Tuesday, 22 April 2025
โน้สอุดม

'บิ๊กป้อม' เผย ติดตามเดี่ยวของ 'โน้ส อุดม' มาตลอด ชี้ เห็นวิจารณ์ทุกรัฐบาล ไม่ควรทำเป็นเรื่องใหญ่โต

(16 ต.ค. 65) จากกรณีเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในทอร์กโชว์ 'เดี่ยว 13' ที่เมื่อเผยแพร่ออกไปแล้ว กระแสในโลกออนไลน์ก็ร้อนระอุแบบสุดๆ เสียงของชาวเน็ตไทยแตกออกเป็น 2 ฝั่ง

ฝั่งที่เห็นด้วยกับคำพูดของ 'โน้ส อุดม แต้พานิช' ก็มองว่าไม่ได้วิจารณ์เกินจริง อีกทั้งโน้ส อุดม ก็วิจารณ์ทุกรัฐบาลในทุกๆ การโชว์เดี่ยวไมโครโฟนของเขาอยู่แล้ว หากใครที่ติดตามมาตลอดจะรู้ดี

แต่ในมุมของคนที่เชียร์และชื่นชอบรัฐบาลชุดนี้ กลับมีมุมมองที่ต่างออกไป เพราะมีความรู้สึกว่า การที่โน้ส อุดมพูดถึงรัฐบาลในลักษณะนั้น เป็นการบิดเบือนข้อมูล พูดเกินเลย ต่างไปจากความเป็นจริงที่เกิดขึ้น และบางคนถึงขั้นยอมทิ้ง DVD การแสดงเดี่ยวของโน้ส อุดม ทั้งๆ ที่ติดตามและเก็บเป็นของสะสมมาตั้งนาน

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในห้วงที่ผ่านมาประเทศไทยมีประเด็นสาธารณะเกิดขึ้นกับปรากฏการณ์ เดี่ยวไมโครโฟน โน้ส อุดม ถึง นักร้อง ศรีสุวรรณ จรรยา ที่กลายเป็นกระแสดรามาและสะท้อนถึงปัญหาในสังคมยุคปัจจุบัน  

ซึ่งเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ ได้จัดเสวนาพิเศษ “ถอดบทเรียน…ปรากฏการณ์ โน้ส อุดม ถึง ศรีสุวรรณ” ณ ห้องประชุมชั้น 3 อาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เพื่อถอดบทเรียนในครั้งนี้ ทีมข่าว THE STATES TIMES ได้ร่วมฟังโดยมีความคิดเห็นในหลายมุมมองที่น่าสนใจดังนี้

องอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ กทม. ได้แสดงความคิดเห็นในกรณีของคุณโน้ส อุดม ว่าเป็นการแสดง Talk Show จุดมุ่งหมายก็คือทำให้คนดูรู้สึกสนุกสนานไปกับสิ่งที่เค้าพูด แต่อยู่ที่คนดูว่ารู้สึกอย่างไร บางคนก็สนุกสนาน ขำไปด้วย บางคนก็อาจไม่ขำ ไม่พอใจ มีมากมายหลายความรู้สึก หรือจนถึงกรณีของคุณศรีสุวรรณ สมมุติถ้าเราไม่เอ่ยชื่อสองคนนี้เลยเอาเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมมองเหตุการณ์ครั้งนี้อยู่หลายประเด็น ประเด็นแรก ประเทศของเราปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพระดับหนึ่งภายใต้บทบัญญัติของกฎหมาย เราต้องมองในกรณีของคุณโน้สอุดม หรือคุณศรีสุวรรณ ทั้งคู่ได้แสดงออกภายใต้บทบัญญัติของกฎหมาย ใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกในการดำเนินการในการกระทำ ส่วนใครจะชอบไม่ชอบก็อีกเรื่องหนึ่ง 

ประการที่สอง การแสดงออกของใครก็ตามภายใต้สิทธิเสรีภาพที่มีอยู่ ในกรณีที่ท่านไม่ชอบและเห็นว่าการแสดงออกของเค้าไม่ถูกต้องท่านก็มีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ได้เช่นเดียวกัน ถือเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพของท่าน หรือถ้าท่านเห็นว่าสิ่งที่เค้าแสดงออกมันผิดกฎหมายท่านก็มีสิทธิใช้กระบวนการทางกฎหมายได้เช่นกัน ประการที่สาม ผมเห็นมีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นปรากฏว่ามีคนในสังคมเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในการใช้ความรุนแรง จริงๆ แล้วความรุนแรงไม่ได้มีเฉพาะการกระทำต่อร่างกายแต่มีการกระทำต่อจิตใจอีกด้วย เราจึงไม่ควรใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา 

ส่วนปู จิตกร บุษบา นักสื่อสารมวลชนชื่อดัง  แสดงความเห็นว่า สังคมไทยกำลังมีปัญหา ต้นเหตุของมันจริงๆ เริ่มจากหลายสิบปีมานี้การเมืองไทยได้สุมไฟให้คน และปีนี้เป็นช่วงที่คนมีจุดเดือดต่ำ เพราะถูกสะสมมายาวนาน การต่อสู้ทางการเมืองได้ติดตั้งอาวุธนี้ให้กับสังคม  ปรากฏการณ์ โน้ส อุดม ถึงศรีสุวรรณ เป็นหลักฐานสำคัญมีสาเหตุหลายประการ ประการแรก ผู้คนขาดความมั่นคงทางอารมณ์ หรือวุฒิภาวะทางอารมณ์ ไม่สามารถเผชิญในสิ่งที่ไม่ถูกใจได้ อารมณ์จะขึ้นทันทีและไม่สามารถควบคุมระดับอารมณ์ของตัวเองได้ ขาดความสามารถในการจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง 

