Sunday, 8 June 2025
TheStatesTimes

พังงา-จัดกิจกรรมรำลึกครบรอบ 20 ปี สึนามิถล่มพื้นที่ฝั่งอันดามัน เพื่อไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิต-ผู้ที่สูญหาย

(26 ธ.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อนุสรณ์สถานสึนามิบ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา มีการจัดกิจกรรมรำลึกครบรอบ 20 ปี ในวันที่ 26 ธ.ค. จากกรณีเหตุการร์คลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่ม 6 จังหวัดอันดามัน ภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ตรัง สตูล เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2547 ที่ผ่านมา โดยมีนายศิวัชฐ์ ระวังกุล นายอำเภอตะกั่วป่า ได้เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายธงชัย หันช่อ นายก อบต.บางม่วง นายมนัสศักดิ์ ยวนแก้ว ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 บ้านน้ำเค็ม เครือข่ายผู้ประสบภัยสึนามิ และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมทำกิจกรรมครบรอบ 20 ปี รำลึกสึนามิ ในครั้งนี้ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นได้ทำให้มีผู้เสียชีวิต และสูญหายจำนวนมาก รวมทั้งบ้านเรือนประชาชน ห้างร้าน สถานประกอบการต่างๆ ได้รับผลกระทบ

นางสาววรรณวิสา นนทอง ชาวบ้านบ้านน้ำเค็ม อายุ 37 ปี 12/11  ม.2 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป้า จ.พังงา กล่าวว่า จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ยังคงจดจำไม่มีลืมเลือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้สูญเสียคนในครอบครัวถึง 3 คน ความรูสึกยังคงระลึกถึงบุคคลที่จากไปเสมอ ส่วนการตื่นตัวกับเหตุการณ์ภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิ ก็ได้มีการหาความรู้ โหลดแอพเกี่ยวกับแผ่นดินไหว และในพื้นที่เองก็ยังมีการซ้อมแผนหนีภัยอย่างต่อเนื่อง จึงเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตกว่าช่วงแรกๆที่เกิดเหตู

สำหรับจังหวัดพังงา เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่ได้รับความเสียหาย มีผู้เสียชีวิต และทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก โดยทาง จ.พังงา ได้กำหนดจัดให้มีกิจกรรมเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นประจำทุกปี การยืนไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิต วางดอกไม้ไว้อาลัย ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา 3 ศาสนา พุทธ คริสต์ และอิสลาม แก่ผู้ล่วงลับและสูญหาย ซึ่งปัจจุบันได้ฟื้นฟูจนกลับคืนสู่สภาพปกติ โดยไม่มีเค้าโครงภาพการสูญเสียปรากฏให้เห็น แต่ยังคงมีอนุสรณ์สถานสึนามิในหลายพื้นที่ที่ยังเป็นเครื่องเตือนใจถึงเหตุการณ์ความรุนแรงจากภัยธรรมชาติในครั้งนั้น ซึ่งในแต่ละปีจะมีกิจกรรมการรำลึกให้ญาติของผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิ ได้ร่วมไว้อาลัย ณ สถานที่ต่างๆ ซึ่งการจัดงานรำลึกสึนามิในครั้งนี้ จะเป็นคุณูปการต่อสาธารณชนในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงนักท่องเที่ยวเองก็จะเข้าร่วมงานรำลึกสึนามิเป็นประจำตลอดทุกปี

โดยปีนี้จะมีการจัดงานครบรอบ 20 ปี สึนามิขึ้นจำนวน 5 จุด ได้แก่ บริเวณเรือตรวจการณ์บุเรศผดุงกิจ (ต.813) พื้นที่ ต.คึกคัก บริเวณอนุสรณ์สถานสึนามิบ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง พิพิธภัณฑ์สึนามิบ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง โรงแรมเขาหลัก แมริออท บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา ต.บางม่วง และบริเวณสุสานผู้ประสบภัยสึนามิ บ้านบางมรวน (บาง-มะ-รวน) ต.บางม่วง

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ยกระดับคุณภาพชีวิตเยาวชนในถิ่นทุรกันดารภาคเหนือ – อีสาน อย่างยั่งยืนต่อเนื่อง เดินสายมอบจักรยาน หน้ากากอนามัย อุปกรณ์กีฬาให้กับ 95 โรงเรียนในพื้นที่ชนบท รวมงบประมาณกว่า 3 ล้านบาท 

