Tuesday, 10 June 2025
TheStatesTimes

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด จัดทีมลงพื้นที่แจกจ่ายถุงยังชีพฟื้นฟูหลังน้ำลดแก่ผู้ประสบอุทกภัย ช่วยเหลือค่าฌาปนกิจแก่ญาติผู้เสียชีวิต รวมงบประมาณกว่า 1.16 ล้านบาท

ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2567 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำทีมแผนกสาธารณภัย และแผนกบรรเทาสาธารณภัยฯ ฝ่ายปฏิบัติการ และลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด  ในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลด แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำมันพืช และน้ำปลา ให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอนายายอาม อำเภอท่าใหม่ อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี และ อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด รวมทั้งสิ้น 2 จังหวัด เครื่องอุปโภคบริโภครวมจำนวน 2,500 ชุด นอกจากนี้ยังได้ มอบเงินสงเคราะห์ค่าฌาปนกิจให้แก่ญาติผู้เสียชีวิต จำนวน 2 รายๆ ละ 20,000 บาท  รวมงบประมาณการช่วยเหลือทั้งสิ้น 1,165,000 บาท (หนึ่งล้านหนึ่งแสนหกหมื่นห้าพันบาทถ้วน)  โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี  และสมาคมตราดพุทธสงเคราะห์ “พ่งไล้หลักเซียวเกาะ” จังหวัดตราด เป็นผู้ประสานงานและร่วมให้ความช่วยเหลือ

เมื่อเกิดอุทกภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดทีมบรรเทาสาธารณภัย พร้อมเรือท้องแบน และ โรงครัวเคลื่อนที่เพื่อประกอบอาหารกล่อง พร้อมถุงยังชีพ ชุดยาเวชภัณฑ์ และอาหารสุนัขและแมว นำแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย เพื่อการบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ ในเบื้องต้น หลังจากนั้น ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ จะดำเนินการประสานหน่วยงานในพื้นที่เพื่อบรรเทาทุกข์ ฟื้นฟูหลังน้ำลด โดยแจกเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น รวมถึงมอบเงินค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย รายละ 20,000 บาท ทั้งนี้ หากมีผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัย ญาติของผู้เสียชีวิตสามารถประสานรายละเอียดเกี่ยวกับการช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ แผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ โทร 0-2225-0020 เวลา 08.30-16.30 น.

ติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

'จันทร์ส่องหล้า' เอฟเฟกต์!! คลังสมองชาติไทยพัฒนา ยื่นใบลาออก หวั่นถูกยุบ-ตัดสิทธิ์การเมือง หลังพรรครับเทียบเชิญหารือนายกฯ ใหม่

(21 ส.ค. 67) รายงานข่าวจากพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) แจ้งว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมา นายรัฐชทรัพย์ นิชิด้า กรรมการยุทธศาสตร์และประชาสัมพันธ์ อดีตที่ปรึกษานายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค ได้ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา และตำแหน่งต่าง ๆ ในพรรคทั้งหมด โดยมีการยื่นใบลาออกต่อนายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมให้เหตุผลเพียงสั้น ๆ ว่า ต้องการไปทำงานในธุรกิจส่วนตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามคนใกล้ชิดของนายรัฐชทรัพย์ กล่าวว่า สาเหตุการลาออกในครั้งนี้ เนื่องจากผู้บริหารและสมาชิกพรรคหลายคน มีการหารือกันอย่างไม่เป็นทางการ หลังจากที่พรรคชาติไทยพัฒนาส่งตัวแทนไปหารือการจัดตั้งรัฐบาลที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ในช่วงเย็นวันที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา ทางกลุ่มผู้บริหารเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวไม่ได้ผ่านคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค และมีความสุ่มเสี่ยงถูกยุบพรรคได้ ซึ่งอาจส่งผลให้กรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองได้

ทั้งนี้ เนื่องจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้เชิญแกนนำพรรคการเมืองมาหารือ เพื่อเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด ๆ เพราะขาดคุณสมบัติตามมาตรา 24 แห่ง พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ประกอบรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 98 เพราะเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในคดีทุจริต 

ดังนั้นการที่นายทักษิณ เทียบเชิญพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล มาร่วมหารือเพื่อตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และจัดตั้งรัฐบาล จึงเข้าข่ายกระทำความผิดตามมาตรา 29 แห่ง พรป.พรรคการเมือง ซึ่งกำหนดห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งไม่ใช่สมาชิกกระทำการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม โดยมาตรา 108 กำหนดให้ผู้ที่ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ ห้าถึงสิบปี

นอกจากนี้แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่ปล่อยให้นายทักษิณ ซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรคเข้ามากระทำการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคตัวเอง ก็มีความผิดตามมาตรา 28 ของกฎหมายฉบับเดียวกัน ซึ่งมาตรา 92 กำหนดให้พรรคการเมืองที่ฝ่าฝืนต้องถูกยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคด้วย

จากสาเหตุดังกล่าวสมาชิกพรรคหลายคนจึงเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะมีการลาออกจากสมาชิกพรรคก่อนถูกร้องในเรื่องดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่16 สิงหาคม ที่ผ่านมา ผศ.ดร.สันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ประกาศในกลุ่มไลน์ของคณะกรรมการบริหารพรรค ขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคมาแล้ว และมีสมาชิกพรรคอีกหลายคน กำลังเดินทางไปยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคด้วย

