Friday, 23 May 2025
TheStatesTimes

‘ปลาหมอคางดำ’ บุก!! ‘กทม.’ โผล่ระบาดแล้ว 3 เขต ล่าสุดพบชาวบ้านแห่จับ หลังลอยเกลื่อนบึงมักกะสัน

(15 ก.ค. 67) จากกรณีปัญหา ‘ปลาหมอคางดำ’ ซึ่งล่าสุดแพร่พันธุ์กระจายเข้ามาในพื้นที่ กทม.แล้ว 3 เขต โดย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์แพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ เขตบางขุนเทียน โดยพบว่าแพร่ระบาดมาจากจังหวัดสมุทรสงคราม

สำหรับในพื้นที่กทม. ที่พบ ‘ปลาหมอคางดำ’ ในขณะนี้ คือ เขตบางขุนเทียน ทุ่งครุ และบางบอน ซึ่งมีการแพร่ระบาดเข้ามาของปลาหมอคางดำที่แพร่พันธุ์ได้เร็วมาก

ล่าสุดวันนี้ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพ ‘ปลาหมอคางดำ’ จำนวนมาก โดยมีการระบุว่าเป็นบริเวณบึงพระราม 9 ซึ่งเพจ อีซ้อขยี้ข่าว3 ได้นำภาพดังกล่าวมาเผยแพร่ พร้อมระบุข้อความว่า “ชาวบ้านแห่จับปลาหมอคางดำที่น็อกน้ำ แถวบึงมักกะสันฝั่งขาออกประชาสงเคราะห์”

28 กรกฎาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษา ‘พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว’ ในหลวงรัชกาลที่ 10

28 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 ถือเป็นช่วงเวลาที่มีความหมายอย่างยิ่งสำหรับคนไทยทุกคน ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 72 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 10

โดยพระองค์ทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชสมภพ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เมื่อวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2495 ได้รับพระราชทานพระนามว่า ‘สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ’

>> การศึกษา

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเริ่มการศึกษาที่โรงเรียนจิตรลดา แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาต่อในระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนคิงส์มีด แคว้นซัสเซกส์ และศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนมิลฟิลด์ แคว้นซอมเมอร์เซท สหราชอาณาจักร หลังจากนั้น ทรงศึกษาต่อวิชาทหารที่โรงเรียนคิงส์ นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ทรงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาอักษรศาสตร์ ด้านการทหาร จากมหาวิทยาลัยนิวเซาธ์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย หลังจากทรงสำเร็จการศึกษาได้เสด็จฯ นิวัติประเทศไทย ทรงศึกษาต่อสาขาวิชานิติศาสตร์รุ่นที่ 2 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรฯ ทรงสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวิชราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2515 ขณะนั้นทรงเจริญพระชนมายุ 20 พรรษา นับเป็นกระบวนการสืบราชสันตติวงศ์ที่ชัดเจนตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบสันตติวงศ์ พ.ศ. 2467

ตลอดระยะเวลาที่ทรงดำรงพระราชอิสริยยศ ‘สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร’ ทรงเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรฯ และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ อาณาประชาราษฎร์ ทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจ นานัปการ เพื่อประเทศชาติและพสกนิกรชาวไทย โดยมิได้ย่อท้อ

ทั้งที่ทรงปฏิบัติแทนพระองค์ และทรงปฏิบัติส่วนพระองค์ ทั้งในด้านความมั่นคง ของประเทศ ด้านสังคมสงเคราะห์ การศาสนา การศึกษาและวัฒนธรรม การแพทย์และสาธารณสุข การทหาร การบิน การต่างประเทศ ฯลฯ เพื่อ ความสุขความเจริญก้าวหน้าแก่บ้านเมืองและ ประชาชนคนไทยทั้งปวง

