Saturday, 5 July 2025
NEWS FEED

“10 ข้อเตือนภัยประชาชน!! ช่วงเทศกาลปีใหม่” ผบ.ตร. มีความห่วงใย จัดเต็มกำลังตำรวจ ดูแลพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์  โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้รับผิดชอบสายงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม จัดเตรียมมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การรักษาความสงบเรียบร้อยและดูแลอำนวยความสะดวกด้านการจราจร เพื่อป้องกัน และลดอุบัติเหตุในห้วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ 2565

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.64 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีการประชุมกำชับสั่งการเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในห้วงวันหยุดยาวปีใหม่ 2565 และกำชับสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศ ดูแลพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด เพื่อลดความเสียหายจากอาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้นในห้วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมทั้งได้จัดทำ

“10 ข้อเตือนภัยประชาชน ช่วงเทศกาลปีใหม่” ดังนี้ 

1. ไม่ประดับสวมใส่ทรัพย์สินมีค่า

2. สำรวจทรัพย์สิน และล็อกประตูหน้าต่างที่พัก

3. เจ้าของผู้ประกอบการตรวจสอบความพร้อมเจ้าหน้าที่และกล้องวงจรปิด

4. หลีกเลี่ยงการใช้บริการตู้เอทีเอ็มที่อยู่บริเวณเปลี่ยว

5. ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด

6. ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในขณะขับรถ

7. ไม่ใช้โทรศัพท์ในขณะขับรถ

8. ระมัดระวังในการจุดพลุ

9. กรณีพบเห็นบุคคลที่สงสัยว่าจะเป็นคนร้าย ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่

10. กรณีพบเหตุด่วนเหตุร้าย แจ้ง 191 หรือ 1599 หรือหมายเลขโทรศัพท์สถานีตำรวจ

 

‘พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข’ ผบ.ตร เดินทางมาตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญข้าราชการตำรวจ ในสังกัด ภ.จว.เลย

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 , พล.ต.ต.เนติพงศ์ ธาตุทำเล รอง ผบช.ภ.4 , พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส. ภ.4 และคณะ ฯ โดยมี พล.ต.ต.สุรชัย สังขพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เลย และข้าราชการตำรวจ ในสังกัด ภ.จว.เลย และ ข้าราชการตำรวจหน่วยร่วมปฏิบัติในพื้นที่ เข้าร่วมรับการตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญข้าราชการตำรวจ

"ผบช.ภ.7" จี้!ตำรวจในสังกัดฝึกทบทวน ยิงปืนต่อสู้ทางยุทธวิธี ลดความเสี่ยงขณะเผชิญเหตุ

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.64 ที่สนามยิงปืน ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 7 (ไพรสะเดา)  อ.ปากท่อ  จว.ราชบุรี พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่าจากที่ได้สั่งการให้มีการฝึกทบทวนชุดปฏิบัติการพิเศษ(อินทรีย์ 7) อย่างต่อเนื่องนั้น  

ในวันนี้ได้นำข้าราชการตำรวจในสังกัด กก.ปพ.บก.สส.ภ.7 จำนวน 30 นาย ร่วมฝึกซ้อมทบทวนทักษะการยิงปืนในระบบต่อสู้ เพื่อให้เกิดความชำนาญ และเสริมสร้างความมั่นใจ สามารถนำความรู้ และเทคนิคต่าง ๆ ที่ได้ไปใช้ปฏิบัติงานทางยุทธวิธีตำรวจ ในการตรวจค้น จับกุม และการต่อสู้ระยะประชิด ได้อย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผลสูงสุด และลดความเสี่ยงในการปฏิบัติหน้าที่ตำรวจอย่างมืออาชีพ

ดร.อนันต์ ชี้ ซิโนแวค 2 เข็ม บูสด้วยไฟเซอร์ กัน "โอไมครอน" ได้ดี

ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา เผย ผลวิจัย ชี้ สูตร ซิโนแวค 2 เข็ม บูสเตอร์โดสด้วย 'ไฟเซอร์'​ สามารถป้องกัน 'โอไมครอน' ได้ผลดีมาก

จากเฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana โดย ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้โพสต์ระบุว่า... 