ระหว่างวันที่ 19 พฤศจิกายน - 27 ธันวาคม 2567 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ ห่วงใยเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร มอบหมายให้ ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำโดย นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ จัดทีมลงพื้นที่โรงเรียนชนบท มอบจักรยาน และอุปกรณ์กีฬา ให้แก่นักเรียนประสบปัญหาในการเดินทางมาโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือ และอีสาน ประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี กำแพงเพชร ตาก พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ลำปาง พะเยา เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ชัยภูมิ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี และขอนแก่น รวม 19 จังหวัด 95 โรงเรียน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักเรียนที่ประสบปัญหาในการเดินทางมาโรงเรียน รวมถึงเป็นการแบ่งเบาภาระค่าพาหนะแก่ผู้ปกครองได้อีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังเสริมสร้างให้นักเรียนได้ออกกำลังกายเรียนรู้กฎจราจร รวมถึงการแบ่งปัน การดูแลรักษาสาธารณสมบัติร่วมกัน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐแต่ละแห่งเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย เยาวชน และผู้แทนจากสถาบันการศึกษาในแต่ละแห่ง เป็นผู้รับมอบ

สำหรับโครงการจักรยานเพื่อน้องสัญจร ในปี พ.ศ.2567 นี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้คัดเลือกโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือ และภาคอีสาน ที่มีนักเรียนประสบปัญหาในการเดินทางมาโรงเรียน รวมจำนวน 100 แห่ง ดำเนินการมอบรถจักรยานขนาด 20 และ 24 นิ้ว รวม 2,000 คัน , หน้ากากอนามัย จำนวน 50,000 ชิ้น อุปกรณ์กีฬา จำนวน 100 ชุด และค่าพาหนะเดินทางแก่โรงเรียนๆละ 2,000 บาท รวมคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น จำนวน 3,195,000 บาท (สามล้านหนึ่งแสนเก้าหมื่นห้าพันบาทถ้วน) 

ตลอดระยะเวลากว่า 114 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง รวมถึงการส่งเสริมด้านการศึกษา เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมงานสาธารณกุศลมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่ เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung 

“มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418
#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

ตำรวจภูธรภาค 1 แถลงผลล้างอาชญากรรม ต่างด้าวผิด กม. คริสต์มาส-ปีใหม่ 2568 (7วัน)

เมื่อวันที่ (24 ธ.ค.67) เวลา 10.30 น. พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 พร้อมคณะฯ และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัด ภ.1 ได้ร่วมแถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม และแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ห้วงเทศกาลคริสต์มาสและวันหยุดยาวปีใหม่ 2568 ระหว่างวันที่ 17-23 ธ.ค.67 (7วัน) ณ  ลานฝึกยุทธวิธีปราบไพรีอริศัตรูพ่าย ภ.1

วันที่ 25 ธ.ค.67 เป็นวันคริสต์มาส และระหว่างวันที่ 28 ธ.ค.67-วันที่ 1 ม.ค.68  เป็นวันหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568  ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนมีการเฉลิมฉลอง มีกิจกรรมจัดกิจกรรมที่สร้างความสนุกสนาน และบางส่วนเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ  ในช่วงดังกล่าวมักเป็นโอกาสที่มิจฉาชีพ ใช้ประโยชน์จากความประมาทและความรีบเร่งของผู้คน ในการก่อเหตุอาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้ออกมาตรการเข้ม และกำชับหน่วยต่าง ๆ ให้ถือปฏิบัติ ดังนี้ 

1.ให้ทุกหน่วยระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนช่วงวันคริสต์มาสและวันหยุดยาวปีใหม่ 2568 ระหว่างวันที่ 17-23 ธ.ค.67 ทั้งความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทั่วไป เช่น การพนัน ยาเสพติด อาวุธปืน แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย และความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รวมทั้งตรวจสอบติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับค้างเก่า

2.กวดขันจับกุมผู้ยิงปืนขึ้นฟ้า ผู้เล่นดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด และปล่อยโคมลอย ในลักษณะที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ หรือในลักษณะที่น่าจะเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หรือรบกวนการจราจรทางอากาศ, ป้องกันปราบปรามการแข่งรถในทางการรวมกลุ่มหรือมั่วสุมออกเดินทาง, ป้องกันและแก้ไขปัญหาเหตุทะเลาะวิวาทในสถานพยาบาล และกลุ่มวัยรุ่นต่างๆ

3.เพิ่มวงรอบตรวจตราแหล่งมั่วสุม สวนสาธารณะ สถานบริการ สถานบันเทิง สถานีขนส่ง โรงแรม แหล่งท่องเที่ยว เพื่อป้องกันการทำผิดกฎหมายทุกประเภท รวมทั้งป้องกันการโจรกรรมลักทรัพย์ในเคหสถานของประชาชน 

