Saturday, 28 June 2025
PoliticsQUIZ

"โฆษกพรรคกล้า" เสนอดึงวาระแก้ ม.272 ยกเลิกอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯ ขึ้นพิจารณาก่อนดักทางหาก พปชร.- ส.ว. ไม่เอาด้วย เพื่อไทย - ปชป. ก็ไม่ควรเห็นชอบร่างแก้ไข รธน.ของ พปชร. เช่นกัน ย้ำอย่าให้การแก้ไข รธน. เป็นแค่การผลัดกันเกาหลัง เอื้อประโยชน์นักการเมือง 

นายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรคกล้า กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภา พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระรับหลักการว่า ประเด็นสำคัญที่สังคมรวมถึงพรรคกล้า คาดหวังมากที่สุด คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ยกเลิกอำนาจ ส.ว. เลือกนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อพิจารณาจากระเบียบวาระ 13 ร่าง พบว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 อยู่ลำดับที่ 4 และลำดับที่ 11 จึงอยากให้สมาชิกรัฐสภาเลื่อนการแก้ไขยกเลิกมาตรา 272 ขึ้นมาพิจารณาและลงมติก่อน จะได้รู้ว่าหากพรรคพลังประชารัฐและ ส.ว. ไม่เห็นชอบยกเลิกอำนาจ ส.ว. หลังจากนั้นพรรคการเมืองโดยเฉพาะพรรคที่เสนอยกเลิกอำนาจ ส.ว. อย่างเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ ก็ควรลงมติล้มร่างรัฐธรรมนูญที่พรรคพลังประชารัฐต้องการเช่นกัน ตามแนวคิดที่นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ได้เสนอแนวทางไว้ 

"การเสนอเลื่อนมาตรา 272 ขึ้นมาพิจารณาและลงมติก่อน จะมีผลต่อการตัดสินใจลงมติในประเด็นต่อๆ ไป หากผลออกมาว่าพรรคพลังประชารัฐและ ส.ว. ไม่เห็นชอบยกเลิกอำนาจ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรี พรรคการเมืองโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ที่มี ส.ส. เกินกว่าร้อยละ 20 ของพรรคที่ไม่มีรัฐมนตรี ประธานและรองประธานสภาฯ ตามเงื่อนไขการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ควรตั้งเงื่อนไขให้ชัดว่า จะไม่เห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรคพลังประชารัฐต้องการเช่นกัน" นายแสนยากรณ์ กล่าว 

โฆษกพรรคกล้า กล่าวว่า ถ้ารัฐสภานำประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องอื่นๆ เช่นบัตรเลือกตั้ง หรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 144,185 ตัดบทลงโทษ ส.ส.แปรญัตติเอางบประมาณแผ่นดินมาใช้ ขึ้นมาพิจารณาก่อน แล้วทุกฝ่ายลงมติเห็นชอบ จากนั้นเอาประเด็นยกเลิกอำนาจ ส.ว.ไว้ท้ายสุด แล้วหักมุมลงมติลงมติล้มตอนท้ายก่อนปิดประชุม หากออกมาเป็นแบบนี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญคงเป็นเพียงแค่การผลัดกันเกาหลัง เห็นชอบแค่ประเด็นที่นักการเมืองได้ประโยชน์เท่านั้น 

“ชวน” เผยไทม์ไลน์ถกแก้ รธน. ยันลงมติแยกแต่ละฉบับ 24 มิ.ย. ตั้งกมธ.เป็นไปตามขั้นตอน

ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ก็จะไล่ตามลำดับของพรรคเพื่อไทย พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ และชาติไทยพัฒนา 

