Tuesday, 14 May 2024
THE STATES TIMES TEAM

คนเขาดูออก แบบนี้ต้องใช้กฎหมาย

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมว่า ทุกคนทราบเจตนาของแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งไม่ใช่การเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เพราะถ้าจุดหมายคือประชาธิปไตยผู้ชุมนุมต้องมีความจริงใจในการทำอย่างไรให้มุ่งสู่ความเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น

 

ซึ่งขณะนี้ทางด้านรัฐสภาเองก็ได้พิจารณาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทางผู้ชุมนุมก็ควรแสดงความเห็นตั้ง สสร. เพื่อจะได้ดำเนินการยกร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น แต่ดูเหมือนผู้ชุมนุมไม่ได้สนใจในประเด็นสำคัญนี้ กลับมุ่งใช้ถ้อยคำหยาบคาย ก้าวล่วง จาบจ้วงสถาบัน ซึ่งประชาชนมองออกว่าเป็นจุดมุ่งหมายหลักของแกนนำผู้ชุมนุม

นายราเมศ ยังกล่าวต่อว่า “นี่คือสิ่งที่ทุกคนรับไม่ได้  นับวันยิ่งเหิมเกริม ทำสิ่งที่ไม่สมควร คนไทยไม่สามารถรับได้ การที่นายกรัฐมนตรีได้มีหลักในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด คือหลักการที่ถูกต้อง ต้องสนับสนุน เพราะการกระทำความผิดชัดเจน เข้าองค์ประกอบกฎหมาย ไม่มีทางอื่นใดเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาด ผู้ชุมนุมควรยุติการกระทำต่างๆ ใช้สติปัญญาในการคิด อย่าคิดว่าประเทศนี้เป็นของใครคนใดคนหนึ่ง หรือของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ประเทศเป็นของคนไทยทุกคน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คือสิ่งที่คนไทยยึดมั่นตลอดระยะเวลาที่ผ่าน หากมีใครคิดมาทำลาย เชื่อว่าคนไทยไม่มีใครยอม ความคิดและการกระทำของผู้ชุมนุมที่แสดงออกมา เคยบอกไปแล้วว่าเราอยู่คนละข้างกัน เจ้าหน้าที่จึงต้องมีความจำเป็นที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่เช่นนั้นความวุ่นวายก็จะตามมา”

 

บทบาทใหม่ของ 'อริยะ พนมยงค์'

กลายเป็นอีกคนที่น่าจับตามามองในช่วงนี้!! สำหรับ 'อริยะ พนมยงค์' อดีต Head ของ Google ประเทศไทย, อดีตกรรมการผู้จัดการบริษัท LINE ประเทศไทย

.

ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง CEO และผู้ก่อตั้งบริษัท Transformational พ่วงบทบาทใหม่ในการเข้ามาเป็นผู้นำทัพ Digital Transformation ให้กับสยามพิวรรธน์ โดยจะเข้ามาปรับคอนเซ็ปต์ Digital Experience ให้แตกต่างและไม่เหมือนใคร ผ่านช่องทาง ‘ออมนิชาแนล’

อย่าเสีย ‘เพื่อน’ เพียงเพราะ ‘การเมือง’

ไม่มีสถานการณ์ไหนจะร้อนแรงเฟร่อเท่าเรื่องมุมมองทางการเมือง โดยเฉพาะมุมมอง ‘ที่เห็นต่าง’

 

พฤติกรรมหนึ่งที่หลายคนเคยเจอ คือการได้อ่านสเตตัสในมุมมองตรงกันข้ามกับสิ่งที่ตัวเองคิด (หรือชื่นชอบ) อ่านมากๆ แล้วก็คันหัวใจ คันปาก และคันนิ้ว ต้องพิมพ์ใส่ในคอมเม้นเพื่อเถียง พอเถียงไป เขาก็เถียงกลับ งั้นเถียงต่อ มันก็เถียงกลับมาอีก เริ่มซัดกันนัว ระอุ ดุเดือด รู้ตัวอีกที ‘อ้าว! นี่เพื่อนกรูเอง!’

