Sunday, 16 February 2025
THE STATES TIMES TEAM

‘EBC Financial Group’ วิเคราะห์!! แนวโน้มของเศรษฐกิจประเทศไทย อัตราเงินเฟ้อในประเทศ เริ่มผ่อนคลาย แต่ยังมีความเสี่ยง ที่ยังคงต้องติดตาม

(8 ก.พ. 68) เมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2568 เศรษฐกิจในไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายในด้านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นโยบายการเงิน และความผันผวนของตลาดทั่วโลก แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจกลับได้รับผลกระทบจากการส่งออกที่อ่อนแอ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ และปัญหาทางโครงสร้าง ซึ่งปัจจัยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังคงเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐและภาคการท่องเที่ยว EBC Financial Group (EBC) ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจในประเทศ โดยให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภูมิทัศน์ทางการเงินที่กำลังเปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งเสนอแนวโน้มและโอกาสการลงทุนในปี 2568

อัตราเงินเฟ้อและนโยบายการเงินที่มีผลต่อเศรษฐกิจในช่วงปลายปี

ในปี 2567 อัตราเงินเฟ้อในประเทศไทยต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ตั้งไว้ระหว่าง 1% ถึง 3% โดยในเดือนธันวาคม ปี 2567 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ขยับขึ้น 1.23% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก เดือนพฤศจิกายน 0.95% ซึ่งถือเป็นการกลับเข้าสู่ช่วงเป้าหมายครั้งแรกในรอบ 7 เดือน แม้จะมีการปรับตัวขึ้นในช่วงปลายปี แต่ค่าเฉลี่ยอัตราเงินเฟ้อทั้งปี 2567 ยังคงอยู่ที่ 0.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี
.
เพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อระดับต่ำและความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 2.25% ในเดือนตุลาคม 2567 ซึ่งถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 หลังจากนั้น ได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวในเดือนธันวาคม โดยอ้างถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นและความจำเป็นในการรักษาความยืดหยุ่นทางนโยบายเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ธปท. คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจไทยในปี 2568 ที่ 2.9% และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในช่วงเป้าหมายที่ 1%-3% โดยคาดว่าจะอยู่ที่ 1.1%

นักวิเคราะห์จาก EBC เตือนว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจมีข้อจำกัดจากความท้าทายเชิงโครงสร้างที่ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะภาคการส่งออกของประเทศไทยยังคงเผชิญปัญหาจากการชะลอตัวของการค้าระหว่างประเทศ ขณะเดียวกันการลงทุนจากภาคเอกชนยังไม่ฟื้นตัว ซึ่งทำให้การกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงที่เศรษฐกิจโลกยังคงไม่แน่นอน และเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก

นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความเป็นไปได้ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม พร้อมเน้นย้ำความสำคัญของการร่วมมือระหว่างมาตรการการเงินและการคลังในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ในเอเชีย แต่ตลาดการเงินของไทยยังคงเผชิญความท้าทายจากปัจจัยภายนอก อาทิ การเปลี่ยนแปลงนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ EBC มองว่า ปัจจัยภายในประเทศไทยและแรงกดดันจากภายนอก สร้างทั้งความเสี่ยงและโอกาสสำหรับนักลงทุน เราเน้นย้ำถึงความสำคัญของการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในตลาด

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฟื้นฟูและภาคการท่องเที่ยว

การฟื้นตัวเศรษฐกิจของประเทศไทยได้รับแรงขับเคลื่อนจากภาคการท่องเที่ยว ในปี 2567 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 35.5 ล้านคน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

ยังคงเผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่อง โดยผลการดำเนินงานยังต่ำกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่นๆ ซึ่งเกิดจากความไม่สงบทางการเมืองและความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจ ความไม่สอดคล้องระหว่างการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและผลประกอบการของตลาดหุ้น สะท้อนถึงความท้าทายทางเศรษฐกิจที่อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งมองว่าเป็นโอกาสสำหรับการลงทุน

รัฐบาลไทยรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ โดยดำเนินมาตรการทางการคลังหลายด้าน เช่น โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 490,000 ล้านบาท ที่มุ่งเป้าไปยังประชากรประมาณ 45 ล้านคน การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 2.9% ซึ่งมีผลตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 และมาตรการภาษีที่ให้สิทธิประโยชน์สูงสุดถึง 50,000 บาท เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในภาคต่าง ๆ EBC ระบุว่า มาตรการเหล่านี้อาจช่วยสนับสนุนธุรกิจในภาคสินค้าอุปโภคบริโภคและการท่องเที่ยว ขณะเดียวกัน โครงสร้างพื้นฐานที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาประเทศ อาจเป็นโอกาสการเติบโตสำหรับนักลงทุนระยะยาว ผลสำเร็จของมาตรการเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับความสามารถของไทยในการดำเนินการปฏิรูปเชิงโครงสร้างเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

ผลกระทบจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ต่อจีนและแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศไทย

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กำหนดแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2568 คือ ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ภาษีศุลกากรใหม่ของสหรัฐฯ ที่จะมีผลบังคับใช้ในปีนี้ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของจีนและอาจทำให้จีนต้องเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หากการใช้จ่ายของผู้บริโภคในจีนยังคงอ่อนแอ การท่องเที่ยวออกนอกประเทศอาจชะลอตัวลง

แม้ว่าจะมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยในภาคการท่องเที่ยว แต่ประชาชนจีนยังคงเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากที่สุดในปี 2567 ความไม่แน่นอนนี้อาจสนับสนุนให้ทองคำมีบทบาทมากขึ้น เนื่องจากอุตสาหกรรมทองคำยังคงได้รับความนิยมและมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย

นักวิเคราะห์ แนะนำว่า นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์การค้าอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสินทรัพย์ทองคำและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ อาจมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน เพื่อตอบสนองต่อความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลกที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น

ซีรีส์แนววัยรุ่น สุดปัง!! ทางช่อง ‘Thai PBS’ ทุกวัน ‘ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์’ เวลา 20.30 น. ฉากบู๊สุดมันส์!! สาวหวาน ‘มิวสิค BNK 48’ โดนฟันเป็นครั้งแรก เจ็บจริง แต่สู้ไม่ถอย

(8 ก.พ. 68) ‘ฝันของฉัน คือฟันดาบ’ ซีรีส์แนววัยรุ่น เรื่องใหม่ล่าสุดที่ฉายออกอากาศทางช่อง ‘Thai PBS’ โดยซีรีส์เรื่องนี้ บอกเล่าเรื่องราวความฝันในกีฬาฟันดาบ ของวัยรุ่นที่สนุกน่าติดตาม

ซีรีส์เรื่อง ‘ฝันของฉัน คือฟันดาบ’ บอกเล่าเรื่องราวของ ‘ซัน’ นักกีฬาฟันดาบสากลที่มีความสามารถ มีสไตล์โดดเด่น แต่เขานั้นต้องเจอกับปัญหามากมายรอบตัว ทำให้เขามักจะพะวงอยู่เสมอ และต่อมาโชคชะตาก็ทำให้เขาได้เจอกับ ‘เวฬา’ สาวในชมรมฟันดาบสากลของมหาวิทยาลัย โดยเวฬาเองเธอก็มีรุ่นพี่ที่สนิมคือ ‘ทาม’ นักกีฬาฟันดาบที่กำลังลุ้นติดทีมชาติ ซึ่งการเจอหน้ากันของครั้งแรกของทั้งสองก็ไม่สวย แถมยังมีเรื่องกัน ทั้งยังโดนดูถูก เรื่องราวจะสนุกและชวนลุ้นแค่ไหนก็ต้องไปติดตามกัน

ในเรื่องนี้ ก็ได้รวบรวม ดารานักแสดงวัยรุ่นไว้มากมาย อาทิ

พีค ภีมพล แสดงเป็น 'ชัน' เขานั้นเป็นนักเก่งกีฬาฟันดาบที่ถนัดทั้งไทยและสากล เป็นคนที่ใจร้อน ชอบกังวล ค่อสข้าวมองโลกลบ แต่หากตั้งใจแล้วจะทำได้เสมอ

มิวสิค แพรวา แสดงเป็น 'เวฬา' เธอเป็นลูกสาวร้านขายนาฬิกา เป็นสาวแก่นมีเสน่ห์ มองโลกในแง่ดี เห่ฝและชอบกีฬาฟันดาบไทย เธอเป็นคนที่ซันตกหลุมรัก

มอส ภาณุวัฒน์ แสดงเป็น 'ทาม' เขาเป็นนักกีฬาดาบเซเบอร์มือ 1 ของมหาวิทยาลัย เก่ง ขยัน มุ่งมั่น และเขาเองอยากเป็นนักกีฬาฟันดาบทีมชาติ