เมื่อถามว่าความเป็นไปได้ที่จะรวมทั้ง 13 ญัตติเข้ามาพิจารณาเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการนั้น นายชวน กล่าวว่า ก็คงพิจารณาไปพร้อมกันคือให้เสนอไปทีละฉบับ แต่ว่าจะไปลงมติแยกในวันพรุ่งนี้ (24 มิ.ย.) ซึ่งเวลาลงมติก็จะลงแยก แต่จะมีการถามทีละฉบับ ซึ่งคำนวณเวลาที่ใช้ในการลงมติอาจจะหลายชั่วโมง 

เมื่อถามอีกว่าถ้ามีข้อเสนอในช่วงสุดท้ายให้ตั้ง กมธ. ชุดเดียว เรื่องนี้ต้องแล้วแต่สมาชิกจะเป็นคนเสนอใช่หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า เรื่องนี้จะเป็นไปตามขั้นตอนต่อไป 

เมื่อถามว่าถ้าจะมีการขยายวันประชุมเป็นวันที่สามจะเป็นไปได้หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า เรากำหนดเวลาไว้ฝ่ายละ 6 ชั่วโมง และลงมติในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเขาก็จะมีการเฉลี่ยกันว่าแต่ละพรรคใช้เวลาเท่าไหร่แล้ว

'มงคลกิตติ์' รับ 'ไทยศรีวิไลย์' อาจสูญพันธุ์ ลั่นยึดศักดิ์ศรี ต้านพลังดูดพรรคใหญ่

23 มิถุนายน 2564 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า เผยความคิด อุดมการณ์ ส.ส.เต้ 007# มีเพื่อน ส.ส. และประชาชนจำนวนมากถามผมว่า ถ้าแก้ รธน. เป็นแบบบัตร 2 ใบ พรรคเล็กสูญพันธุ์เหลือแต่พรรคใหญ่เท่านั้น ผมไม่ไปเข้าพรรคใหญ่หรือมีโอกาสรอดเป็น ส.ส. นะ แต่ถ้าทำพรรคเดิม ต้องใช้คะแนนถึง 350,000 คะแนน ถึงจะได้ ส.ส. 1 ที่นั่ง

ผมตอบว่าผมไม่เป็นไร ผมเดินพรรคต่อตามอุดมการณ์เดิมถึงเวลานั้น ถ้าประชาชนเลือกพรรคไทยศรีวิไลย์ไม่ถึงจำนวนที่กฎหมายกำหนดหรือไม่เลือก ผมก็แค่กลับไปสอนหนังสือ ไปเป็นวิศวกร ไปเป็นประชาชนเท่านั้น

จะให้ผมไปจ้างให้ประชาชนมาเลือกเพื่อให้ได้เป็นผู้แทน (ส.ส.) แบบท่านอื่นๆ ผมไม่ทำ ผมจะไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีความเป็นคน และเป็นผู้แทนที่จ้างประชาชนมาเลือก ผมไม่เอาเด็ดขาด ผมต้องการเป็น ผู้แทนของประชาชน ก็ต่อเมื่อประชาชนเลือกผมมาเป็นปากเป็นเสียงแทนพวกเขา สู้เพื่อพวกเขา แก้ปัญหาให้พวกเขา มิใช่จ้างพวกเขามาเลือกให้เราได้เป็นผู้แทนเพื่อมาฟังคำสั่งเจ้าของเงินที่ให้เงินเรามาจ้างประชาชนมาเลือกเด็ดขาด

 

ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/107321


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'จตุพร' นำทีมบุกทำเนียบ ประกาศยกระดับขับไล่ ‘บิ๊กตู่’ จากตำแหน่งนายกฯ ลั่น 24 มิ.ย. เจอยุทธการแม่น้ำ 100 สาย แผนพิฆาตฟ้าทลายโจร

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2564 ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายนิติธร ล้ำเหลือ ตัวแทนกลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) พร้อมด้วยสมาชิกคณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือผ่านนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อขอให้ลาออกจากตำแหน่ง และให้รัฐสภาเลือกบุคคลอื่นมาทำหน้าที่แทน รวมถึงให้ร่างรัฐธรรมนูญที่มีความเป็นประชาธิปไตยฉบับใหม่ โดยประชาชนที่เป็นผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ

จากนั้นนายจตุพร ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่ 24 มิถุนายน สมาชิกคณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย จะนัดชุมนุมกันที่ สะพานผ่านฟ้าลีลาศ ในเวลา 16.00 น. และจะเคลื่อนขบวนมาขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ โดยใช้เส้นทางผ่านถนนนครสวรรค์ มาที่ทำเนียบรัฐบาล แต่หากถูกสกัดกั้นก็จะกลับไปรวมกันในจุดเดิม ตนอยากฝากไปถึงผู้ที่บงการอยู่ในทำเนียบรัฐบาลว่า คุณยิ่งใช้อำนาจข่มขู่ประชาชนมากเท่าไหร่ ประชาชนจะมามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการออกมาแสดงพลังในวันที่ 23 มิถุนายนนี้ เวลา 19.00 น. ที่จะให้ประชาชนที่ต้องการขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กของตัวเอง โดยตั้งชื่อหัวข้อว่า ประยุทธ์ออกไป

นายจตุพร กล่าวว่า ตนอยากเตือนพี่น้องตำรวจให้มาเป็นมิตรกัน เพราะพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในอำนาจไม่กี่วัน แต่ประชาชนและประเทศชาติจะอยู่ตลอดไป ส่วนมาตรการต่างๆ ที่จะใช้รับมือกับการชุมนุม พวกตนไม่กังวล เพราะผ่านความตายกันมาหมดแล้ว ต้องโทษประหารชีวิต และติดคุกกันมาหมดแล้วหลายรอบ การออกมาข่มขวัญกันไม่สามารถทำอะไรพวกตนได้ ดังนั้นยุทธการแม่น้ำ 100 สาย แผนพิฆาตฟ้าทลายโจร ในวันที่ 24 มิถุนายนจะบังเกิด ให้พล.อ.ประยุทธ์ไปวิเคราะห์แผนนี้ เพื่อจะได้รับจะได้รับมือประชาชนได้ถูกต้อง

ทั้งนี้ในการต่อสู้ของประชาชนจะใช้แนวทางสันติวิธี เพียงแต่เจ้าหน้าที่จะต้องไม่ใช้ความรุนแรง หากใช้ความรุนแรง ประชาชนจะมาเพิ่มอีกหลายเท่าตัว ขอยืนยันว่าขณะนี้ตนยังไม่ได้ระดมหรือขนคนมาร่วมชุมนุม แต่บอกให้พี่น้องที่ไม่อยากทนกับระบอบประยุทธ์มากันเองอย่างแม่น้ำ 100 สาย และเชื่อว่าไม่มีใครสกัดกั้นประชาชนได้ อย่ากลัวการข่มขู่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ให้กลัวการอดตาย และความหายนะของประเทศชาติ เพราะคุกขังประชาชนไม่เพียงพอแจงมูลเหตุความล้มเหลวของบ้านเมืองและประกาศเจตนารมณ์มายังรัฐบาลให้ทราบโดยทั่วกัน

 

ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/107198


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

พล.อ.ประวิตร ช่วยเหลือคนพิการ สนับสนุนกองทุนดิจิทัลฯ ส่งเสริมการศึกษา/การเข้าถึง อนุมัติขยายเวลาโครงการ ช่วยแพทย์/พยาบาล  รับมือโควิด-19 ย้ำทุกโครงการ ต้องโปร่งใส ปชช.ได้ประโยชน์ คุ้มค่า

พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม ครั้งที่ 2/2564 โดยมี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดศ. เข้าร่วมประชุม  ณ  ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

ที่ประชุม ได้รับทราบความคืบหน้าการดำเนินงาน ของกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมโดยได้ทำการเปิดรับข้อเสนอโครงการประจำปี 2564 ครั้งที่ 1 ทั้งสิ้น 649 โครงการ ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการกลั่นกรองพิจารณาโครงการ จะได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลต่อไป

จากนั้น คณะกรรมการฯ ได้ร่วมกันพิจารณาเห็นชอบโครงการที่สำคัญ และจำเป็นเร่งด่วน ได้แก่ โครงการศึกษา และพัฒนาทักษะทางสังคม (Soft skills) และทักษะดิจิทัล (Digital Skill) เพื่อรองรับการพัฒนาแห่งอนาคต ภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ และโครงการศึกษาแนวทางการส่งเสริมและสนับสนุนการเข้าถึง และใช้ประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับคนพิการ รวมทั้งเห็นชอบการขอขยายระยะเวลาโครงการ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ได้แก่

1.)โครงการจัดหาระบบ ICT และ Health Tech เพื่อส่งเสริมการรักษาพยาบาล และเพิ่มศักยภาพการรับมือโควิด-19 จำนวน 90 วัน

2.)โครงการหุ่นยนต์ AI ช่วยแพทย์และพยาบาล ช่วงโควิด-19 ของ รพ.อู่ทอง จำนวน 120 วัน และ

3.) โครงการระบบปรับแรงดันอาการเป็นลบขนาดใหญ่ ของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าฯจำนวน 180 วัน

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้คณะอนุกรรมการฯ และคณะทำงาน จะต้องพิจารณากลั่นกรองโครงการ อย่างรอบคอบ และคัดเลือกโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาดิจิทัล อย่างแท้จริง โดยคำนึงถึงความโปร่งใสในทุกขั้นตอนของการพิจารณา การใช้จ่ายงบประมาณจะต้องเป็นไปอย่างคุ้มค่า โปร่งใส และเกิดประโยชน์ต่อประชาชน ตามนโยบายของรัฐบาล

ศรีสุวรรณ จี้ ป.ป.ช. สอบ อธิบดีกรมธนารักษ์ หลังชาวบ้าน ร้อง เอาที่ สาธารณะ ริมคลองเปรมประชากร ให้เอกชนเช่า ปลูกบ้าน ส่อ ทุจริตต่อหน้าที่

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ได้นำตัวแทนหมู่บ้านต่างๆ ใน ซอยงามวงศ์วาน 59 เขตจตุจักร เดินทางมายื่นคำร้องขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบการใช้อำนาจของอธิบดีกรมธนารักษ์ กรณีที่นำพื้นที่ถนนสาธารณะและสวนสาธารณะริมคลองเปรมประชากรไปให้เอกชนเช่าปลูกบ้านอาศัย อันถือได้ว่าเข้าข่ายการทุจริตต่อหน้าที่หรือไม่

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า สืบเนื่องจากสำนักระบายน้ำ กทม.ได้เข้ามาก่อสร้างเขื่อนและทางเดินริมคลองเปรมประชากร เพื่อพัฒนาภูมิทัศน์และป้องกันการบุกรุกของชุมชนแออัดอย่างผิดกฎหมาย บริเวณซอยงามวงศ์วาน 59 ริมคลองเปรมประชากร ตามนโยบายของรัฐบาล ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวได้รวมตัวกันเป็นชมรมคนรักคลองเปรม ได้ช่วยกันพัฒนาพื้นที่ริมคลองดังกล่าวตามแนวถนนซอยงามวงศ์วาน 59 ให้สวยงาม ร่วมใจบริจาคเงินมาร่วมกันปลูกต้นไม้ดอก ไม้ประดับ พืชผักสวนครัว เพื่อให้เกิดภูมิทัศน์ที่สวยงาม

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ปรากฏว่าพื้นที่ถนนสาธารณะและสวนสาธารณะที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันมากว่า 80 ปีเนื้อที่ประมาณ 8 ไร่ 21 ตารางวาดังกล่าว ถูกกรมธนารักษ์ นำไปให้เอกชนเช่าในราคาถูกเพื่อสร้างบ้านพักอาศัยแล้ว และขณะนี้กลุ่มผู้เช่าดังกล่าวได้ออกมาแสดงสิทธิ์ในการเช่าโดยการปักป้ายบริเวณสวนหย่อมที่ชาวบ้านร่วมกันพัฒนาขึ้นมาว่า “ห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้ามาใช้ประโยชน์ หรือทำให้ทรัพย์สินเสื่อมเสีย เสียหาย หากผู้ใดฝ่าฝืน จะดำเนินคดีตามกฎหมาย” ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวเป็นถนนสาธารณะที่ชาวบ้านใช้เป็นเส้นทางสัญจรเข้าออกชุมชนมาอย่างยาวนานก็ตาม

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า พื้นที่ริมคลองหรือพื้นที่ริมตลิ่งนั้น ตามป.แพ่งและพาณิชย์ ม.1304(2) บัญญัติให้เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เพื่อสาธารณประโยชน์หรือสงวนไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกัน อีกทั้งตามพระราชบัญญัต(พ.ร.บ.)ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2562 ได้บัญญัติไว้ว่า “ที่ราชพัสดุ หมายความว่า อสังหาริมทรัพย์อันเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินทุกชนิด เว้นแต่ สาธารณสมบัติของแผ่นดิน คือ  อสังหาริมทรัพย์สําหรับพลเมืองใช้หรือสงวนไว้เพื่อประโยชน์ของพลเมืองใช้ร่วมกันเป็นต้นว่า ที่ชายตลิ่ง ทางน้ำ ทางหลวง ทะเลสาบ” ดังนั้น การที่กรมธนารักษ์นำที่ชายตลิ่งริมคลอง ซึ่งเป็นถนนและสวนสาธารณะมาให้เอกชนเช่า ย่อมเป็นการฝ่าฝืนย้อนแย้งกฎหมายของตนเองโดยชัดแจ้ง

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อไต่สวนสอบสวนเอาผิดกรมธนารักษ์และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ฐานทุจริตต่อหน้าที่ ตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม พ.ศ.2561 และตาม ป.อ.มาตรา 306 

รมต. ประจำสำนัก ยัน พร้อมเข้าสู่ รัฐบาลดิจิทัล ยึด เป้าหมาย 4 ด้าน

ที่อาคารบางกอกไทยทาวเวอร์ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการอบรมหลักสูตรการพัฒนาผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูงภาครัฐ (Government Chief Information Officer : GCIO) รุ่นที่ 30 ผ่านระบบประชุมทางไกล โดยมีนายสุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อํานวยการสํานักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล นายอนุรุทธิ์ นาคาศัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าร่วม 

โดยนายอนุชา กล่าวว่า รัฐบาลโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนผ่านภาครัฐให้พร้อมกับการเข้าสู่รัฐบาลดิจิทัล โดยมุ่งเน้นเป้าหมาย 4 ด้านสำคัญคือ

1.การสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน  

2. การลดความเหลื่อมล้ำ

3. โปร่งใสตรวจสอบได้ และ

4.สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ภายใต้วิสัยทัศน์ “รัฐบาลดิจิทัล เปิดเผยเชื่อมโยงและร่วมกันสร้างบริการที่มีคุณค่าให้ประชาชน” ซึ่งจากผลสำรวจรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (United Nations E-Government Survey) 

นายอนุชา กล่าวว่า องค์การสหประชาชาติ พบว่าในปี 2563 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 57 ของจำนวนสมาชิก 193 ประเทศ ไต่อันดับขึ้นจากอันดับที่ 73 ในปี 2561 การก้าวกระโดดขึ้นมาถึง 16 อันดับในช่วงเวลาเพียง 2 ปี ถือว่าเป็นผลงานที่ดีเยี่ยม โดยส่วนหนึ่งเกิดจากรัฐบาลได้ให้การสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรภาครัฐด้านดิจิทัลมาโดยตลอด โดยมีสถาบันพัฒนาบุคลากรภาครัฐด้านดิจิทัล : Thailand Digital Government Academy หรือ TDGA ภายใต้การดำเนินงานของ สพร. ทำหน้าที่ขับเคลื่อนการยกระดับทักษะดิจิทัลของข้าราชการและบุคลากรภาครัฐร่วมกับหน่วยงานและสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้อง 

นายอนุชา กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเข้ารับการอบรม จำนวน 80 คน ซึ่งผู้เข้ารับการอบรมเป็นระดับผู้บริหารขององค์กรภาครัฐด้านเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง (CIO) หรือ ผู้ช่วยผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง (CIO Assistant) โดยหลักสูตรมุ่งเน้นให้ผู้เข้ารับการอบรมเข้าใจในบทบาท หน้าที่และเสริมสร้างสมรรถนะที่จําเป็นของผู้บริหารสารสนเทศระดับสูง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุดในการบริหารงานในองค์กรภาครัฐ สามารถนําความรู้ที่ได้รับจากการเข้าร่วมการฝึกอบรมไปใช้ในการกําหนด ขับเคลื่อนนโยบาย รวมถึงการบูรณาการระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของชาติ 

นายอนุชา กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นว่า ผู้บริหารขององค์กรภาครัฐจะเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้นโยบายรัฐบาลดิจิทัลบรรลุตามเป้าหมายและสามารถตอบโจทย์การให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ชัยวุฒิ” ฮึ่ม “คอลัมนิส์-นักวิจารณ์-อินฟูเรนเซอ-พริตตี้” โฆษณาแฝงชวนเล่นพนันออนไลน์ ช่วงยูโร 2020 ผิดเท่าเจ้าของบ่อน เล็ง เพิ่มโทษให้หนักขึ้น 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้สัมภาษณ์ถึงการปราบปรามพนันออนไลน์ช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 ว่า การเล่นพนันในช่วงนี้จะมากกว่าช่วงอื่นหรือไม่คงไม่สามารถตอบได้ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือการโฆษณาโดยคอลัมนิสต์ นักวิจารณ์ฟุตบอล พริตตี้ และกลุ่มที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ หรือผู้มีอิทธิพลบนโซเชียลมีเดีย ที่ไม่ได้เชียร์บอลอย่างเดียวแต่แฝงโฆษณาเว็ปพนันในเพจตัวเอง ซึ่งไม่ถูกต้องเพราะเป็นการเชิญชวนเล่นพนันโดยเฉพาะยั่วยุให้เยาวชนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนัน และการกระทำเช่นนี้มีความผิดเท่ากับเจ้าของบ่อนตามกฎหมาย บางคนนอกจากชักชวนแล้วยังได้ค่านายหน้าด้วยถือว่ามีความผิดชัดเจน ขณะนี้สั่งการให้เจ้าหน้าที่รวบรวมหลักฐานในเรื่องดังกล่าวไว้แล้วโดยพบมีอยู่จำนวนมากและมีดาราอยู่ในจำนวนนี้ด้วยเมื่อตรวจสอบแล้วจะมีการแถลงข่าวประเด็นนี้อีกครั้งหนึ่ง  

“สังคมไทยปล่อยสิ่งเหล่านี้มานานมาก จึงอยากแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้สำเร็จ ตอนนี้กฎหมายพนันมีโทษน้อยจำคุกแค่ 2 ปี ปรับแค่ 2,000 บาท ถือเป็นเงินที่น้อยเมื่อเทียบกับผลประโยชน์จากการพนัน จึงอาจทำให้หลายคนไม่กลัว ดังนั้นเราต้องปรับปรุงกฎหมาย ให้มีบทกำหนดโทษควบคุมการพนันออนไลน์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น แม้แต่เหล้า บุหรี่ ยังโฆษณาไม่ได้เลย แล้วการพนันโฆษณาได้แบบนี้ถือว่าตลกหรือไม่ ประเทศไทย” นายชัยวุฒิ กล่าว

รมว.สุชาติ มอบ พล.ต.ต.นันทชาติ ลุยพื้นที่สกัดต่างด้าวผิดกฎหมาย ป้องกันโควิด-19 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมาย พลตำรวจตรี นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ตรวจสอบ แนะนำให้ความรู้แก่นายจ้างสถานประกอบการให้มีการจ้างงานแรงงานต่างด้าวในสถานประกอบการอย่างถูกกฎหมาย ป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ พลตำรวจตรี นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ร่วมกับชุดเฉพาะกิจฝ่ายความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบแนะนำให้ความรู้แก่นายจ้างสถานประกอบการให้มีการจ้างงานของ "แรงงานต่างด้าว" ใน "สถานประกอบการ" อย่างถูกกฎหมาย เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย รวมทั้งป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เขตก่อสร้างของโครงการ SAIMAI MALL (สายไหม มอลล์) แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร 

ซึ่งสอดคล้องตามข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่สั่งการให้กระทรวงแรงงาน บูรณาการกับฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ประสานการทำงานเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อคุมเข้มเฝ้าระวังป้องกันและปราบปรามการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ตลอดจนการควบคุมสถานการณ์ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แก่แรงงานในสถานประกอบการอีกด้วย
 
พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในวันนี้ ผมได้รับมอบหมายจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบการจ้างแรงงานต่างด้าว เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย รวมทั้งป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามนโยบายของรัฐบาล 

ซึ่งจากการตรวจสอบแรงงานต่างด้าว พบผู้กระทำความผิดเนื่องจากไม่มีใบอนุญาตทำงาน และ ใบอนุญาตพำนักอาศัยในราชอาณาจักรไทยสิ้นสุด จำนวน 7 ราย ซึ่งส่วนที่เกี่ยวข้องจะได้นำตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ หากใครพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับแรงงานที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ขอให้รีบแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ฯ ได้รับทราบทันที เพื่อเป็นการร่วมกันป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อีกทางหนึ่งด้วย

THESTATESTIMES
Politics
PoliticsQuiz
NewsFeed

บช.น.เตรียมพร้อมรับมือ การชุมนุมม็อบดาวกระจาย

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษกตร. แถลงข่าวการเตรียมความพร้อมการชุมนุมวันพรุ่งนี้ วันที่ 24 มิ.ย. 

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ เปิดเผยว่า เนื่องจากมีกลุ่มมวลชนประกาศชุมนุมหลายสถานที่โดยมีกลุ่มราษฎรหรือกลุ่มวีโว่ กลุ่มแนวร่วมจะมีการชุมนุม 3 ช่วง ตั้งแต่ช่วงแรกเวลา 05.00-07.00 น. จัดกิจกรรมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจุดเทียนรำลึก ช่วงที่ 2 ตั้งแต่เวลา 10.00 เคลื่อนขบวนมารัฐสภาใช้ถนนนครสวรรค์ ถนนพิษณุโลก ถนนพระราม 6 ถนนทหาร เพื่อยื่นหนังสือเปิดผนึกประเด็นการแก้ไขปัญหารัฐธรรมนูญ และช่วงที่ 3 เวลา 17.00 น. ชุมนุมบริเวณสกายวอร์ก 

ส่วนกลุ่มนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขารวมตัวบริเวณแยกอุรุพงษ์ แล้วเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลและกลุ่มไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทยนายจตุพร พรหมพันธุ์ นัดหมายเวลา 16.00 น. บริเวณแยกผ่านฟ้าเคลื่อนขบวนไปทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจัดกำลังตำรวจนครบาลดูแลเป็นหลัก เน้นการดูแลความสงบเรียบร้อยเป็นหลักเนื่องจากการจัดการชุมนุมอาจมีกิจกรรมที่กระทบการสัญจร การใช้ชีวิตโดยปกติสุขของประชาชน 

"ขณะนี้การดำเนินการใดก็ตามต้องอยู่ภายในกรอบของกฎหมาย เนื่องจากมีการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กทม.ออกประกาศควบคุมการแพร่เชื้อโรค โดยแนวการปฏิบัติตำรวจจะไม่ใช้การกั้นสิ่งกีดขวาง หากการชุมนุมดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยชีวิตทรัพย์สินก็จะพิจารณาตั้งสิ่งกีดขวาง และหากมีการกระทำผิดก็จะดำเนินคดี รวมถึงแกนนำบางรายมีการวางเงื่อนไขการประกันไว้ ตำรวจจะดำเนินการรวบรวมหลักฐานดำเนินการทางกฎหมายถ้ามีการกระทำผิดเงื่อนไขการประกันตัว" ผบช.น. กล่าว

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวอีกว่า ยืนยันไม่หนักใจ ตำรวจได้เตรียมความพร้อม เน้นเรื่องรักษาความสงบเป็นหลัก ให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด หากมีความวุ่นวายต่อประชาชน ทรัพย์สิน กระทบกับการรักษาความปลอดภัย ต้องดำเนินการ แต่ขณะนี้ยังมีการแพร่ระบาดเรื่องการควบคุมโรคขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันดีกว่า ส่วนผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวกระทำผิดเงื่อนไข ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพิจารณารวบรวมพยานหลักฐานให้ศาลพิจารณา ส่วนมีการกระทำผิดแล้วหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการชุมนุมในวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตาม การชุมนุมขัดต่อประกาศหรือคำสั่งก็ผิดตั้งแต่ครั้งแรกที่มีการชุมนุม ส่วนการข่าวในขณะนี้ยังไม่มีกลุ่มผู้ชุมนุมใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด เชื่อว่าการชุมนุมจะไม่ยืดเยื้อ ขณะนี้ยังไม่มีการขออนุญาตในการชุมนุมแต่อย่างใด

ด้านพล.ต.ต.สุคุณ กล่าวว่า การสรุปการดำเนินคดีในพื้นที่กรุงเทพมหานครรวม 217 คดี การชุมทั่วไป 164 คดีคดีมั่นคง 52 คดี  อยู่ระหว่างสอบสวน 58 คดี ส่งอัยการ 109 คดี อยู่ในชั้นพิจารณาศาล 30 คดี คดีเกี่ยวกับความมั่น 1 คดี พิพากษาแล้ว 3 คดี

ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผบช.น. กล่าวว่า ในวันที่ 24 มิ.ย. ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่บริเวณรัฐสภา ทำเนียบรัฐบาล อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา และสกายวอร์คแยกปทุมวัน ส่วนเส้นทางที่ควรหลีกเลี่ยง โดยช่วงเวลา 05.00 น. หลีกเลี่ยงถนนราชดำเนินกลาง ถนนตะนาว คาดว่าผู้ชุมนุมใช้เวลากิจกรรมไม่นาน นอกจากนี้จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมทำกิจกรรมและเคลื่อนขบวนเพื่อความสะดวกการเดินทางให้หลีกเลี่ยงถนน 11 เส้นทาง ได้แก่ ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนตะนาว ถนนดินสอ ถนนนครสวรรค์ ถนนลูกหลวง ถนนพิษณุโลก ถนนศรีอยุธยา และถนนพระราม 5 และสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ควรหลีกเลี่ยงตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ผู้ชุมนุมอาจมีการเปลี่ยนแปลงสอบถามข้อมูลเส้นทางได้ที่ โทร.1197 ตลอด 24 ชม. www.trafficpolice.go.th หรือ ไลน์ POLICE TRAFFIC NEWS


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top