Friday, 4 July 2025
NEWS FEED

ป.ป.ช.พิจิตรข้องใจลงพื้นที่ตรวจงานกรมชลประทานก่อสร้างปตร.วังจิกงบ 231 ล้านใช้เวลา 7 ปีแล้วสร้างไม่เสร็จเสียที

ชาวนาลุ่มน้ำยมเมืองชาละวันชะเง้อคอรอคอยหวังได้ใช้น้ำจากโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำวังจิก อ. โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ที่กรมชลประทานจ้างผู้รับเหมาดำเนินการด้วยงบประมาณ 231 ล้านบาทเศษ แต่เจอเหตุผู้รับเหมาขาดสภาพคล่อง ละทิ้งงาน 7 ปีแล้วสร้างไม่แล้วเสร็จเสียที ล่าสุดมีคำชี้แจงรอผู้รับจ้างบอกเลิกสัญญาหรือจะขอทำต่อ 28 มี.ค. 66 มีคำตอบบอกชาวบ้านว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป

วันที่ 24 มีนาคม 2566  นายวราพงษ์ อินต๊ะโมงค์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพิจิตร  พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มงานป้องกันการทุจริต ผู้แทนนายอำเภอโพธิ์ประทับช้าง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่และเครือข่ายภาคประชาชนชมรม STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริตโพธิ์ประทับช้าง ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้ากรณีโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำบ้านวังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ที่ดำเนินการโดยกรมชลประทานตามสัญญาว่าจ้างด้วยงบ 231 ล้านบาทเศษ ระบุในสัญญาจ้างเริ่มงาน 15 พ.ย. 2559 สิ้นสุดสัญญา 1 ส.ค. 2562 แต่ปรากฎว่าจากวันนั้นถึงวันนี้ผู้รับจ้างทำงานไม่เป็นไปตามแผนงาน ทำไป หยุดไป ล่าสุดทิ้งงานขนเครื่องจักร อุปกรณ์ ออกจากพื้นที่ก่อสร้างไปจนหมดสิ้น คิดเนื้องานที่ทำแล้วประมาณ 60% และยังมีเงินที่สามารถเบิกได้อีก 80 ล้านบาท หากทำจนแล้วเสร็จ 

โดย นายธนบดี  รักสัตย์  ผอ.สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 3 เปิดเผยว่า ปัจจุบันความก้าวหน้าของโครงการอยู่ที่ 60% ซึ่งเป็นการทำงานก่อสร้างเทคอนกรีตฐานล่างที่อยู่ต่ำกว่าระดับพื้นดินเหลือแค่เพียงงานอาคารส่วนบนและการติดบานประตูแต่ด้วยสาเหตุ เนื่องจากผู้รับเหมาเดิมขาดสภาพคล่อง รวมถึงตอนที่เข้าประมูลแข่งขันก็ฟันราคาต่ำกว่าราคากลางเกือบ 80 ล้านบาท จึงทำให้เหลือครอสต้นทุนในการทำงานเพียงแค่ 231 ล้านบาทเศษ เรียกได้ว่าในส่วนที่จะเป็นกำไรหายไปจากการฟันราคา ดังนั้นเมื่อถึงตอนดำเนินงานจริงจึงเป็นเหตุขาดสภาพคล่อง ซึ่งผู้รับเหมารายดังกล่าวสร้างปัญหาในลักษณะนี้กับงานรับจ้างของกรมชลประทานในหลายแห่ง และถูกขึ้นบัญชีว่าเป็นผู้ละทิ้งงาน

แต่ในส่วนโครงการก่อสร้าง ปตร.วังจิก กรมชลประทานได้พยายามติดต่อผู้รับจ้างรายเดิมนี้เพื่อขอทราบความชัดเจนว่าจะทำต่อหรือจะยกเลิกยอมทิ้งงาน ซึ่งคงต้องรอฟังคำตอบอีกครั้งในวันที่ 28  มี.ค  2566 ซึ่งเป็นไปตามระเบียบและกฎหมายกำหนดตามมาตรการบอกเลิกสัญญา ซึ่งถ้าผู้รับเหมารายเดิมแสดงเจตนาจะขอทำงานต่อก็จะมีระยะเวลาให้ทำงานได้ยาวถึง 827 วัน และจะได้เงินค่าจ้าง 80 ล้านบาทในส่วนที่เหลือ ซึ่งตรงกันข้ามหากผู้รับเหมารายเดิมทิ้งงานกรมชลประทานก็ต้องใช้ระยะเวลาหาผู้รับจ้างรายใหม่ ภายในเดือน ก.ย. 2566 เพื่อดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 365 วัน

