Friday, 13 June 2025
TheStatesTimes

นทท. จีน แห่ยกเลิกทริปตรุษจีน เสียหายกว่า 5 พันลบ. หลังเกิดกระแส 'ไทยไม่ปลอดภัย' หวั่นเกิดผลกระทบระยะยาว

(10 ม.ค.68) ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ข่าวการหายตัวไปของ 'ซิงซิง' นักแสดงหนุ่มชาวจีน บริเวณชายแดนไทย-พม่า กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์จีน หลายคนตั้งข้อสงสัยถึงความปลอดภัยของการเดินทางมายังประเทศไทย โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงภัยจากขบวนการค้ามนุษย์

แม้ว่าหวังซิง นักแสดงชาวจีนที่ถูกช่วยเหลือจากการลักพาตัวในไทย จะกล่าวว่า “ไทยยังคงปลอดภัย” แต่เหตุการณ์นี้กลับสร้างความเสียหายต่อความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของประเทศไทยในสายตานักท่องเที่ยวจีนอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่นักท่องเที่ยวจีนถือเป็นตลาดสำคัญสำหรับการท่องเที่ยวไทย

สื่อจีนหลายแห่งรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ นักท่องเที่ยวจีนจำนวนมากได้ยกเลิกแผนการเดินทางมายังไทย โดยมีสาเหตุมาจากความกังวลเรื่องความปลอดภัยและความไม่มั่นใจในมาตรการป้องกันของไทย ส่งผลให้ยอดจองโรงแรมในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต และเชียงใหม่ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

บริษัทนำเที่ยวหลายแห่งรายงานว่ายอดการยกเลิกแพ็กเกจท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่า 30% ภายในสัปดาห์เดียว รวมถึงสายการบินที่ให้บริการเส้นทางระหว่างไทยและจีนอาจต้องปรับลดเที่ยวบินลง

จากการประเมินเบื้องต้นของสื่อจีน เหตุการณ์นี้อาจสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในช่วงตรุษจีนมากถึง 5,000 ล้านบาท และยังอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวจีนในระยะยาว ซึ่งเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้หลักให้การท่องเที่ยวไทย

ความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของไทยไม่ได้เกิดจากเหตุการณ์นี้เพียงอย่างเดียว แต่ยังได้รับผลกระทบจากสื่อและภาพยนตร์จีน เช่น No More Bets และ Lost in the Stars ซึ่งเล่าถึงการลักพาตัวและกลโกงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภาพยนตร์เหล่านี้ทำให้ไทยและประเทศเพื่อนบ้านถูกมองในแง่ลบในสายตาชาวจีน และกรณีหวังซิงยิ่งตอกย้ำความกังวลที่เคยถูกมองว่าเป็นเรื่องสมมติ

ต้นตำรับไก่ทอดเกาหลี เปิดสาขาแรกสยามสเคป ราคาน่าคบ เจาะกลุ่ม Gen Y-Z ตั้งเป้า 3 ปีขยาย 20 สาขา

(10 ม.ค.68) ร้านไก่ทอดเกาหลีชื่อดัง Pelicana (เพลิคาน่า) ต้นตำหรับไก่ทอดเกาหลีที่เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 1982 จากเมืองแกยอง ที่มีกว่า 3,000 สาขาทั่วโลก บุกเปิดร้านแรกที่สยามสแควร์ หวังชิงส่วนแบ่ง 2.5% ของร้านอาหารประเภทไก่ทอดในประเทศไทยซึ่งมีมูลค่าตลาดประมาณ 30,000 ล้านบาทต่อปีและมีอัตราการเติบโต 8% ต่อปี

นาย อรรถวุฒิ นิธิกอบกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท เพลิคาน่า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ร้านไก่ทอด เพลิคาน่า เป็น 1 ในร้านไก่ทอดร้านแรก ๆ ของประเทศเกาหลีที่เปิดบริการมากกว่า 40 ปี และได้รับการยกย่องให้เป็น King of Chicken ของเกาหลี และได้ขยายธุรกิจไปทั่วโลกกว่า 3,000 สาขาในเกาหลี สหรัฐอเมริกา แคนาดา อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ไต้หวัน มาเลเซีย และจีน โดยบริษัท เพลิคาน่า (ประเทศไทย) จำกัด ได้เซ็นสัญญาเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในประเทศไทยเพียงผู้เดียว โดยได้เปิดสาขาแรกที่ชั้น 3 อาคาร สยาม สเคปใจกลางสยามสแควร์  และเตรียมจะขยายสาขาเพิ่มเป็น 5 สาขาในปีนี้ และขยายเป็น 10 สาขาในปีหน้า และ 20 สาขาในปีถัดไป บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปีนี้ประมาณ 100 ล้านบาท และตั้งเป้าธุรกิจใน 3 ปี จะมีรายได้รวมประมาณ 500 ล้านบาท 

นาย อรรถวุฒิ ยังเผยอีกว่า สำหรับสาขาแรกที่สยามสเคปจะเจาะกลุ่มนักเรียนนักศึกษาเป็นหลัก ซึ่งผู้ปกครองมีกำลังซื้อสูง ขณะที่ในการขยายสาขาอื่น ๆ จะมีคอนเซปต์การตกแต่งร้านที่แตกต่างกันออกไป โดยอาจจะมีการเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบางสาขาที่อยู่ในแหล่งคนทำงาน เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และลูกค้าในแต่ละกลุ่ม