เลือดข้นกว่าน้ำ..!!! ทหารผ่านศึก ประกาศยืนเคียงข้าง นายกฯ เช่น ในสนามรบ  พร้อมมอบรูปสมเด็จพระพันปีหลวง ประดับยศพันเอก เป็นที่ระลึก  

ที่องการสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เข้าร่วมการประชุมองค์การสงเคราะห์ทหารผ่าน โดยมีทหารผ่านศึกที่ผ่านภารกิจภาคสนาม เช่น สงครามเวียดนาม มารอรับและให้กำลังใจ พร้อมมอบ รูปที่ระลึก ซึ่งเป็นภาพการปฏิบัติงานของพลเอกประยุทธ์ ในห้วงที่รับราชการทหาร โดยมี รูปภาพสำคัญ คือ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ประดับยศพันเอก (พ.อ.) ให้พล.อ.ประยุทธ์ 

โดยช่วงหนึ่ง ทหารผ่านศึกที่มายืนรอรับและได้ให้กำลังใจ นายกรัฐมนตรี ในการปฏิบัติงานเพื่อบ้านเมือง ว่า ขอให้สู้ๆ ต่ออุปสรรคปัญหา เพื่อสถาบันฯ และประชาชน รวมทั้งขอให้ดูแลทหารผ่านศึกและครอบครัวด้วย  และพวกเราพร้อมสนับสนุนท่าน ดั่งเหมือนอยู่ในสนามรบ จะไม่ทอดทิ้งกัน เลือดย่อมเข้มข้นกว่าน้ำ   

ศาลยกฟ้องคดีซิโน-ไทย ฟ้องหมิ่นวัชระเรียก 5 ล้าน กรณีตั้งคำถามบริษัทมีมาตรฐานหรือไม่จากกรณีขอขยายเวลาก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ถึง 4 ครั้ง 1,864 วัน

นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 64 เวลา 9.30 น. ที่ห้องพิจารณา 403 ศาลอาญากรุงเทพใต้ คดีอาญาหมายเลขดำที่ อ. 233/2564 ระหว่าง บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) โดยนายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้มีอำนาจโจทก์ กับนายวัชระ เพชรทอง  จำเลย คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ และเป็นผู้รับจ้างก่อสร้างสัปปายะสภาสถาน (รัฐสภาแห่งใหม่) ให้แก่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ตามสัญญาก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่พร้อมอาคารประกอบ สัญญาเลขที่ 116/2556 ลงวันที่ 30 เม.ย. 56 ค่าก่อสร้าง 12,280 ล้านบาท ต่อมาเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 64 จำเลยได้หมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่ 3 โดยน่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จโดยวิธีการโฆษณา

โดยจำเลยได้นำป้ายข้อความว่า "สัญญาก่อสร้าง 900 วัน  ขยายเวลา 4 ครั้ง 1,864 วัน รวม 2,764 วัน ยังสร้างไม่เสร็จ บริษัทมีมาตรฐานหรือไม่" ขึ้นประกอบการแถลงข่าวต่อผู้สื่อข่าวที่รัฐสภา การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย   ข้อความที่ว่า "บริษัทมีมาตรฐานหรือไม่" เป็นตัวอักษรสีแดงเป็นการชี้นำให้ผู้ที่พบเห็นข้อความดังกล่าวเข้าใจว่าโจทก์ไม่มีมาตรฐานจึงขยายหลายครั้ง   ศาลพิเคราะห์ข้อความในส่วนดังกล่าว จะเห็นได้ว่าข้อความดังกล่าวเป็นประโยคคำถามในลักษณะเป็นการตั้งข้อสังเกตแต่เพียงเท่านั้น มิใช่เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงอย่างชัดเจนว่าโจทก์เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่ไม่มีมาตรฐานจนเป็นเหตุให้ต้องขยายระยะเวลาก่อสร้างถึง 4 ครั้งแต่อย่างใด กรณีจึงยังมิอาจถือได้ว่าเป็นการใส่ความโจทก์ ประกอบกับข้อความที่ปรากฏในป้ายของจำเลยจะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทหรือไม่ ต้องพิจารณาตามความรู้สึกของวิญญูชนทั่วไปเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาว่าข้อความดังกล่าวถึงขั้นทำให้ผู้ถูกหมิ่นประมาทน่าจะเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังหรือไม่ มิใช่พิจารณาตามความรู้สึกของผู้ถูกหมิ่นประมาทแต่ฝ่ายเดียว  