ประการที่สอง ความสามารถในการจำแนกแยกแยะ เช่น เดี่ยวไมโครโฟน เป็นการแสดงโชว์ด้วยการพูด ประเภทล้อเลียน เสียดสี เพื่อให้ตลกขบขัน ไม่ได้มีเจตนาแสดงโชว์เพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือ แสดงการปาฐกถา ผู้คนจำนวนไม่น้อยสูญเสียกระบวนแยกแยะ สิ่งนี้คือโชว์ชนิดหนึ่งเราก็จะวิพากษ์วิจารณ์ในฐานะที่เป็นการแสดงโชว์ว่าเป็นโชว์ที่เป็นประโยชน์สาธารณะหรือไม่ เรา สามารถนำโชว์นี้เป็นสารตั้งต้นเป็นรากฐานที่เป็นประโยชน์ยิ่งกว่า เช่น ถ้าเรามองว่าโน้ส อุดม ยังแสดงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรีไม่สมบูรณ์ ทำไมเราไม่ทำให้สมบูรณ์ล่ะ 

และประการที่สาม ความสามารถในการเลือกเครื่องมือเผชิญกับสถานการณ์ กลับกลายเป็นความรุนแรงที่เป็นเครื่องมือหยิบมาใช้และกลายเป็นสิ่งที่คนกลุ่มหนึ่งสนับสนุนเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด 

ส่วนณัฐชัย มาไชยนาม นักกฎหมายคนรุ่นใหม่พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นว่า ต้องหาสาเหตุของเรื่องทั้งหมดทั้งสองกรณีก่อน เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจากการพูด ถามว่าประชาชนสามารถวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลได้หรือไม่ สามารถวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความสุจริตได้ตามกรอบของกฎหมาย  

จากคนรุ่นเก่าถึง 'โน้ส-อุดม' อย่าพยายามเปิดตลาดใหม่ด้วยมุกวงเหล้า เพราะเวลาอยู่กับคนหมู่มาก ควรเซ็นเซอร์ตัวเองให้เด็กยังอยากไหว้

(5 พ.ค.67) จากเพจ 'มั่นคง munkonggadget' ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า...

ขอตำหนิคุณ โน้ส อุดม หน่อยครับ ☺️ 🙏

เพิ่งดูเดี่ยวตอนใหม่ของคุณโน้สอุดมใน NetFlix จบลง เดาว่านี่คือเดี่ยวภาคพิสดารฉบับล่าสุด ที่ทำร่วมกับ NetFlix โปรดักชั่นเล็กลงหน่อย จำนวนคนดูในห้องส่งกระชับดี บรรยากาศต่างจากที่เฮียเคยดูที่พารากอนฮอลล์ไปบ้าง แต่ถือว่าเป็นการปรับช่องทางการเข้าถึงของคนดู ให้ลูกเด็กเล็กแดง คนหนุ่มสาวหรือคนสูงวัยได้มีโอกาสดูกันทั่วๆ

และถ้าใครที่เป็นแฟนเดิมๆ จะเห็นโน้สอุดมปรับไดอะล็อคการพูดใหม่ให้เผ็ดร้อนขึ้นด้วย ที่ผ่านมาทุกเดี่ยวโน้สอุดมเล่นกับคนดูที่เป็นกลุ่มครอบครัว ซึ่งมีความหลากหลายทางอายุ การแสดงในพารากอนที่ผ่านๆมา ฮา ดูพอดี โทนอยู่ในระดับแค่ “มึงมาพาโวย” เป็นคำหยาบในระดับ "รับได้" และไม่จำเป็นต้องหยาบไปกว่านั้นก็ "ขายได้ "

แต่พอเข้า NetFlix ซึ่งเป็นสื่อเสียเงินที่ทุกคนเข้าถึงง่ายกว่าไปชมในพารากอน แปลกใจว่าโน้สอุดมนึกท่าไหนถึงเร่งเครื่องใช้คำผรุสวาทถี่และบ่อย เหมือนกับพยายามจะเปิดตลาดใหม่หลังจากที่โน้สเองคงรู้ว่าสูญเสียแฟนในอีกตลาดนึงไปอย่างถาวร อีกประการในท่อนหลังสุดที่โน้สเล่าถึงบาร์อะโกโก้นั้น

เอาจริงๆ ถ้ามุกพวกนี้เล่าในวงเหล้า หรือปิดผับเล็กๆ เล่นและเก็บตังค์ฟังกันเองเฮียว่าโอเคนะฮาดี แต่ในคลิปกลับรู้สึกว่าคนดูหลายคนมีอาการ "อาย" และยังมีหลายคนที่ตกกระไดพลอยโจนเล่นไปกับมุกลามก 16+ แบบไม่เต็มใจนัก เฮียเองยังยอมรับว่าเซอร์ไพรส์ งานนี้โน้สเล่นใหญ่กล้าปล่อยมุกพวกนี้ได้อย่างไรกัน คือบอกตามตรงมันมีเนื้อหาที่คุกคามทางเพศอยู่เยอะนะ

สุดท้ายนี้ขอตำหนิ NetFlix ที่เชื่อว่าก่อนจะตัดสินใจบันทึกเทป น่าจะรู้ล่วงหน้าว่าโน้สจะเล่นประมาณไหน มืออาชีพทำงานร่วมกันคงประชุมเรื่องเนื้อหากันก่อนล่ะ เดี่ยวทุกเดี่ยวของโน้สติดเรทแค่ 13+ บน NetFlix ทุกอัน แต่พอ NetFlix เป็นผู้ร่วมผลิตเทป กลายเป็นว่าโน้สต้องเล่นแบบแรงๆ แบบ 16+ ให้ NetFlix เพื่อการเปิดตัวสวยๆ บนแพลทฟอร์มนี้ซะงั้น

สุดท้ายนี้ เฮียขออนุญาตสะกิดเอวโน้สอุดมว่า เรามันคนรุ่นเก่าแล้ว แก่แล้ว ควรรับผิดชอบสังคมบ้าง อีกไม่นานเราก็ตายห่ากันหมดแล้ว สิ่งที่โน้สทำได้คือทำตัวน่ารักๆ ให้เด็กๆ ยอมไหว้ต่อก็พอ....

