Sunday, 29 June 2025
NewsFeed

ชวนคิดประเด็น นายกฯ คนใหม่จะมาจากไหน หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถอดใจลาออก

ชวนคิดประเด็น นายกฯ คนใหม่จะมาจากไหน หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถอดใจลาออก โดย อาจารย์กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมือง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กว่า...

นายกพระราชทาน = เป็นไปไม่ได้

นายกคนนอก/คนกลาง = เป็นไปได้

(ตามกลไกเสียงข้างมากในรัฐสภา)

-----------------

นายกพระราชทาน = เป็นไปไม่ได้

-----------------

ประเด็นก็คือ "ปัญหาการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง" และพระมหากษัตริย์ท่านจะไม่ทรงลงมายุ่งกับฝ่ายการเมืองแน่นอน เพราะเป็นการรักษาสถานะและหลักการตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ฝ่ายการเมือง มีปัญหาการเมือง ก็ต้องแก้ไขกันเอง

แต่ท่านอาจจะให้ข้อคิดหรือคำแนะนำสำหรับสถานการณ์บ้านเมืองได้ ดังเช่น ธรรมเนียมของประชาธิปไตยแบบอังกฤษที่ "ทุกสัปดาห์" นายกรัฐมนตรีต้องถวายงานแก่ควีนเอลิซาเบท และจะทรงมีคำแนะนำ ข้อสงสัย ซักถาม ในทางลับ (Weekly Audience)

แต่ทั้งหมดล้วนไม่มีผลทางกฎหมาย นายกรัฐมนตรีจะนำข้อเสนอ/คำชี้แนะนั้นไปปฏิบัติหรือไม่ เป็นดุลพินิจของนายกฯ ในฐานะผู้นำรัฐบาล

เช่นเดียวกับที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทำในยามที่บ้านเมืองเกิดปัญหา เช่น กรณีพฤษภาทมิฬที่ทรงเรียกทั้งสองฝ่ายเข้าพบ เพื่อขอให้ยุติการเผชิญหน้าระหว่างคนไทยทั้งสองฝ่าย

https://www.youtube.com/watch?v=R5CDd78IiDk

รวมไปถึงที่ท่านให้คำแนะนำแก่ผู้ว่าและส่วนราชการ ในกรณีการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมใหญ่ ปี พ.ศ. 2538

https://www.youtube.com/watch?v=A55bbuxqrgA

*** เช่นเดียวกับใน ปี พ.ศ. 2548 ที่พันธมิตรฯ และฝ่ายค้านอย่างประชาธิปัตย์เวลานั้น พยายามเสนอขอนายกพระราชทานตาม มาตรา 7 แต่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านก็ไม่ทรงตอบรับ และทรงมีรับสั่งชัดเจนในวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2549 ว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้องและไม่เป็นประชาธิปไตย

(เพราะมาตรานี้ไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น)

https://www.youtube.com/watch?v=2Wt8f06qf6w

-----------------

นายกคนนอก/คนกลาง = เป็นไปได้

-----------------

ในทางกลับกัน...นายกรัฐมนตรีคนนอก (บัญชีรายชื่อพรรคการเมือง) ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 สามารถทำได้ ตามขั้นตอนต่อไปนี้

1.) ส.ส. 250 เสียง ยื่นเรื่องเสนอต่อสภาขอเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีที่อยู่นอกบัญชีรายชื่อพรรคการเมือง และหากได้รับการรับรองจากเสียง 2 ใน 3 ของทั้งสภา (500 จาก 750) ก็สามารถเสนอได้

2.) เมื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อ ได้รับ "เสียงข้างมาก" จำนวน 251+ เสียงจากสภาผู้แทนราษฎร คนที่ได้รับเลือกก็จะเป็นนายกรัฐมนตรี

***ดังนั้นกระบวนการนี้ จึงเป็นมติตามเสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎร และไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์แต่ประการใด จึงไม่ใช่นายกฯ พระราชทาน

-----------------

ในแง่ความเป็นจริง

-----------------

หากกรณีนี้เกิดขึ้นจริง ย่อมหนีไม่พ้นที่พรรคการเมืองบางพรรค (ที่กลัวว่าจะถูกโดดเดี่ยว) จะต้องออกมาโจมตีเรื่อง "ไม่เป็นประชาธิปไตย" แม้ว่าจะมาจากเสียงข้างมากในสภาฯ ก็ตาม