“จุดเด่นของร้านไก่ทอดเพลิคาน่า คือ คุณภาพอาหารระดับพรีเมียม รสชาติเหมือนที่เกาหลี ในราคาที่คุ้มค่า เริ่มต้นที่ 99 บาท โดยมีจุดเด่นคือ ทอดไก่ทีละจาน ไก่คุณภาพสูง วัตถุดิบนำเข้าจากเกาหลีทั้งหมด ทานที่ร้านเหมือนไปทานที่เกาหลี ใช้แป้งเครื่องปรุงหมักไก่ 24 ชั่วโมง เปลี่ยนน้ำมันทอดใหม่ทุกวัน และมีไก่ทอดให้เลือกถึง 10 รสชาติ อาทิ ซอสซิกเนเจอร์ ซอสน้ำผึ้ง ซอสสโมกกี้ฮ็อต ซอสกังจอง ซอสเผ็ด ซอสสโมกกี้มาโย ซอสเผ็ดมาโย ซอสกระเทียม ซอสถั่วเหลือง และโรยผงชีส โดย อาหารจะทำทีละออเดอร์ เพื่อความสดใหม่ และใช้ซอสและวัตถุดิบนำเข้าโดยตรงจากเกาหลี นอกจากนี้ ยังมีอาหารเกาหลียอดนิยม อาทิ เบอร์เกอร์ไก่ทอด ซุปกิมจิ ข้าวผัดกิมจิ ต๊อกบกกี ชีสบอล เป็นต้น” 

นางสาวอารดา นิธิกอบกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) บริษัท เพลิคาน่า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "เราได้พัฒนาเมนูพิเศษเฉพาะในประเทศไทย คือ ข้าวมันไก่ทอดเกาหลี เป็นเจ้าแรกในไทย โดยเราจะเสิร์ฟ ไก่ทอดเกาหลี พร้อมกับข้าวมันหอมมะลิของไทย ในราคา 139 บาท พร้อมเซตน้ำรีฟิล ซึ่งคาดว่าลูกค้าจะให้การตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากกระแสความนิยมข้าวมันไก่และไก่ทอดระดับพรีเมียม ได้เพิ่มขึ้นอย่างสูงและคาดว่าจะเป็นเซกเมนต์ใหม่ที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมและพรีเมียมแมส นอกจากนี้ เรายังได้พัฒนา ขนมปังบัน สูตรพิเศษจากญี่ปุ่น ใช้แป้งขนมปังจากญี่ปุ่น สำหรับเบอร์เกอร์ไก่ทอด ทำให้ บันของเรามีความนุ่มนวล เหนียว เป็นพิเศษ เพิ่มความอร่อยให้ไก่ทอด แบบไม่เหมือนใคร ในราคา 169 บาท มาพร้อมเซตน้ำรีฟิลและเฟรนช์ฟรายส์"

นายอทิต ปัญทเศรษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด (CMO) บริษัท เพลิคาน่า ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ใน 2 ปีนี้ บริษัทฯมีแผนที่เจาะตลาดหลักในกรุงเทพมหานคร ในศูนย์การค้าชั้นนำต่าง ๆ เพื่อรองรับ กลุ่มลูกค้าหลักในกลุ่ม Gen Y ช่วงต้นๆ กลุ่ม First Jobber และคนทำงานรุ่นใหม่อายุ 22-30 ปี และ Gen Z คือ นักเรียนมัธยมและนักศึกษามหาวิทยาลัย รวมถึงแฟนคลับของซีรีส์เกาหลี แฟนคลับศิลปิน K-Pop ทุกเพศทุกวัย นอกจากนี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวเอเชีย ที่มีกำลังซื้อเป็นลูกค้าเป้าหมายด้วยเช่นกัน โดยภายในปี 2568 เราตั้งเป้าขยาย 5 สาขาพร้อมตั้งเป้ายอดขาย 100 ล้านบาทในปีนี้ นอกจากนี้ เราเตรียมเปิดบริการ Delivery ผ่านทาง Platform ยอดนิยมคือ Grab, Lineman, Robinhood  เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในกรุงเทพมหานครและมีแผนจะขยาย CLOUD Kitchen เพื่อขยายพื้นที่การให้บริการได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

“เราเตรียมแผนการตลาดและการสร้างแบรนด์ Pelicana โดยใช้กลยุทธ์การสร้างแบรนด์แบบ Word-of- Mouth ด้วย Social Media, Viral Marketing & PR เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่ม พร้อมกับการใช้มาสคอต ARI เพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับแบรนด์ นอกจากนี้บริษัทยังได้เตรียม Event และ Life Stlye Marketing เพื่อสร้างการรับรู้ในกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศด้วย"

นายอทิต ปัญทเศรษฐ์ ยังอธิบายว่า ที่มาของชื่อ Pelicana มาจากการผสมคำระหว่างคำว่า นก Pelican ที่มักมีนิสัยคาบอาหารใส่ในอุ้งปากกลับไปให้ลูกกิน กับคำว่า American ซึ่งที่มาความนิยมไก่ทอดในเกาหลีเริ่มต้นหลังยุคสงครามเกาหลีที่ทหารอเมริกันนำเมนูไก่ทอดเข้ามาในเกาหลีจนเป็นที่แพร่หลาย

ด้านนายมาคัส ลี ผู้บริหารจาก Pelicana Korea กล่าวเสริมว่า Pelicana Fried Chicken เป็น 1 ในผู้บุกเบิกร้านไก่ทอดเกาหลี เมื่อ 42 ปีก่อน และได้รับความนิยมอย่างสูง โดยมีทั้งหมดกว่า 3,000  สาขาทั่วโลก โดยมีถึง 1,245 สาขาในประเทศเกาหลี นอกจากนี้ยังได้ขยายแฟรนไชส์ไปยัง 16 ประเทศที่สำคัญทั่วโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา แคนาดา อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ไต้หวัน มาเลเซีย และจีน โดยไทยเป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมร้านอาหารขนาดใหญ่ มูลค่าสูงและเติบโตทุกปี เนื่องจากคนไทย ชอบทานอาหารนอกบ้านและมีธุรกิจ Food Delivery ที่มีคุณภาพและเติบโตสูง ขณะเดียวกัน ไทยเป็นตลาดที่มีความท้าทาย เนื่องจากมีการแข่งขันสูง มีแบรนด์ไทย และแบรนด์สากลจากประเทศชั้นนำทั่วโลก มาเปิดสาขาในกรุงเทพ จำนวนมาก อย่างไรก็ดี เรามีความมั่นใจในศักยภาพ และแผนธุรกิจ และ การตลาดของ บริษัท เพลิคาน่า (ประเทศไทย) ว่าจะสามารถ ทำให้ร้านเพลิคาน่า ประสบความสำเร็จในประเทศไทยได้ และทางบริษัทฯแม่ที่เกาหลีพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่” 

