Thursday, 10 July 2025
NewsFeed

มหาวิทยาลัยนางาซากิร่วมกับมหาวิทยาลัยเสฉวน ทำการทดลองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยเป็นความร่วมมือระหว่างญี่ปุ่น-จีนครั้งแรกในการทดลองวัคซีนโควิด

กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า วัคซีนที่คิดค้นโดยมหาวิทยาลัยเสฉวนเป็นวัคซีนที่ผลิตจากการตัดต่อโปรตีน (recombinant protein vaccine) ซึ่งเป็นการตัดต่อส่วนหนึ่งของยีนไวรัส เข้าให้กับสิ่งมีชีวิต เช่น แบคทีเรีย ยีสต์เพื่อสร้างโปรตีนขึ้นมา เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกาย โปรตีนนี้จะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานขึ้น

มหาวิทยาลัยนางาซากิและศูนย์วิจัยเวชศาสตร์ปริวรรต (translational medicine) ที่ตั้งอยู่ที่เมืองโกเบ ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเสฉวนทำการทดลองทางคลินิกวัคซีนของประเทศจีน และได้รับการอนุมัติจากกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นเมื่อเดือนสิงหาคม

การทดลองจะฉีดวัคซีนให้กับอาสาสมัคร 240 คน เพื่อวิจัยประสิทธิผลและความปลอดภัยของวัคซีน
.
วัคซีนจากการตัดต่อโปรตีนเป็นเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง เพราะวัคซีนประเภทนี้มีผลข้างเคียงน้อย มีความปลอดภัยมาก เหมาะกับการใช้ในเด็ก

วัคซีนประเภทนี้กำลังทดลองในหลายประเทศ เช่น Novavax ของสหรัฐ, วัคซีนที่บริษัท Sanofi ของฝรั่งเศสพัฒนาร่วมกับ GlaxoSmithKline บริษัทยาสัญชาติอังกฤษ-อเมริกัน และ ซิโนฟาร์ม ของจีนก็กำลังทดลองวัคซีนประเภทนี้เป็นวัคซีนตัวที่ 2 เช่นกัน นอกจากนี้ วัคซีนเกาตวน (Medigen) ของไต้หวันที่มีการใช้งานแล้ว ก็ผลิตด้วยเทคโนโลยีการตัดต่อโปรตีน


ที่มา : https://mgronline.com/japan/detail/9640000091381

“บิ๊กตู่” เคาะประกันรายได้สวนยางหมื่นล้าน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาและเห็นชอบหลักการโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 3 เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยาง ในกรณี ที่ราคายางตกต่ำในช่วงโควิด-19  รวมทั้งเพื่อเพิ่มรายได้และสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง วงเงินรวมทั้งสิ้น 10,065 ล้านบาท โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยการยางแห่งประเทศไทย แต่งตั้งคณะกรรมการ/คณะทำงาน ดำเนินโครงการชุดต่าง ๆ ตามที่การยางแห่งประเทศไทยเสนอ และดำเนินการจัดทำรายละเอียดโครงการเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป

สำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 3 ราคายางที่ประกันรายได้ ได้แก่  (1) ประกันรายได้ราคายางแผ่นดิบคุณภาพดี 60.00 บาท/กิโลกรัม  (2) ประกันรายได้ราคาน้ำยางสด (DRC 100%) 57.00 บาท/กิโลกรัม (3) ประกันรายได้ราคายางก้อนถ้วย (DRC 50%) 23.00 บาท/กิโลกรัม

“ได้กำชับการรับรองการเป็นเกษตรกรชาวสวนยางของเกษตรกรที่แจ้งข้อมูลการปลูกยางกับการยางแห่งประเทศไทย ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังรอบคอบ โดยรัฐบาลจริงจังกับการปลูกยางในพื้นที่บุกรุกและย้ำไม่ให้ปลูกยางในพื้นที่ที่ไม่ถูกต้อง รวมถึงโครงการประกันราคายาง ต้องมีมาตรการที่เข้มงวดและให้เงินถึงมือเกษตรกรโดยตรงอย่าให้มีการทุจริตเด็ดขาด รวมทั้ง ให้พิจารณามาตรการอื่นๆ ในการยกระดับราคายางเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐบาลในการประกันราคาและแก้ไขปัญหาราคายางที่ตกต่ำอย่างถาวร” 

