เพราะความหมาย 'พอเพียง' ที่ถูกตีความจนผิดเพี้ยน สร้างความสับสนให้ผู้คนคิด "ใครจะไปทำได้-ใครจะทำก็ทำไป"

(8 พ.ค. 67) จากเพจ 'Moneyland.biz' ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีมุก ‘พอเพียง’ ที่เป็นกระแสดรามาจากเวทีเดี่ยวสเปเชียล จนสร้างความไม่พอใจแก่คนไทยหลายๆ คนไว้ว่า...

จากกรณีที่คุณโน้ส อุดมเล่นมุกโดยมีการเอาคำว่าพอเพียงมาเล่น ทำไมถึงสร้างความโกรธเคืองไม่พอใจให้กับผู้ใหญ่หลาย ๆ คนในบ้านเมือง

ใครมาแตะคำว่า 'พอเพียง' ไม่ได้เลยเหรอ?

ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ได้ดูเดี่ยวสเปเชียลแล้ว และก็ขำสนุกพี่โน้สทั้งรายการ แต่ต้องยอมรับว่าคำว่าพอเพียง ก็ทำให้ผมไม่สบายใจเช่นกัน ที่มันไม่สบายใจนั้น ไม่ใช่ว่าแตะคำ ๆ นี้ไม่ได้ จริง ๆ คนทั้งโลกควรแตะคำ ๆ นี้ให้มากด้วยซ้ำ (เดี๋ยวจะอธิบายต่อไปว่าทำไม) 

ประเด็นคือเพราะพี่ใช้คำว่า 'พอเพียง' มาเอาฮาโดยใช้ความหมายของคำนี้แบบ 'ผิด ๆ' ซึ่งผลกระทบจากการใช้แบบผิด ๆ ของพี่ มันไม่ใช่แค่ขำแล้วจบ มันมีอิทธิพลต่อคนที่ได้ดูด้วยความไม่เข้าใจไปไกลกว่านั้น 

นอกจากนี้ คำนี้ก็เป็นคำที่คนไทยรู้กันดีว่ามาจากคำสอนของล้นเกล้ารัชกาลที่ ๙ มุกนี้ของพี่จึงไม่ต่างจากการออกมาประกาศกับคนทั้งประเทศว่า ที่พระองค์สอนไว้ ใครจะทำก็ทำไป ฉันทำไม่ได้ แล้วมันสามารถส่งผลชี้นำให้คนทั้งประเทศที่ยังไม่เข้าใจคิดตามได้ว่า ฉันก็ไม่จำเป็นต้องพอเพียง (ในแบบเข้าใจผิด ๆ) เช่นกัน เพราะพี่โน้สเหมือนเป็นตัวแทนเสียงของคนในสังคมมาเป็นสิบปีแล้ว จากเดี่ยวของพี่ตั้งแต่เดี่ยว 1 ผมดูพี่ผมก็ขำ ไม่ได้โกรธ เพราะผมคิดในแง่ดีว่าพี่คงแค่คิดน้อยไป และเพราะไม่เข้าใจ คนเราพอไม่เข้าใจมันก็เอาไปใช้ผิด ๆ โดยไม่ตั้งใจ แต่พี่ก็สมควรมาก ๆ ที่จะโดนตำหนิในเรื่องนี้ เพราะความคิดน้อยของพี่

เนื่องจาก...ในหลวง ร.๙ ราชาผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก พยายามจะให้ประชาชนเข้าใจคำนี้ เพื่อการเติบโตที่แข็งแรงมั่นคงของคนไทยและทั้งประเทศ

แต่ถูกพี่เอาคำนี้มา Make Joke เพราะไม่เข้าใจ แล้วก็ส่งผลกระทบต่อในทางทัศนคติต่อบรรดาคนที่ไม่เข้าใจที่ดูพี่เป็นสิบ ๆ ล้านคน 

ซึ่งต้องยอมรับว่าพี่โน้สมีอิทธิต่อคนรุ่นนี้มากกว่าในหลวง ร.๙ ที่ทรงไม่อยู่แล้วแน่นอน