4.ให้ดำเนินการตาม “โครงการร่วมใจดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชนช่วงเทศกาลสำคัญ (ฝากบ้าน 4.0)” รับฝากบ้านประชาชน ระหว่างวันที่ 21 ธ.ค.67-วันที่ 2 ม.ค.68 (13 วัน)

5.มาตรการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ให้มีการจัดตั้ง “ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568” ควบคุมเข้มข้นตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.-วันที่ 9 ม.ค.68 (21 วัน) และให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มในการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อมุ่งเน้นการลดอุบัติเหตุทางถนน ตามมาตรการ 10 ข้อหาหลัก โดยเฉพาะข้อหาเมาแล้วขับ กรณีเกิดอุบัติเหตุให้มีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ทุกราย ตรวจสอบประวัติการทำผิดซ้ำ หากผู้ขับขี่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ให้ถือว่าเมาสุรา และให้มีการสอบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามกฎหมาย

สำหรับผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม และแรงงานต่างด้าว ของตำรวจภูธรภาค 1 ในระหว่างวันที่ 17-23 ธ.ค.68 (7 วัน) ดังนี้ 
1.จับกุมคดีอาวุธปืนได้รวม 170 กระบอก เป็นปืนไม่มีทะเบียน 97 กระบอก และมีทะเบียน 73 กระบอก 
2.จับกุมคดียาเสพติดได้รวม 1,189 ราย ผู้ต้องหา 1,191 คน ของกลางยาบ้ารวม  1,032,963 เม็ด ยาไอซ์ 1,594 กรัม ตรวจยึดทรัพย์สิน 22,184,829 บาท
3.จับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายได้รวม 1,110 ราย 
4.จับกุมหมายจับค้างเก่าได้รวม 615 คน 
5.จับกุมคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้รวม 354 ราย ผู้ต้องหา 354 คน อายัดทรัพย์สินได้รวม 1,325,800 บาท  
รวมจับกุมทุกข้อหา 3,876 ราย ผู้ต้องหา 3,968 คน

ตำรวจภูธรภาค 1 จะดำเนินการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในพื้นที่รับผิดชอบ ในช่วงวันคริสต์มาส และเทศกาลปีใหม่ 2568 อย่างจริงจังเข้มข้น และขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนในเรื่องที่สำคัญ  ดังนี้

1.โครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ 4.0  ได้เปิดรับฝากบ้านระหว่างวันที่ 21 ธ.ค.67-วันที่ 2 ม.ค.68 (รวม 13 วัน) เพื่อดูแลความปลอดภัยของบ้านเรือนประชาชนในช่วงวันหยุดยาว โดยมีขั้นตอนที่จะฝากบ้านกับตำรวจ 2 วิธี คือ เดินทางไปแจ้งความประสงค์ที่สถานีตำรวจ หรือลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่น “ฝากบ้าน 4.0 (OBS)” สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งจากระบบ IOS และ Andriod  ซึ่งขณะนี้มีประชาชนในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 ฝากบ้านไว้กับตำรวจแล้วรวม 116 หลัง

2.ด้านการป้องกันภัยจากอาชญากรรมออนไลน์ ขอให้ไม่หลงเชื่อข้อความหลอกลวงต่างๆ อย่าคลิกลิงก์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ไม่ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ หลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลส่วนตัวกับคนแปลกหน้า  และขอแนะนำให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสาร การประชาสัมพันธ์ เพื่อรู้เท่าทันภัยออนไลน์ ผ่านช่องทางต่างๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาทิ www.เตือนภัยออนไลน์.com เฟซบุ๊กแฟนเพจ : ตำรวจไซเบอร์ - บช.สอท., ตำรวจสอบสวนกลาง, สืบนครบาล IDMB เป็นต้น และหากพี่น้องประชาชนถูกมิจฉาชีพหลอกลวงในคดีออนไลน์ หรือต้องการคำปรึกษา หรือสอบถามเกี่ยวกับคดีออนไลน์ ขอให้โทรติดต่อที่สายด่วน 1441 ของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (ศูนย์ AOC) ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ ได้ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th

การป้องกันและลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุทางถนน ขอให้ตรวจสอบสภาพรถก่อนเดินทาง ขับขี่ด้วยความเร็วที่กฎหมายกำหนดและเหมาะสมกับสภาพการจราจร ไม่ใช้โทรศัพท์ในขณะขับรถ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด

เครมลินออกโรงป้องเหตุเครื่องบินอาเซอร์ไบจานตก ปัดโยงมิสไซล์รัสเซีย ชี้รอผลการสอบสวนก่อนสรุป

