Thursday, 26 June 2025
TheStatesTimes

สำนักงานตำรวจแห่งชาติผนึกกำลังทุกภาคส่วนเปิดแคมเปญ “รีบโอนโจรยิ้ม” ชวนคนไทย "Strike Back” โต้กลับภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์  

(26 มิ.ย. 68) เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานเปิดโครงการ “Thai Cyber Ranger” แคมเปญ “รีบโอนโจรยิ้ม” ชวนคนไทย "Strike Back” โต้กลับภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมี พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) , พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตร์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ผบก.ตอท. และ พล.ต.ต.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ ผบก.อก.บช.สอท. ร่วมกับ คุณตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป, รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล รองอธิการบดี /ประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต, คุณสถาพร คิ้วสุวรรณสุข ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด และ คุณสุกัณณี เลิศสุขวิบูลย์ หัวหน้าสายงานธุรกิจต่างประเทศและบริการดิจิทัล บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น , อินฟลูเอนเซอร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว ณ ห้องศรียานนท์ อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ในนามกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ ได้ร่วมกับ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) , บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด, บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน), มูลนิธิพระราหู, บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) และภาคเอกชนต่างๆ ได้ร่วมกันเปิดโครงการรณรงค์ ภายใต้ชื่อแคมเปญ “รีบโอนโจรยิ้ม” จุดประสงค์เพื่อชวนคนไทย "Strike Back” โต้กลับภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยโครงการดังกล่าวกำหนดจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป 

แคมเปญ “รีบโอนโจรยิ้ม” อยู่ภายใต้โครงการ “Thai Cyber Ranger” ที่ได้ถือกำเนิดขึ้นภายใต้แนวคิดอันสะท้อนภาพของภัยใกล้ตัวในยุคดิจิทัลอย่างชัดเจน เปรียบเสมือนการเตือนสติประชาชนให้รู้เท่าทันเล่ห์กลของมิจฉาชีพในโลกไซเบอร์ เพื่อมุ่งเน้นการสร้างภูมิคุ้มกันทางดิจิทัล ให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตบนโลกออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย รู้เท่าทันกลลวงอันซับซ้อนที่ซ่อนอยู่หลังหน้าจอ โดยมีเป้าหมายสำคัญที่สุดคือ ประชาชนปลอดภัย ไม่โอนเงินให้มิจฉาชีพ โดยวัตถุประสงค์หลักของโครงการนี้ คือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ให้ประชาชนระวังตัวก่อน “คลิก” ทุกครั้ง , กล้าตั้งคำถามก่อน “เชื่อ” ทุกข้อความ , ใช้วิจารณญาณก่อน “โอน” ทุกบาท โดยการกระตุ้นให้ตระหนักถึงภัยคุกคามทางเทคโนโลยีที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงเวลาของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการใช้โทรศัพท์มือถือ การใช้งานโซเชียลมีเดีย หรือการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ 

นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังปลูกฝังจิตสำนึกแห่งความระมัดระวังให้ประชาชน ด้วยการรู้จักตั้งข้อสงสัยเมื่อได้รับข้อความ โทรศัพท์ หรือการติดต่อจากบุคคลที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผู้ที่แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หน่วยงานทางกฎหมาย หรือสถาบันทางการเงิน ซึ่งในหลายกรณีมักใช้เทคนิคการโน้มน้าวทางจิตวิทยา การใช้เทคโนโลยีปลอมแปลงขั้นสูง เช่น Deepfake และการส่งลิงก์ปลอมหลอกให้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว โดยโครงการนี้ตั้งเป้าหมายเข้าถึงประชาชนไม่น้อยกว่า 10 ล้านคนในช่วง 2 เดือนแรก และคาดว่าสามารถช่วยลดจำนวนคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่มีมูลค่าความเสียหายไม่เกิน 1 ล้านบาท (ซึ่งปัจจุบันคิดเป็นกว่า 90% ของคดีทั้งหมด) ได้ไม่น้อยกว่า 10% ภายในสิ้นปีนี้