‘ชูวิทย์’ โต้กลับ หากได้ 10 ล้านเงียบไว้ดีกว่าไหม ยัน!! จิตใต้สำนึกรู้ดี ล่าสุดทั้ง 2 รพ. ขอคืนเงินบริจาค พร้อมส่งมอบให้ตำรวจ

เมื่อวานนี้ (23 มี.ค.66) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและนักธุรกิจกลางคืน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า 

“เงินสีเทา หากทนายตั้มบอกว่าผมได้มา 10 ล้าน และนำไปบริจาค 6 ล้าน เก็บไว้ 4 ล้าน ถ้าผมคิดจะเก็บไว้จริง ผมควรเก็บไว้มากกว่าที่บริจาคไหม? เช่น เก็บไว้ 6 หรือ 7 หรือ 8 ล้าน และนำไปบริจาคเพียงส่วนน้อยย่อมทำได้ หรือไม่ก็ไม่ต้องบริจาคเลย เก็บไว้ทั้ง 10 ล้าน แล้วหยุดพูด เงียบๆ ไป เพราะถึงอย่างไรก็ไม่มีใครรู้อยู่ดีในวันนั้นที่นำเงินมา

หากโรงพยาบาลไม่สบายใจ คืนเงินมา ผมก็ต้องนำเงินไปให้ตำรวจ ก็ไม่ทราบว่าตำรวจจะทำอย่างไรกับเงินนี้ต่อไป แต่ด้วยเจตนาดีในการนำเงินไปให้โรงพยาบาล เพื่อได้ช่วยเหลือคนเจ็บป่วย หรือคนตาย คนนำเงินมาให้ก็เป็นนายตำรวจผู้ใหญ่ที่เกษียณแล้ว และผมรู้จักมานาน จิตใต้สำนึกผมแยกแยะได้ว่า อะไรคือเงินของผม และอะไรที่ไม่ใช่ สังคมพิจารณาได้ว่าผมเป็นคนอย่างไร? การกระทำของผมย่อมมีคนเสียประโยชน์ที่พยายามเล่นงานผมทุกวิถีทาง แต่เมื่อผมตัดสินใจแล้ว เกมนี้เดิมพันด้วยชีวิตที่เหลืออยู่ครับ”

‘เสี่ยวินิจ’ จัดให้ ศึกแชมป์ชนแชมป์ลีกฝรั่งเศส ทีมแชมป์ลีกเอิง vs แชมป์กุปเดอฟร้องซ์ 5 ส.ค.นี้ ที่สนามราชมังฯ

ไทยเตรียมระเบิดศึกฟาดแข้งนัดประวัติศาสตร์ Trophee Des Champions 2023 French Super Cup 2023 เปิดสนามราชมังฯ รับทีมแชมป์ลีกเอิงปะทะแชมป์ กุปเดอฟร้องซ์ วันที่ 5 ส.ค.นี้

(23 มี.ค.66) เฟรชแอร์ เฟสติวัล เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ เอาใจคอลูกหนังฝรั่งเศส จัดศึกฟาดแข้งระดับโลก "แชมป์ ชน แชมป์ TROPHEE DES CHAMPIONS 2023 IN BANGKOK(French Super Cup 2023) ระหว่างแชมป์ลีกเอิง Uber Eats และแชมป์ กุปเดอฟร็องซ์ (Coupe de France) ฤดูกาล 2022-23 ในวันที่ 5 สิงหาคม 2566 ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ก่อนหน้านี้ การแข่งขัน TROPHEE DES CHAMPIONS ได้จัดแข่งขันมาแล้ว 2 ครั้งติดต่อกันในเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล แต่ครั้งนี้จะเป็นการแข่งขันอย่างเป็นการนัดแรกของฤดูกาลระหว่างแชมป์ลีกเอิง Uber Eats และ ผู้ชนะจาก กุปเดอฟร็องซ์ (Coupe de France) ที่สำคัญจะเป็นครั้งที่ 4 ที่ Trophee Des Champions, Ligue 1 Uber Eats’s งานระดับนานาชาติ ที่จะมาจัดในทวีปเอเชียอีกครั้ง

