Sunday, 29 June 2025
NewsFeed

ผบ.ทอ. ตรวจความพร้อมโรงพยาบาลสนามบีดีเอ็มเอส สนามกีฬา ทอ.(ธูปะเตมีย์) ก่อนเปิดให้บริการ

พล.อ.อ. แอร์บูล  สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) พร้อมด้วย นายแพทย์ ธเรศ  กรัษนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ แพทย์หญิงปรมาภรณ์  ปราสาททองโอสถ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ร่วมตรวจความพร้อมโรงพยาบาลสนามบีดีเอ็มเอส สนามกีฬา ทอ.(ธูปะเตมีย์) ณ สนามกีฬากองทัพอากาศ (ธูปะเตมีย์) ก่อนเปิดให้บริการในวันถัดไป

โรงพยาบาลสนามดังกล่าว เป็นความร่วมมือระหว่างกองทัพอากาศ และบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS โดยกองทัพอากาศให้การสนับสนุนอาคารสถานที่ เจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยสถานที่ และรถพยาบาลฉุกเฉิน บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ วางระบบโรงพยาบาลสนาม อุปกรณ์ทางการแพทย์ พร้อมจัดทีมบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงได้รับการสนับสนุนจาก มูลนิธิเวชดุสิตในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์, บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน), มูลนิธิ ทองพูล หวั่งหลี และครอบครัว, บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท ลินเด้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท สหแพทย์เภสัช จำกัด และบริษัท วินบริดจ์ จำกัด สำหรับโรงพยาบาลสนามที่จัดตั้งขึ้นได้รับการรับรองมาตรฐานจากกรมส่งเสริมบริการสุขภาพแล้ว มีจำนวน 100 เตียง มีวัตถุประสงค์หลักในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ในกลุ่มสีเหลืองเป็นหลัก ไม่ให้กลายเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีแดง โดยการดูแลของทีมบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลในเครือ BDMS กำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 28 ก.ค.64 ระยะเวลาให้บริการรวม 2 เดือน สำหรับการรับและรักษาผู้ป่วย จะรับผู้ป่วยโควิด-19 ในกลุ่มสีเหลือง จากโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ หากผู้ป่วยมีอาการรุนแรงเกินขีดความสามารถของโรงพยาบาลสนามฯ ก็จะถูกส่งตัวไปรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลในเครือ BDMS ต่อไป 

โรงพยาบาลสนามแห่งนี้ นอกจากจะมีระบบอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกแล้ว  BDMS ยังได้นำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ มีหุ่นยนต์อัจฉริยะ (เฮลท์ตี้บอท) จำนวน 5 ตัว ที่จะช่วยนำส่งอาหารและยาให้แก่ผู้ป่วย เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ นอกจากนั้น ยังนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดูแลรักษาเพื่อลดการสัมผัสผู้ป่วย ซึ่งเป็นการจัดสรรบุคลากรทางการแพทย์ที่มีอยู่จำกัด ให้สามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิผลสูงสุด โดยทีมแพทย์ที่ประจำอยู่ ณ โรงพยาบาลสนามฯ และโรงพยาบาลในเครือข่าย BDMS จะตรวจและติดตามอาการ รวมทั้งพูดคุยกับผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดผ่านทางหน้าจอแบบออนไลน์ ส่งผลให้สามารถบริหารจัดการตามอาการของผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
ทั้งนี้ โรงพยาบาลสนามบีดีเอ็มเอส สนามกีฬากองทัพอากาศ (ธูปะเตมีย์) ถือเป็นแบบอย่างความร่วมมือและการบูรณาการทรัพยากรของส่วนราชการและภาคเอกชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างรุนแรง และเป็นพลังส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ประเทศชาติผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน

‘ธนกร’ สวนกลับ ‘นพ.ชลน่าน’ อย่าทำตัวไร้เกียรติ ไร้จรรยาบรรณบิดเบือนข้อมูล ปั่นเฟกนิวส์โจมตีรัฐบาลทุกวันเหมือนคนในพรรคที่ไม่มีงานทำ ย้ำวัคซีนไม่ได้หายไปไหน สธ.เตรียมฉีดไฟเซอร์-แอสตร้าฯ เป็นบูสเตอร์เข็ม 3 ให้บุคลากรทางการแพทย์