ครีมมี่ พลอยปภัส แสดงเป็น 'ทราย' สาวสวยที่เธอเป็นนักกีฬาดาบเซเบอร์ ดูเข้าถึงยาก แต่จิตใจดี และชอบช่วยเหลือคนอื่น

แน่นอนว่า ฉากเด็ดในเรื่องนี้ ก็ต้องอยู่ที่ การโชว์ลีลาฟันดาบ ซึ่งขอบอกเลยว่า นักแสดงวัยรุ่นในเรื่องนี้ ‘เล่นถึงมาก’ มีความสมจริงทั้งแอ๊คติ้ง ทั้งมุมกล้อง อย่างในฉากที่ต้องลงสนามแข่งขัน บอกเลยว่าลุ้นตามสุดๆ 

ไม่เพียงเท่านั้นในซีรีส์ยังมี รายละเอียดอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ มู้ดโทนของเรื่องราว การพรีเซ้นท์เล่าเรื่องที่มีความเป็นมา ผูกปมไวดูเพลิน แถมคอสตูมของนักแสดงแต่ละคนยังเข้ากับลุคและคาแรคเตอร์อีกด้วย

เรียกได้ว่าซีรีส์เรื่องนี้ ‘ฝันของฉัน คือฟันดาบ’ สนุกน่าติดตามสุดๆ

ไม่ดู ไม่ได้แล้ว!!

‘อัครเดช’ หารือเอกอัครราชทูตออสเตรียชงหาแนวทางฟรีวีซ่าเชงเก้นพร้อมส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกันเพื่อยกระดับการค้าการลงทุน

เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี เขต 4 และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-ออสเตรีย เปิดเผยว่าตนได้หารือร่วมกับนายวิลเฮ็ล์ม มัคซีมีลีอาน ด็องโค (H.E. Mr. Wilhelm Maximilian Donko) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐออสเตรียประจำประเทศไทย และคณะ 

โดยการหารือในครั้งนี้ได้มีการหยิบยกเอาประเด็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคีของสมาชิกรัฐสภาไทยและออสเตรียเพื่อเป็นประโยชน์ต่อความสัมพันธ์ของทั้ง2ประเทศในการส่งเสริมการค้าการลงทุนการท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทยและประเทศออสเตรีย ซึ่งปัจจุบันมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศมีมูลค่ากว่า 1,000 ล้านยูโร โดยส่วนใหญ่เป็นการส่งออกสินค้ากึ่งสำเร็จรูปจากไทยเพื่อไปประกอบเป็นสินค้าสำเร็จรูปที่ออสเตรียก่อนส่งออกจำหน่ายในสหภาพยุโรปต่อไป 

ดังนั้นออสเตรียจึงเป็นหนึ่งในประเทศที่สำคัญที่ไทยจะต้องส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนต่อไปในอนาคต โดยฝ่ายนิติบัญญัติจะเป็นอีกกลไกหนึ่งที่สามารถช่วยสนับสนุนในการส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกันของทั้ง 2 ประเทศอีกด้วย 

สมุทรปราการ-คึกคัก!! พระครูแจ้ มอบความสุขรับวันเด็ก แจกเงินร่วม 1 ล้าน ให้เด็กกว่า 2,000 คน 

วัดบางพลีใหญ่กลาง หรือวัดพระนอน ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี สมุทรปราการ จัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 พร้อมทั้งแจกขนม นม สิ่งของต่างๆ และเงินให้กับเด็กๆ จำนวนกว่า 2,000 คน สร้างความคึกคักและรอยยิ้มให้แก่เด็กทุกคนที่มาร่วมในกิจกรรมครั้งนี้

วันที่ (11 ม.ค. 68) ที่ผ่านมา เวลา 08.30 น. ณ วัดบางพลีใหญ่กลาง ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง เป็นประธานจัดกิจกรรมวัดเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 อย่างยิ่งใหญ่มีของรางวัลมากมาย อาทิเช่น จักรยาน ชุดนักเรียน รองเท้า สมุด ดินสอ ขนม นม และอุปกรณ์ยาสามัญประจำบ้าน รวมถึงสิ่งของต่างๆ อีกมากมายที่นำมาแจกจ่ายให้กับเด็กทุกคนที่เดินทางมาร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ รวมถึงซุ้มอาหาร และไอศครีมจากผู้ใหญ่ใจดี