'เดชอิศม์-รมช.สธ.' นำประชุมสมาคมฌาปนกิจฯ อสม. เดินหน้า 'รวมพลัง อสม.เป็นหนึ่งเดียว'

นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในการประชุมสมาคม ฌกส. อสม. แห่งประเทศไทย (สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านแห่งประเทศไทย) พร้อมกันนี้ได้ อวยพรปีใหม่ ให้กำลังใจ คณะกรรมการ โดยมีผู้บริหารสมาคมฯ ประธาน อสม.แต่ละจังหวัดและผู้แทน ร่วมพบปะพูดคุย จากนั้นได้เข้าตรวจเยี่ยมสถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมือง จ.นนทบุรี โดยมีนายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย พร้อมด้วยนายแพทย์ชลพันธ์ ปิยถาวรอนันต์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมือง ให้การต้อนรับ ที่ทำการ สมาคม ฌกส.อสม.แห่งประเทศไทย สถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมือง นนทบุรี (6 ม.ค.2568)

'เฉลิมชัย' บินตรวจทุ่งใหญ่นเรศวร วอน ทุกฝ่ายเฝ้าระวังไฟป่า สร้างความเข้าใจให้ 'ชุมชน คน ป่า อยู่ร่วมกันได้'

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) พร้อมคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโครงการพัฒนาชุมชนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติ จ.กาญจนบุรี ภายใต้มูลนิธิภูบดินทร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ ศูนย์ประสานงานโครงการฯ บ้านสาละวะ หมู่ที่ 4 ต.ไร่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นแบบในการพัฒนาความเป็นอยู่ให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ติดชายแดนเมียนมาร์ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีการจัดทำ MOU การใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตป่าร่วมกันระหว่างชุมชน กับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อให้เกิดการดูแลรักษาป่าร่วมกัน และมีการกำหนดการถือครองที่ดินที่ชัดเจนรายละ 20 ไร่ พร้อมทั้งจัดทำแปลงสาธิตเพื่อการพัฒนาอาชีพ และพื้นที่ส่วนร่วมเพื่อการใช้ประโยชน์ร่วมกันในชุมชน พร้อมกันนี้ รมว.ทส. ยังได้ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยพิทักษ์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก และมอบถุงยังชีพให้กับเจ้าหน้าที่

ในระหว่างเส้นทางการตรวจเยี่ยม ดร.เฉลิมชัย ยังได้แวะเยี่ยมนักเรียนและครู โรงเรียนกองม่องทะ สาขาบ้านสาละวะ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านทิไล่ป้า และโรงเรียนบ้านหินตั้ง พร้อมมอบอุปกรณ์กีฬาให้แก่นักเรียน เพื่อเป็นของขวัญเนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ  จากนั้น รมว.ทส. ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากร ฯ บินสำรวจสภาพป่าในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก และสังเกตการณ์สถานการณ์การเฝ้าระวังไฟป่า และหมอกควันที่เข้าสู่ช่วงฤดูแล้ง ซึ่งต้องมีการเฝ้าระวังป้องกันไฟป่า รวมถึงการป้องกันการเผาในที่โล่งในทุกพื้นที่อย่างเข้มข้น

ดร.เฉลิมชัย กล่าวว่า การมาลงพื้นที่ในครั้งนี้ นอกจากมาสร้างขวัญกำลังให้กับเจ้าหน้าผู้ปฏิบัติงานถึงในพื้นที่แล้ว ยังเป็นการมาดูสภาพพื้นที่การทำงานจริงเพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย “ชุมชน คน ป่า อยู่ร่วมกันได้“ พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการบูรณาการความร่วมมือช่วยกันเฝ้าระวังป้องกันไฟป่า เพราะเมื่อรัฐบาลให้ความสำคัญสนับสนุนงบประมาณในการแก้ไขปัญหาให้กับทุกหน่วยงานแล้ว เราต้องช่วยกัน โดยเฉพาะ ทส. ในฐานะหน่วยงานของรัฐ ต้องเป็นหลักในการเข้าไปพูดคุยสร้างความเข้าใจและความร่วมมือร่วมกับทุกฝ่าย ปัญหาไฟป่าแม้จะแก้ยาก แต่ถ้าหากทุกฝ่ายร่วมมือกันเชื่อว่าจะสามารถผ่านไปได้อย่างเห็นผลในเชิงประจักษ์

‘ลิซ่า ลลิษา’ แต่งชุดไทยเที่ยวอยุธยาช่วงปีใหม่ คาดแฟนคลับแห่ตามรอย ทำกรุงเก่าแตก (อีกครั้ง)

(10 ม.ค.68) มรดกโลกเมืองกรุงเก่าเตรียมแตกอีกครั้ง หลัง ‘ลิซ่า ลลิษา’ โพสต์ IG แต่งชุดไทย เที่ยวโบราณสถานในอยุธยาช่วงปีใหม่ (2 ม.ค.68) ที่ผ่านมา

โดยเพจ อยุธยา-AyutthayaSatation ได้โพสต์ภาพ 'ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล' ศิลปินสาวชาวไทยชื่อก้องโลก สวมชุดผ้าไทย เที่ยวสบาย ๆ ในโบราณสถานและเรือนไทยแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมระบุข้อความว่า

"กรี๊ดดด น้องลิซ่าลง ig แล้ว #วัดมหาธาตุ #อยุธยา กรุงศรีเกียมแตกอีกครา CR : ig lalalalisa_m