วิทยาลัยสารพัดช่างบรรหาร-แจ่มใส จังหวัดสุพรรณบุรี จัดโครงการอาชีวศึกษาเพื่อ "คนพิการ" และพัฒนาทักษะวิชาชีพ

วันที่ 15 กันยายน 2564 ณ.วิทยาลัยสารพัดช่างบรรหาร- แจ่มใส จังหวัดสุพรรณบุรี "นายไพบูลย์ คำภาพักตร์ " ผู้อำนวยการฯ ร่วมกับศูนย์ส่งเสริมประสานงานกิจการนักศึกษา และกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา  ได้จากโครงการอาชีวศึกษาเพื่อคนพิการและพัฒนาทักษะวิชาชีพสำหรับผู้เรียนคนพิการทางสติปัญญาระหว่างวันที่ 13-17 กันยายน 2564 ได้รับเกียรติ จาก "นายวีระ ทวีสุข" ศึกษาธิการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานซึ่งโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนที่มีความบกพร่องทางร่างกาย และสติปัญญา มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับทักษะอาชีพ มีอาชีพ มีฝีมือและส่งผลการสร้างอาชีพการมีรายได้ และมีงานทำโดยจัดอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น วิชาการทำขนมและอาหารว่าง / วิชากาแฟเพื่ออาชีพและวิชาตัดผมชาย

ในการนี้ "นายชัยพร ภูผารัตน์" ผู้อำนวยการสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย ได้ให้เกียรติลงพื้นที่ให้กำลังใจ ครูผู้สอนวิชาชีพ และนักศึกษาคนพิการที่เข้าร่วมรับการฝึกอบรม อีกทั้งยังได้มีการพูดคุยกับ "นายสนธยา รอสูงเนิน" รองผู้อำนวยการฝ่ายแผน และ "นางวัชราภรณ์ มาหนู" รองผู้อำนวยการฝ่ายยริการทรัพยากรเพื่อ ให้ความรู้ความเข้าใจการออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกคนพิการ และ Universal Design

"นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล" นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย และตำแหน่ง คณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการด้านแรงงาน ได้ให้กำลังใจกับครูผู้สอนและนักศึกษาคนพิการที่เข้ารับการฝึกอบรม อีกทั้งยังมีการพูดคุยหารือในการส่งเสริมให้คนพิการมีอาชีพที่สามารถทำงานได้จากที่บ้าน ภายในชุมชน ในเขตพื้นที่ที่คนพิการอยู่อาศัย จะเป็นการสร้างรายได้อีกช่องทางหนึ่ง และยังมีการหารือ การส่งเสริมและเพิ่มทักษะ การพัฒนาฝีมืออาชีพด้านแรงงานต่าง ๆ ที่คนพิการอาจจะมีความถนัดและเหมาะสมกับทางกายภาพของคนพิการเพื่อเข้าสู่ระบบสังคมการมีงานทำได้ในวันข้างหน้า และใช้นี้ยังได้กล่าวขอบคุณวิทยากรสารพัดช่างบรรหาร- แจ่มใสสุพรรณบุรี และ นายลงไปวันเสาร์นายกสมาคมคนพิการภาคตะวันออก ที่เป็นหัวเรี่ยว หัวแรง ในการผลักดันให้คนพิการมีโอกาส การเข้าถึงอาชีพของคนพิการต่อไป

ศบค. จ่อเปิด ท่องเที่ยวภูเขา ทะเล นายกฯ สั่ง สธ.-ทท.-มท. เล็ง พื้นที่นำร่อง ย้ำ เงื่อนไข มาตรการรองรับ

