Saturday, 21 June 2025
TheStatesTimes

'กองทุนน้ำมัน' เร่งเก็บเงิน เคลียร์หนี้สะสมกว่า 1 แสนล้านบาท หลังดึงกลไกกองทุนพยุงราคาดีเซลไม่ให้สูงเกิน 33 บาทต่อลิตร

(26 ก.ย. 67) แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงฯ อยู่ระหว่างการจัดทัพการทำงานของข้าราชการภายในกระทรวงฯ ซึ่งน่าจะเริ่มเข้าที่เข้าทางในเดือนต.ค. 2567 นี้ เพื่อเร่งแก้ปัญหาด้านพลังงาน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ที่ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 22 ก.ย. 2567 ยังคงติดลบระดับ 101,343 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมันติดลบ 53,875 ล้านบาท และบัญชีก๊าซหุงต้ม (LPG) ติดลบ 47,468 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในการแก้ปัญหากองทุนน้ำมันฯ ที่ยังติดลบกว่า 1 แสนล้านบาท จะต้องจับตาว่ารัฐบาลโดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะไว้วางใจให้ใครมารับตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) คนใหม่ แทนนายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ที่ครบวาระการดำรงตำแหน่งไปแล้วช่วงกลางเดือนส.ค. 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดกระบวนการสรรหาผอ. สกนช. ได้ปิดรับสมัครไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2567 ที่ผ่านมา

“ตอนนี้ต้องรอคณะอนุกรรมการสรรหาฯ รวบรวมรายชื่อผู้สมัคร และตรวจคุณสมบัติก่อนเรียกผู้ที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกมาสัมภาษณ์ โดยครั้งนี้ได้มีการเปิดเกณฑ์อายุผู้สมัครจากเดิมห้ามไม่ให้เกิน 61 ปี เป็นห้ามไม่ให้เกิน 65 ปี จึงมองว่าน่าจะมีผู้ที่มีความรู้ความสามารถสมัครมากกว่าครั้งที่ผ่านมา” แหล่งข่าว กล่าว

ทั้งนี้ จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าในขณะนี้ แม้จะส่งผลดีต่อต้นทุนการนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศ แต่ก็ยังมีปัจจัยเรื่องของปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะตะวันออกกลางที่ยังคงสู้รบกันอย่างดุเดือด อีกทั้งขณะนี้จีนได้เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเชื่อว่าจะมีการบริโภคน้ำมันในประเทศมากขึ้น ซึ่งจีนถือเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันสูงสุดจะทำให้ราคาน้ำมันตลาดโลกยิ่งผันผวนขึ้น

อย่างไรก็ตาม โดยขณะนี้ราคาน้ำมันตลาดโลกจะไม่สูงมากส่งผลให้สามารถเก็บเงินเข้าบัญชีกองทุนน้ำมันเฉลี่ยเดือนละ 12,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเก็บจากน้ำมันเบนซินราว 4,200 ล้านบาท ดีเซล 6,100 ล้านบาท และ LPG ราว 160 ล้านบาท ซึ่งในช่วงนี้ราคาน้ำมันดูไบอยู่ที่ 74.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในขณะที่น้ำมันดีเซล (Gas Oil) ตลาดโลกอยู่ที่ 85.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แม้ว่าในช่วงนี้ราคาจะไม่สวิงมากแต่ก็ยังคงผันผวน ซึ่งยังมาจากหลายปัจจัย

“ตอนนี้คณะอนุกรรมการสรรหาผอ.คนใหม่จะต้องเร่งหาผอ. เพื่อเข้ามาบริหารจัดการสภาพคล่องให้กับกองทุนน้ำมันฯ เพราะการเก็บเงินเข้าบัญชีเฉลี่ยขณะนี้ถือว่าไม่มาก อีกทั้ง กองทุนฯ จะต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยเดือนละ 200-250 ล้านบาท ซึ่งช่วงเดือนพ.ย. 2567 จะต้องเริ่มทยอยจ่ายเงินต้นที่กู้มางวดแรกครั้งละ 5,000-10,000 ล้านบาท ช่วงปลายปี 2565 จากยอดรวม 105,333 ล้านบาท ดังนั้น เงินต้นจะเริ่มจ่ายคืนตามสัญญาภายใน 2 ปี และมีกรอบสิ้นสุดระยะเวลาคืนหนี้ภายใน 5 ปี โดยเงินกู้ทั้งหมดจะต้องคืนครบภายในปี 2571-2572”