เงินมีเยอะแล้วโน้ส รู้จักพอมั่ง...

อันนี้คือมุมมองของผมเองนะครับ คือพวกไอ้แก่อย่างผมหรือคุณโน้ส มันก็เล่าเรื่องลามกแบบนี้ได้อรรถรสเหมือนกัน แต่เวลาอยู่กับคนหมู่มาก เราต้องเซ็นเซอร์ตัวเองเหมือนกัน

แต่ในเทปล่าสุด ผมว่าเนื้อหามันคุกคามทางเพศมากเกิน “พอดี” ไปเยอะ ถ้าเล่นแค่พอดีมันก็โอเค แต่การหยิบมาพูดหลายท่อน และยาวนาน รวมถึงแสดงกิริยาท่าทางที่ดูแล้วเกินเบอร์ไป

และที่เห็นชัดคือการควบคุมคนดูขณะอยู่บนเวที ดูละเอียดๆ จะรู้สึกว่าไม่เหมาะสมเท่าไหร่ ทั้งหมดที่ผมทักไว้ ลองพิจารณาด้วยตัวเองครับ ผมเขียนในฐานะแอดมินเก่าแก่ ที่อาศัยหากินอยู่กับสื่อสังคมเหมือนกัน

ทำอะไรต้องคิดถึงคนส่วนใหญ่ครับ

'ปราชญ์ สามสี' มองวิวัฒนาการ 'ตลกร้าย' ของ 'โน้ส-อุดม'  ความรุนแรงที่ทวีคูณ เพียงแค่ให้ 'ตนเอง-ผลงาน' ถูกพูดถึง

(5 พ.ค.67) จากเพจ 'ปราชญ์ สามสี' ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดรามา 'โน้ส-อุดม' จากทอล์กโชว์เดี่ยวสเปเชียล ว่า...

มีคนเรียกร้องให้ผมพูดถึง คุณโน้ส อุดม แต้พานิช จากการเดี่ยวครั้งล่าสุด ที่กลายเป็นประเด็นดรามา โดยเฉพาะที่ไปพาดพิงความเป็นเด็กผู้ใหญ่รวมไปถึงเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ผมว่าทั้งหมดนั้นมันเป็นเรื่องของ Gallows humor หรือที่แปลเป็นไทยว่า 'ตลกร้าย' นั่นแหละครับ

ข้าพเจ้าเลยจำเป็นที่ต้องออกมาพูดเรื่องของคุณโน้ส อุดม เพราะตลกร้ายของเขานั่นแหละครับ

ผมเชื่อว่าดรามาครั้งนี้จริงๆ...คุณโน้ส อุดม ก็อาจจะต้องการให้มันเกิดดรามา เพื่อชื่อเสียงของเขา เพราะตลกร้ายกระแนะกระแหนเสียดสีดูถูกเหยียดหยามเป็นสิ่งที่ไปกระตุ้นความรู้สึกให้เกิดอารมณ์สอดคล้องหรือต่อต้านกลายเป็นบทสนทนาทั้งหัวเราะทั้งร้องไห้ทั้งหมดนี้ก็เพื่อ Viral Content ครับ

แต่ผมว่าเขาไม่สนหรอกครับว่ามุกตลกของเขามันจะไปทำร้ายจิตใจใคร เหยียดหยามใครดูถูกใครเพราะสิ่งที่เขาต้องการก็เพียงแค่การถูกพูดถึง

Gallows humor เป็นรูปแบบหนึ่งของแนวสุขนาฏกรรม ที่ทำให้ประเด็นละเอียดอ่อนที่โดยทั่วไปถือเป็นเรื่องต้องห้ามให้กลายเป็นเรื่องตลกขบขัน โดยเฉพาะเรื่องที่ปกติถือว่าร้ายแรงหรือเจ็บปวดที่จะพูดคุย

นักแสดงตลกมักใช้เป็นเครื่องมือในการเสาะหาประเด็นหยาบคาย โดยกระตุ้นความไม่สบายใจ ความคิดรุนแรง และสร้างความสนุกสนานให้กับผู้ชม

ดังนั้นไม่แปลกครับที่คุณจะเริ่มรู้สึกว่าตลกร้ายของคุณโน้ส อุดมนั้นมันเริ่มไม่ตลก แล้วมันกลายเป็นการรังแกคนบนเวทีด้วยเอาคำพูดติฉินนินทาแซะกะแนะกระแหน แล้วมันเริ่มมากขึ้นทุกๆ ปี

ผมติดตามโน้สอุดมมาได้ตั้งแต่โน้ส อุดมครั้งที่ 1 เลยนะครับ แล้วผมก็ยังจำได้ว่าบนเวทีตูดหมึก ก็เคยประกาศว่าจะยุติบทบาท 

โดยบอกว่าเวทีครั้งนั้นจะเป็นเวทีครั้งสุดท้าย แต่นั่นไม่ใช่ความจริง เพราะหลังจากนั้นเขาก็ทำต่อมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน

แม้ว่าโน้สอุดมจะมีวิธีการเล่าเรื่องมีเรื่องใหม่ๆ มาเล่าตลอดในทุกๆ ปี แต่สิ่งนึงที่มีทุกปีเหมือนเดิมทุกครั้งคือตลกร้ายที่ทวีคูณความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และในช่วงปีหลังๆ เริ่มจับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับทางการเมืองและบุคคลสำคัญ

ประเด็นนี้เองที่ทำให้โน้ส ถูกจับตามองมากขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อสังคม และเริ่มถูกมองในมิติที่ชัดเจนมากขึ้น

ยกตัวอย่างเช่นเรื่องของการโจมตีเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ที่เขาบอกเลยว่า เขาไม่ขอเป็นคนพอเพียงแล้วเพราะมันไม่เวิร์คสำหรับเขา

เขาบอกให้เข้าใจได้ว่า "มีแต่ผู้คนดัดจริตทำ..."

