Thursday, 10 July 2025
NewsFeed

“ไทกร” ร้อง “กมธ.ปราบโกง” สอบ “ประยุทธ์” ปมทุจริตจัดซื้อจัดจ้างโครงการ 191 มูลค่า 7,000 ล้าน

ที่รัฐสภา นายไทกร พลสุวรรณ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 

นายไทกร กล่าวว่า สืบเนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ มีการบกพร่องในการกำกับดูแลสำนักตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และไม่กำกับให้สตช.ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโครงการ 191 มูลค่า 7,000 ล้านบาทให้เป็นไปโดยความสุจริต มีการอาจนำข้อมูลทีโออาร์ (TOR) ที่ยังไม่ได้มีการลงนามจากคณะกรรมการไปให้บริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งบริษัทแห่งนั้นก็ได้รับการเปิดเผยในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องสำคัญกับแกนนำรัฐบาล ทั้งพล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ดังนั้น จึงเป็นบทชัดเจนว่าวันนี้การกระทำความผิดของสตช.ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ไม่มีการยกเลิกการประมูล รวมทั้งมีการผลักดันให้การประมูลเร็วขึ้น ก่อนที่ผู้ใหญ่บางคนในสตช.จะเกษียณ ฉะนั้นเพื่อความยุติธรรมและเพื่อเป็นการปกป้องภาษีประชาชน จึงนำหลักฐานและข้อเรียกร้องมามอบให้กับพล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ในฐานะประธาน กมธ.ให้ดำเนินการสอบสวนเอาผิดข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่และพล.อ.ประยุทธ์ในฐานะเป็นผู้กำกับดูแลสตช. 

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ตนในฐานะผบ.ตร.ได้เข้าใจเป็นอย่างดีถึงกระบวนการขั้นตอนที่ดำเนินการและอำนาจของผบ.ตร.ที่ไม่เพียงพอที่จะเป็นผู้อนุมัติโครงการนี้ ซึ่งผู้ที่จะอนุมัติโครงการได้จะต้องรับผิดชอบด้วย ซึ่งตนจะดำเนินการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด โดยเรื่องนี้เป็นความเดือดร้อนของประชาชนในเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น ตนจะรีบนำเรื่องนี้ไปดำเนินการ ซึ่งวันนี้อาจจะขอมติได้เลยเพื่อเริ่มดำเนินการศึกษาข้อเท็จจริง เบื้องต้นจะไปดูรายละเอียดหนังสือที่นายไทกรมอบให้ว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องบ้าง โดยเฉพาะกรรมการ ประธานกรรมการตรวจสอบทีโออาร์และคณะกรรมการประกวดราคา รวมทั้งผบ.ตร.และผู้อนุมัติคือนายกรัฐมนตรี

ราเมศ เผย ผลประชุม ผลักดัน กฎหมายป้องกันการทรมาน บุคคลสูญหาย มีมติเสนอ "สมชาย หอมลออ" ภาค ปชช. ร่วมเป็น กมธ.

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ที่มีนายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นผู้เสนอ ไว้ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย.63 ว่า

ในที่ประชุม ส.ส.ของพรรคได้มีการหารือในเรื่องดังกล่าวเพื่อกำหนดแนวทางในการผลักดันร่างกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งได้บรรจุไว้ในระเบียบวาระตามขั้นตอนการประชุมแล้ว และมีจากผลการประชุม ส.ส.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พรรคก็ได้ผลักดันจนมีการเลื่อนระเบียบวาระขึ้นมาพิจารณาก่อนแล้ว เพื่อจะได้พิจารณาทันก่อนปิดสมัยประชุม เพราะเมื่อรับหลักการในวาระแรก ในวาระที่สองในชั้นกรรมาธิการก็สามารถพิจารณาในช่วงปิดสมัยประชุมได้ ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวพรรคได้ให้ความสำคัญ ตลอดเวลาที่ผ่านมาได้ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกับภาคประชาชนที่ร่วมผลักดันเรื่องนี้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในที่ประชุมพรรค เห็นตรงกันว่า ควรมีกฎหมายเพื่อป้องกันการกระทำหรือการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรมที่ป้องกันการกระทำที่ทำให้บุคคลสูญหายซึ่งกระทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นกฎหมายที่จะมุ่งคุ้มครองสิทธิมนุษยชนซึ่งสอดคล้องกับหลักเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 

การทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง การมีกฎหมายเฉพาะก็เพื่อยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย

รวมทั้งการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดฐานความผิด มาตรการป้องกันและปราบปราม และมาตรการเยียวยาผู้เสียหาย ตลอดจนมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง และให้สอดคล้องกับอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติหรือลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรมหรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี

และอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ กฎหมายฉบับนี้จึงมีความจำเป็นที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันผลักดัน

นายราเมศ กล่าวตอนท้ายว่า พรรคได้มีมติ ส่งนายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ
นายสมชาย หอมลออ ประธานมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา เป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว ซึ่งเป็นภาคประชาชนที่ร่วมติดตามและผลักดันเรื่องนี้ตลอดมา เพื่อให้ภาคส่วนของประชาชนได้เข้าไปมีสิทธิมีเสียงสะท้อนข้อเท็จจริงและร่วมพิจารณาในการร่างกฎหมายต่อไป

“สมศักดิ์” เผย “บิ๊กป้อม” ขอส.ส.รักกัน อย่าแบ่งก๊วน ชี้ ตั้ง”บิ๊กน้อย” ช่วยยุทธศาสตร์พรรค 

ที่ห้องพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ชั้น6 รัฐสภา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะกรรมการบริหารพรรค
พปชร.กล่าวภายหลังประชุมส.ส. พรรค นานประมาณ 1 ชั่วโมง ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพปชร.โดยขอให้ส.ส.รักกัน เป็นหนึ่งเดียวกัน ร่วมกันทำงานทำงาน อย่าเป็นกลุ่มเป็นก้อน 

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการพูดถึงเรื่องการปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรค ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวเปลี่ยนเลขาธิการพรรค บ้างหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่มี

เมื่อถามถึงการตั้งพล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นกรรมการยุทธศาสตร์พรรค เพื่อเตรียมพร้อมขับเคลื่อนในการเลือกตั้งครั้งต่อไปใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องแล้วแต่ประธานยุทธศาสตร์พรรค จะเป็นผู้กำหนดแนวทางแต่ตอนนี้ยังไม่ได้กำหนดอะไรเพราะเพิ่งตั้งมาทำหน้าที่

เมื่อถามย้ำว่า ซึ่งตนมาทราบตอนที่มีคำสั่งออกมาแล้วและแสดงความยินดีกับประธานยุทธศาสตร์พรรคคนใหม่ ซึ่งตอนแรกพล.อ.ประวิตร จะมอบหมายให้ตนทำหน้าที่นี้ แต่ได้บอกไปว่าให้เอาคนที่มีเวลามากกว่าและไม่ติดขัดอะไร และดีใจที่มีคนมาช่วยทำงาน

เมื่อถามว่าพล.อ.วิชญ์ ไม่ได้มาจากสายการเมือง จะเข้าใจงานทางการเมืองหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็อาจจะทำเรื่องที่นอกการเมือง ซึ่งอาจจะเข้ามาช่วยในมุมอื่นๆที่สมควรต่อไปเพราะเรื่องการเมืองมีคนในพรรคทำอยู่แล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้มีการส่งสัญญาณปรับครม.หรือยัง นายสมศักดิ์กล่าวว่า ยังไม่มี

สาวก Apple เตรียมจอง 1 ต.ค. เริ่มขายจริง 8 ต.ค.นี้ สนนราคา 25,900 ถึง 62,900 บาท

15 ก.ย. 64 ในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา Apple เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ iPhone 13 ซึ่งดีไซน์หลักยังคงเดิม แต่ปรับรูปแบบการเรียงกล้องใหม่ มาในแนวทแยงมุม มาพร้อม 5 สีสันใหม่ คือ ชมพู น้ำเงิน มิดไนต์ สตาร์ไลท์ และแดง 

ทั้งนี้ iPhone 13 และ iPhone 13 Pro มีการเพิ่มฟีเจอร์หลากหลายเข้ามา ทั้งชิป A15 bionic ใหม่, กล้องใหม่พร้อมโหมด Cinematic และโหมดถ่ายรูประยะใกล้ (มาโคร) แต่ที่น่าสนใจคือ iPhone 13 Pro Max มีการเพิ่มความจุเข้าไปมากถึง 1TB ซึ่งถือว่ามากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ขณะที่จอภาพ Super Retina XDR เพิ่มความสว่างถึง 28% ประหยัดแบตเตอรี่ได้มากขึ้น ใช้ชิป A15 Bionic 