ปล.น้องมาเมื่อ 2 ม.ค.68 นะคะ

ด้านเพจ หนูน้อยบนยอดเขาอันหนาวเหน็บ ก็ได้ระบุว่า ลิซ่าได้สวมชุดผ้าไทยจากร้านของเดียร์น่าใส่ไปทำบุญที่อยุธยา ดังนี้

'ลิซ่า' ลลิษา มโนบาล ทำบุญที่วัดในอยุธยา พร้อมใส่ชุดผ้าทอจากร้านชานเรือนนาข่า ของพี่สาวคนสวย ”เดียร์น่า ฟลีโป“

#สาว ๆ เกียมตามรอยค่ะ ♥️🇹🇭♥️🇹🇭♥️

ญี่ปุ่นเจอไข้หวัดใหญ่ระบาดหนัก ป่วยทะลุ 300,000 ราย สูงสุดรอบ 25 ปี

(10 ม.ค.68) ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ญี่ปุ่นประสบกับการระบาดของไข้หวัดใหญ่ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 25 ปีที่ผ่านมา โดยเป็นการระบาดที่สูงที่สุดนับตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลเทียบเคียงกันตามรายงานจากหน่วยงานสาธารณสุขเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

การวิเคราะห์ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น ที่เก็บจากคลินิกการแพทย์กว่า 5,000 แห่ง แสดงให้เห็นว่าในช่วงระหว่างวันที่ 23-29 ธันวาคม มีผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ถึง 317,812 คน

ตัวเลขนี้สูงกว่าสามเท่าของ 104,612 คนที่พบในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2023 และเป็นจำนวนสูงสุดในรอบสัปดาห์ตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกข้อมูลในปี 1999 กระทรวงฯ กล่าว

การระบาดของไข้หวัดใหญ่มักจะเพิ่มขึ้นในฤดูหนาวในญี่ปุ่นและในประเทศอื่น ๆ แต่บางประเทศได้เห็นการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยอย่างรวดเร็วในช่วงหลัง รวมถึงฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร

ออสเตรเลียรายงานว่ามีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ที่ได้รับการยืนยันจากห้องปฏิบัติการมากกว่า 350,000 คนในปีที่แล้ว ซึ่งมากกว่าค่าสูงสุดเดิมที่ 313,615 คนในปี 2019 ตามข้อมูลจากระบบเฝ้าระวังโรคของประเทศนั้น

‘Freeze/Stop and don't move’ คำสั่งเรียบง่ายแต่เด็ดขาด ของตำรวจสหรัฐฯ

จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้เดินทางไปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ได้พบเห็นนักท่องเที่ยวชายชาวญี่ปุ่นกำลังจะปล่อยโคมซึ่งอาจลอยไปตกใส่บ้านเรือนอาคารร้านค้าทำให้เกิดเพลิงไหม้สร้างความเดือดร้อนได้ จึงได้เข้าไปพูดคุยห้ามปราม แต่นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวไม่ยอมฟังและโต้เถียงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั่งมีการดึงคอเสื้อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกลายเป็นคลิปเผยแพร่ไปทั่ว (https://www.facebook.com/reel/1000054821913998) โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าวไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใดจึงไม่ได้ดำเนินคดี เพราะไม่ต้องการให้เป็นภาพจำที่ไม่ประทับใจของนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ในเทศกาลปีใหม่ 

สมมติว่า กรณีนี้เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวชาวไทยไปกระทำการเช่นนี้ในประเทศญี่ปุ่นแล้วอะไรจะเกิดขึ้น ตำรวจญี่ปุ่นจะยอมรับคำขอโทษ เลิกแล้วต่อกันและไม่ดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวไทยรายนั้นหรือไม่? เช่นเดียวกับหากกรณีที่เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่แล้วนักท่องเที่ยวรายนี้เป็นชาวไทยแล้วจะได้รับการเว้นโทษ ไม่ได้ติดใจเอาความและไม่ดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา ในหมวด 1 ความผิดต่อเจ้าพนักงาน (มาตรา 136 - 146) มาตราใดมาตราหนึ่งหรือไม่? เหตุการณ์นี้ชวนให้นึกถึงคำว่า ‘Freeze/Stop and don't move’ ซึ่งมีความหมายว่า ‘หยุด...อย่าขยับ’ ปรากฏทั้งในภาพยนตร์และชีวิตจริงโดยเป็นคำสั่งของตำรวจอเมริกันให้ผู้ต้องสงสัยต้องหยุดอยู่นิ่งระหว่างการตรวจค้นหรือจับกุม 

คำว่า ‘Freeze’ นอกจากจะเป็นคำสั่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ผู้ต้องสงสัยหยุดนิ่งแล้ว อีกความหมายหนึ่งที่ใช้ในแวดวงของกฎหมายคือ การยึดอายัดทรัพย์สินต่าง ๆ ตามอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายด้วย ทุกประเทศบนโลกใบนี้ถือว่า การขัดขืนการจับกุมหรือแม้แต่ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ดังนั้นคำว่า ‘Freeze/Stop and don't move’ หรือ ‘หยุด...อย่าขยับ’ จึงเป็นคำสั่งที่ชัดเจน เรียบง่าย และเข้าใจได้ง่าย บ่อยครั้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ มีการใช้อาวุธปืนกับผู้ต้องสงสัยเมื่อสั่งให้ผู้ต้องสงสัยหยุดแล้วไม่ปฏิบัติตาม แม้ว่าผู้ต้องสงสัยรายนั้นจะไม่มีอาวุธปืนก็ตาม  เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงผู้ต้องสงสัยรายนั้นจนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ยิงจะไม่มีความผิดแต่อย่างใด โดยถือเป็นการป้องกันตัวที่สมควรแก่เหตุ 

