Monday, 9 June 2025
TheStatesTimes

‘เจ้าหน้าที่ตำรวจ’ พบพิรุธ เชื่อ!! จัดฉาก ลวงฆ่าโหด ‘สจ.โต้ง’ ชี้!! มีการเตรียมตัวล่วงหน้า พร้อมปะทะในพื้นที่ ‘คิลลิ่งโซน’

(15 ธ.ค. 67) จากกรณี นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ถูกกลุ่มมือปืนซึ่งเป็นลูกน้องของ นายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี ใช้อาวุธปืนรุมยิงจนเสียชีวิตในบ้านพักของนายสุนทร หลังเข้าไปเจรจาปัญหาเกี่ยวกับการวางตัวผู้สมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.ปราจีนบุรี สมัยหน้า ต่อมาหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าระงับเหตุ พร้อมควบคุมตัว นายสุนทร พร้อมลูกสมุน รวม 7 คน ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและ ไตร่ตรอง รวมถึงความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน 

จากการเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุรวมถึงสอบปากคำพยานผู้เหตุการณ์และบุคคลใกล้ชิดต่างๆ เจ้าหน้าที่พบข้อพิรุธทางคดีหลายอย่างที่บ่งชี้ ว่า การเสียชีวิตของ สจ.โต้ง นั้น ไม่ใช่เหตุการณ์ซึ่งหน้า แต่น่าจะมีการวางแผนหรือเตรียมการมาก่อนที่ สจ.โต้ง จะเดินทางเข้ามาเจรจาปัญหากับ นายสุนทร หรือ โกทร

โดยเฉพาะข้อพิรุธเกี่ยวกับการแต่งกายของกลุ่มลูกน้องนายสุนทร ในวันเกิดเหตุ ที่พบว่า กลุ่มลูกน้องที่ทำหน้าที่เป็นมือปืน และ คนคอยคุมเชิงคุ้มกัน แต่ละคนล้วนสวมใส่รองเท้าผ้าใบเดินเข้าออกในบ้านตลอดเวลา ผิดปกติวิสัยของคนทั่วไปที่มักจะถอดรองเท้าก่อนจะเข้ามาเดินภายในบ้าน คล้ายกับการแต่งตัวให้ทะมัดทะแมง เพื่อเตรียมพร้อมก่อเหตุตลอดเวลา

นอกจากนี้จากการสอบปากคำคนใกล้ชิดของ นายสุนทร ที่เข้าออกบ้านหลังดังกล่าวเป็นประจำ ยังพบว่า ปกติแล้ว นายสุนทร จะไม่อนุญาตให้ลูกน้อง ขึ้นไปบนขั้นสองของตัวบ้านที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ในวันเกิดเหตุพบว่ากลุ่มลูกน้องของนายสุนทร สามารถเดินขึ้นลงชั้นสองได้ตลอดเวลา

สอดคล้องข้อมูลที่พบว่าช่วงระยะหลัง นับตั้งแต่ที่ นายสุนทร เริ่มบาดหมางกับ สจ.โต้ง ก็เริ่มมีการคัดกรองคนเข้าออกภายในบ้านมากขึ้น รวมถึงไม่อนุญาตให้ผู้ลูกน้องของ สจ.โต้ง ที่ติดตามมาด้วย เข้ามายืนอยู่ในชายคาบ้าน โดยจะให้ยืนรอที่บริเวณด้านหน้ารั้วบ้านแทนเพื่อความปลอดภัย

อย่างไรก็จากข้อพิรุธหลากหลายประเด็นดังกล่าว ประกอบกับมูลเหตุแรงจูงใจต่างๆ ยิ่งทำให้เจ้าหน้าที่ปักใจเชื่อว่า การสังหาร สจ.โต้ง นั้น น่าจะมีการวางแผนตระเตรียมการมาก่อนหน้าที่ สจ.โต้ง จะเดินทางมาถึง