ทั้งๆ ที่ตัวเองตั้งชื่อบริษัทว่า พอดีจำกัด โคตรตลกร้ายนะครับ

เขาไม่เคยรู้เลยหรือว่า ตลกร้ายของเขานั้นกำลังให้ร้ายกับเรื่องที่พระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่งยอมสละทั้งชีวิตนับสิบๆ ปี เพื่อสร้างปรัชญาชีวิตให้ผู้คนสามารถอยู่รอดท่ามกลางภัยพิบัติทางเศรษฐกิจ สามารถทำให้ผู้คนอยู่ได้อย่างมั่นคง

แต่กลับถูกตลกร้ายทำลายคุณค่าดูหมิ่นเหยียดหยามเพลงเพราะมันไม่เวิร์คกับเขา ....

แน่สิเพราะว่าคุณโน้ส อุดม หากินบนตลกร้ายการเหยียดหยามผู้อื่นเพื่อบันเทิงผู้ชม โน้สอุดมเลยไม่เคยเข้าใจชีวิตที่ปกติสุข โดยไม่ทำร้ายผู้อื่นด้วยปาก

ผมไม่ได้หมายความว่าจะไปบังคับให้คุณโน้ส อุดมทำเศรษฐกิจพอเพียงหรือชื่นชมสิ่งเหล่านี้ เพราะมันก็จะเป็นเรื่องที่ดัดจริตเช่นกัน เพราะเขาเองก็บอกว่า เขาทำไม่ได้

แต่ตลกร้ายของเขาได้สร้างความรู้สึกให้ผู้ชมในเวลานี้ ว่าโน้สอุดมกำลังกลั่นแกล้งในหลวงรัชกาลที่ 9 จนเกินไปมันล้ำเส้นเกินความพอดีที่จะรับได้

ผมขอวิจารณ์คุณอุดมว่าเขากำลังเสพติดตลกร้ายของเขาเองที่เที่ยววิจารณ์ผู้อื่นจนลืมวิจารณ์ตัวเองที่เที่ยวกระแนะกระแหนผู้อื่นจนลืมดูรากเหง้าของตัวเอง 

เรียกว่าดังแล้วลืมความเป็นคน...
...ลืมว่าตัวเองเคยเป็นใคร

สำหรับข้าพเจ้าแล้วจุดที่โน้สอุดมได้รับความเมตตาจากผู้ชมมากๆ คือ ความกตัญญูต่อมารดา ความใกล้ชิดหยิกแก้มหยอกแซวนิดแซวหน่อย ผมว่าน่ารักอยู่ครับ

แต่ปัจจุบันคุณโน้สอุดมทำตัวเอาแม่มาหาแดกครับและเป็นอยู่อย่างนี้หลายครั้งหลายหนแล้ว มันเริ่มไม่น่ารักครับ

ครั้งล่าสุดเนี่ยโน้สอุดมก็เที่ยวไปบอกว่าให้คนแก่อยู่เฉยๆ พอให้เด็กมันกราบไหว้ได้สนิทใจเถอะ

นี่ไม่ใช่คำพูดของคนที่รู้จักความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณในบ้านแต่เป็นคำพูดของคนกร่างที่เชื่อว่าตัวเองจะชนะโลกใบนี้ด้วยสองมือสองแขนของตนเอง

นั่นไม่ใช่วิถีชีวิตที่ถูกต้องครับ

และขอบอกเลยว่า 'ลิซ่า' ไม่ใช่คนแบบนี้
ลิซ่าที่โด่งดังไปทั่วโลกเวลานี้
เขารู้จักครอบครัว
เขาก็ดูแลครอบครัวเขา
เขารู้จักประเทศของเขา
เขารู้ว่าที่ใดเป็นที่ของเขา
เขารู้อะไรควรทำให้คนทำ

อย่าเอาหลักคิดต่ำทรามไปชี้ว่า ศิลปินคนนั้นคนนี้เขามีพฤติกรรมเหมือนกับคุณ

สวัสดีครับ

‘เรวัช’ ฉะ!! ‘โน้ส’ ปมดรามาพอเพียง เล่นไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ชี้!! มุขอื่นมีเยอะแยะ จี้!! ให้ออกมาขอโทษสังคม

เมื่อวานนี้ (6 พ.ค.67) จากกรณีคลิปโปรโมตทอล์กโชว์ ‘เดี่ยวสเปเชียล ซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์’ ของ ‘โน้ส อุดม แต้พานิช’ พร้อมทั้งเขียนแคปชันประกอบคลิปว่า…อยากพอเพียง อยากปลูกผักตามอินฟลูฯ แต่ลืมคิดว่าเขาลงจากรถตู้ พอกครีมกันแดดมาเกี่ยวข้าววว กลับมาคราวนี้ พี่โน้ส-อุดม เค้าจัดเต็ม ไม่กั๊ก ไม่เซนเซอร์ เชิญรับชมพร้อมกันได้ใน ‘เดี่ยว สเปเชียล ซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์’ ยังคงเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างดุเดือดบนโลกโซเซียล