ดังนั้นคำว่า "ตำรวจ! หยุด อย่าขยับ!" (Police! ‘Freeze/Stop and don't move’) จึงเป็นคำสั่งที่ประชาชนพลเมืองอเมริกันต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด แม้บางคนจะปฏิบัติตาม หรือบางคนไม่ยอมปฏิบัติตาม แต่เป็นที่รู้โดยทั่วไปว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจอเมริกันได้รับอนุญาตและได้รับการฝึกอบรมให้ใช้กำลังทุกรูปแบบที่จำเป็นเพื่อบังคับให้ผู้ต้องสงสัยทุกคนปฏิบัติตามคำสั่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อเป็นการป้องกันภัยอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นต่อตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจเองหรือประชาชนพลเมืองคนอื่น ๆ รวมถึงการใช้กำลังถึงชีวิต (ซึ่งคนอเมริกันบางส่วนไม่ได้ตระหนักถึง) 

ดังนั้น วิธีการปฏิบัติที่ดีที่สุดของสุจริตชนอเมริกันคือ การปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเคร่งครัดในทันที โดยปิดปากเงียบ ไม่โต้เถียง หรือขัดขืน และเชื่อฟังทันที หากให้ความร่วมมือ และถามคำถามหลังจากที่เจ้าหน้าที่พูดจบแล้ว ต้องยึดหลักที่ว่า "ปฏิบัติตามตอนนี้ เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง"  ปิดปากและเชื่อฟังทันที หากคุณให้ความร่วมมือ อย่าขัดขืน และถามคำถามหลังจากที่เจ้าหน้าที่พูดจบแล้วแม้จะมีช่องว่างมากมายที่นำไปสู่การปฏิบัติที่ผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งสามารถนำไปใช้ในการพูดคุยเจรจาได้ “จงอย่าได้ชนะคดีในศาล แต่เป็นเพียงคนที่ตายไปแล้ว”

อันที่จริงแล้วกระบวนการยุติธรรมของบ้านเรานั้นมีปัญหาอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่กรมราชทัณฑ์สามารถลดโทษระยะเวลาการจำคุกนักโทษเด็ดขาดที่ศาลตัดสินแล้วลงได้อย่างมากมาย หรือกรณีอาชญากรต่างชาติที่หลบหนีมาบ้านเราแล้วทางการประเทศนั้น ๆ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยจับกุมตัว ซึ่งเมื่อจับกุมตัวได้แล้วสำนักงานตำรวจแห่งชาติมักจะใช้วิธีการยกเลิกวีซ่าแล้วผลักดัน/เนรเทศบุคคลผู้นั้นออกไปนอกราชอาณาจักรภายใต้การควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ของประเทศที่ร้องขอทันที ไม่ต้องผ่านการพิจารณาของศาลไทยว่าเข้าเงื่อนไขการส่งผู้ร้ามข้ามแดนตามข้อตกลงกับประเทศนั้น ๆ หรือไม่ ในขณะที่อาชญากรที่กระทำความผิดในไทยแล้วหลบหนีไปยังต่างประเทศแล้ว มักไม่ได้รับความร่วมมือในการปฏิบัติเช่นการปฏิบัติของฝ่ายไทยเลย

ดังเช่นกรณีของนายราเกซ สักเสนา ซึ่งถูกดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชยการ เป็นเงิน 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อปี พ.ศ. 2539 แล้วหลบหนีไปอาศัยอยู่ในประเทศแคนาดา แม้ว่าทางการไทยจะออกหมายจับตั้งแต่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2539 และนายราเกรซถูกจับกุมโดยกองตำรวจม้าหลวงแห่งแคนาดา เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2539 แต่กว่าที่นายราเกรซจะถูกศาลแคนาดาตัดสินให้ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนต้องใช้เวลาถึง 12 ปี จึงได้ตัวนายราเกรซมาดำเนินคดี กรณีเหล่านี้จึงเป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องนำมาดำเนินการปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้เกิดความถูกต้อง เหมาะสม ยุติธรรม และเท่าเทียม ในการบังคับใช้กฎหมายโดยเร็ว

ฟุตบอลเด็กไทย จะไปทางไหน? เมื่อพ่อแม่ -โค้ชหวังแค่ผลลัพธ์ แต่ไม่สนใจผลที่จะได้รับ

เมื่อไม่นานมานี้ผมได้มีโอกาสไปร่วมงานมหกรรมการแข่งขันกีฬาของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ของสถาบันการศึกษารวมกว่า 10 สถาบัน โดยเจ้าภาพในปีนี้เป็นสถาบันที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ นัก ผมไปในฐานะของผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตบอลระดับประถมศึกษาตอนต้น เนื่องด้วยตัวเองคลุกคลีกับฟุตบอลเด็กมาในระดับหนึ่ง แม้จะไม่ยาวนานนัก แต่ด้วยความเป็นนักกีฬา และทำโครงการกีฬามามากทำให้สามารถดูแลได้ประมาณหนึ่ง 

ในมุมของฟุตบอลเด็ก ก่อนหน้ามหกรรมกีฬาในครั้งนี้ ด้วยความที่เป็นคนทำโครงการกีฬา และกำลังดำเนินการจัดตั้งอคาเดมี่ฟุตบอลสำหรับพัฒนาเด็กอายุ 6-12 ปี ผมจึงมีข้อมูลจำนวนมากที่เกี่ยวกับ รูปแบบการสอน กฎกติกา ความเหมาะสมของช่วงวัย พัฒนาการของช่วงวัยตามหลักวิทยาศาสตร์การกีฬา พร้อมด้วยความร่วมมือจากผู้ฝึกสอนที่มีใบอนุญาตฝึกสอนในระดับต่าง ๆ หลายท่าน อีกทั้งรายชื่ออคาเดมี่ที่ลงทะเบียนไว้กับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จำนวนกว่า 600 รายชื่อ ก่อนจะไปเรื่องอื่น ๆ เรื่องตรงนี้ผมเกิดคำถามขึ้นมาที่น่าสนใจขึ้นมาอย่างหนึ่งคือ รายชื่ออคาเดมี่ที่มีอยู่ มีกี่อคาเดมี่ที่มีสนามฝึกซ้อมเป็นของตนเองจริง ๆ (ไม่ว่าจะเช่าหรือเป็นเจ้าของเอง) เพราะในบางอคาเดมี่ตามรายชื่อไม่มีสนามฝึกซ้อม มีแค่ตัวโค้ชกับทีมงาน อันนี้ก็แปลกดี 