20 บริษัทที่ถูกจัดอันดับว่าน่าทำงานด้วยมากที่สุดในโลก ประจำปี 2024

ในยุคที่การทำงานเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้คนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันออกจากงานทั้งการเปลี่ยนแบบสมัครใจและการเปลี่ยนขององค์กรเอง โดยในปีนี้ Forbes เองก็ได้จัดทำ 20 บริษัทที่ดีที่สุดในโลกเป็นผู้นำในด้านการพัฒนาและดูแลพนักงาน โดยพิจารณาจากความพึงพอใจของพนักงาน การรักษาสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน และการมีส่วนร่วมของพนักงาน 
โดยใน 20 บริษัทนี้มีการจ้างงานทั่วโลกรวมกันมากกว่า 3 ล้านคน และข้อมูลยังแสดงให้เห็นว่าบริษัทที่มีความพึงพอใจของพนักงานสูงมักมีประสิทธิภาพในการทำงานมากกว่าค่าเฉลี่ยถึง 20% แถมในบางบริษัทอย่าง Delta และ Apple ก็ยังมีการให้ผลตอบแทนแก่พนักงานด้วยการแบ่งปันผลกำไรและมอบหุ้นให้กับพนักงานด้วย

โดยบรรดาบริษัทที่ดีที่สุดในโลกกำลังนิยามใหม่ของการทำงานในยุคปัจจุบัน ด้วยโปรแกรมที่สร้างสรรค์ นโยบายที่สนับสนุน และความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตพนักงาน บริษัทเหล่านี้ยังคงเป็นผู้นำในด้านความเป็นเลิศในการจัดการแรงงานอีกด้วยค่ะ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ย้ำเตือน ตำรวจอายัดเงินเองได้ ไม่ต้องโอนมาให้ตรวจสอบ หากมีตำรวจวิดีโอคอลให้โอนเงิน มิจฉาชีพแน่นอน

(15 ธ.ค. 67) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีความห่วงใยประชาชนในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชนเกี่ยวกับรูปแบบของอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในรูปแบบของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หลอกลวงให้ผู้เสียหายเกิดความหวาดกลัวว่าจะถูกดำเนินคดี และให้โอนเงินมาเพื่อตรวจสอบแสดงความบริสุทธิ์ใจ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอย้ำเตือนพี่น้องประชาชน ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่าง ๆ มีอำนาจตามกฎหมายในการยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่มีไว้เป็นความผิด เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด หรือได้มาจากการกระทำความผิด โดยไม่จำเป็นต้องให้เจ้าของทรัพย์สินโอนทรัพย์สินดังกล่าวให้กับเจ้าหน้าที่

โดยหากพี่น้องประชาชนพบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ใช้วิธีการวิดีโอคอลหาท่าน 
เพื่อโน้มน้าวหรือข่มขู่ให้ท่านโอนเงิน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ หรือบางครั้งอาจข่มขู่ถึงขั้นให้ถอดเสื้อผ้า ถ่ายคลิปวิดีโอ ขอให้พี่น้องประชาชนนึกไว้ก่อนเลยว่าเป็นมิจฉาชีพแน่นอน

ทั้งนี้หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการหลอกลวงในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 และถ้าท่านตกเป็นเหยื่อ หรือได้รับความเสียหาย สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ หรือแจ้งความออนไลน์ได้ที่ เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือ สายด่วน 1441 ได้ ตลอด 24 ชั่วโมง

สมุทรปราการ-“บิ๊กโจ๊ก” ร่วมงานสังสรรค์สมาคมชาวใต้สมุทรปราการ ครั้งที่ 19 หารายได้จัดสร้างอาคารสำนักงานสมาคมชาวใต้สมุทรปราการ 

(14 ธ.ค 67) ที่ลานอเนกประสงค์ เยื้องหมู่บ้านพฤกษา 106 ถนนตำหร-บางพลี อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ทางสมาคมชาวใต้สมุทรปราการ ได้จัดงานเลี้ยงสังสรรค์พี่น้องชาวใต้ในจังหวสมุทรปราการเป็นครั้งที่ 19 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารายได้จัดสร้างอาคารสำนักงานสมาคมชาวใต้สมุทรปราการ โดยสมาคมชาวใต้สมุทรปราการ ได้จดทะเบียนยกฐานะ จากชมรมชาวใต้สมุทรปราการ ซึ่งได้มีประวัติ บันทึกไว้ว่าราวปี 2540 พี่น้องชาวใต้ 14 จังหวัด ในสมุทรปราการ ได้รวมตัวกันก่อตั้งชมรมชาวใต้สมุทรปราการขึ้นมาในขณะนั้น

