Sunday, 15 June 2025
TheStatesTimes

“พิชัย” หารือทูตญี่ปุ่น ดึงนักลงทุนเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมอนาคต ยานยนต์-ดิจิทัล เร่งปิดดีล FTA ขยายตลาดส่งออก

(12 ม.ค. 68) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย (นายโอตากะ มาซาโตะ) เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2568 ณ กระทรวงพาณิชย์ โดยตนรู้สึกดีใจที่นักลงทุนญี่ปุ่นจำนวนมากกลับเข้าสู่ไทย และญี่ปุ่นมีการลงทุนเป็นอันดับ 1 อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ลดการลงทุนในไทย ภายหลังการรัฐประหารปี 2557 ไปร่วมทศวรรษ การได้พบกับท่านทูตมาซาโตะ เป็นการช่วยกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน รวมถึงได้ฝากให้ช่วยดึงดูดนักลงทุนญี่ปุ่นให้ขยายการลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่ญี่ปุ่นมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น อาทิ ยานยนต์ยุคใหม่ อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ AI ดาต้าเซนเตอร์ ดิจิทัล แผงวงจรพิมพ์ (PCB) การแพทย์และเทคโนโลยีชีวภาพ และเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ทั้งได้สานต่อการเจรจาหลังตนได้เยือนญี่ปุ่นดึงนักลงทุนและหารือกับผู้นำระดับสูงของรัฐบาลญี่ปุ่นในช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา พร้อมทั้งให้คำมั่นที่จะขยายตลาดการส่งออกผ่าน FTA ในกลุ่มประเทศที่ไทยมีศักยภาพในการส่งออกต่อไป

นายพิชัย กล่าวว่า ไทยมุ่งหวังเป็นศูนย์กลางสำหรับการค้าและการลงทุน เป็นฐานการผลิตในห่วงโซ่อุปทานสมัยใหม่ และการผลิตสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ในวันนี้ตนจึงได้เชิญชวนนักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาขยายการลงทุนในไทยเพิ่มเติมในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งยานยนต์สันดาปและยานยนต์ยุคใหม่ รวมทั้งอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่ญี่ปุ่นมีศักยภาพ อาทิ เซมิคอนดักเตอร์ AI ดาต้าเซนเตอร์ ดิจิทัล แผงวงจรพิมพ์ (PCB) การแพทย์และเทคโนโลยีชีวภาพ และเทคโนโลยีหุ่นยนต์ โดยที่ผ่านมา ญี่ปุ่นยังเป็นนักลงทุนต่างชาติกลุ่มแรกที่เข้ามาลงทุนขนาดใหญ่ในไทยและมีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานอุตสาหกรรมของไทย 

และวันนี้ตนยังได้มีโอกาสหารือกับ นายกลินท์ สารสิน ประธานคณะกรรมการบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และนายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และคณะ เพื่อความร่วมมือในการขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐกับเอกชนให้ไทยเป็นผู้นำด้านการผลิตยานยนต์ของอาเซียน โดยภาคเอกชนฝากการบ้านให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยขยายตลาดการส่งออกผ่าน FTA ในกลุ่มประเทศที่ไทยมีศักยภาพในการส่งออก เช่น กลุ่มประเทศอาหรับ รวมทั้งการเจรจา FTA ไทย-อียู ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ซึ่งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้เร่งเจรจา เพื่อปิดจบ FTA ฉบับต่างๆ อย่างต่อเนื่อง 

“เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปเยือนประเทศญี่ปุ่น ได้หารือกับ H.E. Mr. HAYASHI Yoshimasa เลขา ครม. ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงในรัฐบาลญี่ปุ่น และ Mr.Taro KONO สส .จังหวัดคานางาวะ อดีตรัฐมนตรีดิจิทัลของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นนักการเมืองที่มีบทบาทสำคัญในญี่ปุ่น ประเด็นความร่วมมือในอุตสาหกรรมใหม่ ที่ญี่ปุ่นกำลังสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของญี่ปุ่นในช่วง 10 ปีข้างหน้า โดยทุ่มงบประมาณมากกว่า 10 ล้านล้านเยน (2.2 ล้านล้านบาท) เพื่อให้ไทยได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในซัพพลายเชนของญี่ปุ่น และได้มีโอกาสพบหารือกับภาคเอกชนรายใหญ่ของญี่ปุ่นหลายราย เช่น บริษัท NTT Corporation บริษัท TOYOTA TSUSHO บริษัท GS Yuasa International บริษัท Hitachi และบริษัท Mitsubishi Electric Corporation เพื่อเชิญชวนขยายการลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น โดยตนพร้อมสนับสนุนการลงทุนของญี่ปุ่นและอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนใหม่ในไทยอีกกว่า 2–3 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ ไทยอยู่ระหว่างการเจรจา FTA กับอีกหลายประเทศ ซึ่งจะทำให้เป็นประโยชน์ต่อบริษัทญี่ปุ่นที่ดำเนินธุรกิจในไทย” พิชัยกล่าว

นายพิชัย เสริมว่า ไทยและญี่ปุ่นมีความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญาระหว่างกันอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง โดยล่าสุด สับปะรดห้วยมุ่นของไทยได้รับขึ้นทะเบียนสินค้า GI ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสินค้ารายการที่ 3 ต่อจากกาแฟดอยช้างและกาแฟดอยตุง ภายใต้ความร่วมมือแลกเปลี่ยนการขึ้นทะเบียน GI 3 + 3 นอกจากนี้ ตนยังได้แสดงความพร้อมที่กระทรวงพาณิชย์จะมีส่วนร่วมในงาน EXPO 2025 Osaka Kansai ที่ญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 13 เมษายน – 13 ตุลาคม 2568 โดยจะมีการจัดThailand Pavilion นำเสนอศักยภาพของไทยผสมผสานระหว่างการแพทย์สมัยใหม่และการแพทย์แผนไทย การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ รวมถึงสินค้าสมุนไพร เครื่องสำอาง และสปา ซึ่งเป็นการส่งเสริม soft power ไทยสู่สากล

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของไทย โดยในช่วง 11 เดือนของปี 2567 (มกราคม – พฤศจิกายน) มีมูลค่าการค้ารวม 48,093.12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นการส่งออกของไทยไปยังญี่ปุ่นมูลค่า 21,545.26ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไก่แปรรูป เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ของเครื่องจักรกล และเคมีภัณฑ์ และการนำเข้าของไทยจากญี่ปุ่นมูลค่า 26,547.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ และแผงวงจรไฟฟ้า

กมธ.ทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ปัญหาไฟป่าหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่

(12 ม.ค. 68) ณ ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้า กองพลทหารราบที่ 7 อำเภอเเม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พลตรี ชายแดน  กฤษณสุวรรณ รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปกป.ภาค 3 ให้การต้อนรับ พลเอก สวัสดิ์  ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา พร้อมด้วย นายสมบูรณ์  หนูนวล รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่หนึ่ง นายฉลอง  ทองนะ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สอง ว่าที่พันตรี กรพด  รุ่งหิรัญวัฒน์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สาม นายไชยยงค์  มณีรุ่งสกุล เลขานุการคณะกรรมาธิการ นางสาวนวลนิจ  หงษ์วิวัฒน์ รองเลขานุการคณะกรรมาธิการ นายนิฟาริด  ระเด่นอาหมัด ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ และนาวาตรี วุฒิพงศ์  พงศ์สุวรรณ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ โดยได้ร่วมประชุมเพื่อรับฟังสถานการณ์ปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ภาคเหนือ แผนงานในการป้องกันและแก้ไขปัญหา รวมไปถึงเป้าหมายในปี 2568 เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน ตลอดจนรับทราบปัญหาและอุปสรรคที่ต้องการให้คณะกรรมาธิการได้ผลักดันช่วยเหลือ พร้อมทั้งได้ให้แนวคิดและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

“พล.ต.อ.ธัชชัยฯ” หารือไทย - จีน ร่วมมือต่อสู้ “การค้ามนุษย์และอาชญากรรมข้ามชาติ” หลังจีนขอบคุณการช่วยเหลือดารานักแสดงได้สำเร็จ

