Monday, 9 June 2025
TheStatesTimes

'อันวาร์' พบ 'ทักษิณ' แล้ว ขึ้นเรือยอร์ชคุยกลางทะเล ชมเปราะเป็น 'บิ๊กคอนเนคชั่นแห่งอาเซียน'

( 27 ธ.ค.67) นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม โพสต์ภาพพร้อมข้อความในการพบปะกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ในฐานะที่แต่งตั้งให้รับหน้าที่ที่ปรึกษาประธานอาเซียนซึ่งมาเลเซียจะรับบทบาทประธานอาเซียนในปีหน้า

ข้อความจากเฟซบุ๊กของนายกอันวาร์ระบุว่า "ยินดีที่ได้พบกับอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย และเพื่อนที่รัก ดร.ทักษิณ ชินวัตร เราทั้งสองสนทนาอย่างกว้างขวางในหลายประเด็น รวมถึงในฐานะที่ท่านเป็นที่ปรึกษานอกรอบของประธานอาเซียนของมาเลเซีย บทสนทนาของเรามุ่งเน้นไปที่เรื่องสำคัญในระดับภูมิภาค ได้แก่ การฟื้นฟูเศรษฐกิจ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ การส่งเสริมสันติภาพในภาคใต้ของไทย และการแก้ไขวิกฤตการณ์ในเมียนมา

เครือข่ายความสัมพันธ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ของทักษิณในภูมิภาค และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของท่าน จะเปิดโอกาสอันมีค่าให้กับมาเลเซียและอาเซียนในการเผชิญกับความท้าทายเหล่านี้ด้วยความมั่นใจและประสิทธิผลที่มากขึ้น

เราได้หารือกันถึงวิธีการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างมาเลเซียและไทยที่มีอยู่แล้วให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยการปรับให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในการพัฒนาที่ยั่งยืนและการสร้างความสมานฉันท์ในภูมิภาค ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์เดียวกับที่ผมแบ่งปันกับนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร

ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ทักษิณและผมเชื่อมั่นว่า มาเลเซียและไทยสามารถทำได้มากกว่าที่เคย โดยไม่เพียงแต่เพื่อประโยชน์ของชาติของเรา แต่เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคโดยรวม เรามุ่งมั่นที่จะทำให้วิสัยทัศน์นั้นกลายเป็นความจริง" ข้อความที่นายกอันวาร์ระบุ 

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการบริหารราชการแก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยกระดับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

(27 ธ.ค.67) เวลา 08.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการบริหารราชการแก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจระดับสูง ให้การต้อนรับและร่วมประชุมรับมอบนโยบาย ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีหัวหน้าหน่วยต่างๆ ทั่วประเทศ ร่วมรับมอบนโยบายผ่านทางระบบการประชุมทางไกลพร้อมกันด้วย

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในเรื่องการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม การส่งเสริมความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และการแก้ปัญหาสังคมที่ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อย การปฎิบัติงานต้องมีความโปร่งใสและยึดหลักธรรมภิบาล เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในองค์กรตำรวจ สำหรับปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ตนให้ความสำคัญมีดังนี้

1. การป้องกันและปราบปรามปัญหายาเสพติด : การเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยง โดยมีการสำรวจพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของยาเสพติดอย่างจริงจัง นอกจากการจับกุมในระดับผู้ใช้หรือผู้ค้ารายย่อย เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องให้ความสำคัญกับการสืบสวนขยายผลเพื่อเข้าถึงเครือข่ายหรือแก๊งค้ายาเสพติดขนาดใหญ่

2. การแก้ไขปัญหาผู้มีอิทธิพล : ปัญหาผู้มีอิทธิพลเป็นหนึ่งในอุปสรรคสำคัญต่อความสงบสุขในสังคมไทย ปัญหาการทุจริต การข่มขู่ การใช้อำนาจในทางที่ผิด และการกระทำผิดกฎหมายทั้งปวง ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหานี้ โดยบูรณาการการปฎิบัติงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล

3. การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ : รัฐบาลได้กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติตั้งแต่สมัยรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิดอย่างเข้มงวด ให้ปัญหาหนี้นอกระบบลดน้อยลงหรือหมดไป

4. การบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดและเหมาะสม เพื่อให้ปัญหาต่างๆได้รับการจัดการแก้ไข เช่น การปราบปรามสินค้าเถื่อน หนีภาษี ลักลอบเข้ามาตามบริเวณแนวชายแดน ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ปัญหาแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย ต้องติดตามเร่งรัดการดำเนินการเพื่อนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษ รวมถึงการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิด 

5. การเพิ่มประสิทธิภาพในการรับเรื่องร้องทุกข์ โดยเร่งรัดการดำเนินการในคดีที่ประชาชนให้ความสนใจและส่งผลต่อประชาชนในวงกว้าง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน

6. สถานีตำรวจนับเป็นด่านหน้าของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นที่พึ่งหลักของประชาชน ขอให้ปฏิบัติงานเชิงรุก หัวหน้าสถานีต้องเป็นแบบอย่างที่ดี พร้อมปฎิบัติหน้าที่และเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ นายภูมิธรรมฯ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นช่วงที่ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา ท่องเที่ยว หรือร่วมกิจกรรมเฉลิมฉลอง อาจมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ความปลอดภัย และอาชญากรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงมีความสำคัญยิ่งเพื่อดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย ขอเน้นย้ำการตั้งจุดบริการประชาชนตามเส้นทางหลัก เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางและการให้ข้อมูลการเดินทาง การช่วยเหลือเหตุฉุกเฉิน และจัดทีมพร้อมชุดปฏิบัติการฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ การดำเนินงานจะสำเร็จลุล่วงได้ต้องอาศัยความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน รวมถึงภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจในการปฏิบัติงาน โดยจะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฏหมายอย่างตรงไปตรงมา “เมื่อตำรวจมีหัวใจคือประชาชน ตำรวจก็จะอยู่ในใจของประชาชน”

ธีรรัตน์ ตรวจด่านโคราช ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ - ฝากความห่วงใยประชาชนช่วงปีใหม่ 2568 พร้อมมาตรการลดอุบัติเหตุ

(27 ธ.ค.67) นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมด่านชุมชนในเขตตำบลหมูสี และตำบลพญาเย็น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยมีนายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยข้าราชการ ผู้นำท้องที่ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้การต้อนรับ

การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 รวมถึงแสดงความห่วงใยต่อประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีปริมาณการเดินทางสูงกว่าปีก่อน

"ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ความเสียสละและความทุ่มเทของท่าน มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเฝ้าระวังอุบัติเหตุ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้เดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างปลอดภัยทุกคน"

จากสถิติปี 2567 มีอุบัติเหตุทางถนนเกิดขึ้น 2,288 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 2,307 คน และเสียชีวิต 284 คน โดยสาเหตุสำคัญคือการดื่มแอลกอฮอล์เกินขนาด รัฐบาลจึงตั้งเป้าลดอุบัติเหตุในช่วงปีใหม่ 2568 และได้ขยายระยะเวลาการเฝ้าระวังจาก 7 วัน เป็น 10 วัน ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567 ถึง 5 มกราคม 2568 พร้อมมาตรการลดอุบัติเหตุที่สำคัญ ได้แก่

1. รณรงค์งดดื่มแอลกอฮอล์และขับขี่ยานพาหนะ
ประชาสัมพันธ์สโลแกน “ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ” พร้อมปลูกจิตสำนึกผู้ขับขี่ให้ตระหนักถึงความปลอดภัย

2. เพิ่มด่านชุมชนและด่านครอบครัว
ขยายการตั้งด่านตรวจในชุมชน โดยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่

3. ตรวจเข้มปริมาณแอลกอฮอล์
บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการสอบสวนและขยายผลทันที

นางสาวธีรรัตน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า
"ปีใหม่ปีนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนเดินทางอย่างปลอดภัย ได้กลับไปพบหน้าครอบครัวคนที่เรารัก เติมพลังใจหลังจากทำงานหนักมาตลอดปี 2567 ขอให้ปี 2568 เป็นปีแห่งความหวังที่เต็มไปด้วยความสุขและสมปรารถนาในทุกสิ่ง" 