ดั่งพระราชดำรัสในพิธี ถวายสัตย์ปฏิญาณในการพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา ในการสถาปนาขึ้นเป็น ‘สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร’ ความว่า “ข้าพเจ้าผู้เป็นสยามมกุฎราชกุมาร จะรักษาเกียรติยศและอริยศักดิ์ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานไว้ด้วยชีวิต จะจงรักภักดีต่อชาติบ้านเมือง จะซื่อสัตย์ ต่อประชาชนจะปฏิบัติหน้าที่ทุกอย่าง โดยเต็มกำลังสติปัญญาความสามารถและ โดยความเสียสละเพื่อความเจริญสงบสุข และความมั่นคงไพบูลย์ของประเทศไทย จนตราบ เท่าชีวิตร่างกายจะหาไม่”

>> ทรงรับขึ้นทรงราชย์

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 19.16 น. ปวงชนชาวไทยทั้งผอง ต่างปลาบปลื้มเป็นล้นพ้น เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จออก ณ ห้อง UPPER MAIN CR.M (ห้อง วปร.) พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ผู้สำเร็จราชการ แทนพระองค์ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายวีระพล ตั้งสุวรรณ ประธานศาลฎีกา เข้าเฝ้าฯ เพื่อกราบบังคมทูลอัญเชิญพระรัชทายาทเสด็จ ขึ้นทรงราชย์เป็นรัชกาลที่ 10 

พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสตอบรับการขึ้นทรงราชย์ ความว่า “ตามที่ประธานสภานิติบัญญัติ แห่งชาติปฏิบัติหน้าที่ประธานรัฐสภา และกล่าวในนามของปวงชนชาวไทย เชิญข้าพเจ้าขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ ถ้าเป็นไปตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎมนเทียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์กับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยนั้น ข้าพเจ้าขอตอบรับเพื่อสนองพระราชปณิธาน และเพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวไทยทั้งปวง” 

การทุ่มเทพระวรกายปฎิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ โดยมิทรงว่างเว้นของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 สะท้อนถึงพระราชหฤทัยมุ่งมั่นในการขจัดทุกข์บำรุงสุขแก่พสกนิกร สมดั่งพระราชปณิธานที่ทรงมีพระราชประสงค์ สืบสาน รักษาต่อยอด ในหลวงรัชกาลที่ 9

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

‘รวมไทยสร้างชาติ’ คิกออฟโครงการ ‘เลือดรวมไทย’  ชวนคนไทยร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแบ่งปัน 23 ก.ค.นี้

(15 ก.ค.67) พรรครวมไทยสร้างชาติ จัดโครงการ ‘เลือดรวมไทย’ ถวายในหลวง 72,000 ซีซี โดยขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วมบริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ ณ โรงเรียนสามเสนนอก กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 23 กรกฎาคม นี้

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายยอดรับบริจาคฯ โลหิตจำนวน 72,000 ซีซี เพื่อสำรองใช้ยามฉุกเฉิน โดยผู้บริจาคโลหิตจะได้เป็นส่วนหนึ่งของการแบ่งปัน อันเป็นแบบอย่างที่ดีของการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนอีกด้วย

สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จะจัดหน่วยเคลื่อนที่มารับบริจาคโลหิต ในวันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องประชุมครองราชย์ 60 ปี โรงเรียนสามเสนนอก เขตดินแดงกรุงเทพมหานคร

ทางพรรคฯ ขอเชิญชวนผู้ที่จะมาร่วมบริจาคทุกท่าน ร่วมกันแต่งกายด้วยเสื้อเหลือง ตราสัญลักษณ์ฯ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ

‘บริดจสโตน’ แต่งตั้ง ‘อะกิฮิโตะ อิชิอิ’ นั่งกรรมการผู้จัดการคนใหม่ เดินหน้าธุรกิจสู่ความเป็นเลิศ-มอบคุณค่าเพื่อสังคมการเดินทางที่ยั่งยืน