“หลังจากหัวหน้าพรรค และเลขาพรรค ไปพบคุณทักษิณ ทางสมาชิกพรรคหลายคน ก็ไม่ค่อยสบายใจ เพราะการเข้าไปที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ทางพรรคการเมืองที่เข้าไป มีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกร้อง และอาจนำไปสู่การยุบพรรคได้ หากยุบพรรคคนที่โดนตัดสิทธิ์ทางการเมือง คือ กรรมการบริหารพรรค ไม่ใช่ สส.พรรคที่ไปยกมือสนับสนุนเขา เราพัง ยอมรับว่าไม่สบายใจ นายรัฐชทรัพย์ จึงมาคุยกับผม หลังจากอาจารย์สันติ ลาออก เขาคิดว่าอยู่ก็ไม่น่าจะมีประโยชน์ต่อพรรคต่อไป เขาเลยบอกว่าจะไปยื่นใบลาออก ตอนนี้ ก็มีหลายคนจะไปยื่นใบลาออก” แหล่งข่าวจากพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรัฐชทรัพย์ ถือเป็นคนหนึ่งที่เป็นคลังสมองของพรรคชาติไทยพัฒนา โดยนายรัฐชทรัพย์ เป็นประธานที่ปรึกษานายประภัตร โพธสุธน สมัยเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่ตรวจสอบ จัดสรรงบ เพื่อดำเนินโครงการต่าง ๆ โดยมีการยับยั้งโครงการที่ส่อทุจริต และผิดปกติมาแล้วหลายโครงการ

'อดีตขุนคลัง' เชื่อ!! 'ดิจิทัลวอลเล็ต' คงปรับมาแจกเป็นเงินสด แต่กระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่เท่า 'คนละครึ่ง-เราเที่ยวด้วยกัน'

(21 ส.ค. 67) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ 'ดิจิทัลวอลเล็ตแปลงโฉม' ระบุว่า..

คอลัมน์คนปลายซอย ของเปลวสีเงิน 21 ส.ค. 2567

ทักษิณ 'หลุดปาก' บรรยายเป็นฉาก-เป็นช่อง ที่ทำการพรรคเพื่อไทยชั่วคราวเมื่อวาน จำเป็นบันทึกละเอียดไว้ซักนิด ดังนี้...

นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตตอนนี้ นายกฯ กับฝ่ายงบประมาณ ฝ่ายเศรษฐกิจ กำลังคุยกันอยู่

การกระตุ้นเศรษฐกิจต้องทำแน่นอน และต้องทำอย่างเร็วด้วย ช้าไม่ได้ เพราะถ้าเศรษฐกิจยิ่งไหลลงลึกเท่าไหร่ ก็ดึงขึ้นมายาก

นายกฯ กำลังวางแผนกันอยู่ ทำงานได้เมื่อไหร่ ก็คงสั่งการเลย

"คำว่าดิจิทัล วอลเล็ต มีอยู่ ๓ เรื่อง คือ..."

๑.การกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นหัวใจสำคัญและต้องทำ
๒.การให้ประชาชนมีโอกาสเรียนรู้เทคโนโลยีเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไปข้างหน้า ก็ต้องทำต่อไป แต่ความเร่งด่วนอาจรอได้
๓.อนาคต 'ดิจิทัล วอลเล็ต' เมื่อวางไว้แล้ว สามารถใช้ประโยชน์กับประชาชนกับประเทศ ให้ประชาชนกับรัฐบาลเชื่อมต่อกันได้ทางเศรษฐกิจ

เป็นช่องหน้าต่างให้ประชาชนทำธุรกิจผ่านวอลเล็ต เป็นเรื่องเทคนิคที่ต้องมีต่อไป

“แต่ ๒-๓ รอได้ อันที่ ๑ รอไม่ได้ รูปแบบอาจจะอิงเทคโนโลยีบ้างหรือไม่ ไม่อิงบ้างก็ได้ แต่ต้องถูกกฎหมาย และไม่ขัดแย้งกับคนที่เห็นต่างเยอะเกินไป”

ส่วนเรื่องการอัดฉีด "เท่าที่เดินผ่านไปเห็นนายกฯ คุยกับฝ่ายงบประมาณ" ก็บอกว่า "ควรจะต้องทำ" ผมก็ช่วยให้คำแนะนำ แต่การตัดสินใจเป็นของนายกฯ และคณะรัฐมนตรี แต่ผมให้คำแนะนำได้

จะเปลี่ยนเป็น ‘แจกเงินสด’ หรือไม่?

ข้อดีแจกเงินสดคือมันเร็ว แต่ข้อเสีย กลัวว่าจะใช้ในสิ่งที่กระตุ้นเศรษฐกิจไม่เต็มที่

ผมขอให้ข้อคิดต่อไปนี้...

1.การกระตุ้นเศรษฐกิจเนื่องจากเงินที่ใช้แจก โยกมาจากงบประมาณอื่น ดังนั้น ผลบวกในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็จะต้องหักตัวเลขผลลบที่การใช้จ่ายงบประมาณอื่นจะกระตุ้นเศรษฐกิจออกไปเสียก่อน

ดังที่ ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม อดีตรมช.คลัง เคยอธิบายไว้ว่า...