ล่าสุด พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีต ผบช.ปส. ได้ไลฟ์สดผ่านยูทูบช่อง ‘โจ เรวัช กลิ่นเกษร’ โดยแสดงความคิดเห็นอย่างดุเดือดตามสไตล์บางช่วงบางตอนว่า ตนดูแล้วไม่เข้าท่า ทะลึ่งไม่เข้าเรื่อง ถามว่าโน้ตทำประโยชน์อะไรให้ประเทศชาติบ้าง เคยไปพูดฟรีให้งานกาชาดบ้างหรือเปล่า ไม่ควรอย่างยิ่งเลย เล่นไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ลืมตัวอีโก้สูง คิดว่าตัวเองเป็นดาราดังแล้วเหรอ คุณจะรวยเท่าไหร่คุณก็ไม่ได้ไปแจกสร้างมูลนิธิช่วยคนยากคนจน

"ปากเสียไม่เข้าเรื่องนะครับ ต้องดัดสันดาน ใครที่ยังศรัทธา อย่าไปซื้อบัตรไปดูมันนะครับ ไม่เข้าท่า ถ้าผมนั่งดูอยู่ด้วยวันนั้น จะขึ้นไปถีบบนเวทีเลย ไม่ให้พูดจบหรอก ไม่งั้นจะเอารองเท้าปาใส่ไปเลย มันไม่เข้าท่าจริง ๆ มีมุขอื่นให้เล่นเยอะแยะ ไม่ควรเอามุขแบบนี้มาเล่น พูดผิดแล้วก็ออกมาขอโทษสังคมเขาซะว่ากลอนพาไป" พล.ต.ท.เรวัช กล่าว

‘อ.เฉลิมชัย’ ตะโกนดังๆ จากจอร์เจียถึง ‘โน้ส อุดม’ อย่าดูหมิ่น ‘รุ่นพี่-ครูอาจารย์’ ที่ถากถางทางให้เดิน

(7 พ.ค. 67) เฟซบุ๊กของ ‘นรินทร ทามาส’ ซึ่งเป็นลูกศิษย์คนสนิทของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย ปัจจุบันได้ประกาศถอนตัวออกจากกิจกรรมทางสังคมทั้งหมดและหันไปขับขี่รถจักรยานยนต์ท่องเที่ยว ได้เผยแพร่คลิปที่มีความยาวประมาณ 1.56 วินาที พร้อมข้อความว่า…

"ท่านอาจารย์ฝากถึง พี่โน้สอุดม" 

โดยในคลิปอาจารย์เฉลิมชัยบอกว่าปัจจุบันตนไปท่องเที่ยวที่ประเทศจอร์เจีย ในทวีปยุโรป และอยากบอกถึงโน้ส อุดม ว่าตนได้หิวแสงตามที่โน้ส อุดม พูดแต่อย่างใด รวมทั้งโน้ส อุดม ยังพูดพาดพิงไปถึงอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงรายที่ล่วงลับไปแล้ว ขณะที่ตนก็เป็นศิลปินแห่งชาติจึงขอบอกว่าจะพูดสิ่งใดก็ได้แต่อย่าเอื้ออ้างถึงพวกตน

"มึงอย่าบอกว่าเด็กเก่งกว่ากู กูยอมรับว่าเด็กมันเก่งกว่ากู มันหาเงินได้ 100 ล้านได้ภายในวันสองวัน มันก็เก่ง ก็ดีแล้วไง เหมือนกูมึงรู้ไหมสมัยกูเป็นเด็ก กูหาเงินง่ายกว่าทุกคน กูดัง พี่หวันก็เหมือนกัน มึงเข้าใจไหม ทางเดินทุกวันนี้กูได้ดิบได้ดีเพราะพี่หวัน เพราะรุ่นเก่ารุ่นแก่ ครูบาอาจารย์ รุ่นพี่กูทุกคนในวงการศิลปะ ในวงการถากถางหญ้ามาให้กู กูถึงได้มีทุกวันนี้" 

อาจารย์เฉลิมชัย กล่าวและฝากถึงโน้ส อุดม ว่า “ให้ไปถามคนรุ่นใหม่ที่เติบโตกันขึ้นมาแล้วประสบความสำเร็จว่าหากไม่มีพวกตนถากถางเส้นทางให้จะหาเงินได้วันละ 200 ล้านหรือไม่ เด็กเก่งมีมากเท่าไหร่บ้านเมืองเราก็เจริญเท่านั้น ตนจึงขอให้เข้าใจและอย่าบูลลี่คนเก่งที่เป็นศิลปินแห่งชาติ จะพูดเรื่องใดก็ได้แต่อย่าพูดถึงศิลปินแห่งชาติ”

"มึงดูถูกพวกกูไอ้ห่...กูถากถางหญ้าให้มึง กูไม่เคยดูถูกรุ่นพี่กูทั้งหมด ครูบาอาจารย์รุ่นเก่า กูเคารพเขาทั้งหมดเพราะเขาถากถางให้กู มึงเข้าใจไหม กูเดินตามเขา พูดเห..ปากหมาเรื่อยมึง ไอ่สั..ไอ้น้องส้นตี.." อาจาย์เฉลิมชัยพูดถึงโน้ส อุดม ส่งท้าย

อัปเดต 5 ธุรกิจ ‘เสี่ยโน้ส อุดม แต้พานิช’ อีกหนึ่งบทบาทสำคัญนอกเหนือทอล์กโชว์

(8 พ.ค.67) สำนักข่าวอิศราได้รายงานว่า กลายเป็นประเด็นดรามา-ทอล์ก ออฟทาวน์อีกครั้ง ของ ‘โน้ส-อุดม แต้พานิช’ นักทอล์กโชว์ชื่อดัง