เมื่อไม่นานมานี้ บริษัท ไทยบริดจสโตน จํากัด และบริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จํากัด ประกาศแต่งตั้ง คุณอะกิฮิโตะ อิชิอิ ขึ้นดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 พร้อมสานต่อความสำเร็จของธุรกิจยางรถยนต์บริดจสโตนในประเทศไทยอย่างเต็มกำลัง และนำทัพขับเคลื่อนสู่การเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน แทนคุณเคอิจิ ชูมะ ซึ่งครบวาระและได้รับมอบหมายให้ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนงาน G-MICA Tire Solution Business Development บริษัท บริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2567

สำหรับคุณเคอิจิ ชูมะ ซึ่งดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ของบริษัท ไทยบริดจสโตน จํากัด และบริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จํากัด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 ตลอดระยะเวลาเกือบ 4 ปี ที่ผ่านมาได้เป็นหัวเรือหลักและสร้างคุณประโยชน์ให้กับบริดจสโตนมากมาย เช่น ยกระดับวัฒนธรรมองค์กรเพื่อส่งเสริมศักยภาพของผู้บริหารและพนักงานให้มีส่วนร่วมพัฒนาตนเองผ่านกิจกรรมการเพิ่มคุณค่าซึ่งนำไปสู่การบรรลุวิสัยทัศน์ขององค์กรร่วมกัน และหลอมรวมเป็น DNA ที่แข็งแกร่งของบริดจสโตน ส่งเสริมการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรในภาคการผลิตยางรถยนต์ และพิชิตใจลูกค้าด้วยการเสริมความแข็งแกร่งช่องทางการขาย รวมถึงพัฒนาธุรกิจค้าปลีกและผลิตภัณฑ์ยางหล่อดอก เป็นต้น

ด้านคุณอะกิฮิโตะ อิชิอิ ได้เริ่มการทำงานที่บริษัท บริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 มีความเชี่ยวชาญในด้านการตลาด ธุรกิจยางรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ยางหล่อดอก การบริหารซัพพลายเชน และกลยุทธ์การตลาดระดับสากล ทั้งในประเทศญี่ปุ่น แอฟริกาใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดิอาระเบีย สเปน เบลเยียม จีน อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และไต้หวัน ภายใต้ประสบการณ์การรบริหารงานกลุ่มบริษัทในเครือบริดจสโตนมากกว่า 30 ปี ซึ่งจะช่วยการันตีความสำเร็จให้บริษัท ไทยบริดจสโตน จํากัด และบริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จํากัด ด้วยการใช้กลยุทธ์ธุรกิจระยะกลางของกลุ่มบริษัทในเครือบริดจสโตน (ประจำปี พ.ศ. 2567-2569) รุดหน้าสู่การสร้างคุณค่าร่วมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางธุรกิจ ควบคู่กับการยกระดับแบรนด์บริดจสโตนสู่ความพรีเมียมที่ยั่งยืนต่อไป

คุณอะกิฮิโตะ อิชิอิ กล่าวว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมบริหารงานบริดจสโตนในประเทศไทย และได้สานต่อการดำเนินงานของคุณเคอิจิ ชูมะ โดยวางรากฐานการดำเนินธุรกิจด้วย ‘ความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ’ เพื่อส่งมอบคุณค่าแก่ลูกค้าผ่านการพัฒนานวัตกรรมเพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชั่นด้านยางรถยนต์ระดับพรีเมียม ควบคู่ไปกับการส่งมอบคุณค่าแก่สังคม ผ่านการดำเนินงานด้านความยั่งยืนเพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและเศรษฐกิจหมุนเวียน ตลอดห่วงโซ่คุณค่า ซึ่งบริดจสโตนในประเทศไทยมีทรัพยากรในการผลิตยางรถยนต์ที่เหมาะสมและยังมีศักยภาพในการบริหารจัดการ ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการจัดหาวัตถุดิบ การวิจัยและพัฒนา การผลิต การขนส่ง รวมถึงเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่ง ซึ่งผมจะใช้จุดแข็งเหล่านี้ยกระดับการเดินทางที่ยั่งยืนในสังคมไทย และเพื่อที่จะยกระดับแบรนด์บริดจสโตนสู่ความพรีเมียมที่ยั่งยืน ผมจะสนับสนุนให้นำความเป็นมอเตอร์สปอร์ตที่มุ่งสู่ความยั่งยืนซึ่งเป็นแกนหลักของการดำเนินธุรกิจของบริดจสโตนมาสู่ประเทศไทย อย่างต่อเนื่อง”