(12 ม.ค. 68) เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ได้ร่วมประชุมหารือถึงการร่วมมือในการต่อสู้กับการค้ามนุษย์และองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการหลอกลวงนำชาวต่างชาติไปทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงขอบคุณการช่วยเหลือในกรณีการติดตามนายหวังซิง ดารานักแสดงชาวจีน ที่ถูกหลอกลวงไปยังประเทศเมียนมาและได้รับการช่วยเหลือกลับมาได้สำเร็จ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมฝ่ายไทย ได้แก่ พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว , พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ , พ.ต.อ.ทรงกลด เกริกกฤตยา รองผู้บังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และฝ่ายจีน ได้แก่ Mr.Wu Zhiwu อัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย , Mrs.Pan Jin ที่ปรึกษาฝ่ายกงสุลและชาวจีนโพ้นทะเล สอท.จีน , Mr.Wen Yonggang ทูตตำรวจประจำ สอท.จีน , Pol.Maj.Zhao Yingning ผู้ช่วยทูตตำรวจ สอท.จีน และ Mr.Li Shaopu เลขานุการตรี ฝ่ายกงสุลและชาวจีนโพ้นทะเล สอท.จีน ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ศพดส.ตร. ชั้น 7 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

ในการประชุมครั้งนี้ พล.ต.อ.ธัชชัยฯ ได้กล่าวถึงการจัดตั้งศูนย์ประสานงานระหว่างตำรวจไทยและตำรวจจีน ว่า จะมุ่งเน้นการติดตามบุคคลที่หายตัวไป หรือถูกหลอกลวงไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับประเทศไทย พร้อมกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์ และอาชญากรรมข้ามชาติอื่นๆ รวมถึงเพิ่มมาตรการควบคุมการลักลอบผ่านแดนตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด เพื่อสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ

นอกจากนี้ พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวว่า การร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งในการควบคุมการลักลอบข้ามแดนตามแนวชายแดนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ใช้การหลอกลวงทางออนไลน์ และบังคับให้บุคคลทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศกระทำความผิดทางอาญา (Forced Criminality)

การหารือครั้งนี้เป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีน ในการปราบปรามองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์และขบวนการค้ามนุษย์ และสร้างความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศไทย

ยูเครนจับ 2 ทหารเกาหลีเหนือกลางเคิร์สก์ ท้าคิม-รัสเซียแลกตัวสะเทือนสงคราม

(13 ม.ค. 68) ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีแห่งยูเครนเปิดเผยว่า ยูเครนสามารถจับกุมตัวทหารเกาหลีเหนือจำนวน 2 นายในพื้นที่สู้รบในภูมิภาคเคิร์สก์ โดยทหารทั้งสองถูกนำตัวมายังกรุงเคียฟเพื่อสอบปากคำและให้ข้อมูลกับสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติยูเครน (SBU)  

“เชลยศึกทุกคน รวมถึงทหารเกาหลีเหนือทั้งสองนาย จะได้รับการดูแลทางการแพทย์ที่จำเป็น” เซเลนสกีกล่าว พร้อมระบุว่าสื่อมวลชนจะได้รับโอกาสสัมภาษณ์พวกเขาในอนาคต  

ทั้งนี้ ยูเครนระบุว่าทหารเกาหลีเหนือมีบทบาทสนับสนุนการสู้รบในภูมิภาคเคิร์สก์ ซึ่งยูเครนเริ่มการบุกโจมตีเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และยังคงควบคุมพื้นที่หลายร้อยตารางกิโลเมตรในบริเวณนี้  

ทหารเกาหลีเหนือนายหนึ่งระบุว่าตนเกิดในปี 2548 และเข้าร่วมกองทัพเกาหลีเหนือในปี 2564 อีกนายหนึ่งเกิดในปี 2542 และเข้าร่วมกองทัพตั้งแต่ปี 2559 โดยมีตำแหน่งเป็นพลซุ่มยิง พวกเขาอ้างว่าไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้าว่าจะต้องเข้าสู่สมรภูมิในยูเครน โดยผู้บังคับบัญชาบอกเพียงว่าการเดินทางครั้งนี้เป็นการฝึกยุทธวิธี  

หนึ่งในทหารกล่าวว่า ต้องการกลับเกาหลีเหนือ ขณะที่อีกนายกล่าวว่า หากมีโอกาส เขาอยากอาศัยอยู่ในยูเครน  