อีก 1 คำถามที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ อคาเดมี่ที่เปิดกันอยู่ในประเทศไทยมีอีกกี่อคาเดมี่ที่ไม่ลงทะเบียนกับสมาคม ฯ จากการประเมินผมตอบคำถามได้เลยว่าน่าจะมีหลักพัน เพราะอะไร ? ก็เพราะในสนามฟุตบอลเช่าจะมีโค้ชที่สอนประจำอยู่ โดยไม่ได้อ้างอิงระบบอคาเดมี่ แต่ใช้สถานที่เป็นตัวตั้งและจับโค้ชใส่เข้าไป ซึ่งก็มีการฝึกสอนเด็ก ๆ อยู่จำนวนมาก และแน่นอนเป็นการเสียเงินเพื่อเรียนฟุตบอล 

ด้วยระบบที่ดีของสมาคม ฯ ตามที่ผมได้เข้าไปศึกษา ผมยินดีมาก ๆ ที่เราได้เดินทางมาอย่างมีเป้าหมายชัดเจน และต้องการให้การสร้างรากฐานฟุตบอลเด็กได้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมโดยการจับมือกับ FIFA แล้วสร้างโปรแกรมให้เด็ก ๆ ได้เล่นฟุตบอลอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งดีมาก ๆ แต่ทว่า วันนี้การพัฒนารูปแบบนี้กลับกำลังถูกเมินเฉย และค่อยๆ ถูกเซาะกร่อนด้วยการหวังผลลัพธ์แห่งชัยชนะที่เร็วเกินวัยจาก พ่อ แม่ ผู้ปกครอง และอคาเดมี่ (หรือโค้ช) บางส่วน ประกอบกับอีกปัจจัยสำคัญก็คือการจัดการแข่งขันฟุตบอลเด็กที่เกิดขึ้นอย่างถี่ยิบในปัจจุบัน ทำให้ความหวังผลเลิศอันเกิดขึ้นจากการเสพติดชัยชนะบ่มเพาะให้เกิดการสอนฟุตบอลเกินวัย เทคนิคเกินเด็ก และการเล่นอันตรายถูกนำมาสอนมากขึ้น  

กลับมาที่การแข่งขันกีฬาที่ผมไปเข้าร่วมดีกว่า เพราะน่าจะเป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนขึ้น เนื่องจากการแข่งขันในครั้งนี้บนหน้าอกของเด็ก ๆ คือสถาบันการศึกษา ความเป็นมาตรฐานจึงเป็นสิ่งสำคัญ และแน่นอนการแข่งขันเพื่อชัยชนะก็เข้มข้น ซึ่งก็จริงดังคาด การแข่งขันเป็นไปอย่างจริงจัง แต่ความจริงจังนั้นเป็นไปอย่างน่าชื่นใจ เพราะทีมฟุตบอลเด็กจำนวนมากเล่นกันเป็นระบบ มีความสามารถเฉพาะตัวที่เก่งกาจ แสดงให้เห็นเด่นชัดถึงความตั้งใจของตัวเด็ก และการฝึกสอนที่มีคุณภาพ ไม่แปลกใจที่ทีมชนะเลิศจะได้เพราะเขาสามารถรวมเอาระบบ และความสามารถของเด็กมาไว้ด้วยกันได้ แต่ความน่าสนใจไม่ได้อยู่ที่ทีมชนะเลิศครับ มันอยู่ที่ทีมเด็กทีมหนึ่งซึ่งใช้ทักษะเกินวัย และเป็นเทคนิคเสี่ยงบาดเจ็บ

ปกติเด็กในวัยประถมศึกษาคือช่วงประมาณอายุ 6 – 12 ปี นั้นทักษะหนึ่งที่มักจะห้ามใช้กันก็คือการ 'สไลด์บอล' ทำไม ? ถึงห้าม เราลองมานึกตามกันนะครับ การสไลด์บอลคือการป้องกันที่ถือว่าอันตรายในระดับหนึ่ง แม้จะเป็นในระดับผู้ใหญ่ สำหรับเด็กเมื่อเด็กสไลด์ขาไปบนสนามหญ้าร่างกายจะมีส่วนของการสัมผัสพื้นค่อนข้างมาก ทั้งยังต้องใช้แรงบังคับทิศทางไปยังเป้าหมายคือลูกฟุตบอลที่อยู่กับเท้าของฝั่งตรงข้าม ซึ่งแน่นอนการบังคับผลให้เกิดไม่สามารถทำให้ใกล้เคียงกับนักฟุตบอลผู้ใหญ่แน่นอน ถ้าการสไลด์สำหรับนักฟุตบอลผู้ใหญ่มีผลสำเร็จอยู่ที่ 70 – 80 % โดยไม่ฟาวล์หรือบาดเจ็บ แล้วนักฟุตบอลเด็กคุณคิดว่ามันจะมีผลสำเร็จอยู่ที่เท่าไหร่ ? สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นมีอยู่หลายทาง ทางแรกคือโดนบอล ไม่โดนเท้าคู่แข่ง คู่แข่งกระโดดหลบได้ ป้องกันได้สำเร็จ ทางที่สองคือโดนบอล โดนเท้าคู่แข่ง คู่แข่งบาดเจ็บ จังหวะล้มคู่แข่งลงมาทับพอดี เสียฟาวล์ ทางที่สามคือไม่โดนบอล โดนเท้าคู่แข่ง คู่แข่งบาดเจ็บ เสียฟาวล์ ทางที่สี่ไม่โดนบอล ไม่โดนเท้าคู่แข่งแต่ “คู่แข่งกระโดดหลบแล้วลงมาทับหรือเหยียบ” คนสไลด์บาดเจ็บ ทางที่ห้าสไลด์แล้วไม่โดนอะไรเลย ป้องกันไม่ได้ และยังมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดอีกหลายทาง อีกทั้งการสไลด์ข้างหลัง ด้านข้าง ด้านหน้า และเปิดปุ่มสตั๊ด มันยังสามารถเกิดประเด็นได้อีกมากมาย คำถามคือกับเด็กอายุ 6 – 12 ปี ที่เราเรียกกันว่ายุวชน มีความคิดเผื่อไว้หลายชั้นสำหรับผลที่ต้องได้รับขนาดนั้นหรือไม่ ? คำตอบ 100% คือ “ไม่” 