อวสาน 'ทริปน้ำไม่อาบ' จับตัวการชักชวน ขยายผลจับยาบ้ากว่า 15 ล้านเม็ด พบมีการหาเครือข่ายทั้งผู้ซื้อ ผู้ขายยาเสพติด โดยใช้ออกทริปบังหน้า  

(27 ธ.ค. 67) เวลา 12.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานป้องกันปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น การแข่งรถ หรือความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วย พล.ต.ต.สารนัย คงเมือง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ , พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รอง ผบก.สส.ภ.6 ขยายผลผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทาง เครือข่ายทริป “น้ำไม่อาบ” นำไปสู่การจับกุมยาบ้ารวมกว่า 15.6 ล้านเม็ด (เครือข่าย RNC8) พบว่ามีการหาเครือข่ายทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย ใช้ออกทริปบังหน้า  

พล.ต.ท.สำราญฯ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ดำเนินคดีเด็ดขาดกับกลุ่มออกทริป 'น้ำไม่อาบ' ย้ำ “ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย” ได้มอบหมาย พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. กำกับดูแลงานป้องกันและปราบปราม ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดจากเฟซบุ๊กแฟนเพจ “เมลาย รัชดา” ชักชวนทำให้มีการรวมกลุ่มของการขับขี่รถจักรยานยนต์ในลักษณะที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนอย่างมาก ต่อเนื่องมาเป็นเวลา 7 ปี มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตซึ่งเกิดจากกลุ่มผู้ออกทริปเป็นประจำทุกปี คณะทำงานฯ ได้ออกประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนตามเส้นทางให้ขับขี่เคารพกฎจราจร แต่ยังมีการฝ่าฝืน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมดำเนินคดีในข้อหาแข่งรถในทางฯ จากการสอบสวนทราบว่ามาร่วมทริป“น้ำไม่อาบ” จึงได้สั่งการให้คณะทำงานฯ ดำเนินการรวบรวมข้อมูล  เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้เชิญชวนส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิดดังกล่าวอย่างแพร่หลายในสังคมออนไลน์ ต่อมาได้มีการออกหมายเรียกผู้ต้องหา และ นายเมธาฯ หรือ “เมลาย รัชดา” และภรรยา คือ น.ส.วิริยาฯ  เจ้าของเพจ “เมลาย รัชดา แฟนเพจ” เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา ในความผิดฐานชักชวนให้มีการแข่งรถในทางฯ จากข้อมูลและผลการปฏิบัติดังกล่าว จะได้เป็นแนวทางในการมอบหมายให้ทุกหน่วยทั่วประเทศดำเนินการในการเฝ้าระวัง และสืบสวนติดตามจับกุมดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในทุกรูปแบบที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชน

นอกจากนี้ พล.ต.ท.สำราญฯ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 03.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.6  ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร นปส.ขกท.ศปก.ทบ.(สปข.ขกท.ศปก.ทบ.) และ ขกท.ศปก.ทภ.1 ร่วมจับกุมตัวผู้ต้องหา คือ นายวีรเทพฯ พร้อมของกลาง ยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงกระสอบ จำนวนประมาณ 78 กระสอบ กระสอบละประมาณ 200,000 เม็ด รวมจำนวนยาบ้า ประมาณ 15,600,000 เม็ด ซึ่งจากคำให้การของผู้ต้องหา พบว่าจุดเริ่มต้นที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด คือมีคนชักชวนผ่านทางการพนันตามสนามแข่งรถ หรือจัดทริปขับขี่รถจักรยานยนต์ออกเที่ยวตามต่างจังหวัดในสถานที่ต่างๆ โดยแต่ละครั้งที่มีการรวมตัวกัน จะมีบุคคลซึ่งเป็นระดับสั่งการหรือนายทุนมาร่วมกิจกรรมด้วย ซึ่งเป็นเหมือนการพบปะ หรือจัดเลี้ยงของกลุ่มขบวนการยาเสพติดไปในตัว โดยใช้การออกทริปหรือไปท่องเที่ยวเป็นกลุ่มด้วยกัน เป็นการสังสรรค์ ประสานงานกัน สั่งการในเรื่องซื้อขายยาเสพติด ซึ่งล่าสุดคือทริป “น้ำไม่อาบ” ที่เพิ่งผ่านมา