โดยมี นายสุรเชษฐ์ คุยยกสุย ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านในขณะนั้น เป็นประธานชมรมคนแรก และได้มีการจัดกิจกรรมสังสรรค์เพื่อหารายได้นำไปช่วยเหลือที่น้องชาวใต้ และสาธารณประโยชน์มาอย่างต่อเนื่อง  กระทั่งปี พ.ศ. 2556 ทางกรรมการบริหารชมรมฯ ขณะนั้นมีความประสงค์จะยกฐานะให้ชมรมชาวใต้สมุทรปราการ เป็นองค์กรที่สามารถทำกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์อย่างเป็นทางการมากยิ่งขึ้น จึงได้มีมติจัดตั้งเป็นสมาคมขึ้น 

มีนายไพรัตน์ จันทร์ไชยแก้ว นายเฉลิม จันทร์เภา และนายพิศิษฐ์ รมย์ทอง เป็นผู้ยื่นขอจดทะเบียนก่อตั้งสมาคม เมื่อปี พ.ศ.2550 และมีนายไพรัตน์ จันทร์ไชยแก้ว เป็นนายกสมาคมคนแรก มีกรรมการบริหารสมาคม ชุดก่อตั้งทั้งหมดรวม 15 คน  ต่อมาสมาคมชาวใต้สมุทรปราการ ได้รับการสนับสนุนจากผู้ประกอบการ และพี่น้องชาวใต้และคนในจังหวัดสมุทรปราการ จนสามารถจัดซื้อที่ดินของสมาคมได้เป็นที่เรียบร้อย

ภายในงานยังได้รับเกียรติจากท่าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.ในฐานะนายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานกล่าวเปิดงาน โดยมี พล.ต.ต.ปกปภพ บดีพิทักษ์ ผบก.ศฝร.ภ.6 ประธานจัดงานสังสรรค์ชาวใต้สมุทรปราการ ครั้งที่ 19 เป็นผู้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้

มีนายไพรัตน์ จันทร์ไชยแก้ว นายกสมาคมชาวใต้สมุทรปราการ กล่าวให้การต้อนรับ นอกจากนี้ภายในงานยังได้รับเกียรติจากนายสุดใจ จิรยาภากร ประธาน กต.ตร.สมุทรปราการ ประธานที่ปรึกษาเดินทางมาร่วมให้การสนับสนุนพร้อมทั้งมอบเงินให้กับทางสมาคมเพื่อนำไปบริหารให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด นอกจากนี้ยังมีนายอำนวย สุวรรณรักษ์ อดีตอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ ที่ปรึกษา นายประสงค์ โภคเจริญดี กต.ตร.สมุทรปราการ ที่ปรึกษา นางสาวศุภลักษณ์ ปาลกะวงศ์ สมาพันธ์จิตอาสาชาวใต้ สมาคมชาวปักษ์ใต้ ในพระบรมราชูปถัมภ์ รองประธานจัดงาน นายชาญณรงค์ รมย์ทอง เลขาจัดงานฯ พันตำรวจตรี อดุลย์ รุ่งเรือง สารวัตรอำนวยการ สถานีตำรวจภูธรสำโรงใต้
ทนายวิจิตร ทองนุ่น (ทนาย ใจถึงพื่งได้ )  

ผู้ช่วยสมาชิกวุฒิสภาและที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ประจำคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดินวุฒิสภา ปิยพงษ์  เชื้อบ้านเกาะ(ปีเตอร์นคร)ตลอดจน คณะกรรมการบริหารสมาคมชาวใต้สมุทรปราการ คณะกรรมการฝ่ายจัดงาน สมาชิกสมาคมฯ ชมรมชาวใต้ที่ทำ MOU ร่วมกับทางสมาคมชาวใต้จังหวัดสมุทรปราการ 