เมื่อพิเคราะห์ข้อความที่ปรากฏในป้ายข้อความโดยรวมซึ่งเป็นข้อความที่มิได้ระบุหรือสื่อให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าโจทก์เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง อีกทั้งยังมีลักษณะเป็นเพียงตั้งคำถามเชิงสังเกตโดยปราศจากการยืนยันข้อเท็จจริงแน่ชัดดังที่ได้วินิจฉัยประกอบกับข้อความในส่วนที่ว่า "สัญญาก่อสร้าง 900 วัน ขยาย 4 ครั้ง 1,864 วัน รวม 2,764 วัน" นายสุทธิพล พัชรนฤมล (ผู้อำนวยการโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ของบริษัทซิโน-ไทยฯ) พยานโจทก์ก็เบิกความรับว่าเป็นความจริง ส่วนข้อความในส่วนที่ว่า "บริษัทมีมาตรฐานหรือไม่" แม้นายสุทธิพล จะเบิกความว่าการขยายระยะเวลาก่อสร้างเป็นคนละกรณีกับการที่โจทก์จะมีมาตรฐานหรือไม่  แต่ลำพังข้อความในส่วนดังกล่าวก็ยังไม่ถึงขนาดที่น่าจะทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ฟ้องโจทก์จึงยังไม่มีมูลที่จะประทับฟ้อง และเมื่อคดียังมิอาจประทับฟ้องได้แล้ว ศาลนี้ย่อมไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีส่วนแพ่งเช่นเดียวกัน  พิพากษายกฟ้องและไม่รับฟ้องในคดีส่วนแพ่ง คืนค่าขึ้นศาลในส่วนแพ่งทั้งหมดให้แก่โจทก์ 

กองทัพเรือ โดย ‘ทัพเรือภาคที่ 1’ นำร่องปลูกหญ้าทะเล เพื่ออนุบาลสัตว์น้ำ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

กองทัพเรือ โดยทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมกับ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ และศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก นำร่องปลูกหญ้าทะเล ในโครงการฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเล บริเวณหาดนภาธาราภิรมย์ กิจการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ กองการบินทหารเรือ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง หลังจากที่ทำการสำรวจพื้นที่ฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเล มาแล้วก่อนหน้านี้

กิจกรรมนำร่องปลูกหญ้าทะเลในวันนี้ ได้รับเกียรติจาก นาย สุเทพ เจือละออง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก เป็นผู้วางแผนและกำกับการปลูก โดยมีนักดำน้ำจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่ร่วมโครงการ จำนวน 15 นาย มาร่วมกันดำน้ำแบบ Scuba ปลูกหญ้าทะเลชนิด “กุ้ยช่ายเข็ม” (Halodule pinifolia) จำนวน 5,000 กอ ด้วยวิธี “ย้ายปลูก” ในทะเลพื้นที่ 3 ไร่ ห่างจากชายฝั่งของหาดนภาธาราภิรมย์ กิจการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ กองการบินทหารเรือ ประมาณ 500 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมแก่การเพาะพันธุ์ และขยายพันธุ์ของหญ้าทะเล เนื่องจากหาดนภาธาราภิรมย์อยู่ติดกับคลองบางไผ่ โดยคลองจะพัดพาเอาตะกอนแร่ธาตุ และสารอาหารอันอุดมสมบูรณ์ ลงสู่ทะเลในบริเวณดังกล่าว ทำให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเลเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับในช่วงเดือน มกราคม 2565 นั้น หน่วยงานต่าง ๆ ที่ร่วมโครงการฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเล จะมีการจัดกิจกรรมเชิงอนุรักษ์ และมีการติดตามการเจริญเติบโตของหญ้าทะเล ที่ปลูกในวันนี้ เพื่อขยายผลโครงการต่อไป