 

บรรยากาศตอนนี้ เราทะเลาะกับเพื่อน หรืออิหยังวะกับเพื่อน เพราะเรื่องการเมืองกันมากมาย ไม่รู้มีโพลสำนักไหนเคยไปทำแล้วหรือยัง แต่เชื่อว่า พฤติกรรมยอดฮิตกับเรื่องเห็นต่างทางการเมืองที่มาเป็นอันดับ 1 คือ การกด Unfriend (เพื่อนซะเล้ย!)

 

กด Unfriend ทำไม?

 

กดเพื่อให้รู้ว่า โกรธ ไม่พอใจ ไม่ชอบที่แกคิดไม่เหมือนกับฉัน เป็นชั่วอารมณ์แวบเดียวที่อยากจะแสดงความไม่พอใจใส่เพื่อน แต่พอรู้ตัวอีกที อ้าว! ยุ่งล่ะ พรุ่งนี้เดี๋ยวก็ต้องไปเจอมันที่โรงเรียน ที่มหา’ลัย หรือที่ทำงาน แล้วฉันจะทำตัวยังไง ฉันจะมองหน้าแกยังไง เคยมีเคสหนักๆ กำลังจีบหญิงที่หมายปอง แต่ฝ่ายหญิงดันอยู่คนละขั้วการเมือง ไปเผลอกด Unfriend งานนี้จบ!

 

จะบอกว่า เรื่อง Unfriend ไม่ใช่เรื่องผิดบาปอันใดหรอก ด้วยยุคสมัยนี้ มันมีพื้นที่ที่ทำให้เราไม่ต้องไปเจอกันต่อหน้า เราถึงแสดงออกผ่านทางโลกเสมือนจริง ใช้สัญลักษณ์บางอย่างเพื่อแสดงให้ฝ่ายตรงข้ามรับรู้ มันก็ดีที่ไม่ต้องมาทะเลาะกันแบบตรงๆ แต่ในมุมกลับกัน มันก็ทำให้เราใจร้อน ใจเร็ว ตัดสินใจด้วยอารมณ์แค่แวบเดียว

 

เพื่อนบางคนคบกันมา 10-20 ปี เคยทะเลาะกับมันมาไม่รู้กี่ครั้ง แต่ทุกครั้งเมื่อได้พูดคุย ขอโทษขอโพยกัน (ด้วยเสียงและการเจอตัวเป็นๆ) ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนก็ยังอยู่คงเดิม แต่พอมีสื่อโซเชี่ยลมีเดียที่ไม่ต้องทำให้เราเจอกันตรงๆ แบบเห็นหน้า เราก็หาได้แคร์เพื่อนไม่ เขียนอะไรไม่เข้าหูเข้าตา กด Unfriend แม่มซะเลย!

 

ถามว่าแล้วจะให้ทำยังไงถ้าไม่กด Unfriend?

 

ก็ปุ่มในโซเชี่ยลมีตั้งเยอะ ลองกด Hide ไหม? หรือกด Unfollow ไปสักพักก็ได้ วิธีนี้ช่วยได้ทั้งเราและเพื่อน คือเราจะไม่เห็นสเตตัสการเมืองของเพื่อนให้รำคาญใจ และเพื่อนก็ไม่ต้องมารู้ว่าเราหงุดหงิด ความน่าแปลกใจต่อจากนั้นก็คือ เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน เราจะลืมไปเลยว่าเคยทำอะไรไว้ แล้ววันหนึ่งจู่ๆ ก็นึกถึงสเตตัสของเพื่อนขึ้นมา ‘เออ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เห็นมันโพสต์บ้าๆ บอๆ อะไรเลยเน๊อะ’ ก็แหงสิ! เราไป Unfollow เขาอยู่พักใหญ่จนลืม เมื่อนึกขึ้นมาได้อย่างนั้น เราก็จะกลับไปติดตามเพื่อนดังเดิม (ด้วยความคิดถึง)