และผู้ที่ให้การสนับสนุน รวมกว่า 1.000 คน เข้าร่วมงานกันอย่างคึกคักบรรยากาศภายในงานได้มีการส่งมอบธงโดย พล.ต.ต.ปกปภพ บดีพิทักษ์ ผบก.ศฝร.ภ.6 ได้ส่งมอบธงให้กับ นายธัญญารัตน์ พรหมสุทธิ์ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ ในการจัดงานครั้งที่ 20 ต่อไป ในการนี้ทางสมาคม ได้เนรมิตสถานที่ให้เป็นแบบงานวัด มีการออกร้านอาหาร ของทางภาคใต้ และภาคกลางมีการจำหน่ายสินค้าภาคใต้ตลอดจนเครื่องเล่นสนามบ้านลม ตุ๊กตาปูนพลาสเตอร์ระบายสี ตักปลา และห้องเด้งดึ๋ง เพลิดเพลินไปกับวงดนตรี วงกัลปังหา วงฉลามขาว วงคนข้างถนน และวงชาวาลา

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

ผลลัพธ์เยี่ยม! “เผ่าภูมิ” ชี้ “เงิน 10,000” ดันดัชนี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภค-SME-อุตสาหกรรม พุ่ง 3 ตัว พร้อมกัน

(15 ธ.ค. 67) ดร. เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงสถานการณ์ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนตุลาคม 2567 และพฤศจิกายน 2567 ดีขึ้นต่อเนื่อง 2 เดือนติด ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ 14.55 ล้านคน ที่ดำเนินตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา สะท้อนผ่านดัชนีทางเศรษฐกิจที่สำคัญ 3 ดัชนี ดังนี้

1) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confident Index: CCI) ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 2 เดือน จาก 55.3 จุด ในเดือนกันยายน 2567 เพิ่มขึ้นเป็น 56.0 จุด ในเดือนตุลาคม 2567 และเพิ่มขึ้นเป็น 56.9 จุด ในเดือนพฤศจิกายน 2567 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ส่งผลให้มีการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น สร้างความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น

2) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium Enterprises Sentiment Index: SMESI) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 เดือนติดต่อกัน จาก 49.6 จุด เพิ่มขึ้นเป็น 52.2 จุด ในเดือนตุลาคม 2567 และเพิ่มขึ้นเป็น 53.0 จุดในเดือนพฤศจิกายน 2567 โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งได้รับผลประโยชน์โดยตรงจากการเพิ่มกำลังซื้อในตลาด

3) ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (Thai Industrial Sentiment Index: TISI) ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 87.1 จุด เป็น 89.1 จุด ในเดือนตุลาคม 2567 จากการผลิตและยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ในบ้าน และอุปกรณ์การเกษตร และปุ๋ยเคมี ที่เพิ่มขึ้นจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมที่เริ่มฟื้นตัวและตอบสนองต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าจำเป็นที่ตอบโจทย์ความต้องการในชีวิตประจำวันและภาคการเกษตร

ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวขึ้นทั้ง 3 ดัชนี ข้างต้น สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้บริโภค ภาคอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการ SMEs ที่มีการตอบสนองที่ดีต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสะท้อนถึงความคาดหวังในทิศทางเศรษฐกิจที่ดี โดยเฉพาะการปรับตัวดีขึ้นในกลุ่มธุรกิจที่มีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งส่งผลดีต่อการบริโภคและการลงทุนในประเทศในระยะต่อไป

เมืองนครศรีธรรมราช ท่วมสูง 20-40 ซม. ปิดจราจร ลานสกา-ถึงคีรีวง เตือนปชช.เร่งอพยพขนของขึ้นที่สูง

(16 ธ.ค. 67) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ โดยมี 4 จังหวัดได้รับผลกระทบ ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช รวม 27 อำเภอ 137 ตำบล 814 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบรวม 43,595 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย

โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช รายงานเมื่อเวลา 00.20 น. ของวันที่ 16 ธันวาคม 2567 รายงานว่า น้ำป่าจากคีรีวงไหลลงสู่พื้นที่ลานสกา ระดับน้ำบริเวณสะพานคีรีวงใกล้ถึงใต้สะพานแล้ว เทศบาลนครนครศรีธรรมราชเตรียมรับมือขั้นสูงสุด

