Tuesday, 10 June 2025
TheStatesTimes

โรงเรียนอนุบาลบนถนนชิงซี เมืองหัวอิ๋ง มณฑลซื่อชวน (เสฉวน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนได้จัดกิจกรรมการแข่งขันในหัวข้อ ‘รู้ทักษะชีวิต เป็นสุขและพึ่งพาตนเองได้’

ทั้งนี้ทักษะต่าง ๆ ที่ให้บรรดาเด็กน้อยมาฝึกฝนและแข่งขันกันนั้นมีมากมาย เช่น พับผ้าห่ม พับเสื้อผ้า ใส่รองเท้า ปอกเปลือกไข่ต้ม ใช้ตะเกียบคีบถั่ว และจัดกระเป๋านักเรียน เพื่อบ่มเพาะความสามารถในการดูแลตนเองของเด็ก ๆ และส่งเสริมให้พวกเขามีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ดี

อย่างไรก็ตามการจัดงานดังกล่าว นับเป็นการสร้างทักษะชีวิตให้กับเด็กในยุคที่กำลังเกิดมาพร้อม ๆ กับอุปกรณ์สื่อสารรุ่นใหม่ จนทำให้หมกมุ่นและละเลยกับทักษะบางอย่างที่ควรจะนำไปใช้กับชีวิตได้อย่างแท้จริง

ไทยเราน่าจะมีกิจกรรมแนวนี้มั่งเนาะ!!


ที่มา: Xinhuathai

สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน จัดของขวัญชุดใหญ่ให้ลูกจ้าง-ผู้ประกันตน อาทิ เพิ่มเงินค่าคลอด เงินสงเคราะห์บุตร และปรับลดเงินสมทบทั้งนายจ้างและผู้ประกันตน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2563 ว่าที่ประชุมฯ ได้เห็นชอบเรื่องการเพิ่มสิทธิประโยชน์เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2564 แก่ผู้ประกันตนในระบบกองทุนประกันสังคม มาตรา 33 และมาตรา 39 ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้

ปรับเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตร ให้กับผู้ประกันตนที่มีบุตรอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปี ให้มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มจาก 600 บาท เป็น 800 บาทต่อคน โดยจ่ายคราวละไม่เกิน 3 คน ในการนี้มีผู้ประกันตนได้รับประโยชน์จำนวน 1.362 ล้านคน คิดเป็นเงิน 13,739 ล้านบาท/ปี ใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นจากเดิม 3,432 ล้านบาท

ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกันตนที่มีบุตรโดยจะมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 เป็นต้นไป สำหรับระยะการจ่ายเงินกรณีสงเคราะห์บุตร ผู้ประกันตนจะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรที่ปรับเพิ่มของงวดเดือนมกราคม 2564 ตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 เป็นต้นไป

ปรับลดเงินสมทบฝ่ายนายจ้าง และฝ่ายผู้ประกันตนตามมาตรา 33 เหลือร้อยละ 3 และผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ลดลงเหลือ 278 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน (ตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม 2564) เพื่อช่วยเหลือนายจ้าง และผู้ประกันตนที่ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วย แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของนายจ้าง และผู้ประกันตน ในการจ่ายเงินสมทบรวมเป็นเงินจำนวน 15,660 ล้านบาท

นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยอันเกิดจาการระบาดของโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ โดยสาระของร่างดังกล่าว กำหนดให้ลูกจ้างซึ่งเป็นผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัย

และหน่วยงานของรัฐสั่งปิดพื้นที่เพื่อป้องกันการระบาด ของโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ เป็นผลกระทบให้ลูกจ้างซึ่งเป็นผู้ประกันตนไม่ได้ทำงาน และไม่ได้รับค่าจ้างในระหว่างนั้น โดยให้ลูกจ้างดังกล่าวซึ่งไม่ได้รับค่าจ้างดังกล่าว มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน

ในกรณีว่างงาน ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างรายวัน โดยให้ได้รับตลอดระยะเวลาที่รัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐ สั่งปิดพื้นที่ ทั้งนี้ ภายในระยะเวลา 1 ปีปฏิทินมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัย ทุกครั้งรวมกันไม่เกิน 90 วัน

ดังนั้น หากร่างกฎกระทรวงฯ มีผลใช้บังคับจะทำให้ลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบ จากการที่หน่วยงานของรัฐสั่งปิดพื้นที่เพื่อป้องกันการระบาดของโรคติดต่ออันตราย คาดว่าจะมีผู้ใช้สิทธิ จำนวน 700,727 ครั้ง ได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัย คิดรวมเป็นเงินกว่า 5,225 ล้านบาท

ปรับเพิ่มค่าคลอดบุตรเป็น 15,000 บาท (เดิม 13,000 บาท) ซึ่งการดำเนินการในครั้งนี้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการการแพทย์ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการประกันสังคม เรื่องหลักเกณฑ์และอัตราค่าส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคสำหรับประโยชน์ทดแทนในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจากการทำงาน พ.ศ.2563

ซึ่งในปี 2564 คาดว่า มีผู้ประกันตนที่ได้รับประโยชน์ทดแทนจากกรณีคลอดบุตร 293,073 คน/ปี คิดเป็นเงิน 4,396 ล้านบาท สำนักงานประกันสังคม จ่ายเงินงบประมาณเพิ่มขึ้น 586.146 ล้านบาท ปรับเพิ่มค่าฝากครรภ์ เป็น 5 ครั้ง รวมเป็น 1,500 บาท (เดิม 3 ครั้ง 1,000 บาท) คาดว่าจะมีผู้ประกันตนได้รับสิทธิประมาณ 122,114 ครั้ง/ปี เป็นเงิน 36.6 ล้านบาท สำนักงานประกันสังคมจ่ายเงินงบประมาณเพิ่มขึ้น 17.89 ล้านบาท ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 เป็นต้นไป

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวเพิ่มในตอนท้ายว่า ซึ่งการมอบของขวัญปีใหม่ 2564 ในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ

รวมไปถึงนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงแรงงาน โดยเฉพาะด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม เพื่อให้ครอบคลุมการดูแลบริการและสิทธิประโยชน์ของวัยแรงงานทุกกลุ่มทุกวัย อีกด้วย

ภาพสะท้อนแรงงานพม่า หลังถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้นำโควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ในไทย

ถูกวิพาก์วิจารณ์อย่างหนัก สำหรับแรงงานพม่าที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นกลุ่มที่นำเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือโรคโควิด-19 เข้ามาสู่ไทย โดยเฉพาะที่บริเวณเขตจังหวัดสมุทรสาคร จนทำให้ขณะนี้ เชื้อได้แพร่ระบาดไปทั่วประเทศไทย ล่าสุดมีเสียงสะท้อนจากกลุ่มแรงงานเหล่านี้ วิงวอนขอให้เข้าใจและเห็นใจ 

โดยในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในด้านลบไปถึงเหล่า ‘แรงงานพม่า’ ที่อยู่ในประเทศไทย จนเกิดกรณีดราม่าขึ้นมากมาย ทั้งการก่นด่า การห้ามไม่ให้ซื้อสินค้า จนล่าสุด มีภาพสะท้อนส่วนหนึ่งของแรงงานพม่าที่ได้ออกมาวิงวอน ขอให้เข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวที่โพสต์ขึ้นเฟซบุ๊ก หรือการเขียนจดหมายด้วยลายมือภาษาไทย ไปจนถึงการอัดคลิปลงแอปพลิเคชั่นติ๊กต่อกเพื่อระบายความอัดอั้นตันใจ 

ทั้งหมดเหล่านี้ เพื่ออยากวิงวอนให้ ‘คนไทย’ ได้เห็นใจ เพราะแรงงานที่ปฏิบัติตามกฎหมาย และดูแลความปลอดภัยในเรื่องการระบาดนี้ มีอยู่มากมาย ที่สำคัญไปกว่านั้น คือไม่มีใครอยากเป็นโรคโควิด-19 จึงวิงวอนอยากให้คนไทยโปรดเห็นใจ และเข้าใจ

จากข้อมูลของสำนักงานบริหารแรงงานต่างด้าว ปัจจุบันมีแรงงานต่างด้าวในประเทศไทยอยู่ที่ราวๆ 2.5 ล้านคน เฉพาะที่อยู่ในเขตจังหวัดสมุทรสาคร แบบขึ้นทะเบียนถูกกฎหมาย ราว 260,000 คน 

 

สนทนาพาสนุก กับ 3 นักแสดงนำภาพยนตร์เรื่อง วอน (เธอ)

ภาพยนตร์เรื่อง วอน (เธอ) กำลังจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ The States Times มีนัดคิวด่วน ๆ ได้พูดคุยกับ 3 นักแสดงนำของเรื่อง ‘เซ้นต์-ฟ้า-พีค’ เราพูดคุยกันถึงความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้ ที่ทั้งสามคนบอกว่า เป็นโจทย์ที่ไม่ง่ายเลยสำหรับเขาและเธอ แต่รับรองเรื่องความสนุก และคุณภาพของหนัง คุ้มค่าตั๋วแน่นอน นอกจากนี้เรายังมีคำถามที่ทั้งเขาและเธอไม่ค่อยได้ตอบที่ไหน จะพาสนุก หรือจะพาเครียดอย่างไร ไม่อยากให้พลาดเลยจริง ๆ ครับ

ก่อนอื่นไปทำความรู้จักกับทั้ง 3 คนก่อนดีกว่า...