ทั้งนี้ Apple ประกาศวันเปิดขายในไทยที่เร็วกว่าเดิม คือขายวันที่ 8 ตุลาคมนี้เลย ใครสนใจรอสั่ง Pre-Order ได้วันที่ 1 ตุลาคมนี้

โดยราคาวางจำหน่ายสำหรับราคาแต่ละรุ่นที่ประกาศใน Apple Store Thailand ดังนี้

iPhone13 mini หน้าจอขนาด 5.4 นิ้ว
128 GB ราคา 25,900 บาท
256 GB ราคา 29,900 บาท
512 GB ราคา 37,900 บาท

iPhone13 หน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว
128 GB ราคา 29,900 บาท
256 GB ราคา 33,900 บาท
512 GB ราคา 41,900 บาท

iPhone13 Pro หน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว
128 GB ราคา 38,900 บาท
256 GB ราคา 42,900 บาท
512 GB ราคา 50,900 บาท
1 TB ราคา 58,900 บาท

iPhone13 Pro Max หน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว
128 GB ราคา 42,900 บาท
256 GB ราคา 46,900 บาท
512 GB ราคา 54,900 บาท
1 TB ราคา 62,900 บาท

นอกจากนี้ ยังสามารถผ่อน 0% ได้ยาว 10 เดือน เมื่อซื้อผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ เช่น SCB, KTC , กรุงเทพ กสิกรไทย เป็นต้น


ที่มา : https://www.thaipost.net/main/

พรเพชรถอนแจ้งความคดีวัชระหมิ่น กรณีปูดเงินหล่นใต้โต๊ะ 500 ล.จากโครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ 

นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 ได้มีหนังสือแจ้งคำสั่ง ขอยุติดำเนินคดีกับตนต่อผู้กำกับสน.พหลโยธิน จากกรณีที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย อดีตประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.ได้แจ้งความดำเนินคดีกับตนในข้อหา "ใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่ 3 โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง จากกรณีที่ได้ออกมาเปิดโปงเรื่องมีเงินหล่นใต้โต๊ะ 500 ล้านบาทจากโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภา" 

กรณีนี้มาจากเมื่อวันที่ 8 ก.ค.63 นายวัชระ ยื่นหนังสือขอให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องการทุจริตโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ว่า คำพูดของนายพรเพชร “มีเงินหล่นใต้โต๊ะ 500 ล้าน” เป็นความจริงหรือไม่ ? หากเป็นเรื่องจริง ใครคือคนทำเงินจำนวนมหาศาลนี้หล่น ใครเก็บเงินที่หล่นไว้ และการกระทำดังกล่าวผิดกฎหมาย ป.ป.ช.และกฎหมายอาญาอื่นๆ หรือไม่ ขณะเดียวกันก็ขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบเส้นทางการเงิน 500 ล้านบาท สืบหาผู้ร่วมกระทำผิด และติดตามยึดทรัพย์กลับมาเป็นของแผ่นดิน 

นายวัชระ กล่าวว่า ตนได้เบาะแสมาจากการสืบพยานปากที่ 13 ของจำเลยในคดีที่นายชัชวาลย์ อภิบาลศรี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือสนช.ได้ฟ้องคดีหมิ่นประมาทเรื่องการทุจริตงบict.ในการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ จำนวน 8,648 ล้านบาท โดยพยานคนดังกล่าวได้ให้การต่อหน้าศาลอาญาห้อง904 ว่า คณะข้าราชการระดับสูงของสภาฯได้เข้าไปรับนโยบายจากนายพรเพชร วิชิตชลชัย เนื่องในโอกาสรับตำแหน่งประธานสนช.โดยนายพรเพชรกล่าวถึงโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ว่า "อะไรก็ไม่พร้อม แต่ให้เดินหน้าต่อไป มีเงินหล่นใต้โต๊ะ 500 ล้าน" ซึ่งคำพูดดังกล่าวออกจากปากของผู้ที่มีตำแหน่งเป็นถึงประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ อีกทั้งคำให้การของพยาน ก็ผ่านการสาบานต่อศาลแล้ว จึงน่าเชื่อว่าต้องเป็นเรื่องจริง 