ถ้าเปรียบเทียบเศรษฐกิจไทย เป็นคนไข้ที่ซูบซีด ขาดเลือด ที่ต้องฉีดเลือดเข้าไปเพิ่มเติมด้วยแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต คือสูบเลือดเข้าทางแขนซ้าย

แต่โครงการใช้เงินตามงบประมาณอื่นที่มีอยู่เดิม ที่ต้องชะลอไป เพราะถูกโยกเงินไปใช้แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตนั้น ก็จะทำให้ผลดีต่อการขยายตัวเศรษฐกิจในส่วนนี้ลดลง คือสูบเลือดออกทางแขนขวา

สรุปแล้ว สูบเลือดออกไป เพื่อสูบกลับเข้ามา ดังนั้น โดยตรรกะทางเศรษฐศาสตร์ จึงไม่มีผลกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีนัยสำคัญ

มีข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียว คือประชาชนกลุ่มที่ได้รับเงิน ที่โยกออกมาจากโครงการงบประมาณเดิม เมื่อได้รับเงินเข้าไปในกระเป๋า ก็จะรู้สึกดีขึ้น

แต่สำหรับโครงการงบประมาณเดิมที่ถูกชะลอไว้ก่อนนั้น ผลประโยชน์ที่จะเกิดแก่ประเทศและแก่ประชาชนโดยรวม ก็ถูกเลื่อนออกไป

2.การแจกเป็นเงินสด ผมเคยแสดงความเห็นชัดเจนว่า การแจกเงินเป็นดิจิทัลนั้น มีอุปสรรคทางเทคนิคที่ไม่สามารถแก้ไขได้หลายประการ (ก) ความมั่นคงปลอดภัยของระบบซูเปอร์แอป (ข) ปัญหาการไม่สามารถเชื่อมโยงกับระบบคอมพิวเตอร์ของธนาคารพาณิชย์ และ (ค) ปัญหาฝ่าฝืนกฎหมายเงินตรา เป็นต้น

และยังมีข้อวิจารณ์ อาจมีความเสี่ยงในการหาประโยชน์ส่วนตน ทั้งในการพัฒนาโปรแกรม ทั้งอาจมีการปั่นเงินดิจิทัล และอาจมีการนำเอาข้อมูลส่วนตัวของประชาชนหลายสิบล้านคนไปหาประโยชน์เชิงธุรกิจ

การแจกเป็นเงินสดโดยผ่านระบบเป๋าตัง จะไม่มีปัญหาข้างต้น แต่ไม่สามารถคุมวิธีการใช้เงินได้เลย

ถ้าเทียบกับโครงการในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ เช่น คนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน ถึงแม้รัฐเสียรายได้ในโครงการแบบนี้ แต่มีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่า เพราะกระตุ้นให้ประชาชนควักกระเป๋าออกมาใช้จ่ายสนับสนุนการใช้เงินของรัฐ

ยิ่งการแจกดิจิทัลวอลเล็ต ที่เปลี่ยนไปเป็นเงินสดฟรี ๆ นั้น ในส่วนที่เอาไปชำระหนี้นอกระบบ ในส่วนที่เอาไปซื้อสินค้านำเข้า เติมน้ำมัน ฯลฯ คงไม่สามารถหวังให้เกิดผลกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับเดียวกับโครงการในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์

นอกจากนี้ ผู้ที่คิดริเริ่มโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ควรจะคิดเตรียมหาคำตอบว่า โครงการเรือธงที่นำไปหาเสียงใหญ่โตนั้น มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ในขั้นตอนการคิดริเริ่ม ได้สืบค้นตรวจสอบวิธีการให้รอบคอบอย่างไร เพื่อเป็นบทเรียนแก่พรรคการเมืองที่จะเตรียมคิดนโยบายหาเสียงในอนาคต

'ดิสนีย์' เปิดทางเคสแพทย์หญิงไทยดับจากแพ้อาหาร ฟ้องศาลได้ หลังก่อนหน้าใช้ข้ออ้างเงื่อนไขในสัญญา Disney+ กีดกันการฟ้อง

(21 ส.ค.67) สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า บริษัทวอลท์ ดิสนีย์ (Walt Disney) ตกลงยอมเปิดทางให้สามีของ พญ.กนกพร แต่งสวน สามารถยื่นฟ้องในชั้นศาลได้แล้ว กรณีที่แพทย์หญิงชาวไทยรายนี้เสียชีวิตจากการแพ้อาหารที่สวนสนุกดิสนีย์ในฟลอริดาเมื่อปีที่แล้ว แต่ดิสนีย์ปฏิเสธการฟ้องศาล โดยยกเงื่อนไขในข้อตกลงบริการสตรีมมิ่ง Disney+ มาใช้กับเคสนี้ 

ทั้งนี้ พญ.กนกพร จากศูนย์การแพทย์แลนกอน มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ได้รับประทานอาหารที่ร้าน Raglan ในดิสนีย์ สปริงส์เมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว โดยมีการแจ้งย้ำกับพนักงานหลายครั้งว่ามีอาการแพ้อาหารอย่างรุนแรงในถั่วและนม จึงขอให้มีการทำอาหารที่ปราศจากวัตถุดิบที่แพ้ ซึ่งพนักงานเสิร์ฟตกลงรับทราบ

แต่หลังจากนั้น พญ.กนกพร มีอาการแพ้อย่างรุนแรงและเสียชีวิตภายในวันเดียวกัน ซึ่งผลชันสูตรศพที่ระบุในเอกสารฟ้องร้องของเจฟฟรีย์ เจ พิกโคโล ผู้เป็นสามีพบว่า ผู้เสียชีวิตมีอาการแพ้อาหารอย่างรุนแรง และพบระดับของนมและถั่วในร่างกายในปริมาณมาก