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) กล่าวถึงกรณีนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ออกมาเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงข้อมูลวัคซีนเข็ม 3 ของบุคลากรทางการแพทย์ 4 แสนโดสหายไปว่า บอกตรง ๆ ตนผิดหวังกับนพ.ชลน่านอย่างที่สุด ไม่คิดว่าคนที่เป็นหมอจะกล้าบิดเบือนข้อมูล เอาข้อมูลเท็จมาโจมตีรัฐบาล ไร้ซึ่งเกียรติยศ และไร้จรรยาบรรณของแพทย์ที่สุด

ซึ่งในส่วนการของการฉีดวัคซีนบูสเตอร์เข็ม 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์เกือบ 7 แสนคนนั้น ขอย้ำให้นพ.ชลน่าน ได้ยินชัด ๆ ว่าวัคซีนไม่ได้หายไปไหน ยังอยู่ครบหมด โดยกระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าจำนวนหนึ่งและไฟเซอร์ไม่ต่ำกว่า 5 แสนโดสให้กับบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนตามรายชื่อที่แจ้งไว้ ทุกคนได้บูสเตอร์เข็ม 3 ตามความต้องการ และเรื่องนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขก็ได้ออกมาชี้แจงอย่างชัดเจนแล้ว แต่นพ.ชลน่าน ก็ยังออกมาโจมตีรัฐบาลอย่างหน้ามืดตามัว เป็นพฤติกรรมที่ไร้คุณธรรมมาก และน่าเศร้าใจมาก ตนแปลกใจมากที่นพ.ชลน่านทำตัวอยากดังเหมือนนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่เหมือนไม่มีงานทำในพรรค เลยออกมาโจมตีรัฐบาลทุกเสาร์-อาทิตย์แบบไร้เหตุผลรองรับ เหมือนตั้งระบบไว้ เสียดายจริง ๆ

นายธนกร กล่าวอีกว่า ตนไม่เข้าใจจริง ๆ ว่า ทำไมพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านยังคงพุ่งเป้าโจมตีการทำงานของรัฐบาลในการแก้ปัญหาโควิด-19 ได้ทุกวัน ทั้งที่ทุกฝ่ายก็ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ บุคลากรทางการแพทย์ก็ทำงานอย่างหนัก แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเพิ่มมากขึ้น แต่ระบบการแก้ปัญหาก็เป็นระบบมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาวัคซีน การเร่งฉีดวัคซีน การเยียวยา รวมไปถึงสิ่งที่นายกได้สั่งการไปไม่ว่าจะเป็น

1.) การเร่งจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มขึ้น เพื่อรับผู้ป่วยไวรัสโควิด-19 ที่มีอาการ ให้เข้าถึงการรักษาและสถานพยาบาลให้มากและเร็วที่สุด

2.) เพิ่มขีดความสามารถโรงพยาบาลสนามที่มีอยู่ในขณะนี้ ให้สามารถรองรับผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดงให้มากขึ้น

3.) เห็นชอบแนวทางการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน (Home Isolation - HI) และการดูแลผู้ป่วยในชุมชน (Community Isolation - CI) อย่างเป็นระบบ โดยจัดให้มีทีมแพทย์คอยติดตามอาการ ชุดเวชภัณฑ์และยาที่จำเป็นเพี่อคัดแยกผู้ป่วย ลดการแพร่เชื้อภายในครอบครัวและชุมชน สำหรับผู้ป่วยที่สามารถกักตัวที่บ้านได้ (HI) จะมีการจ่ายยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร เครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องวัดออกซิเจน สำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถกักตัวที่บ้านได้จะนำส่งศูนย์พักคอย หรือ (CI) ซึ่งกรุงเทพมหานครจะได้จัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อให้ครบทั้ง 50 เขต