โครงการ “Thai Cyber Ranger” มีกิจกรรมรณรงค์ด้วย 2 ช่องทางหลัก ได้แก่
1. ช่องทางออนไลน์ (Online Campaign) โดยผู้ร่วมแคมเปญร่วมกันเผยแพร่คลิปวิดีโอเตือนภัย, อินโฟกราฟิก, และกิจกรรมออนไลน์ในรูปแบบ Challenge ผ่านแพลตฟอร์มยอดนิยม เช่น Facebook, TikTok, Instagram, YouTube และ Threads โดยใช้ Influencer จากหลายสาขา เป็นผู้ถ่ายทอดเนื้อหาเตือนภัยในรูปแบบสร้างสรรค์ พร้อมด้วยการติดแฮชแท็ก #รีบโอนโจรยิ้ม และสโลแกนเตือนสติ “รีบโอน = โจรยิ้ม” 

2. ช่องทางออฟไลน์ (On-Ground Campaign) โดยผู้ร่วมแคมเปญร่วมกันจัดแสดงสื่อประชาสัมพันธ์ตามจุดยุทธศาสตร์ เช่น จอ LED บนรถไฟฟ้า BTS/MRT และสื่อภายในร้าน 7-Eleven กว่า 15,000 สาขาทั่วประเทศ พร้อมกิจกรรมภาคสนามในพื้นที่ชุมชน เช่น การจัดนิทรรศการ บรรยายความรู้ การแจกสื่อเตือนภัยไซเบอร์ เป็นต้น 

นอกจากนี้ ภายในงานเปิดตัว ยังมีการจัดเสวนา “รู้ทันภัยไซเบอร์” นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., คุณตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป, รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล รองอธิการบดี /ประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต, คุณสถาพร คิ้วสุวรรณสุข ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด และคุณสุกัณณี เลิศสุขวิบูลย์ หัวหน้าสายงานธุรกิจต่างประเทศและบริการดิจิทัล บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น โดยมี ประวีณมัย บ่ายคล้อย ผู้ประกาศข่าวชื่อดังเป็น ผู้ดำเนินรายการ พร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์จริงจากผู้ที่เคยตกเป็นเหยื่อ และยังมีการจัด Workshop จำลองสถานการณ์หลอกลวงแบบต่างๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถสังเกต "Red Flag" หรือ สัญญาณอันตรายได้อย่างแม่นยำ

‘ฮุนเซน’ โต้ข่าวปลด ผบ.ทบ. เสียบตำแหน่งแทน ลั่นไม่จำเป็น เพราะตนเป็นรองแค่กษัตริย์เท่านั้น

'ฮุนเซน' โพสต์โวยสื่อไทยตีข่าวปลด ผบ.ทบ.แล้วตั้งตัวเองเป็นแทน ลั่น ไม่จำเป็น เพราะในกัมพูชาตนเป็นรองกษัตริย์เท่านั้น 

(26 มิ.ย. 68) เมื่อเวลา 16.11 น. ในเฟซบุ๊ก Somdech Hun Sen of Cambodia ของนายฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา มีการโพสต์ข้อความว่า

“ข้าพเจ้าไปเยี่ยมทหาร เจ้าหน้าที่ และประชาชนที่พลัดถิ่นในจังหวัดอุดรมีชัยและพระวิหาร

“ข้าพเจ้าไม่ได้ไปออกคำสั่งในนามของนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือผู้บัญชาการทหารบก แต่ไปเยี่ยมให้กำลังใจและให้ความช่วยเหลือกองทัพที่กำลังปกป้องประเทศและดินแดน

“ผู้บัญชาการทหารบกเรียกข้าพเจ้าว่า เจ้าหน้าที่สนับสนุนอาวุโส ข้าพเจ้ายินดีช่วยสนับสนุนด้านการสนับสนุน นอกเหนือจากการสนับสนุนของรัฐบาล