โดยในช่วงเช้าทางผู้ปกครองได้นำบุตรหลานเดินทางมาร่วมกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ที่ทางวัดบางพลีใหญ่กลางจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้นับว่ามีเด็กๆ เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก กว่า 2,000 คน ที่ต่างเดินทางมานั่งรอของรางวัลจากท่านพระครูแจ้ โดยวันเด็กแห่งชาติปีนี้ท่านพระครูแจ้ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ได้แจกเงินให้เด็กแรกเกิด ไปจนถึง 1 ขวบ คนละ 500 บาท เด็กเล็ก คนละ 200 บาท และเด็กโต คนละ 100 บาท

โดยมี นายสมศักดิ์ แก้วเสนา ปลัดจังหวัดสมุทรปราการ คณะไวยาวัจกร คณะกรรมการวัดบางพลีใหญ่กลาง คณะเจ้าหน้าที่ อบต.บางพลีใหญ่ รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี สภ.บางปู เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน

ศูนย์แพทย์ชุมชนวัดบางพลีใหญ่กลาง เจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรปราการ คณะครู ผู้ปกครอง นอกจากนี้ ท่านพระครูแจ้ยังได้เมตตามอบเงินสนับสนุนให้แก่หน่วยงานราชการเพื่อนำเงินไปพัฒนาองค์กรของตนเอง นับว่าวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 นี้ สร้างสีสันและรอยยิ้มให้แก่เด็กๆ ทุกคนที่เดินทางเข้าร่วมกิจกรรม กว่า 2,000 คน
คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

‘มาดามแป้ง’ ปลื้มแฟนช้างศึกแห่ซื้อตั๋ว 47,000 ใบ หมดเกลี้ยงภายใน 2 ชม. นัดดวลเวียดนามรอบชิงฯ AFF นัดสอง

‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ขอบคุณแรงสนับสนุนจากแฟนบอลชาวไทย หลังบัตรเข้าชมการแข่งขันถูกจำหน่ายหมดเป็นที่เรียบร้อย ในเกมเปิดบ้านพบกับ เวียดนาม ในศึกชิงแชมป์อาเซียน 2024 รอบชิงชนะเลิศ นัดสอง ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ยกเป็นพลังใจสำคัญให้ทัพช้างศึก ทั้งก่อนลงเล่นเกมเยือนวันนี้ และ วันที่ 5 มกราคม 2568

บัตรเข้าชมการแข่งขัน เปิดจำหน่ายวันนี้ ในเวลา 10.00 น. ก่อนใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง บัตร Sold Out เป็นที่เรียบร้อย ภายใต้ความจุเกือบ 47,000 ที่นั่ง ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน

'มาดามแป้ง' กล่าวว่า “แป้ง พูดอยู่เสมอว่า ผู้เล่นคนที่ 12 สำคัญกับทีมชาติไทย มากที่สุด และ เป็นอีกหนึ่งวันที่ แป้ง ปลาบปลื้มใจ ดีใจ ที่เห็นแรงสนับสนุนที่มีต่อทีมชาติไทย เพราะขณะนี้ บัตรเข้าชม เกือบ 47,000 ที่นั่ง ถูกจำหน่ายหมดภายในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง แสดงให้เห็นถึงกระแส และ ความศรัทธาที่มีต่อ ทีมชาติไทย ในฐานะ นายกสมาคมฯ แป้ง อยากขอบคุณทุกคนจากใจจริง และ เชื่อว่าจะเป็นพลังใจสำคัญให้ทัพช้างศึก ก่อนลงเล่นเกมเยือนที่เวียดนาม ในวันนี้ แน่นอนว่าเป็นสถานการณ์ที่ยาก แต่เชื่อมั่นในสปิริตทีมชุดนี้ และ เชื่อมั่นว่าเราจะได้ผลการแข่งขันที่ดีกลับมา“

สำหรับ รอบชิงชนะเลิศ ชิงแชมป์อาเซียน 2024 ระหว่าง ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติเวียดนาม จะแข่งขัน 2 นัด เหย้า-เยือน เริ่มจากทัพช้างศึก ไปเยือนก่อน ในวันที่ 2 มกราคม 2568 และ กลับมาเล่นในบ้าน วันที่ 5 มกราคม 2568

'โชว ชู' ซีอีโอ TikTok ดอดพบ 'ทรัมป์' สัญญาณบวกว่าที่ผู้นำสหรัฐใจอ่อนสั่งปลดแบน

(17 ธ.ค. 67) โชว ชู ซีอีโอของติ๊กต๊อก (TikTok) ได้เข้าพบโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่รีสอร์ตมาร์-อา-ลาโกในเมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดาเมื่อวันจันทร์ที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการพบปะก่อนที่ติ๊กต๊อกจะถูกแบนในสหรัฐฯ จากข้อกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติ

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การพบปะครั้งนี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ทรัมป์กล่าวว่าเขาอาจพิจารณายกเลิกคำสั่งแบนเพื่อสนับสนุนติ๊กต๊อก ซึ่งเป็นแอปที่เขาใช้เข้าถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งวัยหนุ่มสาวระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง "เราจะพิจารณาเรื่องติ๊กต๊อก" ทรัมป์กล่าว พร้อมเสริมว่า "คุณรู้ไหม ผมมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับติ๊กต๊อก"

ก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยพยายามสั่งแบนติ๊กต๊อกในปี 2563 แต่ภายหลังเปลี่ยนจุดยืนเกี่ยวกับแอปนี้

แม้ว่าในขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดการหารือระหว่างทรัมป์และโชว ชู โฆษกของติ๊กต๊อกก็ไม่ได้ตอบกลับการขอความคิดเห็นจากสื่อ

การสั่งแบนติ๊กต๊อกมีผลในวันที่ 19 มกราคม 2568 ตามกฎหมายที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนลงนาม ยกเว้นหากบริษัท ByteDance ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของติ๊กต๊อก ยอมขายแอปให้กับผู้ถือหุ้นชาวอเมริกัน

ถึงแม้ ByteDance จะพยายามต่อสู้กับกฎหมายนี้ แต่ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางในกรุงวอชิงตันก็มีคำตัดสินให้คงคำสั่งแบนและปฏิเสธคำขอระงับคำสั่งแบนชั่วคราว โดยในวันจันทร์ที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ติ๊กต๊อกได้ยื่นคำร้องต่อศาลสูงสุดของสหรัฐฯ เพื่อขอให้ทบทวนคำตัดสินดังกล่าว

โชว ชู เป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีที่เลือกเข้าพบทรัมป์ก่อนพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคมนี้ โดยก่อนหน้านี้มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเมตาแพลตฟอร์มส์ (Meta Platforms) และทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิล (Apple) ก็เคยพบกับทรัมป์ที่มาร์-อา-ลาโกในโอกาสต่างๆ

อย่างไรก็ตาม ศึกแบนติ๊กต๊อกยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ ByteDance ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสูงสุดเพื่อขอระงับคำสั่งแบนที่จะมีผลในวันที่ 19 มกราคม 2568 ทว่า ทรัมป์ก็ส่งสัญญาณว่าจะพิจารณายกเลิกคำสั่งแบนนี้ หากคำสั่งแบนยังคงอยู่ ทรัมป์อาจมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจเรื่องนี้ในฐานะประธานาธิบดีคนใหม่

โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน สาขาอาหารและเครื่องดื่ม ด้วยแนวคิด Multi-Function  ส่งเสริม Soft Power ไทย ประจำปี 2567

ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 10 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ช่วยเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการ สู่ตลาดสากลขับเคลื่อน โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน สาขาอาหารและเครื่องดื่ม ด้วยแนวคิด Multi-Function  
ส่งเสริม Soft Power ไทย ประจำปี 2567

ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรม ภาคที่ 10 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้ดำเนินกิจกรรมเพิ่มศักยภาพด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน สาขาอาหารและเครื่องดื่ม ในจังหวัดนครศรีธรรมราช  

โดยกลุ่มที่ผ่านการคัดเลือกเข้าโครงการจำนวน 7 กลุ่มวิสาหกิจ ได้แก่
1. ศูนย์การเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ  (ไร่สวัสดิ์สุข)  
2. วิสาหกิจชุมชนสวนสักการเกษตร  
3. วิสาหกิจชุมชนคนสร้างสุขวังมโนห์รา
4. วิสาหกิจชุมชนปลาใส่อวนแม่แกวดสูตรโบราณ
5. วิสาหกิจชุมชนปลาดุกร้าท่าซัก  
6. วิสาหกิจชุมชนกลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านแหลมโฮมสเตย์  
และ 7. วิสาหกิจชุมชนเกษตรบางขี้หมูตำบลการะเกด 

พร้อมเข้าร่วมการพัฒนาใน 4 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 
1. ถ่ายทอดความรู้ ในด้านการออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในรูปแบบ Multifunction Product  
2. ศึกษาดูงานเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้
3. การให้คำแนะนำเชิงลึกในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ 
4. การจัดกิจกรรมสร้างการรับรู้ เชื่อมโยงกับ Soft Power นำเสนอสินค้าผ่านช่องทางต่างๆ ในสื่อออนไลน์