 

ปัญหาบางอย่าง อยู่ที่เราจัดการกับมันอย่างไร และที่สำคัญ มันยังฝึกให้เราเติบโตขึ้น โตด้วยวิธีคิด โตด้วยสติ และโตด้วยปัญญา  โลกโซเชี่ยลเหมือนการบ้านโจทย์ใหญ่ ที่ให้เราได้เรียนรู้ ได้แก้ปัญหา และได้เห็นการหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงของมัน มองอย่างเข้าใจ และมองให้เป็นประโยชน์ เราก็จะได้ประโยชน์จากมัน

 

ส่วนเรื่องการเมืองกับเพื่อนนั้น บางทีไม่ต้องคิดซับซ้อนเหมือนโลกโซเชี่ยล ถามง่ายๆ ว่า การเมืองอยู่กับเรามากี่ปี? แล้วเพื่อนอยู่กับเรามากี่ปี? เพื่อนยืมเงินได้ พาไปเลี้ยงข้าว เลี้ยงเหล้าได้ แต่การเมืองพาเราไปแบบนั้นได้ไหม ยืมเงินการเมืองได้ไหม แล้วที่สำคัญ การเมือง (ที่เราชื่นชอบ) ก็ไม่ได้อยู่กับเราไปตลอด เพราะสักวันหนึ่ง ตัวละครใหม่ๆ ก็จะเกิดขึ้น

 

แต่สำหรับเพื่อน เป็นตัวละครในชีวิตที่จะอยู่กับเราไปจนวันตาย...

 

 

   

23 พฤศจิกายน...วันแห่งการฉลองความสามารถพิเศษของตัวเอง

เพราะคนทุกคนล้วนมีความสามารถ และมีศักยภาพเป็นของตัวเอง เพียงแต่ความสามารถนั้นจะถูกได้รับการชื่นชม หรือถูกนำไปให้ผู้อื่นรับรู้ในวงกว้างหรือไม่

 

แต่สาระสำคัญของความสามารถจริงๆ นั้น อาจไม่ใช่แค่ต้องเป็นที่ยอมรับของคนอื่น แต่ความสามารถที่เรามี ควรที่จะต้องนำไปพัฒนาตัวเอง แม้เป็นเรื่องเพียงน้อยนิด แต่อย่างน้อย...มันก็ทำให้เราได้ ‘ภูมิใจ’ ในความสามารถของตนเอง

 

เกริ่นมาเยิ่นยาว เพราะกำลังจะบอกคุณว่า วันนี้ 23 พฤศจิกายน (ของทุกปี) ถูกกำหนดให้เป็น ‘วันแห่งการฉลองความสามารถพิเศษของตัวเอง’ ฟังชื่อวันคงรู้สึกแปลกหู วันอะไรแบบนี้ก็มีด้วยเหรอ? ก็มีดิคร้าบ! วันนี้ถูกตั้งขึ้นมาในปี ค.ศ. 2005 ด้วยจุดประสงค์ของการให้ความสำคัญกับทักษะความสามารถของมนุษย์นั่นเอง

 

ไม่ว่าคุณจะกลั้นหายใจดำน้ำได้นานสุดๆ หรือคิดเลขได้เร็วปานรถไฟความเร็วสูง หรือถักนิตติ้งได้เร็วและนานเป็นวันๆ แม้แต่แค่เป่านกหวีดทางจมูกได้ ทุกอย่างล้วนเป็นความสามารถเฉพาะตัว ที่ในวันนี้ เราสามารถบอกกับคนทั้งโลกได้ว่า เฮ้ย! ข้าก็มีของดีนะเฟ้ยยย!

 

กิจกรรมในวันนี้ยังเชิญชวนให้ทุกๆ คนได้ถ่ายภาพความสามารถของตัวเอง แล้วอัพโหลดลงยูทูบเพื่อให้คนอื่นๆ ได้เห็นถึงความสามารถของเราอีกด้วย เอาล่ะ เขียนมาขนาดนี้แล้ว ถ้าวันนี้มีเวลาว่าง ลองมองหาความสามารถของตัวเอง แล้วโชว์ให้คนอื่นดูสักหน่อย บอกโลกให้รู้ว่า เราเองก็มีดี จัดไป!