หลังจากที่เคยจัดมาแล้ว 3 ครั้งโดยครั้งแรกจัดขึ้นในปี 2014 ที่ กรุงปักกิ่ง ต่อมาใน ปี 2018 และปี 2019 จัดขึ้นที่ เมืองเสิ่นเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน ในปี 2023 ทาง สันติบาตฟุตบอลอาชีพแห่งชาติฝรั่งเศส (The LIGUE DE FOOTBALL PROFESSIONNEL) หรือ LFP ร่วมมือกับ บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด ของวินิจ เลิศรัตนชัย บริษัทอีเวนต์ชั้นนำของไทย ที่เคยสร้างปรากฏการณ์จัดการแข่งขันฟุตบอลแมตช์หยุดโลกเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เป็นผู้จัดการแข่งขันในครั้งนี้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 5 สิงหาคม 2566 ด้วยความหวังที่จะสร้าง French Football Festival ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีฐานแฟนฟุตบอลประมาณ 400 ล้านคน

ชื่นชมคุณหมอ ม.นเรศวร ไม่ห่วงชุดขาวเปื้อนเลือด โดดเข้าช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุทันที

โลกออนไลน์แห่ชื่นชม นายแพทย์ สุทธิลักษณ์ อุดมธนะทรัพย์ ขณะเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุโดยที่เจ้าตัวนั้นไม่สนว่าชุดขาวจะเปื้อนเลือด ชาวเน็ตยกให้เป็นฮีโร่ชุดขาว

เมื่อวันที่ 22 มี.ค. มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Hong-Li Udomthanacap" หรือ นายแพทย์ สุทธิลักษณ์ อุดมธนะทรัพย์ ได้ออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวขณะที่เจ้าตัวกำลังช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บหลังจากประสบอุบัติเหตุหลังรับปริญญาเสร็จ โดยไม่สนว่าชุดขาวจะเปื้อนเลือด

ผู้โพสต์ระบุข้อความว่า "รับปริญญาเสร็จ
ขับรถออกจากมหาวิทยาลัยนเรศวร ว่าจะพาลูกเมียไปกินข้าวเย็น เจอเคสจักรยานยนต์ล้ม ofx. lt femur กระดูกแทงออกมา ชุดปกติขาวเปื้อนแบบภูมิใจครับ ใช้วิชาแพทย์ช่วยคน

ปล.ขอบคุณ พี่ปุ้ย ชนิดา พยาบาล ER รพ.พุทธชินฯ+ทีมน้องกู้ภัย ด้วยนะครับ #แพทย์มอนอ #mecแพร่ ส่วนภรรยา (พยาบาลท้องแก่) ให้ยืนห่างๆ"

หลังจากเรื่องราวดังกล่าวได้เผยแพร่สู่โลกออนไลน์ มีขาวเน็ตแสดงความคิดเห็นพร้อมชื่นชมคุณหมอรายนี้กันเป็นจำนวนมาก เช่น ชื่นชมคุณหมอ มีจรรยาบรรณของแพทย์เต็มเปี่ยมครับ, ชื่นชมจากใจครับ, สุดยอดครับพี่หมอหลี, ขอชื่นชมค่ะคุณหมอ เป็นต้น


ที่มา : https://www.facebook.com/photo?fbid=1281866266009436&set=a.131535501042524

ผบ.ตร. ชื่นชม ตำรวจรถไฟ CPR ผู้โดยสารส่งรักษาตัว รพ.อย่างปลอดภัย และ ตำรวจ 191 ช่วยเหลือหญิงสาวที่ถูกบิดาแท้ๆ ล่วงละเมิดทางเพศ