ที่ศบค.ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าวตอนหนึ่ง ว่า ในศปก.ศบค. หาลือกันว่าตอนนี้ใกล้ถึงฤดูกาลท่องเที่ยวแล้ว และได้รับรายงานเรื่องการทำงานของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ พบว่า ยอดการจองที่พัก ช่วง 1 ก.ค. - 14 ก.ย.นี้ สะสม 76 วัน ประมาณ 524,221 คืน จำนวนคน 32,005 คน และพบว่าจากการตรวจหาเชื้อในครั้งที่หนึ่งและครั้งที่สอง พบผู้ติดเชื้อเพียง 91 คน ส่วนใหญ่พบเชื้อเดลต้า ส่วนการติดเชื้อใหม่ในพื้นที่ มีรายงานว่า 229 ราย มีทั้งคนไทยและแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในพื้นที่ภูเก็ต แต่ชาวต่างประเทศนั้นเป็นศูนย์ โดยทางนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ที่ได้คอนเฟอร์เร้นท์มาร่วมประชุม ได้รายงานว่ารับมือไหว มีสมรรถนะในการรักษาที่รองรับได้ ถึงแม้จำนวนของคนป่วยและเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่ง 90% แข็งแรงดี มีอาการไม่มาก อยู่ในกลุ่มสีเขียว ส่วนกลุ่มสีเหลืองสีส้มนั้นมีประมาณ 4% สีแดงประมาณ 6% สำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางมาประเทศไทย ที่ภูเก็ตอันดับสูงสุดได้แก่ สหรัฐอเมริกา อิสราเอล ยูเออี ยูเค เยอรมันนี อื่นๆ 

ส่วนโครงการ 7+7 ใน 3 จังหวัด เช่น สุราษฎร์ธานี ที่เกาะสมุย เกาะพงัน เกาะเต่า นั้น รายงานว่า มีการเข้าพักประมาณ 3,900 กว่าคืน พังงาน ที่ เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ เขาหลัก ประมาณ 1,900 กว่าคืน กระบี่ ที่ เกาะพีพี ไร่เลย์ เกาะไหง อีก 1,263 คืน รวม 3 จว. 7, 135 คืน นี่คือช่องทาง ของการทำให้เศรษฐกิจของคนที่พึ่งพาทางด้านการท่องเที่ยวพอจะหายใจหายคอออกบ้าง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ศบค. มีแผนการรับการท่องเที่ยวที่จะเปิดประเทศในวันที่ 1 ตุลาคมนี้อย่างไรบ้าง นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีในฐานะผอ.ศบค. สั่งการ ว่า ให้มองไปถึง ในช่วงที่เรามีฤดูกาลท่องเที่ยวในภาคปกติคือไตรมาส 4 ของทุกปี หรือ ไฮซีซั่น เพื่อที่จะดูว่าเราจะต้องเตรียมตัวอะไรกันอย่างไร  ในขณะที่จะต้องอยู่กับ โควิด-19 ไปเรื่อยๆอย่างนี้ ก็จำเป็นที่ต้องปรับตัว จึงได้ให้นโยบายมา เป็นข้อสั่งการว่าขอให้เตรียมความพร้อม ให้กับนักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติเพื่อที่จะได้ท่องเที่ยวกันในช่วงไฮซีซั่นนี้ โดยให้ไปดูในพื้นที่ เพื่อที่จะประกาศพื้นที่นำร่อง คือ 1.พื้นที่นำร่องท่องเที่ยวปลอดภัยจาก โควิด-19 หรือโควิดฟรี ทัวริสต์แอเรีย แซนด์บ็อกซ์ ที่มีภูเก็ตแซนบ็อกซ์ทำเป็นตัวอย่างมาแล้ว จึงได้มอบให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย ไปร่วมกันพิจารณา เช่น พื้นที่เกาะ พื้นที่ที่มีสนามบิน