เซ้นต์ ศุภพงษ์ อุดมแก้วกาญจนา

เซ้นต์แจ้งเกิดในวงการบันเทิง จากซีรีส์วาย เรื่อง บังเอิญรัก Love by chance หนึ่งในสี่คู่หลักของซีรีส์และรักษากระแสดังต่อเนื่องด้วยการเป็นหนึ่งในสามคู่หลัก ของซีรีส์ Why R U เพราะรักใช่เปล่า ระหว่างนั้นมีผลงานละครอีกหลายช่องทาง รวมถึงนักแสดงมิวสิควิดีโอ และงานอีเว้นต์ กับพรีเซนเตอร์ต่าง ๆ ไหลมาเทมา ด้วยกระแสป๊อบแห่งสายวาย

ด้วยรูปลักษณ์และลุคของเซ้นต์มีความเป็นตี๋หน้าหวาน ผสานทั้งจีน เกาหลี ญี่ปุ่น จึงมีแฟนซีรีส์วายในหลายประเทศ

พีค ภีมพล พานิชย์ธำรง

พีคแจ้งเกิดในวงการบันเทิง จากซีรีส์วาย จากเรื่อง Make It Right The series : รักออกเดิน ซีซั่น 1 และ 2 นอกจากนั้นก็มีผลงานอีเว้นต์ งานแสดงมิวสิควิดีโอต่อเนื่องมา มีแฟนๆ ติดตามอยู่ไม่น้อย และล่าสุด ภาพยนตร์เรื่องวอนเธอ เขาก็เป็นหนึ่งในสามหนุ่มตัวหลัก 

ฟ้า ษริกา สารทศิลป์ศุภา

ฟ้าแจ้งเกิดจากการเป็นศิลปินกลุ่มในสังกัด กามิกาเซ่ แต่ความสามารถด้านการแสดงของเธอเด่นชัด ไม่เพียงแค่ในการร้องหรือการเล่นเอ็มวี เธออวดผลงานละครทางช่อง 8 หลายต่อหลายเรื่อง จนกระทั่งฉายแววเด่นในภาพยนตร์ ฮาวทูทิ้งฯ เมื่อปีก่อน และวอน (เธอ) เป็นผลงานหนังเรื่องล่าสุดของเธอ กับคาแรกเตอร์สาวสวย รวยเสน่ห์และทรัพย์สมบัติ หญิงเด่นเพียงคนเดียว ต้องไปลองพิสูจน์กัน

Q: ใครเล่นเป็นใครกันบ้าง และบทบาทเป็นอย่างไรใน ‘วอน (เธอ)’ ให้ฟ้าตอบก่อน 

ฟ้า: ฟ้าเล่นเป็น ’เนเน่’ ค่ะ เด็กสาวที่ช่างฝัน มีความกล้า และอยากใช้ชีวิตช่วงวัยรุ่นอย่างเต็มที่ เพราะว่าเขายังไม่เคยเจออะไรใหม่ ๆ แต่ด้วย background ทางบ้านทำให้เนเน่ไม่เหมือนคนปกติ คือพ่อเป็นคนดัง และที่บ้านไม่ค่อยมีเวลาให้กันสักเท่าไร แต่ว่าพ่อเป็นคนดังมาก ทุกคนจะรู้จัก ชีวิตวัยเด็กก็โตมากับการที่ทุกคนรู้ว่าพ่อเป็นคนดัง เนเน่จะมีปมตรงนี้เล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งทำให้เขาอยากที่จะเป็นตัวเอง อยากมีเพื่อน อยากคบกับใคร อยากอะไรด้วยความรู้สึกที่ฉันคือเนเน่ 

Q: เซ้นต์ล่ะครับ

เซ้นต์: ผมเล่นเป็น ‘โอม’ ครับ เป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่เหมือนกับขาดความรัก ซึ่งก็เกิดจากพื้นฐานครอบครัวของเขานั่นแหละ ด้วยความที่คุณพ่อเขาเป็น ส.ส. มีความเข้มงวดในกฎระเบียบมาก ตัวโอมก็เลยเป็นคนที่รู้สึกเหมือนกับว่าเขาไม่อยากทำทุกอย่างตามระเบียบ เห็นได้จากคาแรคเตอร์ของเขาคือ ย้อมสีผม สัก หรือแต่งตัวเซอร์ ๆ เหมือนเขาค้านว่า เขาอยากเป็นนักการเมืองในความฝันเขา ซึ่งคุณพ่อก็อยากให้เขาเป็นนักการเมืองเหมือนกัน แต่ในขณะเดียวกันเขารู้สึกว่า ทำไมการเป็นนักการเมืองจะต้องทำทุกอย่างให้เป็นตามแบบกฎระเบียบแบบนั้น สิ่งที่เขาอยากจะทำมันอยู่ที่ใจ ไม่ได้อยู่ที่เสื้อผ้าหน้าผม เขาก็เลยเลือกทำทุกอย่างที่ค้านกับพ่อ ในขณะเดียวกันเขาก็เป็นตัวเอง แต่เขารู้สึกว่าพ่อเขาไม่ใช่คนที่มอบความรักให้เขา ทุก ๆ คนไม่มีใครมอบความรักให้เขา เขาเลยเป็นคนที่ตามหาความรัก เป็นเพลย์บอยคนหนึ่งที่อยู่กับผู้หญิงเยอะมาก และคอยมองหาใครสักคนหนึ่งที่จะเป็นคนสุดท้ายและหยุดเขา จนกระทั่งเขาก็ไปมีเรื่องราว ได้เจอใครบางคนที่หยุดอยู่กับเขา แต่เขาก็ไม่ใช่ ทำให้เขาไม่รู้ว่าตัวเองควรจะลืมคนคนนั้น หรือควรจะเริ่มต้นใหม่ หรือสิ่งที่อยู่ข้างหน้ามันใช่สิ่งที่เขาควรจะเป็นหรือเปล่า

Q: แล้วพีคล่ะครับ

พีค: พีครับบทเป็น ‘บิว’ ครับ เป็นคนคนหนึ่งที่เข้าใจคนอื่น เข้าใจว่าคนคนนั้นเขารู้สึกดีหรือรู้สึกไม่ดีอยู่ และเราก็เป็นคนที่พร้อมจะทำให้เขาดีขึ้น ถึงแม้ว่าความสุขของเขาอาจจะเป็นความทุกข์ของเราก็ตาม เราพร้อมจะเสียสละให้เขาครับ แต่ว่าตัวบิวไม่ได้เป็นคนที่มีปมหรือว่าขาดความอบอุ่นเลย ถึงแม้จะถูกเลี้ยงดูมาด้วยแม่เพียงคนเดียว เพราะว่าเขาได้รับความรักที่ดีมาตลอด เขาก็เลยอยากจะแบ่งปันความรู้สึกดี ๆ ให้คนอื่นด้วยครับ 

Q: ตัวละคร เนเน่ ในวอนเธอ ต่างกับบทบาทอื่นที่ฟ้าเคยทำมาอย่างไรบ้าง

ฟ้า: มันต่างทั้งในแง่ background และอายุด้วย ทางชีวภาพก็ต่างกัน แต่มันมีความเหมือนบางอย่างที่เราสามารถ relate ได้ ในเรื่องความรู้สึก ความเป็นคนบางอย่างของผู้หญิงคนหนึ่ง ของเด็กคนหนึ่ง ที่เราเคยผ่านมา แต่ว่าความยากน่าจะเป็นเรื่องของแง่ดีไซน์ของหนังมากกว่า ที่มันจะมี 4 เรื่องราว 4 มุมมอง 