วันนี้ (23 มี.ค.66) เวลา 11.30 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบเกียรติบัตรโครงการ “ทำดี มีรางวัล” แก่ เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟหาดใหญ่และตำรวจ 191 ให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 66 เวลาประมาณ 12.00 น.  ด.ต.ไพศาล แก้วมณี  และ ด.ต.สราวุธ เกื้อสกุล ผบ.หมู่ ส.รฟ.หาดใหญ่ กก.3 บก.รฟ. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย ได้เข้าให้ความช่วยเหลือชายไม่ทราบชื่อ มีอาการเป็นลม ชักเกร็ง และหยุดหายใจ ที่ บริเวณ ชานชาลาของสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา ได้อย่างทันท่วงที โดยทำการ CPR จนสามารถช่วยชีวิต และนำตัวส่ง รพ.เพื่อรักษาตามอาการต่อไป ปรากฏคลิปวีดีโอการช่วยชีวิตดังกล่าว ถูกส่งต่อในโลกสังคมออนไลน์

เหตุการณ์ที่ 2 เมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ.2566 เวลาประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ งานสายตรวจ 1 กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 โดย ส.ต.ท.วรชัย ศิริอัฐ และ ส.ต.ท.นฤชิต กอพงษ์ ผบ.หมู่ งานสายตรวจ 1 กก.สายตรวจ บก.สปพ. ปฏิบัติหน้าที่รถยนต์สายตรวจ น.จักรพล 103 ขณะออกปฏิบัติหน้าที่ตรวจเขตรับผิดชอบ ได้พบเด็กหญิง อายุ 13 ปี เข้ามาขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยแจ้งว่าพี่สาวของตน อายุ 17 ปี ถูกบิดาแท้ๆล่วงละเมิดทางเพศและกักขังไว้อยู่ภายในห้องพัก ซึ่งตั้งอยู่ที่ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. ทั้งนี้เด็กหญิงคนดังกล่าวยังได้แสดงกระดาษที่พี่สาวเขียนข้อความขอความช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ

ผบ.ฉก.นราธิวาส เปิดกิจกรรม พหุวัฒนธรรม ”ลงแขกเกี่ยวข้าว” สืบสานประเพณีลาซัง รักษ์วิถีถิ่น ร่วมกินข้าวใหม่ บนพื้นฐาน ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เสริมสร้างสัมพันธภาพพี่น้องชายแดนใต้

ที่ แปลงนาข้าว ตำบลมะรือโบตก อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส /ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เดินทางมาเป็นประธาน เปิดกิจกรรม พหุวัฒนธรรม ”ลงแขกเกี่ยวข้าว” สืบสานประเพณีลาซังรักษ์วิถีถิ่น ร่วมกินข้าวใหม่ บนพื้นฐานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เสริมสร้างสัมพันธภาพพี่น้องชายแดนใต้ โดยมี พันเอก ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอระแงะ นายอำเภอระแงะ ประธานองค์กรภาคประชาชนเพื่อสันติและเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดนราธิวาส กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนา หัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจน พี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ และพี่น้องประชาชนไทยพุทธ ไทยมุสลิม เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก 

ทั้งนี้ พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว  กล่าวว่า พื้นที่อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เป็นแหล่งปลูกข้าวของจังหวัด ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ มีการปลูกสืบทอดกันจนเป็นวิถีชีวิต แต่ด้วยสภาพความเปลี่ยนไป ของบริบททั้งด้านสังคมและพื้นที่ ทำให้พื้นที่ในการทำนาลดลง แต่ข้าวเป็นพืช ที่ มีความสำคัญ ในการสร้างความมั่นคงในครัวเรือนและชุมชน กระผมต้องขอชื่นชมท่านทั้งหลาย ที่รวมกลุ่มกันปลูกข้าว ร่วมกันพัฒนาการผลิต และการตลาดสิ่งที่ได้จากกิจกรรมการลงแขกเกี่ยวข้าวในวันนี้

นอกจากจะเป็นการลดต้นทุนแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมความรัก ความสามัคคี ให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ความร่วมมือของคนในชุมชน ที่จะอยู่ร่วมกันในสังคม ซึ่งมีความหลากหลายสอดคล้องกับนโยบาย ของ พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ที่ต้องการให้พี่น้อง
ประชาชนมีส่วนร่วม ในกระบวนการเสริมสร้างสันติสุขอย่างยั่งยืน และพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ก่อเกิดความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน บนพื้นฐานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จนสามารถนำมาสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข บนสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างแท้จริง