ล่าสุดผ่านเพจ Netflix แอปบริการสตรีมมิ่งชื่อดัง ได้โพสต์คลิปโปรโมตทอล์กโชว์ ‘เดี่ยวสเปเชียล ซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์’ เนื้อหาบางช่วงพูดดึงความพอเพียง เหน็บ ๆ หยิก ๆ สับ ๆ ‘คนรวยลงรถตู้ทำเศรษฐกิจพอเพียง’ สร้างความไม่พอใจแก่คนในสังคม เหล่าคนดังจำนวนมาก บางรายออกมาโพสต์โต้กลับดุเดือดทำนองคราวหน้าคราวหลังอย่าทำเยี่ยงนี้อีก

หากจำกันได้ 2 ปี ก่อนยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี วันที่ 11 ตุลาคม 2565 ‘โน้ส’ก็ออกมาทอล์กโชว์ พาดพิงเรื่องกู้เงิน, ผลงาน ฯลฯ แต่ไม่พูดถึงมาหยิกขบประเด็นทุจริตโครงการขนาดใหญ่อย่างกรณีรับจำนำข้าว ฯลฯ จนแฟนคลับลุงบอกว่า ‘โน้สเลือกข้าง’

ในมุมธุรกิจที่เคยนำข้อมูลมารายงานไปแล้ว นักพูดรายนี้ถือหุ้นและ/หรือเป็นกรรมการ 5 บริษัท ได้แก่…

1.บริษัท ลองรวย จำกัด ขายของชำ
2.บริษัท ทุเรียน จำกัด จำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม ไอศกรีม และเบเกอรี่
3.บริษัท พอดีพานิช จำกัด ออกแบบผลิตภัณฑ์ รับจ้างการแสดง และเขียนหนังสือเพื่อจำหน่าย 
4.บริษัท เมดอินแฮปปี้แลนด์ จำกัด จัดการแสดงทางธุรกิจและการแสดงสินค้า (จัดงานแสดงโชว์ รับจ้างแสดง ถ่ายโฆษณา แสดงแบบ)
5.บริษัท เอ็ม.โอ.ดี.ช็อป จำกัด ออกแบบและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของที่ระลึก

ผลประกอบการรอบปีบัญชีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2564 มีกำไรสุทธิเพียงบริษัทเดียว คือ บริษัทคือ บริษัท เมดอินแฮปปี้แลนด์ จำกัด รายได้รวม 28,608,901.97 บาท กำไรสุทธิ 895,887.29 บาท งบดุล สินทรัพย์รวม 99,224,807.71 บาท หนี้สิน 87,180,540.19 บาท กำไรสะสม 7,044,267.52 บาท อีก 4 บริษัทแจ้งผลประกอบการขาดทุน

ผ่านมาเกือบ 2 ปี ในช่วงกระแสเชี่ยว มาอัปเดตสถานะของเขาอีกครั้ง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ‘โน้ส อุดม’ ยังมีชื่อเป็นกรรมการและหรือถือหุ้นธุรกิจ 5 บริษัท ที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสำคัญคือ 2 บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน

1.บริษัท เมดอินแฮปปี้แลนด์ จำกัด รอบปีบัญชีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2564 2564 รายได้รวม 28,608,901.97 บาท กำไรสุทธิ 895,887.29 บาท รอบปีบัญชีสิ้นสุด 31 ธ.ค. 2565 รายได้รวม 230,817,842.82 บาท กำไรสุทธิ 43,630,419.66 บาท เปรียบเทียบตัวเลข 2 ปี รายได้เพิ่มขึ้น 202,208,941 บาท กำไรสุทธิ เพิ่มขึ้น 42,734,532 บาท

2.บริษัท เอ็ม.โอ.ดี.ช็อป จำกัด ออกแบบและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของที่ระลึก รอบปีบัญชีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2564 รายได้รวม 29,346.14 บาท ขาดทุนสุทธิ 304,253.57 บาท รอบปีบัญชีสิ้นสุด 31 ธ.ค.2565 รายได้รวม 16,758,915.14 บาท กำไรสุทธิ 826,789.83 บาท เปรียบเทียบตัวเลข 2 ปี รายได้เพิ่มขึ้น 16,729,569 บาท กำไรสุทธิ เพิ่มขึ้น 522,536 บาท

ขณะที่ 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท ลองรวย จำกัด บริษัท ทุเรียน จำกัด และ บริษัท พอดีพานิช จำกัด ผลประกอบการรายได้หลักหมื่นบาท และ 1.4 ล้านบาท ตามลำดับ ขาดทุนสุทธิเหมือนเดิม

สำหรับคนดังที่ร่วมหุ้นกับ ‘โน้ส’ มี นายอัครเดช ยอดจำปา (ก้อง ห้วยไร่ นักร้องลูกทุ่ง หมอลำ) ใน บริษัท ลองรวย จำกัด ด้วย

จากตัวเลขผลประกอบการ เห็นได้ว่า ผ่านไปเกือบ 2 ปี ฐานะทางธุรกิจเจ้าของทอล์กโชว์มั่งคั่งมากขึ้นจาก ‘โน้ส’ เป็น ‘เสี่ยโน้ส’ ไปแล้ว ?

เพราะความหมาย 'พอเพียง' ที่ถูกตีความจนผิดเพี้ยน สร้างความสับสนให้ผู้คนคิด "ใครจะไปทำได้-ใครจะทำก็ทำไป"

(8 พ.ค. 67) จากเพจ 'Moneyland.biz' ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีมุก ‘พอเพียง’ ที่เป็นกระแสดรามาจากเวทีเดี่ยวสเปเชียล จนสร้างความไม่พอใจแก่คนไทยหลายๆ คนไว้ว่า...