เซเลนสกีเสนอว่า ยูเครนพร้อมพิจารณาแลกเปลี่ยนตัวเชลยเกาหลีเหนือ หากผู้นำคิม จอง-อึน ยินยอมจัดการแลกเปลี่ยนดังกล่าวกับทหารยูเครนที่ถูกรัสเซียควบคุมตัว  

สำนักงานความมั่นคงของยูเครนและสำนักข่าวกรองเกาหลีใต้ (NIS) ยืนยันการจับกุมตัวทหารเกาหลีเหนือทั้งสองราย ระหว่างการสู้รบในเคิร์สก์เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา  

รายงานจากสำนักงานคณะเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ระบุว่า ตั้งแต่ทหารเกาหลีเหนือเข้าร่วมการสู้รบในสงครามรัสเซีย-ยูเครนเมื่อเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว มีทหารเกาหลีเหนือเสียชีวิตประมาณ 1,100 นาย ขณะที่ยูเครนประเมินตัวเลขไว้สูงกว่า คือประมาณ 3,000 นาย  

ยูเครนยืนยันว่าปฏิบัติต่อเชลยศึกตามหลักมนุษยธรรมและกรอบอนุสัญญาเวียนนา โดยการสอบปากคำเชลยศึกดำเนินการผ่านล่ามที่ได้รับการรับรองเพื่อความถูกต้องและเป็นธรรม  

จนถึงขณะนี้ รัสเซียและเกาหลีเหนือยังไม่มีการแสดงความเห็นต่อเหตุการณ์นี้ ขณะที่ยูเครนเตรียมพร้อมรับมือกับความเป็นไปได้ที่จะสามารถจับกุมตัวทหารเกาหลีเหนือเพิ่มเติมในอนาคต

กรมอุตุฯ เผย ไทยเผชิญอากาศหนาวจัดอีกระลอก ย้อนอดีตปี 2498 กทม. เคยหนาวสุดขั้วอุณหภูมิต่ำสุด 9.9 องศา

(13 ม.ค. 68) กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือน ฉบับ 11 อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย อันดามัน “ลมเย็นอีกระลอก” จากจีนแผ่ปกคลุม ทำให้มีอากาศหนาวจัดมีลมแรง สุดทึ่ง!! ในอดีตกรุงเทพมหานคร เคยหนาวสุดขั้วอุณหภูมิต่ำสุด 9.9 องศา เมื่อปี 2498

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 11 (11/2568)
เรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยรวมทั้งทะเลอันดามัน มีผลกระทบจนถึงวันที่ 13 มกราคม 2568

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้แล้ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาวและหนาวจัดในบางพื้นที่กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบนดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรงไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางแห่งบริเวณตอนล่างของภาค ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร 

ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 13 ม.ค. 68

สำหรับในปีนี้ พื้นที่กรุงเทพมหานคร นับว่ามีอากาศหนาวเย็นต่อเนื่องยาวนาน โดยอุณหภูมิต่ำสุดจะอยูที่ประมาณ 16 องศาเซลเซียส แต่ทว่า เมื่อย้อนไปดูบันทึกสภาพอากาศในอดีต พบว่า เมื่อปี 2498 กรุงเทพมหานคร เคยหนาวสุดขั้ว โดยมีอุณภูมิต่ำสุดถึง 9.9 องศาเซลเซียส

"iPhone ถือเป็นนวัตกรรมเปลี่ยนโลกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ แต่หลังจากนั้น Apple ดูเหมือนไม่มีนวัตกรรมใหม่ออกมาเลย สตีฟ จ็อบส์สร้าง iPhone ไว้ แล้ว 20 ปีผ่านไปก็ยังคงเหมือนเดิม"

(13 ม.ค. 68) มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก วิจารณ์แอปเปิล iPhone ขาดนวัตกรรม - ระบบปิดจำกัดการเติบโตของตลาด

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของ Meta ได้ร่วมพูดคุยในรายการพอดคาสต์ Joe Rogan Experience โดยหัวข้อสนทนาครอบคลุมหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นการจัดการเนื้อหาบนแพลตฟอร์ม การพบปะกับอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ รวมถึงประเด็นร้อนที่เกี่ยวข้องกับบริษัทแอปเปิล  

