาทบนใบหน้า ส่งผลให้หน้าเบี้ยวครึ่งซีก

นพ.วีรวุฒิ กล่าวต่อว่า เป็นผลมาจากเส้นประสาทใบหน้า หรือเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ซึ่งอยู่ตรงใบหน้าแต่ละข้างทำหน้าที่รองรับการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้า เช่น ยิ้ม ทำหน้าบึ้ง หรือหลับตา รวมทั้งรับรสจากลิ้น และส่งต่อไปยังสมองเกิดการอักเสบส่งผลต่อการรับรส การผลิตน้ำตา และต่อมน้ำลาย ปากเบี้ยว

“อาการนี้ถือเป็นปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นทันที และมักจะเกิดขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง สาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด อาจมีความสัมพันธ์จากการติดเชื้อไวรัสบริเวณใบหน้า เช่น โรคอีสุกอีใส เชื้อเริม ส่วนปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ ผู้ที่ตั้งครรภ์ การพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายอ่อนแอ และภาวะภูมิคุ้มกันผิดปกติ” นพ.วีรวุฒิ กล่าว

ด้าน นพ.ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผอ.สถาบันประสาทวิทยา กล่าวว่า โรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีกเป็นโรคที่สามารถหายเองได้ โดยจะฟื้นตัวภายใน 3 สัปดาห์ แล้วจะค่อย ๆ ดีขึ้น โดยแพทย์จะวินิจฉัยจากการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และตรวจการทำงานของประสาท (EMG) การรักษาโรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก คือ การให้ยาสเตียรอยด์เพื่อลดอาการอักเสบ และการทำกายภาพบำบัดร่วมด้วย ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วกว่าเดิม

นพ.ธนินทร์ กล่าวต่อว่า การรักษาทางกายภาพบำบัด เช่น กระตุ้นเส้นประสาทด้วยกระแสไฟฟ้า หรือนวดใบหน้า ช่วยลดภาวะกล้ามเนื้อตึงเกร็ง และการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม อาการปากเบี้ยวหรือหน้าเบี้ยวครึ่งซีก ยังไม่มีวิธีการป้องกันที่ชัดเจน เนื่องจากสาเหตุเกิดจากการอักเสบของเส้นประสาทใบหน้าที่มักจะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และรุนแรง ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะหายภายในระยะเวลาเป็นสัปดาห์

“ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ควรปิดตาข้างที่มีอาการ หรือใส่แว่นกันแดด ร่วมกับใช้น้ำตาเทียม และปิดตาเวลานอนเพื่อลดอาการเคืองตา ตาแดง หรือมีแผลที่แก้วตา ดังนั้นเมื่อผู้ป่วยมีอาการใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของอาการ เพราะผลของการรักษาจะได้ผลดีถ้าได้เริ่มรักษาภายใน 3 วัน” นพ.ธนินทร์ กล่าว

‘แทยอน SNSD’ เตรียมจัดคอนเสิร์ตในไทย 12-13 สิงหาคมนี้ เปิดขายบัตร 15-16 กรกฎาคมนี้ แฟนคลับวอมนิ้วให้พร้อม!!

(13 ก.ค. 66) SM True ยืนยันการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดของ ‘โวคอล ควีน’ ที่แฟนเพลงเชื่อใจอย่าง ‘TAEYEON’ ในคอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มรูปแบบครั้งที่ห้า TAEYEON CONCERT-The ODD Of LOVE in BANGKOK ในวันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 (เวลา 18.00 น.) และวันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคม 2566 (เวลา 16.00 น.) ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ยิ่งไปกว่านั้น ครั้งนี้ ‘TAEYEON’ ได้ตอกย้ำถึงพลังความนิยมของเธอในประเทศไทยอีกครั้ง ด้วยการขึ้นแท่นเป็นศิลปินหญิงเดี่ยวเกาหลีคนแรกที่สามารถจัดคอนเสิร์ตเดี่ยว ณ อิมแพ็ค อารีน่า และสามารถจัดได้ถึง 2 รอบการแสดง”