โดยเป้าหมายหลักในการจัดโครงการนี้ 
โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยแนวคิดการใช้งานได้หลากหลาย (Multi-Function) เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการในการผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ตลาดระดับสากล ไม่ใช่แค่อาหารและเครื่องดื่มเพียงอย่างเดียว แต่มุ่งเน้นคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้หลากหลายหน้าที่ หรือเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบให้ใช้งานได้หลากหลายแบบ
การใช้วัตถุดิบในชุมชน อัตลักษณ์ ภูมิปัญญา วัฒนธรรมพื้นถิ่น ผสมผสานนวัตกรรม เทคโนโลยี เรื่องเล่า (Storytelling) ออกแบบและพัฒนา เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่  อีกทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายการส่งเสริม Soft Power ของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าและบริการของไทย 

เพื่อพัฒนาและยกระดับผู้ประกอบการชุมชนให้สามารถผลิต ผลิตภัณฑ์ให้มีคุณค่า มีคุณประโยชน์เพิ่มขึ้น และ/หรือมีบริการหลังการขาย (Services) ที่ทันกับยุคสมัย (Trend) มีคุณภาพมาตรฐานสอดคล้องกับความต้องการของตลาด ตอบโจทย์ผู้บริโภคเป้าหมาย และพร้อมเติบโตมุ่งสู่การแข่งขันในระดับสากล

สำหรับกิจกรรมนี้จะช่วยให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ จำนวน 7 ผลิตภัณฑ์ ที่แต่ละผลิตภัณฑ์สามารถใช้งานได้หลากหลาย(Multifunction Product) และยังเชื่อว่าการเติบโตของกลุ่มวิสาหกิจต้องขยายในท้องตลาด ละยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก

1.ศูนย์การเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ  (ไร่สวัสดิ์สุข) พัฒนาผลิตภัณฑ์แยมจากส้มโอทับทิมสยาม

เกิดจากความต้องการเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตรท้องถิ่น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการปลูกส้มโอทับทิมสยามอย่างแพร่หลาย ส้มโอทับทิมสยามถือเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและเป็นที่รู้จักในตลาดผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ แนวคิดการพัฒนาแยมจากส้มโอทับทิมสยามนี้ไม่เพียงตอบสนองต่อความต้องการของตลาด แต่ยังเป็นการส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจที่ยั่งยืนตามแนวทางของ BCG Economy ช่วยให้ธุรกิจในชุมชนมีความมั่นคงในระยะยาว 

ศูนย์การเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ ไร่สวัสดิ์สุข “ส้มโอทับทิมสยาม”  
เลขที่ 39 ม.15 ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช
โทร.089-605-4388 Facebook:ส้มโอทับทิมสยามไร่สวัสดิ์สุข 

2.วิสาหกิจชุมชนสวนสักการเกษตร  พัฒนากระเทียมโทนในน้ำผึ้งพร้อมไซเดอร์มังคุด
เป็นการนำคุณค่าของทั้งสามวัตถุดิบมาผสมผสานกัน โดยน้ำผึ้งทำหน้าที่เป็นสารกันเสียตามธรรมชาติ และยังช่วยเพิ่มรสชาติความหวานที่กลมกล่อม ในขณะที่ไซเดอร์มังคุดช่วยเสริมความสดชื่นและคุณค่าทางโภชนาการ ผลิตภัณฑ์นี้เป็นเสมือนการส่งต่อภูมิปัญญาจากอดีตสู่อนาคต โดยใช้สมุนไพรและผลไม้ท้องถิ่นที่มีในทุกครัวเรือน ผสมผสานกับวิทยาการสมัยใหม่เพื่อสร้างเครื่องดื่มสุขภาพที่ทั้งมีประโยชน์และอร่อย พร้อมให้คุณค่าต่อร่างกายอย่างเต็มที่

วิสาหกิจชุมชนสวนสักการเกษตร
เลขที่ 245 ม.1 ต.พิปูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช 80270
Facebook: สุ กระเทียมโทนดอง  Tel:081-6139919

3.วิสาหกิจชุมชนคนสร้างสุขวังมโนห์รา  พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ทอฟฟี่หมากผสมมะพร้าว 
ทอฟฟี่หมากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผสมผสานระหว่างมะพร้าวและหมาก ซึ่งทั้งสองอย่างเป็นวัตถุดิบธรรมชาติที่ได้รับความนิยมในท้องถิ่นของหลายภูมิภาคในประเทศไทย ไม่เพียงแต่มีรสชาติหวานหอมจากมะพร้าว แต่ยังได้รับคุณค่าทางสมุนไพรจากหมาก ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ต้องการทอฟฟี่ที่มีคุณประโยชน์ และยังสามารถทำเมนูได้หลากหลายเช่น ชาชงผสมทอฟฟี่หมาก  เครื่องดื่มทอฟฟี่หมาก เป็นต้น  เป็นการผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ากับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ทันสมัย 