ระหว่างการสนทนา โจ โรแกนเล่าว่าเขาเปลี่ยนจากการใช้ iPhone ไปเป็น Android เนื่องจากไม่อยากผูกติดกับแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง และยังแสดงความไม่พอใจกับนโยบายการเก็บค่าธรรมเนียม App Store ของแอปเปิล  

ซักเคอร์เบิร์กได้เสริมมุมมองว่า แม้ iPhone จะเคยเป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนโลก แต่หลังจากนั้น แอปเปิลกลับไม่มีสิ่งใหม่ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงอีกเลย เขาเปรียบว่า สตีฟ จ็อบส์ได้สร้าง iPhone ไว้แล้ว แต่หลังจากผ่านมา 20 ปี ทุกอย่างยังคงเดิม ทำให้เขาตั้งคำถามว่าแอปเปิลยังคงขาย iPhone ได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ หรือไม่ เพราะโทรศัพท์มือถือมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา แต่คนสร้างอัปเกรดอุปกรณ์ช้าลงเรื่อย ๆ ซักเคอร์เบิร์กยังมองว่าการเก็บค่าธรรมเนียม 30% เป็นวิธีที่แอปเปิลใช้รักษารายได้ให้เพิ่มขึ้นทุกปี  

นอกจากนี้ ซักเคอร์เบิร์กยังวิจารณ์แอปเปิลในเรื่องระบบปิด โดยยกตัวอย่าง AirPods ที่แม้จะเป็นสินค้าคุณภาพสูง แต่ถ้าหูฟังยี่ห้ออื่นสามารถใช้โปรโตคอลเชื่อมต่อกับ iPhone ได้แบบเดียวกัน ผู้บริโภคอาจมีทางเลือกที่หลากหลายและดียิ่งกว่าเดิม เขาเชื่อว่า ถ้าแว่นตา Ray-Ban Meta Glasses สามารถเชื่อมต่อในลักษณะเดียวกันได้ สินค้าจะมีความสะดวกและน่าสนใจสำหรับผู้ใช้งานมากขึ้น  

เขายังทำนายว่าแนวทางของแอปเปิลในปัจจุบันอาจทำให้บริษัทต้องเจอกับความท้าทายจากคู่แข่งในเร็ววัน เพราะขาดการพัฒนานวัตกรรมใหม่มาเป็นเวลานาน  

ซักเคอร์เบิร์กยังกล่าวถึงผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลในหลายแง่มุม เช่น iMessage ที่มีการแบ่งแยกผู้ใช้ผ่านกล่องข้อความสีน้ำเงิน และวิจารณ์ว่า Apple Vision Pro ที่มีราคาสูงนั้นไม่ได้มอบประสบการณ์ที่คุ้มค่าเทียบเท่ากับ Quest ของ Meta  

ความขัดแย้งระหว่าง Meta และแอปเปิลไม่ใช่เรื่องใหม่ ก่อนหน้านี้ Facebook เคยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากนโยบายใน iOS 14 ที่จำกัดการติดตามโฆษณา จนถึงขั้นซื้อโฆษณาประชดในหนังสือพิมพ์ และเมื่อปีที่ผ่านมา Meta ก็ได้ประกาศขึ้นราคาการบูสต์โพสต์บน iOS หลังจากที่แอปเปิลเริ่มคิดค่าธรรมเนียม 30% ในส่วนนี้

อย่าพลาด! EA ใช้สิทธิเพิ่มทุน 17-23 ม.ค.นี้ สัดส่วน 1:1 หุ้นละ 2 บาทพร้อมวอร์แรนต์ฟรี!

บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจพลังงานอย่างเต็มที่ 
หลังปรับโครงสร้างภายในกลุ่มบริษัทเสร็จเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดผู้ถือหุ้นไฟเขียวเพิ่มทุน จำนวน 4,951,121,866 หุ้น พร้อมแบ่งจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 3,713,341,400 หุ้น ในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาจองซื้อหุ้นละ 2 บาท พร้อมรับใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนต์) EA-W1 ฟรี!!! ในอัตราส่วน 3 หุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อ 1 วอร์แรนต์  โดยกำหนดราคาใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญที่ 4 บาทต่อหุ้น ระยะเวลาใช้สิทธิ 3 ปี เพื่อตอบแทนความไว้วางใจและเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ขณะนี้ EA พร้อมสุดๆ สำหรับการสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน 