‘TAEYEON’ คือ หนึ่งในสมาชิกของเกิร์ลกรุ๊ประดับตำนานที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอย่าง Girls’ Generation โดยนอกจากการสร้างความสำเร็จในจุดสูงสุดของวงการ K-POP อย่างนับไม่ถ้วน ผ่านการทำกิจกรรมกลุ่มแล้วนั้น เธอยังได้รับความรักมากมายอย่างยาวนาน จากการทำกิจกรรมเดี่ยวที่ยืนยันถึงความมากประสบการณ์ และความสามารถอันยอดเยี่ยมในทุกด้าน ทั้งวาไรตี้, พิธีกร, พรีเซ็นเตอร์, การขึ้นปกนิตยสารชื่อดัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะศิลปินเดี่ยว แทยอนสามารถถ่ายทอดหลากหลายแนวเพลงที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองได้อย่างโดดเด่น และครองใจแฟนเพลงในทุกผลงาน เช่น I, Rain, Why, 11:11, Fine, Four Seasons, Spark, What Do I Call You, Happy, Weekend จนได้รับการขนานนามว่า “ศิลปินที่แฟนเพลงเชื่อใจและรับฟังผลงานเพลงได้” อีกทั้งในวงการ K-POP ด้วยกัน ศิลปินรุ่นน้องมากมายต่างก็ยกย่องให้เป็น ‘ศิลปินหญิงเดี่ยวต้นแบบ’ ของพวกเธอ

ผลงานล่าสุดของ แทยอน คือ อัลบั้มเต็มชุดที่ 3 ‘INVU’ ที่ปล่อยในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ประกอบด้วยแนวเพลงต่าง ๆ ตั้งแต่บัลลาด ป๊อปแดนซ์ อาร์แอนด์บี ไปจนถึงดิสโก้ ทั้งหมด 13 เพลง ภายใต้ธีมเกี่ยวกับ ‘ความรัก’ ซึ่งประสบความสำเร็จขึ้นแท่นอัลบั้มยอดนิยม เรียกกระแสตอบรับอย่างถล่มทลายไปทั่วโลก เช่น อันดับ 1 บนชาร์ตเพลงดิจิทัลและอัลบั้ม, ชนะอันดับ 1 ในรายการเพลงเกาหลีถึง 8 ถ้วยรางวัล, อันดับ 1 บนชาร์ต iTunes Top Albums ใน 23 ประเทศทั่วโลก, อันดับ 1 บนชาร์ต Digital Album Sales และมิวสิกวิดีโอเพลงเกาหลีของ QQ Music จีน ฯลฯ ไม่เพียงเท่านี้ นิตยสารชื่อดังของสหรัฐอเมริกา TIME ยังเลือกให้เป็นหนึ่งใน ‘2022 Best K-Pop Album’ พร้อมกล่าวชื่นชมว่า “ศิลปินมากประสบการณ์อย่าง TAEYEON วง Girls’ Generation ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ทำไมเธอถึงเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในวงการนี้”

นอกจากนี้ กระแสความนิยมของ แทยอน ในประเทศไทย เรียกได้ว่า ยืนหนึ่งอย่างไม่เสื่อมคลาย แถมเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่กลับมา เพราะสามารถทำลายสถิติเดิมของตัวเองได้อย่างน่าทึ่ง เช่น การเป็นศิลปินหญิงเดี่ยวเกาหลีคนแรกที่สามารถจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มรูปแบบในประเทศไทย ด้วยคอนเสิร์ต ‘TAEYEON solo concert PERSONA in BANGKOK’ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2560, การเป็นศิลปินหญิงเดี่ยวเกาหลีคนแรกที่สามารถจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มรูปแบบในประเทศไทยได้ถึง 2 รอบการแสดง ด้วยคอนเสิร์ต ’s...TAEYEON CONCERT in BANGKOK เมื่อเดือนธันวาคม 2561 และล่าสุดกับคอนเสิร์ตในรอบ 4 ปี 6 เดือนอย่าง TAEYEON CONCERT - The ODD Of LOVE in BANGKOK ที่จะจัดขึ้นในสเกลยิ่งใหญ่กว่าเดิม ทำให้เธอเป็นศิลปินหญิงเดี่ยวเกาหลีคนแรกที่สามารถจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มรูปแบบ 2 รอบการแสดง ณ อิมแพ็ค อารีน่า