คน ๆ นึงทำงานหนักด้วยความสละตลอดชีวิต เพื่อหวังให้ประชาชนของเขาเข้าใจคำ ๆ นี้ เพื่อตัวประชาชนเองและประเทศชาติ

แต่คนอีกคนนึง เล่นมุกกับคำ ๆ นี้ 10 นาที ในวิดีโอที่คนดูได้ทั้งประเทศ แล้วสามารถส่งผลชี้นำวิธีคิดที่มีต่อคำ ๆ นี้ให้ถูกละเลยได้เลย เพราะมีพี่โน้สเป็นตัวอย่าง

คำว่า 'พอเพียง'

คือ ปรัชญาของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่ประกอบไปด้วย...

3 ห่วง 2 เงื่อนไข

3 ห่วง คือ พอประมาณ มีเหตุมีผล มีภูมิคุ้มกัน
2 เงื่อนไข คือ ความรู้ คุณธรรม

ถ้าเอาให้สรุปแบบสั้นที่สุดก็คือ ทางสายกลาง ต้องมีความรู้และคุณธรรมอยู่ด้วย

เราทำอะไร พอประมาณกับตัวของเรา มีเหตุผลที่สมเหตุผลในการทำ มีภูมิคุ้มกันหรืออาจเรียกว่ามีแผนสำรอง แต่เราจะไม่สามารถคิดทำ 3 อย่างนี้ได้ถูกต้องเลย ถ้าเราไม่มีความรู้ แต่ความรู้อย่างเดียว แล้วไม่มีคุณธรรม เราก็จะทำโดยไม่สนว่าสิ่งที่เราทำจะส่งผลกระทบต่อคนอื่นอย่างไร สิ่งที่เราทำให้ประโยชน์ต่อเราแต่ไปทำร้ายใครหรือไม่

หนึ่งในตัวอย่างง่าย ๆ คือ ถ้าทุกคนในโลกมีความพอเพียง (มี 3 ห่วง 2 เงื่อนไข) โลกจะไม่มาถึงปัญหาการสู้รบหรือปัญหาโลกร้อนอย่างทุกวันนี้

ทั้งภาคธุรกิจ และประชาชน ถ้าแคร์ว่า สิ่งที่เราทำ ส่งผลถึงชั้นบรรยากาศโลกอย่างไร สุดท้ายจะเกิดผลอย่างไร มากกว่าการสนแค่ผลประกอบการ การเอาชนะคู่แข่งทางธุรกิจ ความสุขสบายของตัวเอง ปัญหาโลกร้อนจะไม่เกิด เป็นต้น

ที่กล่าวมาทั้งหมด ไม่มีสักคำพูดที่บอกว่าต้องอยู่อย่างจน ๆ ลำบาก ๆ หรือต้องอยู่ชนบท ไม่มีสักคำว่าให้ทำเกษตรกรรม ไม่มีคำไหนที่บอกว่า ห้ามรวย

ถ้าเข้าใจคำว่าพอเพียง ไม่ว่าทำอาชีพอะไร ถ้าคน ๆ นั้นต้องการจะร่ำรวย เขาจะร่ำรวยได้แบบมั่นคงเสียอีก และจะไม่ทำร้ายใครเพื่อความร่ำรวยของตัวเอง ไม่ทำร้ายโลกเพื่อความร่ำรวยของตัวเอง คิดดูว่าถ้าทั้งโลกเป็นแบบนี้ โลกนี้จะน่าอยู่แค่ไหน

- MONEYLAND -

*ขออนุญาตนำคำอธิบายเพิ่มเติมในคอมเมนต์มาใส่ไว้ในโพสต์ เพื่อให้คนที่เพิ่งได้มาอ่านมีความเข้าใจคำว่าพอเพียงมากขึ้นนะครับ

คนที่ไม่เข้าใจ ก็จะบอกว่า คนบางคนมีไม่พอด้วยซ้ำ แล้วจะพอเพียงได้อย่างไร?