( 27 ธ.ค.67) จากเหตุเครื่องบินแบบ embraer 190 ของสายการบิน Azerbaijan Airlines ตกใกล้เมืองอัคเตา ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของคาซัคสถาน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากบินออกนอกเส้นทางโดยไม่ทราบสาเหตุ จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 38 ราย บาดเจ็บจำนวนมากนั้น

ภายหลังการเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่อาเซอร์ไบจานและสหรัฐฯ เชื่อว่าเครื่องบินโดยสารของอาเซอร์ไบจานที่ประสบเหตุร้ายแรงถูกยิงตกโดยขีปนาวุธพื้นสู่อากาศของรัสเซีย

จากรายงานข่าวของสื่อระบุว่าพบหลักฐานเป็นสะเก็ดระเบิดและร่องรอยจากการถูกยิงด้วยขีปนาวุธบริเวณปลายหางท้ายลำของเครื่องบิน ส่งผลให้เครื่องบินไม่สามารถควบคุมได้ นักบินจึงต้องนำเครื่องร่อนลงจอดฉุกเฉินนั้น มีชิ้นส่วนของขีปนาวุธแบบ Pantsir-S ซึ่งเป็นมิสไซล์จากภาคพื้นสู่อากาศของรัสเซียปะปนอยู่กับเศษซากของเครื่องบินด้วย

สอดคล้องกับอดีตผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางการบินของฝรั่งเศส (BEA) ที่ระบุว่า ความเสียหายของซากเครื่องบินดูเหมือนจะมีร่องรอยจาก 'สะเก็ดระเบิด'  

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินและการทหารบางคนคาดการณ์ว่า เครื่องบินอาจถูกระบบป้องกันทางอากาศของรัสเซียยิงตกโดยไม่ได้ตั้งใจ เนื่องจากบริเวณที่เครื่องบินบินผ่านมีการรายงานการเคลื่อนไหวของโดรนยูเครน  

เขากล่าวโดยไม่เปิดเผยตัวตนว่า ความเสียหายดังกล่าว 'คล้ายกับ' กรณีเครื่องบิน Malaysia Airlines เที่ยวบิน MH17 ที่ถูกขีปนาวุธยิงตกโดยกลุ่มกบฏที่รัสเซียสนับสนุนในยูเครนตะวันออกเมื่อปี 2014  

ขณะที่สำนักข่าว Kazinform ของคาซัคสถานรายงานว่า มีการกู้กล่องดำบันทึกการบินสองกล่องจากที่เกิดเหตุได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งต้องรอการสอบสวนต่อไป 

ทั้งนี้ หลังมีรายงานข่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวอาจประสบเหตุตกจากขีปนาวุธของรัสเซีย ทางด้านโฆษกเครมลิน ดมิทรี เพสคอฟ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “อย่าเพิ่งเชื่อสมมติฐานใดๆ มันอาจจะผิดหากสรุปการคาดเดาใด ๆ ก่อนการสอบสวนจะเสร็จสิ้น”

'แม่แบงค์ เลสเตอร์' ฝากถึงแก๊งเพื่อน ๆ อินฟลูเอนเซอร์ เหตุใดไม่ห้ามน้อง พร้อมย้ำอย่าทำพฤติกรรมอย่างนี้อีก

เมื่อวันที่ (26 ธ.ค. 67) ที่ผ่านมา นางวนิดา สังข์ฤทธิ์ ได้ทางมาถึงบริเวณห้องเก็บศพ โรงพยาบาลพระปกเกล้า เพื่อติดต่อขอรับร่าง ของแบงค์ เลสเตอร์  โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า เนื่องจากมีบรรดาเพื่อนที่เคยร่วมงานกับแบงค์ และเพื่อนของทางฝ่าย เอ็ม เอกชาติ เข้ามาร่วมแสดงความเสียใจรอรับร่างของแบงค์หลายคน 

เบื้องต้นนางวนิดา ได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ตนเองไม่ติดใจในการเสียชีวิตของลูกชายในครั้งนี้ แต่อยากจะเตือนเพื่อน ๆ ว่าอย่าทำพฤติกรรมอย่างนี้อีก และเตือนเบิร์ดว่าทำไมไม่ห้ามน้อง .. ขณะที่ เอ็ม เอกชาติ ร้องไห้โดยมีแม่คอยเช็ดน้ำตา พร้อมกับเบิร์ด วันว่าง ๆ  ปล่อยโฮเสียใจ ข้างแม่ของแบงค์