สำหรับคอนเสิร์ต TAEYEON CONCERT - The ODD Of LOVE เริ่มต้นขึ้นที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ในวันที่ 3-4 มิถุนายน 2566 ต่อด้วยการทัวร์คอนเสิร์ตในแถบเอเชีย ได้แก่ ฮ่องกง วันที่ 10 มิถุนายน, ไต้หวัน วันที่ 24 มิถุนายน, ญี่ปุ่น วันที่ 8-9 กรกฎาคม, อินโดนีเซีย วันที่ 22 กรกฎาคม, ฟิลิปปินส์ วันที่ 30 กรกฎาคม 2566 และประเทศไทย วันที่ 12-13 สิงหาคม ซึ่ง แทยอน จะมาถ่ายทอดรสชาติความรักที่หลากหลายให้ทุกคนได้สัมผัส ผ่านเทคนิคการร้องเพลงชั้นสูง ร่วมด้วยความตระการตาของการแสดงและโปรดักชัน ที่จะเติมเต็มทุกอรรถรสอย่างน่าประทับใจ ตลอดจนทุกบทเพลงจากอัลบั้มล่าสุดที่จะได้รับชมเป็นครั้งแรกในประเทศไทย

เปิดจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตก่อนใคร สำหรับสมาชิก SM True MEMBERSHIP ในวันเสาร์ที่ 15 กรกฎาคม 2566 เวลา 11.00 น. – 12.00 น. เท่านั้น และสำหรับบุคคลทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม 2566 เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป ทางเคาน์เตอร์เซอร์วิสใน 7- Eleven หรือร้านค้าที่มีสัญลักษณ์เคาน์เตอร์เซอร์วิสทุกสาขาทั่วประเทศ และทางเว็บไซต์ allticket.com/event/TAEYEON_TheODDOfLOVE_in_BKK ราคา (บัตรนั่ง) : 6,500 / 6,000 / 5,500 / 4,800 / 3,800 / 2,800 / 2,000 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Counter Service Call Center 02-826-7788 หรือติดตามข่าวสารของคอนเสิร์ตทางบัญชีโซเชียล มีเดียของ SM True : เฟซบุ๊ก facebook.com/smtruethailand, อินสตาแกรม instagram.com/smtruethailand และทวิตเตอร์ twitter.com/SMTrueThailand

‘ก้อย อรัชพร’ สุดทน!! เผยความรู้สึกต่อความอยุติธรรมในประเทศ ลั่น!! แค่ใช้ชีวิตก็เหนื่อยแล้ว ยังต้องมาเจอปัญหาจากผู้มีอำนาจอีก

(13 ก.ค. 66) วันนี้แล้ว!! ที่มีการโหวตนายกฯ ทั้งคนบันเทิงและประชาชนทั้งประเทศต่างแสดงความคิดเห็น เช่นเดียวกันกับ ‘ก้อย-อรัชพร โภคินภากร’ ที่ล่าสุดเมื่อกลางดึกได้ออกมาโพสต์อินสตราแกรมส่วนตัว ‘@goyyog’ โดยระบุว่า…

"เวลาที่เราต้องบอกกับตัวเองว่า ‘ประเทศมันต้องเป็นแบบนี้แหละ’ แล้วก็ปลง ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันไม่มีอะไรที่ถูกต้อง ก้มหน้าก้มตารับกับสิ่งที่มันต้องเป็น เออนี่ก็ดีขึ้นมานิดนึงแล้วนะ แล้วก็ยอมไป แม่งโคตรจะวนลูปเลย!!!!!!!!!! มันจะต้องอีกกี่ลูปปปปปปปปปป กฎหมายที่เอื้อความไม่ยุติธรรม เอื้อทุกอย่างให้ผู้มีอำนาจบางกลุ่ม ปล่อยให้ประเทศไม่มีทางออก

เราทำอะไรได้บ้าง? ไม่รู้! เพราะคะแนนโหวตจากการเลือกตั้งยังทำอะไรไม่ได้เลย อายบ้างไหมท่าน หลายคนแค่ใช้ชีวิตก็เหนื่อยมากแล้ว มีเรื่องที่ต้องทำ แล้วต้องมาเจอกับลูปปัญหาจากท่านผู้มีอำนาจเสียเหลือเกินนี้อีก!! แต่ถึงทำอะไรไม่ได้ก็ต้องทำอะไรสักอย่าง นี่มันความอยุติธรรมแบบซึ่ง ๆ หน้า แบนมากแม่ ถึงจะยังไม่รู้ว่าทำอะไรได้ แต่สิ่งเดียวที่ทำได้แน่ ๆ คือก่นด่า!!!! พรุ่งนี้เลือกนายก รอค่ะ ท่านส.ว.และกกต ปล.ขอแทรกรูปลูกสาวบรรเทามู้ด"

‘เลยดูดี-GMMTV’ จ่อผลักดัน Soft Power ไทยสู่ตลาดสากลมากยิ่งขึ้น หลังแฟนมีต 9 หนุ่มซีรีส์ ‘My School President’ ได้ผลตอบรับเกินคาด!!