พล.ต.ท.สำราญฯ ย้ำว่า นโยบายของรัฐบาล โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติปราบปรามแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ รวมถึงความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ สามารถแจ้งเบาะแสเหตุได้ที่สายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ตำรวจ โชว์ 'นายกฯอิ๊งค์' ความพร้อม ผบ.ตร.พร้อมดูแลประชาชนครบวงจร วางกำลัง สายตรวจ ตร- ท่องเที่ยว ทางหลวง ไซเบอร์เสริมเว็บไซต์ 'Cyber check' เช็กเบอร์มือถือ- บัญขีธนาคารป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

นางสาว แพทองธาร  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  เดินทางมา รับฟังแผนการในการดูแลประชาชน ในช่วงเทศกาลตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไปของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บริเวณห้องโถง ชั้น 1 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพระรามที่ 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 

โดยมึ ทั้งการอำนวยความสะดวก ในการเดินทาง การักษาความปลอดภัยในงานรื่นเริงต่างๆ ทั่วประเทศ 

โดยมี พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลตำรวจเอก ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอก ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอก นิรันดร เหลื่อมศรี รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอก กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอก ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ  ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจ และ หน่วยงานตำรวจที่สำคัญในช่วงเทศกาล อาทิ ตำรวจท่องเที่ยว ทางหลวง ตำรวจไซเบอร์ และหน่วยงานอื่นๆ  
         
ทั้งนี้ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รายงานว่าได้สั่งการให้ ทุกหน่วยงาน ปฎิบัติภารกิจอย่างาต่อเนื่องในช่วงเทศกาล โดยมีโครงการต่างๆ อาทิ โครงการ Cyber Check ของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี( บช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ จัดทำแอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ “www.เช็กก่http://xn--q3c3b.com/” 

ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถตรวจเช็คเลขบัญชีธนาคารก่อนทำการโอนเงิน เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกโกง และยังมีฟังก์ชันในการแจ้งเกี่ยวกับบัญชีม้า หรือบัญชีที่เคยโกง 

นอกจากนี้ยังมี แอปพลิเคชัน “Cyber Check” ที่สามารถทำการติดตั้งลงบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะมีการแจ้งเตือนหมายเลขโทรศัพท์ที่โทรเข้ามา และ SMS ที่แนบลิงก์ที่ไม่ปลอดภัยเข้ามาแบบอัตโนมัติ รวมทั้งมีฟังก์ชันในการตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ และบัญชีธนาคารที่ต้องสงสัยได้อีกด้วย
           
โครงการบูรณาการระบบบริหารรับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยว ผ่าน 1555  ที่รองรับการแจ้งเหตุถึง 8 ภาษา คือ อังกฤษ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น รัสเซีย ภาษาฮินดี เยอรมัน และ ฝรั่งเศส และการพัฒนาแอปพลิเคชันช่วยเหลือนักท่องเที่ยว “Thailand Tourist Police” ที่มีจุดเด่นคือ ระบบปุ่ม SOS และ GPS สามารถแชร์โลเคชันเพื่อแจ้งพิกัดรับการช่วยเหลือจากตำรวจท่องเที่ยวได้อย่างทันท่วงที  และศูนย์ประสานงานการแก้ปัญหานักท่องเที่ยวแบบศูนย์รวม         

สำหรับตำรวจทางหลวงมีโครงการส่วนลดพิเศษสำหรับที่พัก ในการเข้าใช้บริการบ้านพักตากอากาศ ริมทะเล อยู่ที่ The Cop Seminar & Resort อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี หรือ ศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการตำรวจ มีไว้ให้บริการข้าราชการตำรวจ ครอบครัวตำรวจ และพี่น้องประชาชน
             