และ2.ต้องมีมาตรการป้องกันและควบคุม โควิด-19 ในพื้นที่นั้นๆ และต้องได้รับความเห็นชอบในการดำเนินการ โดยดูความพร้อมของประชาชนในพื้นที่ด้วยว่าพร้อมหรือไม่ ตัวเลขผู้ติดเชื้อมีไม่มาก สามารถควบคุมได้ จำนวนการฉีดวัคซีนเหมาะสม 3. มีขีดความสามารถในการรักษา มีเตียงมีทรัพยากรทางการแพทย์และพยาบาลเพียงพอหรือไม่ หากเกิดการระบาดขึ้นมาจะสามารถควบคุมโรค สามารถให้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลนั้นๆได้อย่างเพียงพอ ทั้งนี้ ให้พิจารณา ระยะแรกเป็น พื้นที่นำร่อง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป หากมีความพร้อมให้เปิด ทดลองดำเนินการ

ส่วนระยะที่สอง ก็อาจจะเป็นพื้นที่อื่นๆ ซึ่งอาจจะเป็นในช่วงระยะเวลา 15 ตุลาคม หรือ 1 พฤศจิกายน ไปแล้ว ที่อาจจะเปิดพื้นที่ที่มีความพร้อมอื่นๆ เช่น ทะเลในภาคตะวันออก ภูเขาในภาคเหนือ หากพร้อมก็ให้ทดลองดำเนินการ

กอ.รมน.จังหวัดฉะเชิงเทรา มอบอุปกรณ์การแพทย์ป้องกัน โควิด-19 ให้หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทราและกู้ภัยบางคล้า สนับสนุนบุคคลากรด่านหน้าที่มีความเสี่ยงสัมผัสเชื้อ

วันนี้ (15 ก.ย.64) ที่สมาคมสงเคราะห์การกุศลฉะเชิงเทรา อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา พันเอกเฉลิม เนียมช่วย รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดฉะเชิงเทรา มอบอุปกรณ์การแพทย์ป้องกัน โควิด-19 ให้แก่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา และหน่วยกู้ภัยบางคล้า โดยมีนายปัญญา หลำประเสริฐ นายกสมาคมสงเคราะห์การกุศลหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา เป็นผู้แทนรับมอบ ประกอบด้วย ชุดกาวน์ CPE จำนวน 300 ชุด / หมวกตัวหนอน จำนวน 300 ชิ้น / Face Shield จำนวน 300 ชิ้น / แอลกอฮอล์ ขนาด 5 ลิตร จำนวน 10 แกลลอน / ถุงครอบรองเท้า จำนวน 300 คู่ / แมส KN 95 จำนวน 180 แพ็ค รวมมูลค่ากว่า30,000 บาท

ทั้งนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ได้กระจายแพร่ไปวงกว้างและรุนแรง  หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทราและกู้ภัยบางคล้า เป็นองค์กรที่เป็นจิตอาสา อาสาสมัคร ผู้เสียสละ ทุ่มเท และมุ่งมั่น เพื่อช่วยเหลือเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปโรงพยาบาล และเคลื่อนย้ายผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ไปบำเพ็ญกุศล แต่ยังขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์เป็นจำนวนมาก  วันนี้ ทางกอ.รมน.จังหวัดฉะเชิงเทรา จึงได้รวบรวบอุปกรณ์ทางการแพทย์ป้องกัน โควิด-19 สิ่งที่หน่วยกู้ภัยฯ บุคคลากรด่านหน้าที่ต้องการนำมามอบให้ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและปฏิบัติหน้าที่ให้มีความปลอดภัย

'หมอของขวัญ' โต้ปมหมิ่น 'ทมยันตี' ไม่ชอบใจให้ 'อันฟอล' ด้านโซเชียล จี้ แพทยสภาสอบจรรยาบรรณ

กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์อย่างมาก กับการออกมาโพสต์ข้อความของหมอของขวัญผ่านทวิตเตอร์ ปมการเสียชีวิตของทมยันตี ระบุว่า #ทมยันตี #ทมยันโครม #ทมยันตีน #มีใครให้มากกว่านี้มั้ยRIH #ทมยันตี

ต่อมาทางเพจ ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ ศชอ.ระบุว่า คุณหมอเป็นบุคคลสาธารณะ ควรให้เกียรติผู้วายชนม์ ไม่ควรไป bully ผู้เสียชีวิต

ทันทีที่ถูกทักท้วง หมอของขวัญ ก็ได้ออกมาโพสต์ผ่านทวิตเตอร์อีกครั้ง ระบุว่า... 