มันเป็นสิ่งที่ผู้กำกับฯ ออกแบบมาว่า เรื่องของใคร คนนั้นก็จะเป็นตัวเอกของตัวเอง ทีนี้เวลาเรามองคนอื่นเราก็จะเห็นแค่มุมของเรา แล้วเวลาเราแสดงเราต้องไปแสดงในมุมคนอื่น เราก็จะต้องเล่นบิดนิดหนึ่ง ให้มันรู้สึกว่านี่เป็นมุมของเขา อันนี้คือความยากในแง่ของการแสดง แต่ว่าเรื่อง Background ก็ต้องทำการบ้านมาพอสมควรค่ะ เพราะว่ามันค่อนข้างไกลจากความเป็นจริง หมายถึงว่าตัวเราไม่ได้เคยมีครอบครัวแบบนี้ ไม่ได้มีเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวเองแบบนี้ ประสบการณ์ต่าง ๆ อย่างในมหาวิทยาลัยหรือคณะที่เรียนก็ไม่เหมือน ก็จะเป็นอะไรที่ต้องทำการบ้านค่อนข้างเยอะค่ะ

Q: บทโอม ของเซ้นต์ล่ะครับ เหมือนหรือแตกต่างจากที่ผ่านมายังไง

เซ้นต์: ของผมจริง ๆ ต่างกันมาก เรียกว่าต่างกันเกือบทุกส่วนเลย แต่ก็มีความเหมือนกันตรงที่ไลฟ์สไตล์บางอย่างของโอม อย่างเช่นโอมจะเป็นคนที่ชอบแหวน ชอบโซ่ ชอบเครื่องประดับ ซึ่งผมก็ชอบเหมือนกัน หรือที่โอมชอบรถสปอร์ต ชอบซูเปอร์คาร์ นั่นผมก็ชอบอยู่แล้ว แต่ในส่วนอื่น ๆ จะไม่เหมือนกันเลย ไม่ว่าบุคลิกของตัวละครที่มีความเป็นแบดบอย เป็นผู้ชายที่มีความดาร์ก และเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงมาก ตัวผมเองเป็นคนที่เราอยากจะจอยกับทุกคน อยากคุย อยากสนุกกับทุกคน อยากจะเป็นรอยยิ้มของเพื่อนๆ อะไรอย่างนี้ แต่ว่าตัวโอมเขารู้สึกว่ารอยยิ้มมีแค่เพียงแค่เขาคนเดียวก็พอ ไม่จำเป็นที่จะต้องสร้างรอยยิ้มให้ใคร ถ้าคนนั้นไม่ใช่คนที่เขาสนใจ ฉะนั้นเวลาเขาสนใจใคร เขาจะสร้างรอยยิ้มให้เพียงแค่คนนั้น ถึงแม้ตรงนั้นจะมีเพื่อนนั่งอยู่ เขาก็ไม่เลือกที่จะเดินไปหาเพื่อน แต่เลือกจะเดินไปหาคนที่เขาสนใจ ซึ่งมันห่างกับผมมาก ทั้งนิสัยและ Background ที่บอกถึงความมีโลกส่วนตัวสูง มีความทะนงตนสูงมาก จนทำให้ใครหลายคนอาจจะรู้สึกว่า ตัวเขาดูเป็นคนไม่น่าคบ แต่ว่าพอได้รู้จักเขาจริง ๆ แล้ว เขาก็เป็นคนมีเรื่องราวครับ อย่างที่บอกครับว่าปมชีวิต ตั้งแต่เรื่องพ่อ ชีวิตเขามันไม่ใช่ชีวิตที่สมบูรณ์แบบอย่างที่ทุกคนเห็นภายนอก ในใจเขาไม่เคยสมบูรณ์เลย ฉะนั้นผมก็ต้องทำการบ้าน มีการทำ Workshop กัน

Q: บทบิวของพีคล่ะ เปลี่ยนและพัฒนาเราไปยังไงบ้าง

พีค: สำหรับบทบาทบิวนะครับ เอาจริง ๆ ตอนที่เราได้รับบทนี้ ได้นั่งฟังเขาอธิบายมาแล้วรู้สึกว่า ผมเห็นด้วยทุกอย่างเลยกับความคิดของตัวละครนี้ ผมรู้สึกว่ามันค่อนข้างใกล้เคียงกับตัวเรามาก ๆ เลย ในความคิดมาก คิดมากแต่ไม่พูด ในความเก็บความรู้สึกหรืออะไรก็ตาม ผมรู้สึกว่าเราสามารถ Relate กับตัวเองได้ง่าย กับช่วงอายุด้วย เพราะว่าตอนนี้ผมก็อายุพอ ๆ กับบิวครับ และมีความรักครอบครัว รักเพื่อน เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราจริง ๆ แต่สิ่งที่ไม่เหมือนก็มีเหมือนกัน บางครั้งเราคิดว่าบิวจะทำแบบนี้ ยกตัวอย่างนะครับ เช่น สมมุติว่าผมคิดว่าตัวเองเหมือนบิวใช่ไหมครับ ผมจะคิดว่าเราเป็นแบบนี้ถูกต้อง แต่ที่จริงแล้วบิวคิดอีกแบบหนึ่ง มันจะมีบางจุดที่ค่อนข้างต่างกันอยู่ หรืออีกอย่างหนึ่งที่ต่างมากก็คือการขับมอเตอร์ไซค์ครับ เพราะว่าผมไม่เคยขับมอเตอร์ไซค์มาก่อนในชีวิต ก็เลยต้องมาฝึก แล้วต้องขับให้คล่อง เพราะว่าบิวเป็นคนที่ขับมอเตอร์ไซค์มาตลอด 

Q: รู้สึกกลัวไหม เพราะว่าเราคงไม่ขับอันตรายแบบตัวละคร 

พีค: ค่อนข้างกลัวครับ แต่มันเป็นประสบการณ์ใหม่มากกว่า คือครั้งแรกที่ผมขับก็เกร็ง ๆ ครับ แต่ว่าพอได้ขับไปเรื่อย ๆ จะรู้สึกว่ามันสนุก แบบอากาศดีจังเลย อะไรอย่างนี้ ผมรู้สึกว่าเวลาเราขับเร็ว ๆ ทุกอย่างมันดูช้าลงครับ 

Q: เริ่มอินแล้ว

พีค: ใช่ครับ อิน ๆๆ จนผมต้องไปศึกษา

ฟ้า: เดี๋ยวนี้เห็นมอเตอร์ไซค์ไม่ได้

พีค: เออ...ใช่ ผมเห็นมอเตอร์ไซค์แล้วผมต้องถ่ายรูปเอาไปศึกษา ซึ่งแต่ก่อนผมไม่เคยสนใจเลย

Q: คำถามต่อจากนี้เป็นคำถามสนุก ๆ เริ่มจากฟ้าก่อน ของสะสมที่ซ่อนไว้ตั้งแต่เด็ก จนบางทีอาจลืมไปแล้ว 

ฟ้า: จริงๆ ฟ้าเป็นคนที่ไม่มีของสะสมเลยค่ะ ไม่ได้ชอบอะไรที่เป็น material ฟ้ารู้สึกว่าถ้าเป็น material จริง ๆ น่าจะเป็นรูปภาพ แต่ไม่รู้จะนับมันว่าเป็นของสะสมไหม ฟ้ารู้สึกว่าถ้าอะไรสำคัญเราจะไม่ลืมมัน ไม่มีวันลืมเลย มันจะอยู่ในใจในสมองเราตลอดไป ไม่ลืมง่าย ๆ ถ้ามันสำคัญจริง ๆ มันต้องมีค่ากับเรามาก ไม่ว่าตอนนั้นมันจะเป็นอะไร เหตุการณ์อะไร มันมักจะชัดเจนเสมอ เวลาที่เรานึกถึง ก็เลยไม่ค่อยสะสมของ เพราะว่าของเป็นเหมือนเครื่องเตือนความทรงจำเฉย ๆ แต่โอเค เรื่องของสะสมมันน่าจะเป็นความชอบส่วนตัว อันนี้ส่วนตัวฟ้าไม่ได้ชอบอะไร ฟ้าชอบธรรมชาติ ฟ้าชอบสัตว์ ซึ่งมันสะสมไม่ได้ 

พีค: สะสมต้นไม้ (พีคช่วยเสริมเหมือนแอบรู้ใจ)

ฟ้า: อาจจะสะสมต้นไม้ (หัวเราะ)

Q: สิ่งที่คนอื่นไม่รู้เกี่ยวกับเซ้นต์

เซ้นต์: สิ่งที่คนอื่นไม่รู้เกี่ยวกับเซ้นต์ ก็รู้หมดแล้วนะ (หัวเราะ)