นอกจากนั้น ยังมีโครงการห้องพักทั่วไทย จากใจตำรวจทางหลวง 205 แห่งทั่วประเทศ โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง กองบัญชาการสอบสวนกลาง ได้จัดให้หน่วยบริการทางหลวง 205 แห่ง มีที่พักสำหรับประชาชนเข้าพักฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพื่อให้ประชาชนผู้เดินทางในระยะทางไกล ได้พักผ่อนจากการขับรถทางไกลก่อนที่จะเดินทางต่อ ลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุจากการง่วงหลับใน หรือง่วงแล้วขับ ตามโครงการห้องพักสำหรับประชาชนของกองบังคับการตำรวจทางหลวง            

จากนั้นนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้เป็นประธานในการเปิดงาน “ของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2568 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มอบให้แก่ประชาชน”   

นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำว่าให้ประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ไซเบอร์เช็ก (Cyber check) เนื่องจากปัจจุบันมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์จำนวนมาก เว็บไซต์ไซเบอร์เช็ก จึงมีความสำคัญอย่างมาก เพราะสามารถตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์มือถือและหมายเลขบัญชีธนาคารที่มีความเสี่ยงต่ออาชญากรรมได้

‘พลังงาน’ ยัน กำลังผลิตไฟฟ้าสำรองปัจจุบันอยู่ที่ 25.5% เท่านั้น ชี้ แสงอาทิตย์ ลม ชีวมวล จะนำมารวมเต็มกำลังการผลิตไม่ได้

กระทรวงพลังงาน เผยขอยืนยันว่า ปัจจุบัน กำลังการผลิตไฟฟ้าสำรองของประเทศหรือ Reserve Margin อยู่ที่ 25.5% เท่านั้น ไม่ใช่ 50% ตามที่มีการเผยแพร่ เนื่องจากการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานจากเชื้อเพลิงชีวภาพ ไม่สามารถนำมานับรวม 100% ได้ เพราะไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ตลอดเวลา และแม้ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมากำลังผลิตไฟฟ้าอาจอยู่ในระดับสูงเนื่องจากสถานการณ์โควิด แต่ปัจจุบันก็บริหารจัดการให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว

(27 ธ.ค. 67) นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู โฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับกำลังการผลิตไฟฟ้าสำรองของประเทศไทยที่สูงถึง 50% นั้น ขอเรียนชี้แจงว่า กำลังการผลิตไฟฟ้าของไทยในปัจจุบันอยู่ที่ 25.5% เท่านั้น ซึ่งการคำนวณกำลังการผลิตไฟฟ้าจะต้องคำนวณจากการผลิตไฟฟ้าที่สามารถผลิตได้จริง ซึ่งไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานทดแทน อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานชีวมวล กลุ่มนี้ไม่สามารถพึ่งพาได้ตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากปัจจัยช่วงเวลา ฤดูกาล จึงไม่สามารถนำมาคำนวณเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าสำรองที่แท้จริงได้ 

ทั้งนี้ กำลังการผลิตไฟฟ้าสำรองในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา อาจจะสูงซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด จึงทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ แต่การสร้างโรงไฟฟ้าต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน จึงทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าอาจจะไม่มีความสอดคล้องในช่วงระยะเวลาดังกล่าว แต่ในปัจจุบันหลังจากสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย ความต้องการใช้ไฟฟ้ากลับมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ทำให้กำลังผลิตไฟฟ้าสำรองจึงไม่ได้สูงถึง 50% ตามที่มีการเผยแพร่

ด้าน  Peak Demand หรือความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของระบบทั้ง 3 การไฟฟ้า ในปีนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 22.24 น. อยู่ที่ 36,792 เมกะวัตต์ ในระยะหลังการเกิด Peak จะเป็นช่วงกลางคืนซึ่งต่างจากในอดีต แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าของประชาชนเปลี่ยนไป ทั้งนี้ การใช้ไฟฟ้าในช่วงดังกล่าว กำลังการผลิตไฟฟ้าที่พึ่งพาประมาณ 46,191 เมกะวัตต์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า กำลังการผลิตไฟฟ้าสำรองที่แท้จริงนั้นเพียง 25.5% เท่านั้น