สามีของ พญ.กนกพร ยื่นฟ้องทางร้านและดิสนีย์เรียกร้องค่าเสียหายกว่า 50,000 ดอลลาร์ แต่ทางดิสนีย์ใช้ข้ออ้างที่ผู้เป็นสามีเคยสมัครสมาชิกบริการสตรีมมิ่ง Disney+ เมื่อปี 2562 ที่มีเงื่อนไขห้ามฟ้องร้องบริษัทเอาไว้ จึงอ้างว่าไม่สามารถฟ้องร้องในกรณีนี้ได้ และขอไปใช้กระบวนการไกล่เกลี่ยยอมความนอกศาลแทน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ส.ค.67 จอร์จ ดามาโร ประธานแผนก Disney Experiences ได้เปิดเผยกับรอยเตอร์สผ่านทางอีเมลว่า “เราเชื่อว่าสถานการณ์นี้ควรได้รับการดำเนินการอย่างละเอียดอ่อน เพื่อเร่งแก้ปัญหาให้กับครอบครัวผู้ที่สูญเสียอย่างเจ็บปวด”

“ด้วยเหตุนี้ เราจึงตัดสินใจสละสิทธิในการใช้กลไกอนุญาโตตุลาการและให้ดำเนินการเรื่องดังกล่าวในศาล” ดามาโร กล่าวเสริม 

ทั้งนี้หลังจากถูกยื่นฟ้อง ในช่วงแรกเดือน เม.ย. ทางดิสนีย์ยังปฏิเสธโดยอ้างว่าบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีนี้ เนื่องจากดิสนีย์เป็นเพียงเจ้าของที่ และไม่มีส่วนในการควบคุมการดำเนินงานหรือบริหารงานของร้าน Raglan

ทว่าต่อมาในเดือน พ.ค. ดิสนีย์ได้อ้างข้อต่อสู้ใหม่เรื่องเงื่อนไขในสัญญาให้บริการสตรีมมิ่ง Disney+ รวมถึงเงื่อนไขที่ผู้เป็นสามีได้ใช้เว็บไซต์ของดิสนีย์ในการซื้อตั๋วเข้าสวนสนุกในปี 2566

อย่างไรก็ตาม โจเซฟ เซลเลอร์ส ทนายฝ่ายโจทก์ ซึ่งเคยมีผลงานการฟ้องคดีเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ระบุว่า การที่ดิสนีย์ตัดสินใจไม่ใช้สิทธิอนุญาโตตุลาการไกล่เกลี่ยนอกศาลถือเป็นเรื่องผิดปกติ และบ่งชี้ว่าทนายฝ่ายของดิสนีย์เชื่อว่าข้อตกลงใน Disney+ ไม่สามารถใช้กับกรณีนี้ได้

'ทักษิณ' เทกโอเวอร์เบ็ดเสร็จ 'การเมืองไทย' 'ป้อม' หลุด!! พรรคร่วมหมอบ!! ปชป.รอเสียบ

ยุค ‘ทักษิณ ชินวัตร’ เป็นนายกรัฐมนตรี มีวลีหนึ่งที่นักการเมืองเจ้าของฉายา 'มีดโกนอาบน้ำผึ้ง'...ชวน หลีกภัย กล่าวเตือนทักษิณคือ...ระวังไม่มีแผ่นดินจะอยู่ หากมียังมีพฤติการณ์ที่กำลังทำ...

เป็นการตอบโต้ 'ทักษิณ' ที่กล่าวหาชวนและพรรคประชาธิปัตย์ว่า หากเล่นเกมการเมืองกันมากเกินไป ระวังจะไม่มีการเมืองให้เล่น...

‘ชวน หลีกภัย’ เป็นนักการเมืองอาวุโสที่จำแม่นกึ่ง ๆ ผูกใจเจ็บ หากรู้สึกสิ่งนั้นไม่เป็นธรรม ไม่ถูกต้อง...เมื่อทักษิณไปปราศรัยหาเสียงที่นครสวรรค์ว่า รัฐบาลจะพัฒนาจังหวัดที่ประชาชนเลือกพรรคเราก่อน...'ชวน' กับ 'คณะ' หยิบมาขยายผล จนกลายเป็นประเด็นที่สังคมการเมืองพูดกันยันปัจจุบัน เป็นภาพลบติดตัวพรรคเพื่อไทย...

แต่เมื่อ ชวน นำเรื่องนี้มาพูดย้ำซ้ำเชิงเตือนสติรัฐบาลเศรษฐากลางสภาเมื่อ 4 มิ.ย.2567 ก็มีมือดีส่งโน้ตให้นายกฯ เศรษฐา สวนกลับนายหัวชวนแบบแสบสันว่า...ให้หามุกใหม่มาเล่นดีกว่า ไม่อย่างนั้นจะไม่มีพื้นที่ในสภา...