Q: อาจจะมีเรื่องที่ต้องบอกกับ The States Times วันนี้

เซ้นต์: (ยิ้ม) ผมเป็นคนที่หลาย ๆ คนชอบบอกแต่ไหนแต่ไรแล้วว่า ลุคดูเป็นคุณหนู แต่ว่าข้อหนึ่งคือผมรู้สึกว่า ผมจะมีโมเมนต์หนึ่งที่ผมชอบ ผมชอบออกค่ายอาสามาก เป็นโมเมนต์หนึ่งที่เราชอบ ได้ทำอะไรให้กับชาวบ้าน ผมชอบใช้ชีวิตแบบชาวบ้าน เพราะผมรู้สึกเหมือนกับว่าเราได้เห็นโลกที่เราไม่เคยเห็น ได้ใช้ชีวิตที่เราไม่เคยใช้ หรือได้กินในสิ่งที่ไม่เคยกิน รู้สึกว่ามันเป็นโมเมนต์พิเศษที่...ไม่ใช่แค่เพียงว่าคุณมีเงินคุณจะซื้อมันได้ แต่มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากความสุขที่ทุกคนไม่ได้หวังอะไร ผมเชื่อว่าบางครั้งเราใช้ชีวิตมันจะมีคำว่าผลประโยชน์ แต่ในโมเมนต์นั้นคือทุกคนไม่มีคำว่าผลประโยชน์ แม้แต่ชาวบ้านที่เราไปหา เขาก็ต้องการแค่อยากสนับสนุนพวกเรา ที่เห็นว่าเด็กกลุ่มนี้มาสร้างโรงเรียน สร้างห้องสมุด มาทำความดี ผมรู้สึกว่ามันเป็นโมเมนต์ที่เหมือนกับเราทำงานอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ แล้วผมรู้สึกว่ามันยากมากเลยนะที่ได้ความรู้สึกแบบนี้จากใครบางคนที่ไม่ใช่พ่อหรือแม่ 

Q: พีคล่ะครับ มีความลับหรือความแสบตอนเด็กที่อยากเล่าให้ฟังบ้างไหม

พีค: เรื่องที่คนทั่วไปอาจจะไม่ทราบ ที่จริงก็มีเยอะอยู่ครับ (หัวเราะ) ส่วนใหญ่เรื่องไม่ดีที่เกิดขึ้นที่โรงเรียน แล้วมันทำให้เรามีแผลเป็น แผลเป็นตามตัวน่ะครับ อย่างเช่นตอนนั้นเขาตรวจความสั้นของกางเกงกันตอนเช้า เราก็เลยเอากางเกงมา 2 ตัว แล้วระหว่างเข้าแถวเขากำลังจะตรวจแล้ว เราก็รีบวิ่งขึ้นไปเปลี่ยนกางเกง ระหว่างเปลี่ยนแบบรีบมาก เพราะว่าครูกำลังเดินมาแล้วเราก็แอบขึ้นไปเปลี่ยนตรงชั้นลอยครับ ประเด็นคือ มันมีหน้าต่าง และมีเหมือนแง่งอะไรสักอย่างแหลม ๆ มันขูดเข้าที่ขา แต่ ณ ตอนนั้นคือไปห้องพยาบาลไม่ได้แล้ว เพราะเราต้องรีบไปให้ครูดูกางเกง นั่นแหละ อันนั้นน่าจะเป็นวีรกรรมที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ ใช่ ๆ ผมได้แผลจากช่วงสมัยเรียนเยอะมากเลย 

Q: เรื่องที่เซ้นต์มักขอร้อง หรืออ้อนวอนคนอื่นตลอด มีอะไรบ้าง

เซ้นต์: ที่ผมขอร้องคนอื่นตลอดเหรอ มันจะไม่ใช่เชิงขอร้อง แต่เราจะเดินไปแล้วบอกให้เขาเป็นอย่างที่เราอยากให้เป็น จะเรียกว่าขอร้องก็ได้ เพราะว่าผมไม่ชอบเห็นคนเศร้าเสียใจ ถ้าผมเห็นผมจะเดินเข้าไปแล้ว... เราก็แค่รู้สึกว่าสิ่งที่อยู่ในตัวเขามันหนัก เราแค่อยากจะเอาความหนักของเขา ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่หายหนักหรอก แต่เราจะได้เบาความรู้สึกเขา ถ้าผมเห็นใครที่กำลังรู้สึกอึดอัดอยู่ หรือว่ารู้สึกไม่ดี ผมจะเดินเข้าไปคุยกับเขา แล้วบอกเขาว่ามีอะไรให้เราช่วยไหม 

Q: ตัวอย่างคำขอร้องที่พีคคิดว่า คนร้อยทั้งร้อยต้องยอมพีค ลองยกตัวอย่างได้ไหม 

พีค: อืม... เวลาเราจะขอร้องใคร แบบว่าถ้าอยากได้จริง ๆ เราจะบอกว่า เฮ้ย...เราจริงจังนะ เฮ้ย...จริงจังนะ (หัวเราะ)

Q: ก็เรียกว่าขอร้องนั่นแหละ 

พีค: แต่เราก็จะพูดว่า ปกติเราไม่เคยขอร้องใครเลยนะ อย่างนี้ ๆ

Q: ข้อนี้ถามฟ้า เรื่องที่ฟ้าจะไม่มีวันขอร้องใครเลย เรื่องนั้นคืออะไร

ฟ้า: ไม่มีวันขอร้องใครเลย...

เซ้นต์: ไม่ขอร้อง ให้มารัก...

ฟ้า: บ้าน่า ไม่เคย ไม่ขอให้ โอ้โห...ยากมากเลย ส่วนใหญ่ก็ไม่ขอให้เขามาเห็นใจแล้วกัน คือไม่ใช่ว่าไม่เห็นใจ แค่เข้าใจก็พอแล้ว แต่ไม่ได้เรียกร้อง ไม่ต้องสงสาร เราไม่ได้อยากให้เขารู้สึกแย่ไปกับเรา คือแชร์ได้ เข้าใจกันได้ แต่ไม่ต้องแบบ...ไม่อยากให้เขารู้สึกเศร้าไปกับเราหรือแย่ไปกับเรามากกว่า

Q: นิสัยใจคอที่คนสนิทบอกว่าฟ้าเป็น นี่แหละคือฟ้า ใช่เลยฟ้า

ฟ้า : คนสนิทบอกว่าฟ้าเป็น

เซ้นต์: เป็นผู้ชาย... (เซ้นต์ช่วยชี้ 555)

ฟ้า: เป็นเหมือนผู้ชาย ใช่ คนก็จะบอกว่าฟ้าเหมือนผู้ชาย แมนๆ ไม่ค่อยคิดอะไร เป็นคน...

Q: เสียงเข้มห้าว

พีค: เสียงเหมือนปาล์มมี่ (พีคช่วยอีกแรง)

ฟ้า: ใช่ เราจะแมน ๆ เป็นคนไม่ค่อยคิดอะไรเยอะ ไม่จุกจิก ไม่เรื่องมาก เพ้อ ๆ หน่อย แต่ว่าเป็น easy-going 

Q: ข้อนี้ถามเซ้นต์ สิ่งที่ครอบครัวบอกว่าคุณเป็น 

เซ้นต์: ครอบครัวบอกว่าเป็น... เป็นคนที่ทุกคนในบ้านคาดหวัง ที่บอกว่าคาดหวังเพราะด้วยความที่เป็นหลานชายคนโต ผมมีน้องๆ และเป็นน้องสาวหมดเลยด้วย ก็เท่ากับเป็นลูกชายคนแรกของบ้านคนจีน หลานชายคนแรกของบ้านคนจีน เขาก็คาดหวังว่าเราจะสืบทอดกิจการ เราจะต้องสำเร็จในชีวิต และด้วยหน้าที่การงาน หรือตำแหน่งทางสังคมของคนในครอบครัวเรา เขาจะคาดหวังว่า เราต้องโตมาแล้วสืบทอดในหลายๆ อย่าง แต่ในจุดหนึ่งผมก็คุยกับคนในครอบครัวเหมือนกัน บอกว่าผมอยากมีชีวิตของตัวเอง ซึ่งจริงๆ คำว่าคาดหวังนั้นก็กลับเปลี่ยนเป็นคำว่า ดี อยากให้เราใช้ชีวิตด้วยตัวเอง แต่ว่าในขณะเดียวกัน ผมว่าการที่ผมมีโอกาสมายืนตรงนี้ได้ก็เป็นการสนับสนุนของครอบครัว ที่ให้ผมทำ ในช่วงแรกๆ ผมเชื่อว่าเด็กหลายคนที่เข้าวงการบันเทิงน่าจะเป็นแบบผม คือกลัวว่าครอบครัวจะไม่สนับสนุน แต่ว่าสุดท้ายแล้วพอมีโอกาสได้คุย ครอบครัวผมสนับสนุนมาก อยากให้ทำทุกอย่างเลย 