รายงานข่าว ระบุว่า สำหรับการบริหารงาน 4 ปี ของนายวิศักดิ์ ได้ดูแลเสถียรภาพราคาน้ำมันในช่วงวิกฤติ ซึ่งจะเห็นได้ว่าตลอด 4 ปีที่ผ่านมา กองทุนฯ ต้องเข้าไปช่วยดูแลราคาน้ำมัน และ LPG หลังเผชิญกับสถานการณ์วิกฤติราคาพลังงาน, การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ทำให้กองทุนฯ ติดลบสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 1.3 แสนล้านบาทในปี 2565 โดยราคาน้ำมันดิบในขณะนั้นสูงถึง 120-130 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

ทั้งนี้ รัฐบาลจึงต้องอนุมัติให้กู้เงินได้ในกรอบวงเงิน 1.5 แสนล้านบาท โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน ซึ่งสกนช. ได้กู้เงินร่วม 105,333 ล้านบาท จากความผันผวนของราคาน้ำมันตลาดโลก ทำให้ราคาน้ำมันดีเซลในประเทศก็ต้องปรับขึ้นจาก 30 บาทต่อลิตร มาอยู่ในเพดานที่ 35 บาทต่อลิตร และปรับลดลงเมื่อมีรัฐบาลใหม่เข้ามาเหลือ 30 บาทต่อลิตร ทั้งนี้ ปัจจุบันนายพีระพันธุ์ ใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ พยุงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้สูงเกิน 33 บาทต่อลิตร

'ผู้จัดแอน' แจง!! 'โลกหมุนรอบเธอ' โดนถล่มบทป่วย เพราะตั้งใจให้ตัวละครเป็นสีเทา หวัง!! สะท้อนการเติบโต-เรียนรู้ของคนในแต่ละช่วงวัย ที่มักเปลี่ยนไปตามเวลา

(26 ก.ย. 67) หลังจากที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก สำหรับละครช่องดัง 'โลกหมุนรอบเธอ' ของผู้จัดคนดัง 'แอน ทองประสม' ซึ่งเป็นละครแนว Coming of age การเรียนรู้ชีวิตและก้าวผ่านวัย บนเส้นทางความรัก มิตรภาพ และการเติบโต โดยฉากที่ดรามาหนักใน EP.18 เป็นฉากที่นางเอก 'ตะวัน' รับบทโดย 'โบว์ เมลดา' ที่มีสามีแล้ว เป็นชู้กับพระเอก 'มานะ' รับบทโดย 'เจมส์ จิรายุ' ซึ่งชาวโซเชียลระบุถึงความไม่สมเหตุสมผล อีกทั้งตัวพระ-นางยังทำผิดศีลธรรมรวมไปถึงวิจารณ์ถึงความไม่สมเหตุสมผลของบทละครหลาย ๆ จุด

ซึ่งทางด้านผู้จัดละครอย่าง 'แอน ทองประสม' ได้ออกมาเปิดเผยครั้งแรกในงานแถลงข่าวละครเรื่องใหม่ 'หนึ่งในร้อย' ว่าในฐานะผู้จัดก็มีภาวะเสี่ยงต่าง ๆ จัดการยังไง ก็อย่างที่บอกว่าบางทีเราคาดการณ์ก่อนด้วยว่า เราตั้งใจอยากไปเวย์นี้ ถ้าไปอย่างนี้คนดูน่าจะรับได้ น่าจะเข้าใจ เราก็ต้องคิดในเวย์นี้ก่อน แต่พอทำออกมามันจะมีก้อนบางก้อนที่รับได้มาก ๆ บางจุดรับไม่ได้ มันก็เป็นการเรียนรู้ ถ้าคุยกันด้วยเหตุผลก็จับความคิดเขามาและได้เรียนรู้ว่าต่อไปทำชิ้นงานอะไรจะได้ปรับ แต่ถ้าอันไหนดีอยู่แล้ว แสดงว่าการตัดสินใจของเราเฉียบคมแล้ว แอนก็เอามาประเมินตัวเองไปเรื่อย ๆ เพราะแอนไม่ได้ทำละครให้ตัวเองดูคนเดียว เราก็ต้องฟังความคิดเห็นที่มีเหตุผล แอนก็เอามาใช้ปรับตัวเองไปค่ะ

>>แสดงว่าเราก็ยอมรับทุกคอมเมนต์ที่แนะนำ?