“กระทรวงพลังงาน ขอยืนยันว่า กำลังการผลิตไฟฟ้าสำรองของไทยปัจจุบันอยู่ที่ 25.5% เท่านั้น ไม่ใช่ 50% ตามที่มีการเผยแพร่ กำลังการผลิตไฟฟ้านั้น ถ้าเป็นโรงไฟฟ้าที่มีเชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน จะสามารถนำมาคำนวณกำลังการผลิตได้ 100% แต่หากเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานชีวมวล กลุ่มนี้ไม่สามารถพึ่งพาได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตัวอย่างเช่น พลังงานแสงอาทิตย์ในวันที่มีแสงแดดปกติจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้แค่ 4-6 ชั่วโมงต่อวันโดยประมาณ ส่วนพลังงานลม พลังงานชีวมวล ก็ขึ้นอยู่กับฤดูกาล จึงไม่สามารถนำมาคำนวณเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าสำรองที่แท้จริงได้ 

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) ซึ่งได้มีการศึกษาและพยากรณ์ความต้องการไฟฟ้าให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจในอนาคต นอกจากนั้น ยังต้องคำนึงถึงนโยบายการเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน แผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าจึงต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ดังนั้น แผนกำลังการผลิตไฟฟ้าจะต้องพิจารณาให้เพียงพอต่อความต้องการทั้งในปัจจุบันและในอนาคต รวมทั้งต้องพิจารณาถึงไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดที่มีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น การคำนวณกำลังการผลิตไฟฟ้าจึงต้องคำนวณตามชนิดเชื้อเพลิงและศักยภาพของโรงไฟฟ้าแต่ละโรงที่แท้จริงจึงจะได้ข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ และที่สำคัญที่สุด 

แผนการผลิตไฟฟ้านั้น กระทรวงพลังงานได้วางแผนเลือกใช้เชื้อเพลิงที่มีต้นทุนที่ต่ำที่สุดเป็นหลัก เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ไฟฟ้าในราคาที่เหมาะสมไปพร้อมกับการใช้พลังงานสะอาดที่กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ของโลกในปัจจุบัน นอกจากนั้น ก็ได้เตรียมพร้อมรับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของการใช้รถยนต์ไฟฟ้า และการใช้ไฟฟ้าจาก Data Center ที่ต้องการไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดในปริมาณที่สูง ซึ่งจะสามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเข้ามาในประเทศอีกด้วย” นายวีรพัฒน์ กล่าว

‘หนูนา’ มอบของขวัญปีใหม่เป็นหมายศาล จัดหนักเกรียนคีย์บอร์ด ทั้งแพ่งและอาญา

‘หนูนา - กัญจนา ศิลปอาชา’ โพสต์มอบของขวัญปีใหม่ให้เกรียนคีย์บอร์ด เป็นหมายศาล จัดหนักฟ้องทั้งแพ่งและอาญา ซัด ต้องได้รับผลแห่งการกระทำอย่างเต็มที่

(27 ธ.ค. 67) นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา หรือ หนูนา ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา และอดีต รมช. ศึกษาธิการ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่นี้…คนที่หมิ่นประมาทดิฉัน…ทยอยเริ่มได้ของขวัญปีใหม่เป็นหมายศาลแล้วนะคะ…

ช่วงที่ดิฉันไม่คิดจะดำเนินคดี..พวกคุณมันมือกันมาก..ด่าว่าหยาบคาย (มาก) และถึงบุพการีดิฉันด้วย…

เมื่อดิฉันประกาศดำเนินคดี … พวกคุณรีบลบโพสต์กันหมด..

แต่ดิฉันโชคดี มีกัลยาณมิตรทีมแคปทันไทยแลนด์..เก็บหลักฐานไว้ให้ …

พวกคุณกล้าทำ แต่ไม่กล้ารับ ..

แต่ดิฉันจะทำให้พวกคุณต้องรับผลของการกระทำอย่างเต็มที่…

เคยบอกแล้วว่า..ดิฉันไม่ได้โกรธ เกลียดพวกคุณ…ไม่มีความรู้สึกอะไรเลยกับคนอย่างพวกคุณ ..