โดยร่างของแบงค์ถูกเคลื่อนออกจากห้องเก็บศพเมื่อเวลา 17:23 น. โดยใช้รถตู้เอกชนสีขาว หมายเลขทะเบียน นข 1951 จันทบุรี แม่ของแบงค์นั่งคู่ไปกับศพของแบงค์ด้วย โดยมุ่งหน้าไปยังวัด ออเงิน กรุงเทพมหานคร … ทางด้านหมอผู้ผ่าชันสูตร ศพของแบงค์ ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ผลชันสูตรยังไม่ออกอย่างเป็นทางการ แต่เบื้องต้น หลังจากผ่าชันสูตรเสร็จแล้วไม่พบว่ามีอวัยวะใดผิดปกติที่ทำให้เสียชีวิตได้ 

หลังจากที่ได้ทราบประวัติ จากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อ ก็คาดว่าอาจเป็นไปได้จาก ภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษ อย่างที่ทุกคนสงสัย ซึ่งในขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้เนื่องจากอยู่ระหว่างการส่งเลือดเข้าไปตรวจ ซึ่งต้องรอผลจากเลือดที่ส่งไปตรวจในห้องปฏิบัติการก่อนจึงจะสามารถยืนยันการเสียชีวิตได้ 

ทั้งนี้ทางโรงพยาบาล จึงได้มีการตรวจหาสารพิษหรือยาฆ่าแมลงร่วมกันไปด้วย เพื่อป้องกันข้อสงสัยในอนาคต แต่ต้องรอผลตรวจกลับมาก่อน สำหรับแอลกอฮอล์ที่มีปริมาณมากจนเป็นพิษต่อร่างกายของมนุษย์ ตามทฤษฎีจะมีอยู่ 300 ถึง 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับร่างกายและสภาวะของบุคคลคนนั้นด้วย

จีนปลด 2 นายพลพ้นสภาฯ เซ่นกวาดล้างทุจริตในกองทัพ

(27 ธ.ค.67) ทางการจีนประกาศปลดนายทหารระดับสูงสองนายอย่างกะทันหันจากการเป็นสมาชิกสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) โดยไม่มีการชี้แจงอย่างละเอียด สะท้อนถึงการเดินหน้ากวาดล้างบุคลากรระดับสูงในกองทัพอย่างต่อเนื่อง  

ตามรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก คณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติได้ยกเลิกสมาชิกภาพของ หยู่ ไห่เทา อดีตรองผู้บัญชาการกองทัพบกปลดปล่อยประชาชน และ หลี่ เผิงเฉิง ผู้บัญชาการกองทัพเรือประจำเขตยุทธการภาคใต้ ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นเขตที่มีข้อพิพาทด้านดินแดน ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ จู้ ซินชุน ผู้ดำรงตำแหน่งก่อนหน้าของหลี่ ก็ถูกปลดจากสภาเมื่อปีที่ผ่านมา  

คณะกรรมาธิการระบุเพียงว่า ทั้งสองนายตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าละเมิดกฎหมายและวินัย ซึ่งมักเป็นคำที่พรรคคอมมิวนิสต์ใช้กล่าวถึงการทุจริต การดำเนินการครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการต่อต้านการทุจริตในกองทัพ ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว โดยเป้าหมายหลักในระยะแรกคือหน่วยจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์และกองกำลังขีปนาวุธ  

เมื่อเดือนที่ผ่านมา จีนได้สั่งพักงานเจ้าหน้าที่ระดับสูงในคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง ซึ่งเป็นองค์กรสูงสุดด้านการทหารที่มีประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เป็นประธาน นอกจากนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม จีนได้สร้างความประหลาดใจอีกครั้งด้วยการแต่งตั้งผู้ตรวจการทางการเมืองคนใหม่ประจำกองทัพบก  

การเคลื่อนไหวดังกล่าวตอกย้ำถึงความพยายามของรัฐบาลจีนในการเสริมสร้างความโปร่งใสและความเป็นระเบียบในกองทัพ ท่ามกลางความตึงเครียดในภูมิภาคและการเฝ้าจับตามองจากนานาชาติ

นายกฯ กัมพูชายืนยันจุดยืนบูรณภาพแห่งดินแดน หลังมีเสียงวิจารณ์ปมเกาะกูด

ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวระหว่างพิธีมอบปริญญาบัตรแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยฮิวแมน รีซอร์ส เมื่อ 26 ธ.ค. โดยยืนยันจุดยืนของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดน หลังเผชิญเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในประเด็นเกาะกูด โดยย้ำว่ารัฐบาลยังคงมุ่งมั่นทำงานอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่ได้ตอบโต้ผ่านโซเชียลมีเดีย 