ทั้งนี้ปริมาณน้ำป่าที่ไหลบ่าทะลักเชี่ยวกรากผ่านน้ำตกหนานหินท่าหา บ้านคีรีวง ต.กำโลน อ.ลานสกา ลงคลองท่าดี เข้าสู่อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ใช้ระยะเวลาประมาณ 7 - 8 ชั่วโมง 

โดยเมื่อเวลา 22.30 น. ของวันที่ 15 ธ.ค. เทศบาลนครนครศรีธรรมราชประกาศระดับน้ำที่สถานีท่าใหญ่สูงถึง 650 ซม. (ขั้นสูงสุด) ขอให้ประชาชนในพื้นที่เตรียมเคลื่อนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง

เวลา 23.11 น. มีการแจ้งเตือนประชาชนใน 4 โซน จำนวน 20 ชุมชน ให้เตรียมขนย้ายทรัพย์สินและอพยพผู้เปราะบางไปยังพื้นที่ปลอดภัย เนื่องจากคาดว่าน้ำจะท่วมพื้นที่ในเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 16 ธันวาคม 2567

ณ เวลา 06.19 น. ของวันที่ 16 ธันวาคม 2567 สถานการณ์การจราจรในจังหวัดนครศรีธรรมราชมีดังนี้

- ถนนสาย 403 ท้ายสำเภา-มหาวิทยาลัยรามคำแหง: น้ำท่วมสูง รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้
- ทางเข้าศูนย์ราชการนาสาร: รถเล็กไม่สามารถผ่านได้
- เส้นทางนาพรุ-เบญจม: รถผ่านไม่ได้
- ถนนกะโรม-เบญจม: ผ่านได้เพียงฝั่งเดียว

เมื่อเวลา 07.50 น. เจ้าหน้าที่ประกาศปิดเส้นทางฝั่งขาออก ตั้งแต่หน้า ธ.ก.ส. ลานสกา จนถึงทางเข้าคีรีวง จนถึงขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดนครศรีธรรมราชครอบคลุม 11 อำเภอ 51 ตำบล 289 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบรวม 32,608 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย

กรมชลประทานรายงานปริมาณฝนสะสมในพื้นที่นครศรีธรรมราชตลอด 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา (14-15 ธันวาคม 2567) วัดได้ 299.0 มิลลิเมตร โดยมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 63 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 19 เครื่อง ในพื้นที่เสี่ยงต่าง ๆ เพื่อลดผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่งระดับน้ำในคลองท่าดี ณ สถานี X.285 ยังคงสูงกว่าตลิ่งประมาณ 0.66 เมตร และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เชียงใหม่-กองบิน 41 ร่วมพิธีเปิดปฏิบัติการ (Kick off) แก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทำให้ประชาชนมีความสุข

วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม 2567 นาวาอากาศเอก ปรธร จีนะวัฒน์ ผู้บังคับการกองบิน 41 ร่วมพิธีเปิดปฏิบัติการ (Kick off) แก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทำให้ประชาชนมีความสุข ซึ่งบูรณาการร่วมกัน เปิดปฏิบัติการ kick off ตรวจปัสสาวะกลุ่มเป้าหมาย เร่งค้นหาผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดในพื้นที่ ตั้งเป้าจะประกาศเป็น “จังหวัดสีขาว” ปลอดยาเสพติด ให้ได้ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 โดยมี นายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธี ณ สนามกีฬาเทศบาลตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

ในโอกาสนี้ ผู้บังคับการกองบิน 41 ได้มอบหมายให้ นาวาอากาศเอก ชัยวัฒน์ เสมียนรัมย์ เสนาธิการกองบิน 41 ร่วมออกตรวจพื้นที่เทศบาลตำบลสุเทพ ที่ดำเนินการตรวจปัสสาวะกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุตั้งแต่ 14-65 ปี ซึ่งจัดตั้ง ณ วัดโป่งน้อย ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ และในการค้นหาผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดในพื้นที่ และนำผู้เสพ ผู้ติด และผู้มีอาการทางจิต เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาฟื้นฟู และฟื้นฟูสภาพทางสังคม สร้างงาน สร้างอาชีพ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้อยู่ดีกินดีในระยะยาว โดยไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกต่อไป