และแน่นอนว่าข้ออ้างที่สำคัญที่สุดคือ เรื่อง "ส.ว." แต่หากเกิดกรณีนี้ขึ้นจริง และ ส.ว.มีมติไม่ลงคะแนนเสียงไปเลือกนายกฯ ร่วมกับ ส.ส. ย่อมทำให้ข้อครหาหมดไป

และกรณีเช่นนี้อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะหากสองพรรคใหญ่เห็นพ้องต้องกันและจับมือกันเพื่อให้ได้นายกรัฐมนตรีที่เสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรเห็นว่าเหมาะสมจะขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศได้


ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=4332705306793595&id=100001625041497


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ครม. เคาะ 15,027 ล้านบาท เยียวยานายจ้าง-ม.33 ใน9กิจการ 13จว.แดงเข้ม

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประขุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ครม. อนุมัติเพิ่มกรอบวงเงินโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นจำนวน โดยเพิ่มจ. ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา เป็น13 จ.วงเงิน 15,027 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,522 ล้านบาท จากเดิม 13,504 ล้านบาท 

โดยให้สำนักงานประกันสังคมประมาณการจำนวนนายจ้าง และผู้ประกันนมาตรา 33 กลุ่มเป้าหมายที่คาดว่าจะขี้นทะเบียนประกันสังคมรายใหม่ด้วย ซึ่งจะช่วยนายจ้างในระบบประกันสังคม 9 ประเภทกิจการ ใน 13 จ.กลุ่มเป้าหมาย จำนวน 7,238ล้านบาท และเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 สัญชาติไทย ที่เป็นลูกจ้างในกิจการของนายจ้างตามคุณสมบัติ จำนวน 7,789ล้านบาท โดยนายจ้างและลูกจ้างที่ได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยา จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้

ครม. ทุ่มกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท ให้สปสช.ดูแลผู้ป่วยโควิด- เยียวยาผู้เสียหายจากวัคซีน ย้ำ เร่งประชาสัมพันธ์หลักเกณฑ์-เงื่อนไขให้ปชช.ทราบ

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติวงเงิน 13,026 ล้านบาท ให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)เป็นค่าใช้จ่ายให้กับหน่วยบริการ สถานพยาบาล ที่ให้บริการสาธารณสุขโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับประชาชนทุกสิทธิ ระหว่างเดือนส.ค. - ก.ย.2564 ในกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 3,508,060 ราย ประกอบด้วย 1.กลุ่มเสี่ยงที่ได้รับการตรวจคัดกรองไวรัสโควิด-19 จำนวน 3,392,800 ราย  2.ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ได้รับบริการสาธารณสุข จำนวน 114,500 ราย และ 3.ผู้ได้รับความเสียหายจากการฉีดวัคซีนโควิด-19  จำนวน 760 ราย 

นายอนุชา กล่าวว่า โครงการค่าบริการสาธารณสุขภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ของสปสช.จะช่วยลดงบประมาณด้านการรักษาพยาบาลในภาพรวม เนื่องจากเป็นโครงการลงทุนให้เกิดการบริการตรวจคัดกรองหรือป้องกันไม่ให้เกิดการติดโรค มีต้นทุนค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการรักษาเมื่อป่วยแล้ว เป็นหลักประกันทางสังคมด้านสุขภาพสำหรับประชาชนไทย ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ให้สปสช.เร่งประชาสัมพันธ์กับประชาชน รับทราบถึงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลผู้ติดเชื้อภายใต้สวัสดิการต่างๆของภาครัฐ รวมทั้งร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พัฒนาแนวทางการจัดบริการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน เพื่อสนับสนุนให้แต่ละภาคส่วนสามารถจัดบริการป้องกันการติดเชื้อเชิงรุกในชุมชนได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพต่อไป

ครม.ตั้งคนพรรค รวมพลังประชาชาติไทย นั่ง ผู้ช่วยรัฐมนตรี - ยัน มหาดไทย ยังไม่ชง โผ ปลัดมท.-ผวจ. เข้าครม.