"ผมขอพูดอย่างชัดเจนว่า การที่รัฐบาลไม่ได้ตอบโต้ข้อกังวลบนเฟซบุ๊ก ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้ทำงานเพื่อปกป้องและเสริมสร้างบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศ หรือส่งเสริมการพัฒนาและยกระดับสถานะของกัมพูชาในเวทีโลก เราทำเรื่องนี้กันทุกวันอยู่แล้ว " นายกฯ ฮุนมาเนต ยังเน้นย้ำว่า "เรื่องนั้นไม่จำเป็นต้องโบกธงหรือตะโกนคัดค้านใดๆ สิ่งที่เราต้องทำคือมุ่งเน้นที่การทำงานของเรา"  

ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นเพื่อตอบโต้เสียงวิจารณ์ที่ว่ารัฐบาลของนายฮุนมาเนตเพิกเฉยต่อข้อกล่าวหาเรื่องการสูญเสียดินแดน โดยเฉพาะจากกลุ่มฝ่ายค้านชาวกัมพูชาในสหรัฐฯ ซึ่งเตรียมจัดการประท้วงในชื่อ 'ปกป้องเกาะกูด' (Defend Koh Kut) ที่เมืองลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย ในวันที่ 19 มกราคม  

รายงานจากสำนักข่าว พนมเปญโพสต์ ระบุว่า ประเด็นเกาะกูดกลายเป็นข้อพิพาท เนื่องจากทั้งกัมพูชาและไทยต่างอ้างกรรมสิทธิ์เหนือเกาะดังกล่าว ขณะที่สื่อไทยรายงานล่าสุดว่า ไทยได้ประกาศอ้างสิทธิเหนือเกาะนี้เช่นกัน  

ขณะที่กลุ่มฝ่ายค้านในสหรัฐฯ เรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาแสดงจุดยืนที่ชัดเจน โดยต้องการให้รัฐบาลยืนยันว่าเกาะกูดเป็นดินแดนของกัมพูชาอย่างเป็นทางการ หรือยกระดับประเด็นนี้ให้ถึงขั้นพิจารณาในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เพื่อแก้ไขข้อพิพาทอย่างเป็นธรรม

ลับแลกระจก : บานกระจกที่เชื่อมอดีต และปัจจุบัน พร้อมความลับแห่งประวัติศาสตร์ใน 2475 รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ

หากคุณได้ชมภาพยนตร์ 2475 รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ ฉากหนึ่งที่อาจผ่านตาแต่ไม่ทันสังเกต คือฉากในห้องลับหลังหอสมุดวชิรญาณ ที่ตัวละคร 'ลุงดอน' บรรณารักษ์ผู้เงียบขรึม เก็บกระจกบานใหญ่ไว้ในความมืด หากไม่ได้ใส่ใจ คุณอาจมองข้ามสิ่งที่อาจเป็น 'กุญแจ' ของประวัติศาสตร์อันลึกซึ้ง

กระจกบานนั้นใหญ่โต โดดเด่นด้วยกรอบไม้จำหลักลายพรรณพฤกษาและลายรักร้อยผสมผสานลวดลายแบบตะวันตกอย่างกลมกลืน แต่สิ่งที่ทำให้มันน่าสนใจยิ่งขึ้นคือ ไม้กางเขนกับมงกุฎ สัญลักษณ์ที่อาจดูเหมือนไม่ใช่ของไทย แต่กลับปรากฏบนงานฝีมือในยุคต้นรัตนโกสินทร์ ทำให้เกิดคำถาม—กระจกนี้มาจากไหน และมีความหมายอย่างไร?

จากราชมณเฑียร วังหน้า สู่ความลับในห้องสมุด
การสืบค้นประวัติศาสตร์พาเราย้อนกลับไปสู่ราชมณเฑียร วังหน้า ที่ซึ่งกระจกบานนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของพระราชมณเฑียรของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว กระจกดังกล่าวมีลักษณะเฉพาะตัว เป็นงานออกแบบที่สะท้อนการพบกันระหว่างโลกตะวันออกและตะวันตก—ลายไทยอันประณีตเคียงคู่กับสัญลักษณ์คริสต์ศาสนาอย่างไม้กางเขนและมงกุฎ สื่อถึงการต่อสู้ การทดสอบ และรางวัลจากสวรรค์ กระจกนี้ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องตกแต่งพระราชมณเฑียร แต่ยังสะท้อนพระราชรสนิยมและพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ในการนำพาประเทศไทยเข้าสู่โลกสมัยใหม่