แค่พิจารณาว่า…คนอย่างพวกคุณควรได้รับบทเรียนในการกระทำที่วิญญูชน (คนที่รู้ผิดชอบชั่วดี) เขาไม่ทำกัน ..

ไม่ควรมีใครถูกกระทำอย่างที่ดิฉันถูกกระทำ…

และถ้าจะสู้กับดิฉัน…ก็เตรียมเงินไว้ให้พร้อมนะคะ… ดิฉันฟ้องทั้งอาญาและแพ่ง…

สภาเกาหลีใต้ลงมติ 192 เสียง ถอด 'ฮันด็อกซู' พ้นรักษาการปธน.

(27 ธ.ค. 67) นายฮันด็อกซู นายกรัฐมนตรีและในฐานะรักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ถูกลงมติถอดถอนจากตำแหน่งด้วยคะแนนเสียง 192 เสียง หลังจากที่เขารับหน้าที่แทน นายยุนซอกยอล ซึ่งถูกถอดถอนเมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา เนื่องจากการประกาศกฎอัยการศึก  

พรรคฝ่ายค้านที่ควบคุมเสียงข้างมากในสภา เป็นผู้ยื่นญัตติถอดถอนนายฮันเมื่อวันพฤหัสบดี โดยกล่าวหาว่าเขา “กระทำการเพื่อก่อการกบฏ” ข้อกล่าวหานี้เกิดขึ้นหลังนายฮันปฏิเสธการแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ 3 คนทันที ซึ่งฝ่ายค้านมองว่าเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต  

ก่อนการลงมติ ประธานรัฐสภา นายอูวอนชิก ชี้แจงว่า การถอดถอนนายฮันครั้งนี้ต้องการเสียงข้างมาก 151 เสียง ซึ่งเป็นการปรับความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับเกณฑ์ที่ใช้ หลังมีความสับสนในประเด็นนี้ โดยปกติการถอดถอนประธานาธิบดีต้องการเสียง 200 เสียง  

หลังจากนายฮันถูกถอดถอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายชอยซังม็อก จะเข้ารับตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดีตามกฎหมาย สถานการณ์นี้สะท้อนถึงวิกฤตการเมืองในเกาหลีใต้ที่มีแนวโน้มทวีความตึงเครียดขึ้น

จี้ 'ฮุนมาเนต' ยกเลิก MOU44 แนะฟ้องศาลโลกตัดสิน 'เกาะกูด' เหมือนคดีเขาพระวิหาร

(27 ธ.ค.67) สำนักข่าวเรดิโอฟรีเอเชียภาคภาษาเขมร รายงานว่า นาย อึม สำอาน (Oum Sam An) นักการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลซึ่งลี้ภัยในสหรัฐเพราะถูกตัดสินจำคุกในข้อหาปลุกปั่นประเด็นเรื่องชายแดน ได้เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีฮุนมาเนตของกัมพูชา ยกเลิกบันทึกความเข้าใจหรือ MOU44 และหันไปหาศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เพื่อแก้ไขกรณีข้อพิพาทเหนือเกาะกูด

นาย อึม สำอาน อดีตสส.จาก จ.เสียมเรียบ พรรคพรรคสงเคราะห์ชาติ (CNRP) กล่าวว่า ประชาชนชาวกัมพูชาจะยังคงชุมนุมประท้วงภายใต้ชื่อ 'ปกป้องเกาะกูด' (Defend Koh Kut) ที่เมืองลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย ในวันที่ 19 มกราคม  และจะประท้วงจนกว่ากัมพูชาจะได้รับพื้นที่บนเกาะกูดคืนอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง โดยเขาชี้ว่าการเจรจาทวิภาคีไม่สามารถทำให้ไทยคืนเกาะกูดได้ และเน้นย้ำว่ากัมพูชาควรใช้แนวทางฟ้องร้องในศาลโลก เช่นเดียวกับกรณีปราสาทพระวิหารในปี 2505 