‘รัฐบาล’ เผย โพลการจัดอันดับประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก ‘บิ๊กตู่’ ปลื้ม!! ไทยขยับขึ้นติดอันดับ 60 จาก 137 ประเทศทั่วโลก

(23 มี.ค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ได้รับทราบ รายงานความสุขโลก ประจำปี 2566 โดยในปีนี้ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับที่ 60 ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก ซึ่งมีอันดับที่ดีขึ้นกว่าปีก่อน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผลการจัดอันดับรายงานความสุขโลก (World Happiness Report) ประจำปี 2023 นี้ จัดทำโดย เครือข่ายวิชาการเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Solutions Network) ขององค์การสหประชาชาติ (UN) ซึ่งได้เผยแพร่ ในวันที่ 20 มีนาคม ของทุกปี ซึ่งถือเป็นวันความสุขสากล (International Day of Happiness) โดยรายงานนี้มีการรวบรวมข้อมูล จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น Gallup World Poll บริษัทสำรวจข้อมูลระดับโลก ที่ทำการสำรวจและประเมินชีวิตโดยเฉลี่ยของประชาชนทั่วโลก ในช่วง 2563-2565 และการสัมภาษณ์ผู้คนมากกว่า 1 แสนคนใน 137 ประเทศ โดยการจัดอันดับนี้ใช้ปัจจัยสำคัญ 6 ประการในการสำรวจและให้คะแนน ได้แก่ การสนับสนุนทางสังคม รายได้ สุขภาพ เสรีภาพ ความเอื้ออาทร และมุมมองต่อการทุจริต ควบคู่กับข้อมูลทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งในปีนี้ ประเทศไทย ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่ 60 ของประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก ขยับขึ้นมา 1 อันดับ จากการจัดอันดับในปีที่แล้ว และประเทศฟินแลนด์ยังคงครองอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 

‘รฟท.’ อัปเดตความคืบหน้า รถไฟทางคู่สายใต้ หัวหิน-ประจวบฯ งานโยธาเสร็จ 100% เตรียมเปิดปี 67 พร้อมกระตุ้นการท่องเที่ยว

(23 มี.ค. 66) การรถไฟแห่งประเทศไทย รายงานความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ล่าสุดการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม. มูลค่า 5,807 ล้านบาท ซึ่งเป็น 1 ใน 5 โครงการรถไฟทางคู่สายใต้ระยะที่ 1 ได้ดำเนินการก่อสร้างงานโยธาเสร็จสิ้นครบ 100% แล้ว และพร้อมเปิดให้บริการภายในปี 2567 นี้ 

สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ มีระยะทางก่อสร้าง 84 กิโลเมตร เป็นการก่อสร้างทางวิ่งรถไฟใหม่เพิ่ม 1 ทาง ขนานไปกับทางรถไฟเดิม เป็นโครงสร้างทางรถไฟวิ่งระดับพื้นดินทั้งหมด ประกอบด้วย สะพาน 2 แห่ง สถานีรถไฟ 12 แห่ง ป้ายหยุดรถ 1 แห่ง ย่านเก็บกองและขนถ่ายตู้สินค้า (CY) จำนวน 2 แห่งที่สถานีสามร้อยยอด และสถานีทุ่งมะเม่า และงานก่อสร้างอื่นๆ เช่น งานระบบระบายน้ำ สะพานลอยคนเดินข้าม งานรั้ว งานก่อสร้างถนนยกระดับข้ามทางรถไฟ ถนนกลับรถยกระดับรูปตัวยู ถนนลอดใต้สะพานทางรถไฟ เพื่อแก้ปัญหาอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางเสมอระดับรถไฟกับรถยนต์ 

ที่สำคัญการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ การรถไฟฯ ยังได้คำนึงคงความเป็นเอกลักษณ์ ความสวยงาม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยรอบในพื้นที่ มีไฮไลต์สำคัญ เช่น สถานีรถไฟหัวหิน ได้ออกแบบสถานีให้เป็นแบบผสมผสานนำเอกลักษณ์และความสวยงามของสถานีรถไฟหัวหินเดิมมาไว้ที่สถานีหัวหินใหม่ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม โดยเมื่อสถานีแห่งใหม่เปิดให้บริการ สถานีหลังเดิมจะยังคงเปิดให้บริการควบคู่ไปด้วย