4.) มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาร่วมช่วยเหลือ สำหรับการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย รวมถึงการจัดส่งอาหารและยาให้ผู้ติดเชื้อที่รักษาตัวที่บ้านและที่ชุมชนในแต่ละวันอย่างต่อเนื่อง

5.) ให้รัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยประสานผู้ป่วยกลับไปรักษาตัวในภูมิลำเนาได้ ตามมาตรการสาธารณสุขที่กำกับการเคลื่อนย้ายทุกขั้นตอน เพี่อลดปัญหาการได้เข้ารับการรักษาในพื้นที่ กทม. ที่มีข้อจำกัดเรื่องเตียง

6.) สนับสนุนทีมปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาโควิด-19 เชิงรุก (Comprehensive Covid-19 Response Team) หรือ CCRT อย่างต่อเนื่อง โดยจะดำเนินการลงพื้นที่ทั้ง 50 เขต เพื่อตรวจคัดกรองเชิงรุกค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในชุมชนให้ครอบคลุมและทั่วถึง เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเร็วที่สุด

และ 7.) ปรับปรุงระบบการรับเรื่องผ่านโทรศัพท์สายด่วนต่าง ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ให้สามารถประสานข้อมูลร่วมกัน เพื่อนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษาโดยเร็ว

“ความจริงตนรู้สึกเบื่อมากที่จะต้องออกมาเสมือนตอบโต้กันไปมา แต่ตนก็มีความจำเป็นที่จะต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงให้พี่น้องประชาชนได้ทราบ เพราะมีการบิดเบือนข้อมูล ปั่นเฟกนิวส์กันทุกวัน ทุกนาที และท่านนายกฯ เองก็ให้ความสำคัญในเรื่องการชี้แจงข้อเท็จจริงที่ถูกบิดเบือนให้ประชาชนเข้าใจ โดยกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องออกมาชี้แจงให้ทันสถานการณ์ นาทีต่อนาทีเช่นเดียวกัน เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนไม่ให้เกิดความสับสน เข้าทางฝ่ายที่ต้องการออกมาโจมตีโดยไม่มีจิตสำนึกของความเป็นคนไทย หรือไม่มีจรรยาบรรณอย่างหมอบางคนที่หันมาเอาดีทางด้านการเมือง”


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) สหรัฐฯ กำลังพิจารณาปรับแก้แนวปฏิบัติป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) หลังพบยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงต่อเนื่องในหมู่ประชาชนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน

27 ก.ค. 64 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แอนโทนี เฟาซี หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ประจำทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ระบุว่าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) กำลังพิจารณาปรับแก้แนวปฏิบัติป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เพื่อแนะนำผู้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ

เฟาซี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่าเขาร่วมหารือเกี่ยวกับการแก้ไขแนวปฏิบัติ ซึ่งยังคงอยู่ภายใต้การพิจารณาอย่างต่อเนื่อง พร้อมระบุว่าพื้นที่ท้องถิ่นบางส่วนที่มีอัตราการติดเชื้อสูงเริ่มกระตุ้นประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนแล้วหรือไม่

ปัจจุบันยอดผู้ป่วย ผู้เสียชีวิต และผู้รักษาตัวจากโรคโควิด-19 ในโรงพยาบาล พุ่งสูงต่อเนื่องในหมู่ประชาชนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ด้านคณะผู้เชี่ยวชาญระบุว่าอัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำและการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตา เป็นสาเหตุที่ทำให้ยอดผู้ป่วยพุ่งสูงเมื่อเร็ว ๆ นี้

ที่มา : https://www.naewna.com/inter/590661


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

จีนออกกฎกติกาเข้มด้านการศึกษาหลายข้อที่สะท้อนความเป็น “ระบบแบบจีน” แล้วจีนทำเพื่ออะไร ?

#ระบบแบบจีน เน้นลดเหลื่อมล้ำการศึกษา​ ตัดไฟแต่ต้นลม เพื่อลดอิทธิพลฝรั่ง

จีนออกกฎกติกาเข้มด้านการศึกษาหลายข้อที่สะท้อนความเป็น “ระบบแบบจีน” แล้วจีนทำเพื่ออะไร ?

ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจจีนจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้วิเคราะห์ไว้ในเฟซบุ๊ก Aksornsri​ Phanishsarn ดังนี้...

ทางการจีนได้ออกกฎระเบียบล่าสุดที่กำหนดให้ธุรกิจด้านการศึกษา และบริษัทเทคโนโลยีด้านการศึกษา หรือ Edu Tech รวมไปถึงโรงเรียนกวดวิชาต่าง ๆ ในจีนต้องเป็น “องค์กรไม่แสวงหากำไร”

กฎใหม่ของจีนนี้ส่งผลให้หุ้นของบริษัท EduTech ของจีนร่วงลงอย่างหนักมาตั้งแต่วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม 2564

จีนทำเพื่ออะไร ดร.อักษรศรี​ วิเคราะห์ว่า หากพิจารณาจากมุมของรัฐบาลจีน จะพบว่า นี่คือ ความพยายามจะลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาในจีน เพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลามไปสร้างปัญหาทางสังคมอื่น ๆ ตามมา

ดร.อักษรศรี​ ให้ข้อสังเกตว่า ทางการจีนมักจะ “ตัดไฟแต่ต้นลม” และตัดวงจรก่อนปัญหาอื่น ๆ จะตามมา

กฎใหม่ของจีนที่ออกมาก็เพื่อจัดการกับโรงเรียนกวดวิชาและบริษัท Edu Tech ทั้งหลายที่เน้นธุรกิจมากจนสร้างความเหลื่อมล้ำให้ชาวจีนส่วนใหญ่ที่ไม่มีเงินจ่ายให้ลูกหลานตัวเองเข้าติวกับธุรกิจกวดวิชาเหล่านี้

นอกจากนี้ ทางการจีนต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านการเลี้ยงดูบุตรหลาน และลดค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา (เช่น ต้องส่งลูกเข้าโรงเรียนกวดวิชา) ของผู้ปกครอง เพื่อจูงใจให้คนจีนยอมมีลูกมากขึ้น ตาม​ "นโยบายลูกสามคน” เพื่อรับมือปัญหาผู้สูงอายุ Aging Society ของจีนในอนาคตด้วย

ดร.อักษรศรี ยังย้ำประเด็นที่น่าสนใจ คือ ภายใต้กฎใหม่ จะมีการห้ามนำหลักสูตรของต่างชาติมาสอนในโรงเรียนเหล่านี้และห้ามจ้างครูต่างชาติมาเป็นผู้สอนด้วย ซึ่งจีนดำเนินการอย่างเด็ดขาดมาก และชัดเจนว่า จีนต้องการสร้างเกราะป้องกันไม่ให้ต่างชาติที่อาจจะทำเนียนเข้ามาแทรกแซงปลุกปั่นเยาวชนจีน

อย่างไรก็ดี ดร.อักษรศรี​ ชี้ให้เห็นว่า เหรียญมีสองด้าน ทางการจีนที่เป็น Regulator ทำเช่นนี้ ก็ถูกตั้งคำถามว่า จะเป็นการปิดกั้นหรือดับฝันการเติบโตของอุตสาหกรรมการศึกษาและ Edu Tech ของจีนหรือไม่ รวมไปถึงประเด็นคนรุ่นใหม่และ Startup จีนจะถูกควบคุมมากเกินไป หรือไม่?

ดร.อักษรศรี ได้สรุป สาระสำคัญภายใต้กฎใหม่ด้านการศึกษาของจีน ไว้ดังนี้...