Q : แล้วตอนเริ่มเข้าวงการก็ได้รับบทแรงด้วย เพราะว่าต้องเป็นหนุ่มวาย

เซ้นต์: ใช่ ๆๆ แล้วเหมือนกับว่า... คำหนึ่งที่ผมยังประทับใจอยู่คือ คุณตาผมพูดว่า เออ...ทำเลย อยากทำอะไรทำเลย ตาสนับสนุน ตาอยากให้ทำ แต่ตาขอ 2 อย่าง ตาอยากให้เราตั้งใจเรียนให้จบ อีกข้อหนึ่งคือเรื่องงาน ถ้าในวันหนึ่งผมไม่ประสบความสำเร็จหรือมีปัญหาอะไรก็แล้วแต่ ตรงนี้ยังเป็นที่ของเซ้นต์เสมอ ผมเลยรู้สึกว่าเป็นครอบครัวที่ support แต่บางครั้งเราอาจจะคิดไปเอง แต่จริงๆ แล้วเขาคอยสนับสนุนอยู่ข้างหลังเราเสมอ ตั้งแต่เด็กยันโต คุณตาเองคอยดูแลผมตั้งแต่เรื่องกิน อย่างเรื่องเล็กๆ เรื่องกินเกาลัด ปกติคุณแม่จะเป็นคนให้ฝึกทำทุกอย่างเอง คุณตาก็จะแอบมาแกะเกาลัดให้กิน 

Q: ส่วนของพีค มีเรื่องที่จริง ๆ เราเป็นแบบนี้ แต่คนอื่นเข้าใจเป็นอย่างอื่นบ้างไหม

พีค: คนอื่นคิดว่าผมเก่งครับ เพื่อน ๆ คิดว่าผมทำได้ดี แต่ว่าผมคิดว่าตัวเองต้องพัฒนาอีกเยอะ ตอนนี้เราอาจจะทำดีที่สุดแล้ว แต่ว่ามันยังได้อีก

Q: เป็นกับเรื่องอะไรบ้างครับ

พีค: กับทุกเรื่อง เรื่องเรียน เรื่องงาน หรือว่าเรื่องร้องเพลง เรื่องดนตรี หรืออะไรก็ตาม คนอื่นชอบบอกว่าเราทำได้หลายอย่าง แต่ว่าการที่เราทำได้หลายอย่างนั้น เราไม่ได้ไปสุดในทุกๆ ทาง

Q: ถ้าเหลือเวลา 7 วัน ในชีวิต เซ้นต์จะทำอะไร

เซ้นต์: ถ้าเหลือแค่ 7 วันในชีวิต อาจจะเห็นผมไปสร้างรอยยิ้มสักที่หนึ่ง ผมอาจจะไปอยู่วัดไหนสักวัดหนึ่ง ผมอยากจะสอนหนังสือเด็ก หรืออาจจะไปอยู่ชนบทสักที่หนึ่ง ที่เรารู้สึกว่าอย่างน้อย ๆ ใน 7 วัน เราจะทำคุณค่าให้ได้มากที่สุด เคยได้ยินคนชอบพูดกันว่า ในช่วงเวลาที่เรามีชีวิตอยู่เราควรทำสิ่งดี ๆ ฝากไว้ เพื่อให้คนนึกถึงเราในวันที่เราไม่มีชีวิตอยู่แล้ว ผมว่ามันเป็นเรื่องยากกว่า ผมแค่อยากสร้างรอยยิ้มตรงนั้น ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่สร้างไว้เพื่อให้คนพูดถึง แต่มันสร้างเอาไว้เพื่อให้คนทำสิ่งที่ดี หรือว่าเป็นสิ่งที่เกิดประโยชน์ หรือบางครั้งถ้าสร้างไว้แล้วไม่ต้องมีคำว่าเราอยู่ในตรงนั้นเลยก็ได้ แต่สิ่งที่เราทำนั้นสามารถทำให้คนอื่นมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ทำให้คนอื่นมีความสุขขึ้น สร้างรอยยิ้มตรงนั้นได้มากขึ้น ผมรู้สึกอยากทำตรงนั้น

Q: อยากทำบุญกุศลก่อนจากไป

เซ้นต์: อาจจะไม่ได้นับว่าเป็นบุญกุศลหรอกครับ ผมแค่รู้สึก...อย่างทุกวันนี้ก็ยังรู้สึกว่าชอบโมเมนต์ที่ไปค่ายอาสา อย่างครั้งหนึ่งที่ไปจังหวัดจันทบุรี ไปสร้างห้องสมุด แล้วเด็ก ๆ เดินเข้ามากอด ถามว่าเมื่อไรพี่จะมาอีก จนเรา โอ้โห...น้ำตาจะไหลอะไรอย่างนี้ 

Q: ถามฟ้าสนุก ๆ ถ้าต้องตกนรก 7 วัน จะทำอะไรบ้าง

ฟ้า: อันดับแรกฟ้าวิ่งไปหาเพื่อนก่อนเลยค่ะ เพราะเพื่อนเยอะในนรก มันทำอะไรได้

พีค: ไม่เจอผมแน่นอน 555

ฟ้า: ถ้าจะต้องไปอยู่ถึง 7 วันเหรอ อยากไปถามทุกคน ถามว่าทำไมถึงตกมาอยู่นี่ แกทำอะไรไว้ ไปพูดคุย อยากรู้ว่าตกนรกแล้วรู้สึกอย่างไร ถามคนที่ตกอยู่มานานหลายปี (หัวเราะ)

Q: สมมติถ้ามีมนุษย์ต่างดาวเชิญพีคไปให้อยู่ด้วย 7 วัน ที่ดาวแสนไกลของเขา

พีค: ไป ๆ (ตอบไม่ลังเล) ผมคงตาลุกวาวมากๆ คงจะมีความสุข แล้วก็ตื่นเต้นมากๆ แต่ว่าทำอะไร ผมคงจะไปใช้ชีวิตแบบเขานี่แหละ ไปกินข้าวกับเขา ตื่นนอนแบบเขา แล้วก็อยู่แบบคนบนดาวดวงนั้น 7 วัน ใช้ชีวิตกัน

Q: แล้วถ้าเขาเป็นแค่อะมีบาหรือเป็นตัวอะไร

พีค: อย่างนั้นผมกลับดีกว่า 5555

Q: วันนี้เซ้นต์อยากบอกอะไรกับคนวัยเดียวกัน หรือว่าคนวัยเด็กกว่า 

เซ้นต์: จริง ๆ วัยผมตอนนี้เป็นวัยที่แบบเพิ่งเรียนจบกัน แล้วก็สมัครงานอยู่ด้วย ผมมีความรู้สึกว่าหลายๆ คนเครียดกับตรงนี้ หรือเป็นความทุกข์ที่กำลังเจอ ทุกคนอาจจะมองว่าตอนนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก ผมเชื่อว่าถ้าเรามองย้อนกลับไป ผมรู้สึกว่าเรื่องที่เราเคยรู้สึกว่ามันใหญ่มากตอนนั้นนะ แต่ตอนนี้มันเล็กแล้ว ฉะนั้น ตอนนี้ที่คุณเจอสิ่งที่มันหนักหน่วงในชีวิตมากๆ โอเค มันก็เป็นเรื่องที่ใหญ่ในตอนนี้ แต่ผมเชื่อว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กในอนาคต วันหนึ่งที่คุณมาพูดถึง มันก็จะเป็นสิ่งที่อาจจะเป็นเรื่องขบขันในอนาคตก็ได้ ฉะนั้นผมอยากให้ทุกคนสู้กับชีวิต ที่เรารู้สึกว่ามันอาจจะดูโหดร้าย แต่ผมเชื่อว่าวันหนึ่งคุณจะเป็นคนที่มีความสุข และสู้ไปเถอะ ผมเชื่อว่าวันหนึ่งข้างหน้ามันจะมีสิ่งตอบแทนกับการต่อสู้ของเราเอง อยากเป็นกำลังใจให้ทุกคนในการใช้ชีวิตนะครับ 

Q: ฟ้าอยากบอกอะไรกับผู้ใหญ่ในวันนี้ 

ฟ้า: ฟ้าเชื่อว่าผู้ใหญ่มักมีอะไรที่อยากสอน อยากจะแชร์ อยากจะบอกว่าผ่านมาแล้ว  แต่สิ่งหนึ่งที่ฟ้าอยากจะบอกผู้ใหญ่เลยว่า ขอให้รับฟังให้มากขึ้น เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการสนทนา สำหรับการแชร์ หรือว่าการที่จะสอนหรืออะไรกัน ถ้าอยากจะสอนเรา หรืออยากจะให้อะไรกับเรา คุณก็ต้องรับฟังเรา แล้วเราจะรับฟังคุณ แล้วฟ้ามีความรู้สึกว่า ฟ้าเชื่อว่าคนทุกเจนฯ ทุกยุค ไม่ว่าจะผู้ใหญ่ หรือเด็กกว่า หรือคนวัยเดียวกับฟ้า ล้วนมีข้อดีของยุคสมัยแตกต่างกัน เราไม่มีทางไปเกิดพร้อมเขาได้ และผ่านอะไรเหมือนเขา เขาก็ไม่ได้มาเกิดพร้อมเรา แล้วเข้าใจอะไรแบบที่เราเข้าใจ ฉะนั้นมันต้องแชร์และรับฟังกันให้มากที่สุด แต่ฟ้ารู้สึกเหมือนยุคนี้มันกลายเป็นว่าผู้ใหญ่อยากจะสอน แต่กลับไม่ได้ฟังเด็กมากกว่า


