Sunday, 15 June 2025
TheStatesTimes

‘เกาหลีเหนือ’ เปิดตัว!! ภาพยนตร์เรื่องล่าสุด เขียนบท กำกับการแสดงโดย ‘คิมจองอึน’

(12 ม.ค. 68) ทางการเกาหลีเหนือได้เปิดตัว ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเกาหลีเหนือ ‘72 ชั่วโมง’ มีความยาวประมาณ 4 ชั่วโมง เนื้อหาเกี่ยวกับการรบในช่วงสงครามเกาหลี โดยใช้มุมมองของเกาหลีเหนือเป็นจุดเริ่มต้น ตั้งกองทัพสหรัฐและเกาหลีใต้เป็นฝ่ายที่ก่อสงคราม ส่วน คิมอิลซุง ผู้นำเกาหลีเหนือในขณะนั้นยังคงถูกยกย่องเป็น ‘วีรบุรุษ’ และท้ายที่สุด กองทัพเกาหลีเหนือก็สามารถยึดกรุงโซลได้สำเร็จ ทั้งนี้ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ได้เน้นเรื่องสงครามเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีการสอดแทรกเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง และที่แตกต่างจากภาพยนตร์เกาหลีเหนือในอดีตมากที่สุด คือการใส่ฉากบนเตียงและสาวสวยเปลือยกายอาบน้ำลงไปในภาพยนตร์

นอกจากนี้ในภาพยนตร์เรื่องนี้ จะเพิ่ม การไตร่ตรองของผู้บังบัญชาการ ซึ่งเป็นมุมมองใหม่ในวงการภาพยนตร์เกาหลีเหนือ ซึ่งในอดีตจะมุ่งเน้นเรื่องการสรรเสริญ

ทั้งนี้ 8 ม.ค.เป็นวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 41 ปี ของคิมจองอึน โดยคาดกันว่า ผู้นำเกาหลีเหนือ พยายามใช้การสร้างภาพยนตร์และสื่อ เพื่อดำเนินการปรับเปลี่ยนและรวบรวมอำนาจภายในประเทศ

สำหรับเนื้อหาของภาพยนตร์ เรื่องนี้มีการอ้างว่า บทและการกำกับการแสดง ออกแบบโดย ผู้นำสูงสุด ‘คิมจองอึน’

‘จีน’ ค้นพบแหล่ง ‘แร่ยูเรเนียม’ ขนาดใหญ่ในพื้นที่จิงชวน ส่งผลให้ทรัพยากรยูเรเนียมของจีน เพิ่มขึ้นอย่างมาก

(12 ม.ค. 68) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาของจีน ซึ่งอยู่ภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ประกาศในวันนี้ (10 ม.ค.) ว่า มีการค้นพบครั้งสำคัญในการสำรวจแร่ยูเรเนียมในพื้นที่จิงชวนของแอ่งออร์ดอส (Ordos Basin) ซึ่งถือเป็นแหล่งแร่ยูเรเนียมขนาดใหญ่พิเศษแห่งแรกที่ถูกค้นพบในภูมิภาคอันเต็มไปด้วยหินทรายที่เกิดจากการทับถมด้วยลม

นอกเหนือจากพื้นที่ 200,000 ตารางกิโลเมตรในแอ่งออร์ดอสแล้ว ธรณีสัณฐานดังกล่าวยังพบได้ทั่วไปในพื้นที่อื่น ๆ ที่มีชั้นหินอันเป็นแหล่งกำเนิดน้ำมัน เช่น แอ่งทาริม (Tarim) จุงการ์ (Junggar) และซ่งเหลียว (Songliao)

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า การค้นพบแหล่งแร่ยูเรเนียมจิงชวนจะเปิดโอกาสให้มีการสำรวจยูเรเนียมในจีนมากขึ้น และช่วยรับประกันความมั่นคงของจีนในด้านทรัพยากรยูเรเนียม

‘ช่างบิ๊ก บ้านโป่ง’ หลงไหลตัวอักษรไทย ยึดอาชีพหาดูยาก เขียนป้ายรถสิบล้อ!! สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทย

(12 ม.ค. 68) ด้วยสีสันที่โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ มองไกลๆ ก็ยังเห็น ว่านี่คือ ‘ศิลปะป้ายรถสิบล้อ’ มีตัวอักษรและภาพวาดวิวบ้านทุ่ง เป็นฝีมือการบรรจงลงสีลายพู่กันของ ‘ช่างบิ๊ก บ้านโป่ง’ หรือ นายนรพนธ์ รสใจ อายุ 23 ปี ชาว อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ซึ่งถือได้ว่าเป็นอาชีพที่เหลือคนทำอยู่ไม่มากนักในปัจจุบัน

ช่างบิ๊ก เปิดเผยว่า ตนทำอาชีพเขียนป้ายหน้ารถสิบล้อมาแล้วกว่า 5 ปี โดยแรงบันดาลใจที่ทำให้ตนกลายมาเป็นช่างเขียนป้าย เริ่มมาจากความหลงใหลในการเขียนตัวอักษรไทยในแบบต่าง ๆ กระทั่งได้มาพบกับงานเขียนป้ายรถสิบล้อ

ซึ่งจะนิยมเขียนตัวอักษรเป็นชื่ออู่รถ หรือ ชื่อสถานประกอบการ ด้วยสีฉูดฉาด และสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์แบบไทย ๆ ไม่เหมือนงานศิลป์ชนิดอื่น ปัจจุบันกำลังเป็นอาชีพที่นับวันจะเลือนหาย จึงทำให้ตนมีแนวคิดพัฒนาต่อยอดจากความชอบให้เป็นอาชีพในชีวิตจริง

ในช่วงแรกตนอาศัยเวลาว่างลองฝึกฝนหัดด้วยตนเอง ก่อนจะไปขอเรียนวิชากับ อ.ศิริศิลป์ เกาะโพธิ์ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นช่างเขียนป้ายบังฝุ่นผ้าใบ และป้ายไม้ยุคเก่า และอาจารย์อีกท่านหนึ่ง คือ อ.ชำนาญศิลป์ จ.ชลบุรี ช่างเขียนโปสเตอร์ และป้ายคัทเอาท์โปรโมทภาพยนตร์ โดยใช้เวลาศึกษาและลองผิดลองถูกนานกว่า 2 ปี

สำหรับวิธีการทำป้ายหน้ารถสิบล้อ จะเริ่มจากการวัดและตัดแผ่นไม้กระดานให้ได้ตามขนาดที่ต้องการ แล้วจึงขัดให้เนื้อไม้เรียบเนียน จากนั้นทาทับด้วยสีน้ำมันสีขาว เพื่อรองพื้น ก่อนจะลงสีฉากหลัง โดยส่วนใหญ่จะนิยมทาสีเหลือง-ส้ม ก่อนจะวาดลวดลาย และเขียนตัวอักษรเป็นชื่อต่างๆ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุด

โดยหลักๆ หากเป็นรูปภาพลายเส้นของตน จะเน้นวาดรูปกระท่อม กองฟาง ต้นไม้ ภูเขา และลำธาร ในช่วงเวลาพระอาทิตย์ตก สะท้อนย้อนวัยไปแสดงถึงวิถีชีวิตของชาวบ้านสมัยเก่าก่อน ส่วนข้อความจะต้องเขียนด้วยรูปแบบตัวอักษรที่อ่านง่าย มีการลงเส้นสี และลงแสงเงาที่ชัดเจน ไม่ลายตา

ในส่วนของราคาเขียนป้าย จะขึ้นอยู่กับขนาด แบ่งเป็น 80, 90, 100 และ 120 เซนติเมตร โดยราคาเริ่มตั้งแต่ 1,700 – 2,300 บาท นอกจากนี้ยังมีพวงกุญแจป้ายสิบล้อ และงานเพ้นท์ลายสเก็ตบอร์ด ทั้งนี้เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่

ทั้งนี้ ในปัจจุบัน ป้ายรถสิบล้อถือว่าเป็นอุปกรณ์เสริม ของแต่งรถ สำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบ บ่งชี้ถึงฐานะของเจ้าของรถหรือเจ้าของกิจการ ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการอู่รถสิบล้อ รวมไปถึงนำไปตกแต่งตามอาคารบ้านเรือน ร้านอาหาร คาเฟ่ โรงแรม รีสอร์ท และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ

ท่านใดที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่เฟสบุ๊ก ‘นรพนธ์ รสใจ (ช่างบิ๊ก บ้านโป่ง)’ หรือที่เบอร์โทรศัพท์ 082-2513645

‘พิธา’ บุก!! ตลาดบ้านเกิด ‘ทักษิณ’ ช่วยหาเสียง นายกฯ อบจ.เชียงใหม่ เชื่อ!! ฐานเสียงเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนเลย ขอปชช.ช่วยทำครอบครัวส้มใหญ่ขึ้น

(12 ม.ค. 68) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ลงพื้นที่ช่วยนายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ ช่วงเช้าไปหาเสียงที่ตลาดอุ๊ยทา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

นายพิธา เดินตลาดพบปะพี่น้องประชาชน ถือโทรโข่งปลุกใจด้วยการขานเบอร์ผู้สมัครเสียงดัง พร้อมกล่าวว่า ขอบคุณพี่น้องชาวสันกำแพงที่ไม่เคยลืมพวกเรา พวกเราจะไม่ลืมชาวสันกำแพงแน่นอน

จากนั้น นายพิธา ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ต้องมาที่นี่ เพราะเป็นเขต สส. พรรคเรา ตนยังนึกถึงความไว้วางใจที่พี่น้องชาวสันกำแพงมอบให้มา ยังจำได้อยู่ ภาพที่เห็นก็เป็นครอบครัวก้าวไกล-ประชาชน เป็นครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น

“ครอบครัวในเชียงใหม่เราก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เป็นความตั้งใจที่จะมาชวนพี่น้องชาวเชียงใหม่ให้ความไว้วางใจอีกครั้ง เพื่อจะให้ครอบครัวของเราขยายมากขึ้นจะได้ดูแลพวกท่าน หากครอบครัวของพวกเราใหญ่ขึ้น นั่นหมายความว่าการเมืองในสภา การแก้กฎหมายสำคัญ การแก้ไขปัญหาพื้นที่รวมถึงงบประมาณที่จะนำมาใช้ อบจ. ก็มีหน้าที่โดยตรง เราจะได้ทำงานอย่างไร้รอยต่อกับท้องถิ่น” นายพิธา กล่าว

นายพิธา ให้สัมภาษณ์ถึงการพูดคุยกับนายทักษิณ ในงานฉลองมงคลสมรส สส.พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน ว่า ไม่ได้มีอะไร วันนั้นก็ทักทายตามปกติ พอเสร็จงานตนก็แพ็คของมาลงพื้นที่หาเสียงลำพูน เชียงใหม่ต่อ ตนเชื่อว่า ประชาชนต้องการการแข่งขันทางการเมืองที่เข้มข้นตรงไปตรงมาทำงาน เพื่อให้เขาสามารถมีความเชื่อถือและเชื่อมั่นได้ว่าความเป็นไปของเชียงใหม่ที่จับต้องได้

“มันก็ผ่านมา 25 ปีแล้วนะ แกก็คงอยากจะเห็นว่าเชียงใหม่เปลี่ยนแปลงอะไร เจอโควิด ที่เรียกว่าเป็นเมืองปราบเซียนแล้ว ปราบเซียนเข้าไปใหญ่ เจอทั้งโควิดเจอทั้งฝุ่น เจอทั้งฝน ทั้งน้ำท่วม ดังนั้น ต้องมีคนรุ่นใหม่เข้าไปบริหารจัดการ” นายพิธา กล่าว

นายพิธา กล่าวต่อว่า ตนมาเชียงใหม่ครั้งนี้ ยังอบอุ่นเหมือนเดิม ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ได้รับการต้อนรับอย่างฝาคั่ง เชื่อว่าเป็นเพราะนโยบายที่ตอบโจทย์และโดนใจ

เมื่อถามว่ากังวลเรื่องฐานเสียงหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า การที่จะเป็นพรรคการเมืองอันดับ 1 อย่าง 42% เลือกเรา เดินไป 10 คน เลือกเราพรรคเดียว จะให้เป็นคนรุ่นใหม่อย่างเดียว มันไม่ใช่ มีคนรุ่นใหม่และคนรุ่นใหญ่ด้วย คราวนี้ พอเป็นเรื่อง อบจ. มันดูแลได้ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงคนสูงอายุ คงไม่ได้เลือกว่าจบเป็นคนรุ่นใหม่อย่างเดียว