“ตำแหน่งนี้ไม่จำเป็นต้องแต่งตั้งเพราะเป็นเรื่องตลก หนังสือพิมพ์ไทยฉบับหนึ่งรายงานว่า ข้าพเจ้าปลดผู้บัญชาการทหารบกและแต่งตั้งตนเองเป็นผู้บัญชาการทหารบกเพื่อเตรียมการโจมตีประเทศไทย

“ข้าพเจ้าอยากจะบอกว่าถ้าคุณจะบ้าคุณก็บ้าไปเถอะ ข้าพเจ้าเป็นคนที่สองรองจากกษัตริย์ ข้าพเจ้าไม่จำเป็นต้องเป็นผู้บัญชาการทหารบก แม้ว่าข้าพเจ้าจะไม่ใช่นายกรัฐมนตรี ข้าพเจ้าก็จะไม่ทำเช่นนั้นอีกต่อไป หยุดเถอะ และอย่ามารุกรานหน้า Facebook ของข้าพเจ้าอีกเลย” นายฮุนเซนระบุ

30 มิถุนายน พ.ศ. 2549 ‘พงษ์ศักดิ์เล็ก’ ป้องกันแชมป์โลก WBC รุ่นฟลายเวท สมัยที่ 15!! ทุบสถิตินักชกเม็กซิกัน ที่ยืนยาวเกือบ 3 ทศวรรษ

พงษ์ศักดิ์เล็ก ศิษย์คนองศักดิ์ หรือนายพงศกร วันจงคำ สร้างประวัติศาสตร์วงการมวยโลกในวันที่ 30 มิถุนายน 2549 ด้วยการป้องกันแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท WBC (สมัยแรก) เป็นครั้งที่ 15 ได้สำเร็จ กลายเป็นนักชกที่ป้องกันตำแหน่งได้มากที่สุดในรุ่นนี้

การชกครั้งนี้จัดขึ้นที่จังหวัดอุดรธานี โดยพงษ์ศักดิ์เล็กเอาชนะน็อค เอเวอราโด โมราเลส (Everardo Morales) ผู้ท้าชิงชาวเม็กซิกัน ไปได้อย่างงดงามในยกที่ 4 ด้วยพลังหมัดที่เด็ดขาดและการชกอย่างชาญฉลาด

ชัยชนะในครั้งนั้นส่งผลให้พงษ์ศักดิ์เล็กทำลายสถิติเก่าของมิเกล คันโต (Miguel Canto) อดีตแชมป์โลกชาวเม็กซิกัน เจ้าของฉายา "El Maestro" ผู้เคยป้องกันแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท WBC ได้ 14 ครั้งระหว่างปี 1975–1979 โดยสถิติดังกล่าวยืนยาวมานานกว่า 27 ปี ก่อนจะถูกพงษ์ศักดิ์เล็กล้มลงอย่างสมศักดิ์ศรีในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม การป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 18 กับไดซูเกะ ไนโต (Daisuke Naito) นักชกชาวญี่ปุ่น เมื่อวัน 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ที่ญี่ปุ่นกลับไม่เป็นไปตามคาด แม้พงษ์ศักดิ์เล็กเคยเอาชนะมาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ครั้งนี้เขาประสบปัญหาการลดน้ำหนักหลายรอบก่อนชั่ง ทำให้สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ ขณะที่ไนโตเตรียมตัวมาอย่างดี ใช้จังหวะเข้าทำเร็วและโผเข้ากอดบ่อยครั้งจนทำให้พงษ์ศักดิ์เล็กออกอาวุธไม่ถนัด ก่อนจะแพ้คะแนนเอกฉันท์ 115-113, 116-113, 116-113 อย่างพลิกความคาดหมาย

ความพ่ายแพ้นี้ทำให้สถิติการป้องกันแชมป์ต้องหยุดที่ 17 ครั้ง พลาดเป้าหมายป้องกันครบ 20 ครั้งที่ตั้งใจไว้ แต่ยังเพียงพอให้ชื่อของเขาถูกจารึกว่าเป็นนักชกที่ป้องกันแชมป์โลกรุ่นฟลายเวทได้มากเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย เทียบเท่ากับยู มย็อง-อู อดีตแชมป์โลกรุ่นไลท์ฟลายเวทของ WBA จากเกาหลีใต้