คือจะมีคอมเมนต์ที่เขาให้มุมมองที่ชอบเพราะอะไร อันนี้ก็เป็นคอมเมนต์บวก เราก็เก็บไว้ เราถือว่าอันนี้เราได้แล้ว แต่ถ้าคอมเมนต์ไม่ชอบเลยเพราะเหตุนี้ ๆ เราเข้าใจว่าเขาสงสัยอะไร แต่ถ้าคอมเมนต์ลักษณะโจมตี เกลียดชัง อันนี้แอนจะถือว่าเราไม่สามารถไปควบคุมตรงนั้นได้ ก็ต้องละไว้ ถามว่ามีมั้ยที่รู้สึกว่าทำไม ก็ต้องมีบ้าง คนเรามี on off อยู่แล้ว บางทีเราเหมือนว่าเราโดนผลักออกไปแล้วมีเซ แล้วเราก็ต้องกลับมายืนให้ได้ ชีวิตต้องไปต่อ

>>พอเป็นแอน ทองประสม คนก็คาดหวังมาก?

แอนว่าเขาคาดหวังกับทุกคนนะคะ แต่ของแอนอาจจะโดนเล่นข่าวเยอะหน่อย ก็ไม่แปลก เพราะแอนเป็นนักแสดงด้วย แอนเข้าใจบริบทตรงนี้มาก ๆ

>>ที่ผ่านมาโดนวิพากษ์วิจารณ์เยอะเรื่องบทละคร ‘โลกหมุนรอบเธอ’?

อ๋อ ใช่ จริง ๆ โลกหมุนรอบเธอคือด้วยความตั้งใจโจทย์แรกของทางทีมเราคือเราต้องการนำเสนอตัวละครที่เป็นสีเทา ตัวละครที่มีการเติบโต เรียนรู้ในแต่ละช่วงวัย เช่น เราเป็นเด็ก เราคิดได้เท่านี้ พออีกช่วงวัยหนึ่งเราเติบโต เราเรียนรู้ไปอีกแบบนึง การคิดในแบบวันนั้นมันไม่ใช่แล้ว มันส่งผลลัพธ์อะไรในตอนที่เราโตขึ้น ตัวละครมีความหมุนเวียนเป็นมนุษย์ปกติ แต่พอออกมาบางทีบางการตัดสินใจของตัวละครคนก็จะคิดว่าไม่อยากให้ตัดสินใจแบบนี้ ก็จะไม่ถูกใจเขา เราก็เข้าใจตรงนี้ได้ ถ้าเขาถามและเปิดโอกาสให้เราอธิบาย เราก็จะอธิบายไปว่าเพราะอะไรเขาถึงทำแบบนี้

>>เราคาดการณ์ไหมว่ากระแสสังคมจะตีกลับมาแบบนี้?

แอนคิดว่าเขาคงมีถาม แต่เราไม่ได้คิดถึงความรุนแรงว่าเป็นเบอร์ไหน เราไม่ได้คิดว่าความรุนแรงเบอร์ 10 เรารู้แล้วว่าอาจจะต้องมีสงสัย มีคำถามแน่นอน (พี่แอนบอกแต่วันแรกแล้วว่าตัวละครเป็นสีเทา?) ใช่ค่ะ แต่อย่างที่บอกว่าบางคนอาจจะบอกว่าไม่อยากเห็นคนนี้ตัดสินใจแบบนี้ เข้าใจสุดๆ เลย เพราะว่าเราก็รู้ว่าเขารักของเขา

>>หลายคนบอกว่าอยากให้พระเอกนางเอกเป็นสีขาว ทำถูกต้อง?

ก็ถ้าเราจะทำละครเรื่องต่อไป แอนก็ต้องหาละครที่เป็นเฉดนี้ที่เป็นไปในทางนั้นเลย ก็จะชัดเจนไปเลย ไม่ต้องนำเสนอแบบเทาแค่นั้นเองค่ะ เพราะว่าอันนี้ทำแล้ว มันไปแบบของมันแล้ว ให้มันไปจนจบตรงนั้นไป

>>อยากบอกอะไรกับคนดู ?