“วิสาหกิจชุมชนคนสร้างสุขวังมโนห์รา” 
เลขที่ 168/2 ม.6 ต.ทุ่งใส อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช 80330
Facebook: วิสาหกิจชุมชนคนสร้างสุขวังมโนห์รา  Tel:081-9701665

30 วันแรกของการปฏิรูปอุตสาหกรรมไทย: เดินหน้า ทำทันที เพื่อเศรษฐกิจยุคใหม่ 🌱

นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีและโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เผยผลงานสำคัญใน 30 วันแรก (11 ก.ย. - 10 ต.ค. 2567) ภายใต้การนำของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กับนโยบาย 'ปฏิรูปอุตสาหกรรม สู่เศรษฐกิจยุคใหม่' ซึ่งเน้นการลงมือทำอย่างเป็นรูปธรรมตั้งแต่วันแรก

🔵 การจัดการกากและสารพิษที่ปลอดภัย:
ยกระดับการจัดการกากอุตสาหกรรม
ตั้งกองทุนปฏิรูปอุตสาหกรรม
จัดกิจกรรม “อุตสาหกรรมรวมใจ บรรเทาปัญหาสารเคมีรั่วไหล”

🟢 สร้างความเท่าเทียมให้ SME ไทย:
ตั้งนิคมอุตสาหกรรม SME พร้อมศูนย์บ่มเพาะ (I-EA-T Incubation) ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 'เสือติดปีก' และ 'คงกระพัน' รวม 1,900 ล้านบาท พักชำระหนี้ SME และยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีให้โรงงานที่ประสบอุทกภัย

🟡 อุตสาหกรรมใหม่ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม:
ส่งเสริมการผลิตอ้อยสด ลดการเผาอ้อย และเพิ่มพลังงานชีวมวล
เปิดงาน ECO Innovation Forum 2024 ผลักดันอุตสาหกรรมสีเขียว
พัฒนา 'อุทยานหินเขางู' เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
หนุน ศวฮ. จุฬาฯ ใช้ AI ในอุตสาหกรรมฮาลาล

💚 จิตอาสาเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม:
ปลูกป่าชายเลน 77,100 ต้น ลดโลกร้อน 🌳
ลงพื้นที่เชียงราย ซ่อมแซมระบบประปา บรรเทาผลกระทบอุทกภัย
2,592,000 วินาทีแห่งความเปลี่ยนแปลง:
“เราจะทำทันที ทำทุกวินาที” – รัฐมนตรีฯ เอกนัฏ พร้อมแปลงนโยบายเป็นการกระทำอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมไทยสู่ความยั่งยืน

📌 ร่วมติดตามและเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปอุตสาหกรรม เพื่อสร้างอนาคตเศรษฐกิจใหม่ไปด้วยกัน!

‘อัครเดช’ ตอบ ‘สนธิญาณ’ เผย พรบ.ประชามติ ยึดตามรัฐธรรมนูญ 60 ย้ำจุดยืนพรรค!! ไม่แก้ 112- คงปราบปรามทุจริตคอร์รัปชันอย่างเด็ดขาด

โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ โต้ข้อกล่าวหาจากสนธิญาณ ยันหลักเกณฑ์ประชามติของพรรคยึดเกณฑ์รับรองรัฐธรรมนูญปี 60 ย้ำจุดยืนพรรคไม่แก้ไขหมวด 1 หมวด 2 รัฐธรรมนูญ และคงไว้ซึ่งการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันอย่างเด็ดขาด 

(11 ต.ค. 67) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี เขต 4 ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยถึงกรณีนาย สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ออกมาตั้งคำถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติทรยศต่อจิตวิญญาณของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาหรือไม่?