 

กองทัพเรือโดย ทัพเรือภาคที่ 3 ช่วยกู้เรือประมงจมกลางทะเล

นาวาเอก เชษฐา คุ้มเจริญ ผู้ช่วยโฆษกทัพเรือภาคที่ 3 ได้แถลงข่าว ถึงการช่วยเหลือเรือประมงจมน้ำกลางทะเล จ.สตูล ว่าเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา พลเรือโท สมพงษ์ นาคทอง ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ได้จัดหน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเล กองทัพเรือ เกาะหลีเป๊ะ (นรภ.ทร.เกาะหลีเป๊ะ) จัดกำลังพลพร้อมเรือยางท้องแข็ง (RIB) ให้ความช่วยเหลือชาวประมงในการกู้เรือประมงสีนิล 7 ที่ประสบเหตุจมกลางทะเลสตูล โดยลูกเรือ 7 คนได้รับช่วยเหลือขึ้นจากน้ำและกลับเข้าฝั่งอย่างปลอดภัย ทั้งนี้เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา ได้ลากเรือดังกล่าวมาเกยหาดที่บริเวณชายฝั่งแหลมเตะปัน ท่าเรือปากบารา จังหวัดสตูล เป็นที่เรียบร้อย

ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.64 ได้ระดมกำลังพล นรภ.ทร.เกาะหลีเป๊ะ ทั้งหน่วยร่วมกับเจ้าของเรือ นำเครื่องสูบน้ำที่ได้รับการสนับสนุนจากเรือ ต.996 มาทำการสูบน้ำออกจากตัวเรือ เพื่อกู้เรือนำกลับไปซ่อมแซม ตั้งแต่เช้าจนถึงเวลาพลบค่ำ ทำให้ระดับน้ำในเรือลดลง และสามารถกู้เรือที่จมน้ำได้ในที่สุด

เพื่อผู้พิทักษ์ป่าไทย “มูลนิธิสหชาติ” ผนึกกำลังกัลยาณมิตร มอบชุดลาดตระเวนพร้อมอุปกรณ์การดำรงชีพ แก่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าศรีน่าน ที่ช่วยปกป้องป่าต้นน้ำของประเทศ

ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติศรีน่าน อ.นาน้อย จ.น่าน มูลนิธิสหชาติ นำโดย พระชายกลาง อภิญาโณ ประธานมูลนิธิ พร้อมญาติธรรมสายบุญ เป็นสะพานบุญส่งมอบชุดลาดตระเวนลายพราง พร้อมอุปกรณ์เป้สนาม รองเท้าบู้ทคอมแบต เครื่องหมายติดเสื้อ ที่ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท บางกอก ไอวีเอฟเซ็นเตอร์ โดยนายแพทย์วิวรรธน์ ชินพิลาศ  พร้อมสิ่งของเครื่องใช้ในการดำรงชีพ จาก  บริษัท แลคตาซอย จำกัด บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (Lotus) การเคหะแห่งชาติ และ บริษัท สหธาราวัฒน์ จำกัด ร่วมสนับสนุนผลิตภัณฑ์ โดยมี นายบัณฑิต ฉิมชาติ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติศรีน่าน นำทีมรับมอบ 