อย่างที่บอกว่าแอนเข้าใจและเคารพทุกความคิดเห็นที่เขามีเจตนาที่ดีในการจะฟีดแบ็ก แอนก็จะได้เรียนรู้และจดจำว่าทิศทางแบบนี้เขาอาจจะไม่ค่อยปลื้ม เราในฐานะคนทำก็ต้องการคนดูอยู่แล้ว เราก็ก็จะเอาไว้ปรับตัวเองว่าต่อไปเรานำเสนอก็เลือกเวย์นี้ อาจจะเซฟกว่า วันนึงเราอยากจะทำละครที่เป็นมุมที่ไม่เซฟอีก เราก็ทำการบ้านอีกรูปแบบหนึ่ง ณ เวลานั้นเดี๋ยวมันจะบอกเราเองว่าเราต้องเตรียมตัวยังไง แต่ว่าเราต้องให้เกียรติ ให้พื้นที่กับคนที่เขาชอบด้วย อันนี้เราก็ต้องขอบคุณที่หลายคนยังเข้าใจทิศทาง แต่สำหรับคนที่มีคำถาม แอนก็ได้แต่ค่อย ๆ ย่อยสิ่งที่เขาฟีดแบ็กมาแล้วจดจำไว้ อันไหนปรับได้เราปรับ อันไหนที่เรารู้สึกว่าเป็นกำลังใจแล้วไปต่อแอนก็ไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทีมงานทุกคนตั้งใจทำงานกันร้อยเปอร์เซ็นต์ นักแสดงทุกคนใช้หัวใจเล่นอย่างเต็มที่

‘จีน’ เผย!! สถานีฐาน 5G ทะลุ 4 ล้านแห่งแล้ว เตรียมขยายคลุมสถานที่สำคัญทั่วประเทศต่อ

(26 ก.ย. 67) สำนักข่าวซินหัว เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน ได้รายงานจำนวนสถานีฐาน 5G ในจีนสูงเกิน 4.04 ล้านแห่ง เมื่อนับถึงสิ้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาแล้ว

รายงาน ระบุว่า จำนวนข้างต้นคิดเป็นร้อยละ 32.1 ของจำนวนสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมดของประเทศ ส่วนจำนวนผู้สมัครใช้งานสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ 5G ในจีนอยู่ที่ 966 ล้านราย

ทั้งนี้ เครือข่ายสัญญาณ 5G และการใช้งานสัญญาณ 5G เชิงพาณิชย์ของจีนได้พัฒนาอย่างรวดเร็วตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันเครือข่ายสัญญาณ 5G ครอบคลุมทุกเมือง รวมถึงหมู่บ้านมากกว่าร้อยละ 90

ขณะการแสดงความเป็นเจ้าของสิทธิบัตรที่เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรม 5G ของจีนครองสัดส่วนร้อยละ 42 ของทั้งหมดในโลก

กระทรวงอุตฯ เสริมอีกว่า จีนจะเดินหน้าการพัฒนา 5G และขยายความครอบคลุมของเครือข่ายสัญญาณ 5G ในสถานที่ต่าง ๆ เช่น สถานที่ทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สถานดูแลสุขภาพ มหาวิทยาลัย ศูนย์กลางการขนส่ง และระบบรถไฟใต้ดินต่อไป

‘กลุ่มไทยออยล์’ ร่วมผลักดันวงการกีฬาคนพิการสู่ระดับสากล มอบเงินสนับสนุน ‘สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย’

(26 ก.ย. 67) กลุ่มไทยออยล์ โดยคุณถิรยุทธ ลิมานนท์ ผู้จัดการฝ่ายกิจการสัมพันธ์ เป็นตัวแทนมอบเงินสนับสนุนให้กับสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในโอกาสงานเลี้ยงแสดงความยินดีกับทัพนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย ที่ผ่านการแข่งขันมหกรรมกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 17 ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ที่อาคารอเนกประสงค์ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม โดยมีคุณไมตรี คงเรือง นายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นผู้รับมอบ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาคนพิการไทย

การสนับสนุนในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งในความตั้งใจของกลุ่มไทยออยล์ในการดำเนินธุรกิจที่ใส่ใจต่อสังคม ผ่านการสนับสนุนโอกาสทางการกีฬาแก่นักกีฬาผู้พิการไทย และพัฒนาศักยภาพนักกีฬาคนพิการให้สามารถแข่งขันในระดับนานาชาติและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ตามวิสัยทัศน์องค์กร ‘สร้างสรรค์คุณภาพชีวิตด้วยพลังงานและเคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืน’