ชวน หลีกภัย เป็น สส.17 สมัย กำลังชั่งใจว่าจะลงสมัคร สส.สมัยต่อไปหรือไม่ แต่ที่ชวนชั่งใจและตัดสินใจแล้ววันนี้คือ...ไม่เห็นด้วยกับการเข้าร่วมรัฐบาลอุ๊งอิ๊งที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ เหตุผลหลักคือ ไม่อยากทรยศชาวบ้าน...นัยว่าในอดีตมวลมหาประชาธิปัตย์เคยต่อสู้กับระบอบทักษิณ เป็นคู่แข่งกันมาก่อน การจะร่วมรัฐบาลในลักษณะการเป็น 'พรรคอะไหล่' ถือว่าไร้ศักดิ์ศรี

ปัจจุบันประชาธิปัตย์มี 25 สส. เป็น สส.บัญชีรายชื่อ 3 คน / สส.เขต 22 คน จาก 25 คน...มี 4 คน คือชวน, บัญญัติ บรรทัดฐาน, จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และสรรเพชร บุญญามณี ที่อยู่ฝั่งไม่เห็นด้วย...อีกฝั่ง 21 เสียง นำโดยหัวหน้าพรรค เฉลิมชัย ศรีอ่อน รอเสียบมาตั้งแต่ไก่โห่...และฝันเป็นจริงเมื่อ 'ทักษิณ' ผ่าพรรค พปชร.เป็นสองซีก...สลัดปีก 'ลุงป้อม' ออก เปิดทางให้ประชาธิปัตย์เสียบ!!

นอกจากแฟนนานุแฟนพรรคแม่พระธรณีจำนวนไม่น้อยที่อาจเข่าทรุดแล้ว คนที่กระอักเลือดมากที่สุดก็น่าจะเป็น...นายหัวชวน...ขณะที่คนที่หัวเราะร่าน่าจะเป็นทักษิณ เพราะหมากตานี้หากจะพินิจพิจารณาให้ดี...นี่คือ 'การฆ่าประชาธิปัตย์' ที่คลาสสิกและเลือดเย็นที่สุดวิธีหนึ่ง...

วันก่อนโน้น...6 สส.พรรคไทยสร้างไทย ที่มีคุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นแม่ทัพและอยู่ซีกฝ่ายค้าน พลิกกลับ 360 องศา ทั้ง 6 เสียง ยกมือโหวตหนุนอุ๊งอิ๊งเป็นนายกฯ ทำให้คุณหญิงหน่อยกระอักมาคนหนึ่งแล้ว...วันนี้ถึงคิว ปชป.

ถ้าไม่พลิกนาทีสุดท้ายการเข้าร่วมรัฐบาลรอบนี้ ปชป.คงได้ 2 เก้าอี้เสนาบดี / 1 รมว. / 1 รมช. ซึ่งอาจจะช่วยชุบชีวิตได้ในบางมิติ นำตำแหน่งไปสร้างผลงานให้พอได้หาเสียง แต่ก็ต้องแลกกับรายจ่ายที่เป็นต้นทุนสำคัญคือ...คะแนนนิยม-ความศรัทธา ที่หายไป...

นักสังเกตการณ์กล่าวว่า 2 เก้าอี้ รมต. อาจจะพอเยียวยาทำให้ประชาธิปัตย์รักษาฐานบ้านใหญ่ เอาไว้ได้ในบางพื้นที่ แต่ภาพรวมหลายพื้นที่คะแนนนิยมอาจจะสูญพันธุ์ รวมทั้งภาคใต้เอง แม้ 'เดชอิศม์ ขาวทอง' สส.สงขลา/เลขาธิการพรรค อาจจะได้เป็นรมต. แต่ก็คงไม่พอเพียงที่จะแผ่บารมีไปลบล้างกระแสพรรคส้มที่กำลังรุกคืบ และภูมิใจไทยที่ยังสยายปีกคุมภาคใต้...

ไม่ต้องพูดใน สนาม กทม. ที่ยังไม่เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ ว่าจะฟื้นคืน...น่าเห็นใจ 'ดร.เอ้-สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์' ที่กำลังเดินสายหาสมาชิกเป็นยิ่งนัก!!

'วินฟาสต์' ถอยทัพ!! รอจังหวะดีๆ ค่อยกลับมา ไม่ฝืนเดินหน้าเพราะมีแต่เจ็บตัว เหตุ!! ตลาดไทยไม่ง่าย ภายใต้สงครามราคาดุที่เกิดขึ้นจากแบรนด์จีน

(21 ส.ค. 67) วินฟาสต์ (VinFast) แบรนด์รถไฟฟ้า 100% สัญชาติเวียดนาม ก่อตั้งขึ้นในปี 2560 เป็นบริษัทในเครือของ Vingroup (VIC) ยักษ์ใหญ่ในเวียดนามที่ถือธุรกิจหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และโรงแรม ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินรวมกว่า 1.2 แสนล้านบาท (ปี 2566)

วินฟาสต์เริ่มขยายธุรกิจสู่ตลาดใหญ่ของโลก ทั้งในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และในปีนี้วินฟาสต์เล็งขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างจริงจัง และไทย เป็นหนึ่งในหลายประเทศที่วินฟาสต์จะเข้ามาทำตลาด ทั้งนี้เนื่องจากตลาดรถไฟฟ้าในบ้านเรากำลังเติบโตด้วยนโยบายสนับสนุนจากรัฐบาล

ในไทยวินฟาสต์ เข้ามาตั้งบริษัทลูกตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว คือ บริษัทวินฟาสต์ ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 108,360,000 บาท และในงานมอเตอร์โชว์ ปี 2024 นำรถเข้ามาอวดโฉมหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น VF e34 , VF5 ,VF6 , VF7, VF8, VF9 รวมถึงรถกระบะไฟฟ้า VF Wild ตัวใหม่ล่าสุดด้วย