อย่าพลาดโอกาสดีๆ!!! วันที่ 17 - 23 ม.ค. 2568 เป็นวันจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน…ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.energyabsolute.co.th

‘เจือ ราชสีห์’ ชวนท่องเที่ยว หาดสมิหลา ร่วมสัมผัสน้ำทะเลที่คุณภาพดีที่สุดของไทย

(13 ม.ค. 68) นายเจือ ราชสีห์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขอแสดงความยินดีกับพี่น้องชาวสงขลา วันนี้ชายหาดของเรา “หาดสมิหลา” คว้าอันดับ 1 น้ำทะเลที่มีคุณภาพดีที่สุด จาก 210 แห่งทั่วประเทศไทย ของกรมควบคุมมลพิษ

“ผมขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ ได้มาลองสัมผัสกับน้ำทะเลที่คุณภาพดีที่สุดของไทย ที่หาดสมิหลาจังหวัดสงขลา ครับ”

ย้อนตัวอย่างบริษัทดัง หวังใช้โซเชียลพลิกวิกฤต แต่กลยุทธ์ทำพิษ จากวิกฤตเป็นวิบัติ

(13 ม.ค. 68) ในยุคดิจิทัลที่โซเชียลมีเดียถูกใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการสื่อสาร สร้างแคมเปญการตลาด เพื่อโปรโมตแบรนด์ อีกทั้งรับมือกับ Crisis Management เมื่อเกิดวิกฤตการณ์ที่ทำให้ชื่อเสียงของแบรนด์ตกต่ำลง การรับมือของบริษัทในยุคโซเชียลมีเดียสามารถพลิกสถานการณ์ได้ทั้งในทางบวกและลบ ล่าสุด OPPO บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำถูกวิจารณ์อย่างหนักจากกรณีแอปเงินกู้ที่เกี่ยวข้องกับการแอบเก็บข้อมูลส่วนบุคคลผู้ใช้ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ในวงกว้าง ท่ามกลางกระแสดราม่า กลับมีการผุดแฮชแท็ก #OPPOFighting จากพนักงานและกลุ่มผู้สนับสนุนแชร์กันมากมายบนโซเชียลมีเดีย

การกระทำเหล่านี้มักจะทำคำถามบนเส้นแบ่งบางๆ ระหว่างความภักดีที่แท้จริงของพนักงานกับแคมเปญที่พยายามสร้างเพื่อฟื้นภาพลักษณ์องค์กร ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะคล้ายกันนี้เคยเกิดขึ้นกับแบรดน์ขนาดใหญ่หลายแบรนด์ทั่วโลกมากแล้ว

หนึ่งในตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดคือกรณีของ Volkswagen ในช่วงที่มีเรื่องอื้อฉาว Dieselgate ในปี 2015 เมื่อบริษัทถูกจับได้ว่าติดตั้งซอฟต์แวร์ในรถดีเซลเพื่อโกงการทดสอบการปล่อยมลพิษ ทำให้รถผ่านการตรวจสอบตามกฎระเบียบได้ในขณะที่ปล่อยมลพิษที่เป็นอันตรายเกินขีดจำกัดทางกฎหมาย เมื่อกลายเป็นประเด็นได้มีบรรดาพนักงานและกลุ่มผู้ภักดีต่อแบรนด์Volkswagen บางคนก็ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อปกป้องบริษัท ภายใต้แฮชแท็กอย่าง #VW และ #DieselgateIsNotWhatYouThink โพสต์เหล่านี้พยายามลดความรุนแรงของปัญหาโดยเน้นที่ประวัติการสร้างสรรค์นวัตกรรมและความพยายามด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทแทน อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์จำนวนไม่น้อยโต้แย้งว่าโพสต์เหล่านี้ดูเหมือนเป็นความพยายามประชาสัมพันธ์เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่องอื้อฉาวมากกว่าการสนับสนุนพนักงานอย่างแท้จริง