‘แอ๊ด คาราบาว’ พร้อม ‘ล้อมวงมันส์’ เนรมิตแคมป์ปิ้งคอนเสิร์ต ที่ธันเดอร์โดม จัดเต็มกว่า 40 เพลง ย้ำ!! ‘สนุก-เป็นกันเอง-มีแดนซ์สามช่า’ พบกันวันที่ 5 ต.ค.นี้

(15 ก.ค.67) ที่ล้อมวงมันส์ สตูดิโอ ‘แอ๊ด คาราบาว’ แถลงข่าว ‘แอ๊ด บาว อะคูสติก คอนเสิร์ต’ คอนเสิร์ตอะคูสติกเต็มรูปแบบ ในสไตล์สุดชิลล์ ให้ผู้ชมได้ใกล้ชิดติดขอบเวที ในบรรยากาศที่เป็นกันเอง เหมือนได้ร่วมเดินทางไปแคมป์ปิ้ง ร่วมกับศิลปินระดับตำนานเพลงเพื่อชีวิต 

ซึ่งตั้งใจคัดสรรบทเพลง มาทำดนตรีใหม่ พิเศษสุดในครั้งนี้ ที่ ‘แอ๊ด คาราบาว’ รับหน้าที่เป็น Music Director ด้วยตนเอง เพื่อให้แฟนเพลงได้ประทับใจ

อย่างไรก็ตาม คอนเสิร์ตนี้จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม 2567 ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี พิเศษสุด!! สำหรับแฟนเพลงที่ซื้อบัตรล่วงหน้า จะได้รับเสื้อที่ระลึกทุกที่นั่ง จัดส่งฟรีถึงที่บ้าน 

โดยมีการเปิดจำหน่ายบัตรล่วงหน้า 25-31 กรกฎาคมนี้ เวลา 10.00-21.00 น. ทาง Line : @ล้อมวงมันส์ 

และเปิดจำหน่ายบัตรอย่างเป็นทางการ Counter Service Al Ticket ในร้าน 7-Eeven ทุกสาขาทั่วประเทศ และทางเว็บไซต์ AllTicket ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป

บัตรราคา 1500, 3000 และ 4000 บาท พิเศษเฉพาะ บัตร 4000 จะได้รับเสื้อที่ระลึกที่หน้างาน  

‘แรงงาน' จ่อชง ครม. ลดส่งเงิน ปกส.เหลือ 2% ช่วง 'ต.ค.-ธ.ค. 67' ช่วย 'นายจ้าง-ลูกจ้าง' รับมือปรับค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทต่อวัน

(15 ก.ค. 67) จากกรณีที่กระทรวงการคลัง เตรียมปรับขึ้นค่าแรงเป็น 400 บาท ในเดือน ต.ค. นี้ จึงมีการเล็งพิจารณาแนวทางที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการเฉพาะกลุ่ม SMEs ที่เป็นสถานประกอบการขนาดเล็ก โดยรัฐจะเพิ่มค่าลดหย่อนจากการจ่ายค่าแรงเพื่อมาชดเชย

ล่าสุด รายงานข่าวระบุว่า กระทรวงแรงงานเตรียมมาตรการออกมาช่วยเหลือผู้ประกอบการเช่นเดียวกัน โดยเป็นมาตรการระยะสั้นคือ 