แต่ยังไม่ทันได้ตั้งไข่มีกระแสข่าวออกมาว่า วินฟาสต์ ชะลอแผนการทำธุรกิจในไทย พร้อมเลื่อนเปิดตัวรถรุ่นแรก VF5 ออกไปแบบไม่มีกำหนด รวมถึงผู้บริหารคนแรก วู ดัง เยน ฮัง (Vu Dang Yen Hang) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ วินฟาสต์ ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ถูกสั่งให้กลับไปดูงาน วินกรุ๊ป ที่เวียดนามอีกต่างหาก และตอนนี้ยังไม่มีผู้รักษาการแทน ขณะเดียวพนักงานคนไทยฝ่ายการตลาดจะถูกให้ออกภายในสิ้นเดือนนี้ (สิงหาคม)  ด้วยเหตุผลว่าปีนี้ไม่มีการจำหน่ายรถในประเทศไทย

ซึ่งตอนนั้นเธอให้สัมภาษณ์ไว้ว่า "การเปิดตัวแบรนด์ของเราในประเทศไทยเป็นก้าวสำคัญภายใต้กลยุทธ์การขยายธุรกิจสู่ทั่วโลกของวินฟาสต์ ซึ่งจะเสริมสร้างฐานธุรกิจในประเทศศูนย์กลางยานยนต์ที่คึกคักที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าครบทุกรุ่นของเราสะท้อนถึงบทบาทผู้นำของวินฟาสต์ในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของปฏิวัติการขนส่งสีเขียวของประเทศไทย ซึ่งจะนำไปสู่อนาคต ที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน"

ประเทศไทยคือตลาดรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากนโยบายสนับสนุนของรัฐบาลในหลายด้าน จากข้อมูลของสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย คาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในปี 2567 นี้ วินฟาสต์มุ่งมั่นที่จะขยายตัวอย่างรวดเร็วในตลาดประเทศไทย และเสริมสร้างความเป็นผู้นำในการบุกเบิกการพัฒนาการขับเคลื่อนสีเขียวและยั่งยืนทั่วโลก

บวกกับได้มีการพูดคุยกับดีลเลอร์ในช่วงแรกถึง 15 รายที่สนใจจะทำธุรกิจกับวินฟาสต์ อีกทั้งยังมีแผนเปิดโชว์รูมประมาณ 30 แห่งภายในปี 2567 แต่ปัจจุบันแผนคงถูกพับเก็บไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนดีลเลอร์ไม่รู้ชะตากรรม ว่าเหลือเท่าไร ถอดใจตามหรือเปล่า หรือจะเบี่ยงเบนไปขายแบรนด์อื่นหรือยัง

สาเหตุของการพับการทำธุรกิจในไทย น่าจะเกิดจากภายใต้ภาวะสงครามราคาที่เกิดขึ้นอยู่ขณะนี้ในตลาดไทยค่อนข้างรุนแรงด้วยแบรนด์จีน ขนาดรถค่ายญี่ปุ่นที่อยู่มานานยังซวนเซกันทั้งขบวน วินฟาสต์ในฐานะแบรนน้องใหม่จึงต้องทบทวนธุรกิจอีกรอบ เพราะการทำตลาดรถในไทยไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ นอกจากจะมีตัวเล่นเยอะทั้งค่ายญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกา และจีน คุณภาพสินค้า เครือข่ายการจำหน่าย การบริการหลังการขาย กลยุทธ์ในการทำตลาด และที่สำคัญชื่อเสียงของแบรนด์ การสร้างแบรนด์ ความน่าเชื่อถือต่อลูกค้าคนไทย ทุกอย่างต้องใช้เวลา ไม่สามารถใช้การตัดราคา รถราคาถูก และจะทำให้ธุรกิจอยู่รอดได้

โจทย์ดังกล่าวข้างต้นสร้างความหนักใจให้กับวินฟาสต์ไม่มากก็น้อย ดังนั้นการถอยทัพกลับไปตั้งหลัก คิดทบทวนอีกครั้งก็ยังไม่สาย ที่สำคัญคิดว่าช่วงนี้ยังไม่เหมาะสมที่จะรุกเข้ามาตลาดไทย เหตุการแข่งขันกำลังเดือด ถ้าโดดเข้าร่วมวงตอนนี้มีแต่เจ็บตัว การพักรบไปก่อน รอจังหวะดี ๆ ค่อยกลับมารุกธุรกิจก็ยังไม่สาย จะได้อยู่ยาว ๆ เป็นตัวเลือกให้กับคนไทย

'Black Myth: Wukong' โกยสถิติสลุด หลังเปิดให้เล่นบน Steam 24 ชม.แรก ยอดผู้เล่นทะลุ 1 ล้านคน ขึ้นแท่นเกมขายดีอันดับ 1 รีวิวทางบวก คิดเป็น 97%

(21 ส.ค. 67) หลังจากที่เกม 'Black Myth: Wukong' เกมล่าสุดจากค่ายยักษ์แดนมังกรอย่าง Game Science เปิดให้ผู้ที่สนใจได้เล่นกันแล้วเมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางการรอคอยหลังเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2020 ส่งผลให้ 'Black Myth: Wukong' ขึ้นแท่นเกมที่มียอดผู้เล่นสูงทุบสถิติเกมที่มียอดผู้เล่นทะลุ 1 ล้านคนเร็วสุดบน Steam และเป็นเกม Single Player ที่มีผู้เล่นพร้อมกันมากที่สุดบน Steam ตั้งแต่เปิดให้บริการวันแรก จากการรายงานของ SteamDB

และนอกจาก 2 สถิติข้างต้นแล้ว Black Myth: Wukong ยังทำลายสถิติอื่น ๆ ด้วย โดยใน 24 ชั่วโมงแรก Black Myth: Wukong ทำสถิติดังนี้...