จากกรณีที่คุณโน้ส อุดมเล่นมุกโดยมีการเอาคำว่าพอเพียงมาเล่น ทำไมถึงสร้างความโกรธเคืองไม่พอใจให้กับผู้ใหญ่หลาย ๆ คนในบ้านเมือง

ใครมาแตะคำว่า 'พอเพียง' ไม่ได้เลยเหรอ?

ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ได้ดูเดี่ยวสเปเชียลแล้ว และก็ขำสนุกพี่โน้สทั้งรายการ แต่ต้องยอมรับว่าคำว่าพอเพียง ก็ทำให้ผมไม่สบายใจเช่นกัน ที่มันไม่สบายใจนั้น ไม่ใช่ว่าแตะคำ ๆ นี้ไม่ได้ จริง ๆ คนทั้งโลกควรแตะคำ ๆ นี้ให้มากด้วยซ้ำ (เดี๋ยวจะอธิบายต่อไปว่าทำไม) 

ประเด็นคือเพราะพี่ใช้คำว่า 'พอเพียง' มาเอาฮาโดยใช้ความหมายของคำนี้แบบ 'ผิด ๆ' ซึ่งผลกระทบจากการใช้แบบผิด ๆ ของพี่ มันไม่ใช่แค่ขำแล้วจบ มันมีอิทธิพลต่อคนที่ได้ดูด้วยความไม่เข้าใจไปไกลกว่านั้น 

นอกจากนี้ คำนี้ก็เป็นคำที่คนไทยรู้กันดีว่ามาจากคำสอนของล้นเกล้ารัชกาลที่ ๙ มุกนี้ของพี่จึงไม่ต่างจากการออกมาประกาศกับคนทั้งประเทศว่า ที่พระองค์สอนไว้ ใครจะทำก็ทำไป ฉันทำไม่ได้ แล้วมันสามารถส่งผลชี้นำให้คนทั้งประเทศที่ยังไม่เข้าใจคิดตามได้ว่า ฉันก็ไม่จำเป็นต้องพอเพียง (ในแบบเข้าใจผิด ๆ) เช่นกัน เพราะพี่โน้สเหมือนเป็นตัวแทนเสียงของคนในสังคมมาเป็นสิบปีแล้ว จากเดี่ยวของพี่ตั้งแต่เดี่ยว 1 ผมดูพี่ผมก็ขำ ไม่ได้โกรธ เพราะผมคิดในแง่ดีว่าพี่คงแค่คิดน้อยไป และเพราะไม่เข้าใจ คนเราพอไม่เข้าใจมันก็เอาไปใช้ผิด ๆ โดยไม่ตั้งใจ แต่พี่ก็สมควรมาก ๆ ที่จะโดนตำหนิในเรื่องนี้ เพราะความคิดน้อยของพี่

เนื่องจาก...ในหลวง ร.๙ ราชาผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก พยายามจะให้ประชาชนเข้าใจคำนี้ เพื่อการเติบโตที่แข็งแรงมั่นคงของคนไทยและทั้งประเทศ

แต่ถูกพี่เอาคำนี้มา Make Joke เพราะไม่เข้าใจ แล้วก็ส่งผลกระทบต่อในทางทัศนคติต่อบรรดาคนที่ไม่เข้าใจที่ดูพี่เป็นสิบ ๆ ล้านคน 

ซึ่งต้องยอมรับว่าพี่โน้สมีอิทธิต่อคนรุ่นนี้มากกว่าในหลวง ร.๙ ที่ทรงไม่อยู่แล้วแน่นอน

คน ๆ นึงทำงานหนักด้วยความสละตลอดชีวิต เพื่อหวังให้ประชาชนของเขาเข้าใจคำ ๆ นี้ เพื่อตัวประชาชนเองและประเทศชาติ

แต่คนอีกคนนึง เล่นมุกกับคำ ๆ นี้ 10 นาที ในวิดีโอที่คนดูได้ทั้งประเทศ แล้วสามารถส่งผลชี้นำวิธีคิดที่มีต่อคำ ๆ นี้ให้ถูกละเลยได้เลย เพราะมีพี่โน้สเป็นตัวอย่าง

คำว่า 'พอเพียง'

คือ ปรัชญาของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่ประกอบไปด้วย...

3 ห่วง 2 เงื่อนไข

3 ห่วง คือ พอประมาณ มีเหตุมีผล มีภูมิคุ้มกัน
2 เงื่อนไข คือ ความรู้ คุณธรรม

ถ้าเอาให้สรุปแบบสั้นที่สุดก็คือ ทางสายกลาง ต้องมีความรู้และคุณธรรมอยู่ด้วย

เราทำอะไร พอประมาณกับตัวของเรา มีเหตุผลที่สมเหตุผลในการทำ มีภูมิคุ้มกันหรืออาจเรียกว่ามีแผนสำรอง แต่เราจะไม่สามารถคิดทำ 3 อย่างนี้ได้ถูกต้องเลย ถ้าเราไม่มีความรู้ แต่ความรู้อย่างเดียว แล้วไม่มีคุณธรรม เราก็จะทำโดยไม่สนว่าสิ่งที่เราทำจะส่งผลกระทบต่อคนอื่นอย่างไร สิ่งที่เราทำให้ประโยชน์ต่อเราแต่ไปทำร้ายใครหรือไม่

หนึ่งในตัวอย่างง่าย ๆ คือ ถ้าทุกคนในโลกมีความพอเพียง (มี 3 ห่วง 2 เงื่อนไข) โลกจะไม่มาถึงปัญหาการสู้รบหรือปัญหาโลกร้อนอย่างทุกวันนี้