เมื่อไม่นานมานี้ จากความสำเร็จกับงานแฟนมีตติ้งที่กัมพูชาของเหล่านักแสดง จากซีรีส์สุดฮอต แฟนผมเป็นประธานนักเรียน (My School President) บริษัท เลยดูดี สตูดิโอ จำกัด ยังคงจับมือกับ จีเอ็มเอ็ม ทีวี เดินหน้า พาทั้ง 9 หนุ่ม ได้แก่ เจมีไนน์-นรวิชญ์ ฐิติเจริญรักษ์, โฟร์ท-ณัฐวรรธน์ จิโรชน์ธิกุล, วินนี่-ธนวินท์ ผลเจริญรัตน์, สตางค์- กิตติภพ เสรีวิชยสวัสดิ์, ฟอร์ด-อรัญญ์ อัศวสืบสกุล, พร้อม-ทีปกร ขวัญบุญ, กัปตัน-พีระวิชญ์ กุลกั้ง, มาร์ค-ภาคิน คุณาอนุวิทย์ และ อั๋น-ณภัทร พัชรชวลิต โกอินเตอร์อย่างต่อเนื่อง

โดยครั้งนี้บุกไปถึงประเทศสิงคโปร์ที่จัดขึ้นจำนวน 2 รอบ และได้รับการตอบรับจากแฟนสิงคโปร์และแฟนอินเตอร์ของทั้ง 9 หนุ่ม ที่มาให้กำลังใจอย่างล้นหลามเช่นเคย และจากความประทับใจทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น ส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ นั่นคือบริษัทผู้จัด โดย เอ๋-ศุภกร เหรียญสุวรรณ CEO บริษัท เลยดูดี สตูดิโอ จำกัด ได้เผยว่า “ในครั้งนี้ถือเป็นประเทศที่ 2 ที่เราได้พาน้อง ๆ ทั้ง 9 คนไปหาแฟนคลับในต่างประเทศ โดยในครั้งนี้ถือว่าเป็นความท้าทายอย่างมากที่ตัดสินใจมาที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งก่อนหน้านี้เรามีความกังวลใจว่าแฟนที่สิงคโปร์จะอินกับ กิจกรรมต่าง ๆ ที่เราจัดขึ้นมาเสิร์ฟหรือไม่

แต่สุดท้ายแล้วกระแสตอบรับที่ได้นั้น ดีกว่าที่คิดไว้มาก ๆ ทั้งแฟนสิงคโปร์และแฟนอินเตอร์ ที่มาร่วมงานทุกคนเอ็นจอยกับงานตั้งแต่ต้นจนจบ มอบรอยยิ้มและความสุขกลับมาให้กับทีมนักแสดงและผู้จัดอย่างเรามาก ๆ โดยทาง เลยดูดี สตูดิโอ มีจุดเริ่มต้นในการจัดงานแฟนมีตติ้งที่ต่างประเทศด้วยแนวคิดที่ต้องการเป็น ส่วนหนึ่งในการผลักดัน Soft Power ของไทย โดยการพาศิลปินนักแสดงออกไปสู่ตลาดต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น และนอกจากงานแฟนมีตติ้งแล้ว ทางเลยดูดี สตูดิโอ ยังมีแผนขยายไลน์ไปสู่การจัดคอนเสิร์ตในต่างประเทศ โดยเร็ว ๆ นี้  จะมีงาน Krist Solo Concert Asia Tour และปลายปี 2566 จะมีคอนเสิร์ต Side by Side ของไบร์ท-วิน ที่กัมพูชา”

ชาวต่างชาติเขียนบทความเรื่อง ‘กางเกงช้าง’ ยกเป็นไอเทมฮิต นทท. นิยมใส่เที่ยวในกรุงเทพฯ