- ยอดผู้เล่นแตะหลัก 1 ล้านคนเร็วสุด ใน 1 ชั่วโมง หลังเปิดให้เล่น (1.26 ล้านคน)
- เป็นเกมที่ 2 ของปี 2024 ที่มียอดผู้เล่นทะลุ 2 ล้านคน ต่อจาก Palworld

- ยอดผู้เล่นพร้อมกันสูงสุดทะลุ 2.2 ล้านบัญชี แซง Palworld (2.1 ล้านบัญชี) เป็นรองเพียง PUBG: Battlegrounds ที่มียอดผู้เล่นอยู่ที่ 3.257 ล้านบัญชี  

- มียอดผู้เล่นพร้อมกัน 2.223 ล้านบัญชี แตะจุดพีคบน Steam ใน 12 ชั่วโมง
- เป็นเกม Single Player อันดับ 1 ตลอดกาลที่มียอดผู้เล่นพร้อมกันเยอะที่สุดของ Steam บน PC

- ขึ้นแท่นเกมอันดับ 1 ขายดีสุดบน Steam
- รีวิวในทางบวก 176,256 ครั้ง คิดเป็น 97% รีวิวในทางลบ 5,369 ครั้ง คิดเป็น 3%

เปิดประวัติ 'ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี' นักกฎหมายมือฉมัง เสริมกำลัง 'รวมไทยสร้างชาติ'

ถือเป็นการเปิดตัวเป็นสมาชิกพรรคอย่างเป็นทางการกับพรรครวมไทยสร้างชาติของ 'คุณเอ๋' ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.67 ที่โรงภาพยนตร์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้ชวนมาชมภาพยนตร์ ร่วมกัน

โดยก่อนหน้านี้ คุณเอ๋ เคยกล่าวไว้ว่า ตนได้เข้ามาช่วยดูงานด้านกฎหมายและเครดิตบูโร ให้กับนายพีระพันธุ์ และ พรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะมีความสนิทสนมกับนายพีระพันธุ์ตั้งแต่สมัยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งล่าสุด ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ได้เข้าร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยคาดว่าจะมาช่วยเสริมกำลังให้ทีมกฎหมายของพรรคให้เข้มแข็งขึ้นต่อไป

ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ถือเป็นนักการเมืองชาวไทยคนสำคัญ ที่เป็นผู้ริเริ่มเสนอกฎหมายปฏิรูปเครดิตบูโร โดยบทบาททางด้านการเมืองนั้น เป็นอดีตรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า เป็นอดีตเลขาธิการพรรคกล้า เป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ 

ในส่วนของประวัติ...

>> จบการศึกษา...
- ปริญญาเอก รัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี (ศิษย์เก่าดีเด่น)
- ปริญญาโท LL.M. in Banking and Financial Law, Boston University School of Law, USA
- ปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศิษย์เก่าดีเด่น)
- ประถมศึกษา มัธยมศึกษา โรงเรียนเซนต์คาเบรียล รุ่น 75 (ศิษย์เก่าดีเด่น)

>> ประกาศนียบัตร...
- หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงสถาบันวิทยาการตลาดทุน วตท. รุ่น 13
- หลักสูตรการพัฒนากรรมการบริษัทมืออาชีพ IOD : DCP รุ่น 107
- หลักสูตรผู้นำธุรกิจระดับโลก (Global business Leaders Program : GBL รุ่น 1)
- หลักสูตรวิชาว่าความของสำนักฝึกอบรมวิชาว่าความแห่งสภาทนายความ (ใบอนุญาตทนายความ 1338 /2543)
- หลักสูตรการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสำหรับนักบริหารระดับสูง ปปร. รุ่น 12 สถาบันพระปกเกล้า
- หลักสูตรแนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับการจัดการความขัดแย้งด้านนโยบายสาธารณะ โดยสันติวิธี สถาบันพระปกเกล้า
- หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านการพัฒนามหานคร: มหานครรุ่น 3
- หลักสูตรการพัฒนานวัตกรรมธุรกิจแบบก้าวกระโดด: DSTARTUP รุ่น 2 มหาวิทยาลัยศรีปทุม
- หลักสูตร Transformers รุ่น 1 มหาวิทยาลัยมหิดล
- หลักสูตรนักบริหารระดับสูง 'ธรรมศาสตร์เพื่อสังคม' : นมธ.รุ่น 1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- หลักสูตรนักบริหารการพัฒนาในยุคดิจิทัล: DAD รุ่น 8 สถาบันบัณบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

>> ประสบการณ์ทำงาน
- ประธานคณะกรรมการ บริษัท เวฟ เอกซ์โพเนนเซียล จำกัด (มหาชน) (ปัจจุบัน)
- กรรมการ บริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) (ปัจจุบัน)
- กรรมการ บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชม) (ปัจจุบัน)
- กรรมการ บริษัท เมทเธียร์ จำกัด (ปัจจุบัน)
- อาจารย์พิเศษ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพรมบุรี (ปัจจุบัน)

- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร 2 สมัย
- กรรมการสภาสถาบันพระปกเกล้า
- ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
- ประธานกรรมาธิการกิจการชายแดนไทย สภาผู้แทนราษฎร
- กรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติ
- กรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน
- กรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ
- กรรมการประสานงานฝ่ายรัฐบาล (วิปรัฐบาล)

- กรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พ.ศ. 2554
- กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพรบ.งบประมาณประจำปี
- ข้าราชการ กองกฎหมาย สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง
- เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.)