ทั้งภาคธุรกิจ และประชาชน ถ้าแคร์ว่า สิ่งที่เราทำ ส่งผลถึงชั้นบรรยากาศโลกอย่างไร สุดท้ายจะเกิดผลอย่างไร มากกว่าการสนแค่ผลประกอบการ การเอาชนะคู่แข่งทางธุรกิจ ความสุขสบายของตัวเอง ปัญหาโลกร้อนจะไม่เกิด เป็นต้น

ที่กล่าวมาทั้งหมด ไม่มีสักคำพูดที่บอกว่าต้องอยู่อย่างจน ๆ ลำบาก ๆ หรือต้องอยู่ชนบท ไม่มีสักคำว่าให้ทำเกษตรกรรม ไม่มีคำไหนที่บอกว่า ห้ามรวย

ถ้าเข้าใจคำว่าพอเพียง ไม่ว่าทำอาชีพอะไร ถ้าคน ๆ นั้นต้องการจะร่ำรวย เขาจะร่ำรวยได้แบบมั่นคงเสียอีก และจะไม่ทำร้ายใครเพื่อความร่ำรวยของตัวเอง ไม่ทำร้ายโลกเพื่อความร่ำรวยของตัวเอง คิดดูว่าถ้าทั้งโลกเป็นแบบนี้ โลกนี้จะน่าอยู่แค่ไหน

- MONEYLAND -

*ขออนุญาตนำคำอธิบายเพิ่มเติมในคอมเมนต์มาใส่ไว้ในโพสต์ เพื่อให้คนที่เพิ่งได้มาอ่านมีความเข้าใจคำว่าพอเพียงมากขึ้นนะครับ

คนที่ไม่เข้าใจ ก็จะบอกว่า คนบางคนมีไม่พอด้วยซ้ำ แล้วจะพอเพียงได้อย่างไร?

จริง ๆ แล้ว คนมีไม่พอที่เข้าใจความพอเพียง จะสามารถทำให้ตัวเองไม่ลำบากกว่าเดิม รวมทั้งสามารถใช้ความพอเพียงช่วยเป็นฐานในการถีบด้วยเองขึ้นมาให้มีมากขึ้นจนมีพอได้ด้วย

เช่น ตัวเองหาเงินได้วันละไม่ถึงร้อย ก็จะไม่เอาเงินไปใช้จ่ายอะไรที่ฟุ้งเฟ้อ ไม่มีเหตุผล ไม่เกินตัว และเมื่อเป็นได้อย่างนี้ ก็สามารถที่จะถีบตัวเองให้ขึ้นมามีพอ ได้ง่ายกว่าคนที่มีไม่พอ แต่เอาเงินไปซื้อเหล้า ซื้อของฟุ้งเฟ้อ ทั้งที่ตัวเองไม่มีศักยภาพที่จะทำแบบนั้น 

เช่นนั้น หากเข้าใจคำว่าพอเพียงตามที่ผมได้อธิบายไว้ จะเข้าใจได้ว่า ไม่ว่าจะรวยสักแค่ไหน หรือยากจนสักแค่ไหน ก็สามารถมีความพอเพียงได้ เพราะพอเพียง คือการทำทุกอย่างในชีวิต (รวมทั้งสร้างฐานะสร้างการเติบโต) ให้สอดคล้องตามอัตภาพของตัวเอง อย่างมีเหตุมีผล มีภูมิคุ้มกัน มีความรู้ มีคุณธรรม 

นั่นคือประโยชน์ของการมีความพอเพียง

และมีแต่คนที่ไม่เข้าใจเท่านั้นที่จะบอกว่า การที่ตนเองอยู่ชนบทไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครันไม่ได้ คือ ตนเองไม่พอเพียง เพราะการอยู่อย่างลำบากได้ อยู่อย่างจนได้ ไม่ใช่ความหมายของคำว่า พอเพียง ตามที่อธิบายไปแล้วข้างต้น

และคนที่ไม่เข้าใจหลายคน เข้าใจว่าการหาเงินกับความพอเพียงเป็นสิ่งตรงกันข้ามกัน ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด ถ้าเข้าใจความพอเพียง จะเข้าใจครับว่าการเงินก็สามารถพอเพียงได้ จึงมีหลักปรัชญา 'เศรษฐกิจ' พอเพียง ซึ่งเป็นเรื่องการเงินล้วน ๆ

ยกตัวอย่าง การมีเงินสำรองฉุกเฉิน 6 เดือน ก็ถือเป็น ภูมิคุ้มกัน ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ห่วงของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

การลงทุนขยายธุรกิจ ตามความพร้อมและศักยภาพของธุรกิจ และไม่ลงทุนเกินตัว นั่นคือ การรู้จักตน รู้จักประมาณตน และทำอย่างมีเหตุมีผล ซึ่งเป็น 2 ใน 3 ห่วง หลักปรัชญาฯ

การขยายธุรกิจ โดยไม่ทำจนไปตัดทางทำมาหากินของพ่อค้าแม่ค้าตัวเล็ก ๆ คือการมีคุณธรรม ซึ่งเป็น 1 ใน 2 เงื่อนไขของหลักปรัชญาฯ

การขยายธุรกิจ โดยมีการศึกษาก่อนจนมีความรู้มากพอที่จะใช้ในการขยายธุรกิจให้สำเร็จ ก็คือ 1 ใน 2 เงื่อนไขของหลักปรัชญาฯ

คำว่า 'พอเพียง' เดี่ยว ๆ มีความหมายเดียวกับคำว่า 'พอเพียง' ใน 'เศรษฐกิจพอเพียง' กล่าวคือเป็นการนำหลักคิดความพอเพียงมาใช้ในเศรษฐกิจหรือการเงิน

ศึกษาให้เข้าใจ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับการดำเนินชีวิตของเราครับ นี่คือสมบัติอันล้ำค่า ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทิ้งไว้ให้เราและโลกนี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top