จริง ๆ แล้ว คนมีไม่พอที่เข้าใจความพอเพียง จะสามารถทำให้ตัวเองไม่ลำบากกว่าเดิม รวมทั้งสามารถใช้ความพอเพียงช่วยเป็นฐานในการถีบด้วยเองขึ้นมาให้มีมากขึ้นจนมีพอได้ด้วย

เช่น ตัวเองหาเงินได้วันละไม่ถึงร้อย ก็จะไม่เอาเงินไปใช้จ่ายอะไรที่ฟุ้งเฟ้อ ไม่มีเหตุผล ไม่เกินตัว และเมื่อเป็นได้อย่างนี้ ก็สามารถที่จะถีบตัวเองให้ขึ้นมามีพอ ได้ง่ายกว่าคนที่มีไม่พอ แต่เอาเงินไปซื้อเหล้า ซื้อของฟุ้งเฟ้อ ทั้งที่ตัวเองไม่มีศักยภาพที่จะทำแบบนั้น 

เช่นนั้น หากเข้าใจคำว่าพอเพียงตามที่ผมได้อธิบายไว้ จะเข้าใจได้ว่า ไม่ว่าจะรวยสักแค่ไหน หรือยากจนสักแค่ไหน ก็สามารถมีความพอเพียงได้ เพราะพอเพียง คือการทำทุกอย่างในชีวิต (รวมทั้งสร้างฐานะสร้างการเติบโต) ให้สอดคล้องตามอัตภาพของตัวเอง อย่างมีเหตุมีผล มีภูมิคุ้มกัน มีความรู้ มีคุณธรรม 

นั่นคือประโยชน์ของการมีความพอเพียง

และมีแต่คนที่ไม่เข้าใจเท่านั้นที่จะบอกว่า การที่ตนเองอยู่ชนบทไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครันไม่ได้ คือ ตนเองไม่พอเพียง เพราะการอยู่อย่างลำบากได้ อยู่อย่างจนได้ ไม่ใช่ความหมายของคำว่า พอเพียง ตามที่อธิบายไปแล้วข้างต้น

และคนที่ไม่เข้าใจหลายคน เข้าใจว่าการหาเงินกับความพอเพียงเป็นสิ่งตรงกันข้ามกัน ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด ถ้าเข้าใจความพอเพียง จะเข้าใจครับว่าการเงินก็สามารถพอเพียงได้ จึงมีหลักปรัชญา 'เศรษฐกิจ' พอเพียง ซึ่งเป็นเรื่องการเงินล้วน ๆ

ยกตัวอย่าง การมีเงินสำรองฉุกเฉิน 6 เดือน ก็ถือเป็น ภูมิคุ้มกัน ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ห่วงของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

การลงทุนขยายธุรกิจ ตามความพร้อมและศักยภาพของธุรกิจ และไม่ลงทุนเกินตัว นั่นคือ การรู้จักตน รู้จักประมาณตน และทำอย่างมีเหตุมีผล ซึ่งเป็น 2 ใน 3 ห่วง หลักปรัชญาฯ

การขยายธุรกิจ โดยไม่ทำจนไปตัดทางทำมาหากินของพ่อค้าแม่ค้าตัวเล็ก ๆ คือการมีคุณธรรม ซึ่งเป็น 1 ใน 2 เงื่อนไขของหลักปรัชญาฯ

การขยายธุรกิจ โดยมีการศึกษาก่อนจนมีความรู้มากพอที่จะใช้ในการขยายธุรกิจให้สำเร็จ ก็คือ 1 ใน 2 เงื่อนไขของหลักปรัชญาฯ

คำว่า 'พอเพียง' เดี่ยว ๆ มีความหมายเดียวกับคำว่า 'พอเพียง' ใน 'เศรษฐกิจพอเพียง' กล่าวคือเป็นการนำหลักคิดความพอเพียงมาใช้ในเศรษฐกิจหรือการเงิน

ศึกษาให้เข้าใจ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับการดำเนินชีวิตของเราครับ นี่คือสมบัติอันล้ำค่า ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทิ้งไว้ให้เราและโลกนี้