 

อ้างอิง: https://www.daysoftheyear.com/days/celebrate-your-unique-talent-day/

มีทอง...ก่อนมีผัวไหม?

แต่ก่อนเคยมีคนพูดกันว่า ‘มีทองเท่าหัว ไม่เท่าเสียผัวให้ใคร’ แต่มาวันนี้คงต้องเปลี่ยนเป็น ‘มีทองเท่าหัว ไม่มีผัวก็ได้’

นั้นก็เพราะหากย้อนไปเมื่อ 50 กว่าปีก่อน เงิน 30,000 บาท สามารถกวาดทองมากองเก็บไว้กับตัวได้ร่วม ๆ 70 บาท (ทอง) ซึ่งใครที่ซื้อไว้ตอนนั้น และยังไม่ปล่อยขาย ตอนนี้คงรวย ๆๆ

แต่ตอนนี้ต้องบอกว่าเงิน 30,000 บาท ดูเหมือนจะแตะทองคำไม่ได้เลยสักบาท!!

เหตุผลที่เป็นเช่นนั้น เพราะปัจจัยด้าน ‘อัตราเงินเฟ้อ’ หรือ ภาวะที่ราคาของสินค้าหรือการบริการในช่วงระยะเวลาหนึ่งในระบบเศรษฐกิจมีราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง จนทำให้ ‘ค่าของเงิน’ ที่เราถืออยู่ลดลงไปด้วย และนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่มีผลต่อราคาทองคำในแต่ละยุคไปโดยปริยายเช่นกัน

มีกันยัง? แอปแปลภาษาเหมียว

เมี้ยว!! มีของเล่นมาให้บรรดาทาสแมวได้สนุกกันอีกแล้ว เมื่อล่าสุด มีการเปิดตัวแอปชื่อ ‘MeowTalk’ เป็นแอปที่เอาไว้แปลเสียงร้องของเจ้าเหมียวของเราว่า มันกำลังหมายความว่าอย่างไร

แอปฯ ตัวนี้มีระบบประมวลผลด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ซึ่งเบื้องต้นระบบได้ทำการประเมินค่าเสียงของเจ้าเหมียวเพื่อแปลออกมาเป็นความหมายอยู่ที่ 13 ความหมาย เช่น ให้อาหารฉัน, ฉันโกรธ หรือออกไปให้พ้น แต่เจ้าของแมวสามารถบันทึกเสียงร้องของเจ้าเหมียวได้เพิ่มเติม เพื่อให้ AI ได้ทำการบันทึกและเรียนรู้เสียงแมวของคุณ จนรู้ได้ว่าเสียงร้องในแบบเฉพาะของมันนั้น หมายความว่าอย่างไร

เคยมีการวิจัยกันว่า แมวมีวิธีสื่อความหมายที่เฉพาะตัว และที่สำคัญ พวกมันมีวิธีสื่อสารกับทาส เอ้ย! มนุษย์ได้จริง ๆ เพียงแต่เราต้องแยกแยะเสียงและพฤติกรรมขอบมันสักหน่อย

แต่เบื้องต้น แอปฯ ดังกล่าวนี้ยังอยู่ในช่วงพัฒนา จึงมีฟีดแบ็คจากผู้ที่โหลดไปใช้ต่างๆ นานากันไป บางคนบอกว่า ดูเหมือนแมวฉันกำลังโวยวาย แต่เจ้าแอปฯ กลับประเมินด้วยคำว่า I’m in love ซะอย่างนั้น แต่ก็มีประเภทที่บอกว่า ถ้าเราไม่ซีเรียสจนเกินไป แอปฯ นี้ก็มาช่วยสร้างสีสันให้กับคนและแมวได้เป็นอย่างดี

เรียกว่าเป็นแอปฯ สันทนาการระหว่างคนกับแมวก็แล้วกัน สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ iOS และ แอนดรอยด์ แต่โหลดมาแล้วก็อย่าลืมไปเทอาหารให้มันด้วยล่ะ ไม่งั้นพี่เขาอาจจะเดินมาเตะชามอาหารเอาได้ ให้มันรู้ซะมั่งนะเจ้าทาส!! เมี้ยว!!