1.) ธุรกิจ Edu Tech และสถาบันกวดวิชาจะไม่ได้รับอนุญาตให้ระดมทุนหรือขายหุ้นสู่สาธารณะ

2.) บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของจีนก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้ลงทุนหรือเข้าซื้อกิจการในธุรกิจดังกล่าวเช่นกัน

3.) เงินทุนจากต่างประเทศจะถูกกีดกันไม่ให้เข้าสู่ภาคการศึกษาของจีนด้วย

4.) ธุรกิจด้านการศึกษาในจีนห้ามนำหลักสูตรของต่างประเทศมาสอน และห้ามจ้างครูต่างชาติ มาสอนในสถาบันการศึกษาของตนด้วย

5.) หน่วยงานกำกับดูแลของจีนจะหยุดการออกใบอนุญาตจัดตั้งสถาบันกวดวิชาใหม่ ๆ และจะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบโรงเรียนกวดวิชาที่มีการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์เข้มงวดยิ่งขึ้น

6.) ควบคุมปริมาณสถาบันกวดวิชาไม่ให้มีจำนวนมากเกินไป

7.) นโยบายลดการบ้านหลังเลิกเรียน พร้อมห้ามไม่ให้มีการเรียนการสอนในช่วงสุดสัปดาห์

8.) ห้ามใช้หลักสูตรออนไลน์สำหรับเด็กอายุ 6 ปีหรือต่ำกว่า เพื่อลดความตึงเครียดจากการแข่งขันทางการศึกษาของเยาวชนจีน

9.) มีการจัดตั้งหน่วยงานพิเศษขึ้นมาควบคุมสถาบันการศึกษาเอกชนโดยเฉพาะเพื่อกำกับดูแลค่าเล่าเรียน และจำกัดเวลาที่เด็กสามารถใช้ในโรงเรียนกวดวิชาไม่ให้มากเกินไป


ที่มา : https://www.facebook.com/1037140385/posts/10223687420627009/?d=n


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล จัดพิธีมอบสิ่งของเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสมหามงคล วันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

​ตามพระราโชบายของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงห่วงใยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ในปัจจุบัน

​สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงสนองพระราโชบายของพระบาทสมเด็พระเจ้าอยู่หัว ด้วยการจัดพิธีรับมอบสิ่งของเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสมหามงคล วันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2564

​กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้เป็นศูนย์กลางจัดหาและประสานงาน ขอรับการสนับสนุนการบริจาคสิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภคจากทุกภาคส่วน เพื่อที่จะให้กำลังพลข้าราชการตำรวจในพื้นที่ นำไปส่งมอบให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป 

ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2564 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้เดินทางมายัง บช.น. เพื่อมอบสิ่งของเพิ่มเติมให้กับ ผบช.น. เป็นตัวแทนนำไปแจกจ่ายให้กับทุก บก. เพื่อดำเนินการช่วยเหลือประชาชนตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น โดยรูปแบบการช่วยเหลือจะเป็นการนำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค หรืออาหารกล่อง เข้าไปแจกให้ผู้แทนชุมนุมที่ได้รับความเดือดร้อน โดยเป็นเครื่องอุปโภคบริโภค 3,067 ชุด อาหารกล่อง 2,550 กล่อง รวมประชาชนที่ได้รับความช่วยเหลือ มากกว่า 5,000 คน 

แคมป์คนงานใน กทม.เฮ!! ได้ฉีดวัคซีนตามเกณฑ์เรียบร้อยแล้ว 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่มอบป้ายแคมป์คนงานที่ฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้วของบริษัท สยามมัลติ คอน จำกัด ซอยอินทามระ 15 และบริษัท 27 วิศวกรรม จำกัด ซอยอินทามระ 14 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ได้มอบข้าวกล่องให้แคมป์คนงานดังกล่าวด้วย โดยมี นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นางสาวบุปผา เรืองสุด ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน นายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย 

นางธิวัลรัตน์ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และท่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้มีความห่วงใยพี่น้องผู้ใช้แรงงาน และประชาชนทั่วไปจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 และกำหนดให้การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาตินั้น และท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายสำนักงานประกันสังคม บูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย โดยกรุงเทพมหานคร กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับผู้ประกันตน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดไม่ให้กระจายออกสู่วงกว้างทั้งในโรงงานและสถานประกอบการ 