ขอลบโพสที่อาจจะมีคำหยาบคายเช่น “เท้า” ออกนะคะ มีผู้ปกครองส่งข้อความมาบอกว่าลูกเค้าติดตามและเชื่อถือมาก โอเคต่อไปหมอจะพูด “สุภาพแบบหยาบคายแล้วกัน” #เมืองดัดจริต #ทุ่งลาเวนเดอร์ #ทมยันตี #ก็ยังไม่เคยเห็นคนตายแต่มีคนสรรเสริญเฟร่อขนาดนี้ #อิสลิ่มลาเวนเดอร์ อิ=อิอิ #ไม่หยาบ

เล่นโซเชียลต้องรู้นะคะว่าปุ่ม “Unfollow” อยู่ตรงไหน ใครโลกสวย เชิญป้ายหน้าค่ะ ดัดจริตคิดว่ารับไม่ได้ก็อันฟอล ปล่อยผ่าน ทำเป็นมั้ย หรือยากเกินสมองคะ #สลิ่มวินเทจ #บัวใต้คอนกรีต #ไม่หยาบ


ที่มา: https://www.facebook.com/109785437521042/posts/365198558646394/
https://www.topnews.co.th/news/99231

สกพอ. เสริมแกร่งนักเรียนในพื้นที่ อีอีซี 30 โรงเรียน จัดกิจกรรม EEC Dream Destination “ฝันของน้องในวันนี้ คือโลกแห่งความสำเร็จของ EEC ในวันหน้า”

นางสาวทัศนีย์ เกียรติภัทราภรณ์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ให้เกียรติเป็นประธานเปิด และกล่าวให้โอวาทแก่ คณะครู และนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรม EEC Dream Destination “ฝันของน้องในวันนี้ คือโลกแห่งความสำเร็จของ EEC ในวันหน้า”​ ภายใต้โครงการสร้างการรับรู้เพื่อเชื่อมโยงแนวทางการพัฒนา EEC โดย สกพอ. จัดขึ้นในรูปแบบ New Normal ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทางระบบ Zoom Application 

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อการสร้างการรับรู้ และเชื่อมโยงแนวทางการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจแก่ ประชาชนในพื้นที่โครงการอีอีซี รวมทั้งสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน ซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนา สร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อรองรับอนาคต โครงการ “EEC Dream Destination” จึงเป็นกิจกรรมที่มุ่งเน้นให้เยาวชนที่เข้าร่วมได้แสดงความสามารถและตั้งเป้าหมายตามความฝันของตนเอง โดยนำความรู้ และประสบการณ์ที่ได้รับไปพัฒนาชุมชนท้องถิ่นของตัวเอง และร่วมเป็นเครือข่ายในการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับโครงการอีอีซี ต่อไป


สำหรับกิจกรรม EEC Dream Destination กำหนดจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน ระหว่างวันที่ 14 และ 15 กันยายน 2564  มีโรงเรียนในพื้นที่ อีอีซี ทั้ง 3 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง เข้าร่วมกว่า 30 โรงเรียน จำนวนครูและนักเรียน 210 คน โดยแบ่งกลุ่มเข้าร่วมกิจกรรมวันละ 15 โรงเรียน เพื่อร่วมกิจกรรมที่สำคัญ ได้แก่ การบรรยายให้ความรู้ในหัวข้อ “การสร้างการรับรู้เกี่ยวกับ EEC และความคืบหน้าการดําเนินงานโครงการต่าง ๆ” โดยวิทยากรจาก สกพอ. และ การคิดเชิงออกแบบ “Design Thinking” โดย ดร.ณัฐนรินทร์ เนียมประดิษฐ์ ผู้ก่อตั้งสมาคมการค้าส่งเสริมพัฒนาธุรกิจ SMEs  โดยมี Workshop ในหัวข้อ EEC Dream Destination “ฝันของน้องในวันนี้คือโลกแห่งความสําเร็จของ EEC ในวันหน้า” เป็นการแบ่งกลุ่มผลิตคอนเทนต์ VDO ที่สอดแทรกเนื้อหาเกี่ยวกับประโยชน์ของ EEC ลงในแอพพลิเคชั่น Tiktok  ใน 2 โจทย์ ได้แก่ 1. EEC New Gen New Normal วิถีใหม่ ห่างไกลโควิด และ 2. To The EEC Genius อาชีพที่ใฝ่ฝัน เพื่อพัฒนาชุมชนพร้อมทั้งนำเสนอผลงานของแต่ละกลุ่มที่เน้นแสดงถึงความคิดที่สร้างสรรค์และท้าทายความสามารถ ที่ได้แรงบันดาลใจจากการเข้าร่วมกิจกรรม EEC Dream Destination ในครั้งนี้