โดยนายอัครเดช เปิดเผยว่า จากการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ในชั้นวุฒิสภานั้น ได้มีการแก้ไขในสาระสำคัญให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องมีออกเสียงข้างมาก 2 ชั้น คือ ได้รับความเห็นชอบเกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ และเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียง 

จากข้อมูลการลงประชามติรัฐธรรมนูญล่าสุดมีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 50ล้านคน ดังนั้นหากจะได้รับความเห็นชอบจากการทำประชามติจะต้องได้รับเสียงเห็นชอบจากผู้มีสิทธิไม่น้อยกว่า 25 ล้านคน ซึ่งเป็นไปได้ยากหรือแทบไม่ได้เลย เพราะในการลงประชามติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 หรือ รัฐธรรมนูญ ฉบับปราบโกง ที่ผ่านมา มีผู้เห็นชอบ 16.8ล้านคน จากยอดผู้มาใช้สิทธิ์ลงประชามติ 29.7ล้านคน เท่านั้น

ซึ่งถ้าใช้หลักเกณฑ์ของวุฒิสภา จะต้องได้รับเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียง นั่นคือ 25 ล้านเสียง จาก 50 ล้านเสียง จะเห็นว่าถ้าใช้หลักเกณฑ์วุฒิสภา รัฐธรรมนูญฉบับปี60ที่เรียกกันว่าฉบับปราบโกงก็ไม่ผ่านการเห็นชอบในการออกเสียงประชามติจากพี่น้องประชาชน

ดังนั้น พรรครวมไทยสร้างชาติ จึงใช้หลักเกณฑ์เกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิคือ 29.7 ล้านเสียง ซึ่งคำนวณออกมาแล้วคือประมาณ 15 ล้านเสียงถึงจะได้รับการรับรอง โดยในครั้งนั้นมีผู้เห็นชอบ16ล้านเสียงจึงได้รัฐธรรมนูญฉบับปี60มาซึ่งก็เป็นหลักเกณฑ์เดิมที่ใช้รับรอง รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง ในสมัยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

ดังนั้น การที่พรรครวมไทยสร้างชาติ  มีความเห็นให้ใช้เกณฑ์ตามร่างที่ผ่านการลงมติของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร และจะขอเพิ่มเติมในชั้นกรรมาธิการร่วมที่ตั้งขึ้นใหม่ที่พรรคส่งนายวิทยา แก้วภราดัยไปผลักดันประเด็นที่มีสาระสำคัญว่า จะต้องได้รับเสียงเห็นชอบมากกว่าการออกเสียงไม่ประสงค์ลงคะแนน และเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ จึงเป็นการยืนยันเจตนารมณ์เดิมของผู้มารับรองรัฐธรรมนูญในการออกเสียงประชามติในปี พ.ศ. 2560 อย่างชัดเจน

หากแก้ไขตามมติของวุฒิสภาจะทำให้การลงประชามติให้เห็นชอบเป็นไปได้ยาก หรือเป็นไปไม่ได้ในเชิงปฏิบัติ และทำประเทศเดินหน้าต่อไปไม่ได้ อาจถึงทางตันทางการเมืองได้และอาจเกิดวิกฤติการเมืองในอนาคตได้อีกด้วย จึงขอยืนยันข้อเสนอของพรรครวมไทยสร้างชาติยังสอดคล้องกับการออกเสียงประชามติเมื่อครั้ง 'ลงประชามติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560' 

ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่พรรครวมไทยสร้างชาติ จะมีพฤติกรรมดังที่นายสนธิญาณได้กล่าวหาแต่อย่างใดและถือเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรมกับพรรค

และ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ประกาศจุดยืนอย่างหนักแน่นและต่อเนื่อง ว่าจะต้องไม่มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องไม่มีการแก้ไขในหมวดที่ 1 และ 2 รวมถึงต้องคงไว้ซึ่งการปราบปรามทุจริตอย่างเด็ดขาดเช่นเดิม

ตนขอยืนยันว่าพรรครวมไทยสร้างชาติยังสานต่อจิตวิญญาณและเจตนารมณ์ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะเดินหน้าแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน รักษาไว้ซึ่ง 3 สถาบันหลักของชาติ  ซื่อสัตย์สุจริต และปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันอย่างถึงที่สุด

🔍ชวนส่อง คาดการณ์ 10 ประเทศ ที่จะมี GDP สูงที่สุดในปี 2050

เศรษฐกิจแข็งแกร่ง!! คาดการณ์ 10 ประเทศ ที่จะมี GDP สูงที่สุดในปี 2050 ‘ประเทศจีน’ นำโด่ง ติดอันดับ 1 ส่วน ‘อินเดีย’ ตามมาในอันดับ 2 และ ‘สหรัฐอเมริกา’ ติดอันดับ 3 ส่วนประเทศจะอยู่ในอันดับใดบ้างมาดูกัน!!


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top