จากนั้นเดินทางยังจุดที่สอง ที่หน่วยอนุรักษ์และจัดการต้นน้ำ บ้านห้วยสามสบ อ.นาน้อย เพื่อมอบผ้าห่ม พร้อมอุปกรณ์เครื่องใช้จำเป็น แก่ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ และผู้สูงอายุ พร้อมมอบข้าวสาร อาหารแห้ง กระเป๋า ผ้าขนหนู ตุ๊กตา ขนม แก่เจ้าหน้าที่ และเด็กๆ โดยมี นายธงชัย เปาอินทร์ อดีตหัวหน้าหน่วยอนุรักษ์ต้นน้ำห้วยสามสบ พร้อม นายสมพล จินดาคำ หัวหน้าหน่วยอนุรักษ์และจัดการต้นน้ำห้วยสามสบ ร่วมรับมอบในครั้งนี้ 

จุดสุดท้าย ประธานมูลนิธิสหชาติ นำคณะสายบุญ ลงพื้นที่ยังฝายกั้นน้ำ ตั้งอยู่บริเวณ หมู่บ้านน้ำปี้ อ.เวียงสา เพื่อส่งมอบท่อน้ำ PVC ในการนำน้ำจากฝายเชื่อมต่อส่งให้ชาวบ้าน นำไปใช้ในการอุปโภค บริโภค และทำการเกษตร ซึ่งมีความยาว 100 เมตร พร้อมทั้งมอบ ผ้าห่ม อาหารแห้ง กระเป๋า ผ้าขนหนู ตุ๊กตา และขนม แก่ชาวบ้านและเด็กๆอีกด้วย

'อ.เจษฎา' ไขข้อข้องใจ​ 'เถ้ากระดูกสีชมพู'​ ยัน!! เกิดขึ้นได้ไม่ผิดธรรมชาติ

รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจ 'อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์'​ หลังมีข่าวการฌาปนกิจศพ คุณอ๊อด คีรีบูน แล้วพบว่า เถ้ากระดูกมีเป็นสีชมพู​ ว่า... 

ตรงนี้มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ สามารถเกิดขึ้นได้จากปฏิกิริยาเคมีของสารที่อยู่ในกระดูก ไม่ใช่สิ่งที่ผิดธรรมชาติ อิทธิปาฏิหาริย์แต่อย่างไร

ดูคำอธิบายจากกรณีข่าวเก่า (https://www.newtv.co.th/m/news/?id=70303) ที่ผมไปให้ข้อมูลเอาไว้ ที่ด้านล่างนี้นะครับ

"ดร.เจษฎา" ไขข้อข้องใจหลังพิธีฌาปนกิจพบ "อัฐิ" สีชมพู ยันเกิดขึ้นได้ไม่ผิดธรรมชาติ

เมื่อวันที่ 26 พ.ย. จากกรณี เด็กชายณัฐภัทร นำตระกูลวัฒน์ หรือน้องไตเติ้ล อายุ 8 ปี 8 เดือน 18 วัน ซึ่งเป็นเด็กพิเศษตั้งแต่แรกเกิด เสียชีวิตด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด อาการปอดบวม และอาการทางสมอง ทางครอบครัวจึงตั้งบำเพ็ญกุศลสวดอภิธรรม 3 คืน ก่อนประกอบพิธีฌาปนกิจ 

แต่ปรากฏเหตุอัศจรรย์หลังพบว่า อัฐิของน้องไตเติ้ล เป็นสีชมพู เมื่อข่าวแพร่สะพัดออกไปชาวบ้านจึงมาขอดูอัฐิ ก่อนวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา โดยเชื่อว่าเด็กบริสุทธิ์ และมีบุญ เถ้ากระดูกจึงเป็นสีชมพู และเชื่อว่าน่าจะให้โชคลาภ ครอบครัวควรเก็บรักษาไว้ให้ดี

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายหลักการทางวิทยาศาสตร์ถึงที่มาของอัฐิเถ้าที่ถูกเผาแล้วเป็นสีชมพู ว่า สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top