Q: อยากบอกอะไรกับผู้นำระดับประเทศ และผู้นำระดับโลกเวลานี้

พีค: ผมขอให้เขาเปิดแล้วกันครับ ให้เปิดในที่นี้หมายถึงว่า ตอนนี้มันเป็นโลกแบบสมัยใหม่แล้วครับ ควรจะเปิดทุก ๆ อย่าง ไม่มีอะไรต้องปิดบัง มีเรื่องหนึ่งที่ผมคิดไว้ในใจ เป็นเรื่องมนุษย์ต่างดาว ผมเคยอ่านมาว่าที่จริงมันอาจจะเกิดขึ้นแล้วก็ได้ แต่ว่าคนภายนอกอาจจะยังไม่ได้รู้ ผมรู้สึกว่ายังมีอีกหลายๆ เรื่องที่เรายังไม่รู้ แต่ว่าคนเบื้องบนอาจจะรู้แล้ว ตอนนี้ทุกอย่างมันยอมรับกันได้ อยากให้เปิด 

Q: อยากจะไปอยู่เจ็ดวันกับเขา อย่างข้อเมื่อกี้ใช่ไหม 

พีค: ใช่ครับ (หัวเราะ)

Q: เราขอ 3 คำ สำหรับ 3 คน ให้โฆษณาตัวเองว่า เพราะอะไรคนถึงควรต้องติดตามคุณ

เซ้นต์: ก็น่าจะเป็น ยิ้ม ความรัก ความสุข เพราะผมรู้สึกว่า ทุกครั้งที่เรารู้สึกว่าเราอยากส่งความสุข เราก็เลยอยากให้มันเกิดจากความรักในสิ่งที่เราทำ ฉะนั้นพอเราทำจากความรักแล้ว เราเชื่อว่ามันเป็นความสุขด้วย เราจะสร้างความสุขให้กับทุกคน และสิ่งที่เกิดขึ้นคือทุกคนก็จะมีรอยยิ้ม ผมคิดว่าถ้า 3 คำนี้มาอยู่รวมกันจากตัวของผม ผมเชื่อว่าผมน่าจะสร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนได้ครับ

ฟ้า: น่าจะเป็น Freedom Joy และ Nature ค่ะ เป็นมู้ดแบบว่า ความอิสระ การเอ็นจอยกับทุกอย่าง แล้วก็ธรรมชาติ

พีค: ของพีคน่าจะเป็น ตื่นเต้น เติบโต แล้วก็ตกใจ แล้วอีกอันหนึ่งน่าจะเป็นประสบการณ์ ทุกอย่างคือสิ่งที่เราต้องการวิ่งเข้าหา

และทั้ง 3 ลาไปด้วยเสียงและเห็นในสิ่งที่ตรงกันว่า ขอบคุณที่ติดตามและสนับสนุนพวกเขา “ขอให้ไปดูเรื่อง ‘วอน (เธอ)’ ได้ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคมนี้กัน นะครับ/นะคะ

.

.


เรื่อง: ณัฐพล ช่วงประยูร 

ภาพ: ณัฐ์วริทธิ์ วรรธนะพินทุ

 

หลังจากที่ทั่วโลกเริ่มตื่นตัวกับข่าวการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส Covid-19 ถึง 2 แห่ง จากอังกฤษที่ชื่อว่า VUI 202012/01 และล่าสุดสายพันธุ์จากอาฟริกาใต้ 501.V2 ที่ล้วนแต่แพร่ระบาดสู่มนุษย์เร็วกว่าสายพันธุ์เดิม

ดังนั้นหลายประเทศจึงต้องรีบหาทางสกัดไม่ให้เชื้อไวรัสที่กลายพันธุ์ใหม่แพร่กระจายเข้ามาในประเทศด้วยการระงับเที่ยวบินจากอังกฤษ และแอฟริกาใต้โดยทันทีเพื่อความปลอดภัย

แต่ดูเหมือนว่าจะเริ่มสกัดไม่อยู่ เมื่อมีรายงานด่วนว่าพบผู้ติดเชื้อ Covid-19 สายพันธุ์ใหม่ในต่างประเทศที่ต่างทวีปจากต้นกำเนิดของมันเรียบร้อยแล้ว

เริ่มที่ฮ่องกง วันนี้พบผู้ติดเชื้อ Covid สายพันธุ์ของอังกฤษแล้ว 2 เคส จากนักศึกษาชาวฮ่องกง 2 คนที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากลอนดอน

ก่อนหน้านี้ ทางการฮ่องกงแถลงว่ากำลังพิจารณาการระงับเที่ยวบินไป-กลับจากอังกฤษ เพราะกังวลปัญหาเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ตัวใหม่ และสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิคของฮ่องกงก็ได้ลดเที่ยวบินไปลอนดอน เหลือเพียงวันเว้นวัน แต่ล่าสุดก็พบผู้ติดเชื้อเป็นนักศึกษาฮ่องกงที่เดินทางกลับจากอังกฤษจนได้ จึงอาจเป็นไปได้ว่าทางการฮ่องกงอาจต้องเพิ่มมาตรการเข้มงวดในการเข้าเมืองของผู้ที่เดินทางมาจากอังกฤษยิ่งกว่าเดิม

กระเถิบใกล้บ้านเรายิ่งขึ้น ที่สิงคโปร์วันนี้ มีรายงานพบผู้ติดเชื้อ Covid สายพันธุ์อังกฤษแล้วเช่นเดียวกันจำนวน 1 ราย เป็นนักศึกษาหญิงชาวสิงคโปร์อายุ 17 ปีที่เพิ่งกลับจากอังกฤษเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม และเก็บตัวอยู่ที่บ้านตามกฎหมายกักกันเชื้อโรคของสิงคโปร์ ต่อมาปรากฏอาการว่ามีไข้ จึงเข้าไปตรวจเชื้อและพบว่าติดเชื้อ Covid สายพันธุ์ใหม่จากอังกฤษจริง ๆ แต่ยังโชคดีที่คนในครอบครัวที่ใกล้ชิดยังไม่มีใครติดเชื้อ Covid ตัวใหม่นี้

ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มีการแบนเที่ยวบินจากอังกฤษ แต่สิงคโปร์ได้ออกมาตรการเข้มงวดกับผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางมาจากอังกฤษต้องตรวจเชื้อทันทีที่มาถึงสนามบินสิงคโปร์และกักตัวที่บ้านต่ออีก 14 วันถึงแม้ว่าการตรวจเชื้อเบื้องต้นจะไม่พบก็ตาม

ส่วนที่ประเทศอังกฤษ ที่ถูกระบุว่าเป็นแหล่งที่เกิดการกลายพันธุ์ของเชื้อ Covid-19 ก็ดูเหมือนจะผีซ้ำด้ำพลอย เมื่อวันนี้มีรายงานจาก แมท แฮนค็อก รัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษว่า พบผู้ติดเชื้อ Covid กลายพันธุ์ของอาฟริกาใต้ในประเทศอังกฤษเข้าจนได้ เป็นชาวอังกฤษ 2 คนที่เพิ่งกลับจากการเดินทางในประเทศอาฟริกาใต้ จึงจำเป็นต้องเรียกผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับชาวอังกฤษทั้ง 2 คนนี้ กักตัวอยู่กับบ้านเพื่อดูอาการทันที เนื่องจากเชื้อไวรัสโคโรน่าที่กลายพันธุ์จากแอฟริกาใต้ มีความรุนแรงกว่าเชื้อไวรัสใหม่ของอังกฤษเสียอีก

ทำให้อังกฤษกลายเป็นประเทศแรกที่มีการพบผู้ติดเชื้อไวรัส Covid-19 ทุกสายพันธุ์ ทั้งเก่า และใหม่ ที่สร้างความปวดหัวให้รัฐบาลอังกฤษไม่น้อย และจะยิ่งถูกโดดเดี่ยวกว่าเดิมเนื่องจากสถานการณ์ Covid-19 ในประเทศและนโยบาย Brexit