>> การลดการส่งเงินสมทบประกันสังคมของฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง จากฝ่ายละ 5% เหลือฝ่ายละ 2% โดยลดลงไปฝ่ายละ 3% ของฐานค่าจ้าง ระยะเวลา 3 เดือน ระหว่าง ต.ค.-ธ.ค. 67 และเตรียมเสนอให้ที่ประชุม ครม.อนุมัติต่อไป

ส่วนการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนการหารือกับคณะกรรมการค่าจ้างไตรภาคี เพื่อประเมินความพร้อมของแต่ละอุตสาหกรรม และจัดเตรียมมาตรการช่วยเหลือสำหรับธุรกิจที่อาจได้รับผลกระทบ

ที่ผ่านมามีกลุ่มผู้ประกอบการแสดงความไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำที่ระดับ 400 บาททั่วประเทศ เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจ หลายภาคอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบอย่างมาก

ขณะที่ภาครัฐก็ยืนยันว่า นโยบายนี้จะต้องดำเนินการตามที่กำหนดไว้ และรับทราบถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งการลดส่งเงินสมทบประกันสังคมให้นายจ้างและลูกจ้างฝ่ายละ 3% จากที่เคยจ่าย 5% เหลือ 2% เทียบเท่ากับการที่รัฐบาลช่วยรับภาระการขึ้นค่าแรงของนายจ้าง

ตัวอย่างเช่น ปัจจุบันค่าแรงขั้นต่ำในกรุงเทพและปริมณฑลรวม 6 จังหวัด คือ 363 บาทต่อวัน หากปรับค่าแรงเป็น 400 บาทต่อวัน นายจ้างจะต้องจ่ายเพิ่มอีก 37 บาทต่อวัน แต่เมื่อรัฐบาลลดส่งเงินสมทบประกันสังคมให้นายจ้าง 3% เทียบเท่ากับได้ลดค่าใช้จ่ายให้นายจ้างลงวันละ 12 บาท ทำให้ภาระที่นายจ้างรับจริงอยู่ที่วันละ 25 บาท

‘นักเรียนไทย’ เจ๋ง!! คว้า 4 เหรียญรางวัล เวทีชีววิทยาโอลิมปิก ประเทศคาซัคสถาน

(15 ก.ค.67) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘Prasit Futrakul’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

นักเรียนไทยสร้างชื่ออีกแล้ว....!!!

นักเรียนไทยสร้างชื่อให้ประเทศไทยในวงวิชาการระดับโลกอีกครั้ง เมื่อสามารถคว้า 1 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง เวทีชีววิทยาโอลิมปิกจากคาซัคสถาน ได้แก่…

- นายฆฤต โชติวรรณพร โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ เหรียญทอง
- นายศุภกร เล่งเวหาสถิตย์ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ จังหวัดนครปฐม เหรียญเงิน
- นายศรัณย์ อยู่ร่วมใจ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ จังหวัดนครปฐม เหรียญเงิน
- นายชญาณ์ชนญ์ เจียมเวชวิทยาภร โรงเรียนกำเนิดวิทย์ จังหวัดระยอง เหรียญทองแดง

ไทยปิดศูนย์ CI ปิดช่องพม่าฟอกขาว-ชุบตัวเป็นแรงงานในไทย ส่วนท่าที NGO ไม่ผิดคาด 'อุ้มต่างด้าว-ด่ารัฐไม่เอื้อความสะดวก'

กรมจัดหางานมีคำสั่งให้ปิดศูนย์บริหารจัดการ การทำงานของแรงงานเมียนมาแบบเบ็ดเสร็จ หรือที่เรียกชื่อเล่นว่า 'ศูนย์ CI' จำนวน 7 แห่ง ประกอบด้วย ปทุมธานี, นครสวรรค์, สมุทรปราการ, ชลบุรี, สุราษฎร์ธานี และสงขลา ให้เปิดทำการแค่ศูนย์เดียวในจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีผลตั้งแต่ 7 ก.ค.เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง

จากคำสั่งดังกล่าวทำกลุ่ม NGO กังวลว่า การเปิดศูนย์ CI เพียงจังหวัดเดียว กำลังจะสร้างภาระให้กับแรงงานพม่ามากขึ้น เพราะว่าชาวพม่าที่อยู่จังหวัดเชียงใหม่, เชียงราย, หนองบัวลำพู, อุดรธานี และอื่น ๆ ต้องเดินทางมาที่ สมุทรสาคร แห่งเดียว โดยอ้างว่า เป็นการสร้างภาระให้แก่แรงงานเหล่านั้น

ในอดีตการเปิดศูนย์ CI ก็เพื่อขึ้นทะเบียนแรงงานข้ามชาติที่แอบทำงานในไทยอย่างผิดกฎหมายให้เข้ามาในระบบอย่างถูกต้อง แต่ ณ ปัจจุบันพบว่ามีคนอาศัยช่องว่างในการเดินทางเข้ามาแบบผิดกฎหมายในไทย แล้วหาช่องทางทำให้ถูกต้องด้วยการรอขึ้นทะเบียน CI เพื่อจะสามารถเป็นแรงงานในไทยได้ 

แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ จะเป็นไปได้ และคงจะไม่เกิดขึ้น หากไม่มีเหตุการณ์ที่ชาวพม่าทะลักเข้าไทยอย่างผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง เพราะนั่นคือ การที่พวกเขาเห็นช่องทางในการฟอกขาวให้พวกเขาเหล่านั้นมีชีวิตใหม่

NGO ในไทย ก็ควรมีสามัญสำนึกถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อประเทศไทยด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาเข้าข้างกล่าวหาว่ารัฐทำให้คนเหล่านั้นลำบาก NGO ควรเข้าใจด้วยว่าคนเหล่านั้นคือผู้กระทำผิดในการเข้าเมืองผิดกฎหมาย 

‘นายกฯ’ ขอ ‘ธปท.’ ปรับลดการจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตเหลือ 5% หลัง 'หนี้เสีย' จากยอดค้างชำระแตะล้านใบ อีก 2 แสนจ่อมาติดๆ

(15 ก.ค. 67) นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเป็นประธานวันนี้ว่า มีข้อห่วงใยจากนายกฯ ขอให้ธนาคารประเทศไทย (ธปท.) พิจารณาปรับลดอัตราการชำระคืนขั้นต่ำบัตรเครดิต (Minimum Pay) กลับมาที่ 5% หลังจากที่ตั้งแต่ปี 2567 ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 8% 

ทั้งนี้เนื่องจากขณะนี้เป็นภาวะที่ประชาชนกำลังลำบากอยู่จึงอยากขอให้กลับมาอยู่ที่ 5% ส่วนเรื่องของวินัยทางการเงินให้ค่อยแก้อีกทีนึง 

ปัจจุบัน มีสินเชื่อบัตรเครดิตอยู่ราว 24 ล้านใบ พบว่ามีบัตรเครดิตที่มียอดค้างชำระเกิน 90 วัน หรือเป็นหนี้เสีย (NPL) ไปแล้วกว่า 1.1 ล้านใบ และมีหนี้ที่กำลังจะเสียเพิ่มอีกกว่า 2 แสนใบ ซึ่งหนี้บัตรเครดิตมีดอกเบี้ยปรับในอัตราสูง 

ซึ่งที่ผ่านมามีแนวทางในการช่วยเหลือกลุ่มหนี้บัตรเครดิตด้วยโครงการคลินิกแก้หนี้ โดย บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) ให้หยุดสร้างหนี้เพิ่มเติมและยืดเวลาในการผ่อนชำระ 