รองนายกฯ กัมพูชา จวกไทยหยุดเล่นละครน้ำเน่า ปมปิดชายแดน!! ลั่นคนเขมรจนกว่า แต่มีศักดิ์ศรีมากกว่า

(26 มิ.ย. 68) ซาร์ โสกา (Sar Sokha) รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกแถลงการณ์ตำหนิไทยอย่างรุนแรง กรณียิงกันบริเวณชายแดนมมเปย จังหวัดพระวิหาร จนทหารกัมพูชาเสียชีวิตเมื่อ 28 พฤษภาคม 2568 โดยกล่าวหาว่า ไทยจงใจบิดเบือนข้อเท็จจริง สร้างความสับสน และ “แสดงละครตบตา” เพื่อกลบเกลื่อนวิกฤติการเมืองภายในของตนเอง

รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ระบุว่า ฝ่ายไทยแสร้งเปิดด่านชายแดนแต่ยังไม่อนุญาตให้ผ่านจริง พร้อมใส่ร้ายว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายรุกราน ทั้งที่ไทยเป็นผู้ปิดกั้นและใช้กลยุทธ์สร้างภาพลักษณ์เท็จให้โลกเข้าใจผิดว่าเป็นผู้ถูกรังแก ขณะเดียวกันกลับไม่ยอมรับความจริงหรือหาทางแก้ปัญหาอย่างจริงใจ

เขากล่าวอีกว่า เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่สะท้อนพฤติกรรมยั่วยุต่อเนื่องของไทยตลอดแนวชายแดน พร้อมเตือนว่า “กัมพูชาอาจยากจนกว่า แต่เรามีศักดิ์ศรี” และเสริมว่า ไทยไม่ควรดูแคลนบทเรียนจากอดีตที่กัมพูชาเคยเผชิญสงครามมาอย่างยาวนาน

สุดท้าย ซาร์ โสกา ย้ำว่า กัมพูชายึดมั่นในสันติภาพบนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ และเรียกร้องให้ไทยแสดงความจริงใจ ด้วยการเปิดพรมแดนอย่างแท้จริง พร้อมทำงานร่วมกันอย่างเท่าเทียม ไม่ใช่ด้วย “การทูตหลอกลวง” ที่หวังเพียงล้างภาพตัวเองในสายตาชาวโลก

เชียงใหม่-กองบิน 41 ให้การต้อนรับคณะโครงการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับผู้ปฏิบัติงานระหว่างกองทัพอากาศไทยและกองทัพอากาศประชาชนเวียดนาม

เมื่อวานนี้ (25 มิ.ย. 68) นาวาอากาศเอก ปรธร จีนะวัฒน์ ผู้บังคับการกองบิน 41 พร้อมด้วยรองผู้บังคับการกองบิน 41 ให้การต้อนรับคณะโครงการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับผู้ปฏิบัติงานระหว่างกองทัพอากาศไทยและกองทัพอากาศประชาชนเวียดนาม ณ กองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่

การมาเยือนในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกองทัพอากาศทั้งสองประเทศ และแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ รวมถึงแนวทางการปฏิบัติงานด้านการบินและกิจการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาความร่วมมือต่อไป

ในโอกาสนี้ คณะผู้แทนจากกองทัพอากาศประชาชนเวียดนามได้รับฟังบรรยายสรุปภารกิจของกองบิน 41 และเยี่ยมชมกิจการศักยภาพของกองบิน 41 อาทิ การปฏิบัติงานของฝูงบิน และระบบการสนับสนุนการบิน ซึ่งสะท้อนถึงความพร้อมของกองทัพอากาศไทยในการปฏิบัติภารกิจป้องกันประเทศและการช่วยเหลือประชาชน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top