เมื่อวานนี้ (11 ก.ค. 66) เว็บไซต์เอเชียวันของสิงคโปร์ได้นำเสนอเรื่องราวของ ‘กางเกงช้าง’ โดยระบุว่า กรุงเทพฯ ขึ้นชื่อในหลายด้าน ทั้งวัฒนธรรม อาหาร วัด และแหล่งชอปปิง แต่เชื่อว่าสิ่งที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะได้จากเมืองหลวงแห่งนี้คือ ‘กางเกงช้าง’

ทางเว็บไซต์ได้อ้างอิงจากวิดีโอของ Bangkok.explore ซึ่งนำเสนอการแต่งกายของนักท่องเที่ยวที่นิยมใส่กางเกงช้างกันเป็นอย่างมาก ทั้งชาวตะวันตกและตะวันออก มองไปทางไหนก็พบได้ง่าย

โดย ‘กางเกงช้าง’ ถือเป็นสินค้ายอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว เนื่องจากมักวางขายในร้านขายของที่ระลึก และร้านค้าขายกางเกงช้างนิยมตั้งอยู่ใกล้สถานที่สำคัญ ‘ยอดนิยม’ และ ‘มีราคาถูก’

สำหรับความคิดเห็นของชาวต่างชาติที่มีต่อวิดีโอ ส่วนใหญ่กล่าวว่ากางเกงช้างเป็นที่นิยมเพราะเนื้อผ้าใส่สบาย ท่ามกลางอากาศร้อนระอุของประเทศไทย นอกจากนี้ กางเกงช้างยังสามารถใส่เข้าชมวัด หรือสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างพระบรมมหาราชวังได้

มีชาวต่างชาติรายหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ มา 3 เดือน ได้กล่าวยืนยันว่าเนื้อหาของวิดีโอเป็นความจริง นอกจากนักท่องเที่ยวแล้ว เธอยังเห็นคนไทยหลายคนสวมกางเกงช้างด้วย

‘เจมส์ คาเมรอน’ เฉลยปริศนา ที่คนทั้งโลกสงสัยมา 25 ปี ภายใต้การทดลอง ที่ทำให้ 'แจ็ค' ต้องตายแบบไม่คาใจ

ผ่านมาถึง 25 ปีแล้ว สำหรับภาพยนตร์เรื่อง ‘ไททานิค’ สุดยอดผลงานอีกเรื่องหนึ่งที่คนทั้งโลกไม่เคยลืม จาก เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับชื่อดัง 

เชื่อว่าหลายคนที่มีโอกาสได้ดูหรือได้ย้อนกลับไปดูคงจะขัดใจไม่น้อยกับฉากเหตุการณ์ท้ายเรื่องที่ พระเอก แจ็ค ดอว์สัน (ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ) กับนางเอก โรส เดวิท บูเคเตอร์ (เคต วินสเล็ต) ลอยคออยู่ในทะเล แล้วก็เจอประตูไม้บานหนึ่ง โดย แจ็ค ดัน โรส ขึ้นไปก่อน เมื่อ โรส นอนบนประตูสำเร็จ แจ็ค ก็พยายามปีนตามขึ้นไป แต่ประตูเริ่มเอนเอียงและกระดกจน โรส เกือบตก แจ็ค เลยยอมอยู่ในน้ำ แต่ก็พยายามเกาะให้ตัวเหนือน้ำมากที่สุด แต่น่าเสียดายที่ไม่นานเขาก็แข็งตายต่อหน้าคนรัก

ฉากนี้ นำมาสูประเด็นถกเถียงจากแฟนภาพยนตร์ทั่วโลกที่ตั้งข้อสังเกตกันว่า หากช่วยกันให้ขึ้นไปอยู่บนบานประตูพร้อมกันทั้งสองคน ทั้ง แจ็ค และ โรส  อาจจะมีชีวิตรอดด้วยกันทั้งคู่ก็ได้

เชื่อว่า 'เจมส์ คาเมรอน' ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง ‘ไททานิค’ ก็คงจะรับรู้ถึงสิ่งที่แฟนภาพยนตร์คาใจ