น.ส. ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติ อนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอแต่งตั้ง นางสาวเก็จพิรุณ เกาะสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาการพาณิชย์ (นักวิชาการพาณิชย์ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป 

ครม.เห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้ง นายดนุช ตันเทอดทิตย์ เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง 

ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอแต่งตั้ง นางสาวศิริพร บุญชู เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเกษตรในคณะกรรมการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป

ครม.เห็นชอบตามที่สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) เสนอแต่งตั้ง นายประเวทย์ ตันติสัจจธรรม ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล นวัตกรรม และการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล) แทนผู้ที่ลาออก ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป และให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในวันนี้ครม.ไม่มี การพิจารณาวาระแต่งตั้งโยกย้าย ของ กระทรวงมหาดไทย ทั้ง ตำแหน่งปลัดกระทรวง และผู้ว่าราชการจังหวัด แต่อย่างใด

“บิ๊กป้อม” ย้ำ มท. ประสาน กทม.-พม. ลงช่วยดูแลคนเร่ร่อน พร้อม เร่งจัดตั้งพื้นที่แยกรักษาตัวในชุมชน ( CI ) ในทุกเขต 

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับกระทรวงมหาดไทย  และให้ประสาน กทม. เร่งจัดตั้งพื้นที่พักแยกรักษาตัว ( Community Isolation / CI ) เพื่อช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยสีเขียวในชุมชนต่างๆให้ครอบคลุมทุกจังหวัดเป็นการเร่งด่วน โดยเฉพาะพื้นที่ กทม.ต้องเร่งจัดหาพื้นที่ตั้ง CI ให้ได้อย่างน้อย 1 แห่งในทุกเขต รวมทั้งให้เปิดพื้นที่พักคอย ดูแลและคัดแยกผู้ป่วยติดเชื้อในทุกชุมชน ที่ร้องขอการสนับสนุนมากขึ้น พร้อมกันนี้ ได้ขอให้ มกระมทรวงมหาดไทย ประสานกับ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ ตำรวจ ร่วมกันลงพื้นที่ไปช่วยเหลือดูแลคนเร่ร่อน คนด้อยโอกาสใน กทม. นำเข้าพื้นที่ควบคุมโรคดูแลคุณภาพชีวิต เพื่อมิให้เกิดปัญหาการติดกระจายเชื้อหรือเจ็บป่วยถึงชีวิตในที่สาธารณะ  

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำฝ่ายปกครอง ประสานขอให้ กทม. โดยเขตต่างๆ เป็นหลัก ตอบสนองประชาชนต่อสถานการณ์วิกฤตการแพร่ระบาดของโรคด้วยความตื่นตัวต่อเนื่องกันไป โดยประสานการทำงานกับทุกส่วนราชการในพื้นที่อย่างใกล้ชิดมากขึ้น รวมทั้งลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชน เพื่อให้การสนับสนุนและร่วมช่วยเหลือดูแลกันและกัน ในการจำกัดและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค กทม.ให้ได้โดยเร็ว

“พลังอาสาช่วยหมอ” ขอเชิญร่วมบริจาคเพื่อก่อสร้างหอผู้ป่วยสนามเร่งด่วน

ขอเชิญร่วมบริจาคเพื่อก่อสร้างหอผู้ป่วยสนามเร่งด่วนและจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์รองรับผู้ป่วย COVID- 19 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
ในวันที่บุคลากรด่านหน้าต้องการกำลังเสริม ทั้งอุปกรณ์และสถานที่รองรับผู้ติดเชื้อโควิดที่เพิ่มขึ้นทุกวัน

โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ขยายพื้นที่รองรับผู้ติดเชื้อโควิด สร้างหอผู้ป่วยสนามเร่งด่วน และจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ 11 ชนิด

หอผู้ป่วยสนามเร่งด่วน กำหนดระยะเวลาก่อสร้าง 12 -15 วัน บริเวณลานหลังอาคารแพทยพัฒน์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยสร้างอาคารแบบโครงสร้างชั่วคราว จำนวน 6 หลัง เมื่อแล้วเสร็จจะรองรับผู้ป่วยได้ 83 – 90 เตียง 

ภายในหอผู้ป่วย ประกอบด้วย พื้นที่พักผู้ป่วยที่มีความดันอากาศเป็นลบ ห้องทำงานพยาบาลและแพทย์ พื้นที่เก็บวัสดุการแพทย์ ห้องน้ำ ห้องเปลี่ยนชุด PPE ระบบกล้องวงจรปิดติดตามสภาพผู้ป่วยและอื่นๆ

ร่วมส่งพลังใจให้บุคลากรด่านหน้ามีพลังในการสู้เพื่อพวกเราต่อไป

'ปรารีณา' อดีตสส. พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความถึง ณวัฒน์ อิสรไกรศีล พร้อมท้าให้ลงสมัคร ส.ส.