นายพิธา ยังเชิญชวนให้คนกลับมาเลือกตั้ง ว่า ตนเข้าใจว่าเพิ่งกลับบ้านเมื่อช่วงปีใหม่ เดือนเดียวต้องกลับมาอีกแล้ว คนที่หาเช้ากินค่ำก็เดินทาง ลางานได้ลำบาก ดังนั้นใครที่อยู่ในพื้นที่ขอให้ไปใช้สิทธิ์ให้เต็มที่

นายพิธา ระบุว่า พรรคเก่าที่ผ่านมาชอบที่จะแข่งขันและเน้นการแข่งขันกับตัวเอง เราก็จะโฟกัสกับปัจจัยที่เราพยายามควบคุมให้ได้มากที่สุด แล้วไปเทียบกับอดีตว่าทำได้ดีขึ้นมากหรือไม่

“เชื่อว่าพี่น้องเชียงใหม่ เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนเลย สายน้ำไม่ไหลย้อนกลับ ก็จะให้โอกาสคนที่ตอบโจทย์กับยุคสมัยเราต้องการคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังวังชาและเจอกับความท้าทายใหม่ๆของเชียงใหม่”

ภายหลังการให้สัมภาษณ์นายพิธาได้เดินทางไปพักรับประทานอาหารที่ร้านเสน่ห์แม่วง อำเภอดอยสะเก็ดต่อ ก่อนมีกำหนดการปราศรัยในช่วงเย็น

‘ธนกร’ วอน!! รัฐบาล เร่งคลอด มาตรการเข้มข้น เพื่อควบคุมฝุ่น PM 2.5 จี้!! ‘ผู้ว่าฯ กทม. - บก.จร.’ ใช้ยาแรง บังคับใช้กฎหมาย ให้เข้มงวดมากขึ้น

(12 ม.ค. 68) นายธนกร วังบุญคงชนะ  สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงสถานการณ์ค่าฝุ่น PM 2.5 ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีระดับสีส้มและสีแดงบางจุด ว่า ตนขอฝาก ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เร่งประเมินสถานการณ์ และยกระดับมาตรการ รับมือป้องกันผลกระทบให้มีความเข้มข้นขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นดูแลสุขภาพประชาชน ที่แม้ว่าวันนี้ค่าฝุ่น จะอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ในช่วงวันที่ 12 - 19 ม.ค. 2568 ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสลับลดลง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ในช่วงนี้อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ในช่วงเช้ามีอากาศเย็นและลมแรง จากสภาวะอากาศที่แห้ง เสี่ยงต่อการเกิดการลุกไหม้ได้ ขอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความเข้ม เอาผิดผู้ที่จุดไฟเผาป่าหรือบริเวณรกร้าง เพราะถือว่าทำให้เกิดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมเป็นวงกว้าง

ทั้งนี้อีกสาเหตุหลักของฝุ่นPM 2.5 มาจากรถบรรทุกที่ใช้น้ำมันดีเซลที่ควันดำ รถบรรทุกขนาดใหญ่และกลุ่มของรถสาธารณะขนส่งมวลชน  จึงขอฝากทางกทม. ร่วมกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)กำกับการตรวจรถเมล์ รถในสังกัด ของขสมก. รวมทั้งขอทางกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ตรวจวัดมลพิษรถยนต์ควันดำ พวกรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่ยังพบเห็นการปล่อยควันดำตามท้องถนนอยู่เป็นประจำ ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดมากขึ้น เพื่อลดผลกระทบทางมลพิษแก่ประชาชน

"เป็นห่วงว่า หากสถานการณ์ฝุ่นPM 2.5 ทั้งในกรุงเทพมหานครและทั่วประเทศทวีความรุนแรงขึ้น จะส่งผลต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงวัย ขอทางรัฐบาล ผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร ออกมาตรการใช้ยาแรง คุมเข้มเรื่องควันดำจากรถยนต์  จัดให้มี การเวิร์คฟอร์มโฮมทำงานจากที่บ้านของส่วนราชการในสังกัดที่สามารถควบคุมบริหารจัดการได้  