เพราะในที่สุดเขาและทีมงานก็ได้โพสต์คลิปจำลองเหตุการณ์ของหนังออกมาเป็นวิดีโอตัวอย่างสั้น ๆ ความยาว 58 วินาที เพื่ออธิบายถึงโอกาสในการรอดชีวิตของ แจ็ค ที่ถูกหลายคนตั้งคำถาม ซึ่งโดยสรุปก็คือ เจมส์ คาเมรอน พยายามอธิบายว่า ยังไง แจ็ค ดอว์สัน ก็ไม่มีทางรอดชีวิตจากสถานการณ์ดังกล่าวได้ (ตามบท)

โดยในห้องส่งของช่อง National Geographic ที่ถ่ายทำถ่ายทอดเหตุการณ์จำลองโดยให้นักแสดงชายหญิงสองคนแต่งตัวคล้ายกับ แจ็ค – โรส พวกเขานั้นมีส่วนสูงและน้ำหนักใกล้เคียงตัวละคร นักแสดงสองคนถูกจับแช่ในสระน้ำที่มีอุณหภูมิเย็นเฉียบเท่าๆ กับทะเลในภาพยนตร์เรื่องไททานิค ซึ่งสิ่งที่เห็นคือ นักแสดงชายหญิงสองคนมีอาการหนาวสั่น และแทบไม่มีเรี่ยวแรง

เจมส์ คาเมรอน กล่าวอีกด้วยว่า ก่อนที่จะลงในมหาสมุทร แจ็ค เหนื่อยกับทั้งการวิ่งและการต่อสู้บนเรือมาประมาณหนึ่งแล้ว การลงไปในน้ำทะเลที่มีความหนาวระดับติดลบ แล้วต้องว่ายน้ำที่รอบข้างเต็มไปด้วยนํ้าแข็ง ถือเป็นเรื่องเสี่ยงตายมาก ส่วน โรส มีโอกาสรอดมากกว่าเพราะเธอมีเสื้อชูชีพ ไม่ต้องเปลืองแรงว่ายนํ้า

นอกจากนี้ยังมีการจำลองว่า ถ้า แจ็ค กับ โรส ขึ้นไปอยู่บนบานประตูพร้อมกันจะเป็นอย่างไร ซึ่งผลก็คือประตูรับนํ้าหนักไม่ไหว และค่อยๆ จมลง ข้อถกเถียงเรื่อง ประตูใหญ่พอสำหรับสองคน จึงถูกปัดตกไปทันที เพราะถึงแม้ประตูจะกว้างก็จริง แต่รับน้ำหนักมากไม่ได้

ยิ่งไปกว่านั้น การสลับกันขึ้นไปอยู่บนบานประตู ก็เสี่ยงที่จะทำให้ประตูพลิก หรือทั้งคู่อาจจะหมดแรงในการปีนขึ้นบานประตูไป เนื่องจากในคลิปดังกล่าว แค่นักแสดงชายช่วยนักแสดงหญิงให้ขึ้นไปอยู่บนบานประตูก็ยากเย็นและมีความทุลักทุเลพอสมควร อีกทั้งการอยู่ในอุณหภูมิที่เย็นแล้วสลับไปอยู่ในน้ำที่เย็นเฉียบ (-2.2 องศาเซลเซียส) อาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทันจนช็อกได้

ดังนั้นเมื่อ โรส ขึ้นไปนอนบนบานประตูได้ และแจ็คเกาะประตูไว้ คือวิธีการที่ดีที่สุดแล้วในการรักษาชีวิต มันเป็นช่วงเวลาที่ทั้งสองคนได้ใช้พลังงานไปหมดแล้ว แทบจะไม่สามารถขยับตัวได้อีก ท่ามกลางสภาพอากาศเย็นเฉียบ ซึ่งอันที่จริงแล้ว การรอดชีวิตของ โรส ก็นับเป็นเรื่องปาฏิหาริย์อย่างมากด้วย

แน่นอนว่าเมื่อคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกมา ก็มีกระแสตอบรับที่ดีมาก ตัววิดีโอมียอดการรับชมมากกว่า 10 ล้านวิว และมีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก 

แฟนๆ THE STATES TIMES มีความคิดเห็นกันอย่างไรกันบ้างเกี่ยวกับเรื่องนี้ และหากตัดประเด็นฉากจบทิ้งไป พวกคุณชอบฉากไหนในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นพิเศษ หรือประโยคเด็ดในเรื่องที่คุณยังประทับใจไม่ลืม สามารถเข้ามาพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ที่ช่องแสดงความคิดเห็นข้างล่างนี้

แต่ส่วนตัวแล้ว ชื่นชอบช่วงนี้ “I figure life’s giff and I don’t intend on wasting it.”