‘บิ๊กตู่’ เคาะวงเงินกว่า 1 หมื่นล้าน ประกันรายได้ชาวสวนยาง 60 บาท/กก.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาและเห็นชอบหลักการโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 3 เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยาง ในกรณี ที่ราคายางตกต่ำในช่วงโควิด-19 รวมทั้งเพื่อเพิ่มรายได้และสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง วงเงินรวมทั้งสิ้น 10,065 ล้านบาท โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยการยางแห่งประเทศไทย แต่งตั้งคณะกรรมการ/คณะทำงาน ดำเนินโครงการชุดต่าง ๆ ตามที่การยางแห่งประเทศไทยเสนอ และดำเนินการจัดทำรายละเอียดโครงการเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป

สำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 3 ราคายางที่ประกันรายได้ ได้แก่ (1) ประกันรายได้ราคายางแผ่นดิบคุณภาพดี 60.00 บาท/กิโลกรัม (2) ประกันรายได้ราคาน้ำยางสด (DRC 100%) 57.00 บาท/กิโลกรัม (3) ประกันรายได้ราคายางก้อนถ้วย (DRC 50%) 23.00 บาท/กิโลกรัม

“ได้กำชับการรับรองการเป็นเกษตรกรชาวสวนยางของเกษตรกรที่แจ้งข้อมูลการปลูกยางกับการยางแห่งประเทศไทย ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังรอบคอบ โดยรัฐบาลจริงจังกับการปลูกยางในพื้นที่บุกรุกและย้ำไม่ให้ปลูกยางในพื้นที่ที่ไม่ถูกต้อง รวมถึงโครงการประกันราคายาง ต้องมีมาตรการที่เข้มงวดและให้เงินถึงมือเกษตรกรโดยตรงอย่าให้มีการทุจริตเด็ดขาด รวมทั้ง ให้พิจารณามาตรการอื่น ๆ ในการยกระดับราคายางเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐบาลในการประกันราคาและแก้ไขปัญหาราคายางที่ตกต่ำอย่างถาวร” 

สำนักงานตำรวจเปิดที่ทำการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัวเพื่อรองรับภารกิจป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และการทำประมงผิดกฎหมาย

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดพิธีเปิดที่ทำการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ณ ชั้น 7 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติงานของชุดปฏิบัติการ เพื่อรองรับและเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเปิดที่ทำการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ณ ชั้น 7 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.อ.จารุวัฒน์  ไวศยะ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ/ผู้อำนวยศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ. ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐอเมริกา, ผู้อำนวยการสำนักงานสืบสวนเพื่อความมั่นคง

แห่งมาตุภูมิสหรัฐอเมริกา. เจ้าหน้าที่อาวุโสตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย สำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย และปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธีฯ ทั้งนี้ ในส่วนของที่ปรึกษา ศพดส.ตร. และ NGOs หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเข้าร่วมพิธีผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (ZOOM) จำนวนทั้งสิ้น รวม 158 ท่าน โดยเมื่อเสร็จสิ้นพิธีเปิดฯ คณะผู้บังคับบัญชา และแขกผู้มีเกียรติเข้าเยี่ยมชมสถานที่ที่ทำการ ชุดปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ และภาคประมงในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (Thailand Anti Trafficking In Persons Task Force : TATIP) และที่ทำการ ชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (Thailand Internet Crimes Against Children Task Force : TICAC) และเยี่ยมชมสถานการณ์จำลองการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์