ในส่วนของกระทรวงแรงงานได้ดำเนินการตามมาตรการปิดแคมป์คนงานเป็นเวลา 1 เดือน โดยดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่คนงานในแคมป์ไปแล้วกว่า 20,000 คน ที่เหลือประมาณ 60,000 คน เป้าหมายดำเนินการ 3,000 คนต่อวัน จากแคมป์คนงานในพื้นที่กรุงเทพมหานครทั้งหมด 611 แคมป์ คนงาน 83,082 คน เป็นคนไทย 32,471 คน ต่างด้าว 50,611 คน

“ในวันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ท่านสุชาติ ชมกลิ่น ได้มอบหมายให้ดิฉันและคณะลงพื้นที่มอบป้ายแก่แคมป์คนงานของบริษัท สยามมัลติ คอน จำกัด ซอยอินทามระ 15 และแคมป์คนงานของบริษัท 27 วิศวกรรม จำกัด ซอยอินทามระ 14 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 

ซึ่งคนงานทั้งสองแคมป์ได้รับการฉีดวัคซีนครบเรียบร้อยแล้ว โดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงแรงงาน ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข การฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 เป็นหนึ่งในมาตรการที่กระทรวงแรงงาน ให้การป้องกันรักษาโดยเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ประกันตนตามนโยบายรัฐบาล เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในกลุ่มแรงงาน เพื่อให้กิจการเดินหน้าต่อไปได้” นางธิวัลรัตน์ กล่าวในท้ายสุด

รัสเซีย ไฟเขียวเดินหน้าการทดลองทางคลินิก ฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อระหว่างแอสตร้าเซนเนก้ากับสปุตนิก วี

รัสเซีย ไฟเขียวเดินหน้าการทดลองทางคลินิก ฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อระหว่างแอสตร้าเซนเนก้า มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของสหราชอาณาจักร กับสปุตนิก วี ของรัสเซีย จากคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านยาของแดนหมีขาว หลังจากก่อนหน้านี้ คณะกรรมการด้านจริยธรรมของกระทรวงสาธารณสุขเคยสั่งระงับกระบวนการเห็นชอบสำหรับการทดลองทางคลินิกในเดือนพฤษภาคม และร้องขอข้อมูลเพิ่มเติม

คณะผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านยาของรัสเซีย เปิดเผยว่า คลินิก 5 แห่งจะดำเนินการทดลองฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อระหว่างแอสตร้าเซนเนก้ากับสปุตนิก วี และมีกำหนดเสร็จสิ้นในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2022

ทั้งแอสตร้าเซนเนก้าและสปุตนิก วี ต่างเป็นวัคซีน 2 เข็ม แต่ สปุตนิก วี ใช้ไวรัสเวคเตอร์ที่ต่างออกไปในวัคซีน 2 เข็มของพวกเขา

กองทุนการลงทุนโดยตรงแห่งรัสเซีย (Russian Direct Investment Fund หรือ RDIF) ซึ่งเป็นผู้ให้การสนับสนุนวัคซีนสปุตนิก วี แสดงความยินดีต่อการตัดสินใจให้เดินหน้าการทดลอง

"เวลานี้ RDIF กำลังทำการทดลองทางคลินิกร่วม ในการใช้วัคซีนสปุตนิก วี ไลท์ กับวัคซีนจากผู้ผลิตต่างชาติเจ้าอื่น ๆ" กองทุนการลงทุนโดยตรงแห่งรัสเซียระบุในถ้อยแถลง

"โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วัคซีนสปุตนิก วี ไลท์ สามารถใช้ร่วมกับวัคซีนอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในนั้นรวมถึงกับตัวกลายพันธุ์ใหม่ที่เป็นผลจากการกลายพันธุ์ของไวรัส"

สปุตนิก วี เป็นการใช้ไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคอื่น ๆ มาเป็นพาหะ (vector) ผลิตโดยใช้วัคซีนชนิดที่ทำให้อ่อนฤทธิ์แล้วและไม่เป็นอันตรายต่อคน มาตัดต่อใส่สารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ลงไป แล้วฉีดเข้าร่างกายมนุษย์ เพื่อกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันจดจำเชื้อไวรัส จนสามารถตรวจจับและต่อสู้กับเชื้อไวรัสในภายภาคหน้าได้