นภาพร/เชียงใหม่

ตชด.ลุยน้ำท่วม ช่วยชาวบ้าน “ช้างศึก 1” สั่งกำชับ ตชด.ลงพื้นที่ช่วยประชาชน กาะติดสถานการณ์น้ำท่วมใต้ใกล้ชิด จัดกำลังช่วยเหลือทันท่วงที “ตชด.สิชล – ชุมพร” ส่งอาหาร น้ำดื่ม ยา บรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย

เมื่อวันที่ (15 ธ.ค. 67) พล.ต.ต.นิตินัย หลังยาหน่าย รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ( รรท.ผบช.ตชด. ) สั่งการชับ ให้ บก.ตชด.ภาค 4 และหน่วยงานในสังกัด ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม จว.ชุมพร จว.ระนอง จ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากฝนตกหนัก น้ำท่วมสูงหลายพื้นที่ มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน ยานพาหนะได้รับความเสียหาย โดยให้ ตชด. นำ ยานพาหนะ และอุปกรณ์บรรเทาภัย เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม พร้อมบูรณาการทำงานกับหน่วยในพื้นที่เข้าให้การช่วยเหลือจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ขณะเดียวกันให้ติดตามสถานการณ์น้ำ เฝ้าระวัง เตรียมพร้อมการเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างที่อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันอีกระลอก

วันนี้ (15 ธ.ค. 67 ) พ.ต.ต.สมเกียรติ์ เทพฉิม ผบ.ร้อย ตชด.424 นำกำลังลงพื้นที่ ตำบลสำเภา อ.สิชล จว.นครศรีธรรมราช ซึ่งยังมีน้ำท่วมสูง ประชาชนได้รับความเดือดร้อน รถเล็กยังไม่สามารถสัญจรเข้าหมู่บ้านได้ ตชด.ได้ออกสำรวจพื้นที่ นำน้ำดื่มแจกจ่ายบรรเทาทุกข์ของประชาชน

ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.สวี จว.ชุมพร ยังมีน้ำท่วมประชาชนได้รับความเดือดร้อนหลายครัวเรือน กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 41 นำ  โดย พ.ต.อ.จาริพัฒน์  ทองแดง ผกก.ตชด.41 พร้อมชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัย ลุยน้ำนำข้าวกล่อง, น้ำดื่ม, ถุงยังชีพ พร้อมยาเวชภัณฑ์  แจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ต.ทุ่งระยะ ต.สวี อ.สวี ซึ่งมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม 33 ครัวเรือน กว่า 100 คน ปัจจุบันในพื้นที่ไม่มีฝนตกแล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมสูง ซึ่งต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป.

สส.พิมพ์ภัทราเปิดบ้านตั้งครัวช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม เผยสถานการณ์ น้ำท่วมนครศรีธรรมราช ยังวางใจไม่ได้

(16 ธ.ค. 67) พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค รวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ว่าสถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากมรสุมตะวันออกยังไม่แน่นอน

“ตั้งแต่เมื่อวานซืน ปุ้ยยังลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และวันนี้ได้เปิดบ้านตั้งครัวช่วยเหลือผู้ประสบภัย เราจะอยู่เคียงข้างกันท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังไม่ปกติ” เธอกล่าว พร้อมย้ำว่าสภาพอากาศยังมีฝนตกต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำในคลองท่าทนและคลองท่าเชี่ยวระบายลงสู่อ่าวไทยได้ยาก เนื่องจากระดับน้ำทะเลหนุนสูงและมีสิ่งกีดขวางทางน้ำ ซึ่งทุกหน่วยงานท้องถิ่นกำลังเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่

พิมพ์ภัทรา กล่าวเพิ่มเติมว่า เช้าวันนี้ น้ำล้นตลิ่งในหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง จึงได้เปิดบ้านเพื่อจัดตั้งโรงครัวช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย

เธอเตือนว่า สภาพอากาศยังคงไม่น่าไว้วางใจ เนื่องจากแนวร่องมรสุมขยับขึ้นลงผ่านพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ชุมพรจนถึงชายแดนภาคใต้ ทำให้ดินในหลายพื้นที่อิ่มตัวจากฝนตกสะสมหลายวัน เสี่ยงต่อเหตุดินถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่เทือกเขาหลวงตั้งแต่ขนอมจนถึงทุ่งสง ซึ่งมีความเสี่ยงสูง

“พื้นที่บ้านเราที่สิชล ขนอม ท่าศาลา และนบพิตำ ซึ่งมีพื้นที่เกษตรกรรมบนเนินเขาจำนวนมาก ต้องเพิ่มความระมัดระวังสูงสุด หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที” เธอกล่าวปิดท้ายด้วยความหวังว่า “เราจะผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกันค่ะ”

โดรนอิหร่าน บอลลูนจีน มิสไซล์รัสเซีย ย้อนคำอ้างที่ไร้มูลความจริงของสหรัฐฯ

(16 ธ.ค. 67) เมื่อไม่กี่วันก่อนสภาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน เจฟเฟอร์สัน แวน ดรูว์ ได้กล่าวในตอนหนึ่งของรายการทางช่อง Fox News ว่าพบโดรนต้องสงสัยบินเหนือน่านฟ้ารัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งคาดว่าโดรนดังกล่าวถูกส่งมาจากเรือแม่ของอิหร่านที่ลักลอบสอดแนมนอกชายฝั่งสหรัฐ โดยนายแวน ดรูว์ ได้อ้างแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อถึงกิจกรรมสอดแนมดังกล่าว 

อย่างไรก็ตาม เลขาธิการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ อเลฮานโดร มายอร์คัส เปิดเผยในเวลาต่อมาว่า ไม่พบหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่ามีกิจกรรมโดรนสอดแนมจากต่างชาติบนแผ่นดินสหรัฐฯ ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐออกมาให้ข่าวสร้างความหวาดกลัวที่ไร้มูลควาจริงต่อสาธารณะ

จากการตรวจสอบของสำนักข่าวสปุตนิกพบว่า เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่าน ก็มีรายงานจากคำอ้างของวุฒิสมาชิกริค สก็อตต์ ที่ส่งถึงรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ โดยว่า กระเทียมที่นำเข้าจากจีนอาจปลูกในสภาพที่ไม่สะอาดและเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคในสหรัฐ อาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ จึงสมควรมีการสอบสวน แต่อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์สหรัฐไม่ได้มีการสั่งระงับการนำเข้ากระเทียมจากจีนแต่อย่างใด

ก่อนหน้านั้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 มีประเด็นเรื่อง บอลลูนอากาศจากจีนหลุดเข้ามาในอากาศเขตสหรัฐฯ โดยขณะนั้นรัฐบาลไบเดนออกมากล่าวโทษว่า บอลลูนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสอดแนมรัฐบาลปักกิ่ง แต่ในภายหลังจากนั้น กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ก็ยอมรับว่า บอลลูนดังกล่าวไม่ได้ทำการเก็บข้อมูลข่าวกรองใดๆ ขณะบินอยู่ในเขตอเมริกา  และก็ยังไม่ทราบถึงที่มาว่าบอลลูนดังกล่าวถูกส่งมาจากที่ใด

อีกหนึ่งภัยคุกคามที่สปุตนิกพบว่ารัฐบาลสหรัฐมักกล่าวอ้างคือ นิวเคลียร์จากอวกา โดยในดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สื่อของสหรัฐฯ ได้ออกมาส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับแผนการที่อ้างว่า รัสเซียมีแผนที่จะนำอาวุธต่อต้านดาวเทียมที่มีพลังนิวเคลียร์ไปใช้ในอวกาศ โดยอ้างหลักฐานเดียวคือคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลไบเดน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหน่วยงานด้านอวกาศแห่งอื่นใดออกมาให้ข้อมูลดังกล่าว ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวในระหว่างการกล่าวปราศรัยในรัฐสภา โดยระบุว่าเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริง 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top