🔎ส่องราคาน้ำมันเฉลี่ยในประเทศอาเซียน ราคา ณ วันที่ 26 ก.ย. 67

รายงานราคาน้ำมันเฉลี่ยในอาเซียน ประจำวันที่ 26 กันยายน 2567 โดยราคาขายน้ำมันแต่ละประเทศ มีปัจจัยทางด้านราคา ดังนี้

1.แต่ละประเทศมีมาตรการภาษี และระบบการเก็บเงินเข้ากองทุนหรืออุดหนุนราคาพลังงานที่แตกต่างกัน

2.ในหลายประเทศเพื่อนบ้านยังมีการอุดหนุนราคากันอยู่

3.ประเทศไทยสนับสนุนการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ ให้การอุดหนุนราคาโดยกองทุนน้ำมันฯ จึงทำให้ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ถูกกว่าเบนซิน

หมายเหตุ : ราคา ณ วันที่ 26 กันยายน 2567 อัตราแลกเปลี่ยน (อัตรากลาง) ณ วันที่ 20 กันยายน 2567 *ประเทศไทย อ้างอิงราคาจาก ปตท. และ บางจาก และเป็นราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95E10 ซึ่งมีสัดส่วนการใช้มากที่สุด

‘BCPG’ ชวนน้องๆ ร่วมกิจกรรม ‘มือเปื้อนโคลน เพื่อป่าชายเลน ปี 2’ เพิ่มแหล่งดูดซับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนฯ บรรเทาปัญหาโลกร้อน

(26 ก.ย. 67) บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) โดยคุณชาญวิทย์ ตรังอดิศัยกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการลงทุน พี่ ๆ อาสาบีซีพีจี พร้อมด้วยน้อง ๆ จากโรงเรียนโคกสำโรงวิทยา จังหวัดลพบุรี โรงเรียนในพื้นที่โรงไฟฟ้าของบริษัทฯ จำนวนรวมกว่า 80 คน ร่วมปลูกป่าชายเลน เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว แหล่งดูดซับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไชด์ให้กับโลก ลดความรุนแรงของปัญหาโลกร้อน ในกิจกรรม ‘มือเปื้อนโคลน เพื่อป่าชายเลน ปี 2’ ณ อำเภอคลองโคน จังหวัดสมุทรสงคราม

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นรักษาความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมและชะลอผลกระทบที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างต่อเนื่อง การจัดกิจกรรม ‘มือเปื้อนโคลน เพื่อป่าชายเลน ปี 2’ เพื่อปลูกฝังเยาวชนให้มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อีกทั้งป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ ยังสามารถเสริมสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน และส่งผลให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้วย 

‘LINE TODAY’ เปิดโผนักการเมืองยอดนิยมเดือน ก.ย. 67 ‘นายกฯ อิ๊ง’ ผงาดที่ 1 ฟาก ‘รมว.พีระพันธุ์’ ติดโผด้วย

(26 ก.ย. 67) การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองของนักการเมืองประจำเดือนกันยายน ของ Line Today พบว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก้าวกระโดดขึ้นมาครอง อันดับ 1 หลังจากที่ในเดือนสิงหาคมติดอยู่ที่อันดับ 11 คะแนนนิยมเพิ่มขึ้นมากถึง 4.5 พันคะแนน

ขณะที่ อันดับ 2 ตกลงมาจากอันดับ 1 ได้แก่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งหลังจากถูกยุบพรรค พบว่าคะแนนลดลงมากถึง 16,803 คะแนน หลังจากที่ในเดือนสิงหาคมได้รับคะแนนโหวตสูงถึง 19,794 คะแนน

ส่วนในอันดับที่ 3 คือ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่คะแนนนิยมพุ่งขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นสัญญาณบวกหลังได้นั่งเก้าอี้ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจเป็นนิมิตหมายที่ดีของ ‘ประชาธิปัตย์’ ที่จะมีโอกาสกลับมาทวงบัลลังก์ทางการเมือง

สำหรับผลโหวตสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองของนักการเมืองในปัจจุบัน ประจำเดือนกันยายน ซึ่งเปิดโหวตตั้งแต่วันที่ 1-20 กันยายน ที่ผ่านมา โดยผลปรากฏว่า 10 อันดับแรกมีดังนี้…

อันดับ 1 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี 4,764 คะแนน คิดเป็น 37.59%
อันดับ 2 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ 2,991 คะแนน คิดเป็น 23.6%