27 ก.ค. 64 ปารีณา ไกรคุปต์ อดีตส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล พิธีกรคนดัง ที่ป่วยโควิดว่า ในที่สุดก็...ยอมสละเตียง ควรจะให้เตียงคนป่วยหนักไปตั้งนานแล้ว ยื้อจนน่าเกลียด แถมไปด่าหมอ ยืนยันตอนหมอเชิญออก ตอนนั้นอาการไม่หนักแล้วอย่าแถ แหลโชว์เอกสาร ไม่งอแง ไม่เห็นแก่ตัวนะคะ

วันนี้พูดดูถูก ดูหมิ่นผู้นำประเทศ และยกตนเองไม่หยุดหย่อน ถามว่า ไม่อาย ไม่กระดาก หรืออุจาดตัวเองบ้างเหรอ ถ้าคิดว่าตนเองเก่งจัง ดีจัง วิเศษจัง สมัยหน้าลองมาสัมผัสประชาธิปไตย ลองสมัครเป็นนายกไปเลย หรือเป็นคนราชบุรี ไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องไปคิดเทียบรัศมีนายก มาแข่งสมัครกับปารีณาก่อนก็ได้ ท้าเลยว่า ได้คะแนนไม่เกิน 300 เพราะสังคมไทยเกลียดคนพูดจาหยาบคาย พฤติกรรมหยาบคาย อาจเกิดจากพ่อแม่ไม่สั่งสอน หรือดื้อด้าน สอนแล้วไม่ฟัง สุดท้ายอาจกลายเป็นสถุล อาจเสียหายไปถึงรากเง่าหว่านกอ ฝากด้วยนะ หัดพูดเพราะ ๆ แบบนายกด้วย นะจ๊ะพูดเป็นไหม ผู้ชายที่พูดนะจ๊ะ หรือนะคะทุกคนในโลก คือคนมีเสน่ห์ แลดูน่ารัก จึงทำให้เวลานายกไปไหนมีแต่คนขอถ่ายรูป ส่วนณวัฒน์ถ้ากลับมาราชบุรี นอกจากจะไม่มีใครขอถ่ายรูปแล้ว อาจเจอปาไข่ รองเท้า หรือขี้ใส่ปาก

ส่วนที่ด่าปารีณาว่า ปารีณากินป่า ปารีณาขโมยป่า เป็นผู้พิพากษาเหรอจึงจะมาตัดสินว่าใครผิดใครถูก มั่นใจในความบริสุทธิ์ เพราะตรงนั้นมันไม่ใช่ป่า แต่เป็น สปก ท้ากราบตีนกันไหม ถ้ารับคำท้าแจ้งกลับมาด้วย

สงสัยว่าเรื่องกินป่าทำไมไม่ ด่าธนาธรกินป่าบ้าง หรือแม่ธนาธรกินป่าบ้าง ทำไม!!!!! อันนั้นน่ะ ธนาธรและแม่เอาไป ส่วนหนึ่งเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ส่วนหนึ่งเป็นป่าชุมชน ส่วนหนึ่งเป็นป่าไม้ถาวร ของจริงเลย...จัดไปมั่งสิ แถมตอนแม่ธนาธรซื้อป่า มีเอกสารเขียนชัดเจนเลยว่าเป็นป่าแล้วยังจะซื้ออีก ปารีณาก็ร้องไป 2 ปีไม่คืบ เพราะสังคมมันเหลื่อมล้ำ เวลาจะดำเนินคดีกับเศรษฐีมันจะยากมาก ก็เพิ่งจะปีนี้แหละ ที่ถูกดำเนินคดีเรื่อง ธนาธรบุกรุกป่า แม่ธนาธรบุกรุกป่า ทุกวันนี้ เรื่องไปถึงไหนทำไมไม่พูด เรื่องมันช้าเหลือเกิน ทำไม!!!! ไม่พูดพูดซิ พูดว่าธนาธรกินป่าบ้าง