- ผู้บรรยายกฎหมายการคลัง การเงินและการธนาคาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต และกรุงเทพธนบุรี
- กรรมาธิการวิสามัญพิจารณากฎหมาย ดังนี้...
* พ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) พ.ร.บ.สหกรณ์ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
* พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ร.บ.ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
* พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการและบุคลากรกรุงเทพมหานคร พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร
* พ.ร.บ.คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย พรบ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ

* พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ร.บ.ระเบียบริหารราชการแผ่นดิน พ.ร.ม.คุ้มครองการดำเนินงานของอาเซียนฯ
* พ.ร.บ.เวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างกิจการรถไฟฟ้ามหานครฯ
* พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
* พ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ร.บ.ว่าด้วยการปฏิบัติต่ออากาศยานที่กระทำผิดกฎหมาย

>> บทความวิชาการ / งานวิจัย
- แนวทางและรูปแบบของกฎหมายเพื่อการกำกับดูแล การประกอบธุรกิจการเงินที่มิใช่สถาบันการเงิน (Non-Bank)
- กระบวนการจัดเก็บภาษีตามพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 กรณีศึกษากรุงเทพมหานคร
- แนวทางการมีส่วนร่วมพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดมุกดาหาร โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

‘ดร.อักษรศรี’ ชี้!! EU ปรับเรทเก็บภาษีรถ EV จากจีน ดูฉาบฉวยและเลือกปฏิบัติ เอื้อค่ายรถฝรั่งผลิตในจีน แต่ยังโหดกับรถค่ายจีน

(21 ส.ค. 67) รองศาสตราจารย์ ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณี อียูลดภาษีนำเข้า EV ผลิตในจีน 🇨🇳 จากอัตราเดิมที่เคยประกาศไว้ ดูฉาบฉวยก็เหมือนจะดี แต่จริง ๆ แล้วยังคงเป็นการเลือกปฏิบัติกับจีนอยู่ดี ว่า...

รถ EV ที่ผลิตโดยค่ายรถฝรั่ง 🇪🇺 อียูจะลดภาษีให้ตรึมนะ

- ค่ายเทสล่า ลดจาก 20.8% เหลือ 9%
- ค่ายโฟล์คสวาเกน ลดจาก 37.6% เหลือ 21.3%

ส่วนรถ EV ผลิตโดยค่ายรถสัญชาติจีน 🇨🇳 จะได้รับการลดภาษีพอเป็นพิธี 😅
-ค่าย BYD จาก 17.4% เหลือ 17%
-ค่ายรถ Geely จาก 19.9% เหลือ 19.3%
-ค่ายรถ SAIC จาก 37.6% เหลือ 36.3% 

น่าคิด!! ซีรีส์สไตล์ ‘เกาหลี-จีน-ญี่ปุ่น’ มุ่งพัฒนาเพื่อปรับพฤติกรรมคนในสังคม ส่วนไทยสไตล์ยังเวียนวน ‘ตบตี-ชิงผู้’ ร่วม 50 ปี บนเนินคิด เพื่อสะท้อนสังคม

ไม่นานมานี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'Suniti Kerdsongkran' ได้โพสต์มุมมองต่อแนวทางการสร้างหนังในประเทศต่าง ๆ เพื่อสร้างค่านิยมใหม่ที่สร้างสรรค์ และปรับเปลี่ยนมุมลบบางอย่างทางสังคมให้กลายเป็นมุมบวก ระบุว่า...

ในประเทศเกาหลี สื่อเขาสร้างหนังที่พระเอกเป็นผู้ชายอบอุ่น โรแมนซ์ 

เพราะสังคมเขาผู้ชายที่แต่งงานแล้วถือว่า มีสิทธิ์เด็ดขาดในตัวภรรยา และบ้านเมืองเขา มีข่าวตบตีภรรยาในครอบครัวสูงมาก

เขาจึงใช้กลยุทธ์ของ Modeling Process สร้างค่านิยมใหม่ในสังคมให้ผู้ชายเป็นคนโรแมนติกมากขึ้น 

'นี่คือการสร้างหนังเพื่อปรับพฤติกรรม'

แม้กระทั่งในญี่ปุ่น เขาก็สร้างการ์ตูนผู้พิทักษ์ต่าง ๆ อุลตร้าแมน ฯลฯ เพื่อให้เด็กซึมซับความยุติธรรม การต่อสู้กับความชั่ว หรือในประเทศจีน ก็จะมีหนังในทำนองนี้เช่นกัน ...

ย้อนกลับมามองประเทศไทย

ทำไมละครไทยถึงมีแต่เรื่องเดิม ๆ เป็นอยู่อย่างนี้มา 50 กว่าปี

พอไปถามผู้จัด ก็ได้รับคำตอบว่า ...

"เราสร้างละครเหล่านี้เพื่อสะท้อนสังคม"

เราจะไป 'สะท้อนสังคม' เพื่ออะไร?
เพราะเราสะท้อนมา กว่า 50 ปีแล้ว 
และเนื้อเรื่องมันก็วนเวียนอยู่แค่แย่งตบตีกันแค่นั้น

ทำไมเราไม่สร้างละคร 'เพื่อนำสังคม'
เพื่อจูงใจให้เกิดพฤติกรรมดี ๆ ล่ะ

มัวแต่ไปสร้างเพื่อสะท้อนสังคม มันก็ไม่เห็นเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรในสังคมเลยสักนิด 

ในทางจิตวิทยาแล้ว สื่อมีบทบาทสำคัญมาก ๆ ในกระบวนการเรียนรู้ผ่านตัวแบบ ...


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top