อันดับ 3 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน 1,355 คะแนน คิดเป็น 10.69%
อันดับ 4 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค 681 คะแนน คิดเป็น 5.37%

อันดับ 5 นายชวน หลีกภัย 585 คะแนน คิดเป็น 4.62%
อันดับ 6 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ 428 คะแนน คิดเป็น 3.38%

อันดับ 7 นายทักษิณ ชินวัตร 336 คะแนน คิดเป็น 2.65%
อันดับ 8 น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล 313 คะแนน คิดเป็น 2.47%

อันดับ 9 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร 181 คะแนน คิดเป็น 1.43%
อันดับ 10 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส 131 คะแนน คิดเป็น 1.03%

ชลบุรี-ศุลกากรแหลมฉบัง จับกัญชา กว่า 1.4 ตัน เลี่ยงภาษีส่งออกมูลค่ากว่า 25 ล้าน

(26 ก.ย. 67) นายดิเรก คชารักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญกับการเร่งป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้า ส่งออก นำผ่าน สินค้าผิดกฎหมาย เพื่อปกป้องสังคมและเพื่อภาพลักษณ์ทางการค้าในเวทีการค้าโลก ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วย ว่าการกระทรวงการคลัง ได้สั่งการให้กรมศุลกากร เข้มงวดกวดขันเรื่องดังกล่าว โดยนายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังการลักลอบ - หลีกเลี่ยงศุลกากร เพื่อส่งออกไปนอกราชอาณาจักรในทุกช่องทาง โดยบูรณาการด้านการข่าวอย่างต่อเนื่อง ร่วมกับหน่วยงานความร่วมมือระหว่างประเทศ อาทิ โครงการความร่วมมือด้านปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติด ในพื้นที่ท่าเรือ (SeaportInterdiction Task Force : SITF) โครงการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ (UNODC-WCO Container Control Programme: CCP) หน่วยงานกิจการพรมแดนแห่งสหราชอาณาจักร (UK Border Force) เป็นต้น

นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ รองอธิบดีฯ จึงสั่งการให้ทุกหน่วยงานในกำกับดูแล มีมาตรการในการป้องกันและปราบปรามสกัดกั้นสินค้าผิดกฎหมายในทุกรูปแบบ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบอย่างเคร่งครัด นายดิเรก คชารักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เปิดเผยว่า จากการประสานงานกับโครงการความมือระหว่างประเทศและหน่วยงานในต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและตาม สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ทำการวิเคราะห์ข้อมูลใบขนสินค้าขาออก พบของต้องสงสัยสุ่มเสี่ยงที่จะส่งออกสินค้าผิดกฎหมาย ระบุปลายทางสหราชอาณาจักร จำนวน 2 ฉบับ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการแจ้งกักสินค้าเพื่อทำการเปิดตรวจสอบ ก่อนส่งออกไปนอกราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567 เจ้าหน้าที่ฯ ร่วมกับตัวแทนผู้ส่งออก เปิดตรวจสอบสินค้าตามใบขนสินค้าขาออก ฉบับที่ 1 สำแดงชนิดสินค้าเป็นพื้นยางสำหรับใช้ในฟิตเนส จำนวน 3 พาเลท ตรวจสอบพบกล่องไม้ตัดแปลงภายในสินค้าทั้ง 3 พาเลท บรรจุช่อดอกกัญชา จำนวน 153.30 กิโลกรัม มูลค่า 5 ล้านบาทต่อมาวันที่ 16 กันยายน 2567 เจ้าหน้าที่ฯ ร่วมกับตัวแทนผู้ส่งออก เปิดตรวจสอบสินค้าตามใบขนสินค้าขาออก ฉบับที่ 2 สำแดงชนิดสินค้าเป็นถุงมือผ้า จำนวน 4 ลังไม้ ตรวจสอบพบกัญชาและช่อดอกกัญชาอัดแท่ง ช่อดอกกัญชา และกัญชามวน น้ำหนัก 1.3 ตัน มูลค่า 20 ล้านบาท