จากนั้นนายพรเพชร ได้แถลงข่าวที่รัฐสภาว่า ตนได้ขอให้ข้าราชการระดับสูงดูแลเรื่องการก่อสร้างอาคารรัฐสภาเป็นไปด้วยความเรียบร้อยจริง แต่ไม่เคยพูดเรื่องเงินหล่นใต้โต๊ะ 500 ล้านบาท จึงถือว่าถูกใส่ความ ประโยคนี้ถือว่าทำร้ายอย่างแสนสาหัส ทำให้เสียหาย ดังนั้น เพื่อเป็นการรักษาเกียรติยศและชื่อเสียง จึงจำเป็นต้องดำเนินคดีกับนายวัชระทั้งคดีอาญา คดีแพ่งและทุกคดีที่ดำเนินการได้  ทั้งที่ในชีวิตไม่เคยคิดฟ้องร้องใคร โดยมอบหมายให้น.ส.ภัณฑิลา กิติโยดม นิติกร สนง.เลขาธิการวุฒิสภาแจ้งความดำเนินคดีหมิ่นประมาทนายวัชระที่สน.พหลโยธิน เมื่อวันที่ 8 ก.ค.63  ซึ่งพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง แต่อัยการสั่งให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำนายพรเพชรถึง 3 ครั้ง  แต่ไม่มีความคืบหน้า คดีจึงค้างมา 1 ปีเศษ จนกระทั่งล่าสุดได้มีการถอนแจ้งความดำเนินคดีนายวัชระแล้ว เมื่อวันที่ 30 ส.ค.64 และอัยการสั่งให้ยุติคดีเมื่อวันที่ 8 ก.ย.64 

ก่อนหน้านี้ นายวัชระได้ส่งเอกสารราชการเป็นการถอดเทปชวเลขของสำนักรายงานการประชุมและชวเลขของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นเอกสารที่เชื่อถือได้ ต่ออัยการ โดยมีการระบุถึงคำพูดของนายพรเพชร ว่า "รัฐสภาแห่งใหม่เหมือนสิ่งที่หลอกหลอนตน ดูแล้วก็แทบช็อก บอกว่าสร้างได้ 6 เปอร์เซนต์ ก็เลยไปเอาสัญญามาดูก่อนที่สว.สมชายจะอภิปรายว่ามีเงินตกหล่นอยู่500 ล้าน 1 พันล้านบาท ก็เลยตรวจดูสัญญา ไม่เห็นมีสัญญาที่ไหนแย่เท่าฉบับนี้" พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ประกาศว่าจะปราบโกงมา 7 ปี ได้ยินหรือไม่ นายวัชระ กล่าว

“วิรัช” รอลุ้น 20 ธ.ค.นี้ ศาลฎีการับคดีฟุตซอลหรือไม่ 

ที่ห้องพรรคพลังประชารัฐ ชั้น6 รัฐสภา นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)และประธานวิปรัฐบาลให้สัมภาษณ์ กรณีอัยการสูงสุดยื่นฟ้อง นายวิรัตน์และพวกรวม 87 คน เป็นจำเลยในคดีทุจริตสนามฟุตซอล โรงเรียนในจังหวัดนครราชสีมาต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่า ศาลได้นัดพิจารณาครั้งแรกในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ ซึ่งต้องไปรับฟังในวันนั้นว่าตนจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.หรือไม่ แต่ระหว่างนี้ยังคงทำหน้าที่ต่อไป โดยเฉพาะงานเอกสารต่างๆ

ซึ่งตนก็คาดการณ์ว่าอยากให้ทุกอย่างดำเนินการไปอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อมีการนัดกำหนดมาเราก็ต้องปฏิบัติตามนั้น ซึ่งต้องรอดูวันที่ 20 ธ.ค.
 