“บันทึกความเข้าใจเป็นเพียงพื้นฐาน ดังนั้นกัมพูชาจึงมีสิทธิ์ยกเลิกได้ตลอดเวลา และหลังจากยกเลิกเอ็มโอยู กัมพูชาสามารถอ้างสิทธิ์ของเกาะได้ผ่านการฟ้องร้องประเทศไทยในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เราไม่ควรใช้การเจรจาแบบทวิภาคี เพราะจะไม่มีการคืนเกาะ ไทยควบคุมเกาะกูด 100% อยากให้ดูตัวอย่างกรณีของเขาพระวิหาร ซึ่งในกรณีนั้นถ้าหากสมเด็จพระนโรดมสีหนุไม่นำเรื่องเขาพระวิหารไปเข้าสู่กระบวนการพิจารณา ICJ ในปี 1962 เราก็คงไม่ได้เขาพระวิหารคืน” 

ด้านนายสุน ชัย รองหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านกัมพูชา ระบุว่า เกาะกูดเป็นพื้นที่ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นประโยชน์ต่อชาติ พร้อมแสดงความหวังว่ารัฐบาลกัมพูชาจะนำผู้เชี่ยวชาญเข้ามาเจรจาหรือฟ้องร้องในศาลโลกเพื่อทวงคืนพื้นที่  

ในขณะที่นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา กล่าวระหว่างพิธีมอบปริญญาบัตรแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยฮิวแมน รีซอร์ส เมื่อ 26 ธ.ค. โดยยืนยันจุดยืนของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดน หลังเผชิญเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในประเด็นเกาะกูด โดยย้ำว่ารัฐบาลยังคงมุ่งมั่นทำงานอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่ได้ตอบโต้ผ่านโซเชียลมีเดีย โดยขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในความสามารถของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดน  

นักวิเคราะห์ด้านการพัฒนาสังคม ดร.เมียส นี (Meas Ny) ชี้ว่า ปัญหาเขตแดนเป็นเรื่องสำคัญที่นักการเมืองทั้งสองประเทศควรละผลประโยชน์ส่วนตัว และร่วมกันหาทางออกที่เป็นธรรมผ่านช่องทางระหว่างประเทศ โดยมองว่าการฟ้องร้องต่อศาลโลกเป็นทางเลือกที่เหมาะสม

จีนเผยโฉมเรือยกพลขึ้นบกลำใหม่ ‘ซื่อชวน’ เพิ่มขีดความสามารถสู้รบในน่านน้ำระยะไกล

จีนได้จัดพิธีเปิดตัวเรือโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบกไทป์ 076 รุ่นใหม่ลำแรกในนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งถูกตั้งชื่อตามมณฑลซื่อชวน (เสฉวน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ โดยเรือลำใหม่ที่พัฒนาขึ้นเองนี้มีหมายเลขตัวเรือเป็นเลข 51

(27 ธ.ค.67) รายงานระบุว่าเรือซื่อชวนมีระวางขับน้ำเต็มพิกัดกว่า 40,000 ตันโครงสร้างเก๋งเรือแบบเกาะคู่ ดาดฟ้าเรือเต็มความยาว และใช้เทคโนโลยีเครื่องดีดส่งและอุปกรณ์จับกุมแบบคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอันเป็นนวัตกรรมใหม่ ช่วยให้สามารถบรรทุกอากาศยานปีกตรึง เฮลิคอปเตอร์ และอุปกรณ์สะเทินน้ำสะเทินบก

เจ้าหน้าที่กองทัพเรือจีนเผยว่าเรือซื่อชวนเป็นเรือโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบกรุ่นใหม่ของกองทัพเรือแห่งกองทัพปลดแอกประชาชนจีน มีบทบาทสำคัญต่อการเดินหน้าการพัฒนาของกองทัพเรือและการเพิ่มพูนขีดความสามารถทางการสู้รบในน่านน้ำทะเลอันไกลโพ้น

ทั้งนี้ เรือซื่อชวนจะต้องผ่านบททดสอบรายการต่าง ๆ ตามแผน ทั้งการทำงานของอุปกรณ์ การจอดเทียบ และการล่องทะเล


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top