“ชีวิตก็คือ ของขวัญ ผมไม่ต้องการเสียมันไปเปล่า ๆ”

(แจ็คกล่าวกับบรรดาผู้สูงศักดิ์ ในงานเลี้ยงที่ชั้นหนึ่งของเรือไททานิค)

‘กาย-ฮารุ’ พาลูกๆ เปิดประสบการณ์ใช้ชีวิตที่ ‘ชนเผ่า Mentawai’ อยู่แบบ ‘ไม่มีน้ำ-ไฟ-สัญญาณโทรศัพท์’ ลั่น!! เหนื่อยจนเกือบถอดใจ

(12 ก.ค. 66) อีกหนึ่งครอบครัวสายลุย ชิลจัด แถมติดดินเรียบง่ายมาก ๆ สำหรับบ้าน ‘กาย รัชชานนท์’ และ ‘ฮารุ สุประกอบ’ ที่ล่าสุดพาลูก ๆ ทั้ง 3 คน น้องคิริน น้องไนร่า และน้องเอเดน เดินทางมาราธอนกว่า 11 ชั่วโมงเพื่อไปยังหมู่บ้าน 'ชนเผ่า Mentawai' ของประเทศอินโดนีเซีย

โดยก่อนหน้านี้ ฮารุ ได้โพสต์เอาไว้ว่า “จากไทย - มาเลย์ - อินโด 1 วัน 2 ไฟลท์บิน 
ปลายทางคือประเทศอินโดนีเซีย เมืองปาดัง ชนเผ่าเมนตาไว พรุ่งนี้เราจะต้อง นั่งเรือ 4 ชั่วโมง - รถ 50 นาที - เรือเล็กเข้าหมู่บ้าน 2 ชั่วโมง - เดินเท้าเข้าป่าอีก 1 ชั่วโมง น้ำไฟยังไม่มี สัญญาณโทรศัพท์ก็ไม่มี ถ้าครอบครัวเราไม่ได้อัปเดต 6 วัน ไม่ต้องตกใจนะพี่ ๆ เดี๋ยวเข้าเมืองอีกทีวันที่ 11 จะกลับมาเล่าให้ฟังนะ”

ล่าสุด ‘ฮารุ’ ได้อัปเดตอีกครั้ง หลังพาครอบครัวกลับเข้าเมือง พร้อมแชร์ภาพ แชร์คลิป แชร์ประสบการณ์ชีวิตช่วงเวลาที่อยู่ ‘ชนเผ่า Mentawai’ ว่า…

“กว่าจะถึงหมู่บ้าน ‘ชนเผ่า Mentawai’ ใช้เวลา 11 ชั่วโมง 4 การเดินทาง ความลำบากเต็ม 10 ให้ 100

- เริ่มจากขึ้นเรือจากท่าเรือเกาะซิเบรุต ตอน 7 โมงเช้า ถึง 12:00 (5ชั่วโมง)
- ต่อด้วยนั่งรถ 2 แถวเล็ก ถนนโคลน (1 ชั่วโมง 30)
- พักกินข้าว แล้วนั่งเรือหางยาวเข้าไปอีก (1 ชั่วโมง 30)
- เดินเข้าป่า (2 ชั่วโมง) เดินบนลำธาร ดินโคลน เหนื่อยเกือบถอดใจ แต่กัดฟันเดินต่อจนสุดท้ายถึงบ้านพักตอน 18:00

สภาพถึงบ้านคือเลอะเทอะมาก เกือบจะไม่มีแรงหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูป ความสบายที่สุดทั้งวันคือการได้อาบน้ำในลำธาร กินข้าวกับเจ้าของบ้าน และจบท้ายวันแรกหลังจากกางมุ้งคือการถือไฟฉายเดินไปเข้าห้องน้ำนอกบ้าน

การนอนแบบไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ สำหรับคืนแรก ไม่ใช่อุปสรรคเพราะเป็นการนอนหลับที่มีความสุขเหนือความสบายใด ๆ เพราะใจมันสบาย เพราะจิตนั้นเข้าใจ”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top