'โทนี่' ปัดจ้าง 'ธรรมนัส 2 พันล้าน' ล้มบิ๊กตู่ เบื่อข่าวลือว่อน ลั่น! หาเงินเอง ใช้เงินเป็น

15 ก.ย. 64 นายทักษิณ ชินวัตร "โทนี่ วู้ดซัม" กล่าวใน CARE Talk x CARE Clubhouse หัวข้อ ‘อดีต ปัจจุบัน อนาคต ของการเมืองไทย : ตอนหนึ่งถึงข่าวดีลรวมเสียงสมาชิกสภาผู้แทนราาฎร (ส.ส.) ของ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ต้องการโหวตไม่ไว้วางใจ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าที่มีปัญหาเรื่อง ร.อ. ธรรมนัส มีคนปล่อยข่าวว่าผมเอา 2,000 ล้านบาทไปให้ธรรมนัส แล้วทำไม่สำเร็จว่า

“...มีคนปล่อยข่าวว่าผมเอาเงิน 2,000 ล้านให้ธรรมนัส ผมไม่โง่ใช้เงินแบบนั้นหรอก...”

“...ที่มีปัญหาเรื่อง ร.อ.ธรรมนัส เพราะมีคนปล่อยข่าวว่าผมเอาเงิน 2,000 ล้านไปให้ธรรมนัส แล้วทำไม่สำเร็จ กลายเป็นดีลล่ม คือ ผมจะบอกว่า ผมเริ่มจากศูนย์ ผมหาเงินเอง ดังนั้นผมไม่โง่เรื่องใช้เงิน 

รัฐบาลคุณประยุทธ์นะ ถ้าใช้อีก 28 เสียง เพื่อให้ล้มรัฐบาล หารมาคนละ 70 ล้านก็ซื้อได้แล้ว เพราะเขาวิ่งกันแค่คนละ 5 ล้าน แต่ผมไม่ทำไง ผมเกลียด เพราะผมเคยเห็นอะไรแบบมาก่อน ผมไม่ทำแบบนั้นแน่นอน

คนที่ปล่อยข่าวแบบนี้นะ คือ ควายทั้งนั้น ข่าวปลอมทั้งนั้น ถ้าหลายคนอยากรู้ว่าผมดีลอะไรหรือเปล่า ให้มาถามผมที่ clubhouse นี่ ผมจะได้ตอบให้ชัด ๆ ผมรำคาญมากเรื่องการปล่อยข่าว เราเป็นคนนะ จะให้ควายจูงไม่ได้ ถ้าท่านสงสัยในตัวผม ท่านถามผมตรง ๆ เลย ถ้าผมพูด ไม่มีคำว่าโกหกหรอกครับ ถ้าผมคิดว่าสิ่งนั้นไม่ควรพูด ผมจะไม่พูด ไม่มีหรอกครับดงดีลอะไร...”

"....คนที่ปล่อยข่าวแบบนี้คือควายทั้งนั้น มาถามผมใน Clubhouse นี้ ผมตอบ ผมนี่รำคาญมากเรื่องการปล่อยข่าว ถ้าท่านเป็นคนจะให้ควายจูงไม่ได้ ท่านมาถามผมตรง ๆ เลย ถ้าผมพูด ไม่มีคำว่าโกหก ถ้าผมคิดว่าสิ่งนั้นไม่ควรพูด ผมจะไม่พูด ไม่มีหรอกครับดีลล่ม ผมคิดว่าทุกวันนี้นายกฯ โกรธ ปลดธรรมนัส ปลดนฤมล กล่องดวงใจพี่ป้อมเขานะ เขาเป็นหัวหน้าพรรคเขาก็โกรธ...."

"....ท่านนายกฯ ตัดขาตัวเองตีนลอยนะ เพราะฉะนั้นการเมืองต่อไปนี้ราคาแพงนะ การเมืองเบี้ยหัวแตกแบบนี้ราคาแพง เมื่อไม่กี่วันนี้ใช้กล้วยเป็นหวี แต่ผมไม่เสียสักใบ เพราะผมเชียร์ฝ่ายค้าน คราวที่แล้วสู้กันเป็นหวี แต่นี่จะสู้กันเพื่ออยู่นานต้องเป็นเครือ การคอร์รัปชันก็เต็มที่เลย ประเทศฉิบหายหมด ผมคิดว่าไม่นานนายกฯ ต้องยุบสภา เลือกตั้งใหม่ ถ้าท่านมั่นใจวิธีการกู้มาแจกเงิน..." 