.

อ้างอิง: https://www.bbc.com/news/technology-54991693?fbclid=IwAR2xQVR-ccycVN6pFV8uYhAmyLW_dmoowY1Ku4xWVxmfBUTBN_-KNKWheAs

Who is อบจ.

ก่อนจะเลือกตั้ง อบจ. 20 ธันวาคม พ.ศ. 2563 นี้มาทำดูกันก่อนดีกว่าว่าเขาเหล่านี้มีที่มายังไงแล้วมาทำอะไรให้กับพี่น้องประชาชนกันบ้าง

.

สาวก ‘MG HS’ เฮ i-SMART เวอร์ชั่นใหม่ ใช้ Apple Carplay ได้แล้ว

ทุกวันนี้การแข่งขันของตลาดรถยนต์จะมาโชว์แค่ดีไซน์สวย ๆ หรือสมรรถนะเครื่องยนต์แรง ๆ ไม่ได้อีกแล้ว แต่ต้องมีเทคโนโลยีระบบสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่เสริมเข้ามา ทำให้ฟังก์ชั่นการใช้งานของรถเป็นรถที่เหมาะกับยุคสมัยใหม่มากขึ้น 

MG เป็นอีกค่ายที่ดูจะตีโจทย์เรื่องนี้ได้ดี หลังจากได้พัฒนาระบบอัจฉริยะเชื่อมต่อ ที่เรียกว่า 'i-SMART' เข้ามาในค่ายรถของตน ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ของ MG มีดียังไง?

คร่าว ๆ ที่พอจะนึกออก คือ...

1.) SMART COMMAND สามารถสั่งการควบคุมการทำงานในรถยนต์เอ็มจีด้วยเสียงภาษาไทย โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย เพียงแค่พูด “ฮัลโหล เอ็มจี” (Hello MG) เช่น โทรเข้าออก เปิดปิดเพลง ปรับแอร์ เปิดปิดซันรูฟ เป็นต้น

2.) SMART CONNECT เน้นเชื่อมต่อไลฟ์สไตล์เข้ากับการใช้งานรถยนต์ เช่น สามารถฟังเพลงฮิตจากทั่วโลกได้มากกว่า 1 ล้านเพลงผ่านระบบไลฟ์สตรีมจาก TRUE Online Music หรือจะค้นหาร้านอาหารยอดนิยมหรือที่พักระหว่างเดินทางผ่าน FOOD & TRAVEL GUIDE และเชื่อมต่อแอพพลิเคชันต่าง ๆ ในระบบแอนดรอยด์ บนสมาร์ทโฟนเข้ากับรถผ่านเทคโนโลยี MG LINK หรือค้นหาเส้นทางผ่าน Smart Navigation ซึ่งแสดงผลการจราจรแบบเรียลไทม์ 

3.) SMART CHECK สามารถตรวจเช็คการทำงานของรถยนต์เอ็มจีได้ง่าย ๆ เช่น เครื่องยนต์ ลมยาง ระบบเบรกถุงลมนิรภัย และการล็อกประตู หรือใช้คำสั่งล็อกหรือปลดล็อกประตู (Remote vehicle control) รวมทั้งค้นหารถโดยกำหนดให้รถเปิดไฟหน้าไฟท้ายหรือใช้เสียงแตรผ่านการตั้งค่า (Find my Car) และตรวจสอบตำแหน่งของรถพร้อมบอกเส้นทางไปยังรถยนต์ และสามารถกำหนดขอบเขตการใช้รถได้ตั้งแต่ 500 เมตร ถึง 10 กม.ซึ่งระบบจะแจ้งเตือนเมื่อรถเข้าออกในขอบเขตที่กำหนดไว้