ในทำนองเดียวกัน ในเหตุการณ์ของ United Airlines เมื่อปี 2017 ที่ผู้โดยสารรายหนึ่งถูกฉุดลากด้วยความรุนแรง ออกจากเที่ยวบินที่ระบบผิดพลาดจองตั๋วเกิน ส่งผลให้เกิดกระแสสังคมวิพากวิจารณ์สายการบินอย่างรุนแรง การจัดการสถานการณ์ที่ผิดพลาดของสายการบินทำให้เกิดการประณามอย่างกว้างขวาง โดยหลายคนตั้งคำถามถึงแนวทางการบริการลูกค้า อย่างไรก็ตาม หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว พนักงานของ United บางคนได้โพสต์ข้อความเพื่อปกป้องสายการบินโดยใช้แฮชแท็กเช่น #UnitedWeStand ข้อความเหล่านี้ซึ่งมักจะเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทต่อความปลอดภัยและการบริการลูกค้า ดูเหมือนจะขัดกับการรับรู้เชิงลบของสาธารณชน แม้ว่าพนักงานบางคนอาจโพสต์ข้อความด้วยความภักดีหรือความเชื่อส่วนตัวในค่านิยมของสายการบิน แต่บางคนก็สงสัยว่าโพสต์เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการตอบสนองประชาสัมพันธ์ที่จัดเตรียมขึ้นอย่างกว้างๆ

อีกหนึ่งกรณีที่เป็นที่รู้จักกันดีเกิดขึ้นกับ Nike ในปี 2018 เมื่อบริษัทเปิดตัวแคมเปญโฆษณาที่มีโคลิน แคเปอร์นิค อดีตผู้เล่น NFL เป็นพรีเซ็นเตอร์ แคเปอร์นิคกลายเป็นบุคคลที่ก่อให้เกิดความข้อถกเถียงในโซเชียลอเมริกัน จากกรณีที่เขาคุกเข่าระหว่างเพลงชาติเพื่อประท้วงความอยุติธรรมทางเชื้อชาติและสีผิว การตัดสินใจของ Nike ที่จะให้เขามีส่วนร่วมในแคมเปญทำให้เกิดทั้งการสนับสนุนและการต่อต้าน ในขณะที่ลูกค้าบางส่วนขู่ว่าจะคว่ำบาตรแบรนด์ พนักงานของ Nike จำนวนมากก็ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อปกป้องจุดยืนของบริษัท โดยโพสต์ภายใต้แฮชแท็กเช่น #Nike และ #JustDoIt ความแตกต่างในกรณีนี้คือพนักงานของ Nike ดูเหมือนจะแสดงการสนับสนุนแบรนด์ที่พวกเขาเชื่อมั่นอย่างแท้จริงมากกว่า # ที่เกิดขึ้นจากแคมเปญประชาสัมพันธ์

นอกจากนี้ยังมีกรณีของ Amazon เผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์ในปี 2018 เกี่ยวกับสภาพการทำงานในคลังสินค้า โดยพนักงานอธิบายถึงชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานที่มาพร้อมค่าตอบแทนไม่สมเหตุสมผลท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว พนักงานของ Amazon บางส่วนได้ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อตอบโต้รายงานเชิงลบ โดยใช้แฮชแท็กเช่น #AmazonWorks โพสต์เหล่านี้เน้นย้ำถึงค่าจ้าง สวัสดิการ และด้านบวกอื่นๆ ของบริษัทในการทำงานที่ Amazon แม้ว่าโพสต์เหล่านี้อาจจริงใจ แต่โซเชียลส่วนใหญ่กลับมีข้อสงสัยเช่นกันว่าทีมประชาสัมพันธ์ของ Amazon สนับสนุนให้ส่งข้อความดังกล่าวเพื่อฟื้นฟูภาพลักษณ์ของบริษัท

ทั้งนี้ ไม่ว่าโพสต์ติด # เหล่านั้นจะถูกทำขึ้นด้วยความจริงใจขอพนักงานในการสนับสนุนองค์กร หรือเป็นแคมเปญเพื่อการฟื้นภาพลักษณ์ก็ตาม แต่สิ่งสำคัญคือการดำเนินงานตอบสนองต่อข้อสงสัยของสาธารณะอย่างโปร่งใสและเจตนาที่จริงใจมากกว่า

ครม. ไฟเขียวร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ‘นายกฯ อิ๊งค์’ ชี้ ยิ่งทำเร็วยิ่งดี ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ - ท่องเที่ยว