ก่อนหน้านี้การทดลองในมนุษย์ ฉีดวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าสลับกับสปุตนิก วี ได้รับอนุมติแล้วทั้งในอาเซอร์ไบจาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เบลารุส และอาร์เจนตินา


(ที่มา : รอยเตอร์)

https://mgronline.com/around/detail/9640000073247


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

นพ.ชเนษฎ์ โพสต์ข้อความชื่นชมหมอยง เผย 'หมอยง' ได้รับค่าพลัง 'h-index' นักวิจัย นักวิทย์ฯ เทียบเท่านักวิทย์เอกอุของโลก

ไม่นานมานี้ นพ.ชเนษฎ์ ศรีสุโข อดีตนายแพทย์ปฏิบัติการ ที่ รพ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'ชเนษฎ์ ศรีสุโข' เกี่ยวกับ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้รับการประเมินวัดค่าพลังในวงการวิจัย วงการวิทยาศาสตร์ ที่เรียกว่า 'h-index' เกินกว่า 60 หรือ เทียบเท่านักวิจัยเอกอุของโลก ว่า...

ถ้าใครเคยดูดราก้อนบอล จะมีอุปกรณ์เรียกว่า 'สเกาเตอร์' คอยวัดค่าพลัง

ในวงการวิจัย วงการวิทยาศาสตร์ จะมีค่าหนึ่ง เรียกว่า 'h-index' เวลาเราดูว่านักวิจัยนักวิทยาศาสตร์ท่านใด เข้าถึงความเชี่ยวชาญชั้นไหน จะได้พอมองออกครับ ว่าอันไหนของจริง อันไหนไม่ใช่

ซึ่งนักวิจัยระดับศาสตราจารย์ที่วิจัยเกิน 20 ปี มีค่านี้เกิน 20 คือประสบความสำเร็จแล้วในสายอาชีพ

ค่าเกิน 40 คือสุดยอดนักวิจัย พบในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก หรือศูนย์วิจัยชั้นนำ

ส่วนระดับเอกอุ ที่เป็นระดับ ยากแท้หยั่งถึง (Truly Exceptional) มักมีค่านี้เกิน 60 และพวกนี้มักจะทำงานต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะสิ้นชีพ

นักวิจัยรางวัลโนเบล ส่วนมาก มีค่านี้ เริ่มตั้งแต่ 30 กว่า ๆ ถึง 70 โดยเฉลี่ย

Stephen Hawking นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังของอเมริกา ที่ออกใน Simpsons หลายตอน เป็นขวัญใจเยาวชนประเทศพัฒนาทั่วโลก เคยมีค่านี้ 62**

Albert Einstein บุรุษแห่งสหัสวรรษ มีค่านี้จากการคำนวณ 56**

ถ้าไปค้นพวกระดับโลก มี h-index เป็นร้อย หรือหลายร้อยก็มี ในตอนนี้ สำหรับสื่อไทยผมแนะนำจะสัมภาษณ์นักวิจัย ลองไปเทียบลำดับ h-index ในไทยดูบ้างก็จะดี

ความเห็นของทุกคนนั้นมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก แต่ความเห็นของ "ปราชญ์" ไม่ได้หาง่ายในโลกโซเชียล

คุณค่าของความเห็นปราชญ์ ที่ยังมีชีวิต หากสังคมใดไม่พึงฟัง นั้นน่าเสียดายมากนะครับ ถ้าเราอยากส่งเสริมให้เด็กไทยเอาอย่างแรงบันดาลใจที่ดีในการเรียน การศึกษาระดับสูง ก็ต้องส่งเสริมให้มีคนแบบนี่เป็นตัวอย่าง

(ในขณะที่ปราญ์มีชีวิตหายาก แต่นักด่า นักวิจารณ์ ที่ยังมีชีวิต หาได้ทุกยุคสมัยครับ ตั้งแต่สมัย โฮโมเซเปี้ยนส์ แสนกว่าปีก่อน ก็ด่าและทุบตีกันมานาน เรื่องนี้หาอ่านจากหนังสือ Homo sapiens ได้ครับ การนินทากาเลเป็นสัญชาตญาณเพื่อความอยู่รอด)