พูดเสร็จแล้ว ช่วยถามแม่ธนาธรต่อด้วยว่า ทำไมลูกชายยังไม่ได้เป็นนายกฯ สา....มารถ....ออกเอกสารสิทธิ์ในที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าไม้ถาวรได้อย่างไร ตอนนี้เอกสารสิทธิ์ทั้งหมดก็ถูกเพิกถอนสิทธิ์และคืนป่าไปจำนวน 3,500 ไร่แล้ว พูดบ้างดิ

บอกตรง ๆ ว่า สภาพคุณวันนี้ มันคล้ายคนทรงเจ้า สะบัดหัว สั่น สบถ ไม่คิดเลยว่า โควิด....สามารถกินสมองคนได้

#บ้านเมืองมีกฎหมาย #หยุดละเมิดสิทธิ์ผู้อื่น #เขย่าขวดด้วยเวลากินยา


ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/111223


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

บริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด ผู้ผลิตวัคซีนใบยา ป้องกันโควิด-19 เผย เปิดรับอาสาสมัครทดสอบวัคซีน สิงหาคมนี้

ผศ.ภญ.ดร.สุธีรา เตชคุณวุฒิ CEO และ Co-founder บริษัท ใบยาไฟโตฟาร์ม จำกัด เผยว่า “วัคซีนใบยา” ป้องกันโควิด-19 ผลิตจากใบพืช เป็นผลงานสตาร์ทอัพแห่งจุฬาฯ บริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด (ภายใต้ CU Enterprise) โดยสองนักวิจัย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภญ.ดร.สุธีรา เตชคุณวุฒิ และรองศาสตราจารย์ ดร.วรัญญู พูลเจริญ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬา

วัคซีนใบยา เป็นวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิด subunit vaccine ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมในต่างประเทศมานาน เช่น แคนาดา และเกาหลีใต้ โดยผลิตจากหลายแหล่ง เช่น พืช แมลง ฯลฯ วัคซีนใบยา ใช้ใบยาสูบสายพันธุ์ดั้งเดิมจากออสเตรเลียทำหน้าที่เสมือนโรงงานผลิตชิ้นส่วนของไวรัสซึ่งเป็นไวรัสที่ไม่ก่อให้เกิดโรคเมื่อฉีดวัคซีนใบยาเข้าไปในร่างกาย วัคซีนจะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของเรา หากติดเชื้อโควิด-19 ก็จะป้องกันได้

ภายหลังได้รับวัคซีนต้นแบบตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 คณะผู้วิจัยได้ดำเนินการทดสอบวัคซีนใบยากับสัตว์ทดลอง เช่น หนูขาวและลิง ซึ่งพบว่าวัคซีนสามารถกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันในสัตว์ทดลองได้ผลสูง หลังจากนั้น จึงเริ่มสร้างโรงงานต้นแบบการผลิตวัคซีนที่อาคารจุฬาพัฒน์ 14 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2564 โรงงานเนื้อที่ 1,200 ตร.ม. มีกำลังการผลิตวัคซีนเดือนละ 1-5 ล้านโดส

“สิงหาคม 2564 เราจะเปิดรับอาสาสมัครเพื่อทดสอบวัคซีนกลุ่มแรกจำนวน 50 คน อายุ 18-60 ปีโดยอาสาสมัครต้องมีสุขภาพแข็งแรงและไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน การทดสอบวัคซีนจะเริ่มในเดือนกันยายนอาสาสมัครจะได้รับการฉีดวัคซีนจำนวนสองเข็ม เว้นระยะเวลาห่างกัน 3 สัปดาห์ เมื่อทดสอบกับอาสาสมัครกลุ่มแรกเสร็จเราก็จะทดสอบวัคซีนกับอาสาสมัครกลุ่มอายุ 60-75 ปี ต่อไป” ผศ.ภญ.ดร.สุธีรากล่าว และ คาดว่าวัคซีนใบยาจะพร้อมฉีดให้คนไทยช่วงกลางปี 2565 ในราคาต้นทุนโดสละ 300-500 บาท