สำหรับ ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) จัดตั้งขึ้นเพื่อรองรับภารกิจ ตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ โดยถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรง โดยกำหนดอำนาจหน้าที่เป็นศูนย์อำนวยการและสั่งการ และติดตามสถานการณ์การค้ามนุษย์ พร้อมทั้งการแก้ไขปัญหาเด็ก สตรี ครอบครัว รวมถึงแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย พร้อมรายงานผลการดำเนินงาน เพื่อเสนอไปยังผู้บังคับบัญชาในการวินิจฉัย สั่งการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เร่งด่วนสำคัญที่เกิดขึ้น  ได้อย่างรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ ทั้งนี้ ศพดส.ตร. ได้แบ่งชุดปฏิบัติการออกเป็นชุดต่างๆ ดังนี้ 1. ชุดปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต 2. ชุดปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์และภาคประมงในประเทศไทย 

โดยมีการบูรณาการร่วมกับหน่วยปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ การปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต และการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย มุ่งเน้นการสืบสวน ปราบปรามจับกุม และสนับสนุนการปฏิบัติให้กับหน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ทั้งนี้ จึงได้มีการปรับปรุงสถานที่ทำการ ณ ชั้น 7 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติงานของชุดปฏิบัติการให้มีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจดังกล่าว เพี่อรองรับภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และบรรลุตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน

เรียบร้อย ทอท. คุมสนามบินรัฐเพิ่ม 3 แห่ง ทั้งอุดรฯ กระบี่ บุรีรัมย์

กรมท่าอากาศยาน กระทรวงคมนาคม แจ้งว่า กรมฯ เตรียมมอบความรับผิดชอบการบริหารจัดการท่าอากาศยานให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ใน 3 ท่าอากาศยาน คือ ท่าอากาศยานอุดรธานี กระบี่ และบุรีรัมย์ เพื่อเพิ่มปริมาณเที่ยวบิน และผู้โดยสาร ทั้งต่างประเทศและในประเทศ รวมถึงการพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการบินได้อย่างคล่องตัว

สำหรับแนวทางนี้เป็นการดำเนินงานเพื่อร่วมกันพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการท่าอากาศยาน ที่มีอยู่ของกรมท่าอากาศยาน ซึ่งเป็นท่าอากาศยานของภาครัฐ ให้มีความสามารถในการจัดหารายได้ให้มากขึ้น โดยที่กรมท่าอากาศยานยังได้รับเงินชดเชยรายได้ที่ขาดหายไปจากการมอบความรับผิดชอบดังกล่าว รวมถึงจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการบริหารงานที่คล่องตัว ของ ทอท. ด้วย ซึ่งรายได้ชดเชยดังกล่าว กรมท่าอากาศยานจะนำไปบริหารจัดการท่าอากาศยานที่เหลืออยู่ เพื่อลดการใช้เงินงบประมาณของภาครัฐในการดำเนินงาน

อย่างไรก็ตามการมอบความรับผิดชอบในบริหารจัดการ ไม่ได้มีการโอนทรัพย์สินของรัฐไปให้กับทาง ทอท. แต่อย่างใด แต่เป็นการมอบความรับผิดชอบในการบริหารจัดการผ่านสัญญาเช่ากับกรมธนารักษ์ ส่วนรายได้ของกรมท่าอากาศยานที่หายไป ทาง ทอท. ก็มีการชดเชยให้ เหมือนในขณะที่กรมท่าอากาศยานบริหารจัดการเอง โดยอยู่ระหว่างการศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมากำหนดรูปแบบที่เหมาะสม ซึ่งประเทศจะได้รับประโยชน์จากการใช้ทรัพยากรรัฐร่วมกันระหว่างกรมท่าอากาศยานและ ทอท. ส่งผลให้ปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสาร รวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการบินเพิ่มมากขึ้น เป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top