พร้อมกันนี้ในโรงเรียนขอให้งดกิจกรรมกลางแจ้งปรับเปลี่ยนห้องเรียนให้ปลอดฝุ่นพิษหรือเพิ่มเครื่องฟอกอากาศ เพื่อช่วยดูแลสุขภาพเด็กเล็กและประถมวัยที่มีความเปราะบาง เชื่อว่าหากรัฐบาล ผู้ว่าราชการทุกจังหวัด รวมถึง กทม. ออกมาตรการเข้มข้นจะสามารถลดผลกระทบที่มีต่อสุขภาพพี่น้องประชาชนลงได้มาก" นายธนกร กล่าวทิ้งท้าย

INTERLINK EXPO 2025 ดีลครบ ลดคุ้ม จัดมหกรรมครั้งใหญ่ เปิดศักราช ลดอลังการให้คู่ค้าที่ภาคกลาง ตอบแทนคืนกำไรให้ในราคาลดหนักประหยัดจริง ตอบโจทย์ทุกงานระบบ ครบทุก Solution

(12 ม.ค. 68) คุ้มค่าเกินคาด!! บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จัดมหกรรมลดราคาครั้งยิ่งใหญ่ ‘INTERLINK EXPO 2025 ดีลครบ ลดคุ้ม’ เพื่อตอบแทนทุนให้คู่ค้า และพันธมิตรในภูมิภาคกลาง ส่งตรงถึงมือ ด้วยส่วนลดสุดพิเศษสูงสุดถึง 70% นำทัพสินค้าคุณภาพดี ราคาโดนใจ จัดให้ในราคาสบายกระเป๋า รวมถึงยกชุดทุกโซลูชันของ สินค้า และอุปกรณ์ LINK AMERICA & GERMAN RACK EVERYWHERE จัดโปรกระหน่ำกว่า 1,000 รายการ คืนกำไรเต็มให้คู่ค้าอย่างแท้จริง กล้ารับประกันถูกกว่านี้ไม่มีที่ไหนแน่นอน ภายในงานประกอบด้วยสินค้า และโซลูชันครบวงจร ทั้งสาย LAN/สาย FIBER OPTIC/Solar Solution/ตู้ LINK RACK และสินค้า 19” GERMANY EXPORT RACK และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ มากมาย จัดดีลพิเศษ Cash Back และกิจกรรมลุ้นรางวัลใหญ่อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีการประกาศข่าวดี เปิดศักราชด้วยนวัตกรรมใหม่ ‘NEW INNOVATION’ พร้อมตอกย้ำแบรนด์ LINK AMERICAN CABLING ที่จะมาตอบโจทย์ยุคดิจิทัล ที่ครอบคลุมทุกความต้องการกันที่งานนี้เป็นที่แรก ความคุ้มค่านี้เป็นการเริ่มต้นปีใหม่อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า นำพาธุรกิจเติบโตร่วมกันอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน แบบมีคุณภาพต่อไปในอนาคต

 

สมุทรปราการ-สมาคมกีฬาเอ็กซ์ตรีม ร่วมกับ MOONEYES SKATE PARK จัดแข่งขันกีฬาสเก็ต บอร์ดที่ยิ่งใหญ่ในสมุทรปราการ นักกีฬาจากทั่วประเทศร่วมแข่งขัน

วันที่ (11 ม.ค. 68) ที่ผ่านมา เวลา 16.00 น. MOONEYES Skatepark และ สมาคมกีฬาเอ็กข์ตรีมจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกับ Triple SSS ทริปเปิลเอส และสมาคมกีฬาส่งเสริมกีฬาอาชีพจังหวัดสมุทรปราการ (PSAS) ที่มุ่งมั่นสร้างเวทีสำหรับนักกีฬาเอ็กซ์ตรีมไทย พร้อมผลักดันวงการกีฬาเอ็กซ์ตรีมในประเทศไทยให้ก้าวไกลสู่เวทีระดับโลก 