ทำไม ? โค้ชในอคาเดมี่บางแห่งถึงได้สอนเด็ก ๆ สไลด์บอล ก็อาจจะตอบได้แบบสวย ๆ ว่า เพื่อให้เด็กได้รู้ถึงเทคนิคนี้ เพราะต่อให้ตนไม่สอนเด็ก ๆ เมื่อไปดูการแข่งขัน หรือดูใน YouTube ก็ต้องนำเอามาใช้แน่นอน คำตอบนี้ตอบได้ถูกต้อง แต่ไม่ถูกทั้งหมด เพราะถ้าสอนเข้าไปลึก ๆ การสไลด์มันมีขั้นตอนทางเทคนิคที่วัย 6 – 12 ปี ยังต้องเรียนรู้เพิ่มเติมอีก แต่ที่เด็กกล้านำมาใช้ ผมเชื่อว่าเพราะโค้ชผู้สอนไม่ได้เตือนถึงผลเสียหากนำไปใช้ เพราะโค้ชคำนึงถึงแต่ผลลัพธ์ที่จะตอบโจทย์ผู้ปกครอง มากกว่าผลที่จะได้รับ เด็กไม่ผิดหรอกครับที่นำมาใช้ แต่ผู้ใหญ่ที่สอนให้ใช้อย่างไม่มีความรับผิดชอบนั่นแหละคือคนผิดตัวจริง 

แต่สไลด์บอลไม่ใช่เพียงเทคนิคเดียวที่ถูกสอนให้นำมาใช้ การใช้ศอก ดึงเสื้อ เตะขา เหยียบเท้า เปิดปุ่ม เข้าเข่า ดึงขา คือภาพที่ผมเห็นมาจากทีมฟุตบอลระดับอคาเดมี่หลายแห่งที่หวังผลเป็นเลิศ เคยเห็นในการแข่งระดับมัธยมก็พอได้พบ แต่ไม่น่าเชื่อว่าผมจะได้เห็นจากทีมฟุตบอลโรงเรียนระดับประถมศึกษาตอนต้นในรายการมหกรรมกีฬาระดับประเทศ คำถามคือ “เกิดอะไรขึ้นกับการแข่งขันฟุตบอลเด็ก ?”  เราไม่ได้สอนให้เด็กแข็งแกร่งขึ้นจากการฝึกซ้อมแล้วหรือ เราไม่ได้สอนให้มีทักษะจากเรียนรู้แล้วหรือ เราไม่ได้สอนให้เขารู้จักเอาชนะคู่แข่งด้วยความสามารถแล้วหรือ 

คำตอบที่ผมตอบได้ประการเดียวก็คือ “ชัยชนะ” เพราะมันคือผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์พ่อ แม่ ผู้ปกครอง จำนวนหนึ่ง ที่คาดหวังจากการเรียนฟุตบอลในอคาเดมี่ของลูกตัวเอง ลูกฉันเรียนบอล ลูกฉันต้องชนะ ซึ่งโค้ชบางท่านก็ตอบสนองความต้องการนั้น ด้วยการสอนทุกอย่างที่เด็กในวัยเด็กเดียวกันเขาไม่สอน โดยเฉพาะตามระบบมาตรฐานของสมาคมฯ หรือ FIFA ถ้าลูกคุณสไลด์เอาบอลมาจากคู่แข่งได้อย่างสวยงาม คุณคงดีใจ แต่ถ้าลูกคุณสไลด์ไปเอาบอลโดยที่สร้างรอยแผลไว้ให้กับคู่แข่งล่ะ ลูกคุณไม่เจ็บแต่เด็กที่โดนสไลด์เจ็บ ผมได้ยินเด็กน้อยในทีมถามว่าทำไมเขาสไลด์ได้? ทำไมเขาสไลด์แล้วทำคนอื่นเจ็บได้?  ทำไมผมทำบ้างไม่ได้ ? เด็กที่โดนสไลด์บางคนไม่กล้าเล่นบอลหรือเอาบอลไว้กับเท้า ตามวัยที่เขาต้องเรียนรู้แล้ว เพียงเพราะเขากลัวการถูกสไลด์ กลับกันถ้าคนที่ถูกสไลด์ถูกตอบแทนด้วยการถูกเหยียบ การถูกทับจากคู่แข่งที่เอาศอกลงที่หน้า ที่อก ที่เบ้าตา จะเกิดอะไรขึ้น ? มันจะเป็นรอยแผลในใจของลูกคุณไหม ? อ่าน ๆ ไปแล้วดูมันจะโหดขึ้นเรื่อย ๆ แต่นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นจากการแข่งขันฟุตบอลเด็กครับ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันรายการแบบไหน ก็ไม่สมควรจะเกิด คุณว่าจริงไหม ? 