ล่าสุด MG ได้เสริมพลังให้ i-SMART ด้วยการเริ่มปล่อยให้อัพเกรดระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ผ่านระบบออนไลน์ (FOTA) ครั้งแรกในเมืองไทย

โดย FOTA หรือ Firmware Over-The-Air คือ การอัพเกรดเฟิร์มแวร์ในรถยนต์สมาร์ทคาร์ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่ง MG เคลมว่าเป็นครั้งแรกที่ทำให้ลูกค้าสามารถอัพเกรดระบบ i-SMART ได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่ต้องนำรถเข้าศูนย์บริการ 

อย่างไรก็ตามการอัพเกรดระบบ i-SMART ผ่านระบบออนไลน์ หรือ FOTA นั้น เบื้องต้นสามารถทำได้ในรุ่น ‘MG HS’ ซึ่งระบบจะทำการส่งข้อความไปยังรถยนต์ และแอปพลิเคชัน MG i-SMART บนมือถือ เพื่อแจ้งให้ลูกค้ารับทราบ 

อ้อ!! แล้วในการอัพเกรดล่าสุดจะทำให้รถรุ่นดังกล่าวสามารถสามารถรองรับ Apple CarPlay ซึ่งมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น การรายงานสภาพอากาศ พร้อมเสียงแจ้งเตือน เมื่อรถน้ำมันใกล้หมดและแนะนำสถานีบริการน้ำมันใกล้เคียง โดยลูกค้าสามารถดาวน์โหลดและติดตั้งเวอร์ชันใหม่ ได้ง่าย ๆ ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความเร็วของอินเตอร์เน็ตและขนาดของไฟล์

 

สเปอร์ vs แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ศึกแห่งศักดิ์ศรีผู้จัดการทีม

สำหรับแฟนบอลตัวยงแล้ว หนึ่งในสีสันจัดจ้าน ที่ผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจ นั่นก็คือ การโคจรมาปะทะกันข้างสนามของ 2 โคตรกุนซือ ‘โชเซ่ มูรินโญ่ vs เป๊ป กวาร์ดิโอล่า’

 

อดีตที่ผ่านมา คู่นี้เคยคุมทีมมาเจอกันหลายครั้งหลายหน ส่วนใหญ่จะเป็น ‘จ่ามู’ ที่มักจะเสียท่าพ่ายแพ้ให้กับทีมของเป๊ปประจำ และคืนนี้ ทั้งคู่มีอันต้องโคจรมาดวลกันอีกครั้ง

 

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ vs แมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

วัดกันตามสถานภาพตำแหน่งในลีกตอนนี้ สเปอร์จากที่ลุ่มๆ ดอนๆ ช่วงเปิดลีกใหม่ๆ แต่ ณ ขณะนี้ทรงดี ขนาดขึ้นไปรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูง เป็นทีมหนึ่งที่เริ่มลงตัว มูรินโญ่มีผู้เล่น 11 ตัวจริงในแต่ละเกมเป็นที่เรียบร้อย ต่างจากแมนฯ ซิตี้ของเป๊ป ที่เล่นไป ปรับจูนไป ฤดูกาลนี้ยังไม่เจอทีมที่เสถียรสักที เป็นผลให้ตอนนี้ยังอยู่ที่ 10 ของตาราง

 

มหากาพย์ของเป๊ปและมูจะออกผลยังไงไม่รู้ แต่ล่าสุด เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพิ่งประกาศต่อสัญญาอยู่กับทีมยาวๆ ไปถึงปี 2023 ก็เชื่อแน่ว่า บรรยากาศภายในทีมคงดูคึกคักขึ้น ดังนั้น จะประมาทลูกทีมของเป๊ปไม่ได้ ส่วนคีย์แมนของซิตี้ คงหนีไม่พ้น เควิน เดอ บรอยน์ รวมไปถึง ไอ้หนูฟิล โฟเด้น ที่เพิ่งโชว์ฟอร์มแจ่มในทีมชาติอังกฤษมาหมาดๆ ด้านสเปอร์ก็คงพึ่งพากัปตันทีม แฮร์รี่ เคน และ SHM7 ซงฮึงมิน