โดยการจัดการแข่งขันกีฬาเอ็กซ์ตรีมแบบทัวร์นาเมนต์ ที่มีชื่อว่า “SamutPrakan X League  ณ MOONEYES “SamutPrakan X League 2025 (SPX League)” ไฮไลต์สำคัญของ MOONGames 2025 การแข่งขันสเก็ตบอร์ด 8 รายการ ครอบคลุมทุกช่วงอายุ ตั้งแต่ 5-35 ปีขึ้นไป โดยมีนักกีฬาจากทั่วประเทศร่วมชิงเงินรางวัล รวมกว่า 100,000 บาท การแสดงดนตรีสุดมันส์จากวงฮิปฮอปชื่อดัง เช่น YBC, The Foolest และ Chonburi Flow ที่สร้างสีสันตลอดทั้งวัน การพบปะอินฟลูเอนเซอร์ในวงการสเก็ตบอร์ด และแขกพิเศษจาก MOONEYES Japan โซนกิจกรรมและโซนอาหาร-เครื่องดื่ม ที่พร้อมต้อนรับผู้เข้าร่วมงานทุกเพศทุกวัย 

โดยได้รับเกียรติ จากนายสมศักดิ์ แก้วเสนา ปลัดจังหวัดสมุทรปราการ คุณจรรยารักษ์ สาธิตกิจ ผู้อำนวยการท่องเที่ยวและการกีฬาจังหวัดสมุทรปราการ ว่าที่ร้อยตรี ชัชวรรธณ์ นุชลำยอง ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดสมุทรปราการ Special Guest ผู้ทรงเกียรติ จาก MOONEYES japan นายจักรพันธ์ รุ่งสุขเจริญ นายกสมาคมกีฬาเอ็กซ์ตรีมจังหวัดสมุทรปราการ คุณฝ้าย นิตยา สุพัฒน์เดชากุล นายกสมาคมกีฬาส่งเสริมกีฬาอาชีพจังหวัดสมุทรปราการ (PSAS) มาร่วมเป็นในพิธีเปิดงาน

SPX League: การสร้างอนาคตใหม่ของกีฬาเอ็กซ์ตรีมไทย SPX League ได้สร้างลีกการแข่งขันที่มีมาตรฐานระดับสากล โดยจะจัดการแข่งขันในปี 2568 ทั้งหมด 3 สนาม เพื่อเก็บคะแนน สะสมและส่งเสริมนักกีฬาให้ก้าวเข้าสู่การเล่นระดับอาชีพ เป้าหมายสำคัญของ SPX League ส่งเสริมเยาวชนไทยให้มีพื้นที่พัฒนาทักษะกีฬาเอ็กซ์ตรีม ยกระดับกีฬาเอ็กซ์ตรีมไทยให้ได้รับการยอมรับในเวทีสากล ผลักดันจังหวัดสมุทรปราการให้เป็นจุดหมายปลายทางด้านกีฬาและการท่องเที่ยวโอกาสสู่เวทีระดับชาติและนานาชาติ MOONEYES Skatepark BKK และ SESA ยังได้ร่วมกันคัดเลือกนักกีฬาไทยเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันในเวทีระดับชาติ 

เช่นกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 49 “จันท์เกมส์” ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2567 ณ จังหวัดจันทบุรี กีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 40 “ฉลามเยาวชลเกมส์” วันที่ 23 มีนาคม - 3 เมษายน 2568 ณ จังหวัดชลบุรี งานครั้งนี้พิสูจน์ถึงความสำเร็จในการส่งเสริมกีฬาเอ็กซ์ตรีมไทย ทั้งในด้านการสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชน การขยายความนิยมของกีฬาเอ็กซ์ตรีมในวงกว้าง และการพัฒนาความร่วมมือกับองค์กรเอกชน และสมาคมกีฬา ในจังหวัดสมุทรปราการ ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: MOONEYES Skatepark BKK , Triple SSS Skatepark และ SPX League แล้วมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันกีฬาเอ็กซ์ตรีมไทยไปด้วยกัน

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติยกระดับมาตรการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว มุ่งสร้างความเชื่อมั่น พร้อมรองรับสถานการณ์ในทุกมิติ 

จากกรณีที่นักท่องเที่ยวชาวจีนถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้ไปทำงานประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้ประเทศไทย เป็นทางผ่าน ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในความปลอดภัยและภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม 

วันนี้ (12 ม.ค. 68) พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปทท.ตร.) เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาลที่ให้ความสำคัญในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และยกระดับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในทุกมิติ เพื่อความเชื่อมั่นในการเดินทางมาเที่ยวในประเทศไทย โดยมุ่งหวังให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินการดังกล่าว