มาถึงตรงนี้ หากคุณได้ชมฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนครั้งล่าสุด คุณเห็นคู่แข่งของทีมชาติไทยไหมครับว่าเขาเข้าบอลกับเราแบบไหน ทัศนคติของเขาเป็นแบบไหน ย้อนกลับมาที่เรา พ่อ แม่ ผู้ปกครอง อยากให้โค้ชสอนลูกเราให้เป็นแบบนั้นหรือครับ สอนให้ทำร้าย ทำลาย คู่แข่งเพื่อชัยชนะ โดยไม่สนว่าในอนาคตของคู่แข่งจะเป็นอย่างไร ? ฟุตบอลไทยจะเป็นอย่างไร? ทั้ง ๆ ที่ฟุตบอลมันให้อะไรมากกว่ากว่าชัยชนะอีกตั้งมากมาย สิ่งที่ผมนำมาเล่าในตอนนี้คือภาพที่ผมเห็นมากับตาตัวเอง ขอให้เรากลับมาสนใจผลที่จะได้รับมากกว่าผลลัพธ์กันเถอะครับ ฟุตบอลไทยจะได้ไปต่ออย่างสวยงาม

อย่าให้เจอคำพูดที่ผมเจอจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ณ สนามแข่งขันว่า “ก็แค่เด็กมันเล่นบอลกัน จะอะไรนักหนา” อีกเลยครับ 

อิหร่านเลือก 'มักราน' ตั้งเมืองหลวงใหม่ หวังหนีปัญหาแออัด - ขยายเขตเศรษฐกิจ

(10 ม.ค.68) รัฐบาลอิหร่านประกาศย้ายเมืองหลวงจากกรุงเตหะรานไปยัง 'มักราน' หวังสร้างศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่และแก้ปัญหาหลายด้าน

รัฐบาลอิหร่านเปิดเผยว่าจะย้ายเมืองหลวงจากกรุงเตหะรานที่ดำรงตำแหน่งมาเป็นเวลากว่า 200 ปี ไปยังเมืองมักรานที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ โดยกล่าวว่าแผนการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เช่น ประชากรที่ล้นเกิน ขาดแคลนพลังงาน และปัญหาการขาดแคลนน้ำ

ตามคำกล่าวของรัฐบาล, เมืองมักรานมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางทางการค้าสำคัญและเส้นทางการเดินเรือที่สามารถช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถทางเศรษฐกิจของประเทศ และลดภาระทางเศรษฐกิจที่กรุงเตหะรานต้องเผชิญ

นอกจากนี้ เมืองมักรานยังมีข้อได้เปรียบในด้านภูมิศาสตร์เนื่องจากใกล้กับอ่าวโอมาน ซึ่งเป็นประโยชน์ทางกลยุทธ์ในเรื่องการค้าระหว่างประเทศ ในขณะที่รองประธานาธิบดี โมฮัมหมัด เรซา อารีฟ ยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาภูมิภาคอย่างมาก และยังถือว่าเมืองมักรานมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในช่วงสมัยจักรวรรดิอาเคเมนิดด้วย

แนวคิดการย้ายเมืองหลวงนี้เริ่มได้รับการพูดถึงตั้งแต่ปี 2000 และมีความพยายามในการดำเนินการมาตลอดหลายปี แต่ก็เงียบหายไปจนกระทั่งในสมัยของประธานาธิบดี มาซูด เปเซชเคียน ที่ได้รื้อฟื้นแนวคิดนี้ขึ้นอีกครั้ง โดยอ้างถึงความไม่สมดุลของการใช้ทรัพยากรในกรุงเตหะราน

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจนี้ไม่ได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่าย มีนักวิจารณ์บางคนที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายมหาศาลในการย้ายเมืองหลวง รวมถึงปัญหาทางด้านโลจิสติกส์ที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงนี้ ซึ่งอาจขัดแย้งกับสภาพเศรษฐกิจที่กำลังซบเซาของประเทศ

สตูล ทัพเรือภาค 3 จัดวันเด็กสุดอลังการ เนรมิตฮีโร่-เรือรบ สร้างฝันเด็ก 700 คน ชายฝั่งทะเลอันดามัน

สถานีเรือละงู ฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3 จัดงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2568 อย่างยิ่งใหญ่ โดยมี น.อ.แสนย์ไทย บัวเนียม รองผู้อำนวยการ ศรชล.จังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธี ภายใต้การดูแลของ น.ต.ปรัชญ์ ขำเจริญ หัวหน้าสถานีเรือละงูพร้อมด้วยนาวาโท ธนภูมิ ประทีป ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 452,เรือโท สุโภชน์ ทองย้อย รองผู้บังคับหน่วยหน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศและรักษาฝั่งที่ 452 และเจ้าหน้าที่จากทหารเรือ

บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความสนุกสนาน เมื่อทหารเรือแปลงกายเป็นฮีโร่ในตำนานเดินทั่วงาน ให้น้องๆนักเรียน  5 โรงเรียนชายฝั่งทะเล( โรงเรียนบ้านกาแบง , โรงเรียนบ้านบุโบย , โรงเรียนบ้านสวนกลาง ,โรงเรียนเพียงหลวง 4 ,ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลแหลมสน 3 ศูนย์)  700 คน ได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก พร้อมจัดแสดงยุทโธปกรณ์ทางทหารให้เด็กๆ ได้สัมผัสประสบการณ์จริง ทั้งการทดลองจับอาวุธ และทดลองยิงปืน ไฮไลท์สำคัญของงานคือการนำเรือ ต.114 มาจอดเทียบท่า เปิดโอกาสให้นักเรียนจากโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลได้ขึ้นชมยุทโธปกรณ์บนเรือ โดยมีทหารเรือเป็นมัคคุเทศก์พิเศษ นอกจากนี้ยังมีการสาธิตการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ สร้างความประทับใจให้เด็กๆ จนหลายคนเอ่ยปากอยากเป็นทหารเรือในอนาคต 

ภายในงานยังจัดให้มีการแสดงความสามารถของเด็กๆ ทั้งการร้องเพลงและการเต้นรำ พร้อมแจกของรางวัลมากมาย โดยทัพเรือภาคที่ 3 ได้จัดงานวันเด็กครอบคลุม 6 พื้นที่ตลอดชายฝั่งทะเลอันดามัน เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์เกี่ยวกับกองทัพเรือ อันจะเป็นแรงบันดาลใจในการเติบโตเป็นกำลังสำคัญของชาติต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top