 

น่าสนใจว่า ในความเป็นเจ้าบ้าน มูรินโญ่จะพาลูกทีมเปิดหน้าซัดกับแมนฯ ซิตี้ แบบแลกหมัดเลยหรือไม่ แต่เราเชื่อว่าไม่! (อ้าว?) เพราะขึ้นชื่อว่าเป็น ‘ตัวพ่อทฤษฎีรถบัส’ งานนี้เฮียเครียดมาเล่นเกมล่อตะเข้ลงบ่อ แล้วจัดการทุบๆๆๆๆ ตะเข้แน่นอน แต่กลับกัน, ถ้าทุบตะเข้ไม่ได้ ก็อาจโดนตะเข้งาบได้ อันนี้ก็ต้องติดตาม

 

พบกับมหากาพย์ภาคล่าสุดของ มูและเป๊ป ได้คืนนี้ 00.30 น. หรือเที่ยงคืนครึ่ง (ดึกจุง) แต่บอลมันส์อย่างนี้ ดึกยังไงก็ต้องดู! ปู๊นๆ!

 

โครงการรถไฟลาว สำเร็จแล้วถึง 90%

คอลัมน์​ "เบิ่งข้ามโขง"

.

ติดตามต่อโครงการรถไฟลาว มีรายงานเพิ่มเติม มาว่าสถานีรถไฟนครหลวงเวียงจันทน์ งานโครงสร้างรากฐาน..เสร็จแล้ว 90% และดำเนินงานต่อเนื่องด้วยงานโครงเหล็ก และ โครงหลังคา รวมทั้ง งานมุงหลังคา ซึ่งคาดว่าจะให้แล้วเสร็จหน้างาน โครงสร้างรากฐานและงานหลังคา ให้แล้วเสร็จในท้ายเดือนธันวาคม

.

.

โครงการก่อสร้างสถานีรถไฟนครหลวงเวียงจันทน์ ครอบคลุมพื้นที่ 150 เฮกตาร์  อาคารสถานี ครอบคลุมพื้นที่ 14,543.45 ตารางเมตร ยาว 220 เมตร กว้าง 90 เมตรสูง 25 เมตร สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 2,500 คน และเป็นสถานีที่ใหญ่ที่สุดของโครงการรถไฟลาว - ​​จีน

เส้นทางรถไฟลาว - ​​จีนจาก บ่อเตน แขวงหลวงน้ำทาไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ มีสถานีขนส่งผู้โดยสาร 10 สถานี รวมถึงสถานีนครหลวงเวียงจันทน์และสถานีขนส่งสินค้า 22 สถานี และ แต่ละสถานีกำลังก่อสร้างเช่นกัน สถานีโพนโฮง และ สถานีกาสี งานโครงหลังคาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เส้นทางรถไฟลาว - ​​จีน มีความยาวรวม 422.4 กม.

.

.

สร้างขึ้นตามมาตรฐานการบริหารและเทคนิคของจีน ซึ่งออกแบบให้วิ่งด้วยความเร็ว 160 กม.ต่อชั่วโมง เป็นรถไฟฟ้าขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร และจะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคมพ.ศ. 2564 ตามแผนแน่นอนที่สุด

.

ที่มา

News&Pictures by: Sonepaserth

CRI-FM93

.

หนุ่มใหญ่จากโคราชคลุกคลี กับเมืองลาวทั้งด้านธุรกิจเอกชน​และภาครัฐมานานหลายปี ยินดีแนะนํา​ภาคเอกชนไทย​ บุกตลาดอินโดจีน สรรหาเรื่องเล่า​ วีถีชีวิต​ วัฒนธรรม​ เศรษฐกิจ​ การเมืองประเทศฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง​ หรือ​ มุมมองเบิ่งข้ามโขง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top