“ทั้งนี้ได้ฝากให้กระทรวงการคลังและ ธปท.ช่วยประสานกับบริษัทบัตรเครดิตรายใหญ่หลายรายให้เข้ามาร่วมโครงการอีกครั้ง เพื่อระยะยาวแล้วช่วยให้ลูกค้าฟื้นเป็นผลดีต่อบริษัทมากกว่า” 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติปิดศูนย์ป้องกันและปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลฟุตบอลยูโร 2024 ภาพรวมตลอดการแข่งขันจับกุมผู้ต้องหาได้กว่า 4,000 ราย พบเงินหมุนเวียนในระบบเกือบ 2,500 ล้านบาท สั่งเดินหน้าปราบปรามการพนันทุกมิติอย่างต่อเนื่อง

วันนี้ (15 กรกฎาคม 2567) พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในห้วงการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 17 หรือฟุตบอลยูโร 2024 ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน ถึง 14 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เปิดศูนย์ป้องกันและปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลฟุตบอลยูโร 2024 เพื่อปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบเล่นการพนันทั้งออนไลน์และออนไซต์อย่างเข้มข้น ตลอดห้วงการแข่งขัน โดยมีผลการปราบปรามอย่างเป็นรูปธรรม จับกุมผู้ต้องหาได้จำนวนมาก โดยเฉพาะการพนันออนไลน์พบเงินหมุนเวียนในระบบเกือบ 2,500 ล้านบาท

ภาพรวมผลการจับกุมการลักลอบเล่นการพนันทายผลฟุตบอลยูโร 2024 ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน ถึง 14 กรกฎาคม 2567 แบ่งเป็น 
1. การจับกุมการพนันออนไซต์ สามารถจับกุมผู้ต้องหา 3,191 คน แบ่งเป็น เจ้ามือ 52 คน , ผู้เล่น 3,106 คน และคนเดินโพย 33 คน ยึดเงินสดของกลางได้ 153,544 บาท
2. การจับกุมการพนันออนไลน์ สามารถจับกุมได้ 238 เว็บไซต์ ผู้ต้องหารวม 887 คน แบ่งเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนัน 151 คน , ผู้เล่น 736 คน พบเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 2,485 ล้านบาท ตรวจยึดเงินสดและทรัพย์สินของกลางมูลค่ากว่า 472 ล้านบาท 

ทั้งนี้ เปรียบเทียบสถิติผลการจับกุมการลักลอบเล่นการพนันทายผลฟุตบอลยูโร ปี 2020 และปี 2024 พบว่ามีการจับกุมการพนันออนไซต์เพิ่มขึ้นจากปี 2020 ซึ่งจับกุมได้ 1,606 ราย เป็น 3,177 ราย คิดเป็นจับกุมเพิ่มขึ้น 1,571 ราย หรือ 97.82% สำหรับการจับกุมการพนันออนไลน์ สามารถจับกุมเพิ่มขึ้นจากปี 2020 ซึ่งจับกุมได้ 118 ราย เป็น 892 ราย คิดเป็นจับกุมเพิ่มขึ้น 774 ราย หรือ 655.93% ในส่วนของการตรวจยึดเงินสดของกลางเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยปี 2020 ตรวจยึดเงินสดของกลางได้ 92 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2024 ตรวจยึดอายัดเงินสดและทรัพย์สินของกลางได้กว่า 472 ล้านบาท คิดเป็นตรวจยึดเพิ่มขึ้น 380 ล้านบาท หรือ 413.04% และปี 2024 ยังพบเงินหมุนเวียนในระบบเป็นจำนวนเงินถึง 2,485 ล้านบาทอีกด้วย

นอกจากนี้ พล.ต.ท.อัคราเดชฯ กล่าวว่า ขณะนี้การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้ปิดศูนย์ป้องกันและปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลฟุตบอลยูโร 2024 แต่อย่างไรก็ตาม การปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทุกประเภททั้งออนไลน์และออนไซต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังคงสั่งการให้ทุกหน่วยทั่วประเทศเดินหน้ากวาดล้างจับกุมอย่างเข้มข้นต่อเนื่องต่อไป พร้อมขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบเบาะแสการลักลอบเล่นการพนัน สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันทีทางสายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top