แน่นอนว่าสเกาเตอร์ไม่ได้วัดได้ทุกด้าน แต่ลองเอาไปส่องคนที่บอกว่าเข้าใจกระบวนการวิจัยเก่ง วิจารณ์เก่ง ในประเทศนี้ ให้บวกกันหลาย ๆ คนดู ที่ออกมาพยายามทั้งหลาย ผมเช็กแล้ว...สเกาเตอร์ผมไม่ค่อยขึ้นเลยครับ

แน่นอนว่า ผมออกมาชมอาจารย์ยง เป็นวิจารณญาณของผมเอง ซึ่งผมไม่มีพลังอะไร มีแต่สเกาเตอร์ ดังนั้น ใครไม่พอใจกับเรื่องที่จะชมอาจารย์ ก็อย่าไปว่าอาจารย์เลยครับ ให้มาว่าผม ที่ชอบไปวัดค่าพลังและยกย่องเทิดทูนท่านเอง จะดีกว่า

(อ้างอิง : การแปลผล >> https://beckerguides.wustl.edu/authors/h-index)

* หมายเหตุ:

อาจารย์ Hawking H-index 62 เป็นตอนปี 2008 (อ้างอิง : https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2397014/)

ปัจจุบันใน google scholar อาจ สูงกว่านั้น

ส่วน Einstein มีอ้างอิงการคำนวณ h-index 56 จาก >> https://phys.org/news/2020-07-albert-einstein-mediocre-h-index-bogus.html


ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=10159834352265844&id=655195843

https://www.thaipost.net/main/detail/111140


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เปิดเหล่า ‘ตัวเลข’ ที่น่ารู้ ของทัพนักกีฬาไทยในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2020

เปิดฉากกันไปแล้ว สำหรับมหกรรมกีฬาของมวลมนุษยชาติ ‘โอลิมปิกเกมส์ 2020’ ที่จัดขึ้น ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หลังจากต้องรอลุ้นจนโค้งสุดท้ายว่า ‘จัดหรือไม่จัด’

ผลสรุปลงเอยด้วยการ ‘เดินหน้าต่อ’ และแน่นอนว่า ทัพนักฬาไทยกว่า 41 ชีวิต ก็ได้เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น พร้อมกับลงทำการแข่งขันกันไปแล้วหลายชนิดกีฬา

ล่าสุดเมื่อ 2 วันก่อน ก็ได้เฮกันดัง ๆ กับ ‘เหรียญทองแรก’ ในกีฬาเทควันโด้หญิง รุ่น 49 กก. ที่ เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ คว้ามาครองได้สำเร็จ

เอาเป็นว่า ยังมีอีกหลายชนิดกีฬาให้ได้ลุ้นกันต่อ มาร่วมส่งแรงใจเชียร์ไปด้วยกัน ถึงตรงนี้ THE STATE TIMES ขอนำตัวเลขข้อมูล ของทัพนักกีฬาไทยกับโอลิมปิกครั้งนี้ มาให้ได้ทราบกัน เพื่อการชมโอลิมปิกกันให้สนุกขึ้น...


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

มิสแกรนด์ฯ ประกาศ ไม่สนับสนุนสินค้าในเครือ C.P. Group ทุกประเภท เพื่อสังคมแห่งการไม่เอาเปรียบ

เฟซบุ๊ก Miss Grand Thailand ได้โพสต์ข้อความว่า...

นับจากนี้เป็นต้นไปองค์กรมิสแกรนด์ฯ ขอประกาศไม่สนับสนุนสินค้าในเครือ C.P. Group ทุกประเภท!

“เพื่อสังคมแห่งการไม่เอาเปรียบ เราต้องเปลี่ยนแปลง และกล้าที่จะเริ่มต้น”

ขอขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ

#MissGrandThailand

#MissGrandThailand2021

#WeAreGRANDthe1andOnly

#เวทีอันดับ1ของประเทศไทย

#นับจากนี้ทุกพื้นที่มีแต่แกรนด์


ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=371933124300537&id=100044515566272


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top