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้นำนโยบายรัฐบาลมาสู่การปฏิบัติ โดยได้จัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปทท.ตร. (Tourist Safety Operations Center : TSOC) โดยมี พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. เป็น ผอ.ศปทท.ตร. ขับเคลื่อนให้ตำรวจทุกกองบัญชาการทั่วประเทศ ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว ในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวได้อย่างเป็นระบบ 

ศปทท.ตร. พร้อมด้วยตำรวจท่องเที่ยว นำโดย พล.ต.ท.ศักดิ์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้ร่วมบูรณาการการปฏิบัติกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว ด้วยมาตรการที่รัดกุมในการดูแลรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจร โดยมีการเปิดตัวแอพพลิเคชั่น Thailand Tourist police เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถดาวน์โหลด ส่งข้อความ รูปภาพ และพิกัดสถานที่ เพื่อสอบถามข้อมูล แจ้งเหตุ และขอความช่วยเหลือได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เชื่อมโยงกับศูนย์รับแจ้งเหตุ 1155 ซึ่งมีบริการเจ้าหน้าที่ล่ามแปลภาษา 8 ภาษา ตลอด 24 ชั่วโมง ประสานการทำงานกับศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ในการรับแจ้งเหตุและร่วมกันระงับเหตุ ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว และสนับสนุนตำรวจท้องที่ในการแปลภาษาตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถโทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่ได้ทันที ช่วยให้การประสานงานระหว่างนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมบูรณาการการปฏิบัติกับสถานทูตที่มีที่ตั้งอยู่ในประเทศ หารือแลกเปลี่ยนยกระดับดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว และร่วมกันวางแผนแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่มีความสำคัญเร่งด่วน ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ และประสานข้อมูลเหตุข่าวสารที่ถูกต้อง รวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ เพื่อแก้ไขปัญหา และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนของประเทศตนเองได้รับทราบข้อเท็จจริง 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความพร้อมในการปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายต่างทุ่มเทและตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ ยกระดับความเชื่อมั่นในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว ด้วยมาตรการที่มีประสิทธิภาพ เสริมสร้างความปลอดภัย ฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยมระดับสากล

เชียงใหม่-งานวันเด็กแห่งชาติ กองบิน 41 ประจำปี 2568 

วันเสาร์ที่ (11 ม.ค. 68) นาวาอากาศเอก ปรธร จีนะวัฒน์ ผู้บังคับการกองบิน 41 มอบหมายให้ นาวาอากาศเอก จตุรงค์ รักสุภาพ รองผู้บังคับการกองบิน 41 ประธานในพิธีเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ กองบิน 41 ประจำปี 2568 โดยมี เสนาธิการกองบิน 41, หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองบิน 41, ชมรมแม่บ้านทหารอากาศ กองบิน 41, หน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานเอกชน รวมถึงวงดุริยางค์ จากโรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ ร่วมพิธีในครั้งนี้ ณ บริเวณลานจอดอากาศยาน ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41
     

ทั้งนี้ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 กองบิน 41 ได้เห็นความสำคัญของเด็กเป็นอนาคตของชาติจึงจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ นอกจากเพื่อสร้างความสนุกสนานให้กับเด็กแล้วยังเป็นการ เสริมสร้างจิตสำนึกในด้านความเสียสละ ความรัก ความสามัคคี ความมีระเบียบวินัย เพื่อเด็กจะได้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและพัฒนาชาติต่อไป

สำหรับกิจกรรมภายในงานต่างๆ  อาทิ การแสดงจากโรงเรียนขาลสุวรรณอนุสรณ์, การแสดงเครื่องบินบังคับวิทยุ RC, การแสดงมอเตอร์ไซค์จิ๋ว, การแสดงของท่าอากาศยานเชียงใหม่และวิทยุการบิน การแสดงภาคพื้น ได้แก่ การแสดงความสามารถของสุนัขทหาร และการแสดงยิงปืนฉับพลัน จากกองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน 41 การแสดงการยิงต่อสู้อากาศยาน รวมถึงการแสดงภาคอากาศ ได้แก่ การแสดงสมรรถนะของเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์แบบที่ 11 (EC-725) การแสดงสมรรถนะของเครื่องบิน AT-6TH การแสดงสมรรถนะของเครื่องบินขับไล่แบบที่ 19/ก (F-16) การแสดงการโจมตีทางอากาศ และการบินค้นหาและช่วยผู้ประสบภัยทางอากาศ อีกทั้งได้จัดให้มีการสัมผัสยุทโธปกรณ์ทางทหารอย่างใกล้ชิด และพบกับนักบินตัวจริง เส้นทางสู่ฝันอาชีพนักบิน ถ่ายรูปกับเครื่องบิน และยุทโธปกรณ์