นอกจากนี้ คณะนักวิจัยยังได้พัฒนาวัคซีนใบยารุ่นที่ 2 เพื่อรับมือการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 ซึ่งคาดว่าจะพร้อมทดสอบกับอาสาสมัครปลายปี 2564 โดยจะปรับปรุงศักยภาพของวัคซีนในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันดีขึ้นด้วย


ที่มา : https://www.naewna.com/local/590517


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ไฟเขียวทำระบบดิจิทัล ไอดี ยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. รับทราบแนวทางการพัฒนาระบบรองรับการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล (ดิชิทัล ไอดี) ด้วยการพัฒนาระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าทางดิจิทัล หรือ เอฟวีเอส ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอ พร้อมทั้งให้กระทรวงมหาดไทยเร่งพัฒนาระบบนี้ไปให้บริการกับหน่วยงานของรัฐและเอกชน โดยให้กระทรวงดิจิทัลฯ เป็นที่ปรึกษาแนะนำงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ระบบนี้ มีความมั่นคงปลอดภัย มีความน่าเชื่อถือ สอดคล้องตามกฎหมาย หลักเกณฑ์ และมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง 

ทั้งนี้ยังมอบหมายให้สำนักงบประมาณให้การสนับสนุนงบประมาณกับกระทรวงมหาดไทยเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการพัฒนาและจัดทำระบบเอฟวีเอส โดยครอบคลุมการพัฒนาและติดตั้งซอฟแวร์และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(เอไอ) การจัดหาอุปกรณ์และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสำหรับการให้บริการและการทดสอบประสิทธิภาพและความมั่นคงปลอดภัยของระบบ และพัฒนาเกณฑ์มาตรฐาน และข้อตกลงการให้บริการของระบบ รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นสำหรับการบริหารงานและการให้บริการ และให้กระทรวงมหาดไทย หรือ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  รายงานการดำเนินงานเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ในส่วนของการพัฒนาระบบดิจิทัล ไอดี ให้ครม.ทราบเป็นระยะ

สำหรับการพัฒนาและจัดให้มีระบบเอฟวีเอส เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการพัฒนาระบบ ดิจิทัล ไอดี ของประเทศ ในส่วนของการพัฒนาแพลตฟอร์มกลางสนับสนุนบริการภาครัฐ สำหรับประชาชนและธุรกิจในการเข้าถึงบริการภาครัฐในรูปแบบของการให้บริการแบบเบ็ดเสร็จโดยระบบดิจิทัล ไอดี ซึ่งรวมถึงระบบเอฟวีเอส จะสามารถนำมาทดแทนกระบวนการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางกายภาพ โดยผู้ใช้บริการไม่ต้องเดินทางไปพิสูจน์ตัวตนยังที่ทำการหรือสาขาของหน่วยงานที่ต้องการทำธุรกรรมทุกครั้งได้

ส่วนระบบเอฟวีเอสที่กระทรวงมหาดไทยจะพัฒนาขึ้น  เป็นระบบที่จะใช้ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตน ของผู้รับบริการระบบหนึ่ง โดยมีกลไกการทำงานที่ใช้เทคโนโลยีในการระบุตัวบุคคลด้วยการเปรียบเทียบภาพใบหน้าที่ผู้รับบริการถ่ายส่งเข้าระบบกับฐานข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ โดยใช้เอไอ ที่มีความแม่นยำตามเกณฑ์มาตรฐานสากล และแจ้งผลในรูปแบบร้อยละของความถูกต้องของภาพถ่ายกับฐานข้อมูลภาพใบหน้า

'แอนดี้ หลิว' หรือ 'หลิวเต๋อหัว' ซูเปอร์สตาร์ชื่อดังชาวฮ่องกง ปฏิเสธที่จะแสดงในภาพยนตร์ฮอลลีวูด เนื่องจากสคริปต์ที่เขียนให้กับเขาทำให้คนจีนเสื่อมเสีย

(27 ก.ค. 64) สื่อต่างประเทศ Malaymail รายงานว่า 'แอนดี้ หลิว' หรือ 'หลิวเต๋อหัว' ซูเปอร์สตาร์ชื่อดังชาวฮ่องกง ปฏิเสธที่จะแสดงในภาพยนตร์ฮอลลีวูด เนื่องจากสคริปต์ที่เขียนให้กับเขาทำให้คนจีนเสื่อมเสีย