'อลงกรณ์' ขานรับข้อเสนอภาคเอกชนร่วมเดินหน้า 'ก้าวใหม่ประเทศไทย ก้าวใหม่ประชาธิปัตย์' ชูธง 12 แนวทางปฏิรูปเศรษฐกิจและการพัฒนาสร้างศักยภาพใหม่ตอบโจทย์อนาคตประเทศไทยภายใต้ยุทธศาสตร์ 'สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ'

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคฯ และประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความเห็น และข้อเสนอแนะของภาคเอกชน ที่มีต่อความคาดหวังในนโยบายของพรรคการเมืองวันนี้(23 มีนาคม 2566)ว่า

พรรคประชาธิปัตย์เปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นของทุกภาคส่วนรวมทั้งมุมมองวิสัยทัศน์ของภาคเอกชนล่าสุดเกี่ยวกับการพัฒนาประชาธิปไตย การพัฒนาประเทศและการพัฒนาเศรษฐกิจซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของพรรคประชาธิปัตย์บนหลักการ 3 ประการคือ อุดมการณ์ประชาธิปไตย นโยบายเศรษฐกิจเสรีนิยมและแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน

“พรรคประชาธิปัตย์เข้าใจในความคาดหวังของภาคเอกชนที่มีต่อนโยบายของพรรคการเมืองในการเลือกตั้งครั้งนี้ซึ่งในส่วนพรรคประชาธิปัตย์มีแนวทางนโยบายอย่างน้อย 12 ประการ เสมือนคานงัดในการสร้างจุดเปลี่ยนประเทศไทย สู่ก้าวใหม่ ไทยแลนด์ โดยพร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนโดยเฉพาะภาคเอกชน ได้แก่

1. การพัฒนาการเมืองโดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย
2. การขจัดคอร์รัปชั่น โดยการสร้างระบบธรรมาภิบาล
3. การส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าที่เสรี และเป็นธรรม ลดการผูกขาดทางเศรษฐกิจ และพลัง
งาน

4. การปฏิรูประบบราชการโดยลดอำนาจรัฐ ลดขนาดภาครัฐ 

▪มุ่งกระจายอำนาจและทรัพยากรสู่ท้องถิ่นและชุมชน (Community Empowerment) 
▪การเพิ่มบทบาทภาคเอกชนและชุมชนท้องถิ่นทางเศรษฐกิจ
▪การพัฒนาเมือง และชนบท

5. การปฏิรูปภาคเกษตร ด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรม 

▪การส่งเสริมเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ 
▪การยกระดับเกษตรรายย่อยเป็นเกษตรแปลงใหญ่ 
▪การพัฒนาระบบสหกรณ์ 
▪การส่งเสริมสตาร์ทอัพเกษตรและ เอสเอ็มอี.เกษตร 
▪การส่งเสริมอาหารแห่งอนาคต
▪และการทำตลาดเชิงรุก ทั้งออนไลน์และออฟไลน์

6. การพัฒนาโลจิสติกส์ เชื่อมไทย-เชื่อมโลก 

▪การเชื่อมระเบียงเศรษฐกิจภายในประเทศและต่างประเทศ

7. การสร้างฐานการผลิต การแปรรูปการตลาด และกระจายการลงทุนสู่ทุกภูมิภาค

▪ภายใต้ฐานใหม่ 18 กลุ่มจังหวัดโดยเฉพาะคลัสเตอร์อุตสาหกรรมเกษตร (Agroindustry)

8. การสร้างคนและการ Reskill- Upskill ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน

▪โดยเฉพาะอุตสาหกรรมใหม่ (12  S-Curves)
▪การส่งเสริมMSMEและStartup ด้วยกองทุนเอสเอ็มอี
▪และการทำงานแบบสร้างสรรค์

9. สร้างระบบธนาคาร และระบบการเงินของเศรษฐกิจฐานรากด้วย

▪ธนาคารหมู่บ้าน 
▪ธนาคารชุมชน 80,000 หมู่บ้าน และชุมชน 77 จังหวัด 
▪รวมทั้งส่งเสริมธนาคารเพื่อการลงทุนและเวนเจอร์แคปิตอล