นายกฯ เผย ครม. เห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ยันกฤษฎีกาไม่ขวาง แต่ต้องปรับคำให้เข้ากับนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา ชี้ยิ่งทำเร็วยิ่งดี ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจดึงท่องเที่ยว งัดธุรกิจใต้ดินขึ้นมาบนดินให้ถูกกฎหมาย

(13 ม.ค. 68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมเห็นชอบหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยมีสาระเป็นการกำหนดให้มีกฎหมาย ว่าด้วยการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เช่น กำหนดให้มีคณะกรรมการสถานบันเทิงครบวงจร คณะกรรมการบริหารจัดตั้งสำนักงานสถานบันเทิงครบวงจร และมีการกำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน วัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มการท่องเที่ยวในประเทศ และส่งเสริมการลงทุนในประเทศ และแก้ปัญหาการพนันที่ผิดกฎหมายในปัจจุบัน และทำให้เกิดผลดีในอนาคต ในภาพรวม เป็นหนึ่งในการสนับสนุนการท่องเที่ยวยั่งยืน ตามที่เคยแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไป

เมื่อถามว่า เมื่อ ครม.เห็นชอบแล้วจะสามารถส่งให้สภาพิจารณาได้เลยหรือไม่ หรือต้องนำความเห็นจากกฤษฎีกากลับมาเข้า ครม.อีกครั้ง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นเฉย ๆ และก็บอกว่าไม่ได้ขวาง แต่จะปรับเนื้อหาข้างใน เพราะที่อ่านข่าวมามีบอกว่า ขวาง ยืนยันว่าไม่ได้ขวาง แค่จะปรับคำให้เข้ากับที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว และหลังจากนี้ก็สามารถเข้าสภาได้เลย

เมื่อถามว่าเป้าหมายจะเป็นปีนี้เลยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็พยายามเร่ง แต่กระบวนการต่าง ๆ จะผ่านอย่างไร ถ้าเกิดเร็วก็ดี เช่น ประเทศสิงค์โปร์ มีกาสิโน 10% และที่ท่องเที่ยวอีก 80 - 90% แม้ในอดีตจะบอกว่ามีน้อย แต่เมื่อมีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เข้ามา ก็ทำให้ GDP โตขึ้นอย่างมาก และจะเกิดผลดีต่อประเทศในอนาคต ถ้าผลักดันให้เกิดขึ้นได้ ส่วนรายละเอียดจกระทรวงการคลังจะแถลงอีกที

เมื่อถามต่อว่าข้อกังวลเรื่องมาเฟีย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องอยู่กับความเป็นจริง ทุกวันนี้มีการพนันไม่ถูกฎหมายเต็มไปหมด เพราะฉะนั้น การส่งเสริมการท่องเที่ยว จะเป็นการแก้ปัญหาผู้มีอิทธิพล ทำอะไรที่อยู่นอกกฎหมาย ทำให้กฎหมายครอบคลุมชัดเจน ชีวิตประชาชนปลอดภัยด้วย และเงินที่ได้ก็เป็นภาษีเข้าประเทศอีก ต้องมองว่าโลกปัจจุบัน ถ้าเอาทุกอย่างมาทำให้โปร่งใสได้ ก็จะเป็นประโยชน์ให้กับประเทศ เป็นเรื่องใหม่ในประเทศเรา เป็นเรื่องความเปลี่ยนแปลง แต่ไม่เป็นไร เราต้องสื่อสารบ่อยหน่อย ฝากสื่อมวลชนถามคำถาม และจะให้กระทรวงต่าง ๆ ชี้แจงรายละเอียดเพื่อให้เข้าใจภาพรวมพร้อมกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีได้มีการสอบถามไปยังกฤษฎีกาว่าถึงความชัดเจนว่า เมื่อ ครม.ส่งให้กฤษฎีการปรับแก้คำให้ถูกต้องแล้ว แล้วสามารถส่งเข้าสภาพิจารณาเลยหรือไม่ ซึ่งทางกฤษฎีกาแจ้งกลับมาว่าจะต้องให้ ครม.ให้ความเห็นชอบอีกครั้งก่อนส่งเข้าสู่การพิจารณาของสภา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top