กรณีนี้ เป็นการพยายามส่งของที่กำลังผ่านพิธีการศุลกากร ออกไปนอกราชอาณาจักร โดยสำแดงชนิดของ ปริมาณ น้ำหนักและประเภทพิกัดเป็นเท็จ เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัด อันเป็นความผิดฐานแสดงข้อมูลไม่ถูกต้องครบถ้วนและฐานหลีกเลี่ยงข้อจำกัดตามมาตรา 202 มาตรา 244 ประกอบมาตรา 252 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และมาตรา 46 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542 อนึ่ง "พืชตระกูลกัญชา" จัดเป็นสมุนไพรควบคุม โดยผู้ใดประสงค์จะศึกษาวิจัย ส่งออก หรือจำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า จะต้องได้รับใบอนุญาตตามมาตรา 46 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542 และในกรณีนี้ สำหรับสหราชอาณาจักรซึ่งเป็นประเทศปลายทาง "กัญชาจัดเป็นยาเสพติด" (Class B drups) ดังนั้น การครอบครอง จำหน่าย ผลิต นำเช้าหรือส่งออกกัญชา ถือเป็นความผิด กรณีครอบครอง มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับไม่จำกัดจำนวนวน หรือทั้งจำทั้งปรับส่วนกรณีจำหน่าย ผลิต นำเข้า หรือส่งออก มีโทษจำคุกคุกสูงสุด 14 ปี ปรับไม่จำกัดจำนวน หรือทั้งจำทั้งจำทั้งปรับ

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี 0909535645

‘รมว.เอกนัฏ’ เยี่ยมชมโรงงานผลิตยา จ.ราชบุรี ชูต่อยอดอุตฯ ด้วยการวิจัย-เทคโนโลยีทันสมัย

เมื่อวานนี้ (25 ก.ย. 67) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่าได้ร่วมมอบกายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ ประเภทรถเข็นนั่งวีลแชร์ (Wheelchair) ครั้งที่ 1 ภายใต้โครงการจัดหากายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ 72,000 ชุด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อน้อมนำแนวพระราชดำริ พระราชปณิธาน และพระบรมราโชบายเกี่ยวกับการพัฒนาสิ่งแวดล้อม พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้อยู่ดีมีสุข มุ่งเน้นให้ประชาชนมีส่วนร่วม 

นอกจากนี้ ทางธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ได้สนับสนุนจัดหาถุงยังชีพแก่ครัวเรือนเปราะบางในจังหวัดราชบุรี จำนวน 500 ราย 

“รถเข็นนั่งวีลแชร์ที่พี่น้องคนพิการได้รับในวันนี้จะเป็นอุปกรณ์ช่วยการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ได้รับโอกาส สิทธิ สวัสดิการที่เท่าเทียม ทั่วถึงให้กับกลุ่มคนพิการ ส่วนถุงยังชีพที่ได้รับ เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและครัวเรือนกลุ่มเปราะบางในเบื้องต้น และต้องขอขอบคุณกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ ธพว. ที่ให้การสนับสนุนสิ่งของดังกล่าว ขอขอบคุณทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ในพื้นที่ที่เข้ามาร่วมมือร่วมใจกันให้สำเร็จลุล่วง ซึ่งเป็นการร่วมสืบสานพระราชประสงค์และพระราชปณิธานที่มุ่งมั่นแน่วแน่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการบำบัดทุกข์และสร้างความผาสุกร่มเย็น ให้แก่ปวงพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า รวมถึงพี่น้องคนพิการทุกคน”

ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีฯ เอกนัฏ และคณะยังได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมสายการผลิต ศูนย์วิจัยและห้องปฏิบัติการผลิตสารสกัดจากธรรมชาติเพื่อสุขภาพ บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน) ตำบลน้ำพุ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เป็นผู้ผลิตและวิจัยผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ โดยบริษัทฯ ได้มีการยกระดับงานวิจัยและพัฒนาขึ้นเป็นศูนย์วิจัย BLC (BLC Research Center) เพื่อทำหน้าที่วิจัยและพัฒนาสูตรตำรับผลิตภัณฑ์ รูปแบบยาแผนปัจจุบัน ยาจากสมุนไพร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอางและสารสกัด รวมทั้งมีการนำเทคโนโลยีที่ได้รับจากหน่วยงานภายนอกมาวิจัยและพัฒนาต่อยอด เพื่อให้สามารถดำเนินการผลิตได้ในระดับอุตสาหกรรม สามารถควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้สม่ำเสมอเท่าเทียมกันในทุกรุ่นการผลิตและเพิ่มคุณค่า คุณประโยชน์ให้กับผลิตภัณฑ์ มีผลิตภัณฑ์สุขภาพครอบคลุมทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย ‘ปฏิรูปอุตสาหกรรม’ ตอบโจทย์การพัฒนาอุตสาหกรรมไทย ยกระดับผลิตภาพการผลิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ 