10. ขับเคลื่อนภาคการผลิต (Real Sector) ภาคบริการภาคการท่องเที่ยวด้วยเทคโนโลยี นวัต
กรรมและซอล์ฟพาวเวอร์(Soft Power)

11. การปฏิรูปการบริการภาครัฐ

▪โดยปรับปรุง และยกเลิกกฎหมาย กฎระเบียบ ที่เป็นอุปสรรค และภาระทางการค้าธุรกิจและการบริการประชาชน

12. ส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากข้อตกลงเขตการค้าการลงทุนเสรี (FTA) และกลยุทธ์มินิ เอฟ
ทีเอ.(Mini FTA)ที่มีอยู่เดิมและข้อตกลงใหม่

▪ปูทางสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการของไทยในเวทีแข่งขันระหว่างประเทศ
▪พร้อมกับการใช้กองทุน เอฟทีเอ.รองรับผลกระทบทุกด้าน

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า นโยบายเหล่านี้เป็นการสานงานต่อ ก่องานใหม่ อย่างต่อเนื่อง ของพรรคประชาธิปัตย์ เช่น 

▪การจัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม 77 จังหวัด และศูนย์ความเป็นเลิฟเฉพาะด้าน 23 ศูนย์

▪เป็นโครงสร้างทางเทคโนโลยี และองค์ความรู้ใหม่ๆ เพื่อส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา (R&D) 
ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2563 

▪เกิดเทคโนโลยีใหม่ 800 นวัตกรรมถ่ายทอดสู่เกษตรกรและฟาร์มเกษตร

▪การส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรมเกษตรอาหารใน 18 กลุ่มจังหวัดบนความร่วมมือกับสภาอุตสาห
กรรมแห่งประเทศไทย (กรกอ.) 

▪การยกระดับเกษตรรายย่อยเป็น เกษตรแปลงใหญ่ 1 หมื่นกลุ่ม 

▪การพัฒนาอาหารแห่งอนาคต เช่น โปรตีนจากพืช จากแมลงมีกว่า 1 แสนฟาร์ม 

▪การขับเคลื่อนนโยบายดิจิทัลทรานสฟอร์เมชั่น (Digital Transformation) 

▪ปฏิรูปกระทรวงเกษตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารราชการแผ่นดิน และการบริการประชาชนจากอนาล็อค เป็นดิจิตอล

▪การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลบิ๊กดาต้า เกษตรแห่งชาติ (National Big Data Center:NABC) ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 

▪การพัฒนาโลจิสติกส์ด้วยรถไฟจีน-ลาว เปิดบริการขนส่งสินค้าได้ตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2565 

▪การปฏิรูประบบบริหารจัดการผลไม้ จนส่งออกทุเรียนผลสดสร้างรายได้ทะลุ 1 แสนล้านเป็นครั้งแรกในปี 2564 

การประกันรายได้เกษตรกรพืชเศรษฐกิจหลัก ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และปาล์มน้ำมัน

พสบ.28 รับน้อง พสบ.29 เสริมสร้างความสัมพันธ์รุ่นพี่รุ่นน้อง ให้เกิดความรักความสามัคคี เพื่อร่วมพัฒนาสังคมและประเทศชาติต่อไป

วันพุธที่ 22 มีนาคม 2566 ณ ห้องเทวกรรมรังรักษ์ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี-รังสิต พัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร (พสบ.) รุ่นที่ 28 โรงเรียนกิจการพลเรือน กรมกิจการพลเรือนทหารบก โดยนายสกนธ์ นันท์ปิติพงศ์ เป็นประธานจัดงานรับน้อง พสบ.รุ่นที่ 29 
  
โดยมีพลเอกเลิศรัตน์ รัตนวานิช สมาชิกวุฒิสภา และ พล.ท.จิรัฎฐ์ สุตาสุข เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก ให้เกียรติเข้าร่วมงาน

การจัดงานดังกล่าว เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และมิตรไมตรีอันดีระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง ให้มีความรักใคร่กลมเกลียว และเกิดความรักความสามัคคี อันจะนำไปสู่การ ขับเคลื่อนกิจกรรมร่วมกันในอนาคตต่อไป 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top