ผู้กำกับหว่อง จิง ผู้กำกับชื่อดังเปิดเผยว่า หลิว ปฏิเสธบทหลังจากอ่านบทภาพยนตร์โดยไม่ระบุชื่อ

“เขารู้สึกว่าบทบาทที่เขาต้องเล่นทำให้ชาวจีนเสื่อมทราม ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจปฏิเสธ” เว็บ hk01.com อ้างคำพูดของหว่อง

ก่อนหน้านี้ ในช่วงปี 1992 หลิวเคยถูกขอให้ออดิชั่นสำหรับแสดงในภาพยนตร์ฮอลลีวูด เรื่อง M. Butterfly (1993) หรือ มาดามบัตเตอร์ฟลาย แต่หลิวปฏิเสธเนื่องจากตัวละครที่เขาถูกขอให้เล่นนั้น "ต้องเลียนิ้วเท้าของชาวต่างชาติ”

นอกจากนี้เขายังเคยถูกขอให้ออดิชั่นเรื่อง Dragon : The Bruce Lee Story, Spiderman 3 และ Sandman

หลิวเต๋อหัว วัย 59 ปี เพิ่งฉลอง 40 ปีในวงการบันเทิง โดยเขาเป็นนักร้องฮ่องกงที่ได้รับรางวัลมากที่สุด รวมถึงนักแสดงชื่อดังที่ผ่านงานแสดงในภาพยนตร์ 140 เรื่อง ซึ่งเรื่องหนึ่งที่ทิ้งความประทับใจไว้อย่างมาก คือ 'Lost and Love' ในปี 2015 ที่ 'หลิวเต๋อหัว' สวมบทเป็น 'เหลยเจ่อกวน' คุณพ่อหัวใจนักสู้ที่เริ่มออกเดินทางด้วยการขี่รถมอเตอร์ไซค์คู่ใจเพื่อหาตัวลูกชายวัย 2 ขวบที่หายตัวไปเป็นเวลานานถึง 15 ปี

แม้หนังเรื่องนี้ใช้ทุนสร้างไม่สูงมาก เพราะจุดมุ่งหมายในการสร้างหนังเรื่องนี้ของเขา ก็เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้คนได้เห็นถึงปัญหาการลักพาตัวเด็กในประเทศจีน แต่หนังดังกล่าวก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีบน 'บ็อกซ์ ออฟฟิศ' และสิ่งที่น่าปลื้มใจยิ่งกว่า คือ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา 'เหลยเจ่อกวน' ตัวจริงก็ได้มีโอกาสพบกับ 'ซินเจิ้น' ลูกชายที่เขาไม่ได้พบเจอหน้ามานานถึง 24 ปีเต็ม หลังจากที่ผลการตรวจดีเอ็นเอบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าทั้งคู่เป็นพ่อลูกกันจริง ๆ และเมื่อหลิวได้ทราบข่าว ก็ทำให้เขารู้สึกตื้นตันใจเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ China.org.cn พอร์ทัลของจีน ยังได้รายงานว่า หลิวเต๋อหัวไม่เคยสร้างบัญชีเครือข่ายโซเชียลบนแพลตฟอร์มใด ๆ มาก่อน เพิ่งจะเปิดบัญชีแรกบน 'โต่วอิน' (Douyin) เมื่อก่อนตรุษจีน เดือนกุมภาพันธ์ โดยในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง มีผู้ติดตามมากกว่า 24 ล้านคน และมีผู้ติดตามมากกว่า 50 ล้านคนในเวลาไม่ถึงสัปดาห์หลังจากเปิดบัญชี นับเป็นหนึ่งในบุคคลที่ผู้ติดตามมากที่สุดในโต่วอิน

สำหรับเรื่องดังกล่าว กำลังสะท้อนให้เห็นว่า แม้คำว่า 'ฮอลลีวูด' ชื่อเสียงหรือแม้แต่เงินทอง จะมีมูลค่าอย่างมากมายแค่ไหน แต่หากสิ่งตอบแทนเหล่านั้น มาพร้อมการกระทำในสิ่งที่เหยียดหยามศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิแห่งชาติพันธุ์ ก็ไม่อาจซื้อคนได้ทุกคนเสมอไป...


ที่มา : https://mgronline.com/china/detail/9640000073296

https://www.malaymail.com/news/showbiz/2021/07/26/


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top