แรงบันดาลใจในวรรณกรรมและภาพยนตร์
ความลึกลับของกระจกบานนี้ยังอาจเป็นแรงบันดาลใจให้กับ ทวิภพ วรรณกรรมเรื่องเยี่ยมที่ตัวเอกใช้กระจกบานใหญ่เป็นช่องทางย้อนเวลา เพื่อสื่อสารและเรียนรู้จากอดีต เช่นเดียวกับบทบาทใน 2475 รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ ที่กระจกนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการเชื่อมโยงระหว่างอดีตและปัจจุบัน

กระจกในฐานะสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์
ในบริบทของภาพยนตร์ 2475 รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ ลับแลกระจกไม่ได้เป็นเพียงสิ่งประกอบฉาก แต่แฝงความหมายที่ลึกซึ้ง มันเป็นเครื่องเตือนใจถึงความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย การมองอดีตเพื่อทำความเข้าใจกับปัจจุบัน และความลับที่ถูกเก็บซ่อนไว้ในมุมมืดของประวัติศาสตร์

การปรากฏของลับแลกระจกในภาพยนตร์เรื่องนี้สะท้อนถึงความใส่ใจในรายละเอียดของทีมผู้สร้าง ที่นำสิ่งของทางประวัติศาสตร์มาผสมผสานกับการเล่าเรื่องได้อย่างงดงาม นี่ไม่ใช่เพียงเรื่องราวของการปฏิวัติ หากแต่เป็นการชวนให้เรา 'มอง' ประวัติศาสตร์ในแง่มุมใหม่—ผ่านบานกระจกที่สะท้อนความจริงหลายชั้น ทั้งที่เราเคยมองข้ามไปและที่เราไม่เคยรู้มาก่อน

สำหรับใครที่ชมภาพยนตร์ 2475 รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ แล้วเกิดความสนใจใน ลับแลกระจก ที่ปรากฏในฉากของ 'ลุงดอน' และอยากเห็นของจริง คุณสามารถตามรอยประวัติศาสตร์นี้ได้ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

ตำแหน่งของกระจกในปัจจุบัน
ลับแลกระจกบานนี้ถูกจัดแสดงอยู่ในส่วนหนึ่งของพระที่นั่งบริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ซึ่งเดิมเคยเป็นราชมณเฑียรในวังหน้า พระราชวังของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว กระจกบานนี้ยังคงความสง่างาม แม้เวลาจะผ่านไปกว่าร้อยปี ด้วยกรอบไม้จำหลักลายพรรณพฤกษาและลายรักร้อยอันวิจิตรที่สะท้อนถึงความสามารถของช่างฝีมือในยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น

การเดินทางไปชม
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ตั้งอยู่บริเวณถนนหน้าพระธาตุ ใกล้สนามหลวง กรุงเทพมหานคร การเดินทางสะดวกสบายทั้งด้วยรถยนต์ส่วนตัวและรถโดยสารสาธารณะ หรือหากคุณอยู่ใกล้ย่านเมืองเก่า สามารถเดินทางโดยรถไฟฟ้าสายสีม่วง (MRT) มาลงที่สถานีสนามไชย และต่อรถหรือเดินเพียงเล็กน้อยก็ถึงสถานที่

สิ่งที่คุณจะได้พบ
เมื่อไปถึง คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศทางประวัติศาสตร์ที่ยังคงอบอวลอยู่ในทุกมุมของพิพิธภัณฑ์ นอกจากลับแลกระจก คุณยังจะได้ชมโบราณวัตถุอื่น ๆ ที่สะท้อนวิถีชีวิต รสนิยม และศิลปะในยุคของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับบทบาทของพระองค์ในประวัติศาสตร์ไทย

ข้อควรทราบ
การเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ควรตรวจสอบเวลาทำการล่วงหน้า โดยทั่วไปเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 9.00-16.00 น. และปิดทำการในวันจันทร์-อังคาร การซื้อตั๋วเข้าชมสามารถทำได้ที่จุดขายตั๋วบริเวณพิพิธภัณฑ์

นี่คือโอกาสที่คุณจะได้สัมผัสประวัติศาสตร์อย่างใกล้ชิด และชื่นชมความงดงามของลับแลกระจกในสถานที่จริง—การพบกันของอดีตและปัจจุบันผ่านบานกระจกที่สะท้อนความลึกซึ้งของประวัติศาสตร์ไทย

ไทยในฐานะชาติพันธมิตรกลุ่ม BRICS ปีหน้า 68 'บราซิล' เป็นเจ้าภาพจัดประชุม

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยเมื่อ 26 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า ประเทศไทยได้รับหนังสือเชิญอย่างเป็นทางการจากรัสเซียตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ซึ่งรัสเซียในฐานะเป็นประธานกลุ่ม BRICS ประจำปี 2567 ให้เข้าร่วมเป็นประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS และในวันที่ 24 ธันวาคม 2567 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้รับทราบว่า ไทยจะมีหนังสือตอบรับการเชิญดังกล่าว โดยในวันเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยได้ส่งหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เพื่อตอบรับการเข้าร่วมเป็นประเทศหุ้นส่วนกลุ่ม BRICS