เป็นข่าวที่ค่อนข้างน่าตกใจว่าอันตรายจากเชื้อไวรัส Covid-19 สายพันธุ์ใหม่ใกล้ตัวเรามากว่าที่คิด แค่สายพันธุ์เก่ายังสกัดการแพร่ระบาดไม่ได้ สายพันธุ์ใหม่ก็กำลังจะมาแล้ว และอันตรายกว่าเดิมเสียอีก ดังนั้นเราควรรีบตั้งการ์ด 2 ชั้น ประมาทไม่ได้เลยจริง ๆ


แหล่งข่าว

https://www.channelnewsasia.com/news/world/another-new-covid-19-coronavirus-variant-detected-uk-13832118

https://www.channelnewsasia.com/news/asia/uk-covid-19-variant-coronavirus-strain-hong-kong-13831164

https://www.channelnewsasia.com/news/singapore/covid-19-uk-virus-strain-b117-first-case-singapore-moh-13832090

https://www.bangkokpost.com/business/2038903/hk-may-ban-flights-from-britain-over-fears-of-new-virus-strain

เครดิต : หรรสาระ By Jeans Aroonrat

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจ 10 อันดับธุรกิจดาวรุ่ง-ดาวร่วง ปี 2564 ระบุธุรกิจบริการทางการแพทย์- อีคอมเมิร์ซ มาแรง ขณะที่ ธุรกิจเช่าหนังสือ - สื่อสิ่งพิมพ์ น่าเป็นห่วง

ได้แก่

1.) ธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงาม และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (ธุรกิจที่ทำการซื้อขายผ่านอิเล็กทรอนิกส์) ครองอันดับหนึ่งร่วมกัน

2.) ธุรกิจแพลตฟอร์ม (ธุรกิจตัวกลางหรือตลาดกลางทางด้านอิเล็กทรอนิกส์) และธุรกิจจัดทำคอนเทนต์ ธุรกิจยูทูบเบอร์และการรีวิวสินค้า

3.) ธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต

4.) ธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์ ธุรกิจเวชภัณฑ์ยา ธุรกิจการขายส่งสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และทางการแพทย์

5.) ธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีวิเคราะห์และจัดการข้อมูล

6.) ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจอาหารเสริม และสุขภาพ

7.) ธุรกิจสตรีทฟู้ด และฟู้ดทรัค

8.) ธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ และเดลิเวอรี่ ธุรกิจด้านฟินเทค และการชำระเงินผ่านระบบเทคโนโลยี

9.) ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจตู้หยอดเหรียญ เช่น ร้านสะดวกซัก เครื่องเติมเงิน เครื่องเติมน้ำ เป็นต้น

10.) ธุรกิจที่ปรึกษาด้านกฎหมาย บัญชี ธุรกิจออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์แพกเกจจิ้ง

“ผลจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้คนหันมาซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น ผู้ประกอบการก็หันมาทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เพราะทำได้ง่าย เปิดร้านได้ 24 ชั่วโมง มีระบบขนส่งที่สนับสนุน จ่ายเงินได้ง่าย ซื้อได้ทั้งผ่านแอปพลิเคชัน เว็บไซต์ ทำให้เป็นธุรกิจที่ยังคงเติบโตได้ดี และขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 1 จากปีที่แล้วอยู่อันดับ 2 ส่วนบริการทางการแพทย์และความงาม ที่ครองที่หนึ่งร่วม เพราะคนยังให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและความงาม อัตราค่าบริการของไทยถูก ได้รับความเชื่อถือจากนานาชาติ

แต่ที่น่าสนใจ คือ ธุรกิจยูทูบเบอร์และการรีวิวสินค้า ที่พุ่งแรงติดอันดับ 2 จากที่ไม่เคยติดอันดับมาก่อน เพราะคนให้ความสำคัญกับการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย การทำธุรกิจมีต้นทุนต่ำ แต่มีรายได้ต่อเนื่อง โดยเติบโตดีพร้อมกับธุรกิจแพลตฟอร์มที่เป็นตัวกลางในการซื้อขายออนไลน์”

ส่วนธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต เติบโตจากการที่คนกังวลโควิด-19 และซื้อเพื่อการออมและใช้ลดหย่อนภาษี ธุรกิจเครื่องมือแพทย์ ยา เติบโตตามการลงทุนในธุรกิจโรงพยาบาล ธุรกิจวิเคราะห์ข้อมูล เติบโตตามความต้องการนำข้อมูลไปใช้ในการประกอบธุรกิจ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เติบโตตามความต้องการที่สูงขึ้น และยังซื้อได้ง่ายผ่านแอปฯ อินเทอร์เน็ต และมีบริการส่งถึงที่

รวมถึงอาหารเสริมที่เติบโตตามการดูแลสุขภาพ ธุรกิจสตรีทฟู้ด และฟู้ดทรัค ได้รับแรงหนุนจากคนละครึ่ง นักท่องเที่ยวนิยม และปัจจุบันมีช่องทางจำหน่ายเพิ่มขึ้นผ่านฟู้ดเดลิเวอรี่ ธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ เติบโตรองรับการขยายตัวของ

การค้าออนไลน์ การบริการรับส่งอาหาร ซึ่งส่งผลต่อเนื่องทำให้ธุรกิจรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์เติบโตตามไปด้วย ธุรกิจพลังงาน ยังเติบโตตามความต้องการใช้พลังงานของประเทศ ส่วนธุรกิจตู้หยอดเหรียญ จะขยายตัวเพิ่มขึ้น ตามไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และธุรกิจที่ปรึกษาด้านกฎหมายและบัญชี จะเติบโตเพราะคนให้ความสำคัญกับการรักษาสิทธิ และภาวะเศรษฐกิจ ที่จะทำให้มีการผิดนัด ผิดสัญญา และธุรกิจแพจเกจจิ้ง ที่มีแนวโน้มเติบโตตามการขยายตัวของการทำธุรกิจและการค้าออนไลน์

สำหรับธุรกิจที่ประเมินว่าจะเป็นธุรกิจดาวร่วงในปี 2564 มีจำนวน 10 ธุรกิจ ได้แก่

1.) ธุรกิจเช่าหนังสือ

2.) ธุรกิจผลิตโทรศัพท์พื้นฐานและเครื่องโทรสาร ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ความจำ Storage media ก็คือ CDs, DVDs, Blu-Ray Discs, External Hard Drives, Memory Cards

3.) ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ และวารสาร

4.) ธุรกิจร้านให้บริการอินเทอร์เน็ต ธุรกิจคนกลาง

5.) ธุรกิจดังเดิมไม่มีดีไซด์ และใช้แรงงานเยอะ (เฟอร์นิเจอร์ ของเล่น)

6.) ธุรกิจผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ใช้แรงงานจำนวนมากและขายในประเทศ ธุรกิจหัตถกรรม และเฟอร์นิเจอร์ไม้ (ดังเดิมที่ไม่ได้มีการปรับตัว)

7.) ธุรกิจการซ่อมรองเท้า

8.) ธุรกิจการค้าแบบดังเดิม ธุรกิจเครื่องปันดินเผา และเซรามิก

9.) ธุรกิจผลิตผักและผลไม้อบแห้ง

10.) ธุรกิจร้านถ่ายรูป

ทั้งนี้ ศูนย์ฯ ได้มีการประเมิน 10 ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จำนวน 10 ธุรกิจ ได้แก่ 1.สายการบิน 2.ธุรกิจนำเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ 3.โรงแรม 4.ธุรกิจของที่ระลึก 5.ธุรกิจจัดประชุมและแสดงสินค้า 6.ผับ บาร์ สถานที่ท่องเที่ยวกลางคืน 7.ธุรกิจสปา 8.อสังหาริมทรัพย์แนวดิ่ง 9.ธุรกิจโรงภาพยนตร์ 10.ร้านอาหารและภัตตาคาร

สถานการณ์ COVID-19 ประเทศไทยและอาเซียน (24 ธันวาคม พ.ศ.2563)

ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน โดยประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 67 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 5,829 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิต 60 ราย รักษาหายเพิ่ม 21 ราย รวมผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 4,116 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,653 ราย

ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่ 67 ราย เป็นคนไทย 5 ราย สัญชาติอเมริกัน 3 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ จากเมียนมา 3 ราย ,สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย ,สหรัฐอเมริกา 2 ราย ,ญี่ปุ่น 1 ราย ,กาตาร์ 1 ราย

ผ่านการคัดกรองและเข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้

ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ (เข้ามาทางเส้นทางธรรมชาติ)สัญชาติกัมพูชา 1 ราย เดินทางมาจากกัมพูชา

ผู้ติดเชื้อในประเทศ (อยู่ระหว่างการสอบสวน)