นอกจากนี้ บริษัทเน้นการสร้างอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน ทำให้สามารถลดต้นทุนการผลิต และลดการปลดปล่อยคาร์บอนตามแนวนโยบายของรัฐบาลอีกด้วย

‘จีน’ เตรียมแจกเงินสด ‘กลุ่มคนยากไร้-เด็กกำพร้า’ หวังเพิ่มกำลังซื้อช่วงเทศกาล ‘วันชาติ’ 1 ต.ค.นี้

(26 ก.ย. 67) สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานอ้างถึงการรายงานของสถานีโทรทัศน์ CCTV ของรัฐบาลจีนที่เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังและกระทรวงกิจการพลเรือนจะออกเงินอุดหนุนค่าครองชีพในรูปแบบการแจกเงินสดครั้งเดียวให้แก่กลุ่มผู้ด้อยโอกาส รวมถึงผู้ยากไร้และเด็กกำพร้า ในวันที่ 1 ต.ค.ซึ่งตรงกับวันชาติจีน

แม้จะไม่มีการให้รายละเอียดใด ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับจำนวนเงินที่แน่ชัด แต่การแจกเงินแบบครั้งเดียวในระยะเวลาอันสั้นนี้ ดูเหมือนจะเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาลที่มักหลีกเลี่ยงสิ่งที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เรียกว่า ‘รัฐสวัสดิการ’ มาโดยตลอดง

ทั้งนี้ รัฐบาลประกาศในเดือนเม.ย.ว่าในปีนี้กระทรวงของจีนจัดสรรงบประมาณ 1.54 แสนล้านหยวน (ประมาณ 7 แสนล้านบาท) เพื่ออุดหนุนและช่วยเหลือทางการเงินแก่กลุ่มคนที่ยากจนรุนแรงกว่า 4.74 ล้านคน ตามข้อมูลของกระทรวงกิจการพลเรือนในเดือนมิ.ย.67ง

อย่างไรก็ดี นับว่านโยบายแบบนี้ไม่ค่อยเกิดขึ้นมากนักในจีน ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศหลังจากแบงก์ชาติจีนเปิดเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ซึ่งครอบคลุม ทั้งการลดดอกเบี้ยในตลาดเงิน นโยบายกระตุ้นการลงทุนในตลาดหุ้นและภาคอสังหาริมทรัพย์

รายงานระบุว่า หน่วยงานท้องถิ่นต้องดำเนินการให้เงินช่วยเหลือถึงมือผู้รับที่เป็นกลุ่มเป้าหมายก่อนวันที่ 1 ต.ค. เพื่อแสดงให้เห็นถึง ‘ความรักและความห่วงใยของพรรคและรัฐบาลที่มีต่อประชาชนผู้เดือดร้อน’

ในขณะเดียวกัน สำนักข่าวซินหัวรายงานเมื่อวันที่ 25 ก.ย.ว่า รัฐบาลกลางได้ออกนโยบายและสวัสดิการประกันสังคมแก่บัณฑิตจบใหม่ที่ยังไม่ได้งานทำภายในระยะเวลา 2 ปีหลังจบการศึกษา โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการจ้างงาน

‘วันชาติ’ เป็นหนึ่งในวันหยุดที่สำคัญที่สุดในจีนที่มักจะเห็นการจับจ่ายใช้สอย การเดินทาง แต่ภาวะตกต่ำของภาคอสังหาริมทรัพย์และตลาดแรงงานที่ซบเซาได้กดดันการใช้จ่าย ทำให้บางนักเศรษฐศาสตร์เรียกร้องให้มีการแทรกแซงทางการคลังโดยตรงมากขึ้น

หวง อี้ผิง สมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารประชาชนจีน ได้เรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มการใช้จ่ายเพื่อแก้ไขปัญหาการบริโภคที่อ่อนแอ ในการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายเศรษฐกิจของจีนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า การแจกเงินสดให้แก่ครัวเรือนจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในขณะที่การให้ความสำคัญกับสุขภาพทางการคลังมากเกินไปอาจเป็นอุปสรรคต่อเศรษฐกิจ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top