กลุ่ม BRICS ได้กำหนดบทบาทของประเทศพันธมิตรไว้ในเอกสาร Modalities of BRICS Partner Country Category โดยในฐานะที่ไทยเป็นชาติหุ้นส่วน มีประเด็นหลักสำคัญที่ต้องมีส่วนร่วม เช่น ประเทศหุ้นส่วนจะต้องเข้าร่วมการหารือระหว่างประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS กับประเทศหุ้นส่วนในระดับต่าง ๆ ได้แก่ (1) การประชุมระดับผู้นำ (2) การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ และ (3) การประชุมรัฐมนตรีรายสาขาที่ได้รับเชิญอย่างแข็งขัน นอกจากนี้ ประเทศหุ้นส่วนยังสามารถให้การสนับสนุนเอกสารผลลัพธ์จากการประชุมผู้นำและรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่ม BRICS ได้ด้วย

การที่ไทยได้รับเชิญให้เข้าร่วมเป็นประเทศหุ้นส่วนกลุ่ม BRICS ถือเป็นก้าวสำคัญในการที่ไทยจะสามารถเข้าเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบของกลุ่ม BRICS ในอนาคต โดยไทยมีเป้าหมายในการยกระดับความร่วมมือกับกลุ่ม BRICS เพื่อเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ ทั้งในด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างบทบาทของไทยในการส่งเสริมความร่วมมือกับประเทศกำลังพัฒนาและเสริมสร้างระบบพหุภาคีที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศกำลังพัฒนา

กระทรวงการต่างประเทศมีแผนที่จะหารือเพิ่มเติมกับหน่วยงานและภาคส่วนต่าง ๆ ของไทย เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมเป็นประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS ต่อไป โดยในวันที่ 1 มกราคม 2568 บราซิลจะรับตำแหน่งประธานกลุ่ม BRICS ต่อจากรัสเซีย โดยจะใช้หัวข้อหลักในการประชุมคือ “การเสริมสร้างความร่วมมือของประเทศโลกใต้เพื่อธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนขึ้น” (Strengthening Cooperation in the Global South for More Inclusive and Sustainable Governance) ซึ่งไทยเตรียมจะเข้าร่วมการหารือดังกล่าว

‘เสกสรร - แสงมณี’ โพสต์ข้อความถึง ‘เบิร์ด วันว่าง ๆ’ บอกอยากทำคอนเทนต์ด้วย หลังเห็นแต่ละคลิปแล้วรับไม่ได้

( 27 ธ.ค.67) จากกรณี ‘แบงค์ เลสเตอร์’ หรือชื่อจริง นายธนาคาร คันธี อินฟลูเอนเซอร์สู้ชีวิต ที่เสียชีวิตกะทันหัน ขณะไปร่วมงานเปิดร้านการเกษตรแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี โดยสาเหตุคาดว่าเกิดจากการดื่มสุราในปริมาณมากอย่างรวดเร็ว เพื่อแลกกับเงิน 3 หมื่นบาท 

ล่าสุด เสกสรร อ.ขวัญเมือง นักมวยไทยชื่อดัง ได้ออกมาอัดคลิป พร้อมฝากถึง เบิร์ด วันว่างๆ หนึ่งในคนที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับประเด็นนี้ ว่า ตนอยากจะทำคอนเทนต์ด้วย

เสกสรร กล่าวในคลิปว่า “เบิร์ด วันว่างๆ แต่ละคลิป แต่ละคอนเทนต์ของคุณนี่ ไม่ธรรมดาจริงๆนะครับ ถ้าวันไหนคุณว่าง คุณช่วยมาทำคอนเทนต์กับผมสักวันนะครับ เดี๋ยวผมจัดให้ครับ เชิญนะครับ ฝากด้วยนะครับ เบิร์ด วันว่างๆ โอเคครับรู้เรื่อง”

นอกจากนี้ น้องบอล แสงมณี หรือ พงศกร สิทธิเดช อีกหนึ่งยอดมวยไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ยิ่งเห็นยิ่งสงสาร เบิร์ดแหละตัวดีแบบนี้เขาไม่เรียกคอนเทนต์หรอกแบบนี้เขาเรียกตั้งใจ เอาดิเอากับคนที่เขาสู้หน่อยอย่าเก่งเฉพาะกับคนที่เขาอ่อนแอกว่า


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top