จำนวน 58 ราย จาก เกี่ยวเนื่อง cluster จังหวัดสมุทรสาคร 55 ราย

เกี่ยวเนื่อง cluster จังหวัดตาก 1 ราย ไปสถานที่ชุมชน 2 ราย

ขณะเดียวกันสถานการณ์ COVID-19 ของประเทศในกลุ่มอาเซียนมีการอัพเดทดังนี้

ประเทศบรูไน ดารุสซาลาม ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 152 ราย รักษาหายแล้ว 149 ราย เสียชีวิต 3 ราย

ประเทศกัมพูชา ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 363 ราย รักษาหายแล้ว 349 ราย ไม่มียอดผู้เสียชีวิต

ประเทศอินโดนีเซีย ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 6.86แสน ราย รักษาหายแล้ว 5.59 แสน เสียชีวิต 20,408 ราย

ประเทศลาว ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 41 ราย รักษาหายแล้ว 37 ราย ไม่มียอดผู้เสียชีวิต

ประเทศมาเลเซีย ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 98,737 ราย รักษาหายแล้ว 80,014 ราย เสียชีวิต 444 ราย

ประเทศพม่า ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 1.19 แสน ราย รักษาหายแล้ว 99,325 ราย เสียชีวิต 2,507 ราย

ประเทศฟิลิปปินส์ ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 4.64 แสน ราย รักษาหายแล้ว 4.3 แสน ราย เสียชีวิต 9,048 ราย

ประเทศสิงคโปร์ ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 58,482 ราย รักษาหายแล้ว 58,322 ราย เสียชีวิต 29 ราย

ประเทศเวียดนาม ยอดรวมผู้ติดเชื้อ 1,421 ราย รักษาหายแล้ว1,281 ราย เสียชีวิต 35 ราย

หลังเกิดการระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ ล่าสุดทางเซ็นทรัลพัฒนา ประกาศงดงานเคาท์ดาวน์ทุกแห่งทั่วประเทศ ลดความเสี่ยง เล็งถ่ายทอดผ่าน Live สด แทน

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) (CPN) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซา เซ็นทรัลเฟสติวัล เซ็นทรัล ภูเก็ต และเซ็นทรัลวิลเลจ จับมือพันธมิตรธุรกิจ ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด, มาสเตอร์การ์ด, บมจ. แพลน บี มีเดีย (PLANB), บริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท วันสามสิบเอ็ด จำกัด (ช่อง ONE 31) ประกาศสนับสนุนภาครัฐ ด้วยการงดจัดคอนเสิร์ตใหญ่ทุกแห่งทั่วประเทศ

.

พร้อมปรับรูปแบบการจัดงาน “centralwOrld bangkOk cOuntdOwn 2021-A Symbol of Hope” เคาท์ดาวน์รูปแบบ New Normal ผ่าน Live Broadcast ช่อง ONE 31, LINE TV และ centralwOrld Facebook ในคืนวันที่ 31 ธ.ค. 2563 เริ่มพร้อมกัน 23:40 – 00:10 น.

.

ส่วนสาขาอื่นๆ อีก 10 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต, เซ็นทรัลพลาซา ศาลายา, เซ็นทรัลพลาซา มหาชัย, เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่, เซ็นทรัลพลาซา พิษณุโลก, เซ็นทรัล โคราช, เซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี, เซ็นทรัลพลาซา นครศรีธรรมราช, เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช, เซ็นทรัลพลาซา ระยอง จะงดกิจกรรมเคาท์ดาวน์ในรูปแบบคอนเสิร์ตใหญ่ทั้งหมด

.

นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด CPN เผยว่า เราได้ติดตามสถานการณ์โควิด-19 อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด และมีความห่วงใยในความปลอดภัยและสุขอนามัยของลูกค้าทุกคน และพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างเต็มที่ในการคุมเข้มมาตรการเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาด ลดความแออัด เน้นวินัย รักษาระยะห่างแบบ New Normal ปีนี้ ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่แลนด์มาร์กเคาท์ดาวน์ทั่วโลกจะพร้อมกันปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานเคาท์ดาวน์ เพราะทุกคนตระหนักถึงสถานการณ์ COVID-19 ที่คนทั่วโลกต้องรับมือ

“NCT” บอยแบนด์สัญชาติเกาหลีที่ก่อตั้งโดย SM Entertainment เป็นกลุ่มที่มีสมาชิกไม่จำกัดจำนวน และแบ่งออกเป็นหลายกลุ่มย่อยตามเมืองต่างๆ ทั่วโลก

โดยในปีนี้ NCT ถือว่าได้สร้างปรากฎการณ์ความสำเร็จ

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม มีการประกาศว่าอัลบั้มล่าสุดของ NCT “RESONANCE Pt. 2” ทำยอดขายได้ 1,217,122 ชุด หลังจากวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน

หลังจากยอดขายที่น่าประทับใจของอัลบั้มก่อนหน้านี้ของ NCT “RESONANCE Pt. 1” ซึ่งทำสถิติยอดขายมากกว่าหนึ่งล้านชุดใน 7 วันและได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจาก Gaon Chart มีการแชร์กันว่าในวันที่ 22 ธันวาคม อัลบั้มขายได้ถึง 1,463,798 ชุด ส่งผลให้ยอดขายรวมของ“ RESONANCE Pt. 1” และ“ RESONANCE Pt. 2” รวมสูงสุด 2,680,920 ชุด

นอกจากนี้อัลบั้มเต็มชุดที่สอง NCT 127 “Neo Zone” ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมามียอดขาย 1,481,039 อัลบั้มในปีนี้ ในขณะที่เพลง“ Reload” ในอัลบั้ม NCT Dream ตั้งแต่เดือนเมษายนมียอดขาย 674,928 ชุด ด้าน WayV’s ที่ปล่อยอัลบั้มเต็มชุดแรก  “Awaken The World”  ตั้งแต่เดือนมิถุนายนยังมียอดขาย 280,133 ชุด ทำให้ยอดขายรวมของอัลบั้มทั้งหมดของกลุ่มในปีนี้อยู่ที่ 5,117,020 ชุด ณ วันที่ 22 ธันวาคม

ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จของ NCT ในปีนี้ด้วยนะคะ 


ที่มา: https://www.soompi.com/article/1445044wpp/nct-soars-past-1-million-sales-for-album-resonance-pt-2

 

ความวิตกกังวลเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนจำนวนมาก Beyond Blue องค์กรด้านสุขภาพจิตที่ให้การสนับสนุนและบริการแก่ผู้คนในออสเตรเลียมา 20 ปี รายงานว่า 45 เปอร์เซ็นต์ของชาวออสเตรเลียจะประสบปัญหาทางจิตในช่วงหนึ่งของชีวิต

และยังรายงานด้วยว่าชาวออสเตรเลีย 2 ล้านคนต่อปีต้องทนทุกข์ทรมานจากความวิตกกังวล เป็นภาวะสุขภาพจิตที่ร้ายแรง ซึ่งมีตั้งแต่ความลำบากเล็กน้อย ไปจนถึงความเจ็บป่วยที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอ แม้ว่าเราจะแนะนำให้ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอยู่เสมอ แต่ก็ยังมีสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณสามารถทำได้เพื่อต่อสู้กับอาการวิตกกังวล

ในการให้สัมภาษณ์กับ My Domaine Home นักจิตวิทยา Jeffrey Bernstein เปิดเผยว่า เพียงแค่พูดว่า "แต่ถึงอย่างไร" คุณก็สามารถบรรเทาอาการวิตกกังวลได้ โดยการลดความท้อแท้และเปลี่ยนเหตุการณ์เชิงลบให้เป็นบวกมากขึ้น

.

ตัวอย่างเช่นคุณอาจพูดกับตัวเองว่า “ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะสอบตก แต่ถึงอย่างไรฉันจะทำให้ดีที่สุด”

.

ประโยคประเภทนี้รับรู้ถึงสิ่งที่จะทำให้คุณวิตกกังวล แต่ปรับสถานการณ์ใหม่ด้วยความคิดเชิงบวก สามารถทำให้คุณมีแรงมากขึ้นและเป็นการเพิ่มความนับถือตนเองอีกด้วย

สำหรับใครที่กำลังประสบกับความกังวลหรือต้องเจอสถานการณ์ที่ยากลำบาก ลองฝึกพูดคำนี้กันดูนะคะ อย่างน้อยในเรื่องราวที่ผ่านไปได้ยาก คุณอาจต้องหาวิธีเพิ่มพลังบวกให้กับตัวเองเพื่อหาวิธีเดินหน้าต่อในสิ่งที่คุณกำลังเผชิญ


ข้อมูลจาก: https://www.bhg.com.au/reduce-anxiety-levels-just-by-saying-this-word?category=better_life


 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top