(13 มิ.ย. 68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า...
ผูกพันและเชื่อใจ
การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ
ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก
ผมกับท่านเลขาฯขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน
ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชนไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา
เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก 'ขิง'
ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง
เมื่อหารือตกผลึกกันแล้วก็ลงมือทำ 'พรรครวมไทยสร้างชาติ' มาด้วยกันตั้งแต่ก้าวแรก ผมเป็นหัวหน้าพรรคและขิงเป็นเลขาธิการพรรค ฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการมาจนถึงวันนี้ ด้วยความร่วมมือร่วมใจ ไม่หวั่นไหว ไม่ย่อท้อ
ผมกับขิงไม่ได้คบหากันด้วยผลประโยชน์แต่เราร่วมกันด้วยอุดมการณ์และความปรารถนาที่จะเห็นบ้านเมืองมีพรรคการเมืองดี ๆ ที่ยึดเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่หนึ่งอยู่เสมอ
ผมกับขิงตกลงกันว่าเราจะทำพรรคที่ประชาชนอยากได้ อยากมี แต่ไม่เคยมีมาก่อน เป็นพรรคที่สู้เพื่อประชาชน
แน่นอนระหว่างการลงมือสร้างด้วยหยาดเหงื่อและแรงใจแรงกาย มันไม่ง่าย เจอปัญหาระหว่างทางมากมาย แต่ด้วยความมั่นคงและมั่นใจ ทำไม่หยุดหย่อน ทำแม้ระหว่างทางมีคนทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจ เอาความจริงใจ ความสุจริตและประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นหลักชัย
วันนี้ผมต่อสู้กับทุนขนาดใหญ่ที่มีทั้งเงินและอิทธิพล จนถูกรุมกระหน่ำจากสมุนทุกแขนง เมื่อขิงยืนเคียงข้างผมอย่างไม่หวาดหวั่นจึงต้องโดนหางเลขไปด้วย ก็เท่านั้น
ต้องขอบคุณขิงที่แข็งแกร่ง มั่นคง อดทน ไม่หวั่นไหว และยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ที่ตกลงกันมา
เราจะสู้กับความไม่ถูกต้องนี้อย่างเข้มแข็งที่สุด
แต่ที่น่าอนาถใจคือการพยายามใส่ร้ายป้ายสีการทำงานของขิงกับทีม 'สุดซอย' ทีมที่ได้รับคำชื่นชมจากพี่น้องประชาชนว่าเก่งกล้าสามารถในการฟันกระบวนการสีเทาที่สร้างความเสียหายให้กับวงการอุตสาหกรรม ก่อมลพิษและทำร้ายเศรษฐกิจของประเทศ แถมการกล่าวหากลับมาจากอะไรที่เทา ๆ ดำ ๆ เสียเองอีก ตรงนี้ที่น่าอนาถ
การพูดใส่ร้ายคนมันง่าย เพราะลิ้นไม่มีกระดูก แต่การกระทำจะบอกด้วยตัวเองว่าใครกันแน่ที่ยึดประโยชน์ชาติ ใครกันแน่ที่น่าเคลือบแคลงว่ามีเอี่ยวในประโยชน์สีดำสีเทาพวกนี้
ผมอยากจะบอกว่าตอนที่ขิงก้าวมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมนั้น ผมได้หารือแนวทางการทำงานกันหลายอย่าง ที่สำคัญคือต้องเอาประโยชน์ชาติประชาชนนำหน้าปรากฏว่าขิงทำงานได้ดีกว่าที่บอกกับผมไว้อีก ผลงานที่ปรากฏออกมาเป็นระยะได้รับเสียงชื่นชมจากทุกภาคส่วน ที่สำคัญคือ ไม่เคยมีข้อกล่าวหาการเรียกรับผลประโยชน์หรือการกระทำที่มิชอบใด ๆ เลย
ผมมั่นใจในตัวขิงเป็นที่สุด
อยู่ ๆ ก็มาบอกว่ามีทีมอะไรที่ไปคอยเรียกเก็บเงิน ถ้ามีจริงทำไมไม่ดำเนินการทางกฎหมายเลย ไปแจ้งความ ไปกล่าวหาให้ตรวจสอบหรือสอบสวนก็ได้ แน่จริงทำไมไม่ทำ
นี่ถ้าผมกับขิงตามใจผลประโยชน์ วันนี้ก็คงไม่มีเรื่องแบบที่เกิดขึ้น
ขอขอบคุณทุกท่านที่เป็นกำลังใจ เป็นกำแพงให้พวกผมพิง
รวมไทยสร้างชาติ ยังเป็นพรรคที่ทำงานให้ชาติให้ประชาชนอย่างมั่นคงและแข็งแกร่งต่อไปครับ