นอกจากนี้ยังมีบูธต่างๆ จากหน่วยงานภาครัฐที่เข้ามาจัดกิจกรรมให้เด็กๆ ได้ร่วมสนุก อีกทั้งยังมีการเล่นกิจกรรม เล่นเกมส์ ตอบคำถาม ร้องเพลง และแจกของรางวัล ณ เวทีกลางงานวันเด็กจากพี่ๆข้าราชการและวงโยธวาทิตที่4 กองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน 41 ให้เด็กๆได้สนุกสนาน ได้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องบินที่ได้นำมาแสดงให้รับชม และที่สำคัญเพื่อสร้างความรู้ให้เด็กๆอีกด้วย

นภาพร/เชียงใหม่

สมุทรปราการ-คึกคัก!! พระครูแจ้ มอบความสุขรับวันเด็ก แจกเงินร่วม 1 ล้าน ให้เด็กกว่า 2,000 คน 

วัดบางพลีใหญ่กลาง หรือวัดพระนอน ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี สมุทรปราการ จัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 พร้อมทั้งแจกขนม นม สิ่งของต่างๆ และเงินให้กับเด็กๆ จำนวนกว่า 2,000 คน สร้างความคึกคักและรอยยิ้มให้แก่เด็กทุกคนที่มาร่วมในกิจกรรมครั้งนี้

วันที่ (11 ม.ค. 68) ที่ผ่านมา เวลา 08.30 น. ณ วัดบางพลีใหญ่กลาง ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง เป็นประธานจัดกิจกรรมวัดเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 อย่างยิ่งใหญ่มีของรางวัลมากมาย อาทิเช่น จักรยาน ชุดนักเรียน รองเท้า สมุด ดินสอ ขนม นม และอุปกรณ์ยาสามัญประจำบ้าน รวมถึงสิ่งของต่างๆ อีกมากมายที่นำมาแจกจ่ายให้กับเด็กทุกคนที่เดินทางมาร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ รวมถึงซุ้มอาหาร และไอศครีมจากผู้ใหญ่ใจดี

โดยในช่วงเช้าทางผู้ปกครองได้นำบุตรหลานเดินทางมาร่วมกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ที่ทางวัดบางพลีใหญ่กลางจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้นับว่ามีเด็กๆ เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก กว่า 2,000 คน ที่ต่างเดินทางมานั่งรอของรางวัลจากท่านพระครูแจ้ โดยวันเด็กแห่งชาติปีนี้ท่านพระครูแจ้ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ได้แจกเงินให้เด็กแรกเกิด ไปจนถึง 1 ขวบ คนละ 500 บาท เด็กเล็ก คนละ 200 บาท และเด็กโต คนละ 100 บาท

โดยมี นายสมศักดิ์ แก้วเสนา ปลัดจังหวัดสมุทรปราการ คณะไวยาวัจกร คณะกรรมการวัดบางพลีใหญ่กลาง คณะเจ้าหน้าที่ อบต.บางพลีใหญ่ รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี สภ.บางปู เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน

ศูนย์แพทย์ชุมชนวัดบางพลีใหญ่กลาง เจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรปราการ คณะครู ผู้ปกครอง นอกจากนี้ ท่านพระครูแจ้ยังได้เมตตามอบเงินสนับสนุนให้แก่หน่วยงานราชการเพื่อนำเงินไปพัฒนาองค์กรของตนเอง นับว่าวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 นี้ สร้างสีสันและรอยยิ้มให้แก่เด็กๆ ทุกคนที่เดินทางเข้าร่วมกิจกรรม กว่า 2,000 คน
คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top