“...ผมทำนายว่าเดือนกุมภาพันธ์ มีนาคมปีหน้าเลือกตั้งใหม่ แต่ผมว่าเร็วกว่านั้น ถ้าอยู่ครบเทอมคือต้องแจกกล้วยทีละเครือ หมดสวนแน่ การเมืองที่มันเน่าเพราะไม่คิดปฏิรูป จะสืบทอดอำนาจอย่างเดียวเป็นกรรมของประเทศ บ้านเมืองจะแย่...” โทนี่ วู้ดซัม กล่าว


ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/116751

“วิรัช”เผย บิ๊กป้อม” คอนเฟิร์ม ไม่ทิ้งหน.พปชร สั่ง รมต.ประกบ ส.ส.ลงพื้นที่ เตรียมลต.ปีหน้า ปิดช่องยุบสภา ด้าน “ธรรมนัส” กลับลำ ยังอยู่พปชร.ต่อ

ที่ห้องพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ชั้น6 รัฐสภา นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพปชร.และประธานวิปรัฐบาลให้สัมภาษณ์หลังประชุมส.ส.พรรค ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าไม่มีเรื่องการปรับกรรมการบริหารพรรค และยืนยันว่าจะไม่ลาออกจากหัวหน้าพรรค เพราะรักพรรคพปชรมากและจะอยู่กับพรรค โดยขอให้พวกพร้อมเราวาในช่วงหนึ่งปีเศษจากนี้ให้เตรียมลงพื้นที่และเข้าหาและช่วยเหลือประชาชน 
อะไรที่พรรคจะเข้าไปดูแลและช่วยเหลือ พล.อ.ประวิตร ก็จะเข้าช่วยเหลือ พร้อมฝากรัฐมนตรีในพรรคให้ลงพื้นที่คู่กับสมาชิกพรรคด้วย ส่วนการแต่งตั้งพล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นประธาน กรรมการยุทธศาสตร์พรรค เพื่อดูแลช่วยเหลือในการวางแผนต่างๆในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

และจากนี้ไปภายในพรรคพปชร.จะไม่มีก๊วนไม่มีกลุ่ม และมีกลุ่มเดียวคือกลุ่มประวิตร คือกลุ่มหัวหน้าพรรคเท่านั้น ปละเวลาพล.อ.ประวิตร พูดก็จะได้ยินเสียงปรบมือของส.ส.เป็นระยะส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรค ร.อ.ธรรมนัสผมเผ่ส พะเยาและเลขาธิการพรรค ยืนยันในที่ประชุมว่ายังทำหน้าที่เป็นเลขาฯพรรค ยังช่วยเหลือประชาชนเต็มที่ วันนี้ยังลงพื้นที่และเป็นผู้แทนอยู่ ยังทำงานประสานกับหน่วยงานต่างๆ และยังอยู่กับพรรค
พปชร.ต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าพล.อ.ประวิตร ได้แจ้งให้นายกรัฐมนตรี รับทราบถึงการเตรียมความพร้อมเรื่องตั้งในช่วงหนึ่งปีที่เหลืออยู่นี้หรือไม่ นายวิรัช กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร พูดหมดแล้ว และน้ำให้ผู้แทนดูแลพื้นที่และเข้าหาประชาชนในการเลือกตั้งต่อไปผู้สื่อข่าวถามว่าการให้ส.ส.ลงพื้นการให้ลงพื้นที่เป็นสัญญาณว่าจะไม่มีการยุบสภาใช่หรือไม่ นายวิรัช กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรยืนยันว่าจะไม่มีการยุบสภา

"บิ๊กตู่"นำถก กนย. ย้ำโควิดกระทบเศรษฐกิจทั้งการค้า-ส่งออก กำชับทุกหน่วยงานดูแลครบทั้งระบบ 

ที่ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ครั้งที่ 1/2564 ผ่านระบบวิดิโอคอนเฟอเรนซ์ โดยกล่าวก่อนการประชุมว่า สิ่งสำคัญที่สุดคืออยากให้ทุกคนทราบว่าวันนี้สถานการณ์เกิดปัญหาอย่างมาก โดยเฉพาะสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ โดยมีผลต่างๆในทุกกิจกรรมไม่ว่าจะเป็นการค้าและการส่งออก จึงขอฝากให้ทุกหน่วยงานดูแลให้ครบทั้งระบบของเรา ทั้งต้นทาง กลางทางและปลายทาง

'หมอยง' แจงชัด 3 ข้อ ที่ 'หมอธีระ' ควรต้องรู้ ติง ไม่ควรสร้างความสับสนให้คนไทย

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว 'Yong Poovorawan' ระบุว่า... 

หนึ่งในหน้าที่ของอาจารย์มหาวิทยาลัย นอกจากการเรียนการสอน งานบริการแล้ว จะต้องทำงานวิจัยให้เกิดองค์ความรู้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ประเทศชาติ 

การศึกษาวิจัยเรื่อง Covid-19 จึงเป็นหน้าที่สำคัญอย่างหนึ่ง ในภาวะวิกฤต

การติดเชื้อแล้วกระตุ้นภูมิต้านทาน เป็นวิทยาศาสตร์พื้นฐานที่ต้องเรียนรู้ และต่อยอดงานวิจัยเพื่อนำมาใช้เป็นประโยชน์ ในการดูแลประชาชน 

ตอบคำถาม “วาทกรรม” หมอธีระ วรธนารัตน์ 

1.) ตกลงฉีด 2 เข็มนั้นไปทำไม? 

>> วัคซีนทุกชนิดลดการป่วยตาย และความรุนแรงของโรคได้ การให้วัคซีน 2 เข็มในประเทศไทย ลดความรุนแรง การป่วยตาย โปรดศึกษาการติดเชื้อของทั่วโลก เช่น อเมริกา อิสราเอล ฉีดวัคซีนครอบคลุม ก็ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้แบบสมบูรณ์ 

2.) หาตัวที่ฉีด 1-2 เข็ม แล้วลดโอกาสติดเชื้อได้ ลดป่วยลดตายได้ จะดีกว่าไหม? 

>> วัคซีนทุกตัวที่ใช้อยู่ในประเทศไทยขณะนี้ สามารถลดการติดเชื้อ ลดป่วย ลดตาย ภูมิต้านทานจะลดลงตามกาลเวลา ไม่ว่าวัคซีนตัวไหน ลดความรุนแรงของโรคได้ ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้สมบูรณ์ 

โรค Covid-19 ระยะฟักตัวสั้น ดังนั้นการลดโอกาสติดเชื้อ จึงเป็นไปได้ยาก แต่สามารถลดการตาย และอาการหนักได้ 

3.) ถ้าฉีดแล้วติดเชื้อ คนติดเชื้อคงไม่หวังอยากได้ภูมิสูงปรี๊ดหรอก แต่คนติดเชื้อคงอยากรู้ว่าเขาป่วยแค่ไหน จะตายหรือไม่ตายต่างหาก และหากเลือกได้เขาคงไม่อยากติดเชื้ออย่างแน่นอน? 

>> แน่นอนคงไม่มีใครอยากติดเชื้อ ทุกคนจึงมีความต้องการวัคซีน การฉีดวัคซีนแล้ว จะต้องปฏิบัติตนในการป้องกันการติดเชื้อ มากกว่าที่จะหวังผลจากวัคซีนไม่ให้ติดเชื้อ 

การศึกษาผลของภูมิต้านทานหลังการติดเชื้อ เพื่อประโยชน์ในการวางแผนป้องกันการติดเชื้อซ้ำ และความจำเป็นในการให้วัคซีนหลังการติดเชื้อ   

การตอบสนองภูมิต้านทานและการคงอยู่ของภูมิต้านทาน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีการศึกษา เพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำ  

โรคอุบัติใหม่จำเป็นต้องมีการศึกษาอย่างละเอียดด้วยงานวิจัย 

>> การสร้างองค์ความรู้ใหม่ด้วยการวิจัย จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง แต่สิ่งที่ไม่ควรทำ คือ การสร้างความสับสนให้กับประชาชน ควรบอกสิ่งที่มีประโยชน์และแนวปฏิบัติตามองค์ความรู้ทางการแพทย์ที่มีอย่างถูกต้อง ทันกับเหตุการณ์

#หมอยง


ที่มา